“ไม่หย่า! กลับมาอยู่ด้วยกันนะ ให้โอกาสพี่นะ ที่ผ่านมาพี่มันไม่ดีจริงๆ ปากไม่ดีและนิสัยก็ไม่ดี ให้พี่ได้แก้ตัวกับสิ่งที่ผ่านมานะ พี่จะเป็นสามีที่ดีของจอม กลับมาอยู่กับพี่นะคนดีของพี่” เขายื่นมือคว้ามือเล็กมากุมไว้แน่นด้วยกลัวเธอจะวิ่งหนี
“โอกาสเหรอคะ? จอมถามหน่อยเถอะ พี่แทคจะให้จอมกลับไปทำไม ในเมื่อในใจพี่แทคไม่เคยมีจอม พี่แทคไม่เคยมีผู้หญิงคนนี้ แล้วจะรั้งจอมไว้ทำไมคะ?” หัวใจดวงน้อยเจ็บทุกครั้งเมื่อต้องย้ำกับตัวเองว่าเขาไม่เคยรักตน
“ใครบอกว่าพี่ไม่เคยมีจอม ถ้าไม่มีจอม พี่จะทำแบบนี้เหรอ พี่ไม่เคยคุกเข่าให้ใครเลยนะนอกจากจอมคนเดียวที่คู่ควรกับการคุกเข่าของพี่ กลับมาอยู่ด้วยกันนะทูนหัว ดูพี่สิ ตอนนี้สภาพพี่แย่มาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเมีย กลับบ้านเรานะทูนหัว” พรรธน์ยศอ้อนทันทีพร้อมกับดึงมือเล็กมาลูบไล้แก้มสากที่ซูบตอบลงของตัวเอง
เมื่อเขาพูดนั่นแหละ จอมใจถึงได้มองหน้าหล่อๆ ของสามี เพิ่งสังเกตว่ามันซูบลงไปเยอะจริงๆ ดวงตาก็คล้ำโบ๋เหมือนคนไม่ได้หลับได้นอน
“แล้วทำไมจอมต้องสนใจพี่แทคด้วยคะ ก็ในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้
ร่างเล็กที่เคยผอมบางเพรียวระหงตอนนี้อวบอิ่มและกำลังเดินอุ้ยอ้ายถือตะกร้าผักเข้ามาในบ้าน ตั้งแต่ง้อกันสำเร็จ เขาก็ได้รับของขวัญในเย็นนั้นคือจอมใจกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา เขากำลังจะเป็นพ่อคน และทั้งคู่ก็พากันย้ายมาอยู่บ้านสามี เพราะพรรธน์ยศเป็นห่วงแม่ที่เริ่มอายุเยอะแล้วอยู่คนเดียว และจอมใจก็เห็นด้วย เพราะที่บ้านขวัญใจพี่สาวก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว ตอนนี้จึงสบายใจที่พี่สาวอยู่ดูแลพ่อกับแม่แทนตัวเอง “ไปเก็บผักสวนครัวหลังบ้านเหรอจ๊ะทูนหัว” เขาที่เพิ่งกลับมาจากทำงานก็รีบถามสาวใช้ทันทีว่าภรรยาตัวเองอยู่ไหน พอรู้ก็รีบมาหาและเห็นร่างอุ้ยอ้ายของหญิงท้องแก่อีกสองเดือนก็จะคลอดเจ้าตัวเล็กเดินถือตะกร้าผักบุ้ง ผักคะน้าเข้ามาในบ้านพอดี “ค่ะ พี่แทค เพิ่งมาถึงเหรอคะ?” “ครับ เหนียวตัวจังเลย เก็บผักมาเหงื่อคงเยอะแน่เลย ไปอาบน้ำกันเถอะ” เขาเดินมาโอบประคองภรรยาที่ถือตะกร้าผักในมือแล้วยื้อแย่งจากมือส่งให้สาวใช้ที่เดินตามหลังภรร
เมื่อทุกคนออกไปจากห้องของคู่บ่าวสาวหมดแล้วในตอนนี้ เหลือเพียงพรรธน์ยศ กรีฑา หรือแทค วัย 36 ปี ผู้บริหารบริษัทนำเข้ารถจากยุโรปรายใหญ่ของประเทศ แน่นอนในวันนี้เขาคือเจ้าบ่าว แต่เจ้าสาวนี่สิไม่ใช่คนที่เขาอยากแต่งงานด้วย หล่อนคือจอมใจ พรทิพย์ หรือจอม วัย 24 ปี ที่มาเป็นเจ้าสาวแทนเจ้าสาวตัวจริงของเขาในวันนี้ พรรธน์ยศมองไปยังเจ้าสาวในชุดลายลูกไม้สีขาวที่เคลื่อนตัวจากพื้นพรมขึ้นไปนั่งบนเตียงนุ่มแล้วเม้มปากแน่น เขาเกลียดชังหล่อนที่กล้าเอาตัวเองมายัดเยียดให้เขาในค่ำคืนนี้ ทุกคนจัดการทุกอย่างโดยไม่ถามความสมัครใจของเขาที่เป็นเจ้าบ่าวเลยว่าต้องการจอมใจมาเป็นเจ้าสาวของตนไหม ถึงแม้ว่าขวัญใจ พี่สาวของหล่อนจะหนีไป ใช่ว่าเขาจะต้องแต่งงานกับคนเป็นน้องแทน งานแต่งงานมันยกเลิกได้ เขายอมอายดีกว่าต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาชังน้ำหน้าตั้งแต่แรกเจออย่างหล่อน “ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนได้แล้ววันนี้” นั่นคือประโยคแรกที่เขาเอ่ยกับเจ้าสาวป้ายแดงของตนเองในวันนี้ “พี่แทคอาบก่อนจอมก็ได้ค่ะ” เธอบอกเขาเขินๆ เมื่อต้องอยู่กันตามลำพัง หึ! “ฉันจะไปอาบที่คอนโด” เขาตอบกลับสั้นๆ “แต่วันนี
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอตื่นมาช่วยแม่ครัวของบ้านเตรียมของใส่บาตรทำบุญเพื่อรอสามีแต่ง แต่รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มา เธอได้ใส่บาตรคนเดียว ยอมรับว่าเสียใจเมื่อตื่นเช้ามาพ่อกับแม่ถามหาพรรธน์ยศ จะให้ตอบยังไงว่าเขาออกไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เขาไม่ได้ค้างที่บ้านด้วย ไม่ได้นอนที่ห้องหอ เขาไปค้างที่ไหนเธอยังไม่รู้ รู้แต่ว่าคอนโด แต่คอนโดไหนล่ะ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสามีป้ายแดงตัวเองเลยสักอย่าง“จอมโอเคไหมลูก” ทิพย์มณีเอ่ยถามลูกสาวหลังจากทานมื้อเช้าอิ่ม“มีตรงไหนที่จอมบอกไม่โอเคบ้างคะแม่ทิพย์ แล้วตอนนี้พ่อภูกับแม่ทิพย์ได้ข่าวของพี่ขวัญรึยังคะ” เธอตอบและถามถึงเรื่องของพี่สาวไปด้วยในท้ายประโยค“อย่าถามถึงนังลูกไม่รักดีเลยจอม พ่อไม่อยากได้ยินชื่อของพี่สาวเรา” เป็นภูธิปเอ่ยตอบ เขาเจ็บใจและโกรธลูกสาวคนโตมากที่หนีงานแต่งงานไปกับผู้ชาย ซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้วันที่ขวัญใจหนีไปว่าเธอแอบมีแฟนอยู่ก่อนที่จะรับหมั้นกับพรรธน์ยศแล้ว“ใจเย็นๆ สิคะคุณภู ยังไงตอนนี้เราก็ต้องตามหายัยขวัญให้เจอ” คนเป็นภรรยาเอ่ยพร้อมลูบต้นแขนสามีเบาๆ เพื่อให้สามีอารมณ์เย็นลง“มันอยากไปก็ไป ไม่ต้องไปตามหามัน ดูซิ...มันจะไปได้กี่น้ำกัน นังล
“ผมจำได้ครับ และจำได้ดีว่าผมต้องแต่งงานกับลูกสาวบ้านพรทิพย์” เขาตอบท่าน เพราะคำพูดในวันนั้นที่เขาพูดกับพ่อก่อนจะสิ้นลมมันยังดังก้องอยู่ในความรู้สึก“ถ้าจำได้ก็ดี เพราะพ่อเราไม่ได้บอกว่าต้องเป็นหนูขวัญคนเดียว เป็นใครก็ได้ในตระกูลพรทิพย์ และตอนนี้เป็นหนูจอมที่เข้าพิธีกับเราแทนหนูขวัญ ถ้าลูกจำคำสัญญากับพ่อได้ แม่ก็สบายใจ แล้วทำไมถึงมาคนเดียว หนูจอมล่ะ” นางวกกลับมาถามถึงลูกสะใภ้อีกครั้ง“ก็อยู่บ้านของเขา” เขาตอบสั้นๆ เมื่อไม่รู้จะพูดอะไร เพราะแม่ก็พูดถูก เขาหนีไปก็ได้ แต่เขาเลือกจะเข้าพิธีแต่งงานเอง ซึ่งตัวเขาเองก็งงจนตอนนี้ทำไมต้องยอมด้วย ทำไมต้องยอมเข้าพิธีแต่งงานด้วยทั้งๆ ที่จะหนีไปหรือยกเลิกงานแต่งงานก็ได้“หมายความว่ายังไงพ่อแทค เมื่อคืนลูกไม่ได้อยู่กับน้องเหรอ?” นางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย“ครับ เมื่อคืนผมไปนอนที่คอนโด พอตื่นก็กลับมาทานข้าวเช้ากับแม่ฐาเนี่ยแหละครับ” เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วก้มหน้าตักข้าวต้มในชามตรงหน้าทานต่อ“ลูกไม่ให้เกียรติน้องเลยนะแทคทำแบบนี้” นางตำหนิลูกชาย“การที่ผมไม่ได้นอนกับเธอคืนเข้าหอเป็นการไม่ให้เกียรติ ผมขอโทษด้วยครับ แต่ผมฝืนตัวเองอยู่กับเธอไม่ได้จริงๆ ครับแม่ฐ
พรรธน์ยศขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงร้านอาหารไทยของเธอที่เป็นทางผ่านไปทางบริษัทของตนเองก็จอดเทียบรถกับหน้าร้านเธอเพื่อให้จอมใจได้ลงจากรถ ส่วนจอมใจก็เปิดประตูรถลงเงียบๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาลงไปเหยียบพื้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงกระด้างดังขึ้น “ไม่คิดจะขอบคุณสักคำเลยรึไง?” เป็นคนที่บึ้งตึงเงียบตลอดทางนั่นเองเอ่ยขึ้น “ขอบคุณค่ะพี่แทค” เธอหันมาเอ่ยขอบคุณเขาแล้วก้าวลงไปยืนข้างรถเต็มตัว แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูรถ เขาก็ตอบกลับมาอีกด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “ถ้าฝืนก็ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ปิดประตูรถได้แล้ว เสียเวลาฉันมากแล้ว” “ค่ะ ถ้าฝืนจะไม่พูดอีกค่ะ” แล้วจอมใจก็กระแทกปิดประตูรถยนต์คันหรูของพรรธน์ยศทันที ตึบ! “น่าเบื่อ!” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วก็ออกตัวรถไปทันทีด้วยความเร็วสูง ส่วนจอมใจก็ได้แต่เม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงมองตามหลังรถยนต์ที่แล่นจากไปด้วยแรงโกรธไม่พอใจของเจ้าของรถ เธอมองออกว่าเขาไม่พอใจเธอก่อนหน้านี้ หรืออาจจะไม่พอใจมาตลอดตั้งแต่รู้จักกันเลยก็ว่าได้ ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! ยังไม่ทันได้เดินเข้าร้านอาหารก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาจนต้องล้วงกระเป๋าค้นหาโทรศั
