Share

บทที่ 7

Author: ด้านนอกด่านประตูห่านป่า
มู่หรงจางมีลูกชายหนึ่ง ลูกสาวสอง มู่หรงเจ๋อผู้เป็นลูกชายไม่ชอบด้านธุรกิจแต่เลือกไปรับราชการ หนทางราบรื่นตลอดเส้นทาง ยามนี้ได้ย้ายไปรับตำแหน่งที่มณฑลหนานตูแล้ว

ลูกสาวคนที่สองมู่หรงยิ่น เป็นราชินีแห่งวงการธุรกิจ ควบคุมดูแลกลุ่มกิจการติ่งเซิ่งที่มู่หรงจางเป็นผู้ก่อตั้ง ในเวลาไม่กี่ปี ก็ทำให้ธุรกิจในเครือของติ่งเซิ่งกรุ๊ปขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว กลายเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจของเมืองลั่ว

ดังนั้นมู่หรงจางจึงได้เกษียณก่อนกำหนด มอบติ่งเซิ่งกรุ๊ปทั้งหมดให้มู่หรงยิ่นเป็นผู้ดูแล

ลูกสาวคนที่สามมู่หรงหว่านเอ๋อร์อายุน้อยที่สุด นิสัยโลดโผนมีชีวิตชีวา ชอบการต่อสู้ กราบเจียงไห่เซิง หนึ่งในสี่ปรมาจารย์ของเมืองลั่วเป็นอาจารย์

นั่งอยู่ในรถของมู่หรงยิ่น กลิ่นหอมเย้ายวนใจคน

หัวใจของหลินหยางเต้นแรงอยู่บ้าง เพราะไม่ว่าอย่างไร ในยามนี้ผู้ที่นั่งอยู่ข้างกายเขาคือมู่หรงยิ่นที่สูงส่งจนไม่อาจเอื้อมนี่นา!

“หมอเทวดาหลิน ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณอย่างมาก คุณอายุยังน้อยถึงเพียงนี้ ก็มีทักษะการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์และฝีมือที่สูงล้ำเหนือผู้คนเช่นนี้ ความสำเร็จในอนาคตย่อมไม่อาจคาดเดาอย่างแน่นอน

มู่หรงยิ่นเป็นฝ่ายเริ่มสนทนากับหลินหยางก่อน

“คุณหนูมู่หรงชมเกินไปแล้ว”

หลินหยางก็เป็นคนที่เห็นอะไรมากเช่นกัน จึงตอบไปกลับอย่างสงบมั่นคง

“น้อยนักที่ฉันจะชมคนอื่นอย่างจริงใจ แต่คำพูดเมื่อครู่ มาจากใจจริง”

มู่หรงยิ่นทัดผมปอยหนึ่งไปที่หลังหู ทุกอิริยาบถล้วนเต็มไปด้วยความสง่างาม

“เช่นนั้น ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมากครับ”

หลินหยางเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์ทั้งการขึ้นสู่จุดสูงและตกต่ำมาก่อน จิตใจมั่นคงเป็นผู้ใหญ่ มิได้รู้สึกลำพองเพราะคำชมของมู่หรงยิ่น ยังคงรักษาท่าทีถ่อมตนและสงบเรียบเฉยไว้เช่นเดิม

“สามารถผูกสัมพันธ์กับหมอเทวดาหลินได้ถือเป็นเกียรติของพวกเรา” มู่หรงยิ่นเยินยอ

ไม่นานนัก รถก็มาถึงคฤหาสน์ของตระกูลมู่หรง ซึ่งตั้งอยู่ข้างแม่น้ำลั่ว

ทั่วทั้งคฤหาสน์กินพื้นที่หลายเอเคอร์ สิ่งก่อสร้างภายในมีกลิ่นอายโบราณ หอเก๋ง ศาลา สะพานยาวคลุมหลังคากลางน้ำ ทุกย่างก้าวทุกทิวทัศน์ล้วนแสดงถึงความมั่งคั่งของตระกูลใหญ่

หลังจากมาถึงคฤหาสน์ตระกูลมู่หรง มู่หรงยิ่นก็มอบบัตรธนาคารใบหนึ่งกับแอปเปิลวอชรุ่นใหม่ล่าสุดให้หลินหยางโดยตรง

“หมอเทวดาหลิน ในบัตรนี้มีเงินสามร้อยล้าน เป็นค่ารักษาของคุณ ช่วยรับไว้ด้วยนะคะ”

หลินหยางก็ไม่เกรงใจ รับไว้ทั้งหมดที่มอบให้

ตอนนี้เขาต้องการเงินอย่างยิ่ง

นับแต่โบราณ การร่ำเรียนเป็นเรื่องของคนยากจน ส่วนการศึกษาศิลปะการต่อสู้นั้นเป็นเรื่องของคนมีเงิน สำหรับคนธรรมดาแล้ว การศึกษาเล่าเรียนเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ส่วนการฝึกฝนวรยุทธ์นั้น ต้องการยาสมุนไพรจำนวนมากมาคอยสนับสนุน มิเช่นนั้นหากสารอาหารบำรุงไม่เพียงพอ ต่อให้มุมานะฝึกซ้อมแค่ไหนก็เสียเปล่า กระทั่งยังจะฝึกซ้อมจนร่างกายเสียหายด้วย

