มีปลาอยู่บนจานใบใหญ่ เฉินฝานวางจานใบใหญ่ในมือลง แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเมื่อกลับมาอีกครั้ง เขามีแผ่นไม้อยู่ในมือเฉินฝานวางแผ่นไม้ไว้บนโต๊ะ“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว ยกมาให้นายน้อยหลี่”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวติดตามเฉินฝาน ในมือถือกระทะขนาดเล็กด้วยกัน พวกนางวางกระทะขนาดเล็กไว้บนแผ่นไม้ที่ เฉินฝานวางไว้กระทะใบเล็กเต็มไปด้วยปลาเช่นกัน"นี่คืออะไร?"หลี่ซานจ้องมองจานใหญ่กับกระทะใบเล็กบนโต๊ะ แม้ว่าดวงตาของเขาจะเผยความรังเกียจ แต่ปากของเขาก็ไม่ได้รังเกียจแม้แต่น้อย ในจานใหญ่ : ปลาสีขาวหั่นบาง ๆ คลุกเคล้ากับใบผักกาดดองสีเหลืองทอง สีน่ารับประทานมาก เนื้อปลากับผักกาดดองผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดกลิ่นที่หลี่ซานไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน ในกระทะใบเล็ก : ปลาในหม้อมีสีน้ำตาลส่งกลิ่นหอมจากการย่าง มีส่วนผสมหลายอย่างใต้ปลา เช่น ถั่วงอก แตงกวาเขียว ฯลฯ น้ำเดือดพลุ่งพล่านอยู่ในหม้อ กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งเรือนแขกสำราญสุขขณะนี้ไม่มีแขกอยู่ในเรือนแขกสำราญสุข มีเพียงผู้ดูแล พ่อครัว คนทำความสะอาด ยามรักษาความปลอดภัย พนักงานยกอาหาร ผู้คนหลายสิบคนรายล้อมกันอยู่รอบๆแม้แต่พ่อครัวที่ใช้เ
“เจ้ากำลังทำอะไร? ถอยออกไปซะ!” หลี่ซานดุยามรักษาความปลอดภัยด้วยความโกรธถังเป่ามองไปที่หลี่ซานอย่างสับสนเถ้าแก่ ท่านด่าอีกฝ่าย แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้ไล่พวกเขาออกไป?“ไป ไป ไป!” หลี่ซานโบกมืออย่างไม่พอใจ แล้วดึงเฉินฝานมานั่งข้างเขา“เฉินฝาน เจ้าทำได้อย่างไร? เจ้าทำปลาเช่นนี้ได้อย่างไร? ให้ตายเถอะ มันโคตรอร่อยเลย!”“เนื้อปลาไม่คาวแม้แต่น้อย เนื้อนุ่มในปาก แล่บางจนไม่ต้องคายก้างออก แม้จานนี้จะมีน้ำมัน แต่มันกลับไม่เยิ้มเลย ปกติข้าไม่ชอบผักกาดดอง แต่ผักกาดดองของเจ้าอร่อยมาก”“เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ให้ตายเถอะ มันโคตรอร่อยเลย!”เฉินฝานพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำสบถด่าหลุดออกมาจากปากของหลี่ซานไม่หยุดดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดที่เมื่อครู่บอกว่าหลี่ซานร่ำเรียนสูงอาจจะไม่มีหมึกอยู่ในท้องของชายผู้นี้เลย แม้แต่หยดเดียว “พ่อครัวในร้านของท่านทำผักกาดดองอย่างดีไว้ ข้ามิกล้ารับคำชมนี้”พ่อครัวของเรือนแขกสำราญสุข เชี่ยวชาญการดองผักกาดดองอย่างแท้จริง ถ้าให้เขาทำ เขาคงทำผักกาดดองดีๆ แบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน“เอาเถอะๆ ไม่ว่าผักดองจะดีแค่ไหน เมื่อวางบนโต๊ะมันก็ไม่อร่อยเลย เจ้า…” หลี่ซานชี้ไปที่พ
