Share

บทที่ 55

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานเพิ่งหันหน้ากลับไป เฉินฟู่สั่งเขาทันที “คืนเงินสามร้อยเหวินนั้นให้อาเจียง อันธพาลคนหนึ่ง ไม่คู่ควรที่จะมีเงินมากขนาดนั้น”

“ไม่ให้!”

เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

เรื่องนี้ไม่อาจต่อรองได้แม้แต่น้อย

เพราะเงินสามร้อยเหวินนี้ เป็นของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรว

เขาเพียงช่วยพวกนางทวงคืนกลับมาเท่านั้น

เฉินฟู่ชี้หน้าเฉินฝานด้วยความโมโห “เจ้า!”

เฉินฝานผลักมือของเฉินฟู่ที่ชี้เขา “ปู่ทวดและย่าทวดของข้าไม่เคยสอนท่านหรือ? ชี้หน้าคนเช่นนี้ไร้มารยาทยิ่งนัก”

คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลานชายของตนเองด่าว่าไม่มีมารยาท เฉินฟู่โมโหจนหน้าแดงก่ำ “สารเลว ทิ้งเงินไว้เดี๋ยวนี้”

“แล้วถ้าข้าไม่ให้ล่ะ”

เฉินฝานกำหมัด เขาออกแรงเล็กน้อย

นิ้วมือส่งเสียงดัง

“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าเป็นปู่ของเจ้า” เฉินฟู่ถอยหลัง

หลังจากหลานคนนี้ตกหน้าผา กลายเป็นต่อสู้เก่ง เรื่องนี้เขาได้ยินมา

เมื่อหลายวันก่อน จูต้าอันถูกเฉินฝานทำร้ายจนลุกไม่ขึ้น ต้องยกออกจากเรือน

“ไม่มีอะไร แค่ว่าหลายวันนี้ข้าทำงานเยอะ ก็เลยเจ็บนิ้วเท่านั้น”

“ท่านปู่ ข้ายังมีงานที่เรือน ไปล่ะ!”

กระทั่งเฉินฝานเดินไปไกล เฉินฟู่เพิ่งดึงสติกลับมา

เจ็บใจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่าเติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ต้องรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
Sishon Arayakomon
ถ้าซื้อ77บาท แล้วได้อ่านแค่นี้..ก็แยกย้าย...
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 56

    เฉินฝานล้วงเงินที่เหลือ และเงินจากการขายปลาในวันนี้ออกมาจากกระเป๋า เดินเข้าไปในห้องครัวสองพี่น้องตั้งหน้าตั้งตานับเงิน เฉินฝานเดินเข้ามาพวกนางยังไม่รู้ตัวเวลานี้ พวกนางนับเกือบถึงครึ่งหนึ่งแล้วเฉินฝานยืนมองอยู่ด้านข้าง จู่ๆ ก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา“เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”เฉินฝานนำเงินในมือทั้งหมด เทลงบนโต๊ะ รวมกับเงินทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะ“เฮ้อ พี่สาม เจ้าทำอะไร ปนกันหมดแล้ว ต้องนับใหม่อีกแล้ว”ฉินเย่ว์โหรวเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ว์เจียวด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่กลับเห็นเฉินฝานกลั้นหัวเราะ“ไม่ใช่...”เวลาเดียวกันฉินเย่ว์เจียวที่อยากอธิบายให้ฉินเย่ว์โหรวฟัง ว่าไม่ใช่ตนเองเงยหน้าขึ้น“นายท่าน!”สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกันเฉินฝานขยับริมฝีปาก “ข้าเอง”“นายท่าน พวกข้าจะนับเสร็จแล้ว” ฉินเย่ว์โหรวกระทืบเท้าด้วยความออดอ้อน“เช่นนั้นก็นับอีกรอบ รวมกับที่ข้าเพิ่งเทลงไปเมื่อครู่ด้วย”“เช่นนั้นท่านก็ควรให้ข้าเร็วกว่านี้ เช่นนั้นพวกข้าไม่ต้องนับใหม่แล้ว”ฉินเย่ว์โหรวทำปากจู๋เล็กน้อย แสงแดดนอกหน้าต่างส่องกระทบปากกระจับที่กำลังทำปากจู๋ของนางพอดี ส่องระยิบระยับเฉินฝานมองจนเหม่อลอยเล็กน้อย ถ้อยค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 57

    พี่สาม หาเงินได้ เจ้าอยากซื้ออะไรมากที่สุด?”“ยังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าซื้อธนู”สองพี่น้องที่กำลังทำงาน เริ่มคิดแล้วว่าวันข้างหน้ามีเงินแล้วจะซื้ออะไร“ข้าอยากซื้อสีชาดหนึ่งกล่อง”“นอกจากสีชาดแล้ว ข้ายังอยาก...”“เจ้ายังอยากอะไร?”จู่ๆ ฉินเย่ว์โหรวก็ไม่พูดแล้ว เฉินฝานฟังอยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัด เอ่ยถามนาง“ไม่ ไม่มีอะไร!”ฉินเย่ว์โหรวส่ายหน้าติดต่อกัน อาจจะเป็นเพราะกลัวเฉินฝานถามต่อ นางพูดเสริมหนึ่งถ้อยคำ “ข้าเพียงแค่ยังคิดไม่ออก”เฉินฝานมองเพียงปราดหนึ่งก็ดูออกว่าฉินเย่ว์โหรวโกหกไม่ใช่แค่อารมณ์ของฉินเย่ว์โหรวเปลี่ยนแปลง ฉินเย่ว์เจียวก็เช่นเดียวกันพี่น้องสองคนนี้ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ อารมณ์เวลานี้หดหู่ยิ่งนักเฉินฝานก็พอจะนึกขึ้นได้ มีเรื่องหนึ่งต้องจัดการ แต่ชั่วขณะหนึ่งนึกไม่ออกว่าคืออะไรวันรุ่งขึ้น ฟ้ายังไม่สว่างเฉินฝานเคาะประตูบ้านลุงใหญ่เฉินผิงเมื่อวานจับปลาได้ทั้งหมดสองร้อยสามสิบสามตัว แม้ตัวหนึ่งจะหนักแค่สามสี่เหลียง แต่สองร้อยกว่าตัวก็เกือบหนึ่งร้อยจินเดินทางไกลเช่นนั้น อาศัยแค่กำลังในการแบกของมนุษย์ เช่นนั้นไม่เพียงเดินช้า ทั้งยังเหนื่อยมากไปถึงอำเภอ ขายปล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 58

    ข้าไม่อาจทำใจเห็นอนาคตของลูกสาวเป็นเหมือนสองพี่น้องตระกูลฉินแบบนั้นจริงๆ”เฉินผิงพูดพึมพำ แม้เสียงจะเบามากๆ แต่เฉินฝานได้ยินอย่างชัดเจนเขามองเฉินผิงด้วยความตกตะลึง พูดไม่ออกอยู่นานเฉินผิงกำลังบอกว่าเขาไม่ดีอย่างชัดเจน แต่เฉินฝานฟังแล้วกลับไม่โกรธแม้แต่น้อยตรงกันข้าม หัวใจของเขาบีบรัดอย่างมากในความทรงจำของเขา ภาพสองพี่น้องตระกูลฉินถูกเจ้าของร่างเดิมทุบตีทำร้าย ด่าทอ โดยเฉพาะภาพที่ฉินเย่ว์โหรวถูกทุบตีจนเท้าหัก“เสี่ยวฝาน!”นางเจิ้งได้ยินเสียงจึงเดินออกมา“ป้าขอร้องเจ้าล่ะ ไว้ชีวิตน้องสาวของเจ้าเถอะ”นางเจิ้งพูด และจะคุกเข่า“ท่านป้า!”เฉินฝานรีบรั้งนางเจิ้งทันทีสวรรค์ เรื่องที่เขาพบเจอในวันนี้คืออะไรกันเขาเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของเฉินผิงและภรรยา แต่ตอนนี้พวกเขากลับคุกเข่าตรงหน้าเขาเพื่อลูกสาวสงสารพ่อแม่ทุกคนบนโลกนี้จริงๆเพื่อคลายความกังวลของสองสามีภรรยา เฉินฝานนำเงินออกมาสิบเหวิน ยัดใส่มือนางเจิ้ง“ท่านป้า นี่คือเงินที่ข้ายืมรถลากในวันนี้”“เอ่อ ไม่ต้องมากขนาดนี้ วันละสามเหวินก็พอแล้ว” เฉินผิงมองเงินในมือนางเจิ้ง พูดด้วยความซื่อเขาไปช่วยงานร้านขายข้าวสารในอำเภอ ตั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 59

