….ณ ภูดินฟาร์ม….
หลังจากกลับจากบริจาคของที่โรงเรียนแสนรักวันนั้นก็ผ่านเวลามาเป็นเดือนแล้ว ภูดินก็ยังเอาแต่คิดถึงใบหน้าสวย สดใส น่ารักที่เปื้อนด้วยยิ้มตลอดเวลาและแววตาที่เป็นประกายและแสนอ่อนโยนของเพียงดาวครูอาสาที่ได้พบเจอในวันนั้น จนเขาเองก็ประหลาดใจตัวเองเหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรน่าดึงดูดใจกันนะทำไมถึงทำให้ผู้ชายที่บ้างานจนไม่เคยมีเวลามองผู้หญิงอย่างเขาเอาแต่คิดถึงเธอได้ ตอนแรกเขาคิดว่าแค่น่ารักดีเลยมอง แต่จนถึวันนี้เขาก็ยังคิดถึงเธออยู่และยิ่งคิดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
“นายครับ นาย นายครับ” เสียงของวิทย์ลูกน้องคนสนิทเรียก ทำให้ภูดินหลุดออกจากภวังค์ และหันมาดุลูกน้องที่เรียกเขาเสียงดังจนตกใจ
“มีอะไรวะไอ้วิทย์เสียงดังตกอกตกใจหมด”
“ก็ผมเรียกนายอยู่นานสองนาน นายก็นั่งเหม่อลอยไม่ได้ยินเสียงผมเลยนี่ครับ เอ๊ะ!!อาการแบบนี้หรือว่ากำลังคิดถึงสาวที่ไหนอยู่รึเปล่าน๊า อยากรู้จังว่าสาวคนนั้นจะหน้าตาเป็นอย่างไรถึงทำให้คนบ้างานอย่างนายตกหลุมรักได้”วิทย์หยอกล้อผู้เป็นนาย
“สาวที่ไหนกันวะเหลวไหล กำลังคิดเรื่องงานอยู่ต่างหาก”
“ก็อาการแบบนี้ส่วนใหญ่มีแต่เรื่องความรักทั้งนั้นครับ แต่คนที่เห็นงานเป็นที่หนึ่งอย่างนายคงไม่มีเรื่องสาวๆอยู่แล้วแหละครับ”
“ว่าแต่เองมานี่มีธุระอะไร”ภูดินรีบตัดบทก่อนที่ลูกน้องคนสนิทจะจับพิรุธได้
“ผมกำลังจะเข้าไปในหมู่บ้านทิวไผ่ชาวบ้านกำลังทำฝายชะลอน้ำ พวกผมสี่ห้าคนว่าจะไปดูเผื่อมีอะไรให้ช่วยพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดี เลยจะถามว่านายจะไปด้วยกันมั้ยครับ”
“บ้านทิวไผ่หรอ ไปสิไม่ได้แวะไปเยี่ยมผู้ใหญ่คงนานแล้วเหมือนกัน เอาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับทำฝายติดไปด้วยนะ บอกพี่จันทร์ให้เตรียมของกินไปฝากชาวบ้านด้วย”
“ครับนาย เดี๋ยวพวกผมเตรียมของเสร็จจะมาเรียกนะครับ”
“อืม”ภูดินตอบรับลูกน้องพลางรีบเคลียร์เอกสารในมือที่ยังค้างคาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
….หมู่บ้านทิวไผ่….
หมู่บ้านทิวไผ่อยู่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างเยอะ เป็นหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้ ภูดินรู้จักที่นี่เพราะตอนเด็กๆติดตามผู้เป็นพ่อมาที่นี่ประจำ เนื่องด้วยพ่อมาบุกเบิกทำไร่ชาเพื่อให้ชาวบ้านได้มีอาชีพทำกิน ชาวบ้านที่นี่ถือเป็นคนงานเก่าแก่ของพ่อเขา ตั้งแต่พ่อเสียไปภูดินจึงทำหน้าที่รับช่วงดูแลงานต่อและแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือชาวบ้านเป็นประจำจนเปรียบเหมือนคนในครอบครัวของเขา ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็รักและเคารพเขาเป็นอย่างมาก
“สวัสดีครับผู้ใหญ่ เป็นยังไงบ้างสบายดีนะครับ ได้ข่าวว่าจะทำฝายชะลอน้ำเลยแวะมาดูเผื่อมีอะไรที่พอช่วยได้บ้างครับ”ภูดินกล่าวทักทายผู้ใหญ่
“สวัสดีครับ คุณภู ขอบคุณมากๆนะครับที่แวะมาช่วยเหลือกัน พอดีเลยกำลังจะกินข้าวเย็นกันเลย มาๆๆกินข้าวด้วยกันครับ”ผู้ใหญ่คงกล่าวชวนผู้มาเยือน
“ดีเลยจ่ะ ลุงผู้ใหญ่พวกผมกำลังหิวกันพอดีเลยจ่ะ”วิทย์กล่าวพร้อมกับชวนทุกคนเดินตรงไปยังบ้านผู้ใหญ่ เหมือนกับเป็นบ้านของเขาเอง
“ไอ้เด็กคนนี้นี่มันเห็นแก่กินจริงๆเลยนะ ดูมันทำสิทำตัวเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลย”ผู้ใหญ่บ่นด้วยรอยยิ้มและเอ็นดูเขา
“สวยเอ้ย สวย หาข้าวหาปลามาให้คุณๆเค้าด้วยนะลูก”ผู้ใหญ่บอกหลานสาวที่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว
“ใครมาหรอจ๊ะลุง”สวยพูดพลางยื่นหน้าออกมาจากครัว “อุ้ย คุณภูเองหรอจ๊ะ นั่งรอกันเลยนะจ๊ะแป๊บเดียวจ้า”สวยบอกแขกผู้มาเยือน
“ให้พวกพี่ไปช่วยมั้ยจ๊ะน้องสวย”วิทย์ถามเธอ
“ไม่ต้องค่ะ รอทานอย่างเดียวพอวันนี้สวยมีลูกมือแล้ว”สวยตะโกนออกมาจากในครัว