“สองร้อยแปดตำลึง หลี่ซานใช้นิ้วมือทำท่าทาง อีกอย่างหลังจากนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดหาปลา ราคาปลาสดขอเพียงแค่ราคาไม่สูงจนเกินไป ข้าก็รับได้ทั้งนั้น เช่นนั้นก็ตามนี้ ข้าให้ได้มากที่สุดเท่านี้”เฉินฝานหันกลับมา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยหลี่ช่างเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงๆเสียด้วย”สองร้อยแปดตำลึง เยอะกว่าที่ตนคาดหวังไว้ในตอนแรกหนึ่ง ร้อยกว่าตำลึง ปลาเขาก็เป็นคนจัดหามา และราคาเขาก็เป็นคนกำหนด ในเมืองผิงอันเล็กๆนี้ คงจะไม่มีใครเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ได้หลี่ซานถลึงตาใส่เฉินฝาน “ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ เจ้าหนุ่มนี่ช่างวางกับดักเก่งที่สุดแล้ว!”“เงินจำนวนนี้ ข้าจะไม่ทำให้นายน้อยหลี่เสียเปล่าแน่นอน”อาหารสองอย่างที่นำให้มาให้หลี่ซานนี้ ไม่ใช่แค่สองร้อยแปดตำลึงเท่านั้นสมัยก่อน เฉินฝานยังอยากที่จะอยู่ในตลาดนัดหาเงินให้ได้มากกว่านี้ ตัวเขาเองอยากจะเปิดร้านอาหารต่างๆในเมืองนี้ ทว่าเวลาไม่รอเขา จึงทำได้เพียงร่วมมือกับหลี่ซานเท่านั้นการร่วมมือแน่นอนว่าไม่ใช่การพูดปากเปล่า ต้องมีข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรปลาย่างขนาดเล็กแบบที่อยู่ในตลาด เมื่อครู่เฉินฝานใช้ปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่มาทำปลาย่างจานใหญ่
“หลังจากที่ตกลงไปที่หุบเขาไม่ได้สติ ก็ฝันถึงความฝันที่ยาวนานมากๆ ข้าได้ไปโลกาที่แสนมหัศจรรย์ โลกานั้นแตกต่างกับโลกาของพวกเราตอนนี้อย่างสิ้นเชิง ในห้วงความฝันนั้น ข้าได้เรียนรู้สิ่งที่ที่นี่ไม่มีมากมาย”เฉินฝานไม่ได้พูดว่าทะลุมิติเพราะว่าต่อให้สองพี่น้องนี้ฉลาดแค่ไหน ก็ยังเป็นคนยุคโบราณ ปรากฏการณ์การทะลุมิติเช่นนี้ คนยุคปัจจุบันไม่สามารถหาวิธีในการใช้วิทยาศาสตร์อธิบายได้ นับประสาอะไรกับคนยุคโบราณ“ดังนั้นหลังจากที่ข้าฟื้นขึ้นมา ก็ยังเป็นข้าคนเดิม ทว่าก็เป็นข้าในแบบใหม่ด้วย”“นายท่าน โลกาในห้วงความฝันเป็นโลกาแบบใดกัน? มิคาดคิดว่าจะสอนสิ่งต่างๆมากมายให้ท่านได้ขนาดนี้”ดวงตาทั้งคู่ของฉินเย่ว์โหรวเปล่งประกายแวววับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย“นั่นเป็นโลกาที่แสนจะมหัศจรรย์และน่าสนใจ เอาไว้หลังจากนี้ข้าจะค่อยๆเล่าให้พวกเจ้าฟัง”“ไม่ได้อยากฟังเสียหน่อย อย่างไรเสียข้าก็ไม่สามารถไปโลกานั้นได้!”เสียงอันอ่อนช้อยใสแจ๋วของฉินเย่ว์เจียวดังขึ้นความรู้สึกอันหนาวเหน็บพัดผ่านมาเฉินฝานหันหน้าไปดูด้วยสัญชาตญาณ...ฉินเย่ว์เจียวเลิกผ้าม่านด้านข้างรถม้าขึ้น ยื่นศีรษะออกไปดูเฉินฝานเห็นเพียงด้า
