แม้ว่าเฉินเจียงที่อยู่ด้านข้างจะไม่ได้กล่าวอะไร แต่เขากลับยืนวางมาดหลังตรง คงไม่ต้องบอกว่าเขาภูมิใจแค่ไหน“โอ้!” ลุงรองของจางเหลียนฮวาพยักหน้าซ้ำๆ “ข้าได้ยินมาว่าคนจากหมู่บ้านซานเหอมักจะมาบ้านหลานสะใภ้เพื่อขอชามตะเกียบ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง”“เฮ่อ” จางเหลียนฮวาหันกลับมาแล้วโบกมือ “จานตะเกียบที่บ้านต้องเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้ง”จางเหลียนฮวาไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยมีประเพณีในพื้นที่ชนบทของอำเภอผิงอัน หากมีคนในหมู่บ้านชีวิตเจริญรุ่งเรืองหรือมีบัณฑิตมากความสามารถ ชาวบ้านก็จะไปขอชามตะเกียบที่บ้านนั้นเพราะหวังว่าตนเองจะโชคดีตามไปด้วย ถ้ามีผู้ใฝ่เรียนที่บ้าน พวกเขาก็หวังว่าลูกๆ จะอ่านหนังสือจนได้ดิบได้ดีเช่นกันเฉกเช่นเดียวกับเฉินเจียง ซึ่งมีลูกชายสองคนติดต่อกัน นับเป็นบุคคลสูงศักดิ์ตามที่นักพรตเต๋าวัดซานชิงทำนายไว้ โดยปกติแล้วจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาที่บ้านเพื่อขอชามตะเกียบอย่างไม่ว่างเว้น “ในหมู่บ้านยังมีชาวบ้านอีกมากที่ไม่ได้ขอชามตะเกียบ สงสัยว่าคงรีบกันมาก”“อืม” ลุงรองเหลียนฮวาพยักหน้าพลางกล่าวกับเฉินเจียง “หลานเขย หลังจากนี้ทิ้งชามตะเกียบไว้ให้ลุงรองของเจ้าด้วย”เฉินเจียงปร
เฉินเจียงเป็นคนมีความสามารถโดดเด่น อย่างเรื่องติดหนี้หอนางโลมอี๋ชุนย่วน นางกล่าวออกไปไม่ได้เด็ดขาด ทำได้แค่รักษาหน้าตา ตอนที่นางอยู่บ้านพ่อแม่ นางกินเนื้อเยอะมากนานมากแล้วที่นางไม่ได้กินเนื้อดีๆ เช่นนี้เมื่อลุงรองได้ยิน เขาก็แสดงความชื่นชมเป็นอย่างมาก "หลานเขยของข้าเก่งจริงๆ เรียนก็ดี แถมยังได้เงินเดือนสูงอีก"ขณะกล่าว เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินฝานที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปหา“มีคนเลวเช่นนี้อยู่ที่บ้าน เขาคงมาขอเงินที่บ้านบ่อยๆ”“เป็นเรื่องปกติ!” เมื่อกล่าวถึงเฉินฝาน ใบหน้าของจางเหลียนฮวาก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเหนือกว่า“ครอบครัวของเราสองครอบครัวอาศัยอยู่ติดกัน เขาจะมาที่บ้านของข้าทุกๆ สองวัน เขายากจนมากจนภรรยาสองคนที่เขารับมาเมื่อปีที่แล้วแทบจะอดตาย”ทันทีที่จางเหลียนฮวากล่าวจบ กลุ่มของพวกเขาก็มาถึงด้านหลังเฉินฝาน ที่กำลังถูกชาวบ้านรุมล้อม"ทุกคน!"เฉินเจียงผสานมือโค้งคำนับให้ชาวบ้านแล้วกล่าวว่า "เจ้าสารเลวนี่ทำให้ทุกคนขุ่นเคืองอีกแล้วใช่หรือไม่ ข้าหวังว่าทุกคนจะยกโทษให้เขาอีกครั้ง เพื่อเห็นแก่น้องชายผู้นี้"หลังจากกล่าวเช่นนั้น เฉินเจียงก็ยืดร่างกายของเขาให้ตรงดูสง่างามเป