“พวกคุณเรียกชื่อผมก็พอ เรียกหมอเทวดาหลิน รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง” หลินหยางกล่าว

“ท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งต่อตระกูลมู่หรงเรา จะเรียกชื่อเฉยๆ ได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่ชอบวิธีเรียกนี้ อย่างนั้นก็เรียกท่านว่าคุณหลินแล้วกัน”

มู่หรงจางรับคำ พลางถือโอกาสส่งสายตาให้มู่หรงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง

“หลิน…คุณหลิน ขอโทษด้วยค่ะ ขอให้คุณอภัยให้กับความไม่รู้และการล่วงเกินของฉันด้วย!”

มู่หรงหว่านเอ๋อร์ที่ละความเขินอายพูดคำขอโทษออกมาไม่ได้เสียที ในตอนนี้ก็ได้ละความทระนงตัวลงแล้ว โค้งขอขมาต่อหลินหยางด้วยท่าทางจริงใจ

มู่หรงหว่านเอ๋อร์เป็นคนฝึกวรยุทธ์ มีจิตยึดติดกับความแข็งแกร่งอย่างรุนแรง

กับคนที่อ่อนแอกว่าเธอ เธอรู้สึกดูถูก แต่สำหรับคนที่แข็งแกร่งกว่าเธอ เก่งกาจกว่าเธอ เธอก็จะให้การยอมรับนับถือเต็มที่

สิ่งที่หลินหยางแสดงออกมาในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิชาแพทย์ที่สามารถชุบชีวิตคนได้หรือความแข็งแกร่งที่สามารถเอาชนะยอดฝีมือขั้นเจ็ดได้ในเสี้ยววินาที ล้วนทำให้มู่หรงหว่านเอ๋อร์ยอมรับและเกิดความนับถืออย่างจริงใจ

หลินหยางมิได้ให้ความสนใจต่อมู่หรงหว่านเอ๋อร์ บนตัวของเธอ หลินหยางมองเห็นเงาบางส่วนของฉินเยียนหราน คนทั้งสองมีส่วนที่เหมือนกันหลายจุด เป็นเหตุให้รู้สึกห่างเหินกับเธอตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้

หลินหยางยกมือขึ้นเบาๆ ไม่ได้แสดงออกอะไร

มู่หรงยิ่นที่อยู่ด้านข้างรีบพูดแก้ไขสถานการณ์ ช่วยลดความตึงเครียดของบรรยากาศว่า “คุณหลิน ฉันได้ยินว่าตอนนี้คุณยังไม่มีที่อยู่เป็นหลัก ฉันมีบ้านหลังหนึ่งอยู่ที่หมู่บ้านตี้เหา หากคุณไม่รังเกียจก็ขอมอบให้คุณแล้วกัน ถือเสียว่าฉันขอโทษคุณแทนหว่านเอ๋อร์ด้วย”

เดินหลินหยางไม่อยากรับผลประโยชน์จากตระกูลมู่หรงโดยไม่มีเหตุผล หลายสิ่งบนโลกนี้ดูเหมือนจะฟรี ทว่าแท้ที่จริงได้ถูกกำหนดราคาไว้แต่แรกนานแล้ว การโลภกับความได้เปรียบชั่วครั้งชั่วคราว สุดท้ายจะต้องจ่ายผลตอบแทนที่แพงกว่าออกไป

แต่เมื่อได้ยินชื่อหมู่บ้านตี้เหา เขากลับหวั่นไหวแล้ว

เพราะบ้านของเขา เดิมก็อยู่ในหมู่บ้านตี้เหา

“ที่ว่าจะให้ฟรีคงไม่ต้องหรอก แต่สามารถไปดูก่อนได้ หากเป็นที่พอใจแล้วล่ะก็ ผมจะขอซื้อในราคาตลาดแล้วกัน”

ตอนนี้เขาต้องการที่พักอาศัยสักแห่งจริงๆ

“ได้ อย่างนั้นฉันจะพาคุณไปดูบ้านตอนนี้เลย”

มู่หรงยิ่นทำหน้าที่เป็นคนขับรถด้วยตัวเอง พาหลินหยางไปที่หมู่บ้านตี้เหา

นี่เป็นหนึ่งในหมู่บ้านระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองลั่ว คนที่พักอาศัยอยู่ด้านในต่างก็มีความมั่งคั่งและสถานะที่ไม่ธรรมดา

หมู่บ้านตี้เหาห่างจากคฤหาสน์ตระกูลมู่หรงไม่มาก หากขับรถเพียงสิบนาทีกว่าก็ถึงแล้ว

เมื่อเห็นมู่หรงยิ่นขับรถมาที่บ้านหมายเลขที่สิบแปด แล้วประตูใหญ่หน้าสวนดอกไม้ค่อยๆ เปิดออกโดยอัตโนมัติ หัวใจหลินหยางก็สั่นสะท้านในทันที

“เป็นที่นี่หรือ?”

