Chapter 5
[5/1] 9 เดือนต่อมา “อุแงงๆ .... แอ๊ะๆ ~~” “โอ๋ๆ หนูไม่ร้องนะคะ ชู่วๆๆ ~~” หลายเดือนผ่านไปจนถึงตอนนี้เด็กทารกตัวน้อยได้ลืมตามาดูโลกแล้ว 3 เดือนกว่า โดยมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมือใหม่คอยดูแลอยู่เสมอมา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านถึงแม้กิจการร้านกาแฟของเธอจะไปได้ด้วยดี ทว่าพอถึงจุดอิ่มตัวจุดหนึ่งรายได้มันกลับไม่เหมือนเดิม หนำซ้ำยังต้องเจียดเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้อีก ‘ใยไหม’ เด็กน้อย 3 เดือน ที่เพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นาน หนำซ้ำยังต้องคลอดก่อนกำหนดอีก ทำให้สุขภาพของเด็กหญิงตัวน้อยของเราไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก วันนี้เป็นวันที่ใยบัวต้องยอมปิดร้าน 1 วัน เพื่อที่จะได้พาลูกมาหาหมอเพราะไม่สบาย “แง๊~~~~” “ไม่ร้องนะคะคนดี โอ๋ๆๆ ....ให้คุณอาหมอตรวจก่อนนะคะ” “เดี๋ยวคุณแม่นั่งรอข้างนอกก่อนนะคะ” ใยไหมเกิดก่อนกำหนดคลอด 1 เดือน ซึ่งตอนตั้งครรภ์ใยบัวก็พอทราบจากคุณหมอแล้วว่า ความเสี่ยงและความผิดปกติของลูกเธอนั้นมีมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากโรคทางพันธุกรรม พอมานั่งคิดไตร่ตรองดูดีๆ แล้วทางครอบครัวของเธอเองก็ไม่มีใครมีโรคประจำตัวด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมลูกของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่เธอเองก็บำรุงและดูแลครรภ์มาอย่างดีตลอด ทำไมโชคร้ายถึงได้มาตกอยู่กับนางฟ้าตัวน้อยของเธอเช่นนี้ คนเป็นแม่อย่างเธอต้องทุกข์ใจอยู่ไม่น้อยที่ทำให้ลูกเกิดมาไม่แข็งแรงแบบนี้ “คุณแม่คะ คุณหมอวิเชษฎ์เชิญคุณแม่เข้าไปฟังผลของน้องด้านในค่ะ” “อ่อ ค่ะๆ” ใยบัวเดินเข้าไปด้านในห้องตรวจของคุณหมอเจ้าของไข้ของใยไหม ตั้งแต่ตอนคลอดคุณหมอวิเชษฎ์ได้ตรวจและประเมินอาการของเด็กหญิงตัวน้อยว่ามีภาวะ RDS เป็นภาวะที่ปอดผิดปกติหรือปอดไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เกิด จึงทำให้ใยไหมมีอาการหายใจลำบากหอบเหนื่อยง่าย “สวัสดีครับคุณบัว” “สวัสดีค่ะคุณหมอ ตกลงว่าอาการแกเป็นยังไงบ้างคะ?” “ตอนนี้ดูเหมือนอาการของหนูใยไหมจะเริ่มหนักขึ้นมากกว่าเดิมอีกนะครับคุณบัว ผมเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานอาจจะน่าเป็นห่วงหนักขึ้นไปอีก” ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหมอต้องรักษาอาการเบื้องต้นไปก่อน โดยการให้ออกซิเจนแบบธรรมดาไปก่อน เพราะยังอยู่ในภาวะเบื้องต้นเท่านั้น ทว่าในตอนนี้ผลตรวจออกมาล่าสุดกลับพบว่าอาการของเด็กหญิงตัวน้อยเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น “แล้วแบบนี้เราควรจะแก้ไขยังไงดีคะ ช่วยลูกบัวด้วยนะคะคุณหมอ” ใยบัวสงสารลูกสาวตัวน้อยที่ต้องทนหายใจลำบากมาโดยตลอด “ตอนนี้ถ้าหมอจะให้ออกซิเจนน้องอย่างเดียวคงจะไม่ไหวแล้วครับ อาจจะมีการใช้เครื่องช่วยหายใจ อาจจะใส่ท่อช่วยหายใจไปเลย หรืออาจจะต้องถึงขั้นผ่าตัดเลยครับ ผลเอกซเรย์ล่าสุดเท่าที่หมอดูนะครับ ฝ้าขาวที่พบในปอดมันมากขึ้นกว่าเดิมนะครับคุณบัว อยากจะให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยนะครับ” พ่อของเด็กจะรับรู้บ้างหรือไม่ว่าลูกสาวของเขาในตอนนี้ทรมานมากขนาดไหน การเลี้ยงลูกคนเดียวมันเหนื่อยมากสำหรับเธอและทุกข์ใจมาตลอดที่ไม่สามารถทำให้ลูกแข็งแรงเหมือนเด็กทั่วไปได้ “ขอแค่คุณหมอช่วยให้แกหายเป็นปกติ เรื่องเงินบัวจะพยายามหามาให้เต็มที่ค่ะ” ถ้าเธอทำอะไรเพื่อลูกได้ไหนตอนนี้เธอเองก็จะทำ ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายมันจะหนักสักแค่ไหนเธอก็พร้อมจะดิ้นรน “หมอจะทำให้เต็มที่ที่สุดครับ คุณอย่าเป็นกังวลเลย” “บัวขอบคุณหมอมากนะคะ” “เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะให้น้องแอดมิดเลยนะครับ ยังไงเย็นนี้ผมต้องปรึกษาทีมผ่าตัดก่อนตัดสินใจว่าจะวางแผนยังไงกับเคสนี้ดี คุณโอเคนะครับ?” “บัวแล้วแต่หมอเลยค่ะ” “โอเคครับ” คุณหมอวิเชษฎ์เป็นหมอเด็กของที่นี่ และเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง ใยบัวเองก็ฝากฝังความหวังมากมายไว้กับเขา