“ค่ะพี่เป๊ก ค่ะ รอจอมที่ร้านเลยค่ะ เดี๋ยวจอมรีบกลับไปนะคะ” เธอกดวางสายทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพร้อมกับคว้าหยิบปิ่นโตที่วางตั้งไว้มาถือเพื่อจะกลับ ก็ในเมื่อสามีไม่ต้องการปิ่นโตที่นำมาให้จะเอาไว้ทำไมล่ะ ก็เอากลับไปกินเองสิ “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะกินข้าวที่เธอเตรียมมา” พรรธน์ยศเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้จอมใจไม่ได้สนใจตัวเองแล้วและกำลังจะเดินกลับไป “คะ?” เธอเอี้ยวหน้าหันมากลอกตาไปมาอย่างสงสัยในประโยคของสามี “ฉันหิว” เขาตอบสั้นห้วน “แล้วยังไงคะ จะกินกับข้าวที่จอมเอามาเหรอคะ?” เธอถามกวนกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นหน้านิ่งปกติ “ก็เอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ เอามาแล้วก็เอาเข้าไปจัดใส่จานสิ ฉันจะได้กิน” เขาบอกสั่งเธอ “ไหนบอกว่าไม่กินของที่จอมนำมาให้คะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากกินล่ะคะ” “ถ้าจะให้กินก็ไปจัดใส่จานมา พูดมาก น่ารำคาญ!”เมื่อพูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้ ส่วนจอมใจก็ได้แต่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินถือปิ่นโตไปยังห้องครัวที่เมื่อกี้เธอเดินผ่านมาทันที เพื่อจัดกับข้าวในปิ่นโตที่นำมาใส่จานน
ฮึก! ฮือๆยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำกับคำพูดของเขา คำพูดของพรรธน์ยศเปรียบเหมือนเข็มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงตำในอกของเธอและมันก็เหมือนมีดเล่มเล็กๆ ที่กรีดเฉือนใจเธอด้วยในตอนนี้ ทำไมกัน ทำไมเขาถึงมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอไม่เคยคิดและนึกอิจฉาขวัญใจเลยสักครั้งที่ถูกเขาเลือก แต่เธอน้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่าที่ไม่เป็นคนที่ถูกเขาเลือก“ใช่ จอมมันไม่สวย จอมมันไม่น่าดึงดูดแบบพี่ขวัญ แต่ยังไงตอนนี้พี่แทคก็เป็นของจอม เป็นสามีจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญ” เธอปาดเช็ดน้ำตากลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมโต้ตอบกลับเสียงดังโดยไม่นึกกลัวสายตาสีทมิฬที่เพ่งมองมาทางตน“น่าสมเพช! หึ!” พรรธน์ยศยิ้มเยาะเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดต่อ “เก็บโต๊ะแล้วรีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอจอม ไปให้พ้นหน้าฉัน ผู้หญิงความคิดต่ำอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง”“ถึงวันนี้จอมจะไป ยังไงเราก็ต้องเจอกัน เพราะเราคือสามีภรรยากัน จำไว้ว่าพี่แทคเป็นของจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญแล้วตอนนี้ พี่แทคเป็นของจอม” เธอฝืนความเจ็บปวดในอกตะโกนตอกกลับพร้อมกับคว้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานใหญ่ไปทันที โดยไม่สนใจจะเก็บโต๊ะตามที่เขาสั่งปึก!พรร