“ใช่แล้ว บ้านหมายเลขที่สิบแปด หมู่บ้านตี้เหา มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” มู่หว่านหรงถาม

หลินหยางสูดลมหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่งแล้วพูดว่า “ที่นี่ เมื่อก่อนเป็นบ้านของผม”

“หา? บังเอิญถึงขนาดนี้เลยหรือ? ดูท่านี่ก็คือวาสนานะคะ! ตอนนี้ของก็ได้กลับคืนสู่เจ้าของเดิมแล้ว”

ในใจของมู่หรงยิ่นรู้สึกโชคดีอย่างมาก นี่ช่างเป็นผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจริงๆ!

ไม่รอให้มู่หรงยิ่นจอดรถจนสนิท หลินหยางก็รีบเปิดประตูรถออกแล้วกระโดดลงไป

สองปีแล้ว เป็นเวลาสองปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับมา

ทั่วทั้งสวนดอกไม้คล้ายจะเหมือนเมื่อสองปีก่อนไม่ผิดเพี้ยน หลินหยางพลันรู้สึกคัดจมูกอยากจะร้องไห้ขึ้นมา

สองปีมานี้ เขามีชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าหมูหมาในบ้านสกุลฉิน ได้รับความทุกข์ทรมานและถูกเหยียดหยามนานัปการ ตอนนี้กลับมาถึงบ้านในอดีต จะไม่รู้สึกสะเทือนใจได้อย่างไร

มู่หรงยิ่นเปิดประตูออก หลินหยางเดินเข้าไป เวลานี้ด้านในเปลี่ยนไปหมดแล้ว การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ล้วนเปลี่ยนเป็นของใหม่ทั้งหมด

“คุณหลิน คุณลองดู การตกแต่งและของประดับที่อยู่ภายในนี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่? บ้านหลังนี้หลังจากที่ฉันได้มาก็ไม่เคยอยู่มาก่อน ของข้างในฉันก็ไม่เคยแตะต้องเช่นกัน”

มู่หรงยิ่นพูดอยู่ด้านข้าง

“ถูกตกแต่งใหม่ไปหมดแล้ว ไม่มีร่องรอยในอดีตเหลืออยู่แม้แต่น้อย เดิมคิดจะหาของที่เป็นของพ่อแม่ผมสักหน่อย คิดว่าน่าจะถูกโยนทิ้งไปหมดแล้ว”

ในใจของหลินหยางรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

“บ้านหลังนี้เป็นคุณซื้อไว้หรือ?”

“ไม่ใช่ค่ะ ฉินโม่หนงอยากจะร่วมมือทำธุรกิจกับตระกูลมู่หรงมาโดยตลอด เมื่อหนึ่งปีก่อน เธอมอบบ้านหลังนี้ให้คุณพ่อของฉันเป็นของขวัญวันเกิด ฉันถึงได้รับปากร่วมมือกับซิงเย่ากรุ๊ป”

หลินหยางหัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง ฉินโม่หนงช่างรู้จักดีดลูกคิดจริงๆ เอาบ้านของครอบครัวเขาไปตกแต่งใหม่เพื่อมอบให้ตระกูลมู่หรงเป็นของขวัญ

“ฉินโม่หนง”

เมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนี้ หลินหยางก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้

ที่จัดการไปรอบหนึ่งเมื่อตอนกลางวัน ยังไม่พอที่จะทำให้หายแค้น ดูท่ายังต้องจัดการนางดีๆ อีกสักรอบ ไม่อย่างนั้นยากที่จะดับเพลิงโทสะนี้ไปได้!

มู่หรงยิ่นเหลือบมองครั้งหนึ่ง เห็นสีหน้าของหลินหยางเผยความเยียบเย็นออกมา จึงถามอย่างลองเชิงว่า “ฉันได้ยินมาว่า ฉินโม่หนงเป็นแม่บุญธรรมของคุณ?”

“ไม่ผิด เป็นแม่บุญธรรมจริงๆ”

หลินหยางหัวเราะเสียงเย็นครั้งหนึ่ง

“ผมชื่นชมหล่อนมาก! ตอนนั้นหล่อนหนีภัยมาถึงเมืองลั่ว มีชีวิตที่อยากลำบาก แม่ของผมรับตัวหล่อนไว้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นการเลี้ยงดูหมาป่าอกตัญญู”

“ตอนนี้หล่อนได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ ทั้งฝีมือและความคิดนี้ ทำให้คนไม่อาจไม่นับถือจริงๆ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ในใจของหลินหยางก็เคียดแค้นจนยากจะสงบได้