เพราะอาการของเด็กหญิงใยไหมในตอนนี้อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยเลย หลังจากที่ได้คุยปรึกษากับคุณหมอแล้ววันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็คงจะไม่ได้กลับบ้าน เพราะต้องเตรียมทำการรักษาขั้นต่อไปตามที่คุณหมอวางแผน ซึ่งใยบัวได้เซ็นยินยอมและตกลงไปแล้ว ค่าใช้จ่ายของการรักษามันมากมายเหลือเกิน จนเธอมานั่งดูเงินเก็บของตัวเองในตอนนี้มันยังไม่พอต่อการรักษาเลยด้วยซ้ำ คุณแม่มือใหม่นั่งกุมขมับอยู่ข้างๆ เตียงลูกสาวตัวเล็กในห้องพักของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เธอกำลังหาทางออกว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะหาเงินอีกจำนวนหนึ่งมาเพื่อรักษาใยไหม หากจะโทรไปขอความช่วยเหลือทางบ้านในตอนนี้ก็คงจะไม่ได้ หากต้องบากหน้าไปยืมปรเมทก่อนก็ไม่ได้อีก เพราะเขาเองก็เพิ่งจะควักเงินเยียวยาพนักงานที่บริษัททัวร์ไปไม่น้อยกับวิกฤติโรคระบาดในตอนนี้ ร่างบางนั่งเขี่ยโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อยระหว่างที่นั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อย ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ก่อนจะไปสะดุดตากับรูปเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยกที่ขึ้นหน้าฟีดใหม่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา รอยยิ้มในรูปของเพื่อนสาวดูมีความสุข พร้อมกับโพสต์เช็คอินที่เที่ยวในอิตาลี่ ป่านนี้เพื่อนของเธอคงจะมีความสุขกับหมอกันต์ไปแล้ว “ใยไหม ...ถ้าลูกโตขึ้น ลูกจะถามหาพ่อของลูกไหมคะ?” ใบหน้าเศร้าของคนเป็นแม่หันไปมองเด็กหญิงตัวน้อย พร้อมกับนัยน์ตาที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส “แม่ขอโทษนะ ที่ทำให้หนูต้องเป็นแบบนี้ ฮึกก!! ฮืออ~~ …แม่ขอโทษ” จากนั้นความคิดบางอย่างกำลังจุดประกายในหัวของใยบัว ถ้าหากเธอบากหน้าขอเพิ่งเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยกในตอนนี้จะได้หรือไม่ อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็ขอแค่ให้ใยไหมหายดีก่อน แม้จะไม่อยากทำแบบนี้เลยก็ตาม ติ๊ด! (สวัสดีค่ะ?) “ฮัลโหลหยก นี่ฉันใยบัวนะ.....” ใยบัวตัดสินใจต่อสายไปยังเพื่อนสนิท เพราะไม่มีทางไปแล้วจริงๆ หวังว่าปิ่นหยกจะสามารถช่วยได้ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อนสนิท (ใยบัว!!? ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน!? ...แกหายไปอยู่ที่ไหน ห้ะ? รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกแค่ไหน อยู่ดีๆ ก็หายไปเลย ติดต่อก็ไม่ได้) “คือ.... ตอนนี้ฉันมาทำงานที่ภูเก็ตกับคนรู้จักน่ะ แกไม่ต้องห่วงนะ ฉันโทรบอกแม่ฉันแล้ว” (จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง เล่นหายไปแบบไม่บอกใครตั้งเป็นปีน่ะ แล้วนี่แกเป็นยังไงบ้างสบายดีไหม? ไปอยู่ที่นั่นแกทำงานอะไร?) ที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนก็ไม่แปลก เพราะเธอแม้แต่แม่ของเธอเองยังไม่รู้ที่อยู่เลย รู้แค่เพียงว่ามาทำงานที่ภูเก็ตเท่านั้นเอง “ฉันสบายดีแก ..... แอร๋~~ แอ๊ะๆๆๆ .... โอ๋ๆๆ ลูกไม่ร้องนะคะไม่ร้องค่ะ” หนูอย่าเพิ่งร้องตอนนี้นะลูก (นั่นเสียงเด็กที่ไหนร้องน่ะ แกเลี้ยงเด็กหรอ?) จู่ๆ ใยไหมก็งัวเงียตื่นขึ้นมาและร้องไห้ จนผู้เป็นแม่ต้องรีบเข้ามาปลอบที่เตียงหวังจะให้ลูกหยุด และเกิดความสงสัยให้อีกฝ่ายจนได้ “อ่ะ เอ่ออ! ใช่ๆๆ ฉันเลี้ยงเด็ก ฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กน่ะแก คือที่ฉันจะโทรมาหาแกวันนี้คือว่าฉัน ...