“พวกเจ้าดูบ้านหลังนี้สิ จะสามารถต้านทานฤดูหนาวนี้ได้หรือไม่? ถ้าเขาหาเงินได้เยอะจริงๆ บ้านนี้ก็คงถูกซ่อมแซมไปนานแล้ว”“เมื่อวานซืนเขายังบังคับขูดรีดเอาเงินพ่อข้าอยู่เลย โดนอาสองสามคนในบ้านให้โอวาท บอกว่าเขาไร้ซึ่งความสามารถอีกทั้งยังชอบก่อเรื่องวุ่นวาย พวกอายังบอกอีกว่าถ้ายังทำตัวเยี่ยงนี้อีกก็จะขับไล่เขาออกจากตระกูล”“ไอหนุ่มนั่นไม่ยอมรับผิด ไม่พูดไม่จา สะบัดเสื้อแขนต่อหน้าพวกอาแล้วเดินจากไป”“เดิมทีพวกเรานึกว่าเขากลับบ้านจะยอมสำนึกผิดแต่โดยดี ผลสุดท้ายไม่คิดเลยว่า เขาจะเอาเงินทองที่ข้าให้เขา มาทำเรื่องแบบนี้ เขาอยากแสดงแสงยานุภาพต่อหน้าพวกอาทั้งหลายว่าเขามีความสามารถ”“คาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ ทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวนึกว่าเขามีความสามารถ ก็มาขอร้องเขา”“เขาจะมีความสามารถเช่นนั้นได้อย่างไรกัน อันที่จริงทุกคนคิดดีๆก็จะเข้าใจ ปกติปลาทุกคนก็ไม่กิน ต่อให้เฉินฝานมีความสามารถอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้ปลาขายดีเทน้ำเทท่าได้หรอก”“เขาหลอกทุกคน ทว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเกินการควบคุมไปแล้ว ดังนั้นวันนี้เขาจึงแอบย่องออกจากบ้านตั้งแต่ที่ทุกคนยังไม่ทันตื่น หลบหน้าทุกคนไปแล้ว คงไม่กล้ากลับมา
รถม้าคันนั้น ดูแล้วก็ไม่เหมือนของครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านท้ายที่สุดแล้ว รถม้าหยุดอยู่ระหว่างบ้านของเฉินเจียงและบ้านของเฉินฝาน“คงจะมาหาเฉินเจียงกระมัง”“ก็คงจะใช่ ไม่แน่ว่าหลี่เจิ้งอาจจะส่งของดีๆมาให้เฉินเจียงอีกก็ได้”“ได้ยินมาว่าหลี่เจิ้งถูกใจเฉินเจียงเข้าแล้ว อยากจะยกลูกสาวให้แต่งงานกับเฉินเจียง”“ข้าเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน ข้ายังได้ยินซานจื่อที่สถานศึกษาพูดว่า สองสามวันมานี้ เฉินเจียงแต่งบทประพันธ์มากมายอย่างต่อเนื่อง ท่านอาจารย์ยังชื่นชมเขาด้วย ปีหน้าแรกเริ่มวสันตฤดู เฉินเจียงสอบเป็นถงเซิง(บัณฑิตขั้นสูง)ได้แน่นอน และอาจจะสอบได้ลำดับที่หนึ่งด้วยซ้ำ!”“ถ้าเป็นเช่นนั้นละก็ ข้าเป็นหลี่เจิ้ง ข้าก็อยากให้ลูกสาวข้าแต่งงานกับเขา”ท่ามกลางสายตาอิจฉาของผู้คน เฉินเจียงเดินไปทางรถม้าเขายืนอยู่หน้ารถม้า โค้งตัวเล็กน้อย ต้อนรับคนด้านบนรถม้าด้วยความยินดียิ่งผ้าม่านของรถม้าถูกคนด้านในรถม้าเปิดออกผู้คนต่างพากันแห่ไปดู อยากเห็นว่าหลี่เจิ้งส่งของขวัญดีๆอะไรมาให้เฉินเจียง หรือพูดอีกอย่างก็คือ นอกจากหลี่เจิ้งแล้ว จะมีใครสามารถส่งของขวัญให้เฉินเจียงได้อีกส่งของขวัญอะไรมาอีกแล้วเฉินเจียง