จางเหลียนเซียงไม่เห็นว่าใบหน้าของเฉินเจียงน่าเกลียดเพียงใด ขณะเขาเดินอยู่ข้างหน้าพี่สาวของนางเดิมทีจางเหลียนฮวาต้องการบอกจางเหลียนเซียงให้หยุดพูดได้แล้ว แต่ลุงรองของนางกลับกล่าวขึ้นมาอีก “น่าจะไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อวานข้าได้ยินมาว่ามีพ่อค้าปลาย่างปรากฏตัวที่ตลาดประจำอำเภอ เห็นว่าปลาย่างของเขาอร่อยมาก ผู้เฒ่าหลี่เศรษฐีในหมู่บ้านซื้อมาเมื่อวาน วันนี้ก็รีบออกไปแต่เช้าอีก”“มีคนถามว่าทำไมรีบขนาดนี้ เขาบอกถ้าไปช้ากลัวจะไม่ได้ปลาย่าง”“จริงหรือ?” จางเหลียนฮวาอ้าปากกว้าง “ผู้เฒ่าหลี่กล่าวเช่นนั้นจริงหรือ?”“จริงแท้แน่นอน ตอนนั้นข้าอยู่ที่นั่นเลยได้ยินทุกอย่างชัดเจน”“เช่นนั้นเฉินฝานก็ไม่ธรรมดา แล้วทำไมพี่สาวถึงบอกว่าเขายากจนถึงขั้นภรรยาทั้งสองของเขาแทบจะอดตายเล่า?”ยามนี้จางเหลียนฮวารู้สึกเสียใจมาก ที่ขอให้น้องสาวติดตามมาด้วยเดิมทีนางอยากจะอวดต่อหน้าน้องสาว ให้น้องสาวได้เห็นว่าบ้านเพิ่งสร้างใหม่ของนางที่ปูด้วยอิฐและกระเบื้องสีน้ำเงินนั้นงดงามหรูหราเพียงใด ผลลัพธ์คือ... “พี่สาว… วันละห้าสิบเหวิน เช่นนั้นท่านก็บอกให้พี่เขยไปขอร้องเฉินฝาน ไปขายปลาย่างด้วยคน เขาเป็นหลานชายของพี่เขยไม
"แต่..."หยวนเป่าวัยสามขวบไม่ได้คิดมาก เขาพึมพำเบาๆ “ ตอนนี้ข้าหิวแล้ว ข้าแค่อยากกินของอร่อยๆ”คืนนี้เป็นการนอนหลับที่แย่ที่สุดของเฉินเจียง ในรอบสามปีที่ผ่านมาเฉินฝานซึ่งอาศัยอยู่ข้างๆ ก็นอนไม่หลับเช่นกันคนในหมู่บ้านอยากให้เขาพาทุกคนร่ำรวยไปด้วยกันเขาก็ต้องการเช่นนั้นเพราะด้วยระดับการทำเงินในปัจจุบันของเขา ทำให้เขาไม่สามารถหาเงินมาซ่อมแซมบ้านได้ก่อนวันตังโจ่ยแต่เขาจะหาเงินมากมายในเวลาเพียงสิบวัน แถมยังต้องพาชาวบ้านร่ำรวยไปด้วยได้อย่างไรตอนนี้เป็นฤดูหนาวแล้วทุกสิ่งบนแผ่นดินล้วนขาดแคลนการล่าสัตว์ก็ไม่ใช่ทางเลือกเช่นกัน เพราะเขาไม่สามารถพาชาวบ้านขึ้นภูเขาหัวเสือเพื่อล่าเสือได้แม้ว่าเขาจะมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา แต่ชาวบ้านก็อาจจะไม่ไปกับเขาเขาทำงานด้านการผลิต แต่เพิ่งจะเดินทางข้ามกาลเวลามาไม่ถึงหนึ่งเดือน จึงไม่มีเวลาทำความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ใดสามารถผลิตในยุคนี้ได้บ้างเขาพลิกตัวไปมา ครุ่นคิดหาวิธีแก้ปัญหาทั้งคืนเริ่มจากปลาก่อนแล้วกัน เขาต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถจ้างคนเพิ่มได้แต่ด้วยวิธีนี้เขาไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่…วันต่อมา ท้องฟ้ายังมืดสลัว เฉินฝานออกเดินท
