Share

บทที่ 60

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เมื่อวานที่เรือนของเฉินเจียงมีคนมามากมาย ชาวบ้านชอบนินทาที่สุด มีอะไรเกิดขึ้นเล็กน้อย ก็ลือกันทั่วหมู่บ้าน ตอนนี้เขามีสามร้อยเหวินแล้ว คาดว่าทั้งหมู่บ้านคงรู้แล้ว

“กริ๊ง กริ๊ง!”

กระดิ่งบนคอวัวส่งเสียงใส ตามการเดินของวัว

ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงบนท้องถนน เดินออกมาจากเรือน

ว้าว วัวตัวใหญ่จัง เกวียนด้านหลังของมันเต็มไปด้วยฟืนหนึ่งคันรถ

ฟืนตลอดหนึ่งปี ครัวเรือนใดใช้จ่ายมากเช่นนี้

หมู่บ้านซานเหอนอกจากไม่กี่ครัวเรือนที่ฐานะค่อนข้างดีจะซื้อฟืนมาเผาแล้ว โดยส่วนมากล้วนขึ้นเขาไปตัดเอง คนอื่นๆ ไม่ใช่ไม่อยากซื้อ แต่ว่าไม่มีปัญญาซื้อ

ฟืนหนึ่งมัด สิบเหวิน

คนมากมายยังหิวโหย จะมีเงินซื้อฟืนได้อย่างไร

“ข้าเห็นบนเกวียน มีหน้าต่างไม้และกระดาษมัน!” ชาวบ้านตาดี อย่างรวดเร็วก็เห็นหน้าต่างไม้และกระดาษมันบนเกวียน

“สวรรค์ กระดาษมัน? หมู่บ้านของเราคล้ายมีเพียงหน้าต่างบ้านผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นที่ติดกระดาษมันกระมัง”

“เช่นนั้นไม่ต้องคิด วัวตัวนี้ต้องไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแน่นอน”

“ไม่ใช่ พวกเจ้ามองสตรีบนเกวียน ใช่พิการฉินเย่ว์โหรวของเฉินฝานหรือไม่”

“จริงด้วย ด้านหลังเกวียนคือเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียว”

“ของบนเกวี
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (3)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่าเติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ต้องรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
None None
สมัครสมาชิก1สัปดาห์อ่านได้แค่2ชม.ล็อกแล้ว แพงเกินนนน ที่เหมาะสม 100-200 บาทควรอ่านได้ทั้งเรื่อง
goodnovel comment avatar
Wasuphol Sudjai
อ่านสนุกมาก
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 61  

    ไม่มีผู้ใดตอบสนองคำพูดของจูต้าอัน ตามอุปนิสัยของเฉินฝานก่อนหน้านี้ เมื่อใดที่มีเงิน เขาจะเอาไปดื่มกิน หรือไม่ก็เล่นการพนัน ไม่แยแสเรื่องที่บ้าน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าพี่น้องตระกูลฉินจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร  เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดปฏิเสธตน จูต้าอันก็รู้สึกภูมิใจอยู่ไม่น้อย  “ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านนี้รู้จักเจ้าหนุ่มเฉินฝานดีไปกว่าข้า ไม่สังเกตเห็นบ้างเลยหรือ? สาวน้อยสองคนจากตระกูลฉิน มีสีหน้าขมขื่น เฉินฝานจะต้องพาพวกนางออกไปขายแน่ๆ " “ข้าไม่เห็นสีหน้าขมขื่นของพี่น้องตระกูลฉิน ข้าคิดว่าพวกนางกำลังยิ้มเสียอีก” ชาวบ้านผู้หนึ่งออกมาตอบโต้จูต้าอัน "เจ้าจะไปรู้อะไร?" “รู้อะไร? ครั้งล่าสุดที่เจ้าบอกว่าภายในสามวัน เฉินฝานจะส่งฉินเย่ว์โหรวไปที่หอนางโลมอี๋ชุนย่วน นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ฉินเย่ว์โหรวยังอยู่ในหมู่บ้านซานเหออยู่เลย?” หลังจากเฉินฝานทุบตีจูต้าอัน ผู้คนในหมู่บ้านก็เริ่มหวาดกลัวจูต้าอันน้อยลง “ครั้งที่แล้ว ก็...” สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนไม่ต่างจากพบเจอกับทางตัน แต่แล้วจู่ๆ เฉินฝานก็สามารถคลี่คลายมันได้ จูต้าอันครุ่นคิดเรื่องนี้มาหลายวันแต่ก็ยังคิดไม่ตก เหตุใดหลี่ซานถึงปล่อยเฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 62