ไม่นานกับข้าวหลากหลายอย่างก็ยกมาวางบนโต๊ะ ในขณะที่ทุกคนกำลังจะทานข้าวนั้นสวยก็ร้องขึ้นเสียงดังว่า “อย่าพึ่งกินจ้า ยังเหลืออีกหนึ่งอย่างรอแป๊บนะจ๊ะ” พูดจบสวยถือกับข้าวอย่างสุดท้ายเดินออกมาจากในครัวพร้อมกับหญิงสาวน่าตาสวยที่ทุกคนไม่คุ้นหน้านอกจาก….ภูดินที่จดจำใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ทุกคนต่างพูดพร้อมกันว่า “สวยยยย”
“จ่ะ ก็สวยเองไงจ๊ะ”
“ไม่ใช่น้องสวย พี่หมายถึงคนข้างหลังน่ะสวย”วิทย์กล่าว
“เอ้าก็นึกว่าเรียกสวย ลืมแนะนำไปนี่เพียงดาวเพื่อนรักสมัยมัธยมของสวยเอง”
“สวัสดีครับน้องเพียงดาวคนสวย”ทุกคนกล่าวทักทายพร้อมกัน
“สวัสดีครับคุณเพียงดาว เจอกันอีกแล้วนะครับ”ภูดินกล่าวทักทายหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม เขาดีใจมากที่เจอเธออีกครั้งแต่ต้องเก็บอาการไม่ให้เหล่าลูกน้องเห็นอาการของตัวเอง
“สวัสดีค่ะทุกคน สวัสดีค่ะคุณภูดินยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ”เพียงดาวทักทายกลับด้วยรอยยิ้ม
“เชิญนั่งครับ”ภูดินลุกขึ้นเชิญให้หญิงสาวนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆตน เพียงดาวหันมองมาทางเพื่อนก็เห็นสายตาของเพื่อนรักบอกเป็นเชิงให้นั่นลงตรงนั้น พร้อมกับสวยที่นั่งลงด้านข้างอีกฝั่งติดกับเพียงดาว
“ไม่คิดว่าจะเจอกันอีกครั้งนะครับ”
“ค่ะน่าแปลกเหมือนกัน”
“คุณภูรู้จักกับคุณเพียงดาวมาก่อนหรอครับ ไม่น่าเชื่อว่านายจะมีคนรู้จักเป็นผู้หญิงด้วย”วิทย์ถามด้วยความอยากรู้
“เราเคยเจอกันตอนคุณภูดินไปบริจาคของที่โรงเรียนบนดอยค่ะ พอดีดาวไปช่วยสอนหนังสือที่นั่นเลยได้เจอกันครั้งนึงค่ะ ทุกคนเรียกดาวเฉยๆก็ได้นะคะ”
“อ่อครับ แต่คุณดาวถือว่าเป็นคนที่พิเศษมากนะครับเพราะนายของพวกเราไม่เคยพูดคุยสนิทสนมกับผู้หญิงที่ไหนเลย วันๆเอาแต่ทำงาน เงียบขรึม ขนาดมีสาวๆมาจีบยังไม่สนใจเลยครับ”วิทย์เมาท์ผู้เป็นนายให้หญิงสาวฟัง
“ไอ้วิทย์ พูดมากนะวันนี้สิ้นเดือนลดเงินเดือนเหลือครึ่งเดียวดีมั้ย โทษฐานนินทาเจ้านาย”
“ไม่ดีแน่ๆครับนาย ต่อไปผมจะรูดซิปปากให้สนิทเลยครับ”เขาพูดพร้อมทำท่าทางรูดซิปปากตัวเอง ทำเอาคนอื่นๆหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ภูดินถึงจะเป็นคนเงียบๆมองภายนอกอาจดูดุแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ใจดีมาก ยิ่งกับลูกน้องยิ่งดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ลูกน้องและทุกคนที่ได้รู้จักกับตัวตนของเขาต่างก็รักเขาทั้งนั้น
ในระหว่างที่ทุกคนนั่งทานข้าวและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น บรรดาลูกน้องของภูดินก็ส่งซิกให้กันดูปฏิกิริยาของผู้เป็นนายเป็นระยะ เพราะอาการและแววตาแบบนี้ที่เขาทำกับเพียงดาว ไม่เคยเห็นเขาทำกับใครมาก่อน วิทย์ได้แต่คิดในใจว่า…..สงสัยจะได้นายหญิงแล้วเรา
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวเตรียมตัวเข้านอน มีเพียงเพียงดาวที่ออกมานั่งเล่นที่ชิงช้าหน้าบ้าน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับภูดินที่นอนไม่หลับออกมาเดินเล่นพอดี ภูดินเห็นเพียงดาวนั่งอยู่คนเดียวจึงเดินเข้าไปคุยด้วย“ทำไมมานั่งคนเดียวตรงนี้ล่ะครับ”เพียงดาวหันมองตามเสียงก็เห็นภูดินยืนอยู่ด้านหลังตน“ดาวนอนไม่หลับเลยมานั่งดูดาวค่ะ”“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ”“ดะ ได้ค่ะ”เพียงดาวตอบรับแบบตะกุกตะกักพร้อมกับขยับไปนั่งชิดม้านั่งอีกฝั่ง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับชายหนุ่ม ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครพูดอะไรพักใหญ่ก่อนที่ภูดินจะเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อนเพื่อทำลายความเงียบ“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ เดือนที่แล้วยังเห็นอยู่ที่โรงเรียนแสนรักอยู่เลย”“โรงเรียนปิดเทอมแล้ว สวยชวนมาเที่ยวพอดีช่วงนี้ว่างอยู่ก็เลยมาค่ะ”“เห็นครูใหญ่บอกว่าคุณดาวพึ่งลาออกจากงาน ตอนนี้ได้งานใหม่หรือยังครับ เอ่อ ขอโทษนะครับที่ถามถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ”เพียงดาวหันมองหน้าชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มและตอบกลับเขา“ถามได้ค่ะ แต่ก่อนอื่นคุณภูเลิกเรียกดาวว่าคุณก่อน เรียกดาวเฉยๆก็พอค่ะ“ดาวเองก็เร
