Share

บทที่ 53

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ร่างเดิมในอดีตยามอยู่ต่อหน้าคนตระกูลเฉิน ไม่กล้าแม้กระทั่งผายลม แต่ยามอยู่ข้างนอกกับจูต้าอัน โอหังในหมู่บ้านอย่างมาก

คนในหมู่บ้านลับหลังเรียกเขาว่าเทพแห่งโรคระบาด

“คนที่จะเข้าร่วมการสอบขุนนาง พบเจอเทพแห่งโรคระบาดอย่างพวกข้า คงไม่ดีแน่!”

เฉินฝานเองก็คิดไม่ถึงว่า จูต้าอันช่วยเขาทางอ้อมครั้งใหญ่ หากไม่มีจูต้าอัน คนในหมู่บ้านจะกลัวร่างเดิมได้อย่างไร ร่างเดิมก็คงไม่มีฉายาเทพแห่งโรคระบาดนี้แล้ว

และเขาในตอนนี้คงไม่อาจได้ เงินสินเดิมและเงินน้ำพักน้ำแรงของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรว

เป็นจริงตามคาด เมื่อได้ยินคำว่าเทพแห่งโรคระบาด สีหน้าของเฉินเจียงและเฉินฟู่แปรเปลี่ยนทันที

คนสมัยโบราณงมงาย

จางเหลียนฮวาที่อยู่ไกลๆ อุ้มลูกพร้อมกับสาวเท้ามา

“ให้เจ้าสามร้อยเหวิน เสี่ยวฝาน เพื่ออาเจียงของเจ้า และเพื่อตระกูลเฉินของเรา ก่อนอาเจียงสอบระดับท้องถิ่น วันข้างหน้าหากในเรือนข้ามีงาน เจ้าและน้องสะใภ้ไม่ต้องมาช่วยงานแล้ว”

“ขอบคุณอาสะใภ้ขอรับ!” เฉินฝานรับเงินที่จางเหลียนฮวายื่นให้อย่างมีความสุข

สีหน้าของเฉินเจียง เหยเกราวกับกินแมลงวันเข้าไป

เบี้ยหวัดสามเดือน

แต่...เทพแห่งโรคระบาด

เขาเองก็กลัว

“ห้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
เอเค 47 (เสือ)
ต้องการเลือก บทที่ชอบแต่เข้าอ่านไม่ได้สาเหตุอะไร
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 54

    หึ!แล้วอย่างไรเล่า ชีวิตของเฉินฝาน ไม่ว่าจะเป็นลำดับตระกูล หรือว่าหน้าที่การงาน ชีวิต ล้วนถูกลิขิตให้ต่ำต้อยกว่าเขา“อื้ม!”หลี่เจิ้งพยักหน้า ตามเฉินเจียงออกไปนอกประตูมีรถม้าจอดไว้หนึ่งคัน เป็นรถม้าที่เฉินเจียงจ้างมาส่งหลี่เจิ้งหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง เกิดเรื่องอะไรขึ้นเพียงเล็กน้อย คนทั้งหมู่บ้านล้วนรู้กันหมด ยิ่งไปกว่านั้นหลี่เจิ้งมาด้วยตนเอง ทั้งยังนำเงินขวัญถุงจากทางราชสำนักมาให้หน้าเรือนเฉินเจียง มีคนมาล้อมวงดูส่งไปถึงประตูใหญ่ คนส่วนมากกลับเข้าไปในเรือนของเฉินเจียงแล้ว มีเพียงเฉินเจียงคนเดียวเท่านั้นที่ยืนกรานจะส่งไปถึงหน้าหมู่บ้าน“เฉินเจียงเก่งจริงๆ”“ได้ลูกชายสองคนติดต่อกัน วาสนาดีจริงๆ”“ไม่เพียงแค่นี้ ไม่เพียงได้ลูกชาย ทั้งยังเรียนเก่งอีกด้วย!”“นักพรตวัดซานชิงกวน เคยโกหกเมื่อไหร่”นี่คือเหตุผลที่เฉินเจียงยืนกรานส่งหลี่เจิ้งถึงหน้าหมู่บ้าน ไม่ส่งไปถึงหน้าหมู่บ้าน จะได้รับสายตาอิจฉาจากชาวบ้านมากขึ้นได้อย่างไร“เฮ้อ ด้านวิชาการ ข้าพยายามเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ ทำได้เพียงดูเรื่องลูกชาย เทียบเฉินเจียงได้หรือไม่“เจ้าช่างโลภมากจริงๆ เฉินเจียงมีลูกชายสองคน ข้าไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 55

