Chapter 5
[5/2] @โรม, อิตาลี่ (หมอชลกันต์ ทอร์ค) 1 ปีกว่าแล้ว ที่ผมแต่งงานและได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ผมรัก ตอนนี้ผมและหยกมีเจ้าตัวน้อยที่ชื่อปกป้องเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของเราให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่จะเรียกว่าครอบครัวสมบูรณ์แล้วก็คงจะไม่เชิงหรอก เพราะถ้าให้สมบูรณ์แบบโดยวัดจากสิ่งที่คนทั่วไปมองก็คงต้องตอบว่าใช่ แต่ถ้าเอาตามจริงคำนิยามสำหรับผม ‘ครอบครัวสมบูรณ์แบบ’ ก็คงจะเป็นเรื่องของความรู้สึกรักกันของคนในครอบครัวมากกว่า ซึ่งผมรับรู้แล้วก็สัมผัสได้มาโดยตลอดว่า แม่ของปกป้องก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับเรื่องนี้ แม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ผมรู้ว่าปิ่นหยกยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้คนรักเก่า และถึงแม้ผมจะทำเป็นไม่สนใจไยดีสักแค่ไหน แต่ก็หนีไม่พ้นความจริงที่เจ็บปวดแบบนี้ได้เลย ผมคงเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ไม่กล้ายอมรับความจริง และเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากคนหนึ่งก็เท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดอยู่เสมอว่าอนาคตอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ระหว่างผมกับหยกเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้จริงๆ หรอ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้รักผมเลยด้วยซ้ำ หลายวันก่อนผมเลยตัดสินใจพาปกป้องและปิ่นหยกมาเที่ยวที่อิตาลี่ โดยให้เหตุผลว่ามาเที่ยวฮัลนีมูล เพราะตั้งแต่ตอนแต่งงานเราสองคนยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันเลย จริงๆ จุดประสงค์ของผมไม่ได้พาสองแม่ลูกมาเที่ยวหรอก ผมรู้ว่าใครอีกคนอยู่ที่นี่ คนคนเดียวกันกับที่ปิ่นหยกเฝ้ารอคอยเงียบๆ มาโดยตลอด ในเมื่อผมทำให้เธอมีความสุขไม่ได้ ผมควรจะต้องยอมแพ้และปล่อยให้ครอบครัวเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสักที ‘กันต์คิดดีแล้วใช่ไหม? คือน้าก็พอจะช่วยได้นะ แต่กันต์จะไม่เสียใจใช่ไหมที่ทำแบบนี้น่ะ?’ “ผมคิดมาดีแล้วครับ” ‘เฮ้อออ! น้าไม่รู้จะสงสารทางไหนก่อนดี’ “ถึงมิลานแล้วเดี๋ยวผมโทรหาอีกทีนะครับ” ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสคุยกับน้าสาวที่เป็นดีไซเนอร์ดังในอิตาลี่ และผมก็เพิ่งรู้ว่าน้าสาวของผมมีไซน์เนอร์อีกคนที่ทำงานร่วมกัน เธอคนนั้นเป็นแม่เลี้ยงของภัทรกาฬคนรักเก่าของหยก ผมเลยได้ขอร้องน้าสาวให้ช่วยเรื่องนี้ด้วย ทันทีที่ผมและสองแม่ลูกถึงอิตาลี่ สิ่งที่น้าสาวหาข้อมูลมาให้เป็นประโยชน์ต่อผมมากมาย ทั้งตารางงานของภัทรกาฬ หรือแม้กระทั่งกิจกรรมจิปาถะของเขาในแต่ละวัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้น้าสาวของผมได้มาจากแม่เลี้ยงของภัทรกาฬซึ่งทำงานอยู่กับน้าผมตลอด โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าแอบเผลอบอกอะไรไปให้น้าสาวผมฟังบ้าง Vanika: ตากันต์อยู่ไหนแล้ว น้าได้ยินมาว่าพรุ่งนี้เขาจะมางานที่มิลานด้วยนะ ข้อความแชทจากน้าสาวที่ส่งมา ทำให้ผมรู้ในทันทีเลยว่าเหลือเวลาไม่มากแล้ว และกำลังจะเข้าแผนอีกขั้นที่จะทำให้สองคนเขาได้เจอกัน วันนี้ก็เช่นกันน้าสาวผมได้ยินมาจากปากแม่เลี้ยงของภัทรกาฬว่าเขาชอบมาดื่มไวน์ที่ร้านคาเฟ่แถวๆ ย่านจัตุรัส Piazza Navona ในกรุงโรม ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่ได้รับรายงานมา ระหว่างพาปิ่นหยกและปกป้องมาหาอะไรทานร้านอาหารในย่านเดียวกันกับภัทรกาฬเพื่อหวังว่าจะได้เจอเขา และมันเป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ทุกอย่าง ภัทรกาฬเจอหยกและลูกแล้ว เพียงแต่เขายังไม่ปรากฏตัวให้สองแม่ลูกนั้นรับรู้ ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันหรือว่าเขาจะไม่อยากเจอหยกกับลูกแล้ว “พรุ่งนี้ไปมิลานกันนะครับ ออกจากที่ซัก 5 โมงเย็น” ระหว่างที่นั่งทานอาหารกันอยู่ผมก็บอกกับหยกเรื่องที่จะไปมิลานพรุ่งนี้ “หื้ม? ไปทำไมกันคะ? แล้วปกป้องล่ะ?” หยกทำหน้างงใส่ผม “พอดีคุณน้าของพี่เค้าทำแบรนด์เสื้อผ้าอยู่ที่นั่นกับเพื่อน และพรุ่งนี้สุดสัปดาห์พอดีกับมีงานแฟชั่นวีค เลยถือโอกาสชวนเราไปร่วมงานด้วย ท่านอยากเจอปกป้องนะครับ หยกว่าไง?” “ลูกจะไม่เหนื่อยหรอคะ หยกเกรงว่าลูกจะงอแง” “ไม่เป็นไรครับ เราจะไปนอนที่นั่นซักคืนค่อยกลับมาที่โรงแรมครับ” แผนต่อไปคือร่วมงานแฟชั่นวีคที่มิลานพรุ่งนี้ เพราะน้าสาวของผมรวมทั้งแม่เลี้ยงของภัทรกาฬจะมีโชว์คอลเลคชั่นเสื้อผ้าของพวกเธอในงาน ซึ่งแบรนด์ของน้าสาวผมได้คิวแสดงประมาณช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ @มิลาน, อิตาลี่ ภายในงานแฟชั่นระดับโลกที่ซึ่งจะถูกจัดขึ้นปีละแค่ 2 ครั้งใน 4 เมือง ซึ่งในมิลานก็เป็นหนึ่งใน 4 เมืองนั้นด้วย หลักๆ ของงานในวันนี้ก็จะแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ดังต่างๆ ซึ่งจะได้โชว์คอลเลคชั่นใหม่ล่วงหน้า 1 ซีซั่น ก่อนวางจำหน่ายขาย เหล่าเซเลบฯ คนดังมากมายเดินวุ่นวายถ่ายรูปกันยกใหญ่ ยิ่งถ่ายเยอะก็ยิ่งช่วยโปรโมทแบรนด์นั้นไปด้วย พร้อมทั้งแม่ลูกคู่ใจเดินทางมาถึงภายในงานแล้ว ณ ตอนนี้ทั้งสามกำลังถูกจับตามองจากเหล่าช่างภาพและเซเลบฯ คนดังมากมาย ด้วยอาจจะเพราะว่าไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใครอยู่หรือเปล่า เพราะภายในงานก็ไม่ใช่ใครที่ไหนจะเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ หากไม่มีบัตรรับเชิญโดยตรง “ที่จริงคุณน้าไม่ต้องเดินออกมารับด้วยเองก็ได้นะครับ” ผมบอกน้าสาววัยเลขสี่ปลายๆ ที่เดินออกมารับถึงหน้างาน “ไม่ได้ๆ น้าเชิญตากันต์มาทั้งทีก็ต้องต้อนรับอย่างดีสิ โอ้โห... แล้วนี่ดูสิจ้ำม่ำเชียวหลานย่าคนนี้ มาๆๆ ขออุ้มหน่อยนะครับคนเก่ง” “คุณวาณิการ์ระวังนะคะ ปกป้องอาจจะทำให้คุณปวดแขนได้ค่ะ” หยกบอกน้าสาวผมพลางยกปกป้องให้อีกคนได้อุ้ม “จริงหรอจ้ะ อู้ว.. ไม่เบาเลยนะคะเนี่ย ฮ่าๆๆ พอเจอหนูหยกตัวจริงแล้วสวยกว่าที่ตากันต์ส่งมาให้น้าอีกนะเนี่ย” น้าสาวของผมเป็นคนที่อัธยาศัยดี กระตือรือร้นยิ้มแย้มแจ่มใสได้ตลอดเวลา แล้วยิ่งพอมาเจอหยกกับลูกชาย ผมคิดว่าเธอคงจะรักทั้งสองคนนี้อย่างแน่นอน “อ่ะ อ้าว! อยู่นี่เองฉันตามหาทั่วงานเลย” จู่ๆ ก็มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาทางพวกผม ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดคนนี้น่าจะเป็นแม่เลี้ยงของภัทรกาฬ “ตามหาฉันอยู่ทำไมหรอ ยุวดี?” ใช่แล้ว... คนที่มาใหม่เป็นแม่ของภัทรกาฬจริงๆ ด้วย ตัวจริงเธอดูเหมือนจะยังสาวอยู่เลยด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะดูแลตัวเองดีหรือไม่ เพราะน้าสาวเคยเล่าถึงคุณยุวดีให้ผมฟังบ่อยๆ ถึงได้รู้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับภัทรกาฬคนรักเก่าของหยก “แหม... ก็จะให้ไปเตรียมตัวได้แล้วอีก 20 นาทีงานก็จะเริ่มแล้ว เอ๊ะ! แล้วนี่ใครเอ่ย? เซเลบดาราที่ไหน?” “สวัสดีครับคุณน้า // สวัสดีค่ะ.....” ผมและหยกยกมือไหว้คุณยุวดีตามมารยาท “นี่หลานชายของฉันเองมาเที่ยวที่นี่ ส่วนคนนี้ภรรยาและลูกชาย ดูสิน่ารักไหม?” วาณิการ์ น้าสาวของผมอุ้มปกป้องหันหน้าเข้าหาคุณยุวดี เธอจะรู้ไหมนะ... ว่านี่คือหลานชายแท้ๆ ของเธอเอง “อู้ว แม่เจ้าน่ารักน่าชังจริงๆ” ดูเหมือนว่าเธอจะเอ็นดูปกป้องมากอยู่ “แอ๊ะๆๆ แอ๋ คิกคิกๆๆ ...” “หัวเราะชอบใจใหญ่เลยนะเนี่ย สงสัยหลานฉันจะชอบเธอล่ะ” น้าสาวผมบอกกับคุณยุวดีไป “น่ารักจริงเล๊ย หึๆ” “ป่ะ! เราเข้าไปด้านในกันดีกว่า” ใกล้จะถึงตอนเริ่มงานแล้ว น้าสาวของผมเลยชวนทุกคนเข้าไปในงาน “เธอเข้าไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันขอรอลูกชายก่อน” พอผมได้ยินคุณยุวดีพูดแบบนั้น มันยิ่งชัดเจนเลยว่าคืนนี้ภัทรกาฬจะต้องมาร่วมงานแสดงความยินดีกับแม่เลี้ยงของเขาอย่างแน่นอน “โอเคจ้ะ ไปกันเด็กๆ” เราทั้งสี่คนเดินเข้ามาในงาน จะเหลือเพียงคุณยุวดีที่กำลังยืนรอภัทรกาฬอยู่ ถึงคราวที่ต้องมานั่งรอชมการเปิดตัวแบรนด์ VANIDEE แล้วตอนนี้หยก ปกป้อง และผมกำลังนั่งชมคอลเลคชั่นชุดต่างๆ ในซีซั่นของฤดูใบไม้ร่วงช่วงนี้ ถึงแม้ว่าเราจะนั่งอยู่ตรงแถวกลางๆ ไม่ได้นั่งตรง front row ก็ไม่ได้รู้สึกเรื่องมากอะไรเลย เพราะที่ตรงนั้นทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขาจัดไว้ให้เฉพาะพวกเหล่าเซเลบฯ ตัวท็อป หรือ บก.