เมื่อทุกคนออกไปจากห้องของคู่บ่าวสาวหมดแล้วในตอนนี้ เหลือเพียงพรรธน์ยศ กรีฑา หรือแทค วัย 36 ปี ผู้บริหารบริษัทนำเข้ารถจากยุโรปรายใหญ่ของประเทศ แน่นอนในวันนี้เขาคือเจ้าบ่าว แต่เจ้าสาวนี่สิไม่ใช่คนที่เขาอยากแต่งงานด้วย หล่อนคือจอมใจ พรทิพย์ หรือจอม วัย 24 ปี ที่มาเป็นเจ้าสาวแทนเจ้าสาวตัวจริงของเขาในวันนี้
พรรธน์ยศมองไปยังเจ้าสาวในชุดลายลูกไม้สีขาวที่เคลื่อนตัวจากพื้นพรมขึ้นไปนั่งบนเตียงนุ่มแล้วเม้มปากแน่น เขาเกลียดชังหล่อนที่กล้าเอาตัวเองมายัดเยียดให้เขาในค่ำคืนนี้ ทุกคนจัดการทุกอย่างโดยไม่ถามความสมัครใจของเขาที่เป็นเจ้าบ่าวเลยว่าต้องการจอมใจมาเป็นเจ้าสาวของตนไหม ถึงแม้ว่าขวัญใจ พี่สาวของหล่อนจะหนีไป ใช่ว่าเขาจะต้องแต่งงานกับคนเป็นน้องแทน งานแต่งงานมันยกเลิกได้ เขายอมอายดีกว่าต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาชังน้ำหน้าตั้งแต่แรกเจออย่างหล่อน
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนได้แล้ววันนี้” นั่นคือประโยคแรกที่เขาเอ่ยกับเจ้าสาวป้ายแดงของตนเองในวันนี้
“พี่แทคอาบก่อนจอมก็ได้ค่ะ” เธอบอกเขาเขินๆ เมื่อต้องอยู่กันตามลำพัง
หึ!
“ฉันจะไปอาบที่คอนโด” เขาตอบกลับสั้นๆ
“แต่วันนี้...”
“เธอเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าจอม ฉันไม่ได้ต้องการเธอแต่แรกแล้วเธอก็รู้ แต่เธอยังพาตัวเองมายัดเยียดให้ฉัน ถึงขวัญจะหนีไป ฉันก็จะรอเขา” พรรธน์ยศตอบกลับโดยไม่รอให้หล่อนได้พูดจบความ
“แต่ตอนนี้จอมก็เป็นเมียแต่งของพี่แล้ว ทุกคนก็รู้แล้วว่าเป็นจอมไม่ใช่พี่ขวัญ”
เธอเองก็ตอบกลับไปทันที ทั้งๆ ที่ในใจนั้นเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อสบดวงตาสีทมิฬแข็งกระด้างเย็นชาของเขา มันไม่เหมือนตอนที่เขามองขวัญใจ พี่สาวของเธอเลยสักนิด ยามเขามองพี่สาวเธอ มันจะเต็มไปด้วยความอ่อนโยนปนเอ็นดู แต่กับเธอ เขามีแต่ความเย็นชาและชิงชังส่งมาให้
“อย่าคิดฝันว่าฉันจะสนใจเธอ เธอมันก็แค่ตัวแทนที่ไม่มีทางเป็นตัวจริงจอม วันไหนที่ขวัญกลับมา ฉันก็จะหย่ากับเธอทันที และพร้อมแต่งงานกับขวัญอีกครั้ง ฉันไม่สนใจหากชาวบ้านจะว่าฉันจะเป็นพระยาเทครัว เพราะคนที่ฉันต้องการสร้างครอบครัวด้วยคือพี่สาวเธอไม่ใช่เธอ อย่าคิดว่าฉันจะสนใจไอ้พิธีบ้าๆ ในวันนี้และทะเบียนสมรสในวันนี้ด้วย ฉันไม่แคร์!”