    ก่อนจูต้าอันจะทันได้กล่าวจบ เฉินฝานก็ใช้ฟืนในมือฟาดเข้าใส่ศีรษะของจูต้าอันอย่างแรงเมื่อเขานึกถึงจูต้าอันที่มองภรรยาของเขาด้วยท่าทางลามก เฉินฝานรู้สึกว่าแค่ทุบตียังไม่สามารถบรรเทาความเกลียดชังได้จูต้าอันต้องการหลบ แต่เฉินฝานเคลื่อนไหวเร็วกว่า ราวกับว่าเขาสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของจูต้าอันได้ ไม่ว่าจูต้าอันหลบเลี่ยงไปที่ใด เขาก็จะฟาดเข้าใส่ตรงนั้นสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่บ้านของเฉินฝานเมื่อไม่กี่วันก่อน จูต้าอันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดระหว่างถูกทุบตี จูต้าอันพยายามต่อสู้กลับ ทว่าก่อนหมัดของเขาจะถูกชกออกไป เฉินฝานก็สวนกลับอย่างแรงเฉินฝานกระชากบาดแผลเก่าบนศีรษะของจูต้าอันแล้วทุบตีเขา สักพักเลือดก็เริ่มไหลใบหน้าของจูต้าอันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด จนต้องขอความเมตตาจากเฉินฝาน“พี่ชายแสนดี หยุดตีข้าเถอะ หยุดตีข้า!”“ถ้าอยากให้ข้าหยุดก็เรียกข้าว่าท่านปู่!” “ท่านปู่ ท่านปู่ผู้แสนดี” “อะไรนะ?” เฉินฝานก้มศีรษะลงแล้วฟัง “ข้าไม่ได้ยิน เจ้าช่วยพูดให้ดังๆ กว่านี้หน่อย”"ท่านปู่!"“เสียงของเจ้าเบาเกินไป ดูเหมือนว่าการทุบตีของข้าจะยังไม่แรงพอ!” ฟืนในมือของเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 63

    "ไม่นะ!"ฉินเย่ว์โหรวกรีดร้อง ทรุดเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุบ นางพึมพำกับตัวเองว่า "นายท่าน อย่านะ อย่าตีข้าเลย"ยุคปัจจุบัน ในฐานะทหารบนสนามรบ เขารู้เรื่องโรคเครียดที่เกิดจากความสะเทือนใจอย่างรุนแรง เขาเพิ่งสั่งสอนจูต้าอัน ซึ่งอาจจะไปย้ำเตือนความทรงจำที่ฉินเย่ว์โหรวเคยถูกเจ้าของร่างเดิมทุบตีอย่างรุนแรง“เย่ว์โหรว!”เฉินฝานก้มลงอุ้มฉินเย่ว์โหรว ไว้ในอ้อมแขนของเขา"นายท่าน!"ฉินเย่ว์โหรวพยายามดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่เฉินฝานไม่คิดที่จะปล่อยนางไป ยิ่งนางดิ้นรนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกอดรัดนางแน่นมากขึ้นเท่านั้นดังคำกล่าวที่ว่าเรียนผูกต้องเรียนแก้ปมในใจของฉินเย่ว์โหรว เขาจะต้องแก้ไขด้วยตนเองเฉินฝานกอดฉินเย่ว์โหรว จูบลงบนหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องกลัว มันจบแล้ว มันจบแล้ว”ขณะเฉินฝานพยายามปลอบประโลมนางครั้งแล้วครั้งเล่า ฉินเย่ว์โหรวก็ค่อยๆ สงบลงภายในอ้อมแขนของเขา“เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือไม่” เฉินฝานดันฉินเย่ว์โหรวออกไปเล็กน้อยแล้วถามอย่างอ่อนโยน"อื้ม!"“นายท่าน...”ขณะนี้ฉินเย่ว์โหรวกลับมามีสติอีกครั้ง เฉินฝานยังคงกอดนางไว้ฉินเย่ว์โหรวที่ได้สติ เขินอายอย่างยิ่ง “ท่านปล่อยข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 64