นิตยสารชื่อดัง เท่านั้น ช่วงแถวกลางๆ ถึงจะเป็นกลุ่ม Buyer พวกค้าลูกกระเป๋าหนัก ผมหัวหันหน้าไปมองหยกที่ดูตื่นเต้นไปกับการแสดงโชว์ ส่วนเจ้าตัวกลมของผมก็เหมือนจะตื่นเต้นตามไปด้วย ดูจากสีหน้าแล้ววันนี้คงจะอยู่ได้นานหน่อย เพราะคงไม่งอแง นั่งดูไปสักพักก่อนจะถึงชุดฟีนาเล่ ผมเห็นสายตาของหยกกำลังจ้องมองแผ่นหลังของผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าพวกเรา และจ้องอยู่แบบนั้นนานมาก ถ้าให้เดาผมคิดว่าเธอกำลังสงสัยและรู้สึกคุ้นๆ ด้านหลังของคนนั้น และให้เดาอีกผมว่าคนคนนั้นก็คือภัทรกาฬ จนกระทั่งโชว์ฟีนาเล่จบลง ดีไซเนอร์ขึ้นมากล่าวขอบคุณและอำลาลงเวทีไป แขกทั้งหลายจึงเริ่มทยอยกลับหรือบางคนอาจจะรอนั่งรถดูโชว์จากแบรนด์อื่นต่อ “กลับห้องเลยไหมครับ? คุณน้าคงจะวุ่นอยู่หลังเวที” ผมลุกขึ้นตามคนอื่นที่ทยอยกลับบ้าง และเอื้อมมือไปอุ้มปกป้องออกจากอ้อมแขนของหยก “กลับเลยก็ได้ค่ะ ดูหน้าปกป้องเหมือนเริ่มง่วงแล้วด้วยค่ะ” ด้วยความสถานที่จัดงานอยู่ห่างจากโรงแรมที่พวกเราอยู่ไม่มากนัก โดยคนที่จองให้ก็คือน้าสาวของผมเอง ซึ่งหลังจากนอนคืนนี้เสร็จ พรุ่งนี้ก็จะกลับไปโรงแรมที่กรุงโรมเหมือนเดิม “เอ่อ พี่หมอคะ ขึ้นห้องไปก่อนเลยก็ได้ค่ะ” ทันทีที่เดินมาถึงหน้าโรงแรมที่อยู่ติดกับสถานที่จัดงาน จู่ๆ หยกก็หยุดเดินกะทันหัน “อ้าว ทำไมล่ะหยก? นี่ก็2 ทุ่มแล้วนะ จะไปไหน?” “หยกเพิ่งนึกได้ว่าต่างหูตัวเองหาย น่าจะหลุดตอนที่เราเดินมานี่แหละคะ หยกว่าจะกลับไปหา” “ซื้อใหม่ก็ได้ครับ มืดแล้วจะเดินไปหายังไงเจอ ถึงในงานกับที่พักของเรามันจะอยู่ติดกันก็เถอะ” ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเธอกำลังจะกลับไปในงานอีก เพราะเรื่องอะไร แต่เอาเป็นว่าผมจะตามน้ำไปก่อน “ไม่เป็นไรค่ะพี่หมอ คนในงานยังเยอะอยู่ไม่น่าจะอันตรายอะไร อีกอย่างหยกก็แค่ไปดูตรงทางที่เราเดินมาเมื่อกี้นี้เองค่ะ ถ้าไม่เจอเดี๋ยวก็กลับ” “เอางั้นก็ได้ครับ” “พี่รีบพาปกป้องขึ้นไปนอนเถอะค่ะ ลูกง่วงแล้ว.... หยกปั๊มนมไว้ให้แล้วในตู้เย็นนะคะ หยิบออกมาได้เลย” “ครับ” ผมพาปกป้องขึ้นมาบนห้องพักแล้วก่อนจะจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าก้อนกลมของผมได้นอนหลับสบายมากขึ้น หลังป้อนนมลูกเสร็จและพาเข้านอน ผมก็หยิบโทรศัพท์ต่อสายหาน้าสาวของผมทันที ‘คุณน้าครับ ผมรบกวนหน่อยได้ไหมครับ?…'Chapter 6[6/1](หมอชลกันต์ ทอร์ค)“ฮึกก! ฮือออ~ หายไปไหนมา ฮึกก! คนใจร้าย หายไปไหนมา ฮืออ..”“คิดถึงไหม? คิดถึงพี่ เหมือนที่พี่คิดถึงเราไหม หยก....”“ไม่คิดถึง ฮึกก ฮืออ.... ไม่คิดถึงเลย”“หืม? จริงดิ่? ไม่คิดถึงแล้วร้องไห้ทำไม”ปึ่กๆ!!“เป็นห่วง ฮึกก เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว ฮืออ... กลัวไปหมด ฮึก! กลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไป”“อย่างนั้นเลย?”“อื้มมม!! 0_0”ผมกำลังยืนดูฉากรักในหนังดราม่าน้ำเน่าอยู่ ขณะที่ทั้งสองคนยืนจูบกันอยู่ตอนนี้โดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วยคนรักเก่าของหยกกำลังกอดเธออยู่ในช่วงค่ำคืนงานนิทรรศการระดับโลก แสงไฟน้อยนิดที่สาดส่องจากด้านในอาคารที่จัดงานมายังสวนที่พวกเรายืนอยู่ เลยอาจจะทำให้พวกเขาไม่ได้สนใจคนมาใหม่อย่างผมถ้าหากหยกยังรู้สึกกับเขาอยู่หรืออยากกลับไปอยู่กับเขา ผมก็จะยอมน้อมรับความจริงและปล่อยเธอไป จะไม่หลอกตัวเองอีกแล้วแม้ว่าข้างในใจของผมมันจะอยากมีเธออยู่ด้วยก็ตาม“หยก”ผมตัดสินใจเรียกหยกท่ามกลางจังหวะที่ทั้งสองยังยืนกอดกันอยู่ ผมยืนอยู่และกำลังมองไปยังทั้งสองคนยอมรับว่าใจยังไม่แข็งพอที่จะพูดอะไรออกไป แต่ถ้าผมไม่ยอมจบตอนนี้ คนที่เสียใจอาจจะมีมากก
Chapter 6[6/2]@ภูเก็ต, ประเทศไทยสองแม่ลูกยังคงอยู่ที่ห้องพักของทางโรงพยาบาลจนถึงช่วงดึก คุณหมอเจ้าของไข้ของเด็กหญิงใยไหมมาบอกผู้เป็นแม่แล้วว่า การผ่าตัดสำหรับคืนนี้อาจจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากทีมแพทย์ยังไม่ได้ข้อสรุปของแผนที่จะทำการผ่าตัดสอดท่อ สำหรับเด็กเล็กขนาดนี้ความเสี่ยงนั้นมีมากมาย ถ้าทุกสิ่งอย่างไม่เอื้ออำนวยหรือติดขัดอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กมาเลยทีเดียวอีกทั้งยังต้องรอศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลร่วม ที่เก่งในเรื่องผ่าตัดเข้ามาช่วยอีกแรง ซึ่งคุณหมอวิเชษฎ์ยืนยันว่าหมอผ่าตัดคนนี้จะช่วยให้การรักษาของใยไหมดีขึ้น แต่ก็ต้องรอไปอีกจนถึงพรุ่งนี้ตอนค่ำเหมือนเดิม“แอ่กๆ แอร๋~”เด็กน้อยตัวเล็กยังนอนร้องไห้ในอกแม่ไม่หยุดเป็นระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ยิ่งร้องมากเท่าไหร่ น้ำมูกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จนมันไปส่งผลกระทบทำให้หายใจลำบากขึ้นไปอีก“โอ๋ๆๆ ... คนดีของแม่ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอคนเก่งก็มาหาหนูแล้วนะคะ ไม่ร้องๆ ลูก”ผู้เป็นแม่ปลอบลูกสาวตัวน้อยให้ไม่ร้องในอ้อมอกอุ่น ทว่ากลับเป็นเธอเสียเองที่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาได้ด้วยความที่นึก