    เฉินฝานเพิ่งหันหน้ากลับไป เฉินฟู่สั่งเขาทันที “คืนเงินสามร้อยเหวินนั้นให้อาเจียง อันธพาลคนหนึ่ง ไม่คู่ควรที่จะมีเงินมากขนาดนั้น”“ไม่ให้!”เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเรื่องนี้ไม่อาจต่อรองได้แม้แต่น้อยเพราะเงินสามร้อยเหวินนี้ เป็นของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวเขาเพียงช่วยพวกนางทวงคืนกลับมาเท่านั้นเฉินฟู่ชี้หน้าเฉินฝานด้วยความโมโห “เจ้า!”เฉินฝานผลักมือของเฉินฟู่ที่ชี้เขา “ปู่ทวดและย่าทวดของข้าไม่เคยสอนท่านหรือ? ชี้หน้าคนเช่นนี้ไร้มารยาทยิ่งนัก”คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลานชายของตนเองด่าว่าไม่มีมารยาท เฉินฟู่โมโหจนหน้าแดงก่ำ “สารเลว ทิ้งเงินไว้เดี๋ยวนี้”“แล้วถ้าข้าไม่ให้ล่ะ”
เฉินฝานกำหมัด เขาออกแรงเล็กน้อยนิ้วมือส่งเสียงดัง“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าเป็นปู่ของเจ้า” เฉินฟู่ถอยหลังหลังจากหลานคนนี้ตกหน้าผา กลายเป็นต่อสู้เก่ง เรื่องนี้เขาได้ยินมาเมื่อหลายวันก่อน จูต้าอันถูกเฉินฝานทำร้ายจนลุกไม่ขึ้น ต้องยกออกจากเรือน“ไม่มีอะไร แค่ว่าหลายวันนี้ข้าทำงานเยอะ ก็เลยเจ็บนิ้วเท่านั้น”“ท่านปู่ ข้ายังมีงานที่เรือน ไปล่ะ!”กระทั่งเฉินฝานเดินไปไกล เฉินฟู่เพิ่งดึงสติกลับมาเจ็บใจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 56

    เฉินฝานล้วงเงินที่เหลือ และเงินจากการขายปลาในวันนี้ออกมาจากกระเป๋า เดินเข้าไปในห้องครัวสองพี่น้องตั้งหน้าตั้งตานับเงิน เฉินฝานเดินเข้ามาพวกนางยังไม่รู้ตัวเวลานี้ พวกนางนับเกือบถึงครึ่งหนึ่งแล้วเฉินฝานยืนมองอยู่ด้านข้าง จู่ๆ ก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา“เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”เฉินฝานนำเงินในมือทั้งหมด เทลงบนโต๊ะ รวมกับเงินทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะ“เฮ้อ พี่สาม เจ้าทำอะไร ปนกันหมดแล้ว ต้องนับใหม่อีกแล้ว”ฉินเย่ว์โหรวเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ว์เจียวด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่กลับเห็นเฉินฝานกลั้นหัวเราะ“ไม่ใช่...”เวลาเดียวกันฉินเย่ว์เจียวที่อยากอธิบายให้ฉินเย่ว์โหรวฟัง ว่าไม่ใช่ตนเองเงยหน้าขึ้น“นายท่าน!”สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกันเฉินฝานขยับริมฝีปาก “ข้าเอง”“นายท่าน พวกข้าจะนับเสร็จแล้ว” ฉินเย่ว์โหรวกระทืบเท้าด้วยความออดอ้อน“เช่นนั้นก็นับอีกรอบ รวมกับที่ข้าเพิ่งเทลงไปเมื่อครู่ด้วย”“เช่นนั้นท่านก็ควรให้ข้าเร็วกว่านี้ เช่นนั้นพวกข้าไม่ต้องนับใหม่แล้ว”ฉินเย่ว์โหรวทำปากจู๋เล็กน้อย แสงแดดนอกหน้าต่างส่องกระทบปากกระจับที่กำลังทำปากจู๋ของนางพอดี ส่องระยิบระยับเฉินฝานมองจนเหม่อลอยเล็กน้อย ถ้อยค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 57