“มิใช่หรือ? ปลาย่างของพวกเขา เทียบกับของเจ้าได้ที่ไหนน้องเสี่ยวฝาน?”หลี่ซื่อที่ขายขนมอบกับลุงขายขนมเปี๊ยะไม่เพียงต่อสู้เพื่อเฉินฝานเท่านั้น แต่ยังเพื่อตัวของพวกเขาเองด้วยหากการค้าของเฉินฝานซบเซา การค้าของพวกเขาก็จะซบเซาลงเช่นกัน“ขอบคุณพี่ซื่อกับท่านลุงที่พยายามต่อสู้ต่อกับความไม่ถูกต้องเพื่อข้า พอดีวันนี้ข้ามีบางอย่างต้องทำ จึงต้องเก็บร้านก่อน” เฉินฝานรีบขอบคุณพวกเขา เพราะเขาต้องการจากไปแล้ว …ขณะที่เฉินฝานเดินทางไปตลาด หมู่บ้านซานเหอก็ค่อนข้างวุ่นวาย“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าไร้เดียงสาเกินไป เจ้าจะเชื่อคนอย่างเฉินฝานได้อย่างไรกัน”“เมื่อวานพวกเจ้าแต่ละคนไปขอร้องเขา ช่างน่าขบขันยิ่งนัก เห็นอยู่ว่าเขาวิ่งหนีไปแล้ว โง่หรือไงกัน”จูต้าอันกับชาวบ้านที่ไม่ได้ไปขอร้องเฉินฝานเมื่อวานนี้ ต่างหัวเราะเยาะชาวบ้านที่ไปห้อมล้อมเฉินฝานเมื่อวาน“จูต้าอันเจ้าไม่ใช่หรือที่เพิ่งวิ่งหนีหางจุกตูด?” เฉียนลิ่วตอบโต้จูต้าอัน “เมื่อวานซืนใช่หรือไม่? เจ้าถูกเฉินฝานทุบตีจนมีสภาพเหมือนคางคกยืนไม่ได้” เมื่อวันก่อน เขาถูกเฉินฝานทุบตีต่อหน้าผู้คนมากมายนับเป็นช่วงเวลาน่าอับอายที่สุดของจูต้าอัน ที่เคยพบ
“เฉินฝาน? ข้าไม่เห็นเขาในตลาด!”หัวหน้าหมู่บ้านก็ได้ยินเรื่องเฉินฝานขายปลาย่างเช่นกัน หลังจากเก็บเงิน เขาก็ตั้งใจไปเดินเล่นที่ตลาดโดยเฉพาะ เขาแค่อยากจะดูว่าเฉินฝานขายปลาอย่างไร แต่เขาไม่เห็นเฉินฝาน“ข้าพูดไม่ผิด บอกแล้วว่าเฉินฝานต้องวิ่งหนี”เดิมทีจูต้าอันที่เตรียมจะเดินจากไปอย่างสิ้นหวัง แสดงท่าทางตื่นเต้นอีกครั้งทันที เมื่อได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าเขาไม่เห็นเฉินฝาน“ฮ่าฮ่า เฉินฝานยังไงก็คือเฉินฝานอยู่วันยังค่ำ แม้แต่เงินของลุงเจียงเขายังใช้มีดบีบบังคับเอามาได้ เจ้าเชื่อคนแบบนี้งั้นหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้เจ้าคงโดนเขาหลอกเข้าแล้วล่ะ”“ท่านลุง หรือว่าเฉินฝานจะไปขายที่อื่น?”เฉียนลิ่วยังไม่อยากจะเชื่อ เรื่องหน้าตาเป็นแค่เรื่องเล็ก แต่เงินซื้อยาให้แม่สำคัญกว่าเมื่อวาน เขาคิดว่าต้องขอบคุณเฉินฝานที่ทำให้เขามีเงินจ่ายค่ายาของแม่ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น “ไม่!” หัวหน้าหมู่บ้านส่ายศีรษะซ้ำๆ “วันนี้ป้าของเจ้ามีของให้ซื้อมากมาย เราเดินทางไปทั่วทุกสารทิศแล้ว แต่ก็ไม่เห็นเฉินฝานเลย”“เจ้ามันก็แค่คนโง่เขลา เชื่อคนอื่นไม่ดีกว่าหรอ ไปเชื่อเฉินฝานจริงแถมยังอ้อนวอนขอร้องเขา
“อืม”หลี่ซานพยักหน้า “ความจริงข้าค่อนข้างชอบคนนิสัยเช่นเจ้า ตรงไปตรงมาไม่วกวนให้มากความ ช่วยบอกข้าหน่อยว่าต้องการร่วมมืออย่างไร!” "ข้าจะสอนพ่อครัวของเรือนแขกสำราญสุขปรุงปลา”ดวงตาของหลี่ซานเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนั้น "เป็นข้อตกลงที่ไม่เลว เจ้าคิดราคาเท่าไหร่?"เฉินฝานเหยียดนิ้วชี้ของเขาออก“หนึ่งตำลึง?”เฉินฝานส่ายศีรษะ “เจ้า?” หลี่ซานนั่งตัวตรงจ้องมองที่นิ้วชี้ของเฉินฝาน “อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการหนึ่งร้อยตำลึง?เฉินฝานพยักหน้า “ถูกต้อง!”