เขาเป็นเจ้าของรถม้าคันนี้มาตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อสักครู่ตอนที่ขับรถม้าไม่ทันระวังทาง ชนเข้ากับหินก้อนหนึ่ง ทำให้ถุงยาสูบของเขากระเด็นตกไปบนถนนหลังจากที่รถม้าหยุด เขาบอกกับเฉินฝาน แล้วก็กลับไปหาหาถุงยาสูบกลับมาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามา“เจ้าหลบไป พวกข้าจะจับโจรขโมยรถม้า!” จูต้าอันอยากจะจับชายวัยกลางคนที่ยืนตรงหน้ารถม้าโยนออกไป“อะไรนะ? ”ชายวัยกลางคนขยับไปยืนด้านนั้น คนที่ขับรถม้ามานานหลายปี มีรูปร่างหน้าตาสูงใหญ่และกำยำเพียงเขาพลิกผ่ามือ สามารถทำให้จูต้าอันล้มลงได้ทันที“โจรขโมยรถม้าอะไรกัน? อยู่ที่ใด? ”“พี่ชายท่านนี้ ใจเย็นลงก่อน!” เฉินเจียงพูดด้วยท่าทางที่นุ่มนวล “หัวขโมยก็คือคนที่อยู่บนรถม้าด้านหลังท่าน พวกเรารู้จักเขาดี ไม่สามารถจ้างรถม้าแบบนี้ไหวหรอก”“โอ้!” ชายวัยกลางคนพยักหน้า “แท้ที่จริงแล้วรถม้านี้ไม่ใช่น้องชายจ้างมาหรอก”“เฮ้อ!” เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนพูดเช่นนี้ เฉินเจียงถอนหายใจทันที พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “บ้านข้ามีชายที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ พวกข้ากราบขออภัยอย่างยิ่ง”ชายวัยกลางคนมองเฉินเจียงด้วยสายตารังเกียจ “เจ้ากำลังพูดจามีมารยาทอะไรของเจ้า รถม้า
การกอดรัดฉินเย่ว์โหรวลงจากรถม้าที่ไม่ควรเช่นนี้ นี่คือวิธีคิดที่คุ้นชินของเฉินฝานในฐานะคนยุคปัจจุบันตอนที่เขากำลังเตรียมจะปล่อยฉินเย่ว์โหรวลง พบว่าหน้าของนางอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างแนบแน่ ร่างบางสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง เผยครึ่งใบหน้าเรียวเล็กที่แดงเกือบจะคล้ายกับมีเลือดไหลออกมาเอ่อ...เฉินฝานยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวณ ห้วงเวลานั้น เขาลืมไปเลยว่าที่นี้คือยุคโบราณหญิงสาวในอ้อมอกเกรงว่าจะเดินกลับเองไม่ได้แล้วก็เลยปล่อยเลยตามเลยไปเสียเฉินฝานอุ้มฉินเย่ว์โหรวตรงเข้าไปในบ้าน“นายท่าน ท่านจะปล่อยข้าลงได้หรือยัง? ”เฉินฝานก้มหน้ามองฉินเย่ว์โหรวที่เหมือนแมวน้อยขดตัวอยู่ในอ้อมอกของเขาฉีกยิ้มเบาๆพลางวางนางลงพอเท้าของฉินเย่ว์โหรวแตะพื้น ก็รีบวิ่งไปหลบในห้องทันทีณ ช่วงเวลาสั้นๆนี้ ถึงแม้ว่าบ้านจะโดนฟ้าผ่า เดาว่านางก็คงไม่ออกมาปล่อยนางไปเถอะเขายังต้องทำความเข้าใจกับสถานการณ์ด้านนอกบ้านด้านนนอก ตอนที่เฉินฝานอุ้มเฉินเย่ว์โหรวเข้าไปในบ้าน เฉินเจียงกับเฉินฟู่ก็แอบหนีกลับเข้าบ้านของตัวเองจูต้าอันยังไม่กลับ พวกเขายืนอยู่ไกลๆในก้นบึ้งของหัวใจมีความไม่เต็มใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นถ
“ได้เลย หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน จัดให้เลยพรุ่งนี้” เฉินฝานตอบเสียงดัง“หมูน้ำแดง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน!”ทหารทุกคนล้วนเข้าใจจุดประสงค์ที่เฉินฝานให้พวกเขากินดื่มกันยกใหญ่บนภูเขา ดังนั้นจึงพร้อมใจกันทวนชื่ออาหารเสียงดัง“ใต้เท้า!”