    พี่สาม หาเงินได้ เจ้าอยากซื้ออะไรมากที่สุด?”“ยังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าซื้อธนู”สองพี่น้องที่กำลังทำงาน เริ่มคิดแล้วว่าวันข้างหน้ามีเงินแล้วจะซื้ออะไร“ข้าอยากซื้อสีชาดหนึ่งกล่อง”“นอกจากสีชาดแล้ว ข้ายังอยาก...”“เจ้ายังอยากอะไร?”จู่ๆ ฉินเย่ว์โหรวก็ไม่พูดแล้ว เฉินฝานฟังอยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัด เอ่ยถามนาง“ไม่ ไม่มีอะไร!”ฉินเย่ว์โหรวส่ายหน้าติดต่อกัน อาจจะเป็นเพราะกลัวเฉินฝานถามต่อ นางพูดเสริมหนึ่งถ้อยคำ “ข้าเพียงแค่ยังคิดไม่ออก”เฉินฝานมองเพียงปราดหนึ่งก็ดูออกว่าฉินเย่ว์โหรวโกหกไม่ใช่แค่อารมณ์ของฉินเย่ว์โหรวเปลี่ยนแปลง ฉินเย่ว์เจียวก็เช่นเดียวกันพี่น้องสองคนนี้ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ อารมณ์เวลานี้หดหู่ยิ่งนักเฉินฝานก็พอจะนึกขึ้นได้ มีเรื่องหนึ่งต้องจัดการ แต่ชั่วขณะหนึ่งนึกไม่ออกว่าคืออะไรวันรุ่งขึ้น ฟ้ายังไม่สว่างเฉินฝานเคาะประตูบ้านลุงใหญ่เฉินผิงเมื่อวานจับปลาได้ทั้งหมดสองร้อยสามสิบสามตัว แม้ตัวหนึ่งจะหนักแค่สามสี่เหลียง แต่สองร้อยกว่าตัวก็เกือบหนึ่งร้อยจินเดินทางไกลเช่นนั้น อาศัยแค่กำลังในการแบกของมนุษย์ เช่นนั้นไม่เพียงเดินช้า ทั้งยังเหนื่อยมากไปถึงอำเภอ ขายปล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 58

    ข้าไม่อาจทำใจเห็นอนาคตของลูกสาวเป็นเหมือนสองพี่น้องตระกูลฉินแบบนั้นจริงๆ”เฉินผิงพูดพึมพำ แม้เสียงจะเบามากๆ แต่เฉินฝานได้ยินอย่างชัดเจนเขามองเฉินผิงด้วยความตกตะลึง พูดไม่ออกอยู่นานเฉินผิงกำลังบอกว่าเขาไม่ดีอย่างชัดเจน แต่เฉินฝานฟังแล้วกลับไม่โกรธแม้แต่น้อยตรงกันข้าม หัวใจของเขาบีบรัดอย่างมากในความทรงจำของเขา ภาพสองพี่น้องตระกูลฉินถูกเจ้าของร่างเดิมทุบตีทำร้าย ด่าทอ โดยเฉพาะภาพที่ฉินเย่ว์โหรวถูกทุบตีจนเท้าหัก“เสี่ยวฝาน!”นางเจิ้งได้ยินเสียงจึงเดินออกมา“ป้าขอร้องเจ้าล่ะ ไว้ชีวิตน้องสาวของเจ้าเถอะ”นางเจิ้งพูด และจะคุกเข่า“ท่านป้า!”เฉินฝานรีบรั้งนางเจิ้งทันทีสวรรค์ เรื่องที่เขาพบเจอในวันนี้คืออะไรกันเขาเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของเฉินผิงและภรรยา แต่ตอนนี้พวกเขากลับคุกเข่าตรงหน้าเขาเพื่อลูกสาวสงสารพ่อแม่ทุกคนบนโลกนี้จริงๆเพื่อคลายความกังวลของสองสามีภรรยา เฉินฝานนำเงินออกมาสิบเหวิน ยัดใส่มือนางเจิ้ง“ท่านป้า นี่คือเงินที่ข้ายืมรถลากในวันนี้”“เอ่อ ไม่ต้องมากขนาดนี้ วันละสามเหวินก็พอแล้ว” เฉินผิงมองเงินในมือนางเจิ้ง พูดด้วยความซื่อเขาไปช่วยงานร้านขายข้าวสารในอำเภอ ตั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 59

    เฉินฝานไปร้านขายเหล็กจ่ายเงินเก้าสิบเหวินที่เหลือ รับตะแกรงเหล็กและโครงเหล็ก หลังจากนั้นไปซื้อยี่หร่าและพริกไทยเพิ่มก็กลับเข้าตลาดวันนี้แผงขายปลาเผายังไม่ทันได้ตั้งเสร็จดีๆ ก็มีคนมากมายมายืนล้อมวงแล้วเมื่อวานมีคนมากมายที่ไม่ทันซื้อ วันนี้มารอแต่เช้า คนที่เมื่อวานซื้อทัน วันนี้ก็อยากได้อีก ดังนั้นจึงมากันหมดโดยเฉพาะพวกคนตระกูลใหญ่ ให้พ่อบ้านยกกล่องอาหารมา เอ่ยปากก็เอาสิบตัวปลาเผาสิบตัว เท่ากับสามสิบเหวิน สำหรับตระกูลใหญ่ เงินสามสิบเหวินขนหน้าแข้งไม่ร่วงไม่ถึงบ่าย ปลาก็ขายหมดแล้วยุ่งมาทั้งเช้า ทั้งสามคนหิวกันหมดแล้วเฉินฝานพาฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์เจียวไปกินบะหมี่ที่ร้านบะหมี่ สั่งบะหมี่แห้งสามถ้วย ทั้งยังกำชับเถ้าแก่ให้เพิ่มเนื้อ“บะหมี่แห้งก็แพงพอแล้ว ยังเพิ่มเนื้ออีก ตอนนี้สามถ้วยบวกกัน สิบห้าเหวินแล้ว แม้สองวันนี้จะหาเงินได้บ้าง แต่หากใช้จ่ายเช่นนี้ แม้จะมีเงินมากเพียงใดก็ไม่พอใช้จ่าย”เพิ่งนั่งลง ฉินเย่ว์โหรวก็บ่นเพียงคิดว่าบะหมี่สามถ้วยสิบห้าเหวิน ปวดใจราวกับถูกกรีดเนื้ออย่างไรอย่างนั้นสำหรับนางแล้ว ไม่ต้องกินผักดอง ก็ดีมากแล้ว เหตุใดจึงมากินบะหมี่แห้ง กินบะหมี่แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 60