หลี่ซานจ้องมองเฉินฝาน “เมื่อสักครู่ข้ายกย่องเจ้า ดูเหมือนว่าข้าจะรีบร้อนไป เจ้าหนู กะอีแค่สูตรปรุงปลาย่างไม่ใช่เรื่องยากอันใด เท่าที่ข้ารู้ ตอนนี้ตลาดมีร้านขายปลาย่างหลายร้านแล้ว” “แม้ว่าตอนนี้ปลาย่างของพวกเขาจะรสชาติด้อยกว่าเจ้า แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งพวกเขาจะตามเจ้าทัน ข้าบอกให้พ่อครัวของข้าไปยืนอยู่หน้าแผงขายปลาย่างของเจ้าสองสามครั้ง ซื้อปลาย่างติดมาสักสองสามตัว พวกเขาก็ทำได้เช่นกัน” “หนึ่งร้อยตำลึง เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? เงินสิบตำลึง หากเจ้าต้องการขายก็ขายไป ถ้าไม่ขาย ก็เป็นอันยกเลิก!” หลี่ซานนั่งลงบนเก้าอี้แล้วไขว่ห้าง แสดงท่าทางเหมือน
มีปลาอยู่บนจานใบใหญ่ เฉินฝานวางจานใบใหญ่ในมือลง แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเมื่อกลับมาอีกครั้ง เขามีแผ่นไม้อยู่ในมือเฉินฝานวางแผ่นไม้ไว้บนโต๊ะ“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว ยกมาให้นายน้อยหลี่”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวติดตามเฉินฝาน ในมือถือกระทะขนาดเล็กด้วยกัน พวกนางวางกระทะขนาดเล็กไว้บนแผ่นไม้ที่ เฉินฝานวางไว้กระทะใบเล็กเต็มไปด้วยปลาเช่นกัน"นี่คืออะไร?"หลี่ซานจ้องมองจานใหญ่กับกระทะใบเล็กบนโต๊ะ แม้ว่าดวงตาของเขาจะเผยความรังเกียจ แต่ปากของเขาก็ไม่ได้รังเกียจแม้แต่น้อย ในจานใหญ่ : ปลาสีขาวหั่นบาง ๆ คลุกเคล้ากับใบผักกาดดองสีเหลืองทอง สีน่ารับประทานมาก เนื้อปลากับผักกาดดองผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดกลิ่นที่หลี่ซานไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน ในกระทะใบเล็ก : ปลาในหม้อมีสีน้ำตาลส่งกลิ่นหอมจากการย่าง มีส่วนผสมหลายอย่างใต้ปลา เช่น ถั่วงอก แตงกวาเขียว ฯลฯ น้ำเดือดพลุ่งพล่านอยู่ในหม้อ กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งเรือนแขกสำราญสุขขณะนี้ไม่มีแขกอยู่ในเรือนแขกสำราญสุข มีเพียงผู้ดูแล พ่อครัว คนทำความสะอาด ยามรักษาความปลอดภัย พนักงานยกอาหาร ผู้คนหลายสิบคนรายล้อมกันอยู่รอบๆแม้แต่พ่อครัวที่ใช้เ
“ได้เลย หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน จัดให้เลยพรุ่งนี้” เฉินฝานตอบเสียงดัง“หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน!”ทหารทุกคนล้วนเข้าใจจุดประสงค์ที่เฉินฝานให้พวกเขากินดื่มกันยกใหญ่บนภูเขา ดังนั้นจึงพร้อมใจกันทวนชื่ออาหารเสียงดัง“ใต้เท้า!”ขณะที่เฉินฝานกำลังเตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อน ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็พาสตรีนางหนึ่งมาหาเขาสตรีผู้นั้นเป็นคนที่มาจากด้านล่างหุบเขา นางคือสาวใช้คนสนิทของโอวหยางหน่าหลัน“ข้าขอพบใต้เท้าเฉิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายของพวกท่าน!” สาวใช้ผู้นั้นเอาแต่กล่าวเช่นนี้ซ้ำ ๆ “ข้านี่แหละ” เฉินฝานกล่าวสาวใช้ผู้นั้นมองเฉินฝานอย่างพิจารณาพลางเอ่ยพึมพำในปากว่า “ใบหน้าขาวสะอาด รูปร่างกำยำ เสียงทุ้มนุ่มลึก”“เช่นนั้นข้าตรงกับเงื่อนไขหรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ยิ้มแล้วดูซื่อ ๆ” สาวใช้มองเฉินฝานแล้วเอ่ยพึมพำกับตนเองอีกครั้ง“อ้อ!” เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า “ที่แท้ในสายตาองค์หญิงของพวกเจ้าข้ามีภาพลักษณ์เช่นนี้เอง!”“องค์หญิงของเราตรัสว่าพวกเรายอมจำนนก็ได้!” สาวใช้ผู้นั้นกล่าว“นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก องค์หญิงของพวกเจ้าควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ว่าพระ
เฉินฝานกล่าวจบไปได้พักใหญ่แล้ว เหอจื่อหลินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม“พี่จื่อหลิน มิใช่ว่าอยากรีบจบเรื่องนี้โดยเร็วหรอกหรือ? เหตุใดพี่ยังมัวอึ้งอยู่ที่นี่เล่า? รีบลงมือสิ!” เฉินฝานเร่งเหอจื่อหลิน “ทราบดีว่าท่านมีคำถามอยู่เต็มสมอง ตอนนี้ไม่อาจอธิบายให้ท่านฟังโดยละเอียด ท่านไปจัดการก่อน อีกไม่นานข้าจะมา”หลังจากที่เหอจื่อหลินจากไปแล้ว เฉินฝานก็พาฉินเย่ว์เจียวเข้าเมืองลู่ตูทันทีไม่นาน เขาก็พาคนออกมาจากเมืองลู่ตู มุ่งหน้าสู่เนินเขากงจียามที่เฉินฝานไปถึง พ่อครัวทหารของกองทัพต่าง ๆ กำลังขนย้ายเครื่องครัวมาถึงพอดี ขณะเดียวกันเจ้าเมืองลู่ตูก็นำไก่หนึ่งพันตัวมาส่งให้เช่นกันเฉินฝานให้พ่อครัวทหารของกองทัพต่าง ๆ ตั้งเตาหลายสิบเตาของแต่ละกองทัพตรงสถานที่ที่มีลมโกรก ต้มน้ำเดือด หั่นไก่ที่เชือดเรียบร้อยแล้วเป็นชิ้น ๆ แล้วเคี่ยวลงในหม้อผ่านไปไม่นานนัก น้ำแกงไก่ในหม้อเหล็กใบใหญ่ก็เดือดปุด ๆ กลิ่นหอมของน้ำแกงไก่เข้มข้นอบอวลไปทั่วหุบเขาอย่าว่าแต่ทหารหลู่ที่หิวจนท้องร้องโครกครากเลย ต่อให้เป็นกองทัพลาดตระเวนที่เพิ่งกินข้าวอิ่มเมื่อครู่นี้ต่างก็น้ำลายไหลถึงพื้นแล้ว เฉินฝานกล่าวเสียงดังว่า “เหล
มองทหารที่อยู่ในหลุมหลบภัย ถูกไฟคลอกทั้งตัว เกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด รวมถึงน้ำมันสนที่ยังคงไหลไม่หยุด ทหารหลู่ที่ยังไม่กระโดดลงไปในหลุมหลบภัย ไม่กล้ากระโดดลงไปแล้วทหารหลู่ที่เดิมทีจะฝ่าวงล้อมออกไปได้แล้วนั้น ถูกขังด้วยเพลิงไฟ“เหี้ยมโหดยิ่งนัก!”โอวหยางหน่าหลันตะโกนด้วยความโมโหหลังจากนั้น เฉินฝานทำเพียงอย่างดีซึ่งก็คือขุดหลุมรอบทหารหลู่ แล้วเทน้ำมันสนลงไปเรื่อยๆตอนทหารหลู่ย้อนกลับไปทางเดิม ไปถึงหุบเขาต้าถัง หลี่จื้อใช้วิธีการเดียวกัน อีกทั้งเขายิ่งสบายกว่าหุบเขาต้าถังมีเพียงทางเดียว เขาสั่งให้คนขุดหลุมยาว เทน้ำมันสนปริมาณมากลงไป เมื่อทหารหลู่มาถึง เปลวไฟในหลุมลุกโชนทหารหลู่อยากฝ่าออกไปโดยใช้เส้นทางบนหุบเขา