อยากจะขอยืมเงินแกก่อนได้ไหม? คือช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเงินจริงๆ อ่ะแก ฉันไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้วตอนนี้” ตอนนี้หมดสิ้นยางอายแล้ว ขอแค่เธอได้เงินมารักษาลูกในตอนนี้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง อย่างน้อยเธอก็คิดว่าปิ่นหยกยังเป็นเพื่อนแท้สำหรับเธออยู่ (ได้สิ ขอแค่แกบอกมา ฉันยินดีจะช่วยแกเสมอบัว) “แล้ว.... แกยังอยู่กับหมอกันต์ไหม?” ร่างบางอดไม่ได้ที่จะถามหาใครอีกคน ถ้าหากเขาอยู่กับปิ่นหยกในตอนนี้เกรงว่าสิ่งที่เธอคุยกันกับเพื่อน อาจจะถึงหูเขาได้และเธอก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย (พี่หมอก็นั่งอยู่ตรงนี้กับฉันเลย แกมีอะไรหรือเปล่า?) “เอ่อ มะ! ไม่มีๆ งั้นเดี๋ยวฉันส่งเลขบัญชีให้แกเลยนะ แค่นี้ก่อนนะหยก ขอบคุณแกมากๆ เลยนะ ฉันสัญญาว่าฉันจะรีบหามาคืนแกให้เร็วที่สุดเลย” ติ๊ด! เมื่อฟังเพื่อนบอกแบบนั้น มือเรียวจึงรีบกดวางสายเลย ยังไม่ทันที่จะได้ขอร้องให้ปิ่นหยกเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเลยด้วยซ้ำ ทว่าความกลับแตกก่อน และหมอกันต์ก็อาจจะรับรู้เรื่องที่เธอโทรมาหาภรรยาของเขาแล้ว เธอพลาดไปที่ลืมคิดว่าสองคนนั้นอาจจะอยู่ด้วยกันในตอนนี้ และมันอาจจะนำมาซึ่งความวุ่นวายได้ในอนาคต ...เธอพลาดไปจริงๆChapter 5[5/2]@โรม, อิตาลี่(หมอชลกันต์ ทอร์ค)1 ปีกว่าแล้ว ที่ผมแต่งงานและได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ผมรัก ตอนนี้ผมและหยกมีเจ้าตัวน้อยที่ชื่อปกป้องเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของเราให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่จะเรียกว่าครอบครัวสมบูรณ์แล้วก็คงจะไม่เชิงหรอกเพราะถ้าให้สมบูรณ์แบบโดยวัดจากสิ่งที่คนทั่วไปมองก็คงต้องตอบว่าใช่ แต่ถ้าเอาตามจริงคำนิยามสำหรับผม ‘ครอบครัวสมบูรณ์แบบ’ ก็คงจะเป็นเรื่องของความรู้สึกรักกันของคนในครอบครัวมากกว่าซึ่งผมรับรู้แล้วก็สัมผัสได้มาโดยตลอดว่า แม่ของปกป้องก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับเรื่องนี้แม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ผมรู้ว่าปิ่นหยกยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้คนรักเก่า และถึงแม้ผมจะทำเป็นไม่สนใจไยดีสักแค่ไหน แต่ก็หนีไม่พ้นความจริงที่เจ็บปวดแบบนี้ได้เลยผมคงเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ไม่กล้ายอมรับความจริง และเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากคนหนึ่งก็เท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดอยู่เสมอว่าอนาคตอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ระหว่างผมกับหยกเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้จริงๆ หรอ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้รักผมเลยด้วยซ้ำหลายวันก่อนผมเลยตัดสินใจพาปกป้องและปิ่นหยกมาเที่ยวที่อิตาลี่ โดยให้เหตุผลว่ามาเที
Chapter 6[6/1](หมอชลกันต์ ทอร์ค)“ฮึกก! ฮือออ~ หายไปไหนมา ฮึกก! คนใจร้าย หายไปไหนมา ฮืออ..”“คิดถึงไหม? คิดถึงพี่ เหมือนที่พี่คิดถึงเราไหม หยก....”“ไม่คิดถึง ฮึกก ฮืออ.... ไม่คิดถึงเลย”“หืม? จริงดิ่? ไม่คิดถึงแล้วร้องไห้ทำไม”ปึ่กๆ!!“เป็นห่วง ฮึกก เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว ฮืออ... กลัวไปหมด ฮึก! กลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไป”“อย่างนั้นเลย?”“อื้มมม!! 0_0”ผมกำลังยืนดูฉากรักในหนังดราม่าน้ำเน่าอยู่ ขณะที่ทั้งสองคนยืนจูบกันอยู่ตอนนี้โดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วยคนรักเก่าของหยกกำลังกอดเธออยู่ในช่วงค่ำคืนงานนิทรรศการระดับโลก แสงไฟน้อยนิดที่สาดส่องจากด้านในอาคารที่จัดงานมายังสวนที่พวกเรายืนอยู่ เลยอาจจะทำให้พวกเขาไม่ได้สนใจคนมาใหม่อย่างผมถ้าหากหยกยังรู้สึกกับเขาอยู่หรืออยากกลับไปอยู่กับเขา ผมก็จะยอมน้อมรับความจริงและปล่อยเธอไป จะไม่หลอกตัวเองอีกแล้วแม้ว่าข้างในใจของผมมันจะอยากมีเธออยู่ด้วยก็ตาม“หยก”ผมตัดสินใจเรียกหยกท่ามกลางจังหวะที่ทั้งสองยังยืนกอดกันอยู่ ผมยืนอยู่และกำลังมองไปยังทั้งสองคนยอมรับว่าใจยังไม่แข็งพอที่จะพูดอะไรออกไป แต่ถ้าผมไม่ยอมจบตอนนี้ คนที่เสียใจอาจจะมีมากก