    “น้องสี่ นี่เป็นความผิดของเจ้า”ฉินเย่ว์เจียวเป็นคนไม่สนใจใยดี นางไม่คาดคิดว่าน้ำลายจะกระเด็นไปโดนหน้าเฉินฝานลุงขับเกวียนที่เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาก่อน ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“หนุ่มน้อย มีสาวน้อยแสนซนผู้นี้ เจ้าจะได้รับพรในอนาคต!”“ท่านลุง ท่านเลอะเลือนหรืออย่างไร น้ำลายของน้องสี่กระเด็นโดนหน้านายท่าน แต่ท่านกลับบอกว่าซุกซน”ฉินเย่ว์เจียวกล่าว จากนั้นหันกลับมาสั่งสอนบทเรียนให้กับฉินเย่ว์โหรว "น้องสี่ นายท่านดีกับเจ้าก็จริง แต่เวลาทำสิ่งใดเจ้าต้องระวังอย่าประมาทอันขาด เข้าใจหรือไม่?"“พี่สาม ข้าเข้าใจแล้ว”ฉินเย่ว์เจียวไม่รู้จริงๆ ว่าน้องสาวของนางเขินอายมากเสียจน นางอยากจะมุดดินหนี“หนุ่มน้อย ทุกอย่างถูกขนออกไปแล้ว ตาแก่อย่างข้าไม่ขอรบกวนเจ้าแล้ว”หลังจากที่ลุงขับเกวียนออกไปแล้ว เฉินฝานก็พาฉินเย่ว์โหรวกับฉินเย่ว์เจียว ขนย้ายฟืนไปไปไว้ในห้องทางทิศตะวันตกสุด ฟืนสิบห้ากองกระจายออก มีค่อนข้างมาก กินพื้นที่กว่าครึ่งของห้องเล็กๆ ฟืนครึ่งห้อง พอเอาไว้ใช้เผาฟืนได้เดือนกว่าๆข้อเสียอย่างเดียวคือห้องนี้ไม่มีหลังคา ถ้าหิมะตก หิมะจะตกลงมาบนฟืน จึงไม่สะดวกที่จะเก็บฟืนในช่วงดังกล่าว ฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 65

    “น้องสี่ น้องสี่!”เสียงเรียกของฉินเย่ว์เจียว ได้นำพาจิตวิญญาณที่ล่องลอยของฉินเย่ว์โหรวกลับคืนมา “พี่สาม”“เจ้าดูแปลกๆ นะ ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?เมื่อสติสัมปชัญญะของฉินเย่ว์โหรวฟื้นกลับมา ก็พบว่าไม่ใช่แค่ ฉินเย่ว์เจียว แม้แต่เฉินฝานก็กำลังจ้องมองนาง“เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?” เฉินฝานถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ ไม่ ข้าสบายดี ข้าจะไปทำอาหารให้พวกท่านกิน”ก่อนที่นางจะกล่าวจบฉินเย่ว์โหรว ก็รีบเข้าไปในครัว“มีอะไรผิดปกติกับน้องสี่หรือไม่?” ฉินเย่ว์เจียวดูสับสนเฉินฝานส่ายศีรษะ บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน นับตั้งแต่ว่าจ้างครอบครัวของเฉินผิงให้จับปลา เฉินฝานก็ไม่ต้องจับปลาในความมืดอีกหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เฉินฝานก็เห็นว่ายังมืดอยู่ เขาจึงออกไปเดินเล่น ชนบทโบราณในกลางฤดูหนาวอันน่าเบื่อ หลังจากเดินไปมาสองสามรอบ เฉินฝานก็กลับบ้านสองพี่น้องฉินสองคนนั่งอยู่บนเตียงคั่ง[footnoteRef:1] เอาหัวชนกัน คำนวณรายได้ของวันนี้ [1:  เตียงคั่งหรือเตียงอุ่น ทำจากอิฐสามารถให้ความร้อนด้วยไฟได้] เมื่อเห็นเฉินฝานเข้ามา ฉินเย่ว์เจียวก็รีบลงจากเตียงคั่งแล้ววิ่งออกไปทันทีสักพักนางก็ถือกะล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 66

    “แต่เราไม่จำเป็นต้องซื้อหน้าต่างไม้แกะสลัก ซื้อแบบธรมดาก็พอ เช่นเดียวกับกระดาษน้ำมัน เราไม่ควรซื้อมันแผ่นละห้าสิบเหวิน มันแพงเกินไป ใช้แค่กระดาษฟางก็พอ เราเป็นชาวบ้านไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษน้ำมันหรูหราทางฝั่งของฉินเย่ว์เจียว ได้ช่วยเฉินฝานล้างหน้ากับเท้าเสร็จแล้ว   เขาเอนตัวลงบนผ้าห่มบนเตียงเตา แล้วมองดูฉินเย่ว์โหรวอย่างเงียบ ๆเหมือนได้กลับคืนสู่ยุคสมัยใหม่เช่นเดิมเมื่อใดก็ตามที่พ่อของเขาซื้อของชิ้นใหญ่ แม่ของเขามักจะบ่นพ่อของเขาจนหูชาแบบนี้เสมอในตอนนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของเขาถึงไม่โกรธแม่แม้แต่น้อย ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า การถูกภรรยาบ่นช่างมีความสุขจริงๆเมื่อได้ยินเฉินฝานหัวเราะ ฉินเย่ว์โหรวก็เบ้ปากเล็กๆ ของนาง "นายท่าน ยังหัวเราะได้อย่างไร?"“ภรรยาของข้างดงามขนาดนี้ ก็ย่อมต้องหัวเราะอยู่แล้ว!”"..." ฉินเย่ว์โหรวถูกเฉินฝานหยอกเย้า จนนางไม่สามารถจับพู่กันเขียนได้อย่างมั่นคงใบหน้าของนางแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ทำตัวไม่ถูกเฉินฝานไม่คิดที่จะปล่อยนางไปเขายังจำได้ว่าสาวน้อยผู้จุดไฟของเขาให้ตื่น แต่นางกลับหนีไปโดยไม่รับผิดชอบดับไฟแม้แต่น้อย“โดยเฉพาะตอนที่เจ้ากอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 67