‘อืม! อร่อยเป็นบ้า ไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือยัยนี่ และเหมือนกับรสชาติเมื่อตอนกลางวันเลยด้วย หรือว่าเธอทำกับข้าวเมื่อตอนกลางวันด้วยวะ!’ เขาได้แต่พูดถามตัวเองในใจเมื่อลิ้นได้รับรสอาหารฝีมือภรรยาแต่งตัวเอง คือรสชาติถูกปากเขามาก แต่พอมองไปทางคุณแม่ที่รักที่มองมาทางตนก็แสร้งวางช้อนในมือทำเหมือนไม่พอใจกับรสชาติอาหาร“รสชาติก็งั้นๆ ไม่เห็นอร่อยเลย แทบกระเดือกไม่ลง” เขาพูดจบก็คว้าหยิบแก้วน้ำใกล้มือมาดื่มไปจนหมดแก้วแล้วเด็กรับใช้ที่ยืนรอรับใช้ก็เดินมารินน้ำใส่ไว้ให้เต็มแก้วเหมือนเดิม“เหรอ งั้นแม่กินมั่ง หนูจอมก็ทานด้วยนะลูก คืนนี้กับพี่เขาค้างที่บ้านเรานะ แม่ให้เด็กจัดห้องไว้ให้แล้ว ส่วนเราห้ามไปนอนคอนโดด้วยวันนี้ ถ้าไปแม่โกรธจริงด้วย” นางพูดจบก็ตักหมูผัดกะปิมาทานเป็นเมนูแรก“อืม...อร่อยจะตาย ใครบอกงั้นๆ กระเดือกไม่ลงก็ไม่ต้องกิน แม่กินเองคนเดียวก็ได้” เมื่อได้ลิ้มรสชาติฝีมือลูกสะใภ้ก็เอ่ยชมทันที“งั้นผมจะกินข้าวไข่เจียว ไปเจียวไข่ให้ฉันหน่อย ฉันจะกินข้าวกับไข่เจียว และนอนที่บ้าน ผมนอนได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะเนี่ยบ้านผม ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย” คนใจแข็งเอ่ย ส่วนเด็กรับใช้ก็รีบไปทำไข่เจียวมาให้เ
ร่างเล็กที่เคยผอมบางเพรียวระหงตอนนี้อวบอิ่มและกำลังเดินอุ้ยอ้ายถือตะกร้าผักเข้ามาในบ้าน ตั้งแต่ง้อกันสำเร็จ เขาก็ได้รับของขวัญในเย็นนั้นคือจอมใจกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา เขากำลังจะเป็นพ่อคน และทั้งคู่ก็พากันย้ายมาอยู่บ้านสามี เพราะพรรธน์ยศเป็นห่วงแม่ที่เริ่มอายุเยอะแล้วอยู่คนเดียว และจอมใจก็เห็นด้วย เพราะที่บ้านขวัญใจพี่สาวก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว ตอนนี้จึงสบายใจที่พี่สาวอยู่ดูแลพ่อกับแม่แทนตัวเอง “ไปเก็บผักสวนครัวหลังบ้านเหรอจ๊ะทูนหัว” เขาที่เพิ่งกลับมาจากทำงานก็รีบถามสาวใช้ทันทีว่าภรรยาตัวเองอยู่ไหน พอรู้ก็รีบมาหาและเห็นร่างอุ้ยอ้ายของหญิงท้องแก่อีกสองเดือนก็จะคลอดเจ้าตัวเล็กเดินถือตะกร้าผักบุ้ง ผักคะน้าเข้ามาในบ้านพอดี “ค่ะ พี่แทค เพิ่งมาถึงเหรอคะ?” “ครับ เหนียวตัวจังเลย เก็บผักมาเหงื่อคงเยอะแน่เลย ไปอาบน้ำกันเถอะ” เขาเดินมาโอบประคองภรรยาที่ถือตะกร้าผักในมือแล้วยื้อแย่งจากมือส่งให้สาวใช้ที่เดินตามหลังภรร