ภูดินและเพียงดาวนั่งคุยกันจนเวลาล่วงเลยมาจวนจะเที่ยงคืนแล้ว เพียงดาวเหลือบมองนาฬิกาในโทรศัพท์จึงเอ่ยกับชายหนุ่มว่า“ดึกมากแล้วเราเข้าบ้านไปนอนกันเถอะค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”“เผลอแป๊บเดียวจะเที่ยงคืนแล้วหรอเนี่ย ขอโทษนะครับชวนคุยยาวเลย”“ดาวสิคะต้องขอบคุณที่อุตส่าห์นั่งคุยเป็นเพื่อนจนดึก ไปกันค่ะ เข้าบ้านกัน”“เดี๋ยวครับ เอ่อ..คือผม...ขอไลน์ได้มั้ย”ภูดินพูดเสียงตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนักเพียงดาวมองหน้าเขาซักพักก็พูดขึ้นว่า“ดาวจะถือว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะคะ” ก่อนจะบอกเบอร์โทรศัพท์ให้เขาแอดไลน์ จากนั้นภูดินก็ส่งข้อความเป็นเบอร์โทรศัพท์ของตนให้หญิงสาว“ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรโทรหาผมเบอร์นี้ได้ตลอดเลยนะ ถือว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ต้องเกรงใจ”ทั้งคู่ยิ้มให้กันและเดินตามกันเข้ามาในบ้านก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนตามห้องที่ผู้ใหญ่บ้านจัดเตรียมไว้ให้ บ้านของผู้ใหญ่เป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้นหลังใหญ่พอสมควร ภายในบ้านมีห้องนอนสำหรับรับแขกทั้งชั้นบนและชั้นล่าง จึงไม่มีปัญหาเรื่องที่นอนเมื่อมีแขกมาเยือนทีละหลายคน…เช้าวันถัดมา…ทุกคนตื่นแต่เช้าจัดการธุระส่วนตัวและทานข้าวเช้า
…เช้าวันรุ่งขึ้น เพียงดาวตื่นนอนแต่เช้ารีบเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน ผู้ใหญ่จะเข้าไปในเมืองพอดีเธอเลยขอติดรถกลับบ้านด้วย โดยมีสวยเพื่อนรักตามไปส่งด้วย ตลอดเช้านี้เธอเลยไม่มีเวลาดูโทรศัพท์เลยฝั่งของภูดินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแทบจะทุกห้านาที จนไม่เป็นอันทำงาน เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คนที่เฝ้ารอจะอ่านข้อความซักที ยิ่งเพียงดาวไม่อ่านข้อความนานเท่าไรก็ยิ่งทำให้เขากระวนกระวายใจ จนคิดไปต่างๆนาๆว่าตัวเองทำอะไรผิดมั้ยหรือเค้าไม่อยากคุยกับเราแล้ว ไม่นานความคิดฟุ้งซ่านของภูดินก็สงบลงเมื่อคนที่เฝ้ารอตอบข้อความกลับมา“ขอโทษนะคะคุณภู เมื่อเช้าดาววุ่นๆพึ่งกลับถึงบ้านค่ะ”“ดาวกลับบ้านแล้วหรอ กลับยังไง ใครไปส่ง”“ลุงผู้ใหญ่กับสวยมาส่งในเมืองค่ะ ดาวต่อรถสองแถวเข้าบ้านอีกที”“เอ่อ….แล้วสนใจข้อเสนอของผมมั้ย ที่ชวนมาทำงานด้วยกัน”“ดาวขอทราบรายละเอียดงานมากกว่านี้หน่อยได้มั้ยคะ ค่อยตัดสินใจอีกที”“ได้ๆๆ แล้วดาวจะให้ผมส่งรายละเอียดให้ทางไหน หรือว่าเอาอย่างนี้ดีมั้ยผมไปหาดาวที่บ้าน เผื่อติดขัดตรงไหนจะได้ถามได้เลย”เพียงดาวนิ่งคิดซักพักก่อนตอบ“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ คุณภูสะดวกวันไหนคะ”“วันเสาร์ได้มั้ยครับ”“ได้ค่ะ
