แชร์

บทที่ 482

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ข้าว่านะท่านใต้เท้าทั้งสองพวกท่านหยุดก่อนเถอะ” เฉินฝานถือพระราชโองการมายืนตรงหน้าเพ่ยจี้และซูซิวฉี

“โวยวายอะไร ไม่เห็นว่าพวกข้ากำลังยุ่งอยู่หรือกระไร?”

เพ่ยจี้ที่ระเบิดอารมณ์โมโหคิดว่าเป็นลูกน้องของพวกเขาทั้งสอง ตะคอกด้วยความโมโหออกมาเสียอย่างนั้น

เขาหงุดหงิดมากจริงๆ เพราะว่าคำพูดที่แทรกมากะทันหันนี้ ทำให้เขาถูกซูซิวฉีโยนขี้โคลนใส่หน้า

เขาและซูซิวฉีตีกันมาสองวันแล้ว เป็นครั้งแรกที่โดนซูซิวฉีโจมตีได้ จะไม่โมโหได้อย่างไร?

“เสี่ยวฝาน เขาด่าเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่ต้องเข้าร่วมกองทัพหมาป่าของเขา”

คนที่เห็นว่าเป็นเฉินฝานก่อนคือ ซูซิวฉี เมื่อเห็นเพ่ยจี้ด่าเฉินฝาน เขามีความสุขเป็นอย่างมาก

“ได้ ฟังที่ท่านอัครเสนาบดีพูด ข้าจะไม่ไปกองทัพหมาป่า” เฉินฝานยิ้มพลางพูด

“ไอ้หยา เสี่ยวฝาน ข้าผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว ข้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จริงๆว่าคนที่เดินมาคือเจ้า” เพ่ยจี้ขวัญหนีดีฝ่อกล่าวขอโทษเฉินฝาน

“พูดอะไรน่ะ เสี่ยวฝานตัวออกจะโตขนาดนั้น เจ้ามองไม่ชัด? เจ้าจงใจล่ะสิ” ไม่ง่ายเลยที่จะฉกฉวยโอกาสมาได้ ซูซิวฉีจึงไม่ปล่อยไปง่ายๆ

ความเพียรพยายามด้านร่างกาย เขาสู้เพ่ยจี้ไม่ได้ ความเพียรพยายามด้านฝีปากเพ่ยจี้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 483

    “ใต้เท้าจาง ฝ่าบาทออกพระราชโองการอันใดมา ข้าน้อยทราบได้หรือไม่?”หลี่ซานเองก็ถามจางเจิ้งห้าวด้วยความอยากรู้เช่นกัน“ไม่มีปัญหาหรอก ให้เจ้ารู้ก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียอีกประเดี๋ยวก็คงจะติดตรงป้ายประกาศของอำเภอ แต่พระราชโองการนั้น ช่าง.... กับเสี่ยวฝานเสียจริง เฮ้อ!”จางเจิ้งห้าวนำพระราชโองการฉบับคัดลอกด้วยมือส่งให้หลี่ซาน“ไม่ยุติธรรม เหตุใดฝ่าบาทจึงออกพระราชโองการเช่นนี้ ไม่ยุติธรรมกับคนมากมาย โดยเฉพาะกับเสี่ยวฝาน ไม่ยุติธรรมสุดๆ”หลี่ซานอ่านเนื้อหาในพระราชโองการจบแล้ว พูดออกมาด้วยความยากที่จะรับได้และไม่สบอารมณ์ไม่หยุดเรื่องนี้ทำหลี่ซานรับไม่ได้ และยังไม่พอใจในเนื้อหาพระราชโองการคร่าวๆที่เป็นเช่นนี้อย่างมากการสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลทั้งหมดในรัชสมัยต้าชิ่ง ให้อภิสิทธิ์กับปัญญาชนที่มีลูกชายก่อน ปัญญาชนที่ไม่มีลูกสามารถผ่านการสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลได้ ทว่าเข้าร่วมการสอบระดับพระราชวังไม่ได้หรือก็คือ เฉินฝานที่ไม่มีลูกชายลูกสาวในตอนนี้ ต่อให้เอาคนสอบอันดับแรกของการสอบระดับมณฑลอำเภอผิงอัน“ฝ่าบาทเสียสติไปแล้วกระมัง...”“หลี่ซาน!” จางเจิ้งห้าวรีบร้อนปิดปากหลี่ซาน “เจ้าอยากตา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 484

    อยู่ๆซูซิวฉีและเพ่ยจี้ที่ทะเลาะกันมาสองวันก็ดีกันเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะจากอำเภอผิงอันไป พวกเขาต่างหาหมอห้าคนให้กับเฉินฝานและพี่น้องนางฉินในตอนแรก พี่น้องนางฉินไม่รู้ว่าหมอมาทำอะไร เห็นหมอสิบคนกำลังห้อมล้อมเฉินฝาน ยังคิดว่าเฉินฝานป่วยหนักฉินเย่ว์โหรวบ่อน้ำตาตื้น ร้องไห้หนักมากเฉินฝานโมโหจนด่าอย่างรุนแรง ให้ซูซิวฉีและเพ่ยจี้นำหมอเหล่านั้นออกไปซูซิวฉีและเพ่ยจี้ไม่ว่าอะไรก็ทำตามเฉินฝานหมด เรื่องนี้กลับไม่ทำตามหลังจากที่หมอสิบคนล้วนกล่าวว่าร่างกายของเฉินฝานและพี่น้องนางฉินปกติดีทุกอย่าง สามารถให้กำเนิดลูกได้ ใจที่เป็นกังวลของสองผู้เฒ่าถึงวางใจได้นิดหน่อยวางใจได้นิดหน่อยจริงๆ ไม่เช่นนั้น...เฉินฝานยืนตกตะลึงอยู่ตรงทางเข้ายุ้งฉางที่มักจะเอาไว้เก็บเสบียงอาหารห้านาทีสองผู้เฒ่านี้ ออกไปแล้วยังจะหาเรื่องลำบากมาให้เขาอีก“เสี่ยวฝาน ที่แท้เจ้าก็อยู่ที่นี้เอง ข้าหาเจ้าตั้งนาน”ด้านหลังมีเสียงของหลี่ซานดังขึ้น“เจ้ายืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น ยุ้งฉางมีอะไรน่าดู มีโจรบุกเข้ามาขโมยเสบียงงั้นหรือ”เสียงของหลี่ซานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ“เฮ้ย !”ตอนที่หลี่ซานเห็นของในยุ้งฉางชัดเจนแล้ว ก็ตกใจเช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 485

    “นายท่านชางเจ้าค่ะ เขาพานายน้อยชางเฟยอวี่และเหล่าคุณหนูชางมา เจ้านายต้องการพบหรือไม่?”“เจ้าพาพวกเขาไปโถงรับแขกแล้วกัน!”การประลองสามรอบกับอำเภอตูอันครั้งก่อน ภาพจำของเฉินฝานที่มีต่อชางเฟยอวี่ไม่ดีนักทว่าตระกูลชางเป็นตระกูลพ่อค้าอันดับสองในอำเภอผิงอัน และตระกูลชางก็อาศัยอยู่ตรงข้ามกัน ในวันธรรมดาไม่มากก็น้อยก็ต้องเห็นกันอยู่แล้ว ความสัมพันธ์แบบเพื่อนบ้าน ก็ควรจะพยายามสมานฉันท์อย่างเต็มที่เฉินฝานเพิ่งจะมาถึงโถงรับแขก สุ่ยเซียนก็พาคนเข้ามาเช่นกัน“หลานฝานเอ๋ย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน นายท่านชางชางหย