Chapter 7[7/1]@ภูเก็ต, ประเทศไทยเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ใยไหมจะต้องเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งคนเป็นแม่อย่างใยบัวมีความกดดันไม่น้อยเลย เธอไม่รู้ว่าผลการรักษาจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาขอให้นางฟ้าตัวน้อยของเธอปลอดภัย“คุณแม่และญาติรอน้องด้านนอกก่อนนะคะ” เสียงพยาบาลหน้าห้องผ่าตัดบอกทั้งสามคนให้รอด้านนอก“บัวกังวลจังเลยค่ะ”“เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะไม่เป็นไรบัว อย่าคิดมากเลยนะครับ”ปรเมทเอื้อมมือมาจับใยบัวเอาไว้แน่น เขาอยากให้เธอไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเกินไป อย่างไรเสียก็ถึงมือหมอแล้ว เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะต้องไม่เป็นอะไร“หนูบัว อย่าเครียดเลยนะลูก”“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ”ป้ายัชฟินรู้จักกับใยบัวมาปีกว่า ถึงจะไม่มาก ทว่าเธอก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ให้สองแม่ลูก ถ้าหากเห็นใยบัวไม่สบายใจ เธอเองก็อดสงสารไม่ได้เลยจริงๆ20.00 น.ทั้งสามคนยังนั่งตั้งหน้าตั้งตาอยู่หน้าห้องผ่าตัด เป็นเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงมากแล้วที่นางฟ้าตัวน้อยของพวกเขายังอยู่ด้านในนั้น และยังไร้วี่แววประตูจะเปิดออกมาเลย“น้องบัว.... หนูใยไหมเป็นยังไงบ้าง?” หญิงสาวผู้มาใหม่กึ่งวิ่งกึ่งเดินรีบมาหา
Chapter 7[7/2]ตอนนี้ทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ใยบัวที่ยังต้องเฝ้านางฟ้าตัวน้อยของเธออยู่ ตั้งแต่ออกมาจากห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย คนเป็นแม่อย่างเธอได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวหายไวๆเธอวาดฝันอนาคตของตัวเองและใยไหมไว้ต่างๆ นานา ถ้าลูกโตขึ้นกว่านี้เธอจะพาลูกไปเที่ยว ไปทานของอร่อยๆ กัน จะพาลูกไปเดินช้อปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ให้ลูก เลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นทุกอย่างที่ลูกอยากได้เธอจะพยายามสนับสนุนเขาเต็มที่ ถึงแม้ครอบครัวของเด็กคนอื่นอาจจะมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่เธอเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้ลูกหรือแม้กระทั่งความรักที่มอบให้ใยไหม มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไปได้แกร่ก!“พี่ปลื้ม!?” เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับปรเมทที่รีบเดินเข้ามาในห้อง คุณแม่ลูกหนึ่งจึงต้องหันไปมองผู้มาใหม่“บัวพี่ลืมมือถือน่ะ จำได้ว่าวางไว้โต๊ะแถวนี้”“อ่อ... นี่ค่ะ บัวเก็บเอาไว้ให้” ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เธอเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนนะ”“ขับรถดีๆ นะคะ”เมื่อได้
Introท่ามกลางทางถนนสายหลักขาเข้าตัวเมืองจันทบุรี มีสายฝนกระหน่ำมาไม่หยุดหย่อน ช่วงนี้อากาศของประเทศไทยไม่รู้ว่าทำไมถึงแปรปรวนบ่อยนักรถเอสยูวีคันงามค่อยๆ ขับเคลื่อนไปตามทางถนน โดยจุดหมายคือหมู่บ้านท้ายตลาดในตัวเมืองจันทบุรี“คุณว่าเพื่อนคุณเขาจะนอนหลับไหม?”บรรยากาศเงียบเย็นภายในรถที่ทำให้สองคนอยู่ด้านในเงียบใส่กันมานาน ทว่าหมอหนุ่มเจ้าของรถจู่ๆ ก็เริ่มตั้งคำถามกับอีกคนที่นั่งมาข้างๆ กันแววตาเศร้าสร้อยปนแดงก่ำคล้ายคนกำลังอกหักของหมอสามสิบ นัยน์ตาคู่นั้นกำลังบอกว่าเขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ขนาดไหน“บัวว่าคุณหมออย่าคิดมากเลยนะคะ มั่นใจเถอะค่ะว่าเพื่อนบัวจะไม่กลับไปเจ็บอีก เพียงแต่ว่าตอนนี้หยกกำลังเสียใจที่เป็นต้นเหตุและสงสารพี่นาฟอยู่ก็เท่านั้น”ใยบัว คนที่นั่งโดยสารมาข้างๆ กับชายหนุ่ม เอ่ยปลอบใจเขาไป เมื่อเห็นสีหน้าของหมอกันต์แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี อีกทั้งทางนั้นเองก็ทั้งเพื่อนทั้งพี่ที่เธอเคยรู้จัก ส่วนทางนี้ก็ว่าที่เจ้าบ่าวของเพื่อนเธอ“แต่ผมว่ามันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าผมไม่รู้นะว่าลึกๆ หยกยังรอเค้าอยู่”ทั้งๆ ที่เขากำลังจะแต่งงานกับปิ่นห