    เมื่อวานที่เรือนของเฉินเจียงมีคนมามากมาย ชาวบ้านชอบนินทาที่สุด มีอะไรเกิดขึ้นเล็กน้อย ก็ลือกันทั่วหมู่บ้าน ตอนนี้เขามีสามร้อยเหวินแล้ว คาดว่าทั้งหมู่บ้านคงรู้แล้ว“กริ๊ง กริ๊ง!”กระดิ่งบนคอวัวส่งเสียงใส ตามการเดินของวัวชาวบ้านที่ได้ยินเสียงบนท้องถนน เดินออกมาจากเรือนว้าว วัวตัวใหญ่จัง เกวียนด้านหลังของมันเต็มไปด้วยฟืนหนึ่งคันรถฟืนตลอดหนึ่งปี ครัวเรือนใดใช้จ่ายมากเช่นนี้หมู่บ้านซานเหอนอกจากไม่กี่ครัวเรือนที่ฐานะค่อนข้างดีจะซื้อฟืนมาเผาแล้ว โดยส่วนมากล้วนขึ้นเขาไปตัดเอง คนอื่นๆ ไม่ใช่ไม่อยากซื้อ แต่ว่าไม่มีปัญญาซื้อ ฟืนหนึ่งมัด สิบเหวินคนมากมายยังหิวโหย จะมีเงินซื้อฟืนได้อย่างไร“ข้าเห็นบนเกวียน มีหน้าต่างไม้และกระดาษมัน!” ชาวบ้านตาดี อย่างรวดเร็วก็เห็นหน้าต่างไม้และกระดาษมันบนเกวียน“สวรรค์ กระดาษมัน? หมู่บ้านของเราคล้ายมีเพียงหน้าต่างบ้านผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นที่ติดกระดาษมันกระมัง”“เช่นนั้นไม่ต้องคิด วัวตัวนี้ต้องไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแน่นอน”“ไม่ใช่ พวกเจ้ามองสตรีบนเกวียน ใช่พิการฉินเย่ว์โหรวของเฉินฝานหรือไม่”“จริงด้วย ด้านหลังเกวียนคือเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียว”“ของบนเกวี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 61  

    ไม่มีผู้ใดตอบสนองคำพูดของจูต้าอัน ตามอุปนิสัยของเฉินฝานก่อนหน้านี้ เมื่อใดที่มีเงิน เขาจะเอาไปดื่มกิน หรือไม่ก็เล่นการพนัน ไม่แยแสเรื่องที่บ้าน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าพี่น้องตระกูลฉินจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร  เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดปฏิเสธตน จูต้าอันก็รู้สึกภูมิใจอยู่ไม่น้อย  “ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านนี้รู้จักเจ้าหนุ่มเฉินฝานดีไปกว่าข้า ไม่สังเกตเห็นบ้างเลยหรือ? สาวน้อยสองคนจากตระกูลฉิน มีสีหน้าขมขื่น เฉินฝานจะต้องพาพวกนางออกไปขายแน่ๆ " “ข้าไม่เห็นสีหน้าขมขื่นของพี่น้องตระกูลฉิน ข้าคิดว่าพวกนางกำลังยิ้มเสียอีก” ชาวบ้านผู้หนึ่งออกมาตอบโต้จูต้าอัน "เจ้าจะไปรู้อะไร?" “รู้อะไร? ครั้งล่าสุดที่เจ้าบอกว่าภายในสามวัน เฉินฝานจะส่งฉินเย่ว์โหรวไปที่หอนางโลมอี๋ชุนย่วน นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ฉินเย่ว์โหรวยังอยู่ในหมู่บ้านซานเหออยู่เลย?” หลังจากเฉินฝานทุบตีจูต้าอัน ผู้คนในหมู่บ้านก็เริ่มหวาดกลัวจูต้าอันน้อยลง “ครั้งที่แล้ว ก็...” สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนไม่ต่างจากพบเจอกับทางตัน แต่แล้วจู่ๆ เฉินฝานก็สามารถคลี่คลายมันได้ จูต้าอันครุ่นคิดเรื่องนี้มาหลายวันแต่ก็ยังคิดไม่ตก เหตุใดหลี่ซานถึงปล่อยเฉิ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1238