    “กระทืบเท้าอีกแล้ว อย่ากระทืบ เท้ายังไม่หายดี อยากเสียเงินเพิ่มหรือไง?”"..." ฉินเย่ว์โหรวหยุดชะงักทันที เมื่อได้ยินว่าอยากเสียเงินเพิ่มหรือไง “ต้องแบบนี้สิ” เฉินฝานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เงินหาได้ไม่รู้จบ แต่สุขภาพนั้นสำคัญ” ความจริงถ้าขายอีกหนึ่งร้อยตัว เฉินฝานก็สามารถปล่อยให้ฉินเย่ว์โหรวกับคนอื่นๆ พักผ่อนได้ เขาไม่ได้มีปัญหาที่จะลงมือทำด้วยตนเองเขาไม่อยากบอกเหตุผลที่แท้จริงกับฉินเย่ว์โหรวไม่อยากให้พวกนางกังวลแปดร้อยตัวคงไม่สามารถขายได้หมดตามเวลาเฉลี่ย สินค้ามากกว่าหกร้อยตัวของวันนี้ ยังต้องใช้เวลาขายมากกว่าสามร้อยตัวของเมื่อวานเกือบสี่เท่ายอดขายก็จะต่ำลงกว่าเดิม พวกเขาขายปลาย่างในตลาดเข้าสู่วันที่สามแล้วดีไม่ดีพรุ่งนี้อาจจะมีแผงขายปลาย่างเพิ่มขึ้นอีกร้านหนึ่งก็ได้ หากเป็นอย่างที่คิด ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถขายปลาได้ แปดร้อยตัวในวันพรุ่งนี้ อาจจะขายได้น้อยกว่าวันนี้ด้วยซ้ำ….หลังจากออกจากเมือง เฉินฝานก็พาสองพี่น้องตระกูลฉินมุ่งหน้าไปยังโรงเผากระเบื้องการซ่อมหลังคา จำต้องเข้าใจราคากระเบื้องก่อนยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านอิฐ เขาจึงไม่รู้ว่าบ้านต้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 68

    “นายท่าน  ไปทางอื่นกันเถอะ!”เมื่อวานนางถูกล้อม ฉินเย่ว์โหรวจึงไม่อยากมีปัญหาอีก“กลัวหรือ ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่นี่ ข้าจะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้า”ใช่ว่าฉินเย่ว์โหรวจะหวาดกลัว นางส่ายศีรษะ “นายท่านข้าไม่กลัว ข้าเป็นห่วงท่าน”“จะเป็นห่วงข้าทำไมกัน ผู้ใดจะกล้าแตะต้องข้า”“ข้ากังวลว่าคนในหมู่บ้านจะเข้าใจท่านผิด ตอนนี้ท่านไม่ใช่คนชั่วร้ายแล้ว ท่านเป็นคนดี!”ดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนดวงดาราของฉินเย่ว์โหรว เต็มไปด้วยความกังวล แสดงให้เห็นถึงความรักที่นางมีต่อเฉินฝานแตกต่างจากความหวาดกลัวและเหินห่างอย่างสิ้นเชิง ถ้าเทียบจากตอนที่เขาเพิ่งเดินทางผ่านกาลเวลามาเฉินฝานรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะไม่ยอมหวั่นไหวง่ายๆตอนนี้เขากำลังเผชิญกับความกังวลของภรรยา เป็นห่วงอยากจะปกป้องตัวเขา... “คนพวกนั้นไม่รู้อะไร มัวแต่พูดจาเหลวไหลไปเรื่อย ถ้าข้าเห็นผู้ใดกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะยิงธนูหรือไม่ก็สั่งสอนพวกเขาให้หลาบจำ!”ก่อนที่เฉินฝานจะขยับ เสียงที่ฉุนเฉียวของฉินเย่ว์เจียวก็ดังขึ้น เขายิ้มอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็แสร้งทำเป็นโกรธ“เย่ว์เจียว ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว เจ้าเป็นสตรีอย่าเอาแต่ตะโกนว่าจะทุบ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1238