มู่หรงยิ่นพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันเคยติดต่อกับเธอมาก่อน สามารถรับรู้ได้ว่า เธอเป็นคนที่มีแผนการอย่างมาก และก็เป็นคนที่มีความกล้ามากเช่นกัน”

“แต่ว่าตอนนี้ดูไปแล้ว แม้ฉินโม่หนงจะมีฝีไม้ลายมือและความกล้าหาญ แต่สายตากลับแย่อย่างมาก ถึงกับไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถเช่นนี้ ช่างมีตาไร้แววจริงๆ”

มู่หรงยิ่นได้ตัดสินใจแล้ว หลังจากกลับไปก็จะตัดขาดความร่วมมือทั้งหมดกับซิงเย่ากรุ๊ปทันที ทำการขีดเส้นแบ่งอย่างชัดเจน!
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Jung Taweesilp
เยี่ยมสนุก
goodnovel comment avatar
จำลอง ฮาด
อ่านแล้วน่าติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 8

    หลินหยางก็ไม่เต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องส่วนตัวในเรื่องนี้ต่อคนนอกมากเกินไปเช่นกัน กลับเป็นมู่หรงยิ่นที่แสดงจุดยืนของตนเองต่อว่า“ด้วยความสามารถในตอนนี้ของคุณ การจัดการกับฉินโม่หนงนั้นง่ายมาก ฉันก็เต็มใจที่จะออกเรี่ยวแรงอันน้อยนิดเช่นกัน” “ผมไม่รีบ ค่อยๆ เล่นเป็นเพื่อนหล่อนถึงจะสนุก” มุมปากของหลินหยางปรากฏรอยยิ้มอารมณ์ดีขึ้นมามู่หรงยิ่นแอบถอนใจว่า “ฉินโม่หนง คุณกับฉันได้รับการขนานนามด้วยกัน หากพูดถึงความสามารถและรูปโฉมแล้ว ฉันไม่แน่ว่าจะเอาชนะคุณได้” “แต่ท้ายที่สุดคุณก็ยังคงสู้ฉันไม่ได้ ต้องพ่ายแพ้ให้ฉัน! คุณพลาดหลินหยางที่เป็นขุมสมบัติอันมหาศาลนี้ไป ส่วนฉันกลับสามารถสานสัมพันธ์กับเขาได้ ไม่อย่างนั้นอาศัยเพียงฐานะที่คุณเป็นแม่บุญธรรมของเขา เกรงว่าในอนาคตตระกูลมู่หรงก็ต้องถูกคุณเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าแล้ว”หนึ่งปีมานี้ ฉินโม่หนงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก มีวี่แววรางๆ ว่าจะเอาชนะมู่หรงยิ่นได้ในวงสังคมเมืองลั่วมีเสียงกล่าวว่า แม้มู่หรงยิ่นจะงดงาม ทว่าเมื่อเปรียบกับฉินโม่หนงแล้วกับขาดเสน่ห์และรสชาติของผู้หญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงได้ด้อยกว่าอยู่เล็กน้อยนอกจากนี้มู่หรงยิ่นมีชาติกำเนิด

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 9

    สีหน้าของหลินหยางไม่เปลี่ยนแปลง เฝิงอวี้เจียวกับพนักงานคนอื่นในร้านกลับปากอ้าตาค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงความงามและบุคลิกรัศมีของมู่หรงยิ่น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงพวกนี้เห็นแล้วเกิดความอิจฉาน่ะผู้หญิงที่งามล่มเมืองแบบนี้ ทำไมถึงไปชอบผีพนันคนหนึ่งได้ นี่มิใช่ดอกไม้งามดอกหนึ่งถูกหมูกินหรอกหรือ?“ต่อให้เขาเป็นแฟนของคุณแล้วอย่างไร? ร้านของพวกเราไม่ต้อนรับคนติดยาและผีพนัน”เฝิงอวี้เจียวแค่นอย่างเสียงไม่พอใจ“ฉันก็ว่าผีพนันแบบเขาทำไมถึงได้กล้ามาซื้อเสื้อผ้าในร้านของพวกเรา ที่แท้เป็นเพราะไปเกาะเศรษฐินีได้ กลายเป็นพวกหนุ่มหน้าขาวที่ถูกคนเลี้ยงดู” เฝิงอวี้เจียวพูดอย่าประชดประชันด้วยจิตใจคับแคบ“คุณคนสวย ฉันขอเตือนคุณด้วยความหวังดีสักหน่อย เช็ดตาให้สะอาดดูให้ดีๆ ต่อให้จะเลี้ยงดูหนุ่มหน้าขาวก็อย่าดูแต่หน้า ระวังถูกหลอกเอานะคะ” “ช่างพูดมาน่ารำคาญเหลือเกิน ร้านกุชชี่มีพนักงานแบบเธอได้ยังไง ยังเป็นถึงผู้จัดการร้านอีก” มู่หรงยิ่นขมวดคิ้ว“เฮ้อ เจอสุนัขที่ไม่รู้จักความหวังดีของคนแว้งกัด ฉันเป็นผู้จัดการร้านแล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณทำอะไรได้หรือ? ฉันก็จงใจไม่ขายให้พวกคุณ คุณจะทำอะไร