คืนนั้นเพียงดาวนอนไม่หลับพลิกตัวไปมา จนนวลผู้เป็นแม่ตื่น“นอนไม่หลับหรอลูก”“จ่ะแม่ คิดอะไรนิดหน่อย แม่จ้ะเดี๋ยวดาวลงไปดูหนังข้างล่างนะจ๊ะ”“จ้า อย่าให้ดึกมากนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”“ค่ะแม่”นวลเองก็พอจะเข้าใจสาเหตุที่ลูกสาวนอนไม่หลับจึงไม่ได้ห้ามอะไร พลางนึกย้อนไปว่าตั้งแต่เด็กเพียงดาวไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเข้าบ้านเลย ภูดินเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอพามาพบแม่ ถึงแม้จะเป็นในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ตาม เธอเองก็พอจะมองออกว่าสายตาที่ทั้งคู่มองกันไม่ใช่ในฐานะของเพื่อนร่วมงาน สิ่งที่ห่วงมีแค่อย่างเดียวว่าครอบครัวของเธอต่างจากของภูดินมากจนมองไม่เห็นว่าสุดท้ายจะลงเอยได้อย่างไร แต่เธอก็ไม่อยากกีดกันเด็กๆ เธอจึงเลือกที่จะให้พวกเขาเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง หากวันไหนเจ็บหรือไม่เป็นดังหวังเธอก็พร้อมจะดูแลลูกสาวคนเดียวอย่างเต็มที่…ทางด้านของภูดินเองคืนนี้ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน จึงลงมาข้างล่างหาน้ำดื่มและนั่งเล่นซักหน่อย บังเอิญไปเห็นแสงสว่างจากหน้าจอทีวีจึงเดินไปดู พบว่าเพียงดาวนั่งดูหนังอยู่“ดาวทำไมมานั่งดูหนังคนเดียวล่ะครับ”“ดาวนอนไม่หลับค่ะ”“ผมก็เหมือนกัน ขอดูด้วยคนได้มั้ย”“เอ่อ….เชิญนั่งสิคะ”เพียงด
“นมครับ” ภูดินเรียกหาแม่นมของเขา“ว่าไงคะคุณภู”นมแย้มหญิงชราในวัยหกสิบขานรับชายหนุ่ม“นมช่วยให้คนจัดห้องนอนข้างบนสำหรับผู้ช่วยคนใหม่ของผมด้วยนะครับ เธอจะมาเริ่มงานอาทิตย์หน้าครับ”“เธอหรอคะ งั้นก็เป็นผู้หญิงน่ะสิ ผู้ช่วยคนใหม่คุณภูเป็นผู้หญิงหรอคะ”นมแย้มขมวดคิ้วถามเขาด้วยความประหลาดใจ“ครับ เธอชื่อเพียงดาว อายุน้อยกว่าผมประมาณ 4 ปีครับ ช่วงแรกๆที่เธอมาอาจจะต้องรบกวนนมดูแลเธอด้วยนะครับ”“ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ว่าแต่สาวน้อยคนนั้นเป็นคนยังไงกันนะถึงทำให้คุณภูของนมรับมาทำงานด้วย ชักอยากเจอหน้าซะแล้วสิ”“ก็คนธรรมดานี่แหละครับนม ความสามารถของเธอตรงกับที่ผมกำลังต้องการอยู่พอดีก็แค่นั้นครับ”“ค่ะ คงเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”นมพูดเชิงไม่เชื่อที่ชายหนุ่มพูดซักเท่าไหร่ ผู้ชายคนนี้เธอเลี้ยงมาเองกับมือ เธอรู้จักนิสัยเขาเป็นอย่างดี ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงที่ไหน ยิ่งเวลามีสาวๆมาเกาะแกะยิ่งทำตัวเย็นชา อยู่ดีๆพาผู้หญิงมาทำงานด้วยแถมยังให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอีก เธอคนนั้นคงต้องไม่ใช่ลูกน้องธรรมดาแน่นอนตลอดทั้งสัปดาห์นั้นนมแย้มวุ่นกับการจัดห้องใหม่ให้ผู้ช่วยสาว ข้าวของเครื่องใช้อะไรที่ผู้หญิงควรมี
ทันทีที่รถของภูดินวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน เพียงดาวสังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่หลายกลุ่ม เธอจึงเอ่ยถามภูดินด้วยขณะที่ยังนั่งอยู่ในรถ“พวกเขามาทำอะไรกันคะ”“ด้านนี้คือคุณนมและพี่จันทร์ พี่จวงทั้งสามคนทำงานและพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนคนอื่นๆด้านโน้นน่าจะมารอดูหน้าคุณผู้ช่วยคนใหม่”เขาพูดพลางอมยิ้มและชี้มือไปที่กลุ่มของคนงานที่ยืนจับกลุ่มซุบซิบกันอยู่“มารอดูดาวหรอคะ”หญิงสาวทำหน้างง“พวกเขาคงอยากทำความรู้จักน่ะ ป่ะเข้าบ้านกัน”จบบทสนทนาทั้งคู่ก็เดินลงมาจากรถ ภูดินเอามือแตะที่หลังของหญิงสาวเบาๆเพื่อให้เดินไปหานมแย้มที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน“ดาวนี่นมแย้ม พี่จันทร์ พี่จวง ทุกคนนี่เพียงดาวผู้ช่วยคนใหม่ของผมครับ””“สวัสดีค่ะทุกคน หนูชื่อเพียงดาวนะคะ เรียกดาวเฉยๆก็ได้ค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”หญิงสาวพูดพร้อมกับยกมือไหว้คนทั้งสาม“สวัสดีจ้ะหนูดาว ยินดีต้อนรับจ้า”นมแย้มเอ่ยและยิ้มให้หญิงสาว“สวัสดีค่ะคุณดาว ยินดีต้อนรับเช่นกันค่ะ คุณดาวสวยจังนะคะ”จันทร์และจวงเอ่ยพร้อมกันด้วยรอยยิ้มด้วยใบหน้าที่สวยน่ารัก ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อยและผมสีน้ำตาลยาวเป็นลอนสวยของหญิงสาวผู้มาใหม่ทำให้เหล่าคนงานที่ยืนดูอยู่ต่างก