Chapter 6[6/2]@ภูเก็ต, ประเทศไทยสองแม่ลูกยังคงอยู่ที่ห้องพักของทางโรงพยาบาลจนถึงช่วงดึก คุณหมอเจ้าของไข้ของเด็กหญิงใยไหมมาบอกผู้เป็นแม่แล้วว่า การผ่าตัดสำหรับคืนนี้อาจจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากทีมแพทย์ยังไม่ได้ข้อสรุปของแผนที่จะทำการผ่าตัดสอดท่อ สำหรับเด็กเล็กขนาดนี้ความเสี่ยงนั้นมีมากมาย ถ้าทุกสิ่งอย่างไม่เอื้ออำนวยหรือติดขัดอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กมาเลยทีเดียวอีกทั้งยังต้องรอศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลร่วม ที่เก่งในเรื่องผ่าตัดเข้ามาช่วยอีกแรง ซึ่งคุณหมอวิเชษฎ์ยืนยันว่าหมอผ่าตัดคนนี้จะช่วยให้การรักษาของใยไหมดีขึ้น แต่ก็ต้องรอไปอีกจนถึงพรุ่งนี้ตอนค่ำเหมือนเดิม“แอ่กๆ แอร๋~”เด็กน้อยตัวเล็กยังนอนร้องไห้ในอกแม่ไม่หยุดเป็นระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ยิ่งร้องมากเท่าไหร่ น้ำมูกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จนมันไปส่งผลกระทบทำให้หายใจลำบากขึ้นไปอีก“โอ๋ๆๆ ... คนดีของแม่ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอคนเก่งก็มาหาหนูแล้วนะคะ ไม่ร้องๆ ลูก”ผู้เป็นแม่ปลอบลูกสาวตัวน้อยให้ไม่ร้องในอ้อมอกอุ่น ทว่ากลับเป็นเธอเสียเองที่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาได้ด้วยความที่นึก
Chapter 7[7/1]@ภูเก็ต, ประเทศไทยเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ใยไหมจะต้องเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งคนเป็นแม่อย่างใยบัวมีความกดดันไม่น้อยเลย เธอไม่รู้ว่าผลการรักษาจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาขอให้นางฟ้าตัวน้อยของเธอปลอดภัย“คุณแม่และญาติรอน้องด้านนอกก่อนนะคะ” เสียงพยาบาลหน้าห้องผ่าตัดบอกทั้งสามคนให้รอด้านนอก“บัวกังวลจังเลยค่ะ”“เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะไม่เป็นไรบัว อย่าคิดมากเลยนะครับ”ปรเมทเอื้อมมือมาจับใยบัวเอาไว้แน่น เขาอยากให้เธอไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเกินไป อย่างไรเสียก็ถึงมือหมอแล้ว เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะต้องไม่เป็นอะไร“หนูบัว อย่าเครียดเลยนะลูก”“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ”ป้ายัชฟินรู้จักกับใยบัวมาปีกว่า ถึงจะไม่มาก ทว่าเธอก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ให้สองแม่ลูก ถ้าหากเห็นใยบัวไม่สบายใจ เธอเองก็อดสงสารไม่ได้เลยจริงๆ20.00 น.ทั้งสามคนยังนั่งตั้งหน้าตั้งตาอยู่หน้าห้องผ่าตัด เป็นเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงมากแล้วที่นางฟ้าตัวน้อยของพวกเขายังอยู่ด้านในนั้น และยังไร้วี่แววประตูจะเปิดออกมาเลย“น้องบัว.... หนูใยไหมเป็นยังไงบ้าง?” หญิงสาวผู้มาใหม่กึ่งวิ่งกึ่งเดินรีบมาหา
Chapter 7[7/2]ตอนนี้ทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ใยบัวที่ยังต้องเฝ้านางฟ้าตัวน้อยของเธออยู่ ตั้งแต่ออกมาจากห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย คนเป็นแม่อย่างเธอได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวหายไวๆเธอวาดฝันอนาคตของตัวเองและใยไหมไว้ต่างๆ นานา ถ้าลูกโตขึ้นกว่านี้เธอจะพาลูกไปเที่ยว ไปทานของอร่อยๆ กัน จะพาลูกไปเดินช้อปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ให้ลูก เลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นทุกอย่างที่ลูกอยากได้เธอจะพยายามสนับสนุนเขาเต็มที่ ถึงแม้ครอบครัวของเด็กคนอื่นอาจจะมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่เธอเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้ลูกหรือแม้กระทั่งความรักที่มอบให้ใยไหม มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไปได้แกร่ก!“พี่ปลื้ม!?” เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับปรเมทที่รีบเดินเข้ามาในห้อง คุณแม่ลูกหนึ่งจึงต้องหันไปมองผู้มาใหม่“บัวพี่ลืมมือถือน่ะ จำได้ว่าวางไว้โต๊ะแถวนี้”“อ่อ... นี่ค่ะ บัวเก็บเอาไว้ให้” ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เธอเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนนะ”“ขับรถดีๆ นะคะ”เมื่อได้
