Share

บทที่ 4

ฉันขอบคุณแอนโธนี่ในใจขณะที่กอดเงินมุดผ้าม่านข้างหลังบาร์พุ่งตัวหนี

ฉันได้ยินเสียงคนตะโกนตามหลังและเสียงที่ฟังดูเหมือนจะเป็นหมัดที่กระทบใบหน้าใครบางคน

พระเจ้า ฉันหวังว่าแอนโธนี่จะไม่เป็นอะไร

แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาที่จะเป็นห่วงเขา

ฉันได้ยินเสียงตะโกนอีกครั้งเมื่อวิ่งมาได้ครึ่งทางเดิน และตระหนักได้ทันทีว่าไม่มีทางที่ฉันจะหนีไปยังห้องแต่งตัวได้โดยที่ชายสองคนนั้นจะไม่เห็นฉันหากพวกเขากำลังตามฉันมา ฉันรู้ว่าตรงนี้มีตู้เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ฉันจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วและเปิดประตูเข้าไปแอบข้างใน

ทันใดนั้นก็มีเสียงข้างในคลับดังขึ้น ปัง ปัง!

ฉันสะดุ้งและเอามือปิดหูตัวเองทันที เสียงนั้นดังราวกับมีคนจุดพลุในคลับ หรือว่าจะเป็นเสียงปืน?

เสียงคนตะโกนดังขึ้นจากห้องวีไอพี เหล่าผู้หญิงในห้องแต่งตัวเริ่มกรี๊ดและตื่นตระหนก

ฉันตกใจและหลบเข้าไปในตู้เสื้อผ้าลึกกว่าเดิมขณะที่ฟังเสียงฝีเท้าของผู้คนที่วิ่งไปตามทางเดิน ต่างพยายามหาทางหนีออกไป

“เธอน่าจะไปที่ห้องแต่งตัว!” เสียงแหบห้าวตะโกนจากข้างหน้าตู้ ฉันกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความหวังที่จะรอด เพราะเสียงนั้นเหมือนกับเสียงชายตัวใหญ่

“พวกแกมาทำอะไรในคลับของฉัน?!”

ฉันตื่นตระหนกจนลืมหายใจ ความหวังของฉันพังทลายลงเพราะเสียงนั้นคือเสียงของพีท ผู้จัดการของฉัน และเสียงของเขาก็ดังมาจากข้างหน้าตู้เช่นกัน “ออกไปจากที่นี่ซะ! ที่นี่เป็นคลับมีชื่อเสียง พวกแกจะเข้ามาและ…”

“ฟังนะไอ้เวร” ชายตัวใหญ่สบถ ฉันอดไม่ได้ที่จะแอบส่องผ่านช่องประตูตู้ ชายตัวใหญ่คว้าคอเสื้อพีทและใช้แรงยกจนพีทลอย เท้าของเขาห้อยและขูดพื้นเบา ๆ อย่างกับกำลังหาเลขเด็ด

“พวกเราจะทำอะไรที่นี่ก็ได้ เข้าใจไหม?” ชายตัวใหญ่ขู่ขณะที่เอนตัวเข้าหาพีทจนน้ำลายเขากระเด็นใส่หน้าพีท

หน้าฉันถอดสีเมื่อหนึ่งในนักเลงชักปืนออกมาจ่อหัวพีท

“ทีนี้” เขากล่าวเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอันตราย “พาฉันไปหานางนั่นซะ”

“ทางนี้ครับ” เสียงของพีทแหลมเล็กลงใบหน้าแดงก่ำจากความกลัวและการขาดอากาศหายใจ “เดี๋ยวผมพาไป…”

ฉันสาปส่งในใจที่พีทเป็นพวกขายกันเองเหมือนสตีเว่น แต่เอาจริง ๆ ฉันก็เริ่มไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะด่าเขาได้ไหมเพราะเขาโดนปืนจ่อหัวอยู่แบบนั้น

ชายตัวใหญ่ปล่อยมือจากพีทก่อนที่พีทจะเดินนำทางพวกเขาไปที่ห้องแต่งตัว

เสียงปืนดังขึ้นอีกสองนัด ฉันร้องเบา ๆ ด้วยความตกใจก่อนที่ประตูจะเปิดออกในทันใด

ตาของฉันเบิกโพลงด้วยความกลัวขณะที่นึกว่าถูกพบตัวโดยชายร่างใหญ่คนนั้นหรือเพื่อนที่ตัวเล็กเจ้าเล่ห์ของเขา

แต่ชายคนนี้ไม่ใช่คนทั้งสอง เขามีผมสีเข้มที่ตกลงมาปรกตา ฉันตกใจจนหัวใจเต้นผิดจังหวะเมื่อเห็นว่าเสื้อของเขาเปื้อนเลือด

“มาเร็วแบมบี้” เขาสั่งเสียงแหบ ๆ ขณะที่เอื้อมมือเข้ามาในตู้เสื้อผ้าและคว้าข้อมือฉันก่อนที่จะดึงฉันออกมาที่ทางเดิน

ฉันสะดุดบางอย่างขณะออกมาจากตู้เสื้อผ้าและต้องอ้าปากหวอทันทีเมื่อเหลือบเห็นร่างของใครบางคนที่เลือดอาบหัวตรงทางเดินไปยังห้องแต่งตัว