น้ำคำห้าวหาญเอ่ยออกมาอย่างดุดัน และยิ่งกรีดใจดวงน้อยของเจ้าสาวป้ายแดงอย่างจอมใจ เธอไม่รู้ว่าทำไมพี่สาวถึงได้หนีไปในวันนี้ เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน และที่เป็นเธอเข้าพิธีวันนี้ก็เพราะว่าคุณแม่ของพรรธน์ยศกับคุณพ่อคุณแม่ของเธอขอร้อง เธอรู้ว่าเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะชังตนเองถึงเพียงนี้
“ถึงยังไงตอนนี้จอมก็เป็นเมียแต่งพี่แทค ไม่ใช่พี่ขวัญ” เธอตอบกลับเสียงดังทั้งๆ ที่ในใจนั้นหวาดหวั่นพรั่นพรึงเกรงกลัวสายตาดุดันที่เขามองมายังตนเหลือเกินในตอนนี้
หึ!
พรรธน์ยศแค่นขำในลำคอแล้วก็ยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบกลับว่า...
“อย่าคิดฝันว่าฉันจะยกย่องเธอจอม” น้ำเสียงแข็งกร้าวดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาพร้อมกับสายตาเกลียดชังส่งไปให้คนที่นั่งเม้มปากแน่นบนเตียงนอนสีชมพู
“ตอนนี้ใครๆ ก็รับรู้ว่าจอมเป็นเมียพี่”
เฮอะ!
“แล้วยังไง ฉันต้องยกย่องเธอเหรอ อย่าคิดเอาตัวเองมาแทนที่ขวัญ เธอไม่มีทางแทนที่พี่สาวของเธอได้จอม!”
สิ้นเสียงห้าว เขาก็เดินออกจากห้องหอไปทันที ไม่สนใจว่านี่คือคืนแรกของตนในฐานะเจ้าบ่าว ไม่สนใจคำโบราณที่มีมาแต่นานว่าห้ามบ่าวสาวออกจากห้องหอในคืนแรกที่ส่งตัว แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจด้วยล่ะ เพราะเขาชังหล่อน!
ส่วนเจ้าสาวป้ายแดงได้แต่นั่งกำมือแน่น โกรธ เสียใจที่ถูกเขาทิ้งไปในคืนแรกของชีวิตคู่ มือน้อยลูบไล้ไปตามเตียงที่นั่งทับ แล้วหยิบกลีบดอกกุหลาบมากำแน่น ก่อนจะปล่อยทิ้งแล้วยกมือปาดเช็ดน้ำตาที่กำลังหลั่งริน คืนแรกของการแต่งงานมันช่างทรมานเหลือเกิน มันหนาวเหน็บอย่างบอกไม่ถูก เขาเกลียดชังเธอ เธอรู้ดี เขาไม่ชอบเธอ เธอรู้ดี เขาชอบพี่สาวเธอ เธอเองก็รู้ดีมาตลอด แต่ทำไมเล่า ในเมื่อพี่สาวของเธอไม่ต้องการเขาแล้วถึงทิ้งงานแต่งงานไปแบบไม่ไยดี ทำไมเขาถึงไม่สนใจเธอบ้าง
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอตื่นมาช่วยแม่ครัวของบ้านเตรียมของใส่บาตรทำบุญเพื่อรอสามีแต่ง แต่รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มา เธอได้ใส่บาตรคนเดียว ยอมรับว่าเสียใจเมื่อตื่นเช้ามาพ่อกับแม่ถามหาพรรธน์ยศ จะให้ตอบยังไงว่าเขาออกไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เขาไม่ได้ค้างที่บ้านด้วย ไม่ได้นอนที่ห้องหอ เขาไปค้างที่ไหนเธอยังไม่รู้ รู้แต่ว่าคอนโด แต่คอนโดไหนล่ะ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสามีป้ายแดงตัวเองเลยสักอย่าง“จอมโอเคไหมลูก” ทิพย์มณีเอ่ยถามลูกสาวหลังจากทานมื้อเช้าอิ่ม“มีตรงไหนที่จอมบอกไม่โอเคบ้างคะแม่ทิพย์ แล้วตอนนี้พ่อภูกับแม่ทิพย์ได้ข่าวของพี่ขวัญรึยังคะ” เธอตอบและถามถึงเรื่องของพี่สาวไปด้วยในท้ายประโยค“อย่าถามถึงนังลูกไม่รักดีเลยจอม พ่อไม่อยากได้ยินชื่อของพี่สาวเรา” เป็นภูธิปเอ่ยตอบ เขาเจ็บใจและโกรธลูกสาวคนโตมากที่หนีงานแต่งงานไปกับผู้ชาย ซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้วันที่ขวัญใจหนีไปว่าเธอแอบมีแฟนอยู่ก่อนที่จะรับหมั้นกับพรรธน์ยศแล้ว“ใจเย็นๆ สิคะคุณภู ยังไงตอนนี้เราก็ต้องตามหายัยขวัญให้เจอ” คนเป็นภรรยาเอ่ยพร้อมลูบต้นแขนสามีเบาๆ เพื่อให้สามีอารมณ์เย็นลง“มันอยากไปก็ไป ไม่ต้องไปตามหามัน ดูซิ...มันจะไปได้กี่น้ำกัน นังล
