Share

เจ้าสาวชลธร...เพียงรักนี้มีเธอ
เจ้าสาวชลธร...เพียงรักนี้มีเธอ
Author: ทิพย์ทิวา

บทที่ 1 ความหลัง 30%

ความหลัง

ชายหนุ่มผิวสองสีดวงหน้าคมเข้มในชุดเสื้อโปโลสีขาว สวมกางเกงยีนส์สีซีดเดินอย่างกระฉับกระเฉงไปยังรถ SUV สีขาว ซึ่งจอดอยู่ในโรงรถของบ้านหลังใหญ่สไตล์โรมัน ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนเนินสูง รายล้อมด้วยสวนทุเรียนกว้างใหญ่สุดหูสุดตา ก่อนจะเปิดประตูรถเขาได้ยินเสียงตะโกนถามไล่หลังมาจากหญิงวัยกลางคนร่างท้วม

“ตาชล จะไปไหนหรือลูก” ชลธรหันกลับไปหามารดาแล้วยิ้มด้วยสีหน้าสดใสก่อนจะตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ไปรับตาหนูครับแม่ ไม่ได้เจอหน้าลูกหลายวันแล้วคิดถึง”

“ก็เพิ่งไปส่งเมื่อสองวันก่อนนี้เองไม่ใช่เหรอ” สายชลผู้เป็นมารดาว่า

“ก็นั่นแหละครับ คิดถึงแล้ว เดี๋ยวผมมานะครับแม่”

“จ้ะ งั้นก็ไปเถอะ แม่ก็คิดถึงตาธีแล้วเหมือนกัน”

“ครับแม่ เดี๋ยวผมซื้อขนมมาฝากนะครับ” ว่าแล้วก็ก้าวเท้าขึ้นรถขับไปตามถนนที่ลาดด้วยซีเมนต์ ซึ่งเป็นถนนในสวนที่มีความกว้างขนาดรถสวนกันได้สองคันระยะทางราวห้าร้อยเมตร มุ่งตรงออกจากสวนทุเรียนไปยังถนนใหญ่

ก่อนจะแวะซื้อของกินเล็กน้อยที่ร้านอาหารจีนเจ้าประจำเพื่อไปฝากน้องสาวและน้องชายที่ไร่คีริน ซึ่งเป็นที่ตั้งบริษัทและรีสอร์ตของน้องชาย

ไม่นานชลธรก็มาถึงไร่คีรินที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง เขาก็จอดรถที่หน้าบ้านของน้องสาวเพื่อเอาอาหารไปส่งให้ เพราะแม้ว่าเธอจะแต่งงานมีสามีไปแล้ว แต่ด้วยความเคยชิน เขาต้องซื้อของไปฝากทุกครั้งที่ไปหา ไม่อย่างนั้นก็จะงอนไม่เลิกราเหมือนกับตอนเป็นเด็ก ที่จะต้องรอของฝากจากเขาอยู่เสมอ

“พี่ชล ซื้ออะไรมาฝากน้องภาคะ” เสียงสดใสพร้อมกับร่างเพรียวบางในชุดเดรสยาวสีหวานที่วิ่งออกมาทันที่ที่เห็นเขาจอดรถหน้าบ้านแล้วถือถุงพะรุงพะรังเข้าไปหา

“ฮ้อยจ๊อปูกับกระเพาะปลาน้ำแดง แล้วก็เป็ดตุ๋นที่เราชอบกินไง แล้วเป้ไปไหนล่ะ ออกไปทำงานเหรอ” เขาถามพลางกวาดตามองหาปรัชญาสามีของน้องสาว นภาธรยิ้มกว้างชี้เข้าไปในบ้านแล้วตอบว่า

“รีดผ้าให้น้องภาอยู่ในบ้านโน่นแน่ะค่ะ”

“รีดผ้าให้น้องภาเนี่ยนะ แล้วทำไมเราใช้สามีรีดผ้าแบบนั้นล่ะ”

“น้องภาไม่ได้ใช้สักหน่อย น้องภาจะเอาไปส่งร้านซักรีด แต่พี่เป้บอกว่าเปลืองตังค์จะซักรีดเองนี่คะ”