Chapter 8[8/1]“งั้นคุณคงต้องไปฟ้องกันที่ศาลแล้วล่ะค่ะ ยังไงบัวกับลูกก็ไม่มีวันไปกับหมอแน่นอน”ใยบัวขอยื่นคำขาดเพราะอย่างไรเธอก็จะไม่มีวันให้ลูกไปอยู่กับเขา ใช่.... เขาเป็นหมอ เขามีเงิน มีอำนาจเหลือล้นที่อาจจะช่วยให้ใยไหมอยู่สุขสบายได้ตลอดแต่ไม่คิดบ้างหรอว่าที่ผ่านมาเรื่องระหว่างเรามันเป็นแค่ความผิดพลาด ที่เกิดจากการกระทำที่ขาดสติของคนทั้งสองที่ใยบัวต้องคิดแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากกีดกันพ่อกับลูก ต่อให้หมอบอกว่ากำลังจะหย่ากับปิ่นหยกด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ถ้าเขาอยากจะรับผิดชอบเรื่องนี้จริงๆ ก็แค่ออกไปจากชีวิตของพวกเราสองคนแม่ลูก ก็เท่านั้น....อย่าให้ลูกต้องตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านเลยว่า มีแม่ไปแอบตีท้ายครัวคนอื่นจนท้องกับสามีชาวบ้าน แบบนี้ใยบัวคิดว่ามีแต่จะวุ่นวายไปกันใหญ่ แล้วเธอจะมองหน้าเพื่อนสนิท และทุกๆ คนได้อย่างไร“คุณอย่าเอาแต่ใจเลย ถ้าลูกโตขึ้นคุณบอกผมได้ไหมว่าแกจะมีชีวิตที่ดีได้ยังไง? คุณบอกผมได้ไหม... ถ้าลูกกลับมาเป็นแบบนี้อีก คุณจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนมารักษาแก? ถ้าคุณมี... คุณคงไม่โทรไปหาหยกหรอกจริงไหม? ตอบผมสิบัว”“ฮึก!! ฮือ.... ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าบัวไม่พยายาม ทุกวันนี้ก็พยายามอ
Chapter 8[8/2]1 อาทิตย์เต็มๆ ที่ใยบัวใช้ชีวิตอยู่กับลูกที่โรงพยาบาล จนตอนนี้คุณก็ยังอยากให้เจ้าตัวน้อยของเธออยู่ดูอาการก่อนอีกสักสองสามคืนโชคดีที่มีน้ำตาลและปรเมทผลัดกันไปช่วยดูร้านกาแฟให้เธอ หลักๆ ส่วนมากก็จะเป็นน้ำตาลเพราะปรเมทเองเขาก็มีงานประจำที่ยังทำอยู่ส่วนป้ายัชฟินก็จะมาได้เฉพาะแค่ช่วงเย็นหลังจากปิดร้านอาหารเสร็จเท่านั้น ใยบัวถึงจะได้กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านวันนี้ใยไหมอาการดีขึ้นมาหายใจได้โล่งขึ้นจากเดิม ถึงแม้ว่าจะยังมีเครื่องออกซิเจนช่วยก็ตาม อีกไม่นานเธอเชื่อว่านางฟ้าตัวน้อยเยาว์วัยอย่างเข้าเดือนที่ 4 มาหมาดๆ จะต้องหายเป็นปกติหมอวิเชษฎ์ได้คุยกับใยบัวแล้วเมื่อวานนี้ ว่าถึงแม้จะรักษาแล้วก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหายขาดจากโรคนี้ไม่ได้เหมือนกัน“บัวกับตาลลงไปหาอะไรทานไหม? เดี๋ยวพี่จะดูเจ้าตัวเล็กให้เอง” ปรเมทถามสาวๆ ทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่บนโซฟาภายในห้องวันนี้เขากับน้ำตาลปิดร้านให้ใยบัวเร็วกว่าปกติ เพราะขายดีจนของที่สแปร์เอาไว้ยังหมดเกลี้ยง จึงได้มาเยี่ยมหลานเร็วกว่าทุกวัน“ไปไหมบัว พี่ชักจะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน” น้ำตาลดูเหมือนจะหิวมากกว่าใคร
Chapter 9 [9/1] หลังจากที่หมอกันต์บุกมาป่วนถึงโรงพยาบาลในหลายวันก่อน จนถึงตอนนี้ใยบัวก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย และใยไหมก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใยบัวเพิ่งทราบจากคุณหมอวิเชษฎ์ว่าที่แท้จริงแล้วเขากับหมอกันต์เป็นญาติกัน และเขายังบอกอีกว่าเคยเล่าเรื่องเคสของใยไหมให้หมอกันต์ฟัง คุณหมอวิเชษฎ์เห็นว่าใยไหมมีอาการแบบเดียวกับหมอกันต์เมื่อตอนยังเป็นเด็ก พอได้ฟังแบบนั้นแล้วใยบัวจึงเข้าใจที่มาของโรคทางพันธุกรรมของลูกสาวตัวน้อยแล้ว และก็แอบโกรธอีกคนที่ทำให้ใยไหมต้องเป็นแบบนี้ ตอนนี้ใยบัวก็ยังเปิดร้านตามปกติ และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบร้านไปเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของปรเมทกับเจ้าแม่สาวขนมหวานจะเป็นไปได้ดี ถึงขั้นเอ่ยปากให้น้ำตาลมาทำหน้าที่หุ้นส่วนร้านแทนเขา เนื่องจากปรเมทยังมีงานประจำที่บริษัททัวร์ของตัวเองอยู่ ส่วนใยบัวก็คงจะทำงานที่ร้านได้ไม่เต็มที่เหมือนอย่างเก่า เพราะต้องวิ่งหัวหมุนทั้งสองหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟที่ต้องดูแลช่วยกันกับน้ำตาล และอีกบทบาทคือการต้องดูแลเจ้าตัวเล็กของเธอควบคู่กันไปด้วย “บัวขึ้นไปดูใยไหมก่อนนะคะพี่ตาล เดี๋ยวให้น้องพราวลงมาช่วยค่ะ”