“ผมจำได้ครับ และจำได้ดีว่าผมต้องแต่งงานกับลูกสาวบ้านพรทิพย์” เขาตอบท่าน เพราะคำพูดในวันนั้นที่เขาพูดกับพ่อก่อนจะสิ้นลมมันยังดังก้องอยู่ในความรู้สึก“ถ้าจำได้ก็ดี เพราะพ่อเราไม่ได้บอกว่าต้องเป็นหนูขวัญคนเดียว เป็นใครก็ได้ในตระกูลพรทิพย์ และตอนนี้เป็นหนูจอมที่เข้าพิธีกับเราแทนหนูขวัญ ถ้าลูกจำคำสัญญากับพ่อได้ แม่ก็สบายใจ แล้วทำไมถึงมาคนเดียว หนูจอมล่ะ” นางวกกลับมาถามถึงลูกสะใภ้อีกครั้ง“ก็อยู่บ้านของเขา” เขาตอบสั้นๆ เมื่อไม่รู้จะพูดอะไร เพราะแม่ก็พูดถูก เขาหนีไปก็ได้ แต่เขาเลือกจะเข้าพิธีแต่งงานเอง ซึ่งตัวเขาเองก็งงจนตอนนี้ทำไมต้องยอมด้วย ทำไมต้องยอมเข้าพิธีแต่งงานด้วยทั้งๆ ที่จะหนีไปหรือยกเลิกงานแต่งงานก็ได้“หมายความว่ายังไงพ่อแทค เมื่อคืนลูกไม่ได้อยู่กับน้องเหรอ?” นางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย“ครับ เมื่อคืนผมไปนอนที่คอนโด พอตื่นก็กลับมาทานข้าวเช้ากับแม่ฐาเนี่ยแหละครับ” เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วก้มหน้าตักข้าวต้มในชามตรงหน้าทานต่อ“ลูกไม่ให้เกียรติน้องเลยนะแทคทำแบบนี้” นางตำหนิลูกชาย“การที่ผมไม่ได้นอนกับเธอคืนเข้าหอเป็นการไม่ให้เกียรติ ผมขอโทษด้วยครับ แต่ผมฝืนตัวเองอยู่กับเธอไม่ได้จริงๆ ครับแม่ฐ
พรรธน์ยศขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงร้านอาหารไทยของเธอที่เป็นทางผ่านไปทางบริษัทของตนเองก็จอดเทียบรถกับหน้าร้านเธอเพื่อให้จอมใจได้ลงจากรถ ส่วนจอมใจก็เปิดประตูรถลงเงียบๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาลงไปเหยียบพื้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงกระด้างดังขึ้น “ไม่คิดจะขอบคุณสักคำเลยรึไง?” เป็นคนที่บึ้งตึงเงียบตลอดทางนั่นเองเอ่ยขึ้น “ขอบคุณค่ะพี่แทค” เธอหันมาเอ่ยขอบคุณเขาแล้วก้าวลงไปยืนข้างรถเต็มตัว แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูรถ เขาก็ตอบกลับมาอีกด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “ถ้าฝืนก็ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ปิดประตูรถได้แล้ว เสียเวลาฉันมากแล้ว” “ค่ะ ถ้าฝืนจะไม่พูดอีกค่ะ” แล้วจอมใจก็กระแทกปิดประตูรถยนต์คันหรูของพรรธน์ยศทันที ตึบ! “น่าเบื่อ!” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วก็ออกตัวรถไปทันทีด้วยความเร็วสูง ส่วนจอมใจก็ได้แต่เม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงมองตามหลังรถยนต์ที่แล่นจากไปด้วยแรงโกรธไม่พอใจของเจ้าของรถ เธอมองออกว่าเขาไม่พอใจเธอก่อนหน้านี้ หรืออาจจะไม่พอใจมาตลอดตั้งแต่รู้จักกันเลยก็ว่าได้ ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! ยังไม่ทันได้เดินเข้าร้านอาหารก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาจนต้องล้วงกระเป๋าค้นหาโทรศั
