แชร์

บทที่ 78

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“อืม”หลี่ซานพยักหน้า “ความจริงข้าค่อนข้างชอบคนนิสัยเช่นเจ้า ตรงไปตรงมาไม่วกวนให้มากความ ช่วยบอกข้าหน่อยว่าต้องการร่วมมืออย่างไร!”

"ข้าจะสอนพ่อครัวของเรือนแขกสำราญสุขปรุงปลา”

ดวงตาของหลี่ซานเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนั้น "เป็นข้อตกลงที่ไม่เลว เจ้าคิดราคาเท่าไหร่?"

เฉินฝานเหยียดนิ้วชี้ของเขาออก

“หนึ่งตำลึง?”

เฉินฝานส่ายศีรษะ

“เจ้า?” หลี่ซานนั่งตัวตรงจ้องมองที่นิ้วชี้ของเฉินฝาน “อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการหนึ่งร้อยตำลึง?

เฉินฝานพยักหน้า “ถูกต้อง!”

หลี่ซานจ้องมองเฉินฝาน “เมื่อสักครู่ข้ายกย่องเจ้า ดูเหมือนว่าข้าจะรีบร้อนไป เจ้าหนู กะอีแค่สูตรปรุงปลาย่างไม่ใช่เรื่องยากอันใด เท่าที่ข้ารู้ ตอนนี้ตลาดมีร้านขายปลาย่างหลายร้านแล้ว”

“แม้ว่าตอนนี้ปลาย่างของพวกเขาจะรสชาติด้อยกว่าเจ้า แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งพวกเขาจะตามเจ้าทัน ข้าบอกให้พ่อครัวของข้าไปยืนอยู่หน้าแผงขายปลาย่างของเจ้าสองสามครั้ง ซื้อปลาย่างติดมาสักสองสามตัว พวกเขาก็ทำได้เช่นกัน”

“หนึ่งร้อยตำลึง เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? เงินสิบตำลึง หากเจ้าต้องการขายก็ขายไป ถ้าไม่ขาย ก็เป็นอันยกเลิก!” หลี่ซานนั่งลงบนเก้าอี้แล้วไขว่ห้าง แสดงท่าทางเหมือน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 79

    มีปลาอยู่บนจานใบใหญ่ เฉินฝานวางจานใบใหญ่ในมือลง แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเมื่อกลับมาอีกครั้ง เขามีแผ่นไม้อยู่ในมือเฉินฝานวางแผ่นไม้ไว้บนโต๊ะ“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว ยกมาให้นายน้อยหลี่”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวติดตามเฉินฝาน ในมือถือกระทะขนาดเล็กด้วยกัน พวกนางวางกระทะขนาดเล็กไว้บนแผ่นไม้ที่ เฉินฝานวางไว้กระทะใบเล็กเต็มไปด้วยปลาเช่นกัน"นี่คืออะไร?"หลี่ซานจ้องมองจานใหญ่กับกระทะใบเล็กบนโต๊ะ แม้ว่าดวงตาของเขาจะเผยความรังเกียจ แต่ปากของเขาก็ไม่ได้รังเกียจแม้แต่น้อย ในจานใหญ่ : ปลาสีขาวหั่นบาง ๆ คลุกเคล้ากับใบผักกาดดองสีเหลืองทอง สีน่ารับประทานมาก เนื้อปลากับผักกาดดองผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดกลิ่นที่หลี่ซานไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน ในกระทะใบเล็ก : ปลาในหม้อมีสีน้ำตาลส่งกลิ่นหอมจากการย่าง มีส่วนผสมหลายอย่างใต้ปลา เช่น ถั่วงอก แตงกวาเขียว ฯลฯ น้ำเดือดพลุ่งพล่านอยู่ในหม้อ กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งเรือนแขกสำราญสุขขณะนี้ไม่มีแขกอยู่ในเรือนแขกสำราญสุข มีเพียงผู้ดูแล พ่อครัว คนทำความสะอาด ยามรักษาความปลอดภัย พนักงานยกอาหาร ผู้คนหลายสิบคนรายล้อมกันอยู่รอบๆแม้แต่พ่อครัวที่ใช้เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 80