    เถียนเสี่ยวอวี่ก็พยักหน้าเช่นกัน “ถูกต้องแล้ว ปกติแล้วประตูบานนั้นจะไม่เปิดออก และยังล็อกกลอนไว้ด้วย จู่ ๆก็บังเอิญ...” เถียนเสี่ยวอวี่หยุดพูดทันที สีหน้าค่อย ๆ มืดมนลง“หรือว่าคนจงใจเปิดออกงั้นรึ? มีคนที่ไม่อยากเจ้าอาวาสพูดต่อ ดูแล้ว อาของคงจิ้งจะต้องทำเรื่องหายนะอย่างใหญ่หลวงเป็นแน่”“เสี่ยวอวี่!” เฉินฝานหยุดชะงักฝีเท้าทันที สีหน้าเคร่งเครียด “สวี่ซื่อเจี๋ยเป็นผู้ว่าการมณฑลเมืองหรงตู เป็นขุนนางขั้นหกระดับสูงในราชสำนัก เรื่องนี้จะคาดเดาส่งเดชไม่ได้”“ใต้เท้า ข้า...”“พอเถอะ ช่างเรื่องนี้ก่อน”เฉินฝานพูดตัดบทเถียนเสี่ยวอวี่อย่างไม่เกรงใจหลิงอวี้ไม่ให้เถียนเสี่ยวอวี่รู้เรื่องของสวี่ซื่อเจี๋ย ก็เพื่อที่จะปกป้องนางเรื่องบางเรื่อง ไม่รู้จึงปลอดภัยที่สุดเฉินฝานอยากรักษาความพยายามที่หวังดีของหลิงอวี้ให้คงอยู่ต่อไปไม่ว่าสวี่ซื่อเจี๋ยจะทำเรื่องอันใด จะเกี่ยวข้องกับเถียนเสี่ยวอวี่หรือไม่ เฉินฝานก็ไม่ยอมให้นางเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ดี“ชิงหนิง พานางกลับเรือนไปพักผ่อนเถอะ”“เจ้าค่ะ!”ชิงหนิงรีบหิ้วตัวเถียนเสี่ยวอวี่ที่ไม่ยอมกลับจากไปทันที นางคิดเหมือนกับเฉินฝานคือ ไม่อยากให้เถียนเสี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1237

    “มีเรื่องอันใดซื่อไท่พูดออกมาตรง ๆ เถิด แก้ปัญหาทุกเรื่องเพื่อราษฎรเพื่อขุนนางอย่างถูกทำนองคลองธรรม ไม่จำเป็นต้องขอร้อง”ได้ยินเฉินฝานพูดเช่นนี้ หลิงอวี้ยืนตัวแข็งทื่อน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาจากตาของนางคำพูดของเฉินฝาน นางไม่เคยได้ยินผู้ใดพูดเช่นนี้มานานแล้วใช่แล้ว เดิมทีก็ควรจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว แก้ปัญหาทุกเรื่องเพื่อราษฎรเพื่อขุนนางอย่างถูกทำนองคลองธรรมทว่า ขุนนางส่วนใหญ่ของต้าชิ่งลืมคำพูดนี้ไปนานแล้ว หลายปีผ่านมานี้เสิ่นหมิงหยวนขุนนางกังฉินกุมอำนาจ ขุนนางต้าชิ่งส่วนใหญ่คิดเพียงว่าจะใช้อำนาจรังแกประชาชนอย่างไรเท่านั้น“ใต้เท้า ท่านโปรดจัดการผู้ว่าการมณฑลสวี่ซื่อเจี๋ยด้วยตนเองนะเจ้าค่ะ เขาเป็นคนที่...”“แค่ก ๆ ๆ ๆ”เฉินฝานไออย่างรุนแรงทันที จู่ ๆ ประตูฝั่งตะวันตกของพระตำหนักก็ถูกลมพัดจนเปิดออก ลมพัดโชยควันธูปมาปะทะหน้าเฉินฝานและหลิงอวี้ขนาดเฉินฝานยังทนไม่ไหว นับประสาอันใดกับหลิงอวี้ที่ป่วยหนัก“แค่ก...”หลังจากที่ไอออกมาอย่างรุนแรง หลิงอวี้ก็รู้ตัวว่าอ่อนแอลงอย่างมาก“แม่นางหวง เจ้ายังมียาอายุวัฒนะอีกหรือไม่” เฉินฝานตะโกนไปด้านนอกตำหนักด้วยน้ำเสียงรีบร้อน เขารู้อยู่แล้วห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1236