Special X[ปกป้อง x ใยไหม]บอสตัน เป็นเมืองที่มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่าร้อยแห่ง มีนักเรียนต่างชาติมากกว่าหลักแสนคน เมืองนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีการศึกษาดีที่สุดของโลก และยังเป็นเมืองที่สร้างโอกาสในการทำงานให้แก่เหล่านักเรียนอีกมากมายแน่นอนว่าในบรรดานักธุรกิจในเมืองไทยหลายต่อหลายคน ล้วนอยากส่งเสริมให้ลูกของตนเองนั้นได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และหนึ่งในตัวเลือกหลักของคนกลุ่มนี้ก็มักจะส่งลูกตนเองมาเรียนกันที่นี่" ปก ดูสิ ตอนนี้ชุดของเพชรเปื้อนไปหมดแล้วเนี่ย เพราะยัยบ้านนอกนั่นคนเดียวเลย เจอกันในคลาสก็ทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ นี่ยังจะมาเจอกันข้างนอกอีก หึ่ยย!"สาวสวยร่างระหงรีบกอดแขนออเซาะเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่ตัวเองโดนผู้หญิงอีกคนซุ่มซ่ามทำน้ำกาแฟหกเลอะใส่ตัวน้ำเพชรเป็นหญิงสาวชาวไทยที่เติบโตในต่างแดน หล่อนย้ายมาอยู่กับครอบครัวตั้งแต่สมัยยังเด็กแล้ว ทั้งชีวิตของหล่อนได้รับการศึกษาที่ดีจากเมืองนี้มาโดยตลอดจนกระทั่งหล่อนโต ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บอสตันอีกเช่นเคย เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หล่อนก็แยกย้ายจากเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมาด้วยกันสมัยไฮสคูล จะเหลือก็แต่ ‘ปกป
Special IXpart 2“เข้ามาก่อนก็ได้ครับ” ชลกันต์บอกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งเข้าทรงอยู่หน้าประตู ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงและเริ่มขยับตัวตาม“ขอโทษค่ะ รักไม่รู้ว่าอาจารย์หมอมีแขก”ใยบัวมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกันกับผ้าเช็ดหน้าที่เธอคนนี้ถืออยู่ ผ้าผืนนั้นมันคือผืนที่เธอเป็นคนซื้อให้สามีเอง แล้วที่เธอบอกว่าหมอกันต์ลืมเอาไว้ในกระเป๋าของเด็กผู้หญิงตรงหน้า มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน นี่สามีเธอกลายเป็นคนขี้ลืมของไว้ในกระเป๋าคนอื่นได้ด้วยงั้นเหรอ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณ...?”“รักค่ะ คุณคงจะเป็นภรรยาของอาจารย์หมอใช่ไหมคะ? ตัวจริงสวยกว่าในรูปในกระเป๋าตังค์ของอาจารย์อีกนะคะเนี่ย”“กระเป๋าตังค์?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนี้ยังยืนพูดอยู่ กลิ่นน้ำหอมของเธอถูกพัดโชยเข้ามาเตะปลายจมูก กลิ่นนี้ที่ใยบัวเคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันคือกลิ่นเดียวกันกับที่เคยติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตที่เคยซักให้สามี และเมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนี้ยังบอกอีกว่าเคยเห็นรูปของเธอในกระเป๋าเงินของสามีเธออย่างนั้นเหรอเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?ใยบัวเปลี่ยนอิริยาบถการนั่ง ก่อนจะเดินเข้าหาสามี เธอแตะไหล่หนาเอาไว้มั่นมือ จากนั
Special IXpart 1“สวัสดีค่ะคุณบัว …แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ ดึกแล้วแท้ๆ” นางพยาบาลสาวสวยที่รับหน้ามี่ประจำหน้าห้อทักทายขึ้น เมื่อเห็นว่ามีแขกคนสำคัญของเจ้าของห้องนี้มา“ขอบคุณค่ะ คุณฝน พอดีบัวคิดว่าคุณหมออยู่เวรดึกน่าจะหิว บัวก็เลยทำกับข้าวมื้อดึกแล้วก็รีบเอามาให้ค่ะ”เธอถือปิ่นโตใบเล็กยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่คุยอยู่กับพยาบาลหน้าห้องของสามี อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ตนเองไม่ทำมา อย่างไรซะสามีของเธอก็ออกไปหาอาหารทานข้างนอกได้อย่างสบายอยู่แล้ว แต่ที่อุตส่าห์ทำมื้อดึกมาให้เขาตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากมาให้เห็นกับตาตัวเองมากกว่า ว่าเรื่องที่เธอสงสัยอยู่มันเป็นมาอย่างไรกันแน่“แหม…. ช่างเป็นภรรยาที่เอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่คุณบัวคงมาช้าไปแล้วมั้งคะ”“?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเครื่องหมายคำถาม ขณะที่พยาบาลสาวพูดให้เธอได้เกิดความสงสัย“ก็คุณหมอน่ะ เพิ่งจะเอาไปกินก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งกับน้องรัก เมื่อตะกี้นี้เองค่ะ”“รัก?” เธอไม่คุ้นหูกับชื่อนี้มาก่อนเลย“อ๋อ ก็น้องต้องรัก ที่เป็นเด็กเอ็กเทิร์นของแผนกเราน่ะค่ะคุณบัว คนนี้เก่งใช้ได้เลยนะคะ…. ถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่ได้คำชื่นชมจากปากคุณหมอกันต์ง่ายๆ หรอกค่ะ ค
