“ค่ะพี่เป๊ก ค่ะ รอจอมที่ร้านเลยค่ะ เดี๋ยวจอมรีบกลับไปนะคะ” เธอกดวางสายทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพร้อมกับคว้าหยิบปิ่นโตที่วางตั้งไว้มาถือเพื่อจะกลับ ก็ในเมื่อสามีไม่ต้องการปิ่นโตที่นำมาให้จะเอาไว้ทำไมล่ะ ก็เอากลับไปกินเองสิ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะกินข้าวที่เธอเตรียมมา” พรรธน์ยศเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้จอมใจไม่ได้สนใจตัวเองแล้วและกำลังจะเดินกลับไป
“คะ?” เธอเอี้ยวหน้าหันมากลอกตาไปมาอย่างสงสัยในประโยคของสามี
“ฉันหิว” เขาตอบสั้นห้วน
“แล้วยังไงคะ จะกินกับข้าวที่จอมเอามาเหรอคะ?” เธอถามกวนกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นหน้านิ่งปกติ
“ก็เอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ เอามาแล้วก็เอาเข้าไปจัดใส่จานสิ ฉันจะได้กิน” เขาบอกสั่งเธอ
“ไหนบอกว่าไม่กินของที่จอมนำมาให้คะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากกินล่ะคะ”
“ถ้าจะให้กินก็ไปจัดใส่จานมา พูดมาก น่ารำคาญ!”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้ ส่วนจอมใจก็ได้แต่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินถือปิ่นโตไปยังห้องครัวที่เมื่อกี้เธอเดินผ่านมาทันที เพื่อจัดกับข้าวในปิ่นโตที่นำมาใส่จานนำไปให้ชายหนุ่ม แม้เขาจะปากร้าย แต่เขาก็ยอมทานกับข้าวที่นำมาให้และมันก็เป็นกับข้าวฝีมือเธอด้วยสิ
พรรธน์ยศปรายตามองกับข้าวสองอย่างในจานกับถ้วยตรงหน้าของตนเองที่โต๊ะกลางชุดโซฟาของห้องทำงาน มีแกงเขียวหวานปลากรายกับผัดผักรวมมิตรใส่กุ้งสด แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว ใช่...เขาเริ่มหิว เพราะตอนนี้มันเที่ยงกว่าแล้ว
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
“ทานเลยนะคะ เดี๋ยวจอมจะมาเก็บให้ค่ะ” เธอบอกเขาแล้วก็ลุกเดินไปยังมุมห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่สั่นเตือนอยู่ออกมารับสาย พอเห็นว่าเป็นรเณศก็รีบรับสายทันที
“พี่เป๊ก จอมขอโทษนะคะ วันนี้คงกลับไปทานข้าวเที่ยงกับพี่เป๊กไม่ได้แล้วค่ะ” เธอบอกปลายสายอย่างรู้สึกผิดที่ผิดนัดรุ่นพี่หนุ่ม
“ฉันไม่ชอบกินข้าวคนเดียว” พรรธน์ยศเอ่ยเสียงดังพร้อมกับผลักจานข้าวตรงหน้าออกห่างแล้วมองไปทางคนที่สนใจโทรศัพท์มากกว่าตัวเองตอนนี้ ‘คงสำคัญมากสินะ คนที่โทรมาถึงได้โทรจี้กันขนาดนี้’ เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่พอใจ
จอมใจได้ยินที่เขาพูดจึงรีบคุยกับรุ่นพี่แล้วรีบตัดวางสายและเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวที่ว่างใกล้ๆ เขา
“ต้องให้จอมป้อนไหมคะ ถึงจะทานได้” เธอจับจานข้าวของเขามาตรงหน้าตัวเองพร้อมกับหยิบช้อนส้อมมาตักกับข้าวและข้าวใส่ช้อนให้พอดีคำแล้วยกขึ้นไปใกล้กับปากหนาที่เม้มเป็นเส้นตรง
“ทานสิคะ ไหนบอกไม่ชอบกินข้าวคนเดียว จอมก็จะป้อนค่ะ แต่จอมไม่กินค่ะ เพราะยังไม่หิว” เธอบอกเขาพร้อมกับรอให้เขาเปิดปากกินข้าวที่เธอตักป้อน