    เฉินฝานไปร้านขายเหล็กจ่ายเงินเก้าสิบเหวินที่เหลือ รับตะแกรงเหล็กและโครงเหล็ก หลังจากนั้นไปซื้อยี่หร่าและพริกไทยเพิ่มก็กลับเข้าตลาดวันนี้แผงขายปลาเผายังไม่ทันได้ตั้งเสร็จดีๆ ก็มีคนมากมายมายืนล้อมวงแล้วเมื่อวานมีคนมากมายที่ไม่ทันซื้อ วันนี้มารอแต่เช้า คนที่เมื่อวานซื้อทัน วันนี้ก็อยากได้อีก ดังนั้นจึงมากันหมดโดยเฉพาะพวกคนตระกูลใหญ่ ให้พ่อบ้านยกกล่องอาหารมา เอ่ยปากก็เอาสิบตัวปลาเผาสิบตัว เท่ากับสามสิบเหวิน สำหรับตระกูลใหญ่ เงินสามสิบเหวินขนหน้าแข้งไม่ร่วงไม่ถึงบ่าย ปลาก็ขายหมดแล้วยุ่งมาทั้งเช้า ทั้งสามคนหิวกันหมดแล้วเฉินฝานพาฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์เจียวไปกินบะหมี่ที่ร้านบะหมี่ สั่งบะหมี่แห้งสามถ้วย ทั้งยังกำชับเถ้าแก่ให้เพิ่มเนื้อ“บะหมี่แห้งก็แพงพอแล้ว ยังเพิ่มเนื้ออีก ตอนนี้สามถ้วยบวกกัน สิบห้าเหวินแล้ว แม้สองวันนี้จะหาเงินได้บ้าง แต่หากใช้จ่ายเช่นนี้ แม้จะมีเงินมากเพียงใดก็ไม่พอใช้จ่าย”เพิ่งนั่งลง ฉินเย่ว์โหรวก็บ่นเพียงคิดว่าบะหมี่สามถ้วยสิบห้าเหวิน ปวดใจราวกับถูกกรีดเนื้ออย่างไรอย่างนั้นสำหรับนางแล้ว ไม่ต้องกินผักดอง ก็ดีมากแล้ว เหตุใดจึงมากินบะหมี่แห้ง กินบะหมี่แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 60