Special VIIIหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงกลางวันไปแล้ว ก็ถึงเวลาส่งลูกเข้านอนที่ห้องพักของพี่เลี้ยงที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ เด็กๆ ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้นอนกับนภา เพราะที่ผ่านมานภาจะมาทำงานที่บ้านของเจ้านายเฉพาะช่วงตอนกลางวันเท่านั้น เธอทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นโอกาสที่จะได้นอนกับพี่เลี้ยงในค่ำคืนนี้จึงเป็นคืนพิเศษสำหรับเด็กน้อยทั้งสอง“ป้าภาขา~ วันนี้น้องไหมจะนอนฝั่งนี้นะคะ” พอเข้ามาห้องของพี่เลี้ยงแล้ว เด็กหญิงก็รีบอุ้มตุ๊กตากระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงทางฝั่งที่ตัวเองได้เลือกเอาไว้เลย“แอร๊~ อี่ๆ” ส่วนเจ้าหนูใยแก้วก็ไม่น้อยหน้าพี่สาวเลย แม้จะยังไม่ประสีประสาอะไร ทว่าก็ยังอยากจะสื่อสารออกมาเหมือนคนอื่นๆ และเมื่อเห็นพี่สาวขึ้นไปนอนบนเตียงบ้าง ใยแก้วก็อยากจะทำเหมือนอย่างพี่สาว โดยที่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปทางอีกฟากมุมของเตียง เป็นการสื่อว่าเจ้าหนูตัวน้อยอยากจะได้พื้นที่ตรงนั้นคนมาส่งเด็กทั้งสองอย่างใยบัวถึงกับอดขำเจ้าตัวแสบไม่ได้ ใยแก้วกำลังมีพฤติกรรมเลียนแบบพี่สาวของตัวเอง ไม่ว่าใยไหมจะทำอะไรหรือพูดอะไรน้องสาวของเธอก็มักจะทำตามเสมอ“บัวฝากด้วยนะคะพี่ภา”“ได้เลยค่ะ คุณบัวไม่
Special VIIชลกันต์ทำตามที่ตนเองรับปากกับลูกเมียเอาไว้ได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้เดินทางไปเที่ยวจริงๆ แล้ว เด็กหญิงใยไหมดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษเพราะนานๆ ทีจะได้ไปเปิดหูเปิดตาไกลบ้านตัวเองคราวนี้ชลกันต์ถึงขั้นให้โบนัสพี่เลี้ยงเด็กอย่างนภาเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมทั้งที่พักแบบฟรีๆ ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากกลัวว่าภรรยาของเขาจะเหนื่อยหากทั้งเที่ยวและยังต้องดูแลลูกน้อยทั้งสองอีก ดังนั้นการพาพี่เลี้ยงเด็กไปด้วยอาจจะเป็นผลดีมากกว่าส่วนเด็กหญิงใยแก้วที่ยังไม่ประสีประสาอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่จะพาตนเองไปไหน เพียงแต่เห็นพี่สาวมีท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เห็นดังนั้นแล้วก็อดตื่นเต้นตามพี่สาวไม่ได้“คิกกๆ คูมแม่ขา~ ทำไมเยาต้องขึ้นเครื่องบินไปคะ? ทำไมเยาไม่ยั่งยดไปอ่า” เด็กหญิงใยไหมหยุดสนใจไอศกรีมในมือของตัวเองก่อนจะตั้งคำถามที่ยังสงสัยมานานแล้ว“เรานั่งรถไปไม่ได้หรอกนะคะ มันไกลมากกก”“ใช่แล้วจ้ะใยไหม” พี่เลี้ยงเด็กพูดเสริมคุณแม่ของเด็กตัวน้อย“ใช่ครับลูก ที่ที่เราไปมีแต่ทะเลภูเขาล้อมรอบ พ่อขับรถไปเองไม่ไหวหรอกนะครับ”“อ๋อออ อย่างงั้นเองหยอ”“ครับ”ชลกันต์นึกขำก
Special VIหลายวันถัดมาหลังจากที่ชลกันต์กลับบ้านดึกวันนั้น ใยบัวก็เริ่มตงิดในใจมากขึ้นแล้ว วันนี้โชคดีที่ใยไหมไปโรงเรียนและเจ้าตัวเล็กก็ไปนอนกับคุณยายที่จันทบุรีแล้ว กว่าจะกลับกรุงเทพฯ ก็น่าจะตอนเย็นเลยคุณแม่ลูกสองจึงถือโอกาสเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงพยาบาลของสามี อันที่จริงในวันแต่งงานนอกจากสินสอดทองมั่นที่เธอควรจะได้แล้ว คุณหญิงและท่านผู้ว่าฯยังมีเมตตากรุณายกหุ้นส่วนในเครือโรงพยาบาลในเธอได้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมอีก ซึ่งเธอเองก็ซาบซึ้งน้ำใจของพ่อกับแม่สามีเป็นอย่างมากวันนี้ร่างบางแต่งตัวด้วยชุดออกแนวเป็นทางการสักหน่อย เพราะมีคุยธุระกับคุณหญิงวิมลรัตน์และคุณหมอตุลา เรื่องสาขาในเครือที่ต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะเห็นว่าจะลงทุนซื้อเครื่องมือการแพทย์แบบใหม่เพิ่มอีกทุกสาขาดังนั้นในฐานะหุ้นส่วนสำคัญที่เจ้าของโรงพยาบาลให้เกียรติคนอย่างเธอก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อีกทั้งถ้าหากเด็กน้อยที่บ้านโตขึ้นจนดูแลตัวเองกันได้แล้ว เธอก็อยากจะเข้ามาทำงานช่วยกิจการครอบครัวบ้าง“หนูบัวจ้ะ แม่คิดว่าเครื่องมือแพทย์ของบริษัทที่ตาตุลย์เสนอมาให้มันก็ราคาค่อนข้างสูงมากเลยนะ หรือหนูคิดว่าไง?” แม่สามีทั
