Share

บทที่ 1 ความหลัง 70%

เมื่อชลธรรับเจ้าตัวน้อยมาได้สมใจที่คิดถึงแล้ว จึงรีบพาไปแวะที่ร้านมินิมาร์ทในตัวอำเภอเพื่อซื้อของเล่นให้อย่างเคย

“ธีเอาอันไหนดีครับลูก อันนี้มั้ย เป็ดน้อย มีเสียงปี๊บ ๆ ด้วย” ชลธรบีบตุ๊กตาเป็ดน้อยสีเหลืองให้หนูน้อยในอ้อมแขนดู ชลธีหัวเราะถูกใจพยายามเอื้อมมือไปคว้า ชลธรยิ้มด้วยท่าทางมีความสุข

“จะถือเองหรือครับลูก โอเค ป๊าให้ถือเองนะครับ ไปจ่ายเงินที่พี่คนสวยกันเนอะ” ว่าแล้วก็หันไปยังพนักงานร้านที่อยู่หลังเคาน์เตอร์

“น้องคะ เอารังนกให้พี่แพ็คนึงค่ะ แล้วก็ซุปไก่อีกแพ็คนึงด้วยค่ะ” เสียงหญิงสาวที่เดินไปถึงเคาน์เตอร์ก่อนหน้าเขาดังขึ้น พลางชี้ไปด้านหลังพนักงานที่มีเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพหลากหลายชนิดวางอยู่

ชลธรหันมองแล้วอึ้งไปอึดใจหนึ่ง เมื่อเห็นหญิงสาวผิวขาวผมยาวสลวยรูปร่างบอบบาง ดวงหน้าเรียวหวานสะดุดตา ซึ่งเขาจำได้ชัดเจนว่าหญิงสาวคนนี้เคยวิ่งมาชนเขาที่งานแต่งงานของนภาธร เธอยืนอยู่ตรงหน้า หัวใจของเขาเต้นแรง เธอจ่ายเงินเสร็จก็รับของ แล้วหมุนตัวจะเดินออก ก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อเห็นเขายืนอยู่ ชายหนุ่มได้แต่ยืนอึ้ง นึกไม่ออกว่าจะทักทายอย่างไร

“พี่คะ ถึงคิวแล้วค่ะ” เสียงพนักงานสาวเอ่ยเรียก ชลธรละสายตาจากคนตรงหน้าแล้วเอาของเล่นไปจ่ายเงิน หันมาอีกทีเธอก็เดินออกจากร้านไปแล้ว

“เฮ้อ เจอทีไรเป็นแบบนี้ทุกที” ชลธรพึมพำก่อนจะพาหนูน้อยไปซื้อขนมที่ร้านข้าง ๆ หลายอย่าง แล้วพากลับไปขึ้นรถ

เขาขับรถกลับบ้านแล้วไปรับประทานอาหารเที่ยงกับมารดา โดยมีชลธีนั่งอยู่บนเก้าอี้รับประทานอาหารสำหรับเด็ก

“ตาคีรินไม่บ่นหรือไง ไปเอาลูกเขามาได้ทุกวัน” สายชลถามบุตรชาย

“ก็เหมือนไม่อยากให้มาหรอกครับ แต่ผมจะเอามาก็เลยต้องให้ มันมีเมียก็ให้มันทำเอาใหม่ ตาหนูเป็นของผม เพราะผมขอไว้ตั้งแต่ยังไม่เกิดโน่นแน่ะ เจ้าคีรินมันรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่ายกให้ผม ก็ต้องเป็นลูกผมสิ”

คนเป็นพ่อทูนหัวว่าก่อนจะหันไปยังลูกชายตัวน้อยที่พยายามเอามือคว้าของที่อยู่บนโต๊ะ

“โอ๋ ๆ กินไม่ได้ครับอันนี้มันแข็ง มาครับป๊าป้อนข้าวของธีให้ วันนี้ป๊าบดเนื้อปลาใส่ให้ด้วยนะ อร่อยมาก ๆ เลย” ว่าแล้วเอาข้าวบดผสมเนื้อปลาป้อนให้ ก่อนจะหันมากินข้าวของตัวเองอีกคำแล้วหันไปป้อนข้าวหนูน้อยอีกคำ