กองทัพลาดตระเวนประจำการอยู่ที่นั่น ยิ่งง่ายในการต่อสู้ยิ่งไปกว่านั้น ทหารหลู่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหนึ่งวันแล้ว ต่อสู้ตลอดทั้งวัน พวกเขาแทบจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีจนสิ้นแล้วหฃังจากปิดล้อมทหารหลู่ เฉินฝานก็สั่งให้หยุดโจมตีตอนนี้เพียงปิดล้อมไม่ต้องโจมตีแล้ว ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองอาวุธและชีวิตอันล้ำค่าของกองทัพลาดตระเวนอีกต่อไป“ใต้เท้า ส่งคนเข้าไปสามรอบแล้ว
“สหายทั้งหลาย ลุย! อย่าให้ทหารหลู่ไปถึงหลุมหลบภัยที่สามของทหารหญิงเด็ดขาด”เวลานี้ ทหารกองกำลังที่สามจากหุบเขาเสี่ยวถังมาถึงแล้วเมื่อทหารกองกำลังที่สามถึง ซุนลี่ก็ออกคำสั่งทันที“ทหารทั้งหลาย กองทัพลาดตระเวนต้าชิ่งเริ่มปิดล้อมแล้ว เหลืออีกเพียงหนึ่งแนวป้องกันเท่านั้น ก็จะฝ่าออกไปจากการปิดล้อมได้แล้ว!”ทางด้านทหารหลู่ โอวหยางน่าหลันก็ฉีดยาให้กำลังใจทหารหลู่“อย่ายอมตายอย่างอดอยากเด็ดขาด ฝ่าออกไป!”ทหารหลู่ราวกับเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก ไม่ว่าข้างกายจะมีคนล้มลงมากน้อยเพียงใด พวกเขาล้วนมองไม่เห็น เป้าหมายของพวกเขามีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือไปถึงหลุมหลบภัยที่สามของทหารหญิง แล้วฝ่าวงล้อมออกไปเวลานี้ เหอจื่อหลินที่มาจากหุบเขาต้าถังมาถึงแล้วทหารกองกำลังที่ห้าของเหอจื่อเฝ้าหุบเขาต้าถัง เพื่อป้องกันทหารหลู่ถอยกลับไปทางด้านเหอจื่อหลินนำทัพกองกำลังที่สองเร่งเดินทางมา“ใต้เท้า ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วทหารหลู่ต้องฝ่าออกไปได้แน่นอน ข้ารีบเข้าเมืองลู่ตูตอนนี้ นำทหารเฝ้าเมืองห้าหมื่นนาย ไปเมืองลู่ตูเพื่อปิดกั้นเส้นทางการออกไปของทหารหลู่”“นี่ไม่ใช่วิธีการที่ดี!”เฉินฝานขมวดคิ
“ฝ่าออกไป ไม่อาจเป็นผีหิวตายเด็ดขาด!”โอวหยางน่าหลันลากเท้าที่บาดเจ็บ พุ่งตัวไปด้านหน้าหลังจากถูกยิงไปแล้วหนึ่งครั้ง ทหารรักษาพระองค์ล้อมโอวหยางน่าหลังทั้งสองสี่ด้าน คุ้มกันนางอย่างแน่นหนาลูกธนูของฉินเย่ว์เจียวยิงถูกคน ทว่าไม่อาจยิงโดนโอวหยางน่าหลัน“ฝ่าออกไป! ไม่อาจอดตายกลายเป็นผีได้!”คล้ายตอนอยู่นอกประตูเมืองลู่ตู จู่ๆ ทหารหลู่พุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างไม่คิดชีวิตครั้งนี้ พวกเขาไม่วิ่งขึ้นหุบเขาอีกแล้ว พุ่งตัวไปหาทหารหญิง“ลุย จัดการพวกมันซะ!” มั่วเซินรีบออกคำสั่งทันทีทหารกองกำลังที่หนึ่ง รวมถึงทหารกองกำลังที่สามซึ่งรีบเดินทางมา ระดมกำลังต่อสู้ ช่วยคลายความกดดันให้ทหารหญิงบนพื้นดิน ทหารหลู่ล้มกองแล้วกองเล่า ศพกองเป็นภูเขาแต่พวกเขากลับไม่สนใจคนข้างกาย ยิงธนูใส่พวกสตรี อย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งตัวไปด้านหน้าลูกธนูด้านหน้าถูกยิงมาราวกับสายฝน พวกทหารหญิงถึงขั้นไม่อาจเงยหน้าขึ้น“พี่น้องทั้งหลาย!” เย่ว์หนูร้องตะโกนเสียงดัง “ลงไปเร็วเข้าๆ ทหารหลู่มาใกล้เกินไปแล้ว สุ่มโยนได้เลย!”ทหารหญิงกระโดดลงจากเก้าอี้ ยืนอยู่ในหลุมหลบภัยแล้วสุ่มโยนระยะทางใกล้เช่นนี้ การสุ่มโยนระเบิดทห
“เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวขึ้นสายเกาทัณฑ์ทันที “รับประกันว่าเพียงหนึ่งดอกก็คร่าชีวิตนางได้แล้ว”“อย่าสังหารนาง เพียงให้นางตกลงจากก้อนหินก็พอ ให้นางไม่กล้าเสนอหน้าอีกก็พอ” เฉินฝานรีบพูด“นายท่าน ท่านชมชอบนางหรือเจ้าคะ?”นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเย่ว์เจียว กล่าวถึงสตรีอื่นแล้ว เปี่ยมไปด้วยความหึงหวงนางไม่ชอบโอวหยางน่าหลัง สตรีที่คิดอยากจะเป็นผู้หญิงของนายท่าน นางไม่เคยกีดกัน แต่ว่าโอวหยางน่าหลันคนนี้ ไม่เพียงอยากแต่งงานกับนายท่าน ยังอยากแย่งนายท่านไปอีก ทำเกินไปแล้วจริงๆเฉินฝานยิ้ม “โอวหยางน่าหลันมีประทุมอวบอิ่มสะโพกผาย ทั้งยังร่ำรวย ชายใดบ้างที่จะไม่ชอบ?”รับรู้ได้ว่าสตรีข้างกายแทบจะเบิดอารมณ์แล้ว เฉินฝานรีบหุบยิ้ม พูดด้วยความจริงจัง “ข้าล้อเล่น ตอนนี้โอวหยางน่าหลันยังตายไม่ได้!”ต้องไว้ชีวิตนางเพื่อทำการต่อรองดวงหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียวเปี่ยมไปด้วยความโมโห “ข้าต้องการให้นางตาย!”แม้จะพูดด้วยความโมโห แต่ตอนมือของฉินเย่ว์เจียวขึ้นสายเกาทัณฑ์ นางเบี่ยงมือเล็กน้อย“โอ๊ย~”สิ้นเสียงโอดครวญ โอวหยางน่าหลันที่ยืนอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงไป“องค์หญิง!”“คุ้มกันองค์หญิง!”หลังจากโอวห
“หลุมลึกเช่นนั้น หากไม่มีเก้าอี้ พวกนางปีนป่ายขึ้นมาต้องใช้แรงมหาศาลทหารหลู่ที่วิ่งเร็วที่สุด เข้าสู่วงล้อมโจมตีของเนินเขากงจีแล้ว“ระวัง ด้านหน้ามีทหารต้าชิ่ง!”สายตาเฉียบแหลมของเขาพบว่าเส้นทางด้านหน้า มีโคลนหลายกอง อยู่บนถนน“เอ๊ะ เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่านั่นเป็นพวกผู้หญิง?”“ไม่ใช่รู้สึก แต่พวกนางเป็นผู้หญิงจริงๆ”“ข้าได้ยินมาโดยตลอดว่าต้าชิ่งมีทหารหญิง คิดไม่ถึงว่าจะมีจริงๆ!”เมื่อเห็นว่าเป็นสตรี พวกทหารหลู่ผ่อนคลายลงมาก“เฮ้อ พวกเจ้าอย่าประเมินศัตรูต่ำเกินไป ข้าได้ยินว่าทหารหญิงแคว้นต้าชิ่ง ร้ายกาจยิ่งนัก”มีคนเตือน แต่ก็มีคนโต้กลับในทันทีทันใด?”“ใช่ ตอนนี้แข่งเรื่องต่อสู้ ไม่ได้แข่งเย็บปักถักร้อย”หลังจากเห็นทหารหญิงด้านหน้าแล้ว ทหารหลู่ที่หมดอาลัยตายอยากก่อนหน้านี้ กระปรี้กระเปร่าขึ้นมามาก“แม้กระทั่งสตรีก็ถูกสั่งให้มาสู้รบ ต้าชิ่งไม่มีบุรุษแล้วจริงๆ”“สหาย พวกเจ้าเห็นหรือไม่? สตรีต้าชิ่ง งดงามกว่าสตรีแคว้นหลู่ของเรา”“งดงามกว่าสตรีแคว้นหลู่ของเราจริงๆ สหาย ต้าชิ่งเหลือเพียงสตรีแล้ว พวกเรารีบฝ่าออกไป แล้วค่อยโต้กลับทีหลัง”“หลังจากยึดครองต้าชิ่ง สตรีต้าชิ่งทั้งหมดเ