Chapter V“วันนี้จะลงมือซักผ้าเองเลยเหรอคะคุณบัว?” สาวใช้คนเดียวเอ่ยถามภรรยาของเจ้าของบ้าน เมื่อเห็นว่าเธอกำลังถือตะกร้าผ้าลงมาด้านล่างทางห้องซักล้างเดิมทีใยบัวและนภาต่างก็ช่วยเรื่องงานบ้านกันเสมออยู่แล้ว เพราะใยบัวเองก็ไม่ได้ทำขนมส่งลูกค้าอย่างเช่นเคยเนื่องจากต้องมีเวลาให้ลูกๆ ทั้งสองคนมากกว่านี้“ชุดทำงานของคุณหมอน่ะค่ะพี่ภา ไม่เยอะเท่าไหร่”“ขยันจังนะคะ จริง ๆ ให้พี่ซักให้ก็ได้ค่ะ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะ บัวอยากซักเอง”“งั้นเดี๋ยวพี่ไปดูคุณหนูๆ ก่อนนะคะ”“ค่ะ”จากนั้นคุณแม่ลูกสองจึงเดินถือตะกร้ามาถึงห้องซักผ้า เพื่อทำการซักมือ เนื่องจากเสื้อผ้าของผู้เป็นสามีส่วนมากจะเน้นโทนสีขาวรวมทั้งชุดกราวนด์อีก 2-3 ตัวนี้ด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขยี้ด้วยมือมาถึงขั้นตอนที่ต้องจุ่มผ้าแต่ละผืนลงใส่น้ำ แม่บ้านจำเป็นอย่างใยบัวไม่รอช้า ก่อนที่หยิบชิ้นแรกขึ้นมาเพื่อเตรียมซัก ทว่าก่อนที่จะได้ลงไปในกะละมัง มือบางกลับต้องชะงักค้างกลางอากาศ เมื่อได้กลิ่นของน้ำหอมที่ตนเองรู้สึกไม่คุ้นชินกับมันเลยสักนิด“หืม.... กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนี่?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อดมกลิ่นบนเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้เป็นสามีกล
Special IVก๊อกๆๆๆ“เชิญครับ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่นานเจ้าของห้องก็กล่าวอนุญาต จากนั้นก็มีร่างของหญิงสาวสวมใส่ชุดกาวน์สีขาวทรงสั้นเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือ ใช่แล้ว... คนที่เข้ามาเมื่อครู่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากหมอด้วยกัน“พอดีว่ารักจะมาปรึกษาเรื่องเคสคนไข้กับอาจารย์หมอนิดหน่อยน่ะค่ะ พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?” ต้องรักเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 หรือเรียกกันง่ายภาษาหมอว่า Extern หรือเอาแบบแปลไทยเป็นไทยเลยก็เรียกได้ว่า ‘นิสิตแพทย์เวชปฏิบัติ’ต้องรักมาฝึกงานที่นี่ได้ 2 สัปดาห์กว่าแล้วตามที่หลักสูตรกำหนด ที่เธอเลือกมาโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เพราะว่าชลกันต์เคยไปอบรมที่คณะแพทย์อยู่บ่อยครั้งหญิงสาวนักศึกษาแพทย์หน้าตาสะสวยอย่างต้องรัก ปลาบปลื้มผลงานและรูปร่างหน้าตาของหมอชลกันต์เป็นทุนเดิม ยิ่งพอรู้ว่าเขาคือทายาทเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้แล้ว มีหรือที่เธอจะไม่อยากมาทำงานที่นี่“ได้สิครับ ตอนนี้ผมยังพักเบรกอยู่” หมอหนุ่มรุ่นพี่อนุญาตแล้ว พลางกับผายมือออกมาตรงหน้าเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้อีกฝ่ายนั่งลงเก้าอี้ตรงหน้า ต้องรักพยักหน้าขอบคุณก่อนจะนั่งลง พร้อมกับเอกสารในมือที่ถือมาด้วย“เป็นเคส OR ออร์โธป
Special III“กรี๊ดดดด!!!”ปึกก!!เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจตามมาด้วยเสียงของหล่นลงพื้น ภายในสวนหย่อมข้างๆ กับสนามฟุตบอลขนาดเล็กของโรงเรียน ในช่วงพักกลางวันเด็กๆ ต่างวิ่งเล่นซุกซนกันไปมาอย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นยังมีเจ้าตัวจิ๋วชั้นอนุบาล 2 อย่างใยไหมกับปกป้องอยู่ด้วยและเสียงที่กรีดร้องออกมาเมื่อครู่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากขาประจำของเราอีกเช่นเคยใยไหมโดนปกป้องแกล้งอีกครั้งอย่างที่เคยเป็น เพราะเหตุนี้เลยทำให้เด็กทั้งคู่ไม่ชอบอยู่ด้วยกันเท่าไหร่นัก แม้ใยไหมจะแสบและซนเวลาอยู่ที่บ้าน ทว่าพอมาโรงเรียนเธอก็มักจะแพ้ความแสบซนของเด็กที่ชื่อปกป้องแบบขาดรอยวันนี้ก็เช่นกันที่ปกป้องเอาหนอนตัวเขียวตาโตตาหน้าน่าเกลียดมาใส่ไว้ในรองเท้าของใยไหม ขณะที่เธอกำลังวิ่งเล่นนอยู่กับเพื่อนอีกคนและได้ถอดรองเท้าเอาไว้ไม่ไกลมากนัก เพื่อให้ตนเองวิ่งได้อย่างสะดวกมากขึ้น พอกลับมาจะใส่รองเท้าอีกครั้งกลับต้องเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด จนต้องโยนรองเท้าทิ้งไป“ฮ่าๆๆๆ สมน้ำหน้า แบร่ๆ” เด็กชายตัวโตดูเหมือนจะพอใจในผลงานของตนเองเป็นอย่างมาก จนกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่“ฮึกก!! เยาจาฟ้องคูมพ่อกับคูมแม่ ฮือออๆๆ ~”“ฟ้องไปเลยเ