Chapter 1[1/1]ภายในงานแต่งงานของเพื่อนสาวคนสนิทของใยบัวได้เริ่มขึ้นตามฤกษ์ที่ผู้ใหญ่คุยกันเอาไว้แล้ว โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดหลังจากคืนนั้นผ่านไปใยบัวจำได้ว่าเธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างแล้ว เธอยอมรับว่าตกใจทำอะไรไม่ถูกเธอขาดสติไปมากแทบจำสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอบอกกับหมอกันต์ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับและขอให้เขาขับมาส่งเธอที่บ้าน จากนั้นก็แยกย้ายไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยจนกระทั่งวันนี้เป็นงานสำคัญของปิ่นหยก ความจริงเธอไม่อยากจะมาด้วยซ้ำเพราะรู้สึกละอายอยู่แก่ใจไม่น้อยที่ต้องมองหน้าเพื่อนในงานแต่งงานวันนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะมีอะไรกับเจ้าบ่าวของเพื่อนตัวเองไป“ใยบัว ฉันนึกว่าแกจะไม่มางานของฉันซะแล้ว ช่วงนี้ฉันติดต่อแกไม่ค่อยได้เลย เป็นอะไรหรือเปล่า?” ปิ่นหยกเดินมาหยุดถึงที่ด้านหน้าประตูทางเข้า พร้อมกับเอื้อมมือไปดึงแขนของเธอ“อ่อเปล่าๆ ช่วงนี้ฉันยุ่งๆ น่ะ เพื่อนแต่งงานทั้งที ฉันจะพลาดได้ยังไงกันล่ะ วันนี้แกสวยมากเลยหยก”ใยบัวไล่สายตามองชุดเจ้าสาวในวันนี้ช่างงามสง่าราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยเหลือเกิน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดในใจมากเหลือเกินจ
Chapter 1[1/2]งานแต่งยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นขึ้นเลย แต่ใยบัวคิดว่าคงจะไม่เข้าไปในงานอีกแล้ว เธอขับรถออกมาจากโรงแรมที่จัดงานทันที หลังจากหมอกันต์เดินลงจากรถไป เอาเป็นว่าค่อยโทรบอกเจ้าสาวในงานทีหลังก็แล้วกันร่างบางขับรถมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดสดในตัวเมืองจันทบุรี วันนี้เป็นวันหยุดตามเวลาราชการเธอจึงไม่ได้ไปทำงาน และได้มีโอกาสไปร่วมงานมงคลสมรสของเพื่อนสาวคนสนิท นอกเหนือจากงานวันนี้แล้วปกติใยบัวก็จะมาช่วยแม่ขายของที่ตลาดสดแห่งนี้“อ้าว! ไหนแกบอกว่าไปงานแต่งหนูหยกกับลูกผู้ว่าฯ ไง?” บัวแก้วผู้เป็นแม่ของเธอถามเมื่อเห็นว่าลูกสาวเพิ่งจะออกจากบ้านไปไม่ถึงชั่วโมงเลย แล้วทำไมถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้“ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยน่ะจ้ะแม่” เธอไม่ได้รู้สึกปวดหัวหรืออะไรเลย เพียงแค่เหตุผลจริงๆ มันคือการไม่อยากไปเจอหน้าใครอีกคนในงานก็เท่านั้นเอง“อ้าวหรอ แล้วนี่แกกินยารึยัง?” อีกคนก็ถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว พลางจัดผลไม้วางลงแผงขายของ“กินแล้วจ้ะแม่ วันนี้ลูกค้าเยอะไหม?” ใยบัวถามแม่อย่างเช่นทุกวัน“ก็เหมือนเดิม ยังไม่เที่ยงเลยไม่ค่อยมีคน”แม่ค้าวัยกลางคนอย่างบัวแก้ว ขายผลไม้และน้ำปั่นในตลาดสดแห่งนี้ส่งลูกเรีย
Chapter 2[2/1]วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านพ้นไป งานมงคลของหมอกันต์และปิ่นหยกก็ผ่านพ้นมาแล้ว ใยบัวได้ข่าวว่าเพื่อนสนิทของเธอต้องย้ายที่อยู่ไปที่กรุงเทพฯ กับสามีป้ายแดงซึ่งเธอก็พอจะทราบจากเพื่อนสาวมาว่า แม่ของหมอกันต์และตัวของเขาเองต้องทำงานอยู่ที่นั่น เนื่องจากมีธุรกิจโรงพยาบาลที่ต้องดูแล ส่วนท่านผู้ว่าฯ ไพบูลย์ก็ยังคงประจำการอยู่ที่จันทบุรีตั้งแต่เรียนจบมาใยบัวก็กลับมาหางานทำแถวบ้านเลย ทั้งยังไม่อยากจะหนีห่างผู้เป็นแม่ไปไหนไกล เธอเลยเลือกที่จะมาทำงานที่ศาลากลางจังหวัดเป็นพนักราชการทั่วไป แต่ยังไม่ได้รับการบรรจุเนื่องจากทำงานได้ไม่นาน“ใยบัวจ้ะ หนูจะขึ้นไปชั้นบนตอนนี้ไหม? พี่จะได้ฝากของพี่ไปให้ท่านผู้ว่าฯ เซ็นด้วยน่ะจ้ะ”สาวใหญ่ในแผนกเดียวกับใยบัวถามขึ้นเมื่อเห็นว่า เธอมีเอกสารไปให้ท่านผู้ว่าฯ ที่อยู่ห้องด้านบนเซ็นเหมือนกัน“บัวกำลังจะขึ้นไปพอดีค่ะพี่น้ำ จะฝากบัวด้วยใช่ไหมคะ?”“ใช่จ้ะ งั้นพี่ขอบคุณนะ อ่ะ! นี่เลย” น้ำ สาวใหญ่รุ่นพี่ในแผนกส่งแฟ้มเอกสารเล่มบางมือใยบัว เพราะไหนๆ เธอก็จะขึ้นไปด้านบนพอดีใยบัวทำงานกับท่านผู้ว่าฯ คนนี้มาตั้งแต่เขาย้ายมาดำรงตำแหน่งที่นี่ได้ 2 ปีกว่าแล้ว พอดีกับที