“ค่ะพี่เป๊ก ค่ะ รอจอมที่ร้านเลยค่ะ เดี๋ยวจอมรีบกลับไปนะคะ” เธอกดวางสายทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพร้อมกับคว้าหยิบปิ่นโตที่วางตั้งไว้มาถือเพื่อจะกลับ ก็ในเมื่อสามีไม่ต้องการปิ่นโตที่นำมาให้จะเอาไว้ทำไมล่ะ ก็เอากลับไปกินเองสิ “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะกินข้าวที่เธอเตรียมมา” พรรธน์ยศเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้จอมใจไม่ได้สนใจตัวเองแล้วและกำลังจะเดินกลับไป “คะ?” เธอเอี้ยวหน้าหันมากลอกตาไปมาอย่างสงสัยในประโยคของสามี “ฉันหิว” เขาตอบสั้นห้วน “แล้วยังไงคะ จะกินกับข้าวที่จอมเอามาเหรอคะ?” เธอถามกวนกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นหน้านิ่งปกติ “ก็เอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ เอามาแล้วก็เอาเข้าไปจัดใส่จานสิ ฉันจะได้กิน” เขาบอกสั่งเธอ “ไหนบอกว่าไม่กินของที่จอมนำมาให้คะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากกินล่ะคะ” “ถ้าจะให้กินก็ไปจัดใส่จานมา พูดมาก น่ารำคาญ!”เมื่อพูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้ ส่วนจอมใจก็ได้แต่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินถือปิ่นโตไปยังห้องครัวที่เมื่อกี้เธอเดินผ่านมาทันที เพื่อจัดกับข้าวในปิ่นโตที่นำมาใส่จานน
ฮึก! ฮือๆยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำกับคำพูดของเขา คำพูดของพรรธน์ยศเปรียบเหมือนเข็มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงตำในอกของเธอและมันก็เหมือนมีดเล่มเล็กๆ ที่กรีดเฉือนใจเธอด้วยในตอนนี้ ทำไมกัน ทำไมเขาถึงมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอไม่เคยคิดและนึกอิจฉาขวัญใจเลยสักครั้งที่ถูกเขาเลือก แต่เธอน้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่าที่ไม่เป็นคนที่ถูกเขาเลือก“ใช่ จอมมันไม่สวย จอมมันไม่น่าดึงดูดแบบพี่ขวัญ แต่ยังไงตอนนี้พี่แทคก็เป็นของจอม เป็นสามีจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญ” เธอปาดเช็ดน้ำตากลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมโต้ตอบกลับเสียงดังโดยไม่นึกกลัวสายตาสีทมิฬที่เพ่งมองมาทางตน“น่าสมเพช! หึ!” พรรธน์ยศยิ้มเยาะเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดต่อ “เก็บโต๊ะแล้วรีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอจอม ไปให้พ้นหน้าฉัน ผู้หญิงความคิดต่ำอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง”“ถึงวันนี้จอมจะไป ยังไงเราก็ต้องเจอกัน เพราะเราคือสามีภรรยากัน จำไว้ว่าพี่แทคเป็นของจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญแล้วตอนนี้ พี่แทคเป็นของจอม” เธอฝืนความเจ็บปวดในอกตะโกนตอกกลับพร้อมกับคว้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานใหญ่ไปทันที โดยไม่สนใจจะเก็บโต๊ะตามที่เขาสั่งปึก!พรร
‘อืม! อร่อยเป็นบ้า ไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือยัยนี่ และเหมือนกับรสชาติเมื่อตอนกลางวันเลยด้วย หรือว่าเธอทำกับข้าวเมื่อตอนกลางวันด้วยวะ!’ เขาได้แต่พูดถามตัวเองในใจเมื่อลิ้นได้รับรสอาหารฝีมือภรรยาแต่งตัวเอง คือรสชาติถูกปากเขามาก แต่พอมองไปทางคุณแม่ที่รักที่มองมาทางตนก็แสร้งวางช้อนในมือทำเหมือนไม่พอใจกับรสชาติอาหาร“รสชาติก็งั้นๆ ไม่เห็นอร่อยเลย แทบกระเดือกไม่ลง” เขาพูดจบก็คว้าหยิบแก้วน้ำใกล้มือมาดื่มไปจนหมดแก้วแล้วเด็กรับใช้ที่ยืนรอรับใช้ก็เดินมารินน้ำใส่ไว้ให้เต็มแก้วเหมือนเดิม“เหรอ งั้นแม่กินมั่ง หนูจอมก็ทานด้วยนะลูก คืนนี้กับพี่เขาค้างที่บ้านเรานะ แม่ให้เด็กจัดห้องไว้ให้แล้ว ส่วนเราห้ามไปนอนคอนโดด้วยวันนี้ ถ้าไปแม่โกรธจริงด้วย” นางพูดจบก็ตักหมูผัดกะปิมาทานเป็นเมนูแรก“อืม...