“เฉินฝานเทน้ำชาในกา ทิ้งลงในเตาผิง จากนั้นวางกาน้ำชาเปล่าไว้บนโต๊ะ“ไปกันเถอะ!”“ไปไหนเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวรีบตามไป“เนินเขากงจี เวลานี้ทหารหลู่น่าจะถอนกำลังไปถึงเนินเขากงจีแล้ว”ฉินเย่ว์เจียวกำลังคิดอยากจะถามเฉินฝาน เขารู้ได้อย่างไรว่าทหารหลู่จะถอยทัพไปถึงเนินเขากงจีแล้ว ถังหงชางหัวหน้าผู้ส่งสารกเข้ามาเมื่อเห็นเฉินฝาน ถังหงชางรีบวิ่งตามมา “ใต้เท้า น่าจะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทหารหลู่ก็จะไปถึงเนินเขากงจีขอรับ”“อื้ม!”เฉินฝานที่พยักหน้า รีบเดินออกไปเขาจะไปเนินเขากงจี การดักโจมตีบนเนินเขากงจี คือสิ่งสำคัญที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้ตัดสินแพ้ชนะ ทั้งยังตัดสินชะตาแคว้นหลู่และต้าชิ่งการดักโจมตีบนเนินเขากงจี ไม่เพียงโจมตีบนหุบเขา ภาคพื้นดินมีทหารซุ่มโจมตี อีกทั้งระหว่างทาง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเฉียนหงที่ประจำเนินเขายาจุ่ยกลับมาพร้อมกับทหารหลู่แล้ว...“ขุดเร็วเข้า ไม่ได้ ขุดลึกอีกหน่อย!”“ที่เจ้าขุดยังไม่ถึงแปดฟุตแปดนิ้ว ขุดอีก!”เฉินฝานยังไปไม่ถึง ก็ได้ยินเสียงเคร่งขรึมของเย่ว์หนูแล้วหลังจากทหารหลู่ผ่านเนินเขากงจี เฉินฝานให้คนไปส่งข่าวบอกเย่ว์หนู สั่งให้นางขุดหลุมตรงกลางถ
“เจ้า...”โอวหยางน่าหลันโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว“องค์หญิง โปรดรับสั่งให้ถอยทัพในทันทีพ่ะย่ะค่ะ!” อวิ๋นเต๋อพูดซ้ำอีกรอบ อีกทั้งครั้งนี้แววตาของเขาลุ่มลึก“ถอยทัพ!”โอวหยางน่าหลันกัดฟันพูดหลังจบสิ้นสงครามนี้ คนพวกนี้ นางจะจัดการทีละคน“ทหารหลู่ของเรามีแปดแสนกว่านาย กองทัพลาดตระเวนมีหนึ่งแสนนาย เหตุใดต้องถอย?”ระหว่างทางถอยทัพ โอวหยางน่าหลันเจ็บแค้นใจมาโดยตลอด ถามอวิ๋นเต๋อซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“องค์หญิง ตอนนี้พวกเรามีกำลังทหารไม่ถึงแปดแสนนายแล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวิ๋นเต๋อตอบตอนโจมตีเมือง ทหารหลู่แลกด้วยชีวิต บวกกับโจมตีหุบเขาต้าถังเมื่อครู่ ตอนนี้ไม่มีเวลานับจำนวนคนแล้ว แต่ประสบการณ์ที่เคยนำทัพมาหลายปีของอวิ๋นเต๋อบอกกับเขาว่า ตอนนี้ทหารหลู่เหลือไม่ถึงหกแสนนายแล้ว“แม้จะเป็นเช่นนี้ ฝืนสู้เสียหน่อย ระเบิดไหสุราของพวกเขาก็หมดลงแล้ว”“องค์หญิง องค์หญิงพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ หากพวกเรายืนหยัดอีกเสียหน่อย กองทัพลาดตระเวนต้องใช้ระเบิดจนหมดแน่นอน”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังถอยทัพ?”“องค์หญิง ด้วยวิธีการขององค์หญิง สามารถคว้าชัยชนะมาได้ แต่ความสูญเสียนั้นมากเกินไป อีกทั้งเห็นชัดว่าเป็นกับดัก เสบียงอาหาร