    “เจ้ากำลังทำอะไร? ถอยออกไปซะ!” หลี่ซานดุยามรักษาความปลอดภัยด้วยความโกรธถังเป่ามองไปที่หลี่ซานอย่างสับสนเถ้าแก่ ท่านด่าอีกฝ่าย แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้ไล่พวกเขาออกไป?“ไป ไป ไป!” หลี่ซานโบกมืออย่างไม่พอใจ แล้วดึงเฉินฝานมานั่งข้างเขา“เฉินฝาน เจ้าทำได้อย่างไร? เจ้าทำปลาเช่นนี้ได้อย่างไร? ให้ตายเถอะ มันโคตรอร่อยเลย!”“เนื้อปลาไม่คาวแม้แต่น้อย เนื้อนุ่มในปาก แล่บางจนไม่ต้องคายก้างออก แม้จานนี้จะมีน้ำมัน แต่มันกลับไม่เยิ้มเลย ปกติข้าไม่ชอบผักกาดดอง แต่ผักกาดดองของเจ้าอร่อยมาก”“เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ให้ตายเถอะ มันโคตรอร่อยเลย!”เฉินฝานพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำสบถด่าหลุดออกมาจากปากของหลี่ซานไม่หยุดดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดที่เมื่อครู่บอกว่าหลี่ซานร่ำเรียนสูงอาจจะไม่มีหมึกอยู่ในท้องของชายผู้นี้เลย แม้แต่หยดเดียว “พ่อครัวในร้านของท่านทำผักกาดดองอย่างดีไว้ ข้ามิกล้ารับคำชมนี้”พ่อครัวของเรือนแขกสำราญสุข เชี่ยวชาญการดองผักกาดดองอย่างแท้จริง ถ้าให้เขาทำ เขาคงทำผักกาดดองดีๆ แบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน“เอาเถอะๆ ไม่ว่าผักดองจะดีแค่ไหน เมื่อวางบนโต๊ะมันก็ไม่อร่อยเลย เจ้า…” หลี่ซานชี้ไปที่พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 81

    “สองร้อยแปดตำลึง หลี่ซานใช้นิ้วมือทำท่าทาง อีกอย่างหลังจากนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดหาปลา ราคาปลาสดขอเพียงแค่ราคาไม่สูงจนเกินไป ข้าก็รับได้ทั้งนั้น เช่นนั้นก็ตามนี้ ข้าให้ได้มากที่สุดเท่านี้”เฉินฝานหันกลับมา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยหลี่ช่างเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงๆเสียด้วย”สองร้อยแปดตำลึง เยอะกว่าที่ตนคาดหวังไว้ในตอนแรกหนึ่ง ร้อยกว่าตำลึง ปลาเขาก็เป็นคนจัดหามา และราคาเขาก็เป็นคนกำหนด ในเมืองผิงอันเล็กๆนี้ คงจะไม่มีใครเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ได้หลี่ซานถลึงตาใส่เฉินฝาน “ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ เจ้าหนุ่มนี่ช่างวางกับดักเก่งที่สุดแล้ว!”“เงินจำนวนนี้ ข้าจะไม่ทำให้นายน้อยหลี่เสียเปล่าแน่นอน”อาหารสองอย่างที่นำให้มาให้หลี่ซานนี้ ไม่ใช่แค่สองร้อยแปดตำลึงเท่านั้นสมัยก่อน เฉินฝานยังอยากที่จะอยู่ในตลาดนัดหาเงินให้ได้มากกว่านี้ ตัวเขาเองอยากจะเปิดร้านอาหารต่างๆในเมืองนี้ ทว่าเวลาไม่รอเขา จึงทำได้เพียงร่วมมือกับหลี่ซานเท่านั้นการร่วมมือแน่นอนว่าไม่ใช่การพูดปากเปล่า ต้องมีข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรปลาย่างขนาดเล็กแบบที่อยู่ในตลาด เมื่อครู่เฉินฝานใช้ปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่มาทำปลาย่างจานใหญ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 82

    “หลังจากที่ตกลงไปที่หุบเขาไม่ได้สติ ก็ฝันถึงความฝันที่ยาวนานมากๆ ข้าได้ไปโลกาที่แสนมหัศจรรย์ โลกานั้นแตกต่างกับโลกาของพวกเราตอนนี้อย่างสิ้นเชิง ในห้วงความฝันนั้น ข้าได้เรียนรู้สิ่งที่ที่นี่ไม่มีมากมาย”เฉินฝานไม่ได้พูดว่าทะลุมิติเพราะว่าต่อให้สองพี่น้องนี้ฉลาดแค่ไหน ก็ยังเป็นคนยุคโบราณ ปรากฏการณ์การทะลุมิติเช่นนี้ คนยุคปัจจุบันไม่สามารถหาวิธีในการใช้วิทยาศาสตร์อธิบายได้ นับประสาอะไรกับคนยุคโบราณ“ดังนั้นหลังจากที่ข้าฟื้นขึ้นมา ก็ยังเป็นข้าคนเดิม ทว่าก็เป็นข้าในแบบใหม่ด้วย”“นายท่าน โลกาในห้วงความฝันเป็นโลกาแบบใดกัน? มิคาดคิดว่าจะสอนสิ่งต่างๆมากมายให้ท่านได้ขนาดนี้”ดวงตาทั้งคู่ของฉินเย่ว์โหรวเปล่งประกายแวววับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย“นั่นเป็นโลกาที่แสนจะมหัศจรรย์และน่าสนใจ เอาไว้หลังจากนี้ข้าจะค่อยๆเล่าให้พวกเจ้าฟัง”“ไม่ได้อยากฟังเสียหน่อย อย่างไรเสียข้าก็ไม่สามารถไปโลกานั้นได้!”เสียงอันอ่อนช้อยใสแจ๋วของฉินเย่ว์เจียวดังขึ้นความรู้สึกอันหนาวเหน็บพัดผ่านมาเฉินฝานหันหน้าไปดูด้วยสัญชาตญาณ...ฉินเย่ว์เจียวเลิกผ้าม่านด้านข้างรถม้าขึ้น ยื่นศีรษะออกไปดูเฉินฝานเห็นเพียงด้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 83