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 10

    หลิ่วฟู่อวี่ก็เป็นคนที่ไม่พูดมากแต่โหดเหี้ยมเช่นกัน ภายใต้ความโมโหอย่างรุนแรง ก็เงื้อมือขึ้นคิดจะตบหน้ามู่หรงยิ่นมู่หรงยิ่นไม่ใช่คนที่ฝึกฝนวรยุทธ์ จึงไม่มีการระวังตัวแม้แต่น้อยแต่หลินหยางที่ยืนอยู่ข้างกายของเธอจะมองอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร เขาจับข้อมือของหลิ่วฟู่อวี่ไว้มู่หรงยิ่นคิดไม่ถึงว่าหลิ่วฟู่อวี่จะใช้กำลังเอาแต่ใจเช่นนี้ ถึงกับลงมือตบเธอ“เธอยังคิดจะลงมือทำร้ายคนด้วย?”ในดวงตาอันงดงามของมู่หรงยิ่นมีประกายเยียบเย็นวาบผ่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา“ตบเธอแล้วเป็นอย่างไร? คุณหนูแบบฉันคิดจะตบใคร ก็ตบคนนั้น! วันนี้ฉันจะตบปากเหม็นๆ ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของเธอให้แตกไปเลย”หลิ่วฟู่อวี๋ออกแรงคิดจะหลุดพ้นจากมือของหลินหยาง แล้วลงมือกับมู่หรงยิ่นต่อแต่กลับพบว่ามือของหลินหยางราวกับคีมเหล็กก็ไม่ปาน ยากที่จะหลุดพ้นได้“ไอ้คนไร้ประโยชน์แซ่หลิน ปล่อยฉันนะ!”หลิ่วฟู่อวี่เลิกคิ้วเรียวดุจใบหลิว ร้องด่าว่า“หลิ่วฟู่อวี่ มีบางคนที่คุณหาเรื่องไม่ไหวหรอกนะ” หลินหยางพูดพลางปล่อยมือ“พวกเธอสองคนคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฉันมีเรื่องด้วยไม่ไหว? คนไร้ประโยชน์แซ่หลิน คำพูดนี้ของนายจะทำให้คนขำตายแล้

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 11

    โหวกุ้ยเหวินถีบเฝิงอวี้เจียวอย่างแรงสองที ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นเฝิงอวี้เจียวกลิ้งกึ่งคลานมาที่ด้านหน้าของมู่หรงยิ่นกับหลินหยาง“ขอโทษค่ะ ประธานยิ่น ฉันมีตาหามีแววไม่ ขอร้องคุณอย่าได้ถือสา ยกโทษให้ฉันด้วย ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้วค่ะ”ในระหว่างที่เฝิงอวี้เจียวกำลังพูด ยังตบหน้าตัวเองอย่างแรงไปด้วยอีกสองฉาด“คนที่เธอควรจะขอโทษ คือหลินหยาง ไม่ใช่ฉัน”มู่หรงยิ่นกล่าวเฝิงอวี้เจียวรีบคุกเข่าต่อหน้าหลินหยางพร้อมทั้งกล่าววิงวอน“คุณหลินหยาง ขอโทษด้วยค่ะ! ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรพูดเรื่องพวกนั้น ฉันปากเสียเอง ฉันมันชอบดูถูกคนอื่น”“ขอให้คุณเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ให้โอกาสฉันสักครั้งเถิดนะคะ! ฉันไม่อยากถูกโยนลงไปในแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารปลา แล้วก็ไม่อยากเสียงานไปด้วย!เฝิงอวี้เจียวรู้ดีว่า คำพูดของโหวกุ้ยเหวินไม่ใช่แค่พูดไปเท่านั้นอย่างแน่นอน เขาโยนคนลงแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารปลาจริง ๆหลินหยางสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วก็ไม่ได้แสดงท่าทีเฝิงอวี้เจียวจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยกมือตบหน้าตัวเองอีกครั้ง ตบหน้าตัวเองจนเลือดกลบปาก“พอแล้ว อย่าทำให้พื้นสกปรก ประธานโหวยังต้องเปิดร้านขายข