….เช้าวันใหม่ที่ภูดินฟาร์ม ….กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…เสียงนาฬิกาปลุกที่เพียงดาวตั้งไว้ตอนหกโมงเช้าดังบอกเวลาให้เธอลุกจากที่นอน เธอพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงียเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนหลับได้ก็ปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว ด้วยความที่ยังไม่ชินกับสถานที่ทำให้นอนไม่หลับพลิกตัวไปมาทั้งคืน แต่พอเธอลุกออกไปยืนสูดอากาศที่ริมระเบียงก็ทำให้เพียงดาวสดชื่นขึ้นมา ด้วยวิวทิวทัศน์ที่เขียวชะอุ่ม มองไปทางไหนก็สบายตา ประกอบกับอากาศตอนเช้าที่เย็นสบาย เพียงดาวยืนมองบรรยากาศโดยรอบซักพักก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เช้านี้เธอมีนัดกับภูดินไปดูพื้นที่รอบฟาร์มหรือที่ทำงานแห่งใหม่ของเธอนั่นเอง เพียงดาวจึงเลือกชุดเอี๊ยมที่แม่ตัดให้ใหม่มาใส่เพื่อให้ดูทะมัดทะแมง“มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ”เพียงดาวถามพี่ๆทำกำลังเตรียมกับข้าวอยู่ในครัว“ไม่มีหรอกค่ะ คุณดาวเข้ามาทำไมคะเดี๋ยวตัวเหม็นไปนั่งรอที่โต๊ะทานข้าวเลยค่ะ”จันทร์บอกหญิงสาว“ก็ดาวอยากช่วยนี่คะ อีกอย่างพวกพี่เรียกดาวว่าดาวเฉยๆก็ได้ค่ะ ไม่เห็นต้องเรียกคุณเลย”“ไม่ได้ค่ะ ให้พวกพี่เรียกคุณน่ะดีแล้ว เอาอย่างนี้ถ้าคุณดาวอยากช่วยจริงๆ ช่วยชงกาแฟให้คุณภูทีค่ะ”“ชง..กาแฟให้คุณภูหรอคะ เอ่อ...ก็ได้ค่ะ
ภูดินขับรถมาอีกประมาณสิบห้านาทีก็ถึงโรงเรือนที่มีแม่วัวอยู่นับร้อย และเช่นเคยเพียงดาวก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามาก“โห….ดาวไม่เคยเห็นแม่วัวเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ใหญ่มาก”เธอพูดพลางวิ่งไปดูแม่วัวและเดินลูบหัวทักทายวัวทีละตัว“ยัยบ๊องเอ้ย เห็นอะไรก็ตื่นเต้นไปหมด”เขาพึมพำเบาๆ พลางยิ้มแล้วส่ายหัวก่อนจะเดินตามไปอธิบายรายละเอียดของแต่ละโรงเรือนให้หญิงสาวฟัง บริเวณนี้นอกจากโรงเรือน โรงรีดนมแล้วยังมีที่เก็บน้ำนมดิบด้วย“นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ จะมาทำไมไม่บอกล่ะครับ”เสียงของวิทย์ผู้ช่วยคนสนิทดังมาจากด้านหลังของคนทั้งคู่“ผมได้ข่าวว่านายพึ่งรับผู้ช่วยคนใหม่มา ได้ข่าวว่าเป็นสาวสวย…….”วิทย์ที่พูดยังไม่ทันจบประโยคก็หยุดชะงัก เห็นหน้าของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเจ้านายของตน“คุณเพียงดาว คุณเพียงดาวจริงๆด้วย อย่าบอกนะครับว่าผู้ช่วยคนใหม่ที่เขาลือกันคือคุณเพียงดาว”“สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ ดาวเองค่ะ”“นี่คุณเพียงดาวเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของนายจริงๆหรอครับ เฮ้ย..พวกเรามาทางนี้เร็วนายพาผู้ช่วยคนใหม่มา”วิทย์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจจนเผลอร้องเสียงดังเรียกเพื่อนที่อยู่ในห้องพักให้ออกมาข้างนอก“แกจะเสียงดังทำไมไอ้วิทย์
“เมื่อยใช่มั้ย ไปนั่งที่โซฟาก่อน”เมื่อประคองหญิงสาวมานั่งที่โซฟาแล้วเขาจึงนั่งลงตรงหน้าเธอพร้อมกับถอดรองเท้าส้นสูงออกให้หญิงสาว“คุณภูไม่ต้องค่ะดาวทำเอง”เธอพูดกับเขาด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้“พี่ดินครับ ไม่ใช่คุณภู แล้วก็นั่งเฉยๆ พี่จัดการเอง”พูดจบเขาก็ยกเท้าของเธอวางพาดที่ต้นขาตัวเองและใช้มือนวดเท้าของเธอช้าๆทีละข้าง“พอแล้วค่ะดาวหายเมื่อยแล้ว พี่ดินไปล้างมือก่อนนะคะเดี๋ยวดาวไปเอาขนมมาให้ทาน ดูหนังสักเรื่องดีมั้ยคะ อีกตั้งชั่วโมงกว่า กว่าจะถึงเที่ยงคืน”“อืม….เป็นความคิดที่ดี”“ขอบคุณนะคะวันนี้ดาวมีความสุขมากค่ะ”เธอกล่าวขอบคุณเขาระหว่างที่นั่งดูหนังกัน“พี่สิที่ต้องขอบคุณดาว ที่ยอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพี่และเข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งที่พี่ขาดหายไป พี่ดีใจมากรู้มั้ยที่ดาวยอมรับรักพี่”ทั้งคู่มองประสานสายตากันด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนที่ภูดินจะดึงเธอเข้าไปซุกในอ้อมอกเขาและใช้มือโอบกอดเธอเอาไว้ เพียงดาวเองครั้งนี้ก็ทำตามความรู้สึกของตัวเองซุกตัวเข้าไปในอ้อมอกเขาให้แนบชิดขึ้น เอาหัวแนบที่อกแกร่งของชายหนุ่ม ภูดินเมื่อเห็นการกระทำของเธอก็อมยิ้มอย่างมีความสุข เอามือลูบผมเธอเบาๆ“พี่