“ฉะ...อ่ะ...อื้อ” เพียงแค่เปิดปากจะพูด ข้าวที่จ่อตรงหน้าก็ถูกยัดเข้ามาในปากแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวจนต้องยอมรับและเคี้ยวเร็วๆ แล้วกลืนลงท้อง
“เธอทำบ้าอะไรของเธอจอม!” เขากระชากเสียงถามพร้อมคว้าจับมือเล็กที่จับช้อนในมือรั้งไว้
“ก็พี่แทคไม่ชอบกินข้าวคนเดียว จอมก็มานั่งด้วยและป้อนแล้วนี่ไงคะ แล้วยังต้องการอะไรอีก”
“ฉันไม่ได้ให้เธอมาป้อนข้าวสักหน่อย เธอฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องรึไงว่าไม่ชอบกินข้าวคนเดียวก็คือต้องมีคนมานั่งกินเป็นเพื่อน ต้องกินด้วยกันไม่ใช่มานั่งด้วยและป้อนฉันแบบนี้”
“แต่จอมไม่หิวนี่คะ?”
“ไม่หิวหรือหิ้วท้องไว้รอกินกับไอ้ชู้ที่โทรมากันแน่จอม?” เขานึกเคืองคนตัวเล็กที่ให้ความสนใจคนที่โทรมาหามากกว่าตัวเอง และตัวเองก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยเหมือนกันทำไมต้องหงุดหงิดแบบนี้ด้วย แค่หล่อนคุยกับผู้ชายเท่านั้น ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้รัก ไม่ชอบหล่อน ออกจะเกลียดจอมใจเสียด้วยซ้ำ
‘ทำไมพี่แทคพูดเหมือนหึงเราเลยนะ แต่ไม่ใช่หรอก พี่แทคเกลียดเราจะตาย ไม่มีทางหึงเราหรอก มีแต่เราคิดไปเองมากกว่ายัยจอม’ เธอคิดในใจแล้วก็ตอบกลับ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่แทคด้วยคะ ในเมื่อพี่แทคก็ไม่ได้สนใจอะไรจอมอยู่แล้วนี่คะ”
“ใช่! ไม่ได้สนใจ แต่ลืมไปรึเปล่าว่าเราแต่งงานกันเมื่อวาน และทะเบียนสมรสก็จดเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วยังไงคะ? ก็ในเมื่อพี่บอกเองว่าไม่คิดจะยกย่องจอมอยู่แล้วนี่ แล้วจะมาสนใจอะไรคะ ถ้าไม่กินข้าวแล้ว จอมเก็บนะคะ จอมต้องรีบกลับไปร้าน”
“รีบกลับไปร้านหรือรีบกลับไปหาผู้ชายที่โทรมากันแน่จอม” เขารีบพูดตอบกลับและมือเล็กที่กำลังจะเก็บโต๊ะก็หยุดชะงักทันทีพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาสีทมิฬแข็งกร้าวของเขาที่มองมายังตนอยู่ก่อน
“รู้อะไรไหมคะ ตอนนี้พี่แทคเหมือนคนกำลังหึงจอมเลยค่ะ อย่าทำให้จอมนึกดีใจสิคะว่าพี่แทคกำลังหึงจอมทั้งๆ ที่ความจริงพี่แทคเกลียดจอมมาตลอด”
“อย่าสำคัญตัวเองผิดจอม ฉันไม่เคยนึกพิศวาสเธอแม้แต่น้อย แต่ที่พูดเพราะอยากให้เธอจำใส่สมองไว้ว่าตัวเธอมีผัวแล้วไม่ใช่สาวโสดอย่างเมื่อก่อน ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้นอนกับเธอก็ตาม แต่ยังไงเธอก็ใช้นามสกุลของฉันแล้ว”
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ พี่แทคไม่ต้องห่วงค่ะ จอมจำใส่สมองเป็นอย่างดีและก็จำเสมอว่าตัวเองเป็นเมียแต่งที่พี่เกลียดชังน้ำหน้าและไม่มีวันแทนที่พี่ขวัญได้”
“หึ! รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ และเธอก็น่ารังเกียจที่สุด ที่นึกอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง” เขาตอบสวนกลับ
“จอมขอถามหน่อยเถอะ ทำไมพี่แทคถึงรักจอมไม่ได้ ทำไมถึงต้องเป็นพี่ขวัญคนเดียวด้วย” เธอถามเขาอย่างสุดจะทนพร้อมกับยกมือปาดเช็ดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอาบสองแก้ม
อึก!
