Chapter 7
[7/1] @ภูเก็ต, ประเทศไทย เวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ใยไหมจะต้องเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งคนเป็นแม่อย่างใยบัวมีความกดดันไม่น้อยเลย เธอไม่รู้ว่าผลการรักษาจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาขอให้นางฟ้าตัวน้อยของเธอปลอดภัย “คุณแม่และญาติรอน้องด้านนอกก่อนนะคะ” เสียงพยาบาลหน้าห้องผ่าตัดบอกทั้งสามคนให้รอด้านนอก “บัวกังวลจังเลยค่ะ” “เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะไม่เป็นไรบัว อย่าคิดมากเลยนะครับ” ปรเมทเอื้อมมือมาจับใยบัวเอาไว้แน่น เขาอยากให้เธอไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเกินไป อย่างไรเสียก็ถึงมือหมอแล้ว เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะต้องไม่เป็นอะไร “หนูบัว อย่าเครียดเลยนะลูก” “ขอบคุณทุกคนมากนะคะ” ป้ายัชฟินรู้จักกับใยบัวมาปีกว่า ถึงจะไม่มาก ทว่าเธอก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ให้สองแม่ลูก ถ้าหากเห็นใยบัวไม่สบายใจ เธอเองก็อดสงสารไม่ได้เลยจริงๆ 20.00 น. ทั้งสามคนยังนั่งตั้งหน้าตั้งตาอยู่หน้าห้องผ่าตัด เป็นเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงมากแล้วที่นางฟ้าตัวน้อยของพวกเขายังอยู่ด้านในนั้น และยังไร้วี่แววประตูจะเปิดออกมาเลย “น้องบัว.... หนูใยไหมเป็นยังไงบ้าง?” หญิงสาวผู้มาใหม่กึ่งวิ่งกึ่งเดินรีบมาหาทั้งสามคน ‘น้ำตาล’ สาวสวยร้านเบเกอรี่ที่ฝากขนมทั้งหลายอย่างลงที่ร้านกาแฟของใยบัว “พี่ตาล! มาได้ไงคะ?” “คุณปลื้มโทรบอกพี่น่ะ” “พี่โทรบอกเองล่ะบัว” “หมอยังไม่ออกมาจากห้องเลยค่ะพี่ตาล ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มา” ใยบัวบอกกับพี่สาวคนสวย เธอรู้จักกันมาก็ตั้งแต่เปิดร้านกาแฟได้ใหม่ๆ น้ำตาลเป็นคนสวยอ่อนหวานใจดี และที่สำคัญดูเหมือนว่าพักนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายและพี่สาวของใยบัวทั้งสอง จะมีการพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว ปรเมทชอบแม่ค้าสายขนมหวานคนนี้มานานแล้ว เพราะเป็นหนุ่มขี้อายก็เลยไม่กล้าแสดงออกบอกอีกฝ่ายไปตรงๆ ว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่คงไม่รอดพ้นสายตาของน้องสาวอย่างใยบัว ตลอดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกับคนทั้งสอง เธอดูออกตั้งนานแล้วว่าเขามีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันและกัน แกร่ก! “คุณหมอคะ!! ลูกบัวเป็นยังไงบ้างคะ ทุกอย่างโอเครึเปล่า?” ทันทีที่มีคนเปิดประตูออกมาจากห้องผ่าตัด ร่างบางก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปถามถึงอาการลูกสาวตัวน้อยของเธอเลย คุณหมอที่อยู่ในชุดผ่าตัดใบหน้าถูกปกคลุมด้วยแมสชิ้นหนาอย่างดี แทบมองไม่ออกด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าคือคุณหมอท่านไหน ทว่าใยบัวก็ไม่ได้สนใจอยากจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามเขาในตอนนี้ ขอแค่รู้ว่าใยไหมปลอดภัยแล้วก็แค่นั้น “หมอคะ... หลานของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะหมอ” “ว่าไงครับหมอ” ยัชฟินและปรเมทก็รีบเดินเข้ามาสมทบด้วยอีกคน อยากจะรู้ว่าหลานสาวตัวน้อยในห้องนี้ปลอดภัยดีหรือไม่ “หมอคะ….?” ใยบัวเห็นคุณหมอคนนี้เงียบไปสักพักและยังไม่ได้ตอบคำถามของพวกเธอเลย ไม่รู้ว่าเขามัวแต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ทำไม คนรอคำตอบอย่างเธอก็ยิ่งทุกข์ใจเข้าไปใหญ่ “เด็กปลอดภัยแล้วครับ” พูดแค่นั้นคุณหมอนิรนามก็เดินออกจากห้องผ่าตัดไปเลย โดยที่ไม่รอให้อีกฝ่ายผู้ปกครองของเด็กได้ถามต่อ “ลูก... ใยไหมปลอดภัยแล้ว ลูกของแม่ปลอดภัยแล้ว ฮึก...!” น้ำแห่งความดีใจของคนเป็นแม่ เมื่อรับรู้แล้วว่านางฟ้าตัวน้อยของเธอปลอดภัยดีแล้ว “ดีแล้วล่ะบัว” “พี่ดีใจด้วยนะบัว” ปรเมทและทุกคนก็ต่างโล่งอกไปกับใยบัวเหมือนกัน ระหว่างที่ทุกคนกำลังยืนดีอกดีใจให้กับการผ่าตัดในครั้งนี้ที่สามารถผ่านพ้นไปด้วยดี ก็มีคุณหมอเดินออกมาจากห้องผ่าตัดอีกราย “สวัสครับดีคุณบัว” “คุณหมอเชษฎ์ ลูกบัวปลอดภัยแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ?” ใยบัวเห็นว่าหมอวิเชษฎ์เดินออกมาจากห้องเป็นคนที่สอง พร้อมกับถอดแมสออกมาด้วย ร่างบางไม่รอช้าที่จะถามอีกครั้งเพื่อความชัดเจน ว่าที่คุณหมอคนแรกออกมามันคือเรื่องจริงใช่หรือไม่ “น้องใยไหมปลอดภัยดีครับ จากนี้ก็คงต้องรอแกพักฟื้นอยู่ที่นี่ เพื่อรอดูอาการต่ออีกครับ” “ขอบคุณคุณหมอเชษฎ์มากนะคะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ” “จริงๆ การผ่าตัดเมื่อสักครู่นี้คงต้องยกเครดิตให้คุณหมออีกคนเลยครับ ผมแค่เป็นลูกมือเขา” คุณหมอวิเชษฎ์เป็นกุมารแพทย์ก็จริง แต่เรื่องการผ่าตัดในครั้งนี้ก็ต้องให้ศัลยแพทย์ที่เป็นผู้ดูแล “คุณหมอที่เดินออกไปเมื่อกี้นี้หรอคะ?” “ครับผม ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” ใยบัวก็ไม่รู้ว่าทีมแพทย์เขาทำงานกันอย่างไร แต่ถ้าเห็นใครออกมาจากห้องนี้ก็ถือว่ามีส่วนช่วยลูกสาวของเธอทุกคนเลย ใยไหมถูกส่งตัวมายังห้องพักฟื้นพิเศษ โดยที่ใยบัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆ ทางโรงพยาบาลถึงได้เปลี่ยนจากห้องพักผู้ป่วยเด็กธรรมดา มาเป็นห้องพักแบบพิเศษ จะสอบถามพยาบาลพวกเขาก็เหมือนจะพูดบ่ายเบี่ยง พูดข้อมูลไม่ตรงกันเลยสักคน แต่มีอย่างเดียวที่พูดตรงกันก็คือเธอไม่ต้องจ่ายค่ารักษาหรือค่าห้องเพิ่ม “บัว อยู่ได้ไหมลูก... คือป้าต้องขอตัวกลับก่อนนะ พอดีต้องเตรียมของไว้ขายสำหรับวันพรุ่งนี้น่ะลูก” ป้ายัชฟินเดินมาลาใยบัว เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว แถมยังต้องกลับไปเตรียมของไว้ขายพรุ่งนี้อีก ส่วนปรเมทและน้ำตาลกลับไปก่อนตั้งแต่ย้ายใยไหมมาถึงห้องพักผู้ป่วยเด็กแล้ว ทางนั้นเขาก็มีงานต้องทำเหมือนกัน ต่างคนต่างมีหน้าที่ให้รับผิดชอบ และคืนนี้ก็คงจะมีแค่ใยบัวที่นอนเฝ้าลูกสาวตัวน้อยของเธอ “ไม่เป็นไรเลยค่ะป้า กลับเลยก็ได้ค่ะ ....บัวอยู่เฝ้าคนเดียวได้” ใยบัวไม่ได้ติดใจอะไรเลย หากทุกคนจะกลับบ้านไป เพราะเพียงแค่พวกเขาให้ความรักความห่วงใยแก่เธอและลูกแค่นั้นก็ซาบซึ้งน้ำใจมากแล้ว ถึงแม้ว่าการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมันจะลำบากหรือนักหนามากแค่ไหน แต่เมื่อเธอได้มองใบหน้าของลูกสาวแค่นี้ความเหนื่อยมันก็หายไปแล้ว ต่อจากนี้หวังว่าชีวิตของเธอและลูกจะดีขึ้นกว่านี้ ถ้าการรักษาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี (หมอชลกันต์ ทอร์ค) 1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ จะได้เจอกับเธอคนนั้นอีกครั้ง และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผ่านมาแค่เพียงปีเดียวเธอจะมีลูกเร็วขนาดนี้ ไหนหยกบอกว่าเธอมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ภูเก็ตไง แล้วจู่ๆ เด็กคนที่ผมเพิ่งจะผ่าตัดให้กลับกลายเป็นลูกสาวของเธอซะงั้น ผมงงกับเรื่องราวทั้งหมดแล้วตอนนี้ “อาหมอครับ ผมขอประวัติคนไข้ที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วนี้ได้ไหมครับ?” ตอนนี้ผมยังอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งอาหมอของผมทำงานเป็นหมอเด็กอยู่ที่นี่ หลังจากที่ลงจากเครื่องผมก็ตรงดิ่งมาช่วยงานนี้เลยโดยเฉพาะ จริงๆ แล้วต้องบอกว่าเคสนี้อาวิเชษฎ์เคยพูดกับผมบ่อยครั้งถึงเรื่องการรักษา พอวันนี้มีโอกาสผมก็ไม่ปฏิเสธที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ “หื้ม? มีอะไรรึเปล่าตากันต์” อาหมอทำหน้าสงสัยผม คงจะอยากรู้ว่าทำไมผมถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา “ผมขอดูหน่อยครับอา” “รอแปบ เดี๋ยวอาไปหยิบมาให้” “ขอบคุณครับอา” ผมต้องไม่อยากเป็นอยากรู้เรื่องของชาวบ้านเขาขนาดนั้น แต่ว่ามันมีจุดสงสัยหลายจุด อย่างแรกผมเจอเธอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว สองเธอไม่บอกใครว่าไปอยู่ไหน แต่วันดีคืนดีกลับโทรมาขอความช่วยเหลือหยกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สาม..