“โอ้โห!! คุณภูทำเองหมดเลยหรอคะ”หญิงสาวตาโตมองที่เห็นตรงหน้าทั้งอาหาร และการตกแต่งห้องแบบไม่เชื่อสายตาว่าเขาจะทำเองคนเดียวในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง อาหารที่วางเรียงรายเต็มโต๊ะทั้งสเต๊ก กุ้งแม่น้ำอบชีส สปาเก็ตตี้ ซุป และอาหารทานเล่นอีกหลายอย่างถูกตกแต่งจานอย่างสวยงามไม่แพ้ในภัตตาคารหรู รวมถึงบรรยากาศภายในห้องที่เขาตกแต่งให้เหมือนอยู่ท่ามกลางแสงดาว“ชอบมั้ย”“ชอบมากเลยค่ะ เหนื่อยมั้ยคะ”เธอตอบเขาและถามเขาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เหนื่อยเลยครับ ผมอยากทำให้ที่รักมีความสุข”เขาตอบเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง“วันนี้เราจะทานข้าวใต้แสงเทียนนะครับคุณผู้หญิง เชิญครับ”เขาพูดพลางเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งและเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณอย่างเดียวหรอ มีรางวัลอย่างอื่นให้มั้ยครับ”“ทานข้าว….ค่ะ”เธอพูดอมยิ้มและลากเสียงยาวพร้อมท่าทางเขินอาย“……” ชายหนุ่มยิ้มกับความน่ารักของเธอ“อร่อยจังเลยค่ะ นี่ก็อร่อย นี่ก็อร่อย อร่อยทุกอย่างเลย”หญิงสาวกล่าวชมเขาหลังชิมอาหารบนโต๊ะ“อร่อยก็ทานเยอะๆถ้าดาวชอบเดี๋ยวทำให้ ทานบ่อยๆ คุณเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะที่ผมทำอาหารให้ทาน”“เชื่อได้มั้ยคะเนี่ย”“ร้อยเปอร์เซ็นคร
ภูดินลงมาข้างล่างหลังตื่นนอนตอนเช้า เพื่อมาเดินเล่นสูดอากาศในยามเช้า เมื่อเดินผ่านห้องครัวก็เหลือบไปเห็นเพียงดาวกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว“อรุณสวัสดิ์ครับ”เขาเดินเข้ามากอดหญิงสาวจากด้านหลัง พร้อมกับหอมแก้มเธอฟอดใหญ่“คุณภูปล่อยก่อนค่ะ ดาวจะทำกับข้าว”เธอบ่นเขาแต่ก็เริ่มชินกับการกระทำของชายหนุ่มแล้ว“ก็ทำไปสิครับ ไม่ได้ห้ามซักหน่อย”พูดพร้อมทั้งเอาคางเกยไหล่เธอ ในขณะที่มือยังกอดเอวเธอไม่ยอมปล่อย“งั้นช่วยเอาอาหารที่เสร็จแล้วไปวางที่โต๊ะทานข้าวได้มั้ยคะ”“ได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่าดาวต้องหอมแก้มผมก่อน”“คุณภู!!!”“เอาไงจะหอมหรือจะให้กอดอยู่แบบนี้เลือกเอา”เพียงดาวได้แต่ถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเขา ก่อนจะตัดสินใจหันหน้าไปเพื่อจุ๊บแก้มเขา แต่เป็นจังหวะที่ภูดินหันหน้ามาเพื่อจุ๊บเธอพอดี จึงทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน เพียงดาวรีบหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แต่ภูดินจับแก้มเธอให้หันมาก่อนประกบริมฝีปากจูบเธออยู่เนิ่นนานถึงยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ“อร่อยจัง”“เลิกพูดได้แล้วค่ะเอาอาหารออกไปเลย”เธอรีบไล่ให้เขาเอาอาหารไปไว้บนโต๊ะทานข้าว ภูดินยิ้มอย่างพอใจพร้อมกับยกอาหารออกไปอย่างว่าง่าย“นั่งรออยู่ตรงนั
เมื่อรถมาจอดที่ลานจอดรถของโรงแรม เพียงดาวก็ลังเลไม่กล้าลงจากรถ“ดาวไม่ไปแล้วได้มั้ยคะ”“ทำไมล่ะ ตื่นเต้น กลัวหรอ”“ดาวทำตัวไม่ถูกค่ะ ไม่รู้จะทำตัวยังไง”“อยู่กับผมกลัวอะไร”“นั่นแหละค่ะที่ทำให้กลัว ถ้าดาวลงไปด้วยคุณภูแนะนำดาวว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัวได้มั้ยคะ”“แต่คุณเป็นผู้หญิงของผม….