Chapter 7[7/2]ตอนนี้ทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ใยบัวที่ยังต้องเฝ้านางฟ้าตัวน้อยของเธออยู่ ตั้งแต่ออกมาจากห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย คนเป็นแม่อย่างเธอได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวหายไวๆเธอวาดฝันอนาคตของตัวเองและใยไหมไว้ต่างๆ นานา ถ้าลูกโตขึ้นกว่านี้เธอจะพาลูกไปเที่ยว ไปทานของอร่อยๆ กัน จะพาลูกไปเดินช้อปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ให้ลูก เลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นทุกอย่างที่ลูกอยากได้เธอจะพยายามสนับสนุนเขาเต็มที่ ถึงแม้ครอบครัวของเด็กคนอื่นอาจจะมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่เธอเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้ลูกหรือแม้กระทั่งความรักที่มอบให้ใยไหม มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไปได้แกร่ก!“พี่ปลื้ม!?” เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับปรเมทที่รีบเดินเข้ามาในห้อง คุณแม่ลูกหนึ่งจึงต้องหันไปมองผู้มาใหม่“บัวพี่ลืมมือถือน่ะ จำได้ว่าวางไว้โต๊ะแถวนี้”“อ่อ... นี่ค่ะ บัวเก็บเอาไว้ให้” ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เธอเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนนะ”“ขับรถดีๆ นะคะ”เมื่อได้
Chapter 7[7/1]@ภูเก็ต, ประเทศไทยเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ใยไหมจะต้องเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งคนเป็นแม่อย่างใยบัวมีความกดดันไม่น้อยเลย เธอไม่รู้ว่าผลการรักษาจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาขอให้นางฟ้าตัวน้อยของเธอปลอดภัย“คุณแม่และญาติรอน้องด้านนอกก่อนนะคะ” เสียงพยาบาลหน้าห้องผ่าตัดบอกทั้งสามคนให้รอด้านนอก“บัวกังวลจังเลยค่ะ”“เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะไม่เป็นไรบัว อย่าคิดมากเลยนะครับ”ปรเมทเอื้อมมือมาจับใยบัวเอาไว้แน่น เขาอยากให้เธอไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเกินไป อย่างไรเสียก็ถึงมือหมอแล้ว เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะต้องไม่เป็นอะไร“หนูบัว อย่าเครียดเลยนะลูก”“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ”ป้ายัชฟินรู้จักกับใยบัวมาปีกว่า ถึงจะไม่มาก ทว่าเธอก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ให้สองแม่ลูก ถ้าหากเห็นใยบัวไม่สบายใจ เธอเองก็อดสงสารไม่ได้เลยจริงๆ20.00 น.ทั้งสามคนยังนั่งตั้งหน้าตั้งตาอยู่หน้าห้องผ่าตัด เป็นเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงมากแล้วที่นางฟ้าตัวน้อยของพวกเขายังอยู่ด้านในนั้น และยังไร้วี่แววประตูจะเปิดออกมาเลย“น้องบัว.... หนูใยไหมเป็นยังไงบ้าง?” หญิงสาวผู้มาใหม่กึ่งวิ่งกึ่งเดินรีบมาหา
Chapter 6[6/2]@ภูเก็ต, ประเทศไทยสองแม่ลูกยังคงอยู่ที่ห้องพักของทางโรงพยาบาลจนถึงช่วงดึก คุณหมอเจ้าของไข้ของเด็กหญิงใยไหมมาบอกผู้เป็นแม่แล้วว่า การผ่าตัดสำหรับคืนนี้อาจจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากทีมแพทย์ยังไม่ได้ข้อสรุปของแผนที่จะทำการผ่าตัดสอดท่อ สำหรับเด็กเล็กขนาดนี้ความเสี่ยงนั้นมีมากมาย ถ้าทุกสิ่งอย่างไม่เอื้ออำนวยหรือติดขัดอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กมาเลยทีเดียวอีกทั้งยังต้องรอศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลร่วม ที่เก่งในเรื่องผ่าตัดเข้ามาช่วยอีกแรง ซึ่งคุณหมอวิเชษฎ์ยืนยันว่าหมอผ่าตัดคนนี้จะช่วยให้การรักษาของใยไหมดีขึ้น แต่ก็ต้องรอไปอีกจนถึงพรุ่งนี้ตอนค่ำเหมือนเดิม“แอ่กๆ แอร๋~”เด็กน้อยตัวเล็กยังนอนร้องไห้ในอกแม่ไม่หยุดเป็นระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ยิ่งร้องมากเท่าไหร่ น้ำมูกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จนมันไปส่งผลกระทบทำให้หายใจลำบากขึ้นไปอีก“โอ๋ๆๆ ... คนดีของแม่ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอคนเก่งก็มาหาหนูแล้วนะคะ ไม่ร้องๆ ลูก”ผู้เป็นแม่ปลอบลูกสาวตัวน้อยให้ไม่ร้องในอ้อมอกอุ่น ทว่ากลับเป็นเธอเสียเองที่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาได้ด้วยความที่นึก