“เรานี่ก็นะ ระวังไว้เถอะ เขาไปเจอผู้หญิงคนใหม่เอาใจเก่ง ๆ จะถูกทิ้งไม่รู้ด้วย” ชลธรปรามน้องสาว

“ก็พี่เป้บอกว่าน้องภารีดผ้าไม่เรียบค่ะ ให้น้องภาซักผ้าอย่างเดียวพอ เอาใส่เครื่องซักผ้าแล้วเอาไปตาก เขาจะรีดเอง แบ่งหน้าที่กันทำค่ะ” คนเป็นน้องสาวว่า

“อือ ก็ยังดีหน่อย งั้นเอาฮ้อยจ๊อไปกินนะ พี่จะไปหาตาหนูก่อน”

“อ้าว ไม่เข้าไปคุยกับพี่เป้ก่อนเหรอคะ”

“ไม่เป็นไร พี่ค่อยมาวันหลัง เดี๋ยวจะเสียเวลาเขารีดผ้า ไปก่อนนะ” ว่าแล้วโยกหัวน้องสาว ก่อนจะเดินกลับไปที่รถแล้วขับไปยังบ้านของน้องชาย

เห็นคีรินปูเสื่อนั่งอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน โดยมีชลธีหนูน้อยวัยราวแปดเดือน ซึ่งตอนนี้สามารถลุกนั่งได้ด้วยตัวเองและเริ่มจะคลานได้แล้ว กำลังนั่งเล่นของเล่นพลางส่งเสียงหัวเราะระรื่น เขาจอดรถแล้วไปหยิบของฝากที่อยู่ท้ายรถ

“อ้าว พี่ชลมาหาตาหนูเหรอคะ” เสียงใสที่เอ่ยทักทำให้ชลธรต้องหันไปหาน้องสะใภ้ก่อนจะส่งของฝากให้

“ใช่จ้ะ ฤดี นี่พี่ซื้อของกินที่คีรินเขาชอบมาฝาก ฤดีเอาไปเก็บนะ เดี๋ยวพี่จะไปหาตาหนูก่อน” ว่าแล้วยื่นของให้น้องสะใภ้ เขามองจนเพียงฤดีหิ้วของเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเดินไปหาคีรินที่เล่นกับลูกชายอยู่บนเสื่อกระจูด

“อ้าว พี่ชลมานั่งด้วยกันสิ ผ่านมาแถวนี้เหรอครับ ถึงแวะมา” คนเป็นน้องชายถามพลางดึงลูกชายตัวน้อยมานั่งตัก

ชลธรนั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วปรบมือเบา ๆ เรียก แค่เห็นหน้าพ่อทูนหัว ชลธีก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก รีบลงจากตักพ่อตัวจริงคลานเข้ามาหาทันที ชลธรรีบคว้าร่างป้อมตรงหน้ามาไว้บนตักแล้วตอบว่า

“ก็ตั้งใจมาหาตาหนูนี่แหละ คิดถึง แม่ก็คิดถึง เดี๋ยวพี่ขอพาไปหาแม่นะ” คนเป็นพี่ชายว่าพลางชูตัวหนูน้อยขึ้นเหนือศรีษะแล้วแหงนคอมอง ชลธีหัวเราะคิกคักท่าทางมีความสุข

“ธีไปกับป๊าใช่ไหมลูก ธีหันไปขออนุญาตพ่อหน่อย ว่าให้ไปกับป๊าเนอะ” ว่าแล้วหันตัวหนูน้อยไปหาน้องชาย

“นะ พี่ขอพาไปเล่นที่บ้านเดี๋ยวบ่าย ๆ จะเอามาคืน” คนเป็นพี่ชายว่า ราวกับเห็นลูกของน้องชายเป็นของเล่น ที่มาขอไปเล่นที่บ้านได้แทบทุกวัน

“ครับ แล้วพี่ชลไม่อยู่กินข้าวก่อนหรือครับ”