คนเป็นมารดาเห็นแล้วได้แต่ถอนใจ แต่ไม่รู้จะพูดอะไรได้ ในเมื่อชลธรหลงรักลูกของน้องชายเหมือนกับลูกของตัวเองจึงได้แต่เปรย ๆ ว่า

“เฮ้อ แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะมีลูกมีเมียเป็นของตัวเองสักทีล่ะ เอาแต่กระเตงลูกคนอื่นอยู่แบบนี้”

“แม่ก็หาเมียให้ผมสิครับ ผมจะได้มีสักที” เขาเย้า คนเป็นแม่มองค้อน

“อย่างกับแม่ไม่หาให้นั่นแหละ คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ชอบ คนนั้นก็ยังไม่ถูกใจ แม่ขอยอมก็แล้วกัน เลือกเยอะเหลือเกิน” สายชลว่า

“ก็เลือกแบบที่ถูกใจผมสิครับ”

“แม่คงต้องไปขอนางฟ้ามาเป็นเจ้าสาวให้ละมั้ง ถึงจะถูกใจพ่อ”

หญิงวัยกลางคนค้อนให้อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะรับประทานอาหารไปอย่างเงียบ ๆ ชลธรหันมองมารดาแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

“เมื่อกี้ไอ้ขุนพลมาตาม ไม่รู้มันมีเรื่องอะไร” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถึงหัวหน้าคนงานชาย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

“อ้อ งั้นเดี๋ยวผมไปดูมันหน่อยก็แล้วกัน วันนี้ผมสั่งให้พาคนงานไปแต่งกิ่งทุเรียน ไม่รู้ทำไปถึงไหนแล้ว”

“งั้นชลเอาปิ่นโตไปให้พ่อด้วยนะ ป่านนี้แล้วก็ไม่ยอมมากินข้าวกินปลา เดี๋ยวแม่ไปตักให้” สายชลเดินเข้าไปในครัวแล้วตักอาหารใส่ปิ่นโตให้ลูกชาย ซึ่งแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่สามีทำงานอยู่ในสวนไม่ยอมกลับมารับประทานอาหารเที่ยง ซึ่งลูกชายของเธอก็เป็นแบบเดียวกัน ที่ทำงานจนลืมเวลา จนเธอต้องให้คนงานหิ้วปิ่นโตไปส่งได้แทบทุกวัน

“งั้นเดี๋ยวผมเข้ามาเย็น ๆ เลยนะครับแม่” ชลธรหยิบปิ่นโตพลางอุ้มชลธีไปด้วย คนเป็นแม่รีบเอ่ยทัก

“แล้วลูกจะเอาตาธีไปด้วยเหรอนั่นน่ะ”

“ครับ เดี๋ยวผมจะไปนั่งทำงานที่กระท่อมสักพัก ตาหนูจะได้ไม่กวนแม่ แล้วจะพาไปคืนพ่อเขาตอนเย็น ๆ” ว่าแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กพาดบ่า อุ้มหนูน้อยเดินเข้าไปในสวนทุเรียน สายชลมองตามแล้วได้แต่ส่ายหน้าไปมาที่เห็นลูกชายคนโตทำตัวเหมือนเป็นพ่อลูกอ่อนเข้าไปทุกวัน

ชลธรเดินไปจนกระทั่งถึงจุดที่คนงานกำลังแต่งกิ่งทุเรียน เขานำปิ่นโตไปให้ประสิทธิ์ผู้เป็นบิดาที่กำลังคุมคนงานตัดแต่งกิ่งทุเรียน ก่อนจะสั่งงานขุนพลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วให้ขับรถเอทีวีสำหรับใช้งานในสวนไปส่งที่กระท่อมกลางสวน