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 12

    หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จ หลินหยางกับมู่หรงยิ่นมากินข้าวที่ร้านอาหารชั้นบนสุดของศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง“คุณรู้ไหมว่าร้านอาหารร้านนี้เป็นของใคร?”หลังจากนั่งในห้องส่วนตัว มู่หรงยิ่นก็เอ่ยถามขึ้น“แน่นอนสิครับ ถึงอย่างไรเมื่อก่อนผมเป็นทายาทเศรษฐี เคยมากินข้าวที่นี่เหมือนกันนะรู้ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้มเถ้าแก่ของร้านอาหารร้านนี้คือลั่วหงอวี๋หนึ่งในสี่มหาปรมาจารย์แห่งเมืองลั่ว“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เคยเจอลั่วหงอวี๋ตัวจริงไหม?”หลินหยางส่ายหน้าพร้อมกล่าว “ว่ากันว่าปรมาจารย์ลั่วเป็นคนที่ประวัติความเป็นมาเก่าแก่ที่สุดในบรรดาสี่มหาปรมาจารย์ แล้วก็เป็นคนที่เก็บตัวที่สุด น้อยคนมากที่จะเคยเจอตัวจริงของเธอ”“มหาปรมาจารย์อีกสามคนถ้าไม่ก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง เปิดสำนักรับลูกศิษย์ ก็เป็นข้าราชการ ที่ตำแหน่งสูงมาก มีแค่เธอ คาดไม่ถึงว่าจะเปิดร้านอาหาร ค้นคว้าวิจัยอาหารเลิศรส ที่จริงก็แปลกแหวกแนวอยู่หน่อย ๆ”มู่หรงยิ่นกล่าวถามต่อ “แล้วคุณคิดว่าลั่วหงอวี๋อายุเท่าไหร่คะ?”“ได้ยินชื่อ เหมือนกับว่าจะอายุไล่เลี่ยกับคุณและผม แต่ในเมื่อเขามีประวัติเก่าแก่ที่สุด คิดว่าจะต้องอายุประมาณห้าหกสิบปีแล้วละมั

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 13

    ในเวลาเดียวกัน อาคารสิบเก้า หมู่บ้านตี้เหา ภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วหลิ่วฟู่อวี่เดินเข้ามาในห้องหนังสือของหลิ่วเฉิงจื้อ“พ่อคะ แม่คะ วันนี้หนูเจอหลินหยางด้วย”“หา? เขากลับมาแล้วหรือ?”หลิ่วเฉิงจื้อกล่าวด้วยความประหลาดใจ“ค่ะ” หลิ่วฟู่อวี่พยักหน้า“เสี่ยวหยางเจ้าเด็กคนนี้ น่าเสียดาย”“การตายของพ่อกับแม่ของเขาส่งผลกระทบต่อเขามาก ทำให้เขาตั้งหลักไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและการพนัน คนดี ๆคนหนึ่งถูกทำลายจนมีสภาพแบบนี้ พูดไป พ่อก็มีส่วนรับผิดชอบที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ละอายใจต่อพี่หลินที่จากไป”หลิ่วเฉิงจื้อกล่าวอย่างทอดถอนใจ“มีอะไรน่าเสียดายกันคะ สมน้ำหน้าเขาแล้ว โชคดีที่เจ้าเด็กนี่พิการไป ไม่อย่างนั้นลูกสาวของเราแต่งงานกับเขาไป ก็เหมือนกับเดินเข้ากองไฟไม่ใช่หรือคะ?” อวี๋ผิงภรรยาของหลิ่วเฉิงจื้อเบะปากกล่าว“แม่ของหนูพูดถูกค่ะ เขาทำตัวไม่ดีเอง เกี่ยวอะไรกับพวกเราละคะ!”หลิ่วฟู่อวี่กล่าวเยาะหยัน“ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ? ทำไมลูกไม่พาเขากลับมาด้วย ต่อให้ยกเลิกสัญญาหมั้นหมายไปแล้ว แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นหลานชายของพ่อ ยังไงก็ควรจะดูแลเขา ให้เขาอยู่กับผู้หญิงอย่างฉ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 14

    คฤหาสน์ตระกูลฉินฉินโม่หนงโทรศัพท์ไปถามหวังฮุ่ยหรง “เป็นยังบ้าง? ตามหาหลินหยางเจอหรือยัง?”“ยังไม่เจอ ไม่รู้เขาไปหลบอยู่ที่ไหน”หวังฮุ่ยหรงกล่าวรายงาน“มันเป็นแค่คนตาบอดคนหนึ่ง จะหนีไปไหนได้? รีบไปลากตัวมันออกมา แล้วฆ่ามันทิ้งซะ!”ทันทีฉินโม่หนงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน ก็ระงับเพลิงโทสะกับแรงอาฆาตในใจเอาไว้ไม่อยู่“แกต้องทำถึงขนาดนั้นเชียวหรือ? ฉันไม่ฆ่าแก แต่แกกลับจะกำจัดฉันให้สิ้นซากเลยหรือ?”จู่ ๆ น้ำเสียงของหลินหยางก็ดังลอยมาจากด้านหลัง ทำให้ฉินโม่หนงตกใจ“ไม่ต้องตามหาแล้ว มันอยู่ที่บ้านฉัน แกรีบกลับมา”ฉินโม่หนงพูดกับหวังฮุ่ยหรงจง จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา“แกกล้าหาญไม่เบานี่ ยังกล้ากลับมาอีก! แกคิดว่าบ้านของฉันเป็นสถานที่แบบไหน แกนึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะไปก็ไปงั้นหรือ?”“แกอยากจะฆ่าฉันไม่ใช่หรือ? ฉันกลัวว่าแกจะตามหาไม่เจอ ดังนั้นจึงเป็นฝ่ายมาหาให้แกฆ่าถึงที่”หลินหยางสีหน้าไม่แยแส แต่ดวงตาคู่นั้นกลับไม่สามารถละสายตาออกจากบนเรือนร่างของฉินโม่หนงได้เลยเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบของฉินโม่หนงราวกับผลงานศิลปะนี้ ยังมีร่องรอยที่เขาทิ้งเอา