    “พวกเจ้าดูบ้านหลังนี้สิ จะสามารถต้านทานฤดูหนาวนี้ได้หรือไม่? ถ้าเขาหาเงินได้เยอะจริงๆ บ้านนี้ก็คงถูกซ่อมแซมไปนานแล้ว”“เมื่อวานซืนเขายังบังคับขูดรีดเอาเงินพ่อข้าอยู่เลย โดนอาสองสามคนในบ้านให้โอวาท บอกว่าเขาไร้ซึ่งความสามารถอีกทั้งยังชอบก่อเรื่องวุ่นวาย พวกอายังบอกอีกว่าถ้ายังทำตัวเยี่ยงนี้อีกก็จะขับไล่เขาออกจากตระกูล”“ไอหนุ่มนั่นไม่ยอมรับผิด ไม่พูดไม่จา สะบัดเสื้อแขนต่อหน้าพวกอาแล้วเดินจากไป”“เดิมทีพวกเรานึกว่าเขากลับบ้านจะยอมสำนึกผิดแต่โดยดี ผลสุดท้ายไม่คิดเลยว่า เขาจะเอาเงินทองที่ข้าให้เขา มาทำเรื่องแบบนี้ เขาอยากแสดงแสงยานุภาพต่อหน้าพวกอาทั้งหลายว่าเขามีความสามารถ”“คาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ ทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวนึกว่าเขามีความสามารถ ก็มาขอร้องเขา”“เขาจะมีความสามารถเช่นนั้นได้อย่างไรกัน อันที่จริงทุกคนคิดดีๆก็จะเข้าใจ ปกติปลาทุกคนก็ไม่กิน ต่อให้เฉินฝานมีความสามารถอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้ปลาขายดีเทน้ำเทท่าได้หรอก”“เขาหลอกทุกคน ทว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเกินการควบคุมไปแล้ว ดังนั้นวันนี้เขาจึงแอบย่องออกจากบ้านตั้งแต่ที่ทุกคนยังไม่ทันตื่น หลบหน้าทุกคนไปแล้ว คงไม่กล้ากลับมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 84

    รถม้าคันนั้น ดูแล้วก็ไม่เหมือนของครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านท้ายที่สุดแล้ว รถม้าหยุดอยู่ระหว่างบ้านของเฉินเจียงและบ้านของเฉินฝาน“คงจะมาหาเฉินเจียงกระมัง”“ก็คงจะใช่ ไม่แน่ว่าหลี่เจิ้งอาจจะส่งของดีๆมาให้เฉินเจียงอีกก็ได้”“ได้ยินมาว่าหลี่เจิ้งถูกใจเฉินเจียงเข้าแล้ว อยากจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเฉินเจียง”“ข้าเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน ข้ายังได้ยินซานจื่อที่สถานศึกษาพูดว่า สองสามวันมานี้ เฉินเจียงแต่งบทประพันธ์มากมายอย่างต่อเนื่อง ท่านอาจารย์ยังชื่นชมเขาด้วย ปีหน้าแรกเริ่มวสันตฤดู เฉินเจียงสอบเป็นถงเซิง(บัณฑิตขั้นสูง)ได้แน่นอน และอาจจะสอบได้ลำดับที่หนึ่งด้วยซ้ำ!”“ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็ ข้าเป็นหลี่เจิ้ง ข้าก็อยากให้ลูกสาวข้าแต่งงานกับเขา”ท่ามกลางสายตาอิจฉาของผู้คน เฉินเจียงเดินไปทางรถม้าเขายืนอยู่หน้ารถม้า โค้งตัวเล็กน้อย ต้อนรับคนด้านบนรถม้าด้วยความยินดียิ่งผ้าม่านของรถม้าถูกคนด้านในรถม้าเปิดออกผู้คนต่างพากันแห่ไปดู อยากเห็นว่าหลี่เจิ้งส่งของขวัญดีๆอะไรมาให้เฉินเจียง หรือพูดอีกอย่างก็คือ นอกจากหลี่เจิ้งแล้ว จะมีใครสามารถส่งของขวัญให้เฉินเจียงได้อีกส่งของขวัญอะไรมาอีกแล้วเฉินเจียง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 85