“ไม่หย่า! กลับมาอยู่ด้วยกันนะ ให้โอกาสพี่นะ ที่ผ่านมาพี่มันไม่ดีจริงๆ ปากไม่ดีและนิสัยก็ไม่ดี ให้พี่ได้แก้ตัวกับสิ่งที่ผ่านมานะ พี่จะเป็นสามีที่ดีของจอม กลับมาอยู่กับพี่นะคนดีของพี่” เขายื่นมือคว้ามือเล็กมากุมไว้แน่นด้วยกลัวเธอจะวิ่งหนี“โอกาสเหรอคะ? จอมถามหน่อยเถอะ พี่แทคจะให้จอมกลับไปทำไม ในเมื่อในใจพี่แทคไม่เคยมีจอม พี่แทคไม่เคยมีผู้หญิงคนนี้ แล้วจะรั้งจอมไว้ทำไมคะ?” หัวใจดวงน้อยเจ็บทุกครั้งเมื่อต้องย้ำกับตัวเองว่าเขาไม่เคยรักตน“ใครบอกว่าพี่ไม่เคยมีจอม ถ้าไม่มีจอม พี่จะทำแบบนี้เหรอ พี่ไม่เคยคุกเข่าให้ใครเลยนะนอกจากจอมคนเดียวที่คู่ควรกับการคุกเข่าของพี่ กลับมาอยู่ด้วยกันนะทูนหัว ดูพี่สิ ตอนนี้สภาพพี่แย่มาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับเพราะคิดถึงเมีย กลับบ้านเรานะทูนหัว” พรรธน์ยศอ้อนทันทีพร้อมกับดึงมือเล็กมาลูบไล้แก้มสากที่ซูบตอบลงของตัวเองเมื่อเขาพูดนั่นแหละ จอมใจถึงได้มองหน้าหล่อๆ ของสามี เพิ่งสังเกตว่ามันซูบลงไปเยอะจริงๆ ดวงตาก็คล้ำโบ๋เหมือนคนไม่ได้หลับได้นอน“แล้วทำไมจอมต้องสนใจพี่แทคด้วยคะ ก็ในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้
“กลับมาอยู่บ้านเรานะลูก” ทิพย์มณีเอ่ยพร้อมกับลูบแผ่นหลังเล็กของลูกสาว ส่วนภูธิปก็ทำเช่นเดียวกันกับภรรยา ตอนนี้พ่อแม่ลูกกอดกันกลม“กลับมาอยู่บ้านเรานะจอม พี่ขอโทษนะที่เห็นแก่ตัว ตอนนี้พี่คิดได้แล้ว” ขวัญใจเดินมาโอบกอดทั้งสามอีก เป็นภาพที่ดูแล้วอิ่มใจมากสำหรับคนที่เดินผ่านไปมา ส่วนรเณศและหนึ่งฤทัยก็ได้แต่หันมาส่งยิ้มให้กันแล้วพากันเดินถอยไปอยู่เงียบๆ ในมุมของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนเคลียร์ใจกัน“จอม...พี่ขอโทษนะ ที่ก่อนหน้านี้พี่เห็นแก่ตัว พี่ขอโทษจริงๆ พี่รักจอมนะน้องพี่ ให้อภัยพี่นะจอม” เมื่อทั้งสี่คนผละออกจากกัน ขวัญใจก็จับมือเล็กของน้องสาวมากุมแน่นเพื่อขอให้น้องยกโทษให้กับความผิดของตัวเองที่ผ่านมา“ตอนนี้พี่เขารู้แล้วว่าพี่เขาควรอยู่ตรงไหน” ทิพย์มณีเอ่ยเสริม“ใช่ลูก กลับมาอยู่ด้วยกันนะ กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวเราเหมือนเดิม ตอนนี้พี่เขาสำนึกผิดแล้วและพ่อก็ให้อภัยพี่เขาแล้ว อย่าแบกความทุกข์ไว้คนเดียวเลยนะลูก และอย่าหนีไปแบบนี้อีกรู้ไหมพ่อกับแม่เป็นห่วงมากแค่ไหน โดยเฉพาะพ่อแทคเขาเป็นห่วงเรามากนะจอม&rdq
หนึ่งฤทัยพาจอมใจมากรุงเทพฯ มาถึงตั้งแต่เช้ามาแวะที่คอนโดของเพื่อนรักก่อน เพื่อรอเวลานัดกับพรรธน์ยศที่หน้าสำนักงานเขตเพื่อไปจดทะเบียนหย่ากับสามี จริงๆ รู้ว่าเพื่อนไม่ไหว แต่ทำยังไงได้เมื่อเพื่อนอยากมาหย่าให้ขาดจากสามี แม้จะรักแต่ยอมเจ็บปวดดีกว่าปล่อยไว้นาน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “เราไปเปิดประตูก่อนนะ สงสัยพี่เป๊กมาแล้วน่ะ” หนึ่งฤทัยบอกเพื่อนรักแล้วเดินไปเปิดประตูห้องทันที แล้วก็จริงเป็นรเณศจริงๆ ถึงเดินกลับมาพร้อมกับผู้มาใหม่และปิดประตูไว้เหมือนเดิม “เป็นยังไงมั่งจอม โอเคไหม พร้อมไหม” รเณศถามหญิงสาวพร้อมนั่งลงโซฟาตัวที่ว่างตรงข้ามเธอ ส่วนหนึ่งฤทัยก็เดินไปนั่งลงที่เดิมข้างเพื่อนรัก “แล้วจอมไม่โอเคได้ไหมล่ะพี่เป๊ก ไม่โอเคก็ต้องโอเคแหละ ไปกันเถอะค่ะ จอมไหว ตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลานัดแล้ว” เธอบอกชายหนุ่ม&n