“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวจะพาตาหนูไปซื้อของเล่นด้วย แล้วค่อยกลับไปกินข้าวเที่ยงกับแม่ บอกแม่ว่ามาไม่นาน มารับตาธีเสร็จแล้วจะซื้อขนมไปฝาก วันนี้วันหยุดพี่เอาลูกไปเลี้ยงเอง นายจะได้มีเวลาอยู่กับฤดีบ้างไง เผื่อจะมีหลานเพิ่มให้พี่อีกคน จะได้ไม่ต้องแย่งกัน”

“แล้วพี่ชลไม่อยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างหรือครับ” คนเป็นพ่อตัวจริงถามเสียงอ่อย ๆ แม้จะอยากใช้เวลาในวันหยุดเล่นกับลูกบ้าง แต่จะไม่ให้ชลธรเอาไปก็ไม่ได้ เพราะถ้าไม่ได้พี่ชายคนนี้คอยดูแลมาตั้งแต่เด็ก เขาก็คงไม่ได้เติบโตมีชีวิตที่ดีเช่นทุกวันนี้

จะถือว่าชลธรเป็นพ่อคนที่สองของเขาไปแล้วก็ได้ เพราะเป็นพี่ชายที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่แบเบาะเลยทีเดียว เนื่องจากตอนที่เขาเกิดชลธรอายุแปดขวบ มีหน้าที่ช่วยปู่กับย่าเลี้ยงน้องตอนที่พ่อกับแม่ออกไปทำสวน

จนกระทั่งเขาเริ่มโตก็เห็นว่าชลธรเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยบิดาทำสวนทำไร่ด้วยความเหน็ดเหนื่อย ด้วยตอนนั้นฐานะทางบ้านไม่ได้ดีนัก ต้องหาเงินส่งเขาและน้องสาวเรียน จนกระทั่งเขาเรียนจบมัธยมต้นก็ยังทำงานส่งเขาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ อีก ไม่ว่าต้องการเงินไปทำสิ่งใด พี่ชายคนนี้ก็ไม่เคยขัด ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีก็จะต้องโอนให้น้องทันที แล้วเขาจะกล้าใจดำได้อย่างไร

“มีตาธีพี่ก็หายเหงาแล้ว ส่วนลูกของตัวเองน่ะ แม่เขายังไม่เกิดละมั้ง ป่านนี้ถึงยังไม่เจอ นายก็รีบมีลูกเพิ่มก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องมาแย่งกับพี่”ชลธรว่าพลางกอดหอมชลธีไปด้วย

“โธ่ ก็มันทำไม่ได้ง่าย ๆ นี่ครับ พยายามแล้วพยายามอีกก็ได้มาแค่คนเดียวนี่แหละ งั้นเดี๋ยวผมไปเตรียมขวดนมให้ใหม่นะครับ” พ่อลูกอ่อนว่าพลางลุกเดินเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้พี่ชายเล่นกับลูกชาย ก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับหิ้วตะกร้าหวายซึ่งมีอุปกรณ์สำหรับเด็กหลายอย่างอยู่ในนั้น

ชลธรอุ้มหนูน้อยพร้อมกับหิ้วตะกร้าหวายไปที่รถ เขาวางตะกร้าไว้ที่เบาะหลัง แล้วนำชลธีไว้ในคาร์ซีทด้านหน้า แม้ยังไม่มีลูกเป็นของตัวเอง แต่เขาก็เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสำหรับชลธีตั้งแต่หลานคนนี้ยังไม่เกิด

---------------------------------------

สวัสดีค่ะ นักอ่านที่รัก เรามาพบกับเจ้าสาวชลธร...เพียงรักนี้มีเธอ ซึ่งเป็นนิยายเรื่องที่ 3 ของซีรีส์ชุดเพียงรัก โดย ทิพย์ทิวา กันต่อนะคะ ซึ่งนิยายชุดนี้มี 3 เรื่องดังนี้

ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา

ดวงใจปรัชญา...เพียงรักกันก็พอ

เจ้าสาวชลธร...เพียงรักนี้มีเธอ

ชอบหรือไม่ชอบก็ทักทายพูดคุยและให้คำแนะนำกันได้นะคะ

ติดต่อทิพย์ทิวาได้ที่ suthantip@g***l.com, และแฟนเพจ F* : ทิพย์ทิวา ค่ะ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status