    เมื่อวานที่เรือนของเฉินเจียงมีคนมามากมาย ชาวบ้านชอบนินทาที่สุด มีอะไรเกิดขึ้นเล็กน้อย ก็ลือกันทั่วหมู่บ้าน ตอนนี้เขามีสามร้อยเหวินแล้ว คาดว่าทั้งหมู่บ้านคงรู้แล้ว“กริ๊ง กริ๊ง!”กระดิ่งบนคอวัวส่งเสียงใส ตามการเดินของวัวชาวบ้านที่ได้ยินเสียงบนท้องถนน เดินออกมาจากเรือนว้าว วัวตัวใหญ่จัง เกวียนด้านหลังของมันเต็มไปด้วยฟืนหนึ่งคันรถฟืนตลอดหนึ่งปี ครัวเรือนใดใช้จ่ายมากเช่นนี้หมู่บ้านซานเหอนอกจากไม่กี่ครัวเรือนที่ฐานะค่อนข้างดีจะซื้อฟืนมาเผาแล้ว โดยส่วนมากล้วนขึ้นเขาไปตัดเอง คนอื่นๆ ไม่ใช่ไม่อยากซื้อ แต่ว่าไม่มีปัญญาซื้อ ฟืนหนึ่งมัด สิบเหวินคนมากมายยังหิวโหย จะมีเงินซื้อฟืนได้อย่างไร“ข้าเห็นบนเกวียน มีหน้าต่างไม้และกระดาษมัน!” ชาวบ้านตาดี อย่างรวดเร็วก็เห็นหน้าต่างไม้และกระดาษมันบนเกวียน“สวรรค์ กระดาษมัน? หมู่บ้านของเราคล้ายมีเพียงหน้าต่างบ้านผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นที่ติดกระดาษมันกระมัง”“เช่นนั้นไม่ต้องคิด วัวตัวนี้ต้องไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแน่นอน”“ไม่ใช่ พวกเจ้ามองสตรีบนเกวียน ใช่พิการฉินเย่ว์โหรวของเฉินฝานหรือไม่”“จริงด้วย ด้านหลังเกวียนคือเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียว”“ของบนเกวี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 61  

    ไม่มีผู้ใดตอบสนองคำพูดของจูต้าอัน ตามอุปนิสัยของเฉินฝานก่อนหน้านี้ เมื่อใดที่มีเงิน เขาจะเอาไปดื่มกิน หรือไม่ก็เล่นการพนัน ไม่แยแสเรื่องที่บ้าน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าพี่น้องตระกูลฉินจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร  เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดปฏิเสธตน จูต้าอันก็รู้สึกภูมิใจอยู่ไม่น้อย  “ไม่มีผู้ใดในหมู่บ้านนี้รู้จักเจ้าหนุ่มเฉินฝานดีไปกว่าข้า ไม่สังเกตเห็นบ้างเลยหรือ? สาวน้อยสองคนจากตระกูลฉิน มีสีหน้าขมขื่น เฉินฝานจะต้องพาพวกนางออกไปขายแน่ๆ " “ข้าไม่เห็นสีหน้าขมขื่นของพี่น้องตระกูลฉิน ข้าคิดว่าพวกนางกำลังยิ้มเสียอีก” ชาวบ้านผู้หนึ่งออกมาตอบโต้จูต้าอัน "เจ้าจะไปรู้อะไร?" “รู้อะไร? ครั้งล่าสุดที่เจ้าบอกว่าภายในสามวัน เฉินฝานจะส่งฉินเย่ว์โหรวไปที่หอนางโลมอี๋ชุนย่วน นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ฉินเย่ว์โหรวยังอยู่ในหมู่บ้านซานเหออยู่เลย?” หลังจากเฉินฝานทุบตีจูต้าอัน ผู้คนในหมู่บ้านก็เริ่มหวาดกลัวจูต้าอันน้อยลง “ครั้งที่แล้ว ก็...” สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนไม่ต่างจากพบเจอกับทางตัน แต่แล้วจู่ๆ เฉินฝานก็สามารถคลี่คลายมันได้ จูต้าอันครุ่นคิดเรื่องนี้มาหลายวันแต่ก็ยังคิดไม่ตก เหตุใดหลี่ซานถึงปล่อยเฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 62

