Share

บทที่ 66

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-05-29 19:11:27
“แต่เราไม่จำเป็นต้องซื้อหน้าต่างไม้แกะสลัก ซื้อแบบธรมดาก็พอ เช่นเดียวกับกระดาษน้ำมัน เราไม่ควรซื้อมันแผ่นละห้าสิบเหวิน มันแพงเกินไป ใช้แค่กระดาษฟางก็พอ เราเป็นชาวบ้านไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษน้ำมันหรูหรา

ทางฝั่งของฉินเย่ว์เจียว ได้ช่วยเฉินฝานล้างหน้ากับเท้าเสร็จแล้ว

เขาเอนตัวลงบนผ้าห่มบนเตียงเตา แล้วมองดูฉินเย่ว์โหรวอย่างเงียบ ๆ

เหมือนได้กลับคืนสู่ยุคสมัยใหม่เช่นเดิม

เมื่อใดก็ตามที่พ่อของเขาซื้อของชิ้นใหญ่ แม่ของเขามักจะบ่นพ่อของเขาจนหูชาแบบนี้เสมอ

ในตอนนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของเขาถึงไม่โกรธแม่แม้แต่น้อย

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า การถูกภรรยาบ่นช่างมีความสุขจริงๆ

เมื่อได้ยินเฉินฝานหัวเราะ ฉินเย่ว์โหรวก็เบ้ปากเล็กๆ ของนาง "นายท่าน ยังหัวเราะได้อย่างไร?"

“ภรรยาของข้างดงามขนาดนี้ ก็ย่อมต้องหัวเราะอยู่แล้ว!”

"..."

ฉินเย่ว์โหรวถูกเฉินฝานหยอกเย้า จนนางไม่สามารถจับพู่กันเขียนได้อย่างมั่นคง

ใบหน้าของนางแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ทำตัวไม่ถูก

เฉินฝานไม่คิดที่จะปล่อยนางไป

เขายังจำได้ว่าสาวน้อยผู้จุดไฟของเขาให้ตื่น แต่นางกลับหนีไปโดยไม่รับผิดชอบดับไฟแม้แต่น้อย

“โดยเฉพาะตอนที่เจ้ากอ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 67

    “กระทืบเท้าอีกแล้ว อย่ากระทืบ เท้ายังไม่หายดี อยากเสียเงินเพิ่มหรือไง?”"..." ฉินเย่ว์โหรวหยุดชะงักทันที เมื่อได้ยินว่าอยากเสียเงินเพิ่มหรือไง “ต้องแบบนี้สิ” เฉินฝานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เงินหาได้ไม่รู้จบ แต่สุขภาพนั้นสำคัญ” ความจริงถ้าขายอีกหนึ่งร้อยตัว เฉินฝานก็สามารถปล่อยให้ฉินเย่ว์โหรวกับคนอื่นๆ พักผ่อนได้ เขาไม่ได้มีปัญหาที่จะลงมือทำด้วยตนเองเขาไม่อยากบอกเหตุผลที่แท้จริงกับฉินเย่ว์โหรวไม่อยากให้พวกนางกังวลแปดร้อยตัวคงไม่สามารถขายได้หมดตามเวลาเฉลี่ย สินค้ามากกว่าหกร้อยตัวของวันนี้ ยังต้องใช้เวลาขายมากกว่าสามร้อยตัวของเมื่อวานเกือบสี่เท่ายอดขายก็จะต่ำลงกว่าเดิม พวกเขาขายปลาย่างในตลาดเข้าสู่วันที่สามแล้วดีไม่ดีพรุ่งนี้อาจจะมีแผงขายปลาย่างเพิ่มขึ้นอีกร้านหนึ่งก็ได้ หากเป็นอย่างที่คิด ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถขายปลาได้ แปดร้อยตัวในวันพรุ่งนี้ อาจจะขายได้น้อยกว่าวันนี้ด้วยซ้ำ….หลังจากออกจากเมือง เฉินฝานก็พาสองพี่น้องตระกูลฉินมุ่งหน้าไปยังโรงเผากระเบื้องการซ่อมหลังคา จำต้องเข้าใจราคากระเบื้องก่อนยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านอิฐ เขาจึงไม่รู้ว่าบ้านต้อ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 68