    เถียนเสี่ยวอวี่ก็พยักหน้าเช่นกัน “ถูกต้องแล้ว ปกติแล้วประตูบานนั้นจะไม่เปิดออก และยังล็อกกลอนไว้ด้วย จู่ ๆก็บังเอิญ...” เถียนเสี่ยวอวี่หยุดพูดทันที สีหน้าค่อย ๆ มืดมนลง“หรือว่าคนจงใจเปิดออกงั้นรึ? มีคนที่ไม่อยากเจ้าอาวาสพูดต่อ ดูแล้ว อาของคงจิ้งจะต้องทำเรื่องหายนะอย่างใหญ่หลวงเป็นแน่”“เสี่ยวอวี่!” เฉินฝานหยุดชะงักฝีเท้าทันที สีหน้าเคร่งเครียด “สวี่ซื่อเจี๋ยเป็นผู้ว่าการมณฑลเมืองหรงตู เป็นขุนนางขั้นหกระดับสูงในราชสำนัก เรื่องนี้จะคาดเดาส่งเดชไม่ได้”“ใต้เท้า ข้า...”“พอเถอะ ช่างเรื่องนี้ก่อน”เฉินฝานพูดตัดบทเถียนเสี่ยวอวี่อย่างไม่เกรงใจหลิงอวี้ไม่ให้เถียนเสี่ยวอวี่รู้เรื่องของสวี่ซื่อเจี๋ย ก็เพื่อที่จะปกป้องนางเรื่องบางเรื่อง ไม่รู้จึงปลอดภัยที่สุดเฉินฝานอยากรักษาความพยายามที่หวังดีของหลิงอวี้ให้คงอยู่ต่อไปไม่ว่าสวี่ซื่อเจี๋ยจะทำเรื่องอันใด จะเกี่ยวข้องกับเถียนเสี่ยวอวี่หรือไม่ เฉินฝานก็ไม่ยอมให้นางเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ดี“ชิงหนิง พานางกลับเรือนไปพักผ่อนเถอะ”“เจ้าค่ะ!”ชิงหนิงรีบหิ้วตัวเถียนเสี่ยวอวี่ที่ไม่ยอมกลับจากไปทันที นางคิดเหมือนกับเฉินฝานคือ ไม่อยากให้เถียนเสี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1237

    “มีเรื่องอันใดซื่อไท่พูดออกมาตรง ๆ เถิด แก้ปัญหาทุกเรื่องเพื่อราษฎรเพื่อขุนนางอย่างถูกทำนองคลองธรรม ไม่จำเป็นต้องขอร้อง”ได้ยินเฉินฝานพูดเช่นนี้ หลิงอวี้ยืนตัวแข็งทื่อน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาจากตาของนางคำพูดของเฉินฝาน นางไม่เคยได้ยินผู้ใดพูดเช่นนี้มานานแล้วใช่แล้ว เดิมทีก็ควรจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว แก้ปัญหาทุกเรื่องเพื่อราษฎรเพื่อขุนนางอย่างถูกทำนองคลองธรรมทว่า ขุนนางส่วนใหญ่ของต้าชิ่งลืมคำพูดนี้ไปนานแล้ว หลายปีผ่านมานี้เสิ่นหมิงหยวนขุนนางกังฉินกุมอำนาจ ขุนนางต้าชิ่งส่วนใหญ่คิดเพียงว่าจะใช้อำนาจรังแกประชาชนอย่างไรเท่านั้น“ใต้เท้า ท่านโปรดจัดการผู้ว่าการมณฑลสวี่ซื่อเจี๋ยด้วยตนเองนะเจ้าค่ะ เขาเป็นคนที่...”“แค่ก ๆ ๆ ๆ”เฉินฝานไออย่างรุนแรงทันที จู่ ๆ ประตูฝั่งตะวันตกของพระตำหนักก็ถูกลมพัดจนเปิดออก ลมพัดโชยควันธูปมาปะทะหน้าเฉินฝานและหลิงอวี้ขนาดเฉินฝานยังทนไม่ไหว นับประสาอันใดกับหลิงอวี้ที่ป่วยหนัก“แค่ก...”หลังจากที่ไอออกมาอย่างรุนแรง หลิงอวี้ก็รู้ตัวว่าอ่อนแอลงอย่างมาก“แม่นางหวง เจ้ายังมียาอายุวัฒนะอีกหรือไม่” เฉินฝานตะโกนไปด้านนอกตำหนักด้วยน้ำเสียงรีบร้อน เขารู้อยู่แล้วห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1236