ขณะที่เฉินฝานกำลังเตรียมตัวจะกลับไปพักผ่อน ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็พาสตรีนางหนึ่งมาหาเขาสตรีผู้นั้นเป็นคนที่มาจากด้านล่างหุบเขา นางคือสาวใช้คนสนิทของโอวหยางหน่าหลัน“ข้าขอพบใต้เท้าเฉิน อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายของพวกท่าน!” สาวใช้ผู้นั้นเอาแต่กล่าวเช่นนี้ซ้ำ ๆ “ข้านี่แหละ” เฉินฝานกล่าวสาวใช้ผู้นั้นมองเฉินฝานอย่างพิจารณาพลางเอ่ยพึมพำในปากว่า “ใบหน้าขาวสะอาด รูปร่างกำยำ เสียงทุ้มนุ่มลึก”“เช่นนั้นข้าตรงกับเงื่อนไขหรือไม่?” เฉินฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ยิ้มแล้วดูซื่อ ๆ” สาวใช้มองเฉินฝานแล้วเอ่ยพึมพำกับตนเองอีกครั้ง“อ้อ!” เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า “ที่แท้ในสายตาองค์หญิงของพวกเจ้าข้ามีภาพลักษณ์เช่นนี้เอง!”“องค์หญิงของเราตรัสว่าพวกเรายอมจำนนก็ได้!” สาวใช้ผู้นั้นกล่าว“นี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก องค์หญิงของพวกเจ้าควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ว่าพระ
เฉินฝานกล่าวจบไปได้พักใหญ่แล้ว เหอจื่อหลินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม“พี่จื่อหลิน มิใช่ว่าอยากรีบจบเรื่องนี้โดยเร็วหรอกหรือ? เหตุใดพี่ยังมัวอึ้งอยู่ที่นี่เล่า? รีบลงมือสิ!” เฉินฝานเร่งเหอจื่อหลิน “ทราบดีว่าท่านมีคำถามอยู่เต็มสมอง ตอนนี้ไม่อาจอธิบายให้ท่านฟังโดยละเอียด ท่านไปจัดการก่อน อีกไม่นานข้าจะมา”หลังจากที่เหอจื่อหลินจากไปแล้ว เฉินฝานก็พาฉินเย่ว์เจียวเข้าเมืองลู่ตูทันทีไม่นาน เขาก็พาคนออกมาจากเมืองลู่ตู มุ่งหน้าสู่เนินเขากงจียามที่เฉินฝานไปถึง พ่อครัวทหารของกองทัพต่าง ๆ กำลังขนย้ายเครื่องครัวมาถึงพอดี ขณะเดียวกันเจ้าเมืองลู่ตูก็นำไก่หนึ่งพันตัวมาส่งให้เช่นกันเฉินฝานให้พ่อครัวทหารของกองทัพต่าง ๆ ตั้งเตาหลายสิบเตาของแต่ละกองทัพตรงสถานที่ที่มีลมโกรก ต้มน้ำเดือด หั่นไก่ที่เชือดเรียบร้อยแล้วเป็นชิ้น ๆ แล้วเคี่ยวลงในหม้อผ่านไปไม่นานนัก น้ำแกงไก่ในหม้อเหล็กใบใหญ่ก็เดือดปุด ๆ กลิ่นหอมของน้ำแกงไก่เข้มข้นอบอวลไปทั่วหุบเขาอย่าว่าแต่ทหารหลู่ที่หิวจนท้องร้องโครกครากเลย ต่อให้เป็นกองทัพลาดตระเวนที่เพิ่งกินข้าวอิ่มเมื่อครู่นี้ต่างก็น้ำลายไหลถึงพื้นแล้ว เฉินฝานกล่าวเสียงดังว่า “เหล
มองทหารที่อยู่ในหลุมหลบภัย ถูกไฟคลอกทั้งตัว เกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด รวมถึงน้ำมันสนที่ยังคงไหลไม่หยุด ทหารหลู่ที่ยังไม่กระโดดลงไปในหลุมหลบภัย ไม่กล้ากระโดดลงไปแล้วทหารหลู่ที่เดิมทีจะฝ่าวงล้อมออกไปได้แล้วนั้น ถูกขังด้วยเพลิงไฟ“เหี้ยมโหดยิ่งนัก!”