ฉันมองไม่เห็นชัดจากระยะทางไกลแบบนี้แต่ฉันก็ตกใจอยู่ดีเพราะมั่นใจมากว่านั้นคือชายร่างใหญ่ คนที่ไล่ตามฉัน

แต่ก่อนที่ฉันจะได้เห็นมากกว่านั้น ชายคนนั้นก็ดึงตัวฉันขึ้นก่อนที่จะก้มตัวยกฉันขึ้นพาดไหล่ ฉันถูกยกลอยพื้นก่อนที่เขาจะกอดขาของฉันไว้แน่นและเดินกลับไปทางคลับ

“ปล่อยฉันลงนะ!” ฉันตะโกนและทุบหลังเขาสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้ด้วยมือที่เต็มไปด้วยเงินของฉัน

เขาเพียงแต่เขย่าฉันด้วยความหงุดหงิดเพื่อให้ฉันเงียบและหยุดขยับขณะที่เขาเดินทะลุคลับที่เต็มไปด้วยผู้คนและนักเต้นที่ตะโกนโวยวายและพยายามหนีออกทางประตู

ฉันตะโกนประสานเสียงไปกับพวกเขา แต่ชายคนนี้เมินฉันโดยสิ้นเชิง

ฉันกรีดร้องอย่างประสาทเสียขณะที่ยังคงเอาแต่ทุบหลังของเขา เขาเป็นใครกันแน่!? เขาทำงานให้มาเฟียดอนที่ซื้อฉันเหรอ? เขากำลังจะพาฉันไปที่ซ่องเหรอ!?

ฉันทั้งดิ้นและเตะแต่กลับตัวแข็งทื่อทันทีเมื่อชายคนนี้ตบก้นที่แทบจะเปลือยไปทั้งหมดของฉันด้วยมือของเขา “อยู่เฉย ๆ สิแบมบี้” เขาสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลางหัวเราะ

“อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้เลย”

ฉันยังคงตกอยู่ในความตะลึงเมื่อเขาอุ้มฉันออกไปข้างนอก

ฉันหันหน้าซ้ายทีขวาทีเพื่อพยายามมองว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ทันใดนั้นรถเอสยูวีสีดำก็ขับมาจอดข้างหน้าคลับ ชายที่อุ้มฉันไม่ได้ชะลอฝีเท้าเลย เขากลับอุ้มฉันไปที่รถก่อนเปิดประตูหลังแล้วโยนฉันเข้าไป

เขาปิดประตูลง ปล่อยให้ฉันนอนหายใจหอบ ฉันวิตกกังวลจนหัวหมุน แต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินใครบางคนกระแอม ฉันขยับตัวไปแนบประตูรถเมื่อตระหนักว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่ในเงามืดที่เบาะหลังกับฉัน

ฉันนิ่งงันขณะที่พยายามมองคนผู้นั้น ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้ชาย

ชายไหล่กว้างผู้นั้นนั่งอยู่ตรงข้ามฉันอย่างไร้กังวล โครงร่างที่สูงของเขาปกคลุมไปด้วยกล้ามเนื้อ ความเปี่ยมอำนาจไหลล้นมาจากตัวเขา

เขานั่งในมุมมืด แต่แสงไฟสลัว ๆ ที่ลอดเข้ามาส่องหน้าเขาเพียงพอให้ฉันได้เห็นดวงตาสีฟ้าที่ฉันสังเกตเห็นก่อนหน้านี้…

ฉันอ้าปากหวอเมื่อตระหนักได้ว่าเขาคือเจ้าพ่อมาเฟีย

เขาเป็นใครกันแน่? ทำไมฉันถึงได้มาอยู่บนรถเขา? เพราะว่า… เจ้าพ่อมาเฟียและดอน โบเน็ตติที่ตอนนี้เหมือนจะเป็นเจ้าของฉันนั้นแตกต่างกันมาก อันที่จริงใคร ๆ ก็รู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูกัน แล้วทำไม…

ฉันต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่ออยู่ ๆ ประตูข้างคนขับก็เปิดออกและชายที่อุ้มฉันมาขึ้นมานั่ง

“ไปได้แล้ว!” เขาตะโกน “เหยียบเลยแฟรงกี้!”

ฉันหันหน้าไปทางคนขับที่พยักหน้าและเหยียบคันเร่งทันทีจนรถแล่นออกจากคลับ นั่นแฟรงกี้เหรอ?

ตอนนี้ฉันเริ่มจะตัวสั่นแล้ว ทั้งเพราะความหนาวข้างนอกและความกลัว…

ผู้ชายเหล่านี้เป็นใคร?

พวกเขาต้องการอะไรจากฉัน?

พวกเขา… พวกเขาจะพาฉันไป…

“เอาล่ะแบมบี้” ชายอีกคนตรงข้ามฉันพูดขึ้นมาและทำให้ฉันหันกลับมามองเขา เขาพูดเน้นชื่อของฉันแปลก ๆ ราวกับรู้ว่ามันเป็นชื่อปลอม “วันนี้เธอสร้างปัญหาให้ฉันเยอะเลยนะ เราคงจะต้อง…”

ประโยคของเขาถูกขัดโดยการชนที่รุนแรงและเสียงกรี๊ดของฉันเมื่อกระจกหลังรถแตก เสียงของปืนดังลั่นไปทั่ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status