เธอบอกกับหยกว่ามาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก แต่ความจริงคือเธอมีลูกแล้ว “อ่ะ! นี่เลยตากันต์” อาเชษฎ์เดินมาพร้อมกับเอกสารหลายหน้า ตามที่ผมขอ “ขอบคุณครับ” ผมรับเอกสารเหล่านั้นมาจากอาเชษฎ์ ก่อนจะเริ่มอ่านไปทีละหน้าอย่าละเอียดตั้งแต่ชื่อของเด็กคนนั้น ใยไหม งั้นหรอ? จนกระทั่งผมอ่านครบทุกหน้าและได้กลับมาอ่านมันซ้ำอีกรอบ เพื่อความแน่ใจว่าข้อมูลเหล่านี้มันไม่ผิด ลูกของใยบัวคลอดก่อนกำหนด 1 เดือน ในใบเกิดของลูกเธอไม่มีชื่อพ่อผู้ให้กำเนิด ใยไหมมีเลือดกรุ๊ป A โรคที่เด็กคนนั้นเป็นมันเหมือนกับตอนที่ผมยังเป็นเด็กไม่มีผิด เด็กคนนั้นอายุได้ 3 เดือนแล้ว ซึ่งพอนับนิ้วดูย้อนกลับไป ถ้าช่วงที่ใยบัวเริ่มตั้งครรภ์ก็ตรงกับช่วงที่.... ผมมีอะไรกับเธอ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ต้องยอมรับจริงๆ ว่าผมไม่เคยคิดถึงจุดนี้มาก่อน แล้วถ้าเกิดสิ่งที่ผมกำลังคิดมันคือความจริงทุกอย่าง แบบนี้ก็เท่ากับว่าเด็กคนนั้นคือลูกของผม และที่เธอหนีมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเพราะเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ พระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่ บอกเลยนะว่าไม่ขำเลยChapter 7[7/2]ตอนนี้ทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ใยบัวที่ยังต้องเฝ้านางฟ้าตัวน้อยของเธออยู่ ตั้งแต่ออกมาจากห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย คนเป็นแม่อย่างเธอได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวหายไวๆเธอวาดฝันอนาคตของตัวเองและใยไหมไว้ต่างๆ นานา ถ้าลูกโตขึ้นกว่านี้เธอจะพาลูกไปเที่ยว ไปทานของอร่อยๆ กัน จะพาลูกไปเดินช้อปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ให้ลูก เลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นทุกอย่างที่ลูกอยากได้เธอจะพยายามสนับสนุนเขาเต็มที่ ถึงแม้ครอบครัวของเด็กคนอื่นอาจจะมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่เธอเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้ลูกหรือแม้กระทั่งความรักที่มอบให้ใยไหม มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไปได้แกร่ก!“พี่ปลื้ม!?” เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับปรเมทที่รีบเดินเข้ามาในห้อง คุณแม่ลูกหนึ่งจึงต้องหันไปมองผู้มาใหม่“บัวพี่ลืมมือถือน่ะ จำได้ว่าวางไว้โต๊ะแถวนี้”“อ่อ... นี่ค่ะ บัวเก็บเอาไว้ให้” ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เธอเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนนะ”“ขับรถดีๆ นะคะ”เมื่อได้
Chapter 8[8/1]“งั้นคุณคงต้องไปฟ้องกันที่ศาลแล้วล่ะค่ะ ยังไงบัวกับลูกก็ไม่มีวันไปกับหมอแน่นอน”ใยบัวขอยื่นคำขาดเพราะอย่างไรเธอก็จะไม่มีวันให้ลูกไปอยู่กับเขา ใช่.... เขาเป็นหมอ เขามีเงิน มีอำนาจเหลือล้นที่อาจจะช่วยให้ใยไหมอยู่สุขสบายได้ตลอดแต่ไม่คิดบ้างหรอว่าที่ผ่านมาเรื่องระหว่างเรามันเป็นแค่ความผิดพลาด ที่เกิดจากการกระทำที่ขาดสติของคนทั้งสองที่ใยบัวต้องคิดแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากกีดกันพ่อกับลูก ต่อให้หมอบอกว่ากำลังจะหย่ากับปิ่นหยกด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ถ้าเขาอยากจะรับผิดชอบเรื่องนี้จริงๆ ก็แค่ออกไปจากชีวิตของพวกเราสองคนแม่ลูก ก็เท่านั้น....อย่าให้ลูกต้องตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านเลยว่า มีแม่ไปแอบตีท้ายครัวคนอื่นจนท้องกับสามีชาวบ้าน แบบนี้ใยบัวคิดว่ามีแต่จะวุ่นวายไปกันใหญ่ แล้วเธอจะมองหน้าเพื่อนสนิท และทุกๆ คนได้อย่างไร“คุณอย่าเอาแต่ใจเลย ถ้าลูกโตขึ้นคุณบอกผมได้ไหมว่าแกจะมีชีวิตที่ดีได้ยังไง? คุณบอกผมได้ไหม... ถ้าลูกกลับมาเป็นแบบนี้อีก คุณจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนมารักษาแก? ถ้าคุณมี... คุณคงไม่โทรไปหาหยกหรอกจริงไหม? ตอบผมสิบัว”“ฮึก!! ฮือ.... ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าบัวไม่พยายาม ทุกวันนี้ก็พยายามอ