Chapter 6[6/1](หมอชลกันต์ ทอร์ค)“ฮึกก! ฮือออ~ หายไปไหนมา ฮึกก! คนใจร้าย หายไปไหนมา ฮืออ..”“คิดถึงไหม? คิดถึงพี่ เหมือนที่พี่คิดถึงเราไหม หยก....”“ไม่คิดถึง ฮึกก ฮืออ.... ไม่คิดถึงเลย”“หืม? จริงดิ่? ไม่คิดถึงแล้วร้องไห้ทำไม”ปึ่กๆ!!“เป็นห่วง ฮึกก เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว ฮืออ... กลัวไปหมด ฮึก! กลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไป”“อย่างนั้นเลย?”“อื้มมม!! 0_0”ผมกำลังยืนดูฉากรักในหนังดราม่าน้ำเน่าอยู่ ขณะที่ทั้งสองคนยืนจูบกันอยู่ตอนนี้โดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วยคนรักเก่าของหยกกำลังกอดเธออยู่ในช่วงค่ำคืนงานนิทรรศการระดับโลก แสงไฟน้อยนิดที่สาดส่องจากด้านในอาคารที่จัดงานมายังสวนที่พวกเรายืนอยู่ เลยอาจจะทำให้พวกเขาไม่ได้สนใจคนมาใหม่อย่างผมถ้าหากหยกยังรู้สึกกับเขาอยู่หรืออยากกลับไปอยู่กับเขา ผมก็จะยอมน้อมรับความจริงและปล่อยเธอไป จะไม่หลอกตัวเองอีกแล้วแม้ว่าข้างในใจของผมมันจะอยากมีเธออยู่ด้วยก็ตาม“หยก”ผมตัดสินใจเรียกหยกท่ามกลางจังหวะที่ทั้งสองยังยืนกอดกันอยู่ ผมยืนอยู่และกำลังมองไปยังทั้งสองคนยอมรับว่าใจยังไม่แข็งพอที่จะพูดอะไรออกไป แต่ถ้าผมไม่ยอมจบตอนนี้ คนที่เสียใจอาจจะมีมากก
Chapter 5[5/2]@โรม, อิตาลี่(หมอชลกันต์ ทอร์ค)1 ปีกว่าแล้ว ที่ผมแต่งงานและได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ผมรัก ตอนนี้ผมและหยกมีเจ้าตัวน้อยที่ชื่อปกป้องเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของเราให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่จะเรียกว่าครอบครัวสมบูรณ์แล้วก็คงจะไม่เชิงหรอกเพราะถ้าให้สมบูรณ์แบบโดยวัดจากสิ่งที่คนทั่วไปมองก็คงต้องตอบว่าใช่ แต่ถ้าเอาตามจริงคำนิยามสำหรับผม ‘ครอบครัวสมบูรณ์แบบ’ ก็คงจะเป็นเรื่องของความรู้สึกรักกันของคนในครอบครัวมากกว่าซึ่งผมรับรู้แล้วก็สัมผัสได้มาโดยตลอดว่า แม่ของปกป้องก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับเรื่องนี้แม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ผมรู้ว่าปิ่นหยกยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้คนรักเก่า และถึงแม้ผมจะทำเป็นไม่สนใจไยดีสักแค่ไหน แต่ก็หนีไม่พ้นความจริงที่เจ็บปวดแบบนี้ได้เลยผมคงเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ไม่กล้ายอมรับความจริง และเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากคนหนึ่งก็เท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดอยู่เสมอว่าอนาคตอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ระหว่างผมกับหยกเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้จริงๆ หรอ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้รักผมเลยด้วยซ้ำหลายวันก่อนผมเลยตัดสินใจพาปกป้องและปิ่นหยกมาเที่ยวที่อิตาลี่ โดยให้เหตุผลว่ามาเที
Chapter 5[5/1]9 เดือนต่อมา“อุแงงๆ .... แอ๊ะๆ ~~”“โอ๋ๆ หนูไม่ร้องนะคะ ชู่วๆๆ ~~”หลายเดือนผ่านไปจนถึงตอนนี้เด็กทารกตัวน้อยได้ลืมตามาดูโลกแล้ว 3 เดือนกว่า โดยมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมือใหม่คอยดูแลอยู่เสมอมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านถึงแม้กิจการร้านกาแฟของเธอจะไปได้ด้วยดี ทว่าพอถึงจุดอิ่มตัวจุดหนึ่งรายได้มันกลับไม่เหมือนเดิม หนำซ้ำยังต้องเจียดเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้อีก‘ใยไหม’ เด็กน้อย 3 เดือน ที่เพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นาน หนำซ้ำยังต้องคลอดก่อนกำหนดอีก ทำให้สุขภาพของเด็กหญิงตัวน้อยของเราไม่ค่อยแข็งแรงมากนักวันนี้เป็นวันที่ใยบัวต้องยอมปิดร้าน 1 วัน เพื่อที่จะได้พาลูกมาหาหมอเพราะไม่สบาย“แง๊~~~~”“ไม่ร้องนะคะคนดี โอ๋ๆๆ ....ให้คุณอาหมอตรวจก่อนนะคะ”“เดี๋ยวคุณแม่นั่งรอข้างนอกก่อนนะคะ”ใยไหมเกิดก่อนกำหนดคลอด 1 เดือน ซึ่งตอนตั้งครรภ์ใยบัวก็พอทราบจากคุณหมอแล้วว่า ความเสี่ยงและความผิดปกติของลูกเธอนั้นมีมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากโรคทางพันธุกรรมพอมานั่งคิดไตร่ตรองดูดีๆ แล้วทางครอบครัวของเธอเองก็ไม่มีใครมีโรคประจำตัวด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมลูกของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ทั้งๆ ที่เธอเอง