“น้ำตามันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะจอม เธอร้องไห้เป็นสายเลือดหรือร้องจนตาย ฉันก็ไม่มีทางรักหรือชอบเธอได้หรอก เธอมันไม่ได้ครึ่งของขวัญเลยสักอย่าง ขวัญทั้งสวย ทั้งน่ารัก แต่เธอสิ สวยก็ไม่สวย มองตรงไหนก็น่าเบื่อ อย่าคิดเอาตัวเองมาเปรียบกับขวัญ จำไว้...วันไหนที่ขวัญกลับมา ฉันจะหย่ากับเธอเพื่อไปหาขวัญทันที” วาจาห้าวหาญเอ่ยเชือดเฉือนใจคนที่นั่งสะอื้นไห้อยู่บนโซฟาอีกตัว โดยไม่คิดจะตอบคำถามของจอมใจที่ถามตน
ฮึก! ฮือๆยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำกับคำพูดของเขา คำพูดของพรรธน์ยศเปรียบเหมือนเข็มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงตำในอกของเธอและมันก็เหมือนมีดเล่มเล็กๆ ที่กรีดเฉือนใจเธอด้วยในตอนนี้ ทำไมกัน ทำไมเขาถึงมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอไม่เคยคิดและนึกอิจฉาขวัญใจเลยสักครั้งที่ถูกเขาเลือก แต่เธอน้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่าที่ไม่เป็นคนที่ถูกเขาเลือก“ใช่ จอมมันไม่สวย จอมมันไม่น่าดึงดูดแบบพี่ขวัญ แต่ยังไงตอนนี้พี่แทคก็เป็นของจอม เป็นสามีจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญ” เธอปาดเช็ดน้ำตากลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมโต้ตอบกลับเสียงดังโดยไม่นึกกลัวสายตาสีทมิฬที่เพ่งมองมาทางตน“น่าสมเพช! หึ!” พรรธน์ยศยิ้มเยาะเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดต่อ “เก็บโต๊ะแล้วรีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอจอม ไปให้พ้นหน้าฉัน ผู้หญิงความคิดต่ำอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง”“ถึงวันนี้จอมจะไป ยังไงเราก็ต้องเจอกัน เพราะเราคือสามีภรรยากัน จำไว้ว่าพี่แทคเป็นของจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญแล้วตอนนี้ พี่แทคเป็นของจอม” เธอฝืนความเจ็บปวดในอกตะโกนตอกกลับพร้อมกับคว้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานใหญ่ไปทันที โดยไม่สนใจจะเก็บโต๊ะตามที่เขาสั่งปึก!พรร
‘อืม! อร่อยเป็นบ้า ไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือยัยนี่ และเหมือนกับรสชาติเมื่อตอนกลางวันเลยด้วย หรือว่าเธอทำกับข้าวเมื่อตอนกลางวันด้วยวะ!’ เขาได้แต่พูดถามตัวเองในใจเมื่อลิ้นได้รับรสอาหารฝีมือภรรยาแต่งตัวเอง คือรสชาติถูกปากเขามาก แต่พอมองไปทางคุณแม่ที่รักที่มองมาทางตนก็แสร้งวางช้อนในมือทำเหมือนไม่พอใจกับรสชาติอาหาร“รสชาติก็งั้นๆ ไม่เห็นอร่อยเลย แทบกระเดือกไม่ลง” เขาพูดจบก็คว้าหยิบแก้วน้ำใกล้มือมาดื่มไปจนหมดแก้วแล้วเด็กรับใช้ที่ยืนรอรับใช้ก็เดินมารินน้ำใส่ไว้ให้เต็มแก้วเหมือนเดิม“เหรอ งั้นแม่กินมั่ง หนูจอมก็ทานด้วยนะลูก คืนนี้กับพี่เขาค้างที่บ้านเรานะ แม่ให้เด็กจัดห้องไว้ให้แล้ว ส่วนเราห้ามไปนอนคอนโดด้วยวันนี้ ถ้าไปแม่โกรธจริงด้วย” นางพูดจบก็ตักหมูผัดกะปิมาทานเป็นเมนูแรก“อืม...อร่อยจะตาย ใครบอกงั้นๆ กระเดือกไม่ลงก็ไม่ต้องกิน แม่กินเองคนเดียวก็ได้” เมื่อได้ลิ้มรสชาติฝีมือลูกสะใภ้ก็เอ่ยชมทันที“งั้นผมจะกินข้าวไข่เจียว ไปเจียวไข่ให้ฉันหน่อย ฉันจะกินข้าวกับไข่เจียว และนอนที่บ้าน ผมนอนได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะเนี่ยบ้านผม ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย” คนใจแข็งเอ่ย ส่วนเด็กรับใช้ก็รีบไปทำไข่เจียวมาให้เ
ในห้องนอนของเขา ห้องนอนส่วนตัวที่เขาเคยอยู่คนเดียวก่อนที่จะแต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านเธอ คืนนี้ต้องนอนค้างที่นี่สองต่อสอง จอมใจมองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดแนบสนิทและมีเขาอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ส่วนเธอยังอยู่ในชุดเดิมยังไม่ได้อาบน้ำ เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา และไม่คิดว่าจะได้นอนค้างที่บ้านของสามี ห้องนอนสีอึมครึมไม่ได้สดใสเหมือนห้องนอนผู้หญิง ห้องนอนใหญ่ตกแต่งด้วยโทนสีดำและสีเทา เธอมองไปรอบๆ ห้องแล้วก็นั่งตัวเกร็งเมื่อเสียงน้ำในห้องน้ำหยุดไหลพร้อมกับประตูห้องน้ำที่เปิดกว้างออกพร้อมกับคนที่อยู่ข้างในเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กคล้องคออยู่ และเขาใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางตัวเดียวติดตัวออกมา “ทะ...ทำไมพี่แทคไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยคะ” เธอถามเขาเสียงสั่นพร้อมกับมองไปทางอื่น “เวลานอนใครเขาใส่เสื้อผ้ากันหลายตัวกัน เธอก็ไปอาบน้ำได้แล้ว” เขาตอบพร้อมเดินสะบัดผมที่เปียกไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเสียบปลั๊กไดร์เป่าผมที่ตั้งวางบนโต๊ะเครื่องแป