    เฉินฝานโบกมือ “เอาล่ะ คารวะเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดจงกลับไปเถอะ”กลุ่มคนโหวกเหวกโวยวาย เฉินฝานไม่ชอบเสียงดังหากไม่ใช่เพราะเถียนเสี่ยวอวี่ เขาคงจะไม่ให้คนเหล่านี้รู้ว่าเขามาที่แห่งนี้มีผู้พิทักษ์สองสามคนติดตามเฉินฝานมาโดยตลอด พวกเขาคือทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งจากฉินเย่ว์เหมยให้มาปกป้องเฉินฝานอย่างลับ ๆก่อนรุ่งสาง เขาเรียกผู้พิทักษ์คนหนึ่งออกมา ให้เขาไปป่าวประกาศเส้นทางของตนเองในเมืองหรงตูเฉินฝานคะเนไว้ว่าขุนนางกลุ่มนั้นคงจะมาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดว่าจะมาเร็วปานนี้“ใต้เท้า พักที่สำนักชีคงไม่สะดวกนัก ท่านตามข้าน้อยกลับไปพักในเมืองหรงตูจะดีกว่าขอรับ”จางหย่งเชาและขุนนางเมืองหรงตูคนอื่น สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และไม่ยินยอม ในกลุ่มขุนนางเหล่านี้นอกจากจางหย่งเชาที่มาจากเมืองหลวงแล้ว คนอื่นล้วนไม่เคยออกจากเมืองหรงตูไม่ใช่เรื่องง่ายที่ท่านอัครเสนาบดีมาเยือน พวกเขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะโผล่หน้ามาให้เฉินฝานเห็น เพื่อเพิ่มโอกาสเลื่อนตำแหน่งของตนเองแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี“ถูกต้องแล้ว ใต้เท้าจางพูดถูก ท่านอัครเสนาบดีท่านกลับเมืองหรงตูไปกับพวกเราเถอะ”“ปกติท่านทำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1235

    จางหย่งเชาเจ้าเมืองหรงตูพุ่งตัววิ่งด้วยความเร็วดั่งวิ่งแข่งร้อยเมตรมาเฉินฝาน ด้านหลังเขามีขุนนางเมืองหรงตูกลุ่มหนึ่งตามมาด้วยขุนนางเมืองหรงตูกลุ่มนี้เป็นขุนนางที่เพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่หลังจากที่เฉินฝานไปเมืองหลวงแล้ว เฉินฝานรู้จักเพียงจางหย่งเชา เขารู้จักจางหย่งเชาเพราะก่อนที่ออกจากเมืองหลวงมาไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยรับสั่งให้เขามาทำภารกิจที่เมืองหรงตูจึงเคยเห็นเขาคนที่ตามหลังจางหย่งเชามาติด ๆคือ ผู้ว่าการมณฑลเมืองหรงตู สวี่ซื่อเจี๋ย เพียงครู่เดียวคงจิ้งก็สามารถมองเห็นอาตนเองได้ นางรีบรุดหน้าเข้าไปหาทันที“ท่านอา!”เห็นคงจิ้งวิ่งมาเช่นนี้ สวี่ซื่อเจี๋ยเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผาก นางตาบอดหรือกระไร? ต่อให้นางไม่รู้จักเฉินฝาน เช่นนั้นนางไม่เห็นจางหย่งเชารึ?เขาร้อนรนใจดั่งไฟสุมอกดึงคงจิ้งลงมาด้านข้าง ในขณะเดียวกันก็ตวาดลั่นไปด้วย “มาทางนี้!”คงจิ้งสีหน้างงงันทันที ผ่านไปครู่เดียวก็วิ่งออกมาอีกแล้ว“ท่านอา คนผู้นั้น!” คงจิ้งยกมือชี้นิ้วออกไป “ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด บอกว่าตนเองเป็นสามัญชนมาก่อความวุ่นวายที่สำนักชีชิงเมี่ยว ทำร้ายร่างกายเหล่าแม่ชีในสำนัก หลานก็ถูกทำร้ายเช่นกัน ท่านดูสิ...