Chapter 8[8/2]1 อาทิตย์เต็มๆ ที่ใยบัวใช้ชีวิตอยู่กับลูกที่โรงพยาบาล จนตอนนี้คุณก็ยังอยากให้เจ้าตัวน้อยของเธออยู่ดูอาการก่อนอีกสักสองสามคืนโชคดีที่มีน้ำตาลและปรเมทผลัดกันไปช่วยดูร้านกาแฟให้เธอ หลักๆ ส่วนมากก็จะเป็นน้ำตาลเพราะปรเมทเองเขาก็มีงานประจำที่ยังทำอยู่ส่วนป้ายัชฟินก็จะมาได้เฉพาะแค่ช่วงเย็นหลังจากปิดร้านอาหารเสร็จเท่านั้น ใยบัวถึงจะได้กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านวันนี้ใยไหมอาการดีขึ้นมาหายใจได้โล่งขึ้นจากเดิม ถึงแม้ว่าจะยังมีเครื่องออกซิเจนช่วยก็ตาม อีกไม่นานเธอเชื่อว่านางฟ้าตัวน้อยเยาว์วัยอย่างเข้าเดือนที่ 4 มาหมาดๆ จะต้องหายเป็นปกติหมอวิเชษฎ์ได้คุยกับใยบัวแล้วเมื่อวานนี้ ว่าถึงแม้จะรักษาแล้วก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหายขาดจากโรคนี้ไม่ได้เหมือนกัน“บัวกับตาลลงไปหาอะไรทานไหม? เดี๋ยวพี่จะดูเจ้าตัวเล็กให้เอง” ปรเมทถามสาวๆ ทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่บนโซฟาภายในห้องวันนี้เขากับน้ำตาลปิดร้านให้ใยบัวเร็วกว่าปกติ เพราะขายดีจนของที่สแปร์เอาไว้ยังหมดเกลี้ยง จึงได้มาเยี่ยมหลานเร็วกว่าทุกวัน“ไปไหมบัว พี่ชักจะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน” น้ำตาลดูเหมือนจะหิวมากกว่าใคร
Chapter 9 [9/1] หลังจากที่หมอกันต์บุกมาป่วนถึงโรงพยาบาลในหลายวันก่อน จนถึงตอนนี้ใยบัวก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย และใยไหมก็ได้ออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใยบัวเพิ่งทราบจากคุณหมอวิเชษฎ์ว่าที่แท้จริงแล้วเขากับหมอกันต์เป็นญาติกัน และเขายังบอกอีกว่าเคยเล่าเรื่องเคสของใยไหมให้หมอกันต์ฟัง คุณหมอวิเชษฎ์เห็นว่าใยไหมมีอาการแบบเดียวกับหมอกันต์เมื่อตอนยังเป็นเด็ก พอได้ฟังแบบนั้นแล้วใยบัวจึงเข้าใจที่มาของโรคทางพันธุกรรมของลูกสาวตัวน้อยแล้ว และก็แอบโกรธอีกคนที่ทำให้ใยไหมต้องเป็นแบบนี้ ตอนนี้ใยบัวก็ยังเปิดร้านตามปกติ และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบร้านไปเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของปรเมทกับเจ้าแม่สาวขนมหวานจะเป็นไปได้ดี ถึงขั้นเอ่ยปากให้น้ำตาลมาทำหน้าที่หุ้นส่วนร้านแทนเขา เนื่องจากปรเมทยังมีงานประจำที่บริษัททัวร์ของตัวเองอยู่ ส่วนใยบัวก็คงจะทำงานที่ร้านได้ไม่เต็มที่เหมือนอย่างเก่า เพราะต้องวิ่งหัวหมุนทั้งสองหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟที่ต้องดูแลช่วยกันกับน้ำตาล และอีกบทบาทคือการต้องดูแลเจ้าตัวเล็กของเธอควบคู่กันไปด้วย “บัวขึ้นไปดูใยไหมก่อนนะคะพี่ตาล เดี๋ยวให้น้องพราวลงมาช่วยค่ะ”
Chapter 9[9/2]1 เดือนต่อมาแล้ววันที่หมอนัดใยไหมก็มาถึง วันนี้หมอวิเชษฎ์มีนัดตรวจร่างกายและเช็คค่าปอดของเจ้าตัวน้อยว่าอยู่ในเกณฑ์ดีหรือไม่ หลังจากการรักษาไปเมื่อเดือนที่แล้ว“น้ำหนักตัวลดลงกว่าเดิมอีกนะครับคุณบัว”“หรอคะหมอ?”“พยายามให้เขาอยู่ในเกณฑ์ปกติอีกหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องปอดของน้องเนี่ย มันยังมีจุดเล็กๆ ที่เกิดฝ้าอยู่ครับ อาจจะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกรอบได้”“แล้วแบบนี้บัวต้องทำยังไงคะคุณหมอ?”เพิ่งจะรักษาไปแท้ๆ ทำไมใยไหมยังไม่หายขาดสักที ลูกของเธอตัวเล็กแค่นี้เองจะให้ทรมานไปถึงไหนกัน“ถ้าย้ายไปโรงพยาบาลที่มีเครื่องมีที่ทันสมัยกว่านี้ อาจจะช่วยได้ครับ”“ย้ายโรงพยาบาล?”“อย่างที่รู้ๆ โรงบาลของเรา เครื่องมืออาจจะยังไม่มากพอ หมอก็ได้แต่ช่วยเท่าที่ทำได้ แต่โรงพยาบาลเอกชนสมัยนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะครับ ถ้าผมแนะนำก็พอจะมีโรงบาลที่แก้ไขโรคนี้ได้โดยตรงครับคุณบัว”“แล้วลูกบัวจะหายขาดจริงๆ ใช่ไหมคะ? คุณหมอ”ใยบัวชักจะเริ่มเป็นกังวลขึ้นมาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ก็เพิ่งจะรักษาไปทำไมปอดของเจ้าตัวเล็กถึงยังไม่หายขาด สงสารก็แต่ลูกสาวของเธอนี่แหละที่ต้องมาทรมานแบบนี้แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรถ้าเกิดว่