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 15

    ฉินโม่หนงชี้ไปที่หลินหยางที่หลับตาพักผ่อนร่างกาย“ในที่สุดก็มาสักที”หลินหยางลืมตาขึ้น ลุกขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมกล่าว “รีบลงมือเถอะ อย่ามัวเสียเวลาเลย”หวังฮุ่ยหรงเป็นคนที่ฉินโม่หนงเชื่อใจที่สุด แม้จะเป็นแม่บ้านแต่ก็เป็นบอดี้การ์ดด้วย ฝีมือไม่เลว มีความสามารถอยู่ที่ระดับสามหวังฮุ่ยหรงไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็กระโดดถีบเข้ามา เล็งตรงมาที่หัวของหลินหยางหลินหยางสวนหมัดตรงออกไป ไม่มีเทคนิคใด ๆ มีเพียงพลังบริสุทธิ์เท่านั้นหนึ่งพลังเอาชนะได้สิบคน!ปรมาจารย์ระดับเบิกฟ้าสู้กับนักรบระดับมานะสร้าง ก็เหมือนกับการตัดหญ้า ไม่ต้องเปลืองแรงเลยแม้แต่น้อยหวังฮุ่ยหรงกระเด็นกลับไป กระแทกเข้ากับกำแพง จากนั้นก็ล่วงลงมา ขาข้างหนึ่งพิการไปแล้ว สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้วฉินโม่หนงตะลึงงันไป อ้าปากค้าง ไม่กล้าเชื่อเลยจริง ๆหลินหยางเดินไปที่มุมกำแพง บีบลำคอของหวังฮุ่ยหรง ยกเธอขึ้นมา“แกอ่อนแอเกินไป!”“แก...แกแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?!”หวังฮุ่ยหรงยากที่จะเชื่อสถานการณ์ของหลินหยางเธอเข้าใจเป็นอย่างดี แม้แต่ฉินเยียนหรานก็สามารถทารุณเขาได้ตามสบาย ทุบตีเขาราวกับสุนัข เมื่อคืนวานนี้ยังเกือบจะถูกตี

Latest chapter

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 610

    “ผม ผมยินดีเป็นพยานที่มีความผิด ประณามและฟ้องร้องจ้าวเจี้ยนชิง! ในมือของผมมีข้อมูลอยู่ร้อยชุด สามารถเป็นหลักฐานที่แสดงว่าจ้าวเจี้ยนชิงได้กระทำความผิด!”เขารู้ดีแก่ใจว่า ชีวิตของตนในตอนนี้ถูกกุมอยู่ในกำมือของหลินหยาง ดังนั้นจึงรีบเคลียร์ความสัมพันธ์ให้ชัดเจน หวังว่าหลินหยางจะไว้ชีวิตตนเองสักครั้งแต่ทว่าในเวลานี้ ยังไม่ทันที่หลินหยางจะพูด เฉิงหว่านฉิงกลับพูดขึ้นมาทันทีว่า “ปรมาจารย์หลินอย่าเชื่อพ่อของฉัน! เขาแค้นคุณมานานมากแล้ว! เขายังจับตาดูคุณ ภายใต้คำสั่งของหลูอ้าวตง!”“อีกทั้งข้อมูลในมือของเขา ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งร้อยชุด อย่างน้อยต้องมีถึงสามร้อยชุด! เขาไม่ซื่อสัตย์กับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว!”“อย่างนั้นเหรอ?” หลินหยางหันหน้าไปมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อเฉิงคั่วได้ยินดังนั้น กลับโมโหจนแทบกระอักเลือด “แม่งเอ๊ย ทำไมฉันถึงได้มีลูกสาวอกตัญญูอย่างแก่! ไม่นึกเลยว่าแม้แต่พ่อของตัวยังทรยศได้! ตอนนั้นฉันควรจะยิงแกให้ติดกำแพง!”แต่ทว่าเฉิงหว่านฉิงกลับไม่สะทกสะท้าน ในทางกลับกันดวงตาคู่งามนั้น จ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้ากังวลใจพร้อมกล่าววิงวอน “ขอเพียงแค่ปรมาจารย์หลินไว้ชีวิตฉันสักครั้ง ฉัน