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1234

    “ใต้เท้า ท่านสบายดีหรือไม่?” หลูเฉิงกวงถูมือด้วยความตื่นเต้นอยู่นาน จึงพูดประโยคนี้ออกมาอย่างทุลักทุเล“ข้าสบายดี!” เมื่อเจอคนสนิท เฉินฝานก็ยินดีมากเช่นกันหลิงอวี้พากลุ่มแม่ชีสำนักชีชิงเมี่ยวมาคุกเข่าต่อหน้าเหล่าขุนนางเมืองหรงตูเฉินฝานเดิมอ้อมมา คนด้านข้างจึงยังไม่มีผู้ใดเห็นเขา“พี่หญิงใหญ่ ท่านดูสิ” ชิงผิงตาดี เพียงครู่เดียวก็สังเกตเห็นได้ว่าหลูเฉิงกวงวิ่งมาด้านหน้าเฉินฝานคงจิ้งมองตาม นางขมวดคิ้ว “นั้นคือนายกองหลูเฉิงกวงไม่ใช่รึ?”“คิดว่าใช่นะเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ นายกองเคารพนอบน้อมให้ชายผู้นั้นตลอด ชายผู้นั้นคงจะไม่ใช่สามัญชนแล้วกระมัง?”เมื่อฟังคำพูดของชิงผิงแล้ว ใจของคงจิ้งตึงเครียดทันทีชายผู้นี้ที่เถียนเสี่ยวอวี่พามา เป็นเสนาบดีใหญ่จริงหรือ?ทางเฉินฝาน“ใต้เท้า ข้าจะรายงานท่านเจ้าเมืองจางให้ทราบว่าท่านอยู่ที่นี้” หลูเฉิงกวงกำลังจะไปแจ้งข่าวเจ้าเมืองหรงตูด้วยความยินดี“ตอนนี้ยังไม่ต้อง!” เฉินฝานโบกมือ เขารีบก้าวเท้าฉับเดินไปทางมุมซ้ายของพระอุโบสถมีคนที่เขาอยากเจออย่างมากอยู่ที่นั่น“พี่ฝาน”เป็นต้ายาและสามีของนางโจวถง“ท่านพี่ เร็วเข้าสิ รีบมาคารวะใต้เท้า” ต้ายาท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1233

    “เจ้าอาวาส เหล่าท่านผู้ว่าการมณฑลมาเจ้าค่ะ” คงจิ้งตอบกลับหลิงอวี้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภูไม่ใจและหยิ่งผยอง“ท่านผู้ว่าการมณฑลมางั้นรึ?” หลิงอวี้ตกตะลึงทันที ความหดหู่และความรังเกียจเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะจากนั้นก็จางหายไป ฝีเท้าที่เร่งรีบเมื่อครู่จึงเริ่มผ่อนความเร็วลงหลิงอวี้ไม่ชอบผู้ว่าการมณฑลคนนี้อย่างมาก คงจิ้งอาศัยการที่อาของนางเป็นผู้ว่าการมณฑล มาโอ้อวดอำนาจตัวเองที่สำนักชี ทำให้บรรยากาศในสำนักชีชิงเมี่ยวอึมครึมยิ่งนักหลิงอวี้ป่วยหนักไร้ทางรักษาอยู่ก่อนแล้ว นางพยายามยื้อชีวิตไว้ เพราะไม่อยากให้ตัวเองจากไปเร็วนัก ไม่อยากให้สำนักชีชิงเมี่ยวตกไปเป็นของคงจิ้งเช่นนี้หลิงอวี้คิดว่าเรื่องที่ตนเองทำผิดมหันต์ที่สุดในชีวิตนี้คือการให้คงจิ้งเข้ามาในสำนักชีชิงเมี่ยวคงจิ้งหน้าตาสะสวย ภูไม่หลังครอบครัวดี กลับไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ แม่ของนางกลับส่งนางมาที่สำนักชีชิงเมี่ยว แต่ไม่ได้ให้อยากให้คงจิ้งถือศีลกินเจแต่อย่างใด เป้าหมายที่แท้จริงคือ...เมื่อคิดถึงกลุ่มคนวิปริตเหล่านั้น แววตาที่เมตตาอ่อนโยนทอประกาย พลันปรากฏความเดือดดาลทันทีเพื่อจะเติมเต็มความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่มีสิ้นสุดขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1232

    “ช่างเป็นพวกที่ชอบรนหาที่ตายเสียจริง!” เสียงเดือดดาลดังขึ้น ชิงหนิงผ่อนฝีเท้าลงเล็กน้อย นางทะยานตัวบินไปด้านนอกบ้าน ฝูงชนไม่ทันมีการตอบสนองใด นางก็บินกลับมาแล้ว ตอนที่กลับมา นางก็ถือแส้หนังหนึ่งเส้นมาด้วยชิงหนิงยกมือขึ้นสะบัดแส้หนังออกไป“เพียะ!”เสียงกังวานดังขึ้นจากพื้นที่ถูกแส้หนังฟาดลงไป“อ้าก!”คงจิ้งส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป นางจับหน้าตนเองกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด“โถ่เว้ย...”คงจิ้งยังคิดที่จะออกคำสั่งให้แม่ชีเหล่านั้นใช้กำลังบีบบังคับชิงหนิง ปรากฏว่านางเพิ่งจะปริปาก ก็มีเสียงฟาดแส้หนังลงมาอีกหลายครั้ง“อ้าก ๆ ๆ ๆ!”แม่ชีสิบกว่าคนส่งเสียงแล้วจึงล้มลงไป พวกนางล้มลงกลิ้งตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้าง ๆ คงจิ้ง ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่า วรยุทธ์ของชิงหนิงไม่ธรรมดาหลังจากที่โกนหัวบวชชีแล้ว ชิงหนิงก็เชื่อฟังคำพูดเถียนเสี่ยวอวี่มาโดยตลอด ละทิ้งอาวุธ ละทิ้งความคิดฟุ้งซ่าน ละทิ้งความแค้น ตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยจิตใจแน่วแน่หากไม่ใช่เพราะคงจิ้งยั่วโมโหเช่นนี้ ทั้งชีวิตนี้ชิงหนิงคงไม่คิดจะแตะต้องแส้หนังของนางอีก“ชิงหยวน เจ้าจงรีบไปในเมืองเดี๋ยวนี้ ไปบอกท่านอาข้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1231