“แล้วนายหัวจะกลับกี่โมงครับ ผมจะได้มารับ” ขุนพลถามเมื่อขับรถมาถึงกระท่อมไม้หลังย่อมริมลำธาร

“ถ้าฉันกลับจะโทร. เรียกก็แล้วกัน”

นายหัวหนุ่มว่าแล้วก็อุ้มชลธีขึ้นไปบนกระท่อม ซึ่งเป็นกระท่อมไม้หลังกะทัดรัดอยู่บนเนินสูงมองเห็นลำธารได้ชัดเจน ลักษณะกระท่อมยกเสาสูงราวหนึ่งเมตร ด้านหน้าเป็นระเบียงกว้าง แขวนดอกเพ็ททูเนียและคุณนายตื่นสายซึ่งดอกดกบานสะพรั่ง มีโต๊ะไม้กับเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ สำหรับนั่งเล่นตั้งอยู่บนระเบียง ด้านในมีห้องโถงและห้องนอนหนึ่งห้องกับห้องน้ำ

เขามักจะมาใช้เวลาอยู่ที่นี่มากกว่าบนบ้านหลังใหญ่เสียอีก เนื่องจากอยู่ใกล้ลำธารมีความสดชื่นและเงียบสงบ เขาชอบวิวมุมนี้ และชอบมองออกไปยังที่ดินแปลงตรงข้ามลำธาร มองแล้วนึกอยากได้มาตลอด แต่เสียดายที่เจ้าของไม่ยอมขายให้สักที

ชายหนุ่มเข้ามาในกระท่อมไม้แล้ววางชลธีไว้บนพื้นห้องโถง เขาไปหยิบเบาะปูนอนกับของเล่นมาวางให้เจ้าตัวเล็ก ก่อนจะไปเสียบปลั๊กกาต้มน้ำร้อนและหยิบขวดนมที่ล้างคว่ำไว้ออกมา

ซึ่งแม้คีรินจะเตรียมขวดนมมาให้ แต่ชลธีกินหมดไปนานแล้ว ที่นี่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเด็กอยู่ครบ เพราะเขามักจะพาชลธีมานั่งเล่นเสมอจึงเตรียมทุกอย่างไว้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นนมผง เบาะรองนอนสำหรับเด็ก เปลสำหรับเด็กอ่อน และของเล่นต่าง ๆ

เขาชงนมจะเช็คดูดีแล้วว่าระดับความร้อนไม่ร้อนจนเกินไป จึงนำมาให้ชลธี หนูน้อยเห็นขวดนมก็คว้าหมับแล้วล้มตัวลงนอนบนเบาะทันที

“หิวเหรอลูก เพิ่งกินข้าวไปเมื่อกี้เองนะ กินเก่งจริง ลูกชายป๊าเนี่ย” เขายื่นมือไปลูบศีรษะเจ้าตัวน้อย แล้วนั่งมองด้วยความรัก

“ดูซิ ได้กินก็จะหลับซะแล้ว ธีหลับแล้วป๊าจะเล่นกับใครล่ะทีนี้” เขาว่าเมื่อเห็นหนูน้อยตาปรือลงใกล้จะพริ้มหลับเต็มที

ชลธรนั่งมองเงียบ ๆ จนกระทั่งชลธีหลับไป จึงลุกขึ้นไปหยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่อยู่ในห้องนอน แต่เมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่แขวนอยู่ เขาก็หยิบมาดูอีกครั้ง มันยังมีสีจาง ๆ ของไวน์แดงติดอยู่ เพราะซักไม่ออก ใบหน้าเรียวหวานของคนที่เขาเจอในร้านมินิมาร์ทวันนี้ก็ลอยขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง เขาเลื่อนลิ้นชักโต๊ะแล้วหยิบธนบัตรใบละห้าร้อยบาทขึ้นมา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status