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 609

    เปรี้ยง!ตอนที่ยาเสพติดมากมายปรากฏขึ้น ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้างตกตะลึง?!“ไม่นึกเลยว่าจ้าวเจี้ยนชิงยังสมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด!”“ยาเสพติดเหล่านี้ มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลตายหลายพันรอบ!”แต่ท่ามกลางเสียงร้องตกใจเหล่านั้นจ้าวเจี้ยนชิงก็จ้องมองยาเสพติดเหล่านั้นด้วยความตกตะลึง กล่าวด้วยใบหน้าที่ยากจะเหลือเชื่อ “เป็น เป็นไปได้ยังไง?”ยาเสพติดพวกนี้ตนเก็บเอาไว้ในสถานที่ที่เป็นความลับ จะถูกตรวจเจอได้ยังไง?เขาหันหน้าไปมองหลินหยางทันทีกล่าว “แกซื้อตัวคนของฉัน?!”“อย่าพูดจามั่วซั่วสิ ฉันไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียว”หลินหยางมองบน ตนไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียวจริง ๆเห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าฉันใช้แรงกายบนเตียงเพื่อให้ได้มาต่างหาก!“พ่อครับ ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?”จ้าวเจิ้งฮ่าวตกใจจนเสียงสั่นเครือ สีหน้าตกใจและหวาดกลัวทำยังไงดี?จ้าวเจี้ยนชิงกลับหัวเราะด้วยความเจ็บปวด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก?!เขาคุกเข่าลงให้หลินหยางเสียงดังตึ้งอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างสิ้นหวัง “ปรมาจารย์หลิน ผมขอโทษคุณ ผมไม่ควรหาเรื่องคุณ ผมไม่ขอร้องให้คุณไว้ชีวิตผม แต่ปล่อยคนในครอบครัวข

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 608

    “ปรมาจารย์หลินปิดบังเก่งนี่นา! แม้แต่กรมอัยการสูงสุดแห่งหนานตูยังเชื่อฟังคำสั่งของปรมาจารย์หลิน?!”“น่าตลก จ้าวเจี้ยนชิงนั่นยังใช้อำนาจและอิทธิพลข่มเหงผู้คน! อำนาจและอิทธิพลของปรมาจารย์หลินมากกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”“ไอดอล...เก่งมาก!”หานเซวี่ยอิ๋งอ้าริมฝีปากแดงเล็กน้อย จ้องมองหลินหยางที่สีหน้าเรียบเฉยด้วยความตื่นตะลึง ในใจไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจ้าวเจี้ยนชิงที่อวดดีจนถึงขนาดไม่มีใครเทียบได้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกจับกุมแบบนี้?“นายพลจ้าว ช่วยพวกเราด้วย! ฉันไม่อยากตาย!”และในเวลานี้ เฉิงหว่านฉิงกลับถูกเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจับกุม ใส่กุญแจมือ เธอหันหน้าไปมองจ้าวเจี้ยนชิงอย่างขอร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ม่ายดำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ใหญ่เกินไป เกือบจะทำให้เธอฉี่ราด ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จ้าวเจี้ยนชิง?จ้าวเจี้ยนชิงในเวลานี้กลับหันไปมองเหยียนฮ่าวด้วยสีหน้าไม่ดีพร้อมกล่าวเสียงเย็นยะเยือก “คุณชายเหยียน! คุณไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณเหรอ นายท่านตงกับคุณพ่อของคุณสัญญากันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเก็บหลินหยาง!”หลังจากเกิดเรื่องต

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 607

    “แกพูดจาเหลวไหล! พวกเราทุกคนเห็นกันหมดแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกสมคบคิดกับชาวตงอิ๋ง รังแกคนประเทศหลงของพวกเรา!”“ชาวตงอิ๋งนั่นบอกว่าพวกเราเป็นไอ้ขี้ยาแห่งเอเชียตะวันออก ทำไมแกถึงยังปกป้องเขาอยู่อีก! เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าแกควรจะปกป้องเมืองลั่ว!”“ทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์!”ทันใดนั้น บรรดาฝูงชนที่มุงดูเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมา พยายามปกป้องหลินหยาง การกระทำที่กลับดำเป็นขาวของจ้าวเจี้ยนชิงทำให้พวกเขาโมโหจนสำลัก พากันหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานแต่ทว่าเสียงปังดังขึ้นทันที!บรรดาคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงลงมือทันที ราวกับเสือกระโจนเข้าฝูงแกะ ทำให้ฝูงชนที่มามุงดูพวกนั้นถูกเตะล้มลงไปบนพื้น โทรศัพท์มือถือของบรรดาแฟนคลับถูกเหยียบแตกละเอียด!ทั้งหมดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย!“หลินหยาง ฉันยอมรับว่าฉันเอาชนะแกไม่ได้ แต่นั่นแล้วยังไง ฉันจะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์อย่างแก ก็ยังคงง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก!”ถึงแม้ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะถูกหลินหยางบีบคอเอาไว้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม!“ข่มขู่ฉัน?” หลินหยางกลับยิ้มออกมา“ฉันจะข่

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 606

    ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 605

    เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 604

    “เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 603

    ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ

  • เซียนหมอมังกรระห่ำเมือง   บทที่ 602

    หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status