ก็ได้ครับถ้าคุณยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร”ภูดินตอบหญิงสาว เขาคิดอยู่ครู่นึงก่อนจะยอมรับปากเธอ เพราะเขาไม่อยากปิดบังใครและอยากให้เกียรติเธอด้วย“เข้างานได้แล้วครับ” เขาเดินลงรถพร้อมอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอ และยื่นแขนไปให้เธอคล้องเดินเข้างาน“คุณภูดิน…คุณผู้หญิงสวัสดีค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ”พนักงานต้อนรับหน้างานกล่าวทักทายเจ้านายและผู้หญิงข้างกายเขาด้วยสีหน้าท่าทางประหลาดใจ ก่อนจะมีผู้ชายอีกคนมารับช่วงต่อพาเจ้านายเดินไปที่โต๊ะที่มีเอก วัชรและภรรยาของพวกเขานั่งอยู่ก่อนแล้ว ระหว่างทางก็มีสายตาหลายคู่จ้องมองมาที่ภูดินและเพียงดาวเป็นระยะ ด้วยความที่ภูดินไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนออกงานเลยทุกคนที่พบเห็นเขาในวันนี้จึงรู้สึกแปลกใจ อดที่จะมองผู้หญิงข้างกายเขาไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่เอกและวัชรเพื่อนรักของเขาที่ตอนนี้นั่งอ้าปากค้างกับภา
ตกเย็นเพียงดาวแวะเข้าไปดูภูดินในห้องอีกรอบเธอเห็นเขายังนอนหลับอยู่จึงนั่งลงบนเตียงข้างๆเขาก่อนจะเอามือไปอังหน้าผากเพื่อดูว่าตัวยังร้อนอยู่มั้ย จังหวะนั้นภูดินก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับดึงตัวเธอลงไปกอด“คุณภูทำอะไรคะ ปล่อยดาวได้แล้วค่ะ”“ไม่ปล่อย ขอผมอยู่แบบนี้ซักพักได้มั้ยครับ”“ไม่ปล่อยใช่มั้ยคะ ได้”เพียงดาวพูดจบก็กัดไปที่แขนของเขาอย่างแรง เพื่อหวังให้ชายหนุ่มปล่อยตัวเธอ“โอ้ยดาวผมเจ็บ” แต่สิ่งที่เธอได้กลับมาคือนอกจากเสียงร้องของเขาแล้ว เขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นกว่าเดิม ก่อนจะพลิกตัวให้เพียงดาวลงไปอยู่ใต้ร่างเขา“ดาวอย่าดื้อ ไม่งั้นผมไม่หยุดแค่กอดนะ”ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำ โน้มหน้าลงไปใกล้เธอจนปลายจมูกติดกัน ริมฝีปากห่างกันแค่นิดเดียว“คุณภูปล่อยดาวเถอะค่ะ เราไม่ได้เป็น….”เธอพูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนคนด้านบนประกบริมฝีปากจูบเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะถอนริมฝีปากออกและบอกกับเธอ“อย่าพูดแบบนี้อีกนะดาว ขอให้คุณจำไว้ว่าคุณคือผู้หญิงของผมนายภูดิน ผมรักคุณนะดาว รักมากด้วย หลงใหลคุณตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก เริ่มรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้รู้จักคุณ จนตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ผมมั่นใจแล้วว่า ผมรักคุณ” เขาพูดกับเธอ
...เช้าวันถัดมา…“ตายแล้วคุณภูของนมมานอนทำไมตรงนี้คะ ดูซิเนี่ยกลิ่นเหล้าหึ่งเลย ลุกไปนอนข้างบนดีๆค่ะ”นมแย้มเรียกภูดินพร้อมกับเขย่าแขนชายหนุ่มให้ตื่น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพียงดาวลงมาข้างล่างพอดี“หนูดาวมาพอดีเลย ช่วยพาคุณภูไปอาบน้ำอาบท่าหน่อยลูก ทำไมถึงดื่มหนักขนาดนี้นะ”“คุณภูมานอนทำไมตรงนี้คะตื่นได้แล้วค่ะ”ภูดินลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบเพียงดาวยืนอยู่หน้าตน“ดาวผมบอกว่าไม่ให้ออกมาไง”“เช้าแล้วค่ะ ตอนนี้จะสายแล้วด้วย”ภูดินขยี้ตาพร้อมลุกขึ้นนั่ง“นี่ผมเผลอหลับไปหรอ”“ทีนมเรียกตั้งนานไม่ยอมตื่นนะคะ แล้วเมื่อคืนมีเรื่องอะไรกันรึป่าวคะ”นมแย้มถามทั้งสองคน“ไม่มีอะไรค่ะคุณนม นมพักผ่อนนะคะเดี๋ยวดาวพาคุณภูขึ้นไปข้างบนเองค่ะ”เพียงดาวรีบตอบ“งั้นนมฝากด้วยนะคะ เดี๋ยวจะไปสั่งเด็กๆทำอาหารแก้เมาค้างให้คุณภูซักหน่อย”“ไปค่ะคุณภู เป็นยังไงบ้างคะ”“ผมปวดหัว ช่วยพยุงหน่อยได้มั้ย”ชายหนุ่มอ้อนหญิงสาว“เดินเองค่ะ โตป่านนี้แล้วทำไมต้องให้พยุงด้วย”เธอดุเขา“ผมปวดหัวจริงๆนะไม่เชื่อจับดูสิ”ภูดินพูดพร้อมดึงมือหญิงสาวให้ไปแตะที่หน้าผากของเขา“ตัวรุมๆจริงด้วย”“ทีนี้พาขึ้นห้องได้ยัง”“ก็ได้ค่ะ”ภูดินรีบลุกพร้อม