    “นายท่าน  ไปทางอื่นกันเถอะ!”เมื่อวานนางถูกล้อม ฉินเย่ว์โหรวจึงไม่อยากมีปัญหาอีก“กลัวหรือ ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่นี่ ข้าจะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้า”ใช่ว่าฉินเย่ว์โหรวจะหวาดกลัว นางส่ายศีรษะ “นายท่านข้าไม่กลัว ข้าเป็นห่วงท่าน”“จะเป็นห่วงข้าทำไมกัน ผู้ใดจะกล้าแตะต้องข้า”“ข้ากังวลว่าคนในหมู่บ้านจะเข้าใจท่านผิด ตอนนี้ท่านไม่ใช่คนชั่วร้ายแล้ว ท่านเป็นคนดี!”ดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนดวงดาราของฉินเย่ว์โหรว เต็มไปด้วยความกังวล แสดงให้เห็นถึงความรักที่นางมีต่อเฉินฝานแตกต่างจากความหวาดกลัวและเหินห่างอย่างสิ้นเชิง ถ้าเทียบจากตอนที่เขาเพิ่งเดินทางผ่านกาลเวลามาเฉินฝานรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะไม่ยอมหวั่นไหวง่ายๆตอนนี้เขากำลังเผชิญกับความกังวลของภรรยา เป็นห่วงอยากจะปกป้องตัวเขา... “คนพวกนั้นไม่รู้อะไร มัวแต่พูดจาเหลวไหลไปเรื่อย ถ้าข้าเห็นผู้ใดกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะยิงธนูหรือไม่ก็สั่งสอนพวกเขาให้หลาบจำ!”ก่อนที่เฉินฝานจะขยับ เสียงที่ฉุนเฉียวของฉินเย่ว์เจียวก็ดังขึ้น เขายิ้มอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็แสร้งทำเป็นโกรธ“เย่ว์เจียว ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว เจ้าเป็นสตรีอย่าเอาแต่ตะโกนว่าจะทุบ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 69

    เอ้อร์ยา อายุเพียงแปดขวบ มีอุปนิสัยแบบเด็กๆ เมื่อได้ยินผู้อื่นกล่าวหาว่าครอบครัวของตนไม่ดี ก็หน้าแดงรีบโต้ตอบจางโถวทันทีบอกว่าพวกเขาไม่ได้จับปลาเพื่อกิน แต่เพื่อขายเมื่อได้ยินคำกล่าวของ เอ้อร์ยา เหล่าจางโถวก็หัวเราะหนักขึ้นไปอีกปลาขายได้หรือ? เนื่องจากเอ้อร์ยายังอายุน้อยจึงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม เลยคุยโวออกไป เอ้อร์ยาน้ำตาไหล บอกว่าตนเองไม่ได้คุยโว พี่ฝานมอบเงินให้ครอบครัวตนเองวันละห้าสิบเหวิน เอ้อร์ยาปากไว จนสายเกินไปที่เฉินผิงจะหยุดแน่นอนว่าเหล่าจางโถวไม่เชื่อ เขาส่ายศีรษะแล้วเดินออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะไม่นานหลังจากเขากลับมาถึงหมู่บ้าน เขาก็ได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันเขาบอกว่าตอนนี้เฉินฝานร่ำรวยแล้วเฉินฝานขายปลาย่างในเมือง มีคนมากมายรีบไปซื้อ เฉียนหลิวเป็นคนพูดเรื่องนี้ไม่มีใครสงสัยในคำกล่าวของเฉียนหลิวเพราะทันทีที่เขากล่าว จะมีคนเป็นพยานให้เขาทันทีวันนี้เฉียนหลิวกับชาวบ้านอีกสามคนไปที่เมืองด้วยกัน ทั้งสามคนได้เห็นกับตา เฉินฝานขับเกวียน ขนตะกร้าขนาดใหญ่ไปหลายตระกร้า ทั้งยังขายหมดตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันเมื่อเหล่าจางโถวได้ยินดังนั้น ก็รีบร้องตะโกนทันทีดูเหมือนว่าเ

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 70

    “ข้าขอโทษด้วย”“ข้าขอโทษด้วย”“เจ้า...” เฉินฝานรู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย ขณะผู้คนเข้ามาขอโทษตัวเองทีละคนหากปฏิเสธ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน เกรงว่าจะกล่าวไม่ได้“หากพวกเจ้าทุกคนมาช่วยข้าจับปลา คิดว่าวันเดียวข้าจะขายได้เยอะขนาดนั้นเชียวหรือ! ลองคิดดูว่าจะมีวิธีขายปลาเพิ่มได้หรือไม่ ข้าถึงจ้างพวกเจ้าทั้งหมดได้”“เฉินฝาน โปรดช่วยข้าด้วย ข้าต้องการแค่สามเหวินต่อวัน” ผู้กล่าวคือผู้ชายที่เพิ่งเป็นพ่อคนเฉินฝานรีบกล่าว “เจ้าอย่าทำเช่นนี้!” หากยังแข่งขันกันเองต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าคนเหล่านี้คงต่อสู้/ทะเลาะกันขึ้นมาว่าแล้ว ทันทีที่เขากล่าวจบ บางคนบอกว่าพวกเขาสามารถจับปลาให้เฉินฝานได้ในราคาสามเหวินต่อวัน บางคนถึงกับบอกว่า เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?ชาวบ้านเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนเริ่มเถียงกันหน้าดำหน้าแดง เฉินฝานยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ“เอาล่ะ หยุดพูดกันได้แล้ว เฉินฝานมีเรื่องจะกล่าว” เฉียนหลิวผู้มีดวงตาแหลมคม ขอให้ทุกคนเงียบลงทันทีทุกคนเงียบมองมาทางเฉินฝานเฉินฝานแอบสูดหายใจ แล้วกล่าวว่า "ทุกคน ให้ข้ากลับบ้านคิดดูก่อน ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาวิธี

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 71

    “ไฉนถึงต้องรอให้ลุงเจียงเข้ามาในหมู่บ้านก่อนถึงเข้าได้ ช่างน่างงงวย หรือคนแก่จะสับสน?”ฉินเย่ว์เจียวผู้มีอารมณ์ร้อนแรง พ่นคำกล่าวออกมา “ตอนชาวบ้านมารุมล้อมรอบตัวข้า ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นลุงเจียงเดินผ่านพวกเราไป” ฉินเย่ว์โหรวกล่าวเบาๆ อยู่ด้านข้าง"หืม?"ฉินเย่ว์เจียวยิ่งสับสนมากขึ้น เมื่อนางกล่าวอีกครั้ง เสียงของนางก็ก้าวร้าวมากขึ้น“เส้นทางเข้าหมู่บ้านเป็นของครอบครัวเขาหรือไง? ไฉนพวกเขาถึงต้องเข้ามาก่อน?”“ปากร้าย เจ้าเป็นหัวหน้าครอบครัวแบบใดกัน ถึงได้มีภรรยาหยาบคายเช่นนี้!” จากอีกด้านของกำแพง เฉินเจียงก่นด่าออกมาอย่างโกรธเคืองเพื่อไม่ให้น้อยหน้า ฉินเย่ว์เจียวสวนกลับทันที "สอบไม่ผ่านด้วยซ้ำ ทำแสร้งเป็นบัณฑิต"“ดูหมิ่นบัณฑิต ดูหมิ่นบัณฑิต ดูหมิ่นบัณฑิต!” เห็นได้ชัดว่าเฉินเจียงโกรธเป็นอย่างมาก เขาบอกว่าดูหมิ่นบัณฑิตซ้ำถึงสามครั้งติดต่อกัน“เอาล่ะ!” เฉินฝานกล่าว “เย่ว์เจียว ไม่ต้องสนใจเขาหรอก“ “นายท่าน!” ฉินเย่ว์เจียวไม่เต็มใจเล็กน้อย “พวกเขาช่างประหลาดนัก ถนนเส้นนี้ไม่ใช่ของครอบครัวพวกเขาสียหน่อย” “ไปยุ่งกับพวกเขาทำไม เหมือนเจ้าโดนหมากัด แล้วจะกัดตอบหรือไร!”เฉินฝานกล่าวด

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 72

    แม้ว่าเฉินเจียงที่อยู่ด้านข้างจะไม่ได้กล่าวอะไร แต่เขากลับยืนวางมาดหลังตรง คงไม่ต้องบอกว่าเขาภูมิใจแค่ไหน“โอ้!” ลุงรองของจางเหลียนฮวาพยักหน้าซ้ำๆ “ข้าได้ยินมาว่าคนจากหมู่บ้านซานเหอมักจะมาบ้านหลานสะใภ้เพื่อขอชามตะเกียบ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง”“เฮ่อ” จางเหลียนฮวาหันกลับมาแล้วโบกมือ “จานตะเกียบที่บ้านต้องเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้ง”จางเหลียนฮวาไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยมีประเพณีในพื้นที่ชนบทของอำเภอผิงอัน หากมีคนในหมู่บ้านชีวิตเจริญรุ่งเรืองหรือมีบัณฑิตมากความสามารถ ชาวบ้านก็จะไปขอชามตะเกียบที่บ้านนั้นเพราะหวังว่าตนเองจะโชคดีตามไปด้วย ถ้ามีผู้ใฝ่เรียนที่บ้าน พวกเขาก็หวังว่าลูกๆ จะอ่านหนังสือจนได้ดิบได้ดีเช่นกันเฉกเช่นเดียวกับเฉินเจียง ซึ่งมีลูกชายสองคนติดต่อกัน นับเป็นบุคคลสูงศักดิ์ตามที่นักพรตเต๋าวัดซานชิงทำนายไว้ โดยปกติแล้วจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาที่บ้านเพื่อขอชามตะเกียบอย่างไม่ว่างเว้น “ในหมู่บ้านยังมีชาวบ้านอีกมากที่ไม่ได้ขอชามตะเกียบ สงสัยว่าคงรีบกันมาก”“อืม” ลุงรองเหลียนฮวาพยักหน้าพลางกล่าวกับเฉินเจียง “หลานเขย หลังจากนี้ทิ้งชามตะเกียบไว้ให้ลุงรองของเจ้าด้วย”เฉินเจียงปร

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 73

    เฉินเจียงเป็นคนมีความสามารถโดดเด่น อย่างเรื่องติดหนี้หอนางโลมอี๋ชุนย่วน นางกล่าวออกไปไม่ได้เด็ดขาด ทำได้แค่รักษาหน้าตา ตอนที่นางอยู่บ้านพ่อแม่ นางกินเนื้อเยอะมากนานมากแล้วที่นางไม่ได้กินเนื้อดีๆ เช่นนี้เมื่อลุงรองได้ยิน เขาก็แสดงความชื่นชมเป็นอย่างมาก "หลานเขยของข้าเก่งจริงๆ เรียนก็ดี แถมยังได้เงินเดือนสูงอีก"ขณะกล่าว เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินฝานที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปหา“มีคนเลวเช่นนี้อยู่ที่บ้าน เขาคงมาขอเงินที่บ้านบ่อยๆ”“เป็นเรื่องปกติ!” เมื่อกล่าวถึงเฉินฝาน ใบหน้าของจางเหลียนฮวาก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเหนือกว่า“ครอบครัวของเราสองครอบครัวอาศัยอยู่ติดกัน เขาจะมาที่บ้านของข้าทุกๆ สองวัน เขายากจนมากจนภรรยาสองคนที่เขารับมาเมื่อปีที่แล้วแทบจะอดตาย”ทันทีที่จางเหลียนฮวากล่าวจบ กลุ่มของพวกเขาก็มาถึงด้านหลังเฉินฝาน ที่กำลังถูกชาวบ้านรุมล้อม"ทุกคน!"เฉินเจียงผสานมือโค้งคำนับให้ชาวบ้านแล้วกล่าวว่า "เจ้าสารเลวนี่ทำให้ทุกคนขุ่นเคืองอีกแล้วใช่หรือไม่ ข้าหวังว่าทุกคนจะยกโทษให้เขาอีกครั้ง เพื่อเห็นแก่น้องชายผู้นี้"หลังจากกล่าวเช่นนั้น เฉินเจียงก็ยืดร่างกายของเขาให้ตรงดูสง่างามเป

    Last Updated : 2024-05-29
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 74

    จางเหลียนเซียงไม่เห็นว่าใบหน้าของเฉินเจียงน่าเกลียดเพียงใด ขณะเขาเดินอยู่ข้างหน้าพี่สาวของนางเดิมทีจางเหลียนฮวาต้องการบอกจางเหลียนเซียงให้หยุดพูดได้แล้ว แต่ลุงรองของนางกลับกล่าวขึ้นมาอีก “น่าจะไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อวานข้าได้ยินมาว่ามีพ่อค้าปลาย่างปรากฏตัวที่ตลาดประจำอำเภอ เห็นว่าปลาย่างของเขาอร่อยมาก ผู้เฒ่าหลี่เศรษฐีในหมู่บ้านซื้อมาเมื่อวาน วันนี้ก็รีบออกไปแต่เช้าอีก”“มีคนถามว่าทำไมรีบขนาดนี้ เขาบอกถ้าไปช้ากลัวจะไม่ได้ปลาย่าง”“จริงหรือ?” จางเหลียนฮวาอ้าปากกว้าง “ผู้เฒ่าหลี่กล่าวเช่นนั้นจริงหรือ?”“จริงแท้แน่นอน ตอนนั้นข้าอยู่ที่นั่นเลยได้ยินทุกอย่างชัดเจน”“เช่นนั้นเฉินฝานก็ไม่ธรรมดา แล้วทำไมพี่สาวถึงบอกว่าเขายากจนถึงขั้นภรรยาทั้งสองของเขาแทบจะอดตายเล่า?”ยามนี้จางเหลียนฮวารู้สึกเสียใจมาก ที่ขอให้น้องสาวติดตามมาด้วยเดิมทีนางอยากจะอวดต่อหน้าน้องสาว ให้น้องสาวได้เห็นว่าบ้านเพิ่งสร้างใหม่ของนางที่ปูด้วยอิฐและกระเบื้องสีน้ำเงินนั้นงดงามหรูหราเพียงใด ผลลัพธ์คือ... “พี่สาว… วันละห้าสิบเหวิน เช่นนั้นท่านก็บอกให้พี่เขยไปขอร้องเฉินฝาน ไปขายปลาย่างด้วยคน เขาเป็นหลานชายของพี่เขยไม

    Last Updated : 2024-05-29

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status