อร่อยจะตาย ใครบอกงั้นๆ กระเดือกไม่ลงก็ไม่ต้องกิน แม่กินเองคนเดียวก็ได้” เมื่อได้ลิ้มรสชาติฝีมือลูกสะใภ้ก็เอ่ยชมทันที“งั้นผมจะกินข้าวไข่เจียว ไปเจียวไข่ให้ฉันหน่อย ฉันจะกินข้าวกับไข่เจียว และนอนที่บ้าน ผมนอนได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะเนี่ยบ้านผม ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย” คนใจแข็งเอ่ย ส่วนเด็กรับใช้ก็รีบไปทำไข่เจียวมาให้เ
ในห้องนอนของเขา ห้องนอนส่วนตัวที่เขาเคยอยู่คนเดียวก่อนที่จะแต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านเธอ คืนนี้ต้องนอนค้างที่นี่สองต่อสอง จอมใจมองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดแนบสนิทและมีเขาอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ส่วนเธอยังอยู่ในชุดเดิมยังไม่ได้อาบน้ำ เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา และไม่คิดว่าจะได้นอนค้างที่บ้านของสามี ห้องนอนสีอึมครึมไม่ได้สดใสเหมือนห้องนอนผู้หญิง ห้องนอนใหญ่ตกแต่งด้วยโทนสีดำและสีเทา เธอมองไปรอบๆ ห้องแล้วก็นั่งตัวเกร็งเมื่อเสียงน้ำในห้องน้ำหยุดไหลพร้อมกับประตูห้องน้ำที่เปิดกว้างออกพร้อมกับคนที่อยู่ข้างในเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กคล้องคออยู่ และเขาใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางตัวเดียวติดตัวออกมา “ทะ...ทำไมพี่แทคไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยคะ” เธอถามเขาเสียงสั่นพร้อมกับมองไปทางอื่น “เวลานอนใครเขาใส่เสื้อผ้ากันหลายตัวกัน เธอก็ไปอาบน้ำได้แล้ว” เขาตอบพร้อมเดินสะบัดผมที่เปียกไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมที่ตั้งวางบนโต๊ะเครื่องแป
“ค่ะ ตอนนี้จอมก็เป็นเมียพี่แทคที่มีทะเบียนสมรสยืนยันสถานะ” เธอตอบเขาเต็มเสียงพร้อมกับหันหน้าไปทางเดิมเมื่อตอบเขาจบ แต่แล้วก็ตกใจเมื่อพรรธน์ยศจับหัวไหล่บังคับให้พลิกตัวหันมาทางเขาว้าย!“พี่แทคจะทำอะไรคะ?” เธอถามด้วยความตกใจ เมื่อเขาจับพลิกตัวให้หันมาทางเขาไม่พอ เขายังเคลื่อนตัวรวดเร็วมาคร่อมทับ ตอนนี้เธอนอนหงายอยู่ใต้ร่างใหญ่ โดยมีเขาคร่อมทับ มันอันตราย ตอนนี้จอมใจรู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย หล่อนดีดดิ้นบิดตัวหนีจากใต้ร่างสามีทันที“ก็เธอเป็นเมียฉันนี่ ทำไมฉันจะคร่อมขี่เธอไม่ได้ล่ะ”เขาตอบกลับเสียงทุ้มพร่าด้วยสายตากรุ้มกริ่มแกมเจ้าชู้ เล่นเอาใจสาวใต้ร่างสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ เธอหยุดดิ้นจ้องสบตากรุ้มกริ่มของคนตัวโตที่คร่อมทับตัวเองในตอนนี้ก็รู้สึกเขินอายจนหน้าเห่อแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และสองแก้มแดงปลั่งนั้นก็ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาของพรรธน์ยศจนเขาต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก‘น่ารักเป็นบ้า ทำไมวันนี้เธอทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ แถมน่ารักแบบนี้จอม เราเพิ่ง