    ก่อนจูต้าอันจะทันได้กล่าวจบ เฉินฝานก็ใช้ฟืนในมือฟาดเข้าใส่ศีรษะของจูต้าอันอย่างแรงเมื่อเขานึกถึงจูต้าอันที่มองภรรยาของเขาด้วยท่าทางลามก เฉินฝานรู้สึกว่าแค่ทุบตียังไม่สามารถบรรเทาความเกลียดชังได้จูต้าอันต้องการหลบ แต่เฉินฝานเคลื่อนไหวเร็วกว่า ราวกับว่าเขาสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของจูต้าอันได้ ไม่ว่าจูต้าอันหลบเลี่ยงไปที่ใด เขาก็จะฟาดเข้าใส่ตรงนั้นสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่บ้านของเฉินฝานเมื่อไม่กี่วันก่อน จูต้าอันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดระหว่างถูกทุบตี จูต้าอันพยายามต่อสู้กลับ ทว่าก่อนหมัดของเขาจะถูกชกออกไป เฉินฝานก็สวนกลับอย่างแรงเฉินฝานกระชากบาดแผลเก่าบนศีรษะของจูต้าอันแล้วทุบตีเขา สักพักเลือดก็เริ่มไหลใบหน้าของจูต้าอันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด จนต้องขอความเมตตาจากเฉินฝาน“พี่ชายแสนดี หยุดตีข้าเถอะ หยุดตีข้า!”“ถ้าอยากให้ข้าหยุดก็เรียกข้าว่าท่านปู่!” “ท่านปู่ ท่านปู่ผู้แสนดี” “อะไรนะ?” เฉินฝานก้มศีรษะลงแล้วฟัง “ข้าไม่ได้ยิน เจ้าช่วยพูดให้ดังๆ กว่านี้หน่อย”"ท่านปู่!"“เสียงของเจ้าเบาเกินไป ดูเหมือนว่าการทุบตีของข้าจะยังไม่แรงพอ!” ฟืนในมือของเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 63

    "ไม่นะ!"ฉินเย่ว์โหรวกรีดร้อง ทรุดเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุบ นางพึมพำกับตัวเองว่า "นายท่าน อย่านะ อย่าตีข้าเลย"ยุคปัจจุบัน ในฐานะทหารบนสนามรบ เขารู้เรื่องโรคเครียดที่เกิดจากความสะเทือนใจอย่างรุนแรง เขาเพิ่งสั่งสอนจูต้าอัน ซึ่งอาจจะไปย้ำเตือนความทรงจำที่ฉินเย่ว์โหรวเคยถูกเจ้าของร่างเดิมทุบตีอย่างรุนแรง“เย่ว์โหรว!”เฉินฝานก้มลงอุ้มฉินเย่ว์โหรว ไว้ในอ้อมแขนของเขา"นายท่าน!"ฉินเย่ว์โหรวพยายามดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่เฉินฝานไม่คิดที่จะปล่อยนางไป ยิ่งนางดิ้นรนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกอดรัดนางแน่นมากขึ้นเท่านั้นดังคำกล่าวที่ว่าเรียนผูกต้องเรียนแก้ปมในใจของฉินเย่ว์โหรว เขาจะต้องแก้ไขด้วยตนเองเฉินฝานกอดฉินเย่ว์โหรว จูบลงบนหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องกลัว มันจบแล้ว มันจบแล้ว”ขณะเฉินฝานพยายามปลอบประโลมนางครั้งแล้วครั้งเล่า ฉินเย่ว์โหรวก็ค่อยๆ สงบลงภายในอ้อมแขนของเขา“เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือไม่” เฉินฝานดันฉินเย่ว์โหรวออกไปเล็กน้อยแล้วถามอย่างอ่อนโยน"อื้ม!"“นายท่าน...”ขณะนี้ฉินเย่ว์โหรวกลับมามีสติอีกครั้ง เฉินฝานยังคงกอดนางไว้ฉินเย่ว์โหรวที่ได้สติ เขินอายอย่างยิ่ง “ท่านปล่อยข

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status