    เฉินฝานสีหน้าถมึงทึงทันที ปกติแล้วหากเป็นเรื่องเล็กน้อยเขาย่อมไม่ถือสา ทว่าทำให้เสบียงอาหารได้รับเสียหาย เช่นนั้นก็...“เพียะๆ!”เฉินฝานกำลังเตรียมจะยกเท้าถีบออกไป ก็มีเสียงดังกังวานสองครั้งดังขึ้น“เจ้าคนไร้ประโยชน์!”ตามมาด้วยเสียงเดือดดาลของชิงหนิง ชิงผิงล้มลงต่อหน้านางด้วยความเร็วประดุจแสง“โอ๊ย!” ชิงผิงที่ล้มลงไปอย่างรุนแรง โอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันที“ชิงหนิง!” ชิงผิงลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ชี้นิ้วกัดฟันกรอดด่าทอชิงหนิง “เจ้ากล้าเตะข้ารึ ข้าจะไปฟ้องศิษย์พี่หญิงของเจ้า”ชิงหนิงกวาดสายตามองชิงผิง “ไปสิ เจ้าให้คงจิ้งมาด้วย ข้าจะได้จัดการพร้อมกันทีเดียว!”ชิงผิงตวาดด้วยความโมโห “เจ้ากล้างั้นรึ?”ชิงหนิงยกยิ้มมุมปาก “ไฉนข้าจะไม่กล้า? เจ้าไม่กล้าไปเรียกเองล่ะสิ หรือจะบอกว่านางไม่กล้ามาดีล่ะ?”“หึ ช่างปากดียิ่งนัก อยู่กับคนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีผู้นั้น จึงกลายเป็นคนไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเหมือนกันไปแล้ว”คงจิ้งมาพร้อมกับแม่ชีสิบกว่าคนอย่างยิ่งใหญ่อลังการตอนที่เดินผ่านชิงผิง คงจิ้งหยุดฝีเท้ากล่าวถาม “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”“พี่หญิงใหญ่ พวกเขา...” ชิงผิงมองไปที่เฉินฝานและชิงหนิง ค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1230

    “...แม่นางหวง?”เฉินฝานที่พลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง มองไปยังข้างเตียงที่ว่างเปล่าไม่มีใครสักคนอย่างตะลึงงันถ้าไม่ใช่เพราะม่านประตูส่ายไหว เฉินฝานยังนึกว่าเมื่อครู่นี้เขาตาฝาดไปเฉินฝานเหลือบมองม่านประตูที่สั่นไหว แล้วแย้มยิ้ม “ก็แค่สาวน้อยปากแข็ง”ไม่สนนางแล้ว เฉินฝานดึงเสื้อผ้าท่อนล่างขึ้นมา แล้วล้มตัวลงไปนอนต่อนอนเร็วก็เลยตื่นเช้าฟ้าเพิ่งสว่าง เฉินฝานก็ตื่นแล้ว เมื่อเขาพลิกตัวขึ้นมา เฉินฝานรู้สึกว่าความเจ็บที่บั้นท้ายหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว เฉินฝานพอใจมาก ยาสมุนไพรของสำนักชีชิงเมี่ยวนี้มีประสิทธิภาพมากเลย วันนี้ก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวงเถิดหวงหวั่นเอ๋อร์รีบร้อนไปเมืองหลวง เขาเองก็รีบเช่นกันแคว้นต้าฉิ่งเป็นแคว้นที่บุรุษสูงส่งสตรีต่ำต้อยอย่างยิ่ง ยามนี้ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงอีกครั้ง ขุนนางเหล่านั้นจะต้องลอบกัดนางทั้งในที่ลับและที่แจ้งอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม...แววตาของเฉินฝานดูลุ่มลึกเย็นชา เขาต้องจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะจากไปขณะที่สวมเสื้อผ้า ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้อง“เข้ามาสิ”“เสี่ยวอวี่เจ้ามาได้เวลาพอดี รีบมาช่วยข้าหน่อยเถิด” เฉินฝานเอ่ยกับค

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status