    เฉินฝานโบกมือ “เอาล่ะ คารวะเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดจงกลับไปเถอะ”กลุ่มคนโหวกเหวกโวยวาย เฉินฝานไม่ชอบเสียงดังหากไม่ใช่เพราะเถียนเสี่ยวอวี่ เขาคงจะไม่ให้คนเหล่านี้รู้ว่าเขามาที่แห่งนี้มีผู้พิทักษ์สองสามคนติดตามเฉินฝานมาโดยตลอด พวกเขาคือทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งจากฉินเย่ว์เหมยให้มาปกป้องเฉินฝานอย่างลับ ๆก่อนรุ่งสาง เขาเรียกผู้พิทักษ์คนหนึ่งออกมา ให้เขาไปป่าวประกาศเส้นทางของตนเองในเมืองหรงตูเฉินฝานคะเนไว้ว่าขุนนางกลุ่มนั้นคงจะมาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าจะมาเร็วปานนี้“ใต้เท้า พักที่สำนักชีคงไม่สะดวกนัก ท่านตามข้าน้อยกลับไปพักในเมืองหรงตูจะดีกว่าขอรับ”จางหย่งเชาและขุนนางเมืองหรงตูคนอื่น สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และไม่ยินยอม ในกลุ่มขุนนางเหล่านี้นอกจากจางหย่งเชาที่มาจากเมืองหลวงแล้ว คนอื่นล้วนไม่เคยออกจากเมืองหรงตูไม่ใช่เรื่องง่ายที่ท่านอัครเสนาบดีมาเยือน พวกเขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะโผล่หน้ามาให้เฉินฝานเห็น เพื่อเพิ่มโอกาสเลื่อนตำแหน่งของตนเองแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี“ถูกต้องแล้ว ใต้เท้าจางพูดถูก ท่านอัครเสนาบดีท่านกลับเมืองหรงตูไปกับพวกเราเถอะ”“ปกติท่านทำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1235

    จางหย่งเชาเจ้าเมืองหรงตูพุ่งตัววิ่งด้วยความเร็วดั่งวิ่งแข่งร้อยเมตรมาเฉินฝาน ด้านหลังเขามีขุนนางเมืองหรงตูกลุ่มหนึ่งตามมาด้วยขุนนางเมืองหรงตูกลุ่มนี้เป็นขุนนางที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่หลังจากที่เฉินฝานไปเมืองหลวงแล้ว เฉินฝานรู้จักเพียงจางหย่งเชา เขารู้จักจางหย่งเชาเพราะก่อนที่ออกจากเมืองหลวงมาไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยรับสั่งให้เขามาทำภารกิจที่เมืองหรงตูจึงเคยเห็นเขาคนที่ตามหลังจางหย่งเชามาติด ๆคือ ผู้ว่าการมณฑลเมืองหรงตู สวี่ซื่อเจี๋ย เพียงครู่เดียวคงจิ้งก็สามารถมองเห็นอาตนเองได้ นางรีบรุดหน้าเข้าไปหาทันที“ท่านอา!”เห็นคงจิ้งวิ่งมาเช่นนี้ สวี่ซื่อเจี๋ยเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผาก นางตาบอดหรือกระไร? ต่อให้นางไม่รู้จักเฉินฝาน เช่นนั้นนางไม่เห็นจางหย่งเชารึ?เขาร้อนรนใจดั่งไฟสุมอกดึงคงจิ้งลงมาด้านข้าง ในขณะเดียวกันก็ตวาดลั่นไปด้วย “มาทางนี้!”คงจิ้งสีหน้างงงันทันที ผ่านไปครู่เดียวก็วิ่งออกมาอีกแล้ว“ท่านอา คนผู้นั้น!” คงจิ้งยกมือชี้นิ้วออกไป “ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด บอกว่าตนเองเป็นสามัญชนมาก่อความวุ่นวายที่สำนักชีชิงเมี่ยว ทำร้ายร่างกายเหล่าแม่ชีในสำนัก หลานก็ถูกทำร้ายเช่นกัน ท่านดูสิ...