เลขาแจ้งว่ามีคนมาขอพบอยู่ข้างล่าง เขาจึงถามว่าใคร พอรู้ว่าเป็นรเณศก็รีบให้ขึ้นมาหาตัวเองที่ห้องทำงานทันที ทันทีที่รเณศมาถึง พรรธน์ยศก็ถามทันทีว่าอีกฝ่ายมาทำไม และก็เห็นว่าในมือของอีกฝ่ายมีซองเอกสารสีน้ำตาลมาด้วย รเณศไม่ตอบ แต่กลับเดินมาดึงลากเก้าอี้นั่งโดยไม่สนใจว่าเจ้าของห้องทำงานจะเชิญชวนหรือไม่ “อะไร?” พรรธน์ยศถามเสียงห้วนเมื่อเห็นซองเอกสารในมืออีกฝ่ายที่โยนมาทิ้งตรงหน้าตัวเอง “เปิดดูสิ” รเณศตอบสั้นๆ พร้อมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ยกขาไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆ พรรธน์ยศรีบหยิบซองเอกสารเปิดออกมาดูทันทีว่ามันคือซองอะไร พอไล่สายตาอ่านก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความโกรธ สันกรามปูดโปนขึ้นทันที มือใหญ่ก็กำเอกสารในมือแน่น “ใบหย่างั้นเหรอ?” “เซ็นซะ จะได้เสร็จธุระของฉัน” รเณศเอ่ยสั่งอีกฝ่าย&nb
ส่วนภูธิปได้แต่นั่งนิ่งเม้มปากแน่นพร้อมกำมือแน่นกับหน้าตักของตัวเองมองดูลูกสาวคนโตที่กำลังร้องไห้ซบหน้ากับขาของตนที่กอดไว้ อยากจะลูบหัวปลอบ แต่ก็ยั้งมือไว้แล้วเอ่ย “พี่ภูคะ ยังไงเสียตอนนี้ขวัญก็สำนึกผิดแล้วนะคะ อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย ยังไงเสียยัยขวัญก็ลูกเราสองคนนะคะ” ทิพย์มณีลูบแขนสามีให้คลายความโกรธ ความเสียใจพร้อมกับอีกมือกุมมือสามีที่กำแน่นให้คลายออก “ให้อภัยลูกเราเถอะนะคะ ยังไงซะ ตอนนี้ยัยขวัญก็สำนึกและขอโทษเราแล้ว ตอนนี้ยัยขวัญก็กำลังมีหลานให้เราด้วย นึกสงสารหลานที่จะเกิดมาเถอะนะคะพี่ภู” นางบอกสามีพร้อมกับปล่อยมือจากมือของสามีมาลูบอกที่เต้นแรงของภูธิป “พี่...” “นะคะพี่ภู ให้อภัยยัยขวัญนะคะ ตอนนี้ยัยขวัญก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองควรอยู่ตรงไหน” นางเอ่ยแทรกไม่รอสามีเอ่ยจบความ ภูธิปมองลูกสาวที่กอดขาตัวเองซบหน้าร้องไห้ในตอน
รเณศไม่แปลกใจที่อยู่ๆ สามีของจอมใจมาหาตัวเอง เขายิ้มต้อนรับชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาในร้าน พร้อมกับเอ่ยทักทายตามประสาพ่อค้าร้านทอง “มาซื้อทองให้น้องจอมเหรอครับคุณแทค” เขาถามเชิงประชด “ซื้อกับผีน่ะสิ มึงเอาเมียกูไปไว้ไหน” เขาตอกกลับเสียงกระด้างเดือดดาลทันที “ไม่ต้องครับคุณตำรวจ ผมกับเขารู้จักกัน” รเณศยกมือห้ามตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลร้านทองประจำของตัวเองที่กำลังเดินมาหมายจะล็อกตัวพรรธน์ยศไว้ เขาก็รีบบอกห้ามทันทีแล้วเดินออกมาหาคนพาล “จะมาหาเรื่องก็ดูสถานที่ด้วยครับ และคุณแทคเห็นน้องจอมอยู่ในร้านผมไหม? ก็ไม่นี่ ไม่มีน้องจอม แล้วผมจะรู้เหรอว่าเมียคุณอยู่ไหน นั่นเมียคุณนี่” เขาตอบกลับกวนๆ พลางชี้มือไปรอบๆ ร้านให้เขาดูว่าในนี้ไม่มีคนที่เขาตามหา “อย่ามาปากดี มึงเอาจอมไปไว้ไหน” พรรธน์ยศกระชากคอเสื้อเช
ระหว่างการประชุม ใจของพรรธน์ยศแทบอยู่ไม่นิ่ง เขารู้สึกมีลางสังหรณ์บางอย่างจึงรีบปิดประชุมเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ของอาทิตย์หน้า เพราะคิดถึงคนที่จากมา พอสั่งเลื่อนการประชุมก็สั่งเลขาของตัวเองส่งรายงานเข้าอีเมล ก่อนจะรีบออกจากห้องประชุมเพื่อขับรถกลับมาที่คอนโด และเพียงเวลาไม่นานในช่วงบ่ายสองโมงก็มาถึงคอนโดแล้วรีบดับเครื่องยนต์วิ่งไปในตึกกดเรียกลิฟต์ พอประตูลิฟต์เปิดก็เข้าไปพร้อมกดเลือกชั้นทันทีแล้วลิฟต์ก็พาไปยังชั้นที่เลือก เมื่อโดยสารมาถึงชั้นที่เลือกก็รีบวิ่งตรงสาวเท้าไปยังห้องตัวเองทันที แต่พอเปิดประตูเข้าไปกลับเงียบว่างเปล่าอย่างที่นึกสังหรณ์ไม่มีผิด ไม่มีร่างเล็กนอนเปลือยห่มผ้าบนเตียง “ไปไหนของเธอยัยเด็กโง่!” เมื่อส่องทุกซอกในห้องของคอนโดแล้ว ในห้องน้ำ ระเบียงก็ไม่เจอจึงรีบล้วงโทรศัพท์ออกมากดต่อสายหาหญิงสาวทันที และก็ไร้สัญญาณตอบรับ โทรกี่ครั้งๆ ก็ติดต่อไม่ได้จึงตัดสินใจโทรกลับไปบ้านถามพ่อตาแม่ยาย ซึ่งทั้งสองก็บอกว่าจอมใจยังไม่กลับบ้าน จึงโทรหาแม่ตัวเองเผื่อคนตัวเล็กจะไปบ้านตัวเอง และคำตอบก็เหมือนกันหมด จึงรีบอ
ก่อนจะออกจากห้องคอนโดของเขา เธอขโมยรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานในมุมห้องของเขาติดกระเป๋ามาด้วย จอมใจตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นคนจากไปเอง เธอไม่ได้บอกใครแม้แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ปรึกษา มีคนเดียวที่เธอปรึกษาคือรเณศ เพราะเธอเชื่อใจเขาได้ที่สุด “จอมแน่ใจนะว่าจะไปแบบนี้จริงๆ” รเณศถามรุ่นน้องคนสนิท เมื่อก่อนเขารักเธอ หวังมากกว่าเป็นพี่ชาย แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าคนเราถ้าไม่รักก็คือไม่รัก เขาคิดกับหญิงสาวเพียงแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นตอนนี้ “ค่ะ จอมจะไป จอมจะส่งใบหย่ามาให้พี่เอาไปให้พี่แทคนะคะ” “แล้วจอมจะไปไหน” “จอมจะไปหานิ่มที่สุพรรณค่ะ” หนึ่งฤทัยคือเพื่อนสนิทอีกคนของเธอที่เรียนจบกลับบ้านไปเป็นชาวสวน “อือ...เดี๋ยวพี่จะแวะไปหาบ่อยๆ นะ” “ว่างค่อยไปหาจอมค่ะ พี่เป๊กน่ะดีกับจอมมากเลย จอมเชื่อว่าสักวันพี่เป๊กต้องเจอคนที่