Chapter 4[4/2]ใยบัวเดินกลับมาร้านของตัวเองที่ตอนนี้มีลูกค้าเริ่มจะเบาบางลงบ้างแล้ว ให้ตายเถอะ.... ฟ้ากำลังกลั่นแกล้งเธออยู่หรืออย่างไร ถึงได้หนีไม่พ้นใครคนนั้น“อ้าว! บัว... ไปซะนานเชียวที่ร้านนั้นยุ่งหรอ?” ปรเมทถามเจ้าของร้านที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่“ค่ะคุณปลื้ม คนเต็มร้านเลยล่ะ”“ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุดผม ไม่อย่างนั้นบัวคงจะหนักมากเลย”“ขอบคุณคุณปลื้มมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มาช่วย”โชคดีที่ปรเมทหยุดงานทุกวันเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว เลยมีโอกาสได้แวะมาช่วยที่ร้านของใยบัว คิดไว้อยู่แล้วว่าที่ร้านจะต้องยุ่งเพราะทุกคูหาที่ตึกเช่าของเขา ต่างก็มีลูกค้าเข้าร้านเนืองแน่นไม่ขาดสายแล้วร้านป้ายัชฟินยิ่งแล้วใหญ่ รายนั้นเขาเป็นเจ้าถิ่นร้านติดดาวทุกเว็บไซต์ในโลกออนไลน์ ดีหน่อยที่ป้ายัชฟินแกจ้างลูกน้องช่วย ไม่อย่างนั้นก็คงจะเหนื่อยเหมือนใยบัวตอนนี้“เฮ้อ! เหนื่อยแบบนี้ก็คงต้องมีค่าแรงกันแล้วล่ะ”“ไม่ต้องห่วงค่ะ... บัวจ่ายแน่ๆ”“ผมไม่ได้หมายถึงเงินหรอกครับ ผมหมายถึงเป็นข้าวอร่อยๆ ซักมื้อต่างหาก”ตกเย็นในวันเดียวกันใยบัวแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้เนื่องจากความเหนื่อยล้าทั้งวัน แถมยังอาการเหนื่อยง่ายจากการแพ้
Chapter 4[4/1]ใยบัวได้คุยกับเจ้าของอาคารพาณิชย์แล้ว เธอตัดสินใจจะเช่าเลย 1 คูหา ที่อยู่ถัดจากร้านอาหารของป้ายัชฟินที่ช่วยเธอหาที่เช่า เนื่องจากเจ้าของที่ปล่อยเช่านั้นใจดีให้ราคาถูกเป็นพิเศษ ตอนแรกใยบัวเองก็ตกใจกับราคาเช่า คิดว่าเธอจะสู้ไม่ไหวเสียแล้ววันนี้เป็นวันแรกที่เธอเปิดร้านขายของ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่เธอตั้งใจทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อหวังจะตั้งตัวที่นี่ให้เจ้าหนูน้อยที่จะกำลังลืมตามาดูโลกอีกไม่กี่เดือนนี้ไม่ลำบาก ต้องขอบคุณปรเมทหรือคุณปลื้มที่เป็นเจ้าของตึกแห่งนี้ และป้ายัชฟินที่ช่วยเป็นธุระให้ในหลายวันก่อนตอนแรกใยบัวคิดได้ว่าตัวเองอยากลองเปิดร้านกาแฟดู เพราะโดยปกติเธอเป็นคนชอบดื่มอยู่แล้ว ทว่าเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาอุปกรณ์จากไหนมาลงทุนเพราะวัตถุดิบก็ค่อนข้างแพงโชคดีที่น้องสาวของปรเมทเธอเคยเปิดร้านกาแฟและต้องยกเลิกกิจการไป เพราะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ อุปกรณ์และเครื่องทำกาแฟต่างๆ ก็ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน ใยบัวก็เลยขอผ่อนของพวกนี้โดยมีเจ้าของตึกอย่างปรเมทเป็นธุระให้อีกราย“หนูบัวจ๊ะ วันนี้เปิดร้านวันแรกป้าเลยมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาแสดงความยินด้วยน่ะ”ยัชฟินสาวมุสลิมสัญชาติไทยคน
Chapter 3[3/2]เมื่อเข้าสู่เขตจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใยบัวตัดสินใจขับรถแวะเข้าไปทางย่านชุนชนเก่าแก่ของจังหวัดแห่งนี้ โดยที่เธอใช้ระยะเวลาในการเดินทางทั้งหมด 1 วัน กับอีก 15 ชั่วโมงเศษที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเธอต้องแวะพักผ่อนนอนค้างคืนโรงแรมที่เป็นทางผ่านก่อนจะถึงที่หมาย การขับรถที่กินระยะเวลานานมากขนาดนี้ถึงเป็นครั้งแรกของเธอทั้งๆ ที่ตอนนี้ใยบัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาไกลถึงที่นี่ แต่เธอจำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยมาเที่ยวที่แห่งนี้กับแม่และพี่ชายอยู่บ่อยครั้ง เพราะมีเพื่อนของแม่อาศัยอยู่ที่นี่ชุมชนชิโนโปรตุกีส ชุมชนเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคและเรอเนซองส์ ที่ตั้งโดดเด่นสวยงามเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ มีบ้านเรือน ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมอยู่ในนี้โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินรสเด็ดของทางภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใยบัวไม่รอช้าที่จะได้ลิ้มรสร้านอาหารที่ขึ้นชื่อจากการที่เธอได้เสิร์ชหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาแล้วMini Cooper 3 door Hatch รถยนต์ลูกรักของเธอที่ยังผ่อนไม่หมด ถูกจอดเทียบหน้าร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้ ก่อนที่เจ้าของรถคันเล็กนั้นจะออกมาจากรถ และเดินเข้าไปในร้