โอวหยางหน่าหลันตะโกนด้วยความโมโหหลังจากนั้น เฉินฝานทำเพียงอย่างดีซึ่งก็คือขุดหลุมรอบทหารหลู่ แล้วเทน้ำมันสนลงไปเรื่อยๆตอนทหารหลู่ย้อนกลับไปทางเดิม ไปถึงหุบเขาต้าถัง หลี่จื้อใช้วิธีการเดียวกัน อีกทั้งเขายิ่งสบายกว่าหุบเขาต้าถังมีเพียงทางเดียว เขาสั่งให้คนขุดหลุมยาว เทน้ำมันสนปริมาณมากลงไป เมื่อทหารหลู่มาถึง เปลวไฟในหลุมลุกโชนทหารหลู่อยากฝ่าออกไปโดยใช้เส้นทางบนหุบเขา กองทัพลาดตระเวนประจำการอยู่ที่นั่น ยิ่งง่ายในการต่อสู้ยิ่งไปกว่านั้น ทหารหลู่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหนึ่งวันแล้ว ต่อสู้ตลอดทั้งวัน พวกเขาแทบจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีจนสิ้นแล้วหฃังจากปิดล้อมทหารหลู่ เฉินฝานก็สั่งให้หยุดโจมตีตอนนี้เพียงปิดล้อมไม่ต้องโจมตีแล้ว ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองอาวุธและชีวิตอันล้ำค่าของกองทัพลาดตระเวนอีกต่อไป“ใต้เท้า ส่งคนเข้าไปสามรอบแล้ว
“สหายทั้งหลาย ลุย! อย่าให้ทหารหลู่ไปถึงหลุมหลบภัยที่สามของทหารหญิงเด็ดขาด”เวลานี้ ทหารกองกำลังที่สามจากหุบเขาเสี่ยวถังมาถึงแล้วเมื่อทหารกองกำลังที่สามถึง ซุนลี่ก็ออกคำสั่งทันที“ทหารทั้งหลาย กองทัพลาดตระเวนต้าชิ่งเริ่มปิดล้อมแล้ว เหลืออีกเพียงหนึ่งแนวป้องกันเท่านั้น ก็จะฝ่าออกไปจากการปิดล้อมได้แล้ว!”ทางด้านทหารหลู่ โอวหยางน่าหลันก็ฉีดยาให้กำลังใจทหารหลู่“อย่ายอมตายอย่างอดอยากเด็ดขาด ฝ่าออกไป!”ทหารหลู่ราวกับเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก ไม่ว่าข้างกายจะมีคนล้มลงมากน้อยเพียงใด พวกเขาล้วนมองไม่เห็น เป้าหมายของพวกเขามีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือไปถึงหลุมหลบภัยที่สามของทหารหญิง แล้วฝ่าวงล้อมออกไปเวลานี้ เหอจื่อหลินที่มาจากหุบเขาต้าถังมาถึงแล้วทหารกองกำลังที่ห้าของเหอจื่อเฝ้าหุบเขาต้าถัง เพื่อป้องกันทหารหลู่ถอยกลับไปทางด้านเหอจื่อหลินนำทัพกองกำลังที่สองเร่งเดินทางมา“ใต้เท้า ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วทหารหลู่ต้องฝ่าออกไปได้แน่นอน ข้ารีบเข้าเมืองลู่ตูตอนนี้ นำทหารเฝ้าเมืองห้าหมื่นนาย ไปเมืองลู่ตูเพื่อปิดกั้นเส้นทางการออกไปของทหารหลู่”“นี่ไม่ใช่วิธีการที่ดี!”เฉินฝานขมวดคิ
“ฝ่าออกไป ไม่อาจเป็นผีหิวตายเด็ดขาด!”โอวหยางน่าหลันลากเท้าที่บาดเจ็บ พุ่งตัวไปด้านหน้าหลังจากถูกยิงไปแล้วหนึ่งครั้ง ทหารรักษาพระองค์ล้อมโอวหยางน่าหลังทั้งสองสี่ด้าน คุ้มกันนางอย่างแน่นหนาลูกธนูของฉินเย่ว์เจียวยิงถูกคน ทว่าไม่อาจยิงโดนโอวหยางน่าหลัน“ฝ่าออกไป! ไม่อาจอดตายกลายเป็นผีได้!”คล้ายตอนอยู่นอกประตูเมืองลู่ตู จู่ๆ ทหารหลู่พุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างไม่คิดชีวิตครั้งนี้ พวกเขาไม่วิ่งขึ้นหุบเขาอีกแล้ว พุ่งตัวไปหาทหารหญิง“ลุย จัดการพวกมันซะ!” มั่วเซินรีบออกคำสั่งทันทีทหารกองกำลังที่หนึ่ง รวมถึงทหารกองกำลังที่สามซึ่งรีบเดินทางมา ระดมกำลังต่อสู้ ช่วยคลายความกดดันให้ทหารหญิงบนพื้นดิน ทหารหลู่ล้มกองแล้วกองเล่า ศพกองเป็นภูเขาแต่พวกเขากลับไม่สนใจคนข้างกาย ยิงธนูใส่พวกสตรี อย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งตัวไปด้านหน้าลูกธนูด้านหน้าถูกยิงมาราวกับสายฝน พวกทหารหญิงถึงขั้นไม่อาจเงยหน้าขึ้น“พี่น้องทั้งหลาย!” เย่ว์หนูร้องตะโกนเสียงดัง “ลงไปเร็วเข้าๆ ทหารหลู่มาใกล้เกินไปแล้ว สุ่มโยนได้เลย!”ทหารหญิงกระโดดลงจากเก้าอี้ ยืนอยู่ในหลุมหลบภัยแล้วสุ่มโยนระยะทางใกล้เช่นนี้ การสุ่มโยนระเบิดทห
“เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวขึ้นสายเกาทัณฑ์ทันที “รับประกันว่าเพียงหนึ่งดอกก็คร่าชีวิตนางได้แล้ว”“อย่าสังหารนาง เพียงให้นางตกลงจากก้อนหินก็พอ ให้นางไม่กล้าเสนอหน้าอีกก็พอ” เฉินฝานรีบพูด“นายท่าน ท่านชมชอบนางหรือเจ้าคะ?”นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเย่ว์เจียว กล่าวถึงสตรีอื่นแล้ว เปี่ยมไปด้วยความหึงหวงนางไม่ชอบโอวหยางน่าหลัง สตรีที่คิดอยากจะเป็นผู้หญิงของนายท่าน นางไม่เคยกีดกัน แต่ว่าโอวหยางน่าหลันคนนี้ ไม่เพียงอยากแต่งงานกับนายท่าน ยังอยากแย่งนายท่านไปอีก ทำเกินไปแล้วจริงๆเฉินฝานยิ้ม “โอวหยางน่าหลันมีประทุมอวบอิ่มสะโพกผาย ทั้งยังร่ำรวย ชายใดบ้างที่จะไม่ชอบ?”รับรู้ได้ว่าสตรีข้างกายแทบจะเบิดอารมณ์แล้ว เฉินฝานรีบหุบยิ้ม พูดด้วยความจริงจัง “ข้าล้อเล่น ตอนนี้โอวหยางน่าหลันยังตายไม่ได้!”ต้องไว้ชีวิตนางเพื่อทำการต่อรองดวงหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียวเปี่ยมไปด้วยความโมโห “ข้าต้องการให้นางตาย!”แม้จะพูดด้วยความโมโห แต่ตอนมือของฉินเย่ว์เจียวขึ้นสายเกาทัณฑ์ นางเบี่ยงมือเล็กน้อย“โอ๊ย~”สิ้นเสียงโอดครวญ โอวหยางน่าหลันที่ยืนอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงไป“องค์หญิง!”“คุ้มกันองค์หญิง!”หลังจากโอวห
“หลุมลึกเช่นนั้น หากไม่มีเก้าอี้ พวกนางปีนป่ายขึ้นมาต้องใช้แรงมหาศาลทหารหลู่ที่วิ่งเร็วที่สุด เข้าสู่วงล้อมโจมตีของเนินเขากงจีแล้ว“ระวัง ด้านหน้ามีทหารต้าชิ่ง!”สายตาเฉียบแหลมของเขาพบว่าเส้นทางด้านหน้า มีโคลนหลายกอง อยู่บนถนน“เอ๊ะ เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่านั่นเป็นพวกผู้หญิง?”“ไม่ใช่รู้สึก แต่พวกนางเป็นผู้หญิงจริงๆ”“ข้าได้ยินมาโดยตลอดว่าต้าชิ่งมีทหารหญิง คิดไม่ถึงว่าจะมีจริงๆ!”เมื่อเห็นว่าเป็นสตรี พวกทหารหลู่ผ่อนคลายลงมาก“เฮ้อ พวกเจ้าอย่าประเมินศัตรูต่ำเกินไป ข้าได้ยินว่าทหารหญิงแคว้นต้าชิ่ง ร้ายกาจยิ่งนัก”มีคนเตือน แต่ก็มีคนโต้กลับในทันทีทันใด?”“ใช่ ตอนนี้แข่งเรื่องต่อสู้ ไม่ได้แข่งเย็บปักถักร้อย”หลังจากเห็นทหารหญิงด้านหน้าแล้ว ทหารหลู่ที่หมดอาลัยตายอยากก่อนหน้านี้ กระปรี้กระเปร่าขึ้นมามาก“แม้กระทั่งสตรีก็ถูกสั่งให้มาสู้รบ ต้าชิ่งไม่มีบุรุษแล้วจริงๆ”“สหาย พวกเจ้าเห็นหรือไม่? สตรีต้าชิ่ง งดงามกว่าสตรีแคว้นหลู่ของเรา”“งดงามกว่าสตรีแคว้นหลู่ของเราจริงๆ สหาย ต้าชิ่งเหลือเพียงสตรีแล้ว พวกเรารีบฝ่าออกไป แล้วค่อยโต้กลับทีหลัง”“หลังจากยึดครองต้าชิ่ง สตรีต้าชิ่งทั้งหมดเ