“ค่ะ ตอนนี้จอมก็เป็นเมียพี่แทคที่มีทะเบียนสมรสยืนยันสถานะ” เธอตอบเขาเต็มเสียงพร้อมกับหันหน้าไปทางเดิมเมื่อตอบเขาจบ แต่แล้วก็ตกใจเมื่อพรรธน์ยศจับหัวไหล่บังคับให้พลิกตัวหันมาทางเขาว้าย!“พี่แทคจะทำอะไรคะ?” เธอถามด้วยความตกใจ เมื่อเขาจับพลิกตัวให้หันมาทางเขาไม่พอ เขายังเคลื่อนตัวรวดเร็วมาคร่อมทับ ตอนนี้เธอนอนหงายอยู่ใต้ร่างใหญ่ โดยมีเขาคร่อมทับ มันอันตราย ตอนนี้จอมใจรู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย หล่อนดีดดิ้นบิดตัวหนีจากใต้ร่างสามีทันที“ก็เธอเป็นเมียฉันนี่ ทำไมฉันจะคร่อมขี่เธอไม่ได้ล่ะ”เขาตอบกลับเสียงทุ้มพร่าด้วยสายตากรุ้มกริ่มแกมเจ้าชู้ เล่นเอาใจสาวใต้ร่างสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ เธอหยุดดิ้นจ้องสบตากรุ้มกริ่มของคนตัวโตที่คร่อมทับตัวเองในตอนนี้ก็รู้สึกเขินอายจนหน้าเห่อแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และสองแก้มแดงปลั่งนั้นก็ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาของพรรธน์ยศจนเขาต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก‘น่ารักเป็นบ้า ทำไมวันนี้เธอทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ แถมน่ารักแบบนี้จอม เราเพิ่ง
พรรธน์ยศรับรู้ได้ถึงแรงสะอื้นไห้ของเจ้าหล่อน และเห็นว่าดวงตากลมโตของจอมใจนั้นอาบคลอไปด้วยน้ำตาและทางหางตาก็มีน้ำไหลตลอด เขารู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้เธอหรอกตอนนี้ และตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงรู้สึกเจ็บปวดเพียงแค่เห็นน้ำตาของจอมใจ แต่ก็สลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปเมื่อความร้อนรุ่มกลางหว่างขามันเร่งเร้าให้เขารุกหล่อนต่อ“อ่า...อื้อ” เสียงร้องครางกระเส่าหวานดังลอดออกมาแทนเสียงสะอื้นไห้ เมื่อปากหนาดูดเร่าขบเม้มซอกคอระหงมาถึงเนินอกอวบอูมของหล่อน สองมือใหญ่ผละเคลื่อนจากหัวไหล่ที่กดไว้มากอบกุมสองเต้าผ่านเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของตัวเอง“อ่า...เธอเนี่ยติดมือไวเหมือนกันนะจอม” เมื่อได้กอบกุมเต้าบีบเคล้นความอวบอิ่มผ่านเสื้อก็รับรู้ได้ถึงยอดอกที่ตื่นตัวแข็งสู้มือตัวเองจึงเอ่ยเย้ยหยันเจ้าของเต้า“ค่ะ ติดมือไว ทำสิคะ ตอนนี้จอมพร้อมจะเป็นเมียพี่แทคแล้ว จอมอยากเป็นเมียพี่แทค” เธอตอบกลับอย่างประชดแล้วก็ต้องแอ่นเด้งยกอกขึ้นตอบสนองไปอย่างเผลอไผล เมื่อปากหนาของเขาก้มลงกัดเม้มยอดอกผ่านเสื้อ ความรู้สึกเหมือนถูประจุไฟฟ้าช็อตร่างก็เกิดขึ้น ทั้งร้อนทั้งเสียวใน