    เขาเป็นเจ้าของรถม้าคันนี้มาตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อสักครู่ตอนที่ขับรถม้าไม่ทันระวังทาง ชนเข้ากับหินก้อนหนึ่ง ทำให้ถุงยาสูบของเขากระเด็นตกไปบนถนนหลังจากที่รถม้าหยุด เขาบอกกับเฉินฝาน แล้วก็กลับไปหาหาถุงยาสูบกลับมาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามา“เจ้าหลบไป พวกข้าจะจับโจรขโมยรถม้า!” จูต้าอันอยากจะจับชายวัยกลางคนที่ยืนตรงหน้ารถม้าโยนออกไป“อะไรนะ? ”ชายวัยกลางคนขยับไปยืนด้านนั้น คนที่ขับรถม้ามานานหลายปี มีรูปร่างหน้าตาสูงใหญ่และกำยำเพียงเขาพลิกผ่ามือ สามารถทำให้จูต้าอันล้มลงได้ทันที“โจรขโมยรถม้าอะไรกัน? อยู่ที่ใด? ”“พี่ชายท่านนี้ ใจเย็นลงก่อน!” เฉินเจียงพูดด้วยท่าทางที่นุ่มนวล “หัวขโมยก็คือคนที่อยู่บนรถม้าด้านหลังท่าน พวกเรารู้จักเขาดี ไม่สามารถจ้างรถม้าแบบนี้ไหวหรอก”“โอ้!” ชายวัยกลางคนพยักหน้า “แท้ที่จริงแล้วรถม้านี้ไม่ใช่น้องชายจ้างมาหรอก”“เฮ้อ!” เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนพูดเช่นนี้ เฉินเจียงถอนหายใจทันที พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “บ้านข้ามีชายที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ พวกข้ากราบขออภัยอย่างยิ่ง”ชายวัยกลางคนมองเฉินเจียงด้วยสายตารังเกียจ “เจ้ากำลังพูดจามีมารยาทอะไรของเจ้า รถม้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 86

    การกอดรัดฉินเย่ว์โหรวลงจากรถม้าที่ไม่ควรเช่นนี้ นี่คือวิธีคิดที่คุ้นชินของเฉินฝานในฐานะคนยุคปัจจุบันตอนที่เขากำลังเตรียมจะปล่อยฉินเย่ว์โหรวลง พบว่าหน้าของนางอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างแนบแน่ ร่างบางสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง เผยครึ่งใบหน้าเรียวเล็กที่แดงเกือบจะคล้ายกับมีเลือดไหลออกมาเอ่อ...เฉินฝานยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวณ ห้วงเวลานั้น เขาลืมไปเลยว่าที่นี้คือยุคโบราณหญิงสาวในอ้อมอกเกรงว่าจะเดินกลับเองไม่ได้แล้วก็เลยปล่อยเลยตามเลยไปเสียเฉินฝานอุ้มฉินเย่ว์โหรวตรงเข้าไปในบ้าน“นายท่าน ท่านจะปล่อยข้าลงได้หรือยัง? ”เฉินฝานก้มหน้ามองฉินเย่ว์โหรวที่เหมือนแมวน้อยขดตัวอยู่ในอ้อมอกของเขาฉีกยิ้มเบาๆพลางวางนางลงพอเท้าของฉินเย่ว์โหรวแตะพื้น ก็รีบวิ่งไปหลบในห้องทันทีณ ช่วงเวลาสั้นๆนี้ ถึงแม้ว่าบ้านจะโดนฟ้าผ่า เดาว่านางก็คงไม่ออกมาปล่อยนางไปเถอะเขายังต้องทำความเข้าใจกับสถานการณ์ด้านนอกบ้านด้านนนอก ตอนที่เฉินฝานอุ้มเฉินเย่ว์โหรวเข้าไปในบ้าน เฉินเจียงกับเฉินฟู่ก็แอบหนีกลับเข้าบ้านของตัวเองจูต้าอันยังไม่กลับ พวกเขายืนอยู่ไกลๆในก้นบึ้งของหัวใจมีความไม่เต็มใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นถ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status