“เฉินฝานเทน้ำชาในกา ทิ้งลงในเตาผิง จากนั้นวางกาน้ำชาเปล่าไว้บนโต๊ะ“ไปกันเถอะ!”“ไปไหนเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวรีบตามไป“เนินเขากงจี เวลานี้ทหารหลู่น่าจะถอนกำลังไปถึงเนินเขากงจีแล้ว”ฉินเย่ว์เจียวกำลังคิดอยากจะถามเฉินฝาน เขารู้ได้อย่างไรว่าทหารหลู่จะถอยทัพไปถึงเนินเขากงจีแล้ว ถังหงชางหัวหน้าผู้ส่งสารกเข้ามาเมื่อเห็นเฉินฝาน ถังหงชางรีบวิ่งตามมา “ใต้เท้า น่าจะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทหารหลู่ก็จะไปถึงเนินเขากงจีขอรับ”“อื้ม!”เฉินฝานที่พยักหน้า รีบเดินออกไปเขาจะไปเนินเขากงจี การดักโจมตีบนเนินเขากงจี คือสิ่งสำคัญที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้ตัดสินแพ้ชนะ ทั้งยังตัดสินชะตาแคว้นหลู่และต้าชิ่งการดักโจมตีบนเนินเขากงจี ไม่เพียงโจมตีบนหุบเขา ภาคพื้นดินมีทหารซุ่มโจมตี อีกทั้งระหว่างทาง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเฉียนหงที่ประจำเนินเขายาจุ่ยกลับมาพร้อมกับทหารหลู่แล้ว...“ขุดเร็วเข้า ไม่ได้ ขุดลึกอีกหน่อย!”“ที่เจ้าขุดยังไม่ถึงแปดฟุตแปดนิ้ว ขุดอีก!”เฉินฝานยังไปไม่ถึง ก็ได้ยินเสียงเคร่งขรึมของเย่ว์หนูแล้วหลังจากทหารหลู่ผ่านเนินเขากงจี เฉินฝานให้คนไปส่งข่าวบอกเย่ว์หนู สั่งให้นางขุดหลุมตรงกลางถ
“เจ้า...”โอวหยางน่าหลันโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว“องค์หญิง โปรดรับสั่งให้ถอยทัพในทันทีพ่ะย่ะค่ะ!” อวิ๋นเต๋อพูดซ้ำอีกรอบ อีกทั้งครั้งนี้แววตาของเขาลุ่มลึก“ถอยทัพ!”โอวหยางน่าหลันกัดฟันพูดหลังจบสิ้นสงครามนี้ คนพวกนี้ นางจะจัดการทีละคน“ทหารหลู่ของเรามีแปดแสนกว่านาย กองทัพลาดตระเวนมีหนึ่งแสนนาย เหตุใดต้องถอย?”ระหว่างทางถอยทัพ โอวหยางน่าหลันเจ็บแค้นใจมาโดยตลอด ถามอวิ๋นเต๋อซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“องค์หญิง ตอนนี้พวกเรามีกำลังทหารไม่ถึงแปดแสนนายแล้วพ่ะย่ะค่ะ” อวิ๋นเต๋อตอบตอนโจมตีเมือง ทหารหลู่แลกด้วยชีวิต บวกกับโจมตีหุบเขาต้าถังเมื่อครู่ ตอนนี้ไม่มีเวลานับจำนวนคนแล้ว แต่ประสบการณ์ที่เคยนำทัพมาหลายปีของอวิ๋นเต๋อบอกกับเขาว่า ตอนนี้ทหารหลู่เหลือไม่ถึงหกแสนนายแล้ว“แม้จะเป็นเช่นนี้ ฝืนสู้เสียหน่อย ระเบิดไหสุราของพวกเขาก็หมดลงแล้ว”“องค์หญิง องค์หญิงพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ หากพวกเรายืนหยัดอีกเสียหน่อย กองทัพลาดตระเวนต้องใช้ระเบิดจนหมดแน่นอน”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังถอยทัพ?”“องค์หญิง ด้วยวิธีการขององค์หญิง สามารถคว้าชัยชนะมาได้ แต่ความสูญเสียนั้นมากเกินไป อีกทั้งเห็นชัดว่าเป็นกับดัก เสบียงอาหาร