“โห มีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย”“ใช่มั้ยล่ะชั้นบอกแกแล้ว แกอยากกินอะไรอีกสั่งเพิ่มได้เลยส่วนชั้นขอจิบค็อกเทลซักนิ๊ดก่อน”“เดี๋ยวก็เมาก่อนหรอก”“ไม่เมาแน่นอนชั้นคอแข็งจะตาย ชั้นสั่งให้แกแก้วนึงด้วยนะ ดื่มเป็นเพื่อนชั้นหน่อย นะๆๆๆๆ”“ก็ได้ๆ แก้วเดียวพอนะ”“โอเค๊”“ขอโทษนะครับขอดื่มด้วยซักแก้วได้มั้ยครับ”ชายคนหนึ่งเดินถือแก้วมาหยุดอยู่ข้างเพียงดาว“ขอโทษนะคะไม่ค่อยถนัดดื่มค่ะ”“งั้นขอแอดไลน์ได้มั้ยครับ”“ขอโทษจริงๆนะคะ ไม่สะดวกจริงๆค่ะ”เพียงดาวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ ก่อนชายคนนั้นจะเดินกลับโต๊ะไป“ชั้นบอกแล้วว่าแกสวยสะดุดตาจริงๆวันนี้”“พอเลยรีบทานจะได้รีบกลับ”ฟากฝั่งของภูดินที่เห็นเกตุการณ์ทุกอย่าง ก็นึกโมโหอยู่ในใจที่ปล่อยให้เธออกมากทานข้าวนอกบ้าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งกระดกเหล้ามองหญิงสาวด้วยแววตาเข้ม“เฮ้ยไอ้ดินเป็นไรวะนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เอาแต่ดื่มอย่างเดียว”วัชรพูดกับเพื่อนรัก“เออเก็บกดรึไงวะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นเดี๋ยวก็เมาก่อน”เอกพูดบ้างแต่ก็ไม่มีการตอบกลับจากเพื่อนของตน“ปล่อยมันๆ มันคงเหนื่อยจากงานมั๊ง หรือว่ามึงไปอกหักจากสาวที่ไหนแล้วไม่บอกเพื่อนรึป่าววะ”“อย่างมันเนี่ยนะจะ
เพียงดาวตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนๆ และปวดหัว“ไม่น่าดื่มเยอะเลยเรา”เธอบ่นให้ตัวเองก่อนจะหยิบมือถือมาดูเวลา “นี่จะแปดโมงแล้วหรอ ตายแล้ว….”เมื่อเห็นว่าสายมากแล้วเพียงดาวจึงดีดตัวลุกออกจากที่นอนทันที รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปข้างล่าง เมื่อเธอลงมาเกือบเก้าโมงเช้าก็เห็นภูดินนั่งอ่านหนังสือพร้อมจิบกาแฟอยู่ที่โซฟา“ขอโทษนะคะ ที่ลงมาช้า”“ไม่เห็นไร ก็วันนี้วันหยุดหนิ ทานข้าวเสร็จไปค่อยนอนพักต่อก็ได้”“นี่น้ำผึ้งมะนาวมาดื่มสิจะได้หายเมาค้าง”“คุณภูรู้ได้ไงคะว่าดาวจะเมาค้าง”“คออ่อนขนาดนั้น”“ขอโทษค่ะ เมื่อคืนดาวไม่ได้สร้างความวุ่นวายให้ใช่มั้ยคะ”เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน พลางคิดว่าวุ่นวายใจ️ผมนี่แหละ ก่อนจะตอบหญิงสาว”ก็ไม่นะ”“ถ้างั้นดาวก็โล่งใจค่ะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยดื่มเยอะขนาดนี้มาก่อน”“แต่ก็อย่าไปดื่มเยอะแบบนี้ที่อื่นแล้วกัน นี่ยังดีนะที่อยู่ที่บ้าน”คำพูดของชายหนุ่มทำให้เพียงดาวใจเต้นแรงเพียงแค่เขาพูดคำว่า บ้าน ทำไมถึงทำให้ใจเธอเต้นแรงและดูอบอุ่นได้ขนาดนี้“หิวรึยัง”ภูดินเอ่ยถาม“นิดหน่อยค่ะ”“พี่จันทร์ตั้งโต๊ะให้หน่อยครับ”“ค่า…คุณภู”เสียงพี่จันทร์ดังมาจากในครัว“มื้อนี้เป็นข้าวต้มก
ในที่สุดก็ถึงวันจัดงานเลี้ยง วันนี้ภูดินให้ทุกคนทำงานแค่ครึ่งวันเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ เหลือแค่เขากับเพียงดาวที่ยังทำงานกันอยู่ณ ลานจัดกิจกรรมของฟาร์มซึ่งเป็นที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ได้ถูกเนรมิตและประดับประดาด้วยไฟแสงสีอย่างสวยงาม อาหารคาวหวานรวมทั้งเครื่องดื่มมากมายถูกวางเรียงไว้บนโต๊ะ และยังมีเวทีเล็กๆสำหรับจัดกิจกรรมด้วย งานเลี้ยงวันนี้มีแค่พนักภายในภูดินฟาร์มเท่านั้นบรรยากาศจึงดูอบอุ่น เป็นกันเอง ช่วงหัวค่ำเหล่าผู้มาร่วมงานทั้งหลายเริ่มทยอยกันเข้างาน แต่ละคนต่างแต่งตัวจัดเต็มไม่มีใครน้อยหน้าใครกันเลย เริ่มมืดผู้มาร่วมงานก็มาเกือบครบขาดเพียงภูดินและเพียงดาวที่เพิ่งเสร็จจากงานช่วงเย็นจึงมาช้ากว่าเพื่อน เขาจึงให้ทุกคนทานอาหารไปก่อนเพราะกลัวทุกคนหิว˜˜ก๊อกๆๆๆ˜˜”ดาวเสร็จรึยังครับ”ภูดินที่อยู่ในชุดคาวบอยย้อนยุคเคาะประตูเรียกหญิงสาว“เสร็จแล่วค่ะ”เพียงดาวเปิดประตูออกมาพร้อมชุดเดรสกระโปรงสั้น คอวี ผ้าชีฟอง แต่งลูกไม้สีขาว มีเสื้อกั๊กสีน้ำตาลคลุมทับด้านนอก พร้อมกับรองเท้าคอมแบทสีน้ำตาล พร้อมกับผมยาวลอนรวบไปข้างหลัง ดูสวยเท่ห์ มีเสน่ห์ แอบเซ็กซี่นิดๆ ทั้งคู่เมื่อมองชุดที่ส