พรรธน์ยศเคลื่อนไหวเอาแต่ใจไม่สนใจว่าหล่อนจะเจ็บปวดและยังไม่คุ้นชินกับการมีตัวเองฝากฝังตัวอยู่ภายในความคับแน่นของเธอ นาทีนี้สิ่งที่เขาสนใจคือตัวเอง จะว่าเห็นแก่ตัวก็ว่าได้ ความสดใหม่ของสาวพรหมจรรย์ทำให้เขาหลงระเริงไปกับเซ็กซ์ในครั้งนี้ เอวสอบอัดแน่นสะโพกหนาของตัวเองเด้งเร่าเข้าออกภายในของเจ้าหล่อนจนคนตัวเล็กกระเด็นกระดอนไปตามแรงกระแทกของเอวหนา แต่ก็มีเขากอดรั้งไว้ไม่ให้หล่อนกระเด็นจนหัวชนกับหัวเตียง “อือ...เจ็บ! จอมเจ็บพี่แทค อ่ะ...อ่อย” เธอเจ็บทุกครั้งยามเขาเคลื่อนไหวเอาแต่ใจ แต่ก็รู้สึกเสียวร้อนในท้องน้อยไปด้วยเช่นกัน มีทั้งความเจ็บและความเสียวร้อนก็ว่าได้ สองมือน้อยไม่รู้จะวางตรงไหนจึงตวัดโอบลำคอหนาตามสัญชาตญาณ “อือ...เจ็บหรือเสียวเอาให้แน่จอม อ่า...แน่นดีเป็นบ้า อ่า...แม่งเอ้ย! เสียว ไม่ไหวแล้ว อ่า...แรงๆ นะทูนหัว อืม...” “อ่ะ...อื้อ” เสียงครางทุ้มต่ำยังคงดังลอดออก
ร่างเล็กขยับตัวไปมาในตอนสาย เธอตื่นสาย ตื่นมาไม่เจอคนที่นอนด้วยทั้งคืนแล้ว พอจะลุกขึ้นจากเตียงก็เมื่อยล้าและปวดร้าวตรงกลางหว่างขา เขามันคนกินดุจริงๆ อย่างที่เขาบอก เขาปล่อยให้เธอได้นอนพักก็เกือบจะตีห้าแล้ว ร่างเล็กพาร่างบอบช้ำตัวเองที่แสนจะโทรมขยับเคลื่อนลงจากเตียงช้าๆ เพื่อไม่ให้เรียวขาทั้งสองเสียดสีกันมากและไม่ให้น้องสาวเธอเจ็บจากการก้าวเดินมากนัก “อ่า...เจ็บ!” เธอพึมพำกับตัวเองเดินเข้าไปในห้องน้ำ พอเห็นสภาพตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยขบเม้มของเขาแล้วก็นึกอายหน้าแดงขึ้นมาทันที เขามันหื่นที่สุด “แล้วจะออกไปจากห้องยังไงสภาพนี้ ตอนนี้จะเที่ยงแล้วด้วย” เธอพึมพำกับตัวเอง ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยที่พรรธน์ยศฝากไว้ตามตัว ไหนจะซอกคอ เนินอก หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และที่เยอะสุดคือหน้าอกอวบอูมของเธอ นิษฐาไม่ได้ขึ้นมาปลุกลูกสะใภ้ เพราะลูกชายบอกไว้ว่าให้จอมใจตื่นเอง เพราะนอนกันตอนเช้า นางยิ้มแก้มแ
ทันทีที่เปิดประตูร้านก้าวขาเข้ามาในร้านก็มองสำรวจไปรอบๆ ร้านที่เต็มแน่นไปด้วยผู้คนที่มาทานมื้อเที่ยง และเขาเองก็มาทานข้าวเช่นกัน พรรธน์ยศถึงกับเม้มปากแน่นเมื่อมองไปเห็นมุมในสุดของร้านที่มีชายหญิงกำลังพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกัน เท้าหนาจึงก้าวเดินฉับๆ ไวๆ ตรงไปหาทั้งคู่ทันทีด้วยความเดือดดาล “พี่แทค” เธอแหงนหน้าขึ้นมองคนที่เดินมาหยุดข้างโต๊ะทานข้าวของตน “นึกว่าลืมผัวไปแล้ว” เขาตอบกลับมาน้ำเสียงขุ่น “พี่แทคเพิ่งมาเหรอคะ นั่งด้วยกันไหมคะ” เธอไม่ตอบแต่เอ่ยถามและชวนเขานั่งด้วยพร้อมขยับตัวเองไปนั่งอีกเก้าอี้ให้เขานั่งลงเก้าอี้ของตนที่นั่งก่อนหน้านี้แทน “เห็นแล้วยังจะถาม” เขาตอบเสียงห้วนแล้วนั่งลงเก้าอี้ตัวที่เธอขยับลุกออกทันที “แล้วพี่แทคกินอะไรมารึยังคะ” เธอถามเขา โดยลืมไปเลยว่ามีรเณศนั่งร่วมโต๊ะอยู่