Chapter 10[10/1]ตื่นเช้ามาวันใหม่ใยบัวมีนัดคุยกับพ่อของใยไหม เธอไม่รู้จักช่องทางการติดต่อชลกันต์หรอก เพียงแต่วันก่อนๆ ที่เธอขอเลขบัญชีธนาคารเพื่อที่จะโอนเงินคืนให้เขา ทว่าอีกคนกลับเขียนมาแค่เบอร์โทรศัพท์ทีแรกใยบัวก็คิดว่าคงจะให้มาเป็นแบบพร้อมเพย์ แต่ลองใส่ตัวเลขสอบหลักเข้าไปในระบบแล้วกลับไม่สามารถโอนใส่หมายเลขนี้ได้ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนเขียนมาแท้ๆแล้วพอลองเอาหมายเลขสิบหลักนี้ต่อสายไปหาเขาในเมื่อคืนนี้ ก็ยังติดต่อได้แบบปกติดีจนได้คุยนัดหมายกันเรื่องลูกในวันนี้ร่างบางนั่งรออีกฝ่ายที่ร้านกาแฟในส่วนที่เป็นออฟฟิศของตนเอง ฉะนั้นจึงไม่เป็นกังวลเรื่องที่จะกลัวใครอื่นมาได้ยิน และเพราะรู้ว่าไปไหนไกลไม่ได้ มีทั้งร้านและใยไหมที่เธอต้องดูแลอีก โดยสรุปเลยต้องนัดชลกันต์มาร้านของเธอจนกระทั่งสักพักใหญ่ๆ เกือบเย็น ที่ชลกันต์เดินเข้ามาถึงร้านในสภาพที่ใส่ชุดสูทสีโอลด์โรสผูกทักสิโด้สีขาว ทรงผมถูกเซทเนี๊ยบมาอย่างดี ถ้าให้เดาใยบัวคิดว่าคงจะเพิ่งมาจากงานแต่งของปิ่นหยกกับภัทรกาฬตั้งแต่หลายวันก่อนงานแต่งของหยก ใยบัวได้ถูกเพื่อนสาวโทรมาชวนเหมือนกัน ทว่าเธอกลับตอบปฏิเสธไปเพราะเหตุผลหลายๆ อย่าง และมีเหตุผลที
Chapter 10[10/2]“นี่ห้องของคุณกับลูก ส่วนห้องข้างๆ จะเป็นห้องของผม ที่นี่จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวันในช่วงกลางวัน คุณแค่ดูแลในส่วนของลูกก็พอ”หลังจากที่จัดการอะไรเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว ชลกันต์ก็ได้พาสองแม่ลูกกลับมาอยู่บ้านหลังเดินของเขากับภรรยาเก่า ซึ่งตอนนี้ปิ่นหยกได้เก็บข้าวของทุกอย่างออกไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือบางชิ้นที่ไม่ได้เก็บไปด้วย ห้องที่เขาจะให้ใยบัวย้ายเข้ามาอยู่ก็เป็นห้องนอนเก่าของปิ่นหยกกับปกป้องใยบัวใช้สายตาไล่สำรวจทุกมุมทั่วห้อง เตียงนอนพอเหมาะกับสองแม่ลูกและยังมีเตียงเด็กที่ต่อออกมาจากเตียงหลัก คอกเล็กๆ ที่อยู่อีกมุมซึ่งคาดว่าน่าจะเอาไว้ให้เด็กเล็ก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าของที่ยังเหลืออยู่ในห้องนี้เป็นของใคร“แล้ว... แม่ของคุณท่านอยู่ที่ไหนคะ?”“คุณแม่ของผมท่านอยู่เพ้นท์เฮ้าส์ใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องห่วงว่าเค้าจะมาที่นี่ เพราะเค้าไม่ได้ว่างขนาดนั้น”“ค่ะ”ใยบัวไม่ได้ห่วงหรอกว่าท่านจะมาหรือไม่ แต่ที่ถามแบบนั้นไปแค่อยากรู้ว่าแม่ของเขารับรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง ถ้าหากยังไม่รู้ว่าใยบัวคือแม่ของหลานเธอ แล้วชลกันต์คิดจะบอกหรือจะเก็บเงียบไว้แบบนี้กันแน่ร่างบางเดินอุ้มเด็กหญิงตัวน้อย
Chapter 11[11/1]คุณหญิงวิมนรัตน์เดินมาหาลูกชายที่ห้องทำงานด้านบนของตึกโรงพยาบาล ที่มาสายเพราะว่าวันนี้เธอเองเพิ่งกลับมาจากบ้านสามีที่จันทบุรี ในช่วงที่หมอชลกันต์ยังเด็กเธอต้องหอบลูกวิ่งตามท่านผู้ว่าไปทั่วทุกจังหวัด ตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่จากหน่วยงาน ทว่าพอถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ชลกันต์โตขึ้นก็ไม่อยากจะย้ายไปไหนตามท่านผู้ว่าฯ แล้ว จึงขอคุณหญิงวิมนรัตน์ย้ายมาเรียนกรุงเทพฯ กับคุณอาหมอวิเชษฎ์แทนจากนั้นเพียงไม่กี่ปีต่อมาคุณหญิงวิมนรัตน์มารับช่วงต่อจากตระกูลของเธอ จึงได้ย้ายตามลูกมาถึงกรุงเทพฯ เพื่อมาดูแลกิจการโรงพยาบาลแห่งนี้ส่วนท่านผู้ว่าฯ ก็ยังมีปณิธานอยากจะทำงานช่วยประชาชนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเกษียณอายุ ชลกันต์เลยกลายเป็นคนที่ติดแม่มากว่าพ่อของเขาเมื่อตอนที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอกลับมาจากเที่ยวที่อิตาลี่กับภรรยาอย่างปิ่นหยก วันนั้นเธอจำได้ว่าชลกันต์ได้โทรมาเธอกลางดึก และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ นานาให้ฟังพอเข้าใจน้ำเสียงของลูกชายในตอนที่โทรมาหาเธอคืนนั้น ฟังดูเหมือนกับว่าเขาไม่มีความสุขเลยกับการที่บอกผู้เป็นแม่ว่าจะขอหย่ากับภรรยา ทั้งที่แต่งงานกันได้แค่ปีเดียวเท่านั้น แต่จ
Special X[ปกป้อง x ใยไหม]บอสตัน เป็นเมืองที่มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่าร้อยแห่ง มีนักเรียนต่างชาติมากกว่าหลักแสนคน เมืองนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีการศึกษาดีที่สุดของโลก และยังเป็นเมืองที่สร้างโอกาสในการทำงานให้แก่เหล่านักเรียนอีกมากมายแน่นอนว่าในบรรดานักธุรกิจในเมืองไทยหลายต่อหลายคน ล้วนอยากส่งเสริมให้ลูกของตนเองนั้นได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และหนึ่งในตัวเลือกหลักของคนกลุ่มนี้ก็มักจะส่งลูกตนเองมาเรียนกันที่นี่" ปก ดูสิ ตอนนี้ชุดของเพชรเปื้อนไปหมดแล้วเนี่ย เพราะยัยบ้านนอกนั่นคนเดียวเลย เจอกันในคลาสก็ทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ นี่ยังจะมาเจอกันข้างนอกอีก หึ่ยย!"สาวสวยร่างระหงรีบกอดแขนออเซาะเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่ตัวเองโดนผู้หญิงอีกคนซุ่มซ่ามทำน้ำกาแฟหกเลอะใส่ตัวน้ำเพชรเป็นหญิงสาวชาวไทยที่เติบโตในต่างแดน หล่อนย้ายมาอยู่กับครอบครัวตั้งแต่สมัยยังเด็กแล้ว ทั้งชีวิตของหล่อนได้รับการศึกษาที่ดีจากเมืองนี้มาโดยตลอดจนกระทั่งหล่อนโต ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บอสตันอีกเช่นเคย เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หล่อนก็แยกย้ายจากเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมาด้วยกันสมัยไฮสคูล จะเหลือก็แต่ ‘ปกป
Special IXpart 2“เข้ามาก่อนก็ได้ครับ” ชลกันต์บอกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งเข้าทรงอยู่หน้าประตู ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงและเริ่มขยับตัวตาม“ขอโทษค่ะ รักไม่รู้ว่าอาจารย์หมอมีแขก”ใยบัวมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกันกับผ้าเช็ดหน้าที่เธอคนนี้ถืออยู่ ผ้าผืนนั้นมันคือผืนที่เธอเป็นคนซื้อให้สามีเอง แล้วที่เธอบอกว่าหมอกันต์ลืมเอาไว้ในกระเป๋าของเด็กผู้หญิงตรงหน้า มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน นี่สามีเธอกลายเป็นคนขี้ลืมของไว้ในกระเป๋าคนอื่นได้ด้วยงั้นเหรอ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณ...?”“รักค่ะ คุณคงจะเป็นภรรยาของอาจารย์หมอใช่ไหมคะ? ตัวจริงสวยกว่าในรูปในกระเป๋าตังค์ของอาจารย์อีกนะคะเนี่ย”“กระเป๋าตังค์?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนี้ยังยืนพูดอยู่ กลิ่นน้ำหอมของเธอถูกพัดโชยเข้ามาเตะปลายจมูก กลิ่นนี้ที่ใยบัวเคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันคือกลิ่นเดียวกันกับที่เคยติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตที่เคยซักให้สามี และเมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนี้ยังบอกอีกว่าเคยเห็นรูปของเธอในกระเป๋าเงินของสามีเธออย่างนั้นเหรอเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?ใยบัวเปลี่ยนอิริยาบถการนั่ง ก่อนจะเดินเข้าหาสามี เธอแตะไหล่หนาเอาไว้มั่นมือ จากนั
Special IXpart 1“สวัสดีค่ะคุณบัว …แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ ดึกแล้วแท้ๆ” นางพยาบาลสาวสวยที่รับหน้ามี่ประจำหน้าห้อทักทายขึ้น เมื่อเห็นว่ามีแขกคนสำคัญของเจ้าของห้องนี้มา“ขอบคุณค่ะ คุณฝน พอดีบัวคิดว่าคุณหมออยู่เวรดึกน่าจะหิว บัวก็เลยทำกับข้าวมื้อดึกแล้วก็รีบเอามาให้ค่ะ”เธอถือปิ่นโตใบเล็กยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่คุยอยู่กับพยาบาลหน้าห้องของสามี อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ตนเองไม่ทำมา อย่างไรซะสามีของเธอก็ออกไปหาอาหารทานข้างนอกได้อย่างสบายอยู่แล้ว แต่ที่อุตส่าห์ทำมื้อดึกมาให้เขาตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากมาให้เห็นกับตาตัวเองมากกว่า ว่าเรื่องที่เธอสงสัยอยู่มันเป็นมาอย่างไรกันแน่“แหม…. ช่างเป็นภรรยาที่เอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่คุณบัวคงมาช้าไปแล้วมั้งคะ”“?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเครื่องหมายคำถาม ขณะที่พยาบาลสาวพูดให้เธอได้เกิดความสงสัย“ก็คุณหมอน่ะ เพิ่งจะเอาไปกินก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งกับน้องรัก เมื่อตะกี้นี้เองค่ะ”“รัก?” เธอไม่คุ้นหูกับชื่อนี้มาก่อนเลย“อ๋อ ก็น้องต้องรัก ที่เป็นเด็กเอ็กเทิร์นของแผนกเราน่ะค่ะคุณบัว คนนี้เก่งใช้ได้เลยนะคะ…. ถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่ได้คำชื่นชมจากปากคุณหมอกันต์ง่ายๆ หรอกค่ะ ค
Special VIIIหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงกลางวันไปแล้ว ก็ถึงเวลาส่งลูกเข้านอนที่ห้องพักของพี่เลี้ยงที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ เด็กๆ ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้นอนกับนภา เพราะที่ผ่านมานภาจะมาทำงานที่บ้านของเจ้านายเฉพาะช่วงตอนกลางวันเท่านั้น เธอทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นโอกาสที่จะได้นอนกับพี่เลี้ยงในค่ำคืนนี้จึงเป็นคืนพิเศษสำหรับเด็กน้อยทั้งสอง“ป้าภาขา~ วันนี้น้องไหมจะนอนฝั่งนี้นะคะ” พอเข้ามาห้องของพี่เลี้ยงแล้ว เด็กหญิงก็รีบอุ้มตุ๊กตากระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงทางฝั่งที่ตัวเองได้เลือกเอาไว้เลย“แอร๊~ อี่ๆ” ส่วนเจ้าหนูใยแก้วก็ไม่น้อยหน้าพี่สาวเลย แม้จะยังไม่ประสีประสาอะไร ทว่าก็ยังอยากจะสื่อสารออกมาเหมือนคนอื่นๆ และเมื่อเห็นพี่สาวขึ้นไปนอนบนเตียงบ้าง ใยแก้วก็อยากจะทำเหมือนอย่างพี่สาว โดยที่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปทางอีกฟากมุมของเตียง เป็นการสื่อว่าเจ้าหนูตัวน้อยอยากจะได้พื้นที่ตรงนั้นคนมาส่งเด็กทั้งสองอย่างใยบัวถึงกับอดขำเจ้าตัวแสบไม่ได้ ใยแก้วกำลังมีพฤติกรรมเลียนแบบพี่สาวของตัวเอง ไม่ว่าใยไหมจะทำอะไรหรือพูดอะไรน้องสาวของเธอก็มักจะทำตามเสมอ“บัวฝากด้วยนะคะพี่ภา”“ได้เลยค่ะ คุณบัวไม่
Special VIIชลกันต์ทำตามที่ตนเองรับปากกับลูกเมียเอาไว้ได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้เดินทางไปเที่ยวจริงๆ แล้ว เด็กหญิงใยไหมดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษเพราะนานๆ ทีจะได้ไปเปิดหูเปิดตาไกลบ้านตัวเองคราวนี้ชลกันต์ถึงขั้นให้โบนัสพี่เลี้ยงเด็กอย่างนภาเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมทั้งที่พักแบบฟรีๆ ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากกลัวว่าภรรยาของเขาจะเหนื่อยหากทั้งเที่ยวและยังต้องดูแลลูกน้อยทั้งสองอีก ดังนั้นการพาพี่เลี้ยงเด็กไปด้วยอาจจะเป็นผลดีมากกว่าส่วนเด็กหญิงใยแก้วที่ยังไม่ประสีประสาอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่จะพาตนเองไปไหน เพียงแต่เห็นพี่สาวมีท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เห็นดังนั้นแล้วก็อดตื่นเต้นตามพี่สาวไม่ได้“คิกกๆ คูมแม่ขา~ ทำไมเยาต้องขึ้นเครื่องบินไปคะ? ทำไมเยาไม่ยั่งยดไปอ่า” เด็กหญิงใยไหมหยุดสนใจไอศกรีมในมือของตัวเองก่อนจะตั้งคำถามที่ยังสงสัยมานานแล้ว“เรานั่งรถไปไม่ได้หรอกนะคะ มันไกลมากกก”“ใช่แล้วจ้ะใยไหม” พี่เลี้ยงเด็กพูดเสริมคุณแม่ของเด็กตัวน้อย“ใช่ครับลูก ที่ที่เราไปมีแต่ทะเลภูเขาล้อมรอบ พ่อขับรถไปเองไม่ไหวหรอกนะครับ”“อ๋อออ อย่างงั้นเองหยอ”“ครับ”ชลกันต์นึกขำก
Special VIหลายวันถัดมาหลังจากที่ชลกันต์กลับบ้านดึกวันนั้น ใยบัวก็เริ่มตงิดในใจมากขึ้นแล้ว วันนี้โชคดีที่ใยไหมไปโรงเรียนและเจ้าตัวเล็กก็ไปนอนกับคุณยายที่จันทบุรีแล้ว กว่าจะกลับกรุงเทพฯ ก็น่าจะตอนเย็นเลยคุณแม่ลูกสองจึงถือโอกาสเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงพยาบาลของสามี อันที่จริงในวันแต่งงานนอกจากสินสอดทองมั่นที่เธอควรจะได้แล้ว คุณหญิงและท่านผู้ว่าฯยังมีเมตตากรุณายกหุ้นส่วนในเครือโรงพยาบาลในเธอได้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมอีก ซึ่งเธอเองก็ซาบซึ้งน้ำใจของพ่อกับแม่สามีเป็นอย่างมากวันนี้ร่างบางแต่งตัวด้วยชุดออกแนวเป็นทางการสักหน่อย เพราะมีคุยธุระกับคุณหญิงวิมลรัตน์และคุณหมอตุลา เรื่องสาขาในเครือที่ต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะเห็นว่าจะลงทุนซื้อเครื่องมือการแพทย์แบบใหม่เพิ่มอีกทุกสาขาดังนั้นในฐานะหุ้นส่วนสำคัญที่เจ้าของโรงพยาบาลให้เกียรติคนอย่างเธอก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อีกทั้งถ้าหากเด็กน้อยที่บ้านโตขึ้นจนดูแลตัวเองกันได้แล้ว เธอก็อยากจะเข้ามาทำงานช่วยกิจการครอบครัวบ้าง“หนูบัวจ้ะ แม่คิดว่าเครื่องมือแพทย์ของบริษัทที่ตาตุลย์เสนอมาให้มันก็ราคาค่อนข้างสูงมากเลยนะ หรือหนูคิดว่าไง?” แม่สามีทั