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1234

    “ใต้เท้า ท่านสบายดีหรือไม่?” หลูเฉิงกวงถูมือด้วยความตื่นเต้นอยู่นาน จึงพูดประโยคนี้ออกมาอย่างทุลักทุเล“ข้าสบายดี!” เมื่อเจอคนสนิท เฉินฝานก็ยินดีมากเช่นกันหลิงอวี้พากลุ่มแม่ชีสำนักชีชิงเมี่ยวมาคุกเข่าต่อหน้าเหล่าขุนนางเมืองหรงตูเฉินฝานเดิมอ้อมมา คนด้านข้างจึงยังไม่มีผู้ใดเห็นเขา“พี่หญิงใหญ่ ท่านดูสิ” ชิงผิงตาดี เพียงครู่เดียวก็สังเกตเห็นได้ว่าหลูเฉิงกวงวิ่งมาด้านหน้าเฉินฝานคงจิ้งมองตาม นางขมวดคิ้ว “นั้นคือนายกองหลูเฉิงกวงไม่ใช่รึ?”“คิดว่าใช่นะเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ นายกองเคารพนอบน้อมให้ชายผู้นั้นตลอด ชายผู้นั้นคงจะไม่ใช่สามัญชนแล้วกระมัง?”เมื่อฟังคำพูดของชิงผิงแล้ว ใจของคงจิ้งตึงเครียดทันทีชายผู้นี้ที่เถียนเสี่ยวอวี่พามา เป็นเสนาบดีใหญ่จริงหรือ?ทางเฉินฝาน“ใต้เท้า ข้าจะรายงานท่านเจ้าเมืองจางให้ทราบว่าท่านอยู่ที่นี้” หลูเฉิงกวงกำลังจะไปแจ้งข่าวเจ้าเมืองหรงตูด้วยความยินดี“ตอนนี้ยังไม่ต้อง!” เฉินฝานโบกมือ เขารีบก้าวเท้าฉับเดินไปทางมุมซ้ายของพระอุโบสถมีคนที่เขาอยากเจออย่างมากอยู่ที่นั่น“พี่ฝาน”เป็นต้ายาและสามีของนางโจวถง“ท่านพี่ เร็วเข้าสิ รีบมาคารวะใต้เท้า” ต้ายาท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1233

    “เจ้าอาวาส เหล่าท่านผู้ว่าการมณฑลมาเจ้าค่ะ” คงจิ้งตอบกลับหลิงอวี้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภูไม่ใจและหยิ่งผยอง“ท่านผู้ว่าการมณฑลมางั้นรึ?” หลิงอวี้ตกตะลึงทันที ความหดหู่และความรังเกียจเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะจากนั้นก็จางหายไป ฝีเท้าที่เร่งรีบเมื่อครู่จึงเริ่มผ่อนความเร็วลงหลิงอวี้ไม่ชอบผู้ว่าการมณฑลคนนี้อย่างมาก คงจิ้งอาศัยการที่อาของนางเป็นผู้ว่าการมณฑล มาโอ้อวดอำนาจตัวเองที่สำนักชี ทำให้บรรยากาศในสำนักชีชิงเมี่ยวอึมครึมยิ่งนักหลิงอวี้ป่วยหนักไร้ทางรักษาอยู่ก่อนแล้ว นางพยายามยื้อชีวิตไว้ เพราะไม่อยากให้ตัวเองจากไปเร็วนัก ไม่อยากให้สำนักชีชิงเมี่ยวตกไปเป็นของคงจิ้งเช่นนี้หลิงอวี้คิดว่าเรื่องที่ตนเองทำผิดมหันต์ที่สุดในชีวิตนี้คือการให้คงจิ้งเข้ามาในสำนักชีชิงเมี่ยวคงจิ้งหน้าตาสะสวย ภูไม่หลังครอบครัวดี กลับไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ แม่ของนางกลับส่งนางมาที่สำนักชีชิงเมี่ยว แต่ไม่ได้ให้อยากให้คงจิ้งถือศีลกินเจแต่อย่างใด เป้าหมายที่แท้จริงคือ...เมื่อคิดถึงกลุ่มคนวิปริตเหล่านั้น แววตาที่เมตตาอ่อนโยนทอประกาย พลันปรากฏความเดือดดาลทันทีเพื่อจะเติมเต็มความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่มีสิ้นสุดขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1232

    “ช่างเป็นพวกที่ชอบรนหาที่ตายเสียจริง!” เสียงเดือดดาลดังขึ้น ชิงหนิงผ่อนฝีเท้าลงเล็กน้อย นางทะยานตัวบินไปด้านนอกบ้าน ฝูงชนไม่ทันมีการตอบสนองใด นางก็บินกลับมาแล้ว ตอนที่กลับมา นางก็ถือแส้หนังหนึ่งเส้นมาด้วยชิงหนิงยกมือขึ้นสะบัดแส้หนังออกไป“เพียะ!”เสียงกังวานดังขึ้นจากพื้นที่ถูกแส้หนังฟาดลงไป“อ้าก!”คงจิ้งส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป นางจับหน้าตนเองกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด“โถ่เว้ย...”คงจิ้งยังคิดที่จะออกคำสั่งให้แม่ชีเหล่านั้นใช้กำลังบีบบังคับชิงหนิง ปรากฏว่านางเพิ่งจะปริปาก ก็มีเสียงฟาดแส้หนังลงมาอีกหลายครั้ง“อ้าก ๆ ๆ ๆ!”แม่ชีสิบกว่าคนส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป พวกนางล้มลงกลิ้งตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้าง ๆ คงจิ้ง ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่า วรยุทธ์ของชิงหนิงไม่ธรรมดาหลังจากที่โกนหัวบวชชีแล้ว ชิงหนิงก็เชื่อฟังคำพูดเถียนเสี่ยวอวี่มาโดยตลอด ละทิ้งอาวุธ ละทิ้งความคิดฟุ้งซ่าน ละทิ้งความแค้น ตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยจิตใจแน่วแน่หากไม่ใช่เพราะคงจิ้งยั่วโมโหเช่นนี้ ทั้งชีวิตนี้ชิงหนิงคงไม่คิดจะแตะต้องแส้หนังของนางอีก“ชิงหยวน เจ้าจงรีบไปในเมืองเดี๋ยวนี้ ไปบอกท่านอาข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1231