Chapter V“วันนี้จะลงมือซักผ้าเองเลยเหรอคะคุณบัว?” สาวใช้คนเดียวเอ่ยถามภรรยาของเจ้าของบ้าน เมื่อเห็นว่าเธอกำลังถือตะกร้าผ้าลงมาด้านล่างทางห้องซักล้างเดิมทีใยบัวและนภาต่างก็ช่วยเรื่องงานบ้านกันเสมออยู่แล้ว เพราะใยบัวเองก็ไม่ได้ทำขนมส่งลูกค้าอย่างเช่นเคยเนื่องจากต้องมีเวลาให้ลูกๆ ทั้งสองคนมากกว่านี้“ชุดทำงานของคุณหมอน่ะค่ะพี่ภา ไม่เยอะเท่าไหร่”“ขยันจังนะคะ จริง ๆ ให้พี่ซักให้ก็ได้ค่ะ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะ บัวอยากซักเอง”“งั้นเดี๋ยวพี่ไปดูคุณหนูๆ ก่อนนะคะ”“ค่ะ”จากนั้นคุณแม่ลูกสองจึงเดินถือตะกร้ามาถึงห้องซักผ้า เพื่อทำการซักมือ เนื่องจากเสื้อผ้าของผู้เป็นสามีส่วนมากจะเน้นโทนสีขาวรวมทั้งชุดกราวนด์อีก 2-3 ตัวนี้ด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขยี้ด้วยมือมาถึงขั้นตอนที่ต้องจุ่มผ้าแต่ละผืนลงใส่น้ำ แม่บ้านจำเป็นอย่างใยบัวไม่รอช้า ก่อนที่หยิบชิ้นแรกขึ้นมาเพื่อเตรียมซัก ทว่าก่อนที่จะได้ลงไปในกะละมัง มือบางกลับต้องชะงักค้างกลางอากาศ เมื่อได้กลิ่นของน้ำหอมที่ตนเองรู้สึกไม่คุ้นชินกับมันเลยสักนิด“หืม.... กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนี่?” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อดมกลิ่นบนเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้เป็นสามีกล
Special IVก๊อกๆๆๆ“เชิญครับ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่นานเจ้าของห้องก็กล่าวอนุญาต จากนั้นก็มีร่างของหญิงสาวสวมใส่ชุดกาวน์สีขาวทรงสั้นเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือ ใช่แล้ว... คนที่เข้ามาเมื่อครู่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากหมอด้วยกัน“พอดีว่ารักจะมาปรึกษาเรื่องเคสคนไข้กับอาจารย์หมอนิดหน่อยน่ะค่ะ พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?” ต้องรักเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 หรือเรียกกันง่ายภาษาหมอว่า Extern หรือเอาแบบแปลไทยเป็นไทยเลยก็เรียกได้ว่า ‘นิสิตแพทย์เวชปฏิบัติ’ต้องรักมาฝึกงานที่นี่ได้ 2 สัปดาห์กว่าแล้วตามที่หลักสูตรกำหนด ที่เธอเลือกมาโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เพราะว่าชลกันต์เคยไปอบรมที่คณะแพทย์อยู่บ่อยครั้งหญิงสาวนักศึกษาแพทย์หน้าตาสะสวยอย่างต้องรัก ปลาบปลื้มผลงานและรูปร่างหน้าตาของหมอชลกันต์เป็นทุนเดิม ยิ่งพอรู้ว่าเขาคือทายาทเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้แล้ว มีหรือที่เธอจะไม่อยากมาทำงานที่นี่“ได้สิครับ ตอนนี้ผมยังพักเบรกอยู่” หมอหนุ่มรุ่นพี่อนุญาตแล้ว พลางกับผายมือออกมาตรงหน้าเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้อีกฝ่ายนั่งลงเก้าอี้ตรงหน้า ต้องรักพยักหน้าขอบคุณก่อนจะนั่งลง พร้อมกับเอกสารในมือที่ถือมาด้วย“เป็นเคส OR ออร์โธป
Special III“กรี๊ดดดด!!!”ปึกก!!เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจตามมาด้วยเสียงของหล่นลงพื้น ภายในสวนหย่อมข้างๆ กับสนามฟุตบอลขนาดเล็กของโรงเรียน ในช่วงพักกลางวันเด็กๆ ต่างวิ่งเล่นซุกซนกันไปมาอย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นยังมีเจ้าตัวจิ๋วชั้นอนุบาล 2 อย่างใยไหมกับปกป้องอยู่ด้วยและเสียงที่กรีดร้องออกมาเมื่อครู่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากขาประจำของเราอีกเช่นเคยใยไหมโดนปกป้องแกล้งอีกครั้งอย่างที่เคยเป็น เพราะเหตุนี้เลยทำให้เด็กทั้งคู่ไม่ชอบอยู่ด้วยกันเท่าไหร่นัก แม้ใยไหมจะแสบและซนเวลาอยู่ที่บ้าน ทว่าพอมาโรงเรียนเธอก็มักจะแพ้ความแสบซนของเด็กที่ชื่อปกป้องแบบขาดรอยวันนี้ก็เช่นกันที่ปกป้องเอาหนอนตัวเขียวตาโตตาหน้าน่าเกลียดมาใส่ไว้ในรองเท้าของใยไหม ขณะที่เธอกำลังวิ่งเล่นนอยู่กับเพื่อนอีกคนและได้ถอดรองเท้าเอาไว้ไม่ไกลมากนัก เพื่อให้ตนเองวิ่งได้อย่างสะดวกมากขึ้น พอกลับมาจะใส่รองเท้าอีกครั้งกลับต้องเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด จนต้องโยนรองเท้าทิ้งไป“ฮ่าๆๆๆ สมน้ำหน้า แบร่ๆ” เด็กชายตัวโตดูเหมือนจะพอใจในผลงานของตนเองเป็นอย่างมาก จนกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่“ฮึกก!! เยาจาฟ้องคูมพ่อกับคูมแม่ ฮือออๆๆ ~”“ฟ้องไปเลยเ