    เฉินฝานสีหน้าถมึงทึงทันที ปกติแล้วหากเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาย่อมไม่ถือสา ทว่าทำให้เสบียงอาหารได้รับเสียหาย เช่นนั้นก็...“เพียะๆ!”เฉินฝานกำลังเตรียมจะยกเท้าถีบออกไป ก็มีเสียงดังกังวานสองครั้งดังขึ้น“เจ้าคนไร้ประโยชน์!”ตามมาด้วยเสียงเดือดดาลของชิงหนิง ชิงผิงล้มลงต่อหน้านางด้วยความเร็วประดุจแสง“โอ๊ย!” ชิงผิงที่ล้มลงไปอย่างรุนแรง โอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันที“ชิงหนิง!” ชิงผิงลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ชี้นิ้วกัดฟันกรอดด่าทอชิงหนิง “เจ้ากล้าเตะข้ารึ ข้าจะไปฟ้องศิษย์พี่หญิงของเจ้า”ชิงหนิงกวาดสายตามองชิงผิง “ไปสิ เจ้าให้คงจิ้งมาด้วย ข้าจะได้จัดการพร้อมกันทีเดียว!”ชิงผิงตวาดด้วยความโมโห “เจ้ากล้างั้นรึ?”ชิงหนิงยกยิ้มมุมปาก “ไฉนข้าจะไม่กล้า? เจ้าไม่กล้าไปเรียกเองล่ะสิ หรือจะบอกว่านางไม่กล้ามาดีล่ะ?”“หึ ช่างปากดียิ่งนัก อยู่กับคนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีผู้นั้น จึงกลายเป็นคนไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเหมือนกันไปแล้ว”คงจิ้งมาพร้อมกับแม่ชีสิบกว่าคนอย่างยิ่งใหญ่อลังการตอนที่เดินผ่านชิงผิง คงจิ้งหยุดฝีเท้ากล่าวถาม “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”“พี่หญิงใหญ่ พวกเขา...” ชิงผิงมองไปที่เฉินฝานและชิงหนิง ค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1230

    “...แม่นางหวง?”เฉินฝานที่พลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง มองไปยังข้างเตียงที่ว่างเปล่าไม่มีใครสักคนอย่างตะลึงงันถ้าไม่ใช่เพราะม่านประตูส่ายไหว เฉินฝานยังนึกว่าเมื่อครู่นี้เขาตาฝาดไปเฉินฝานเหลือบมองม่านประตูที่สั่นไหว แล้วแย้มยิ้ม “ก็แค่สาวน้อยปากแข็ง”ไม่สนนางแล้ว เฉินฝานดึงเสื้อผ้าท่อนล่างขึ้นมา แล้วล้มตัวลงไปนอนต่อนอนเร็วก็เลยตื่นเช้าฟ้าเพิ่งสว่าง เฉินฝานก็ตื่นแล้ว เมื่อเขาพลิกตัวขึ้นมา เฉินฝานรู้สึกว่าความเจ็บที่บั้นท้ายหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว เฉินฝานพอใจมาก ยาสมุนไพรของสำนักชีชิงเมี่ยวนี้มีประสิทธิภาพมากเลย วันนี้ก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวงเถิดหวงหวั่นเอ๋อร์รีบร้อนไปเมืองหลวง เขาเองก็รีบเช่นกันแคว้นต้าฉิ่งเป็นแคว้นที่บุรุษสูงส่งสตรีต่ำต้อยอย่างยิ่ง ยามนี้ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงอีกครั้ง ขุนนางเหล่านั้นจะต้องลอบกัดนางทั้งในที่ลับและที่แจ้งอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม...แววตาของเฉินฝานดูลุ่มลึกเย็นชา เขาต้องจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะจากไปขณะที่สวมเสื้อผ้า ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้อง“เข้ามาสิ”“เสี่ยวอวี่เจ้ามาได้เวลาพอดี รีบมาช่วยข้าหน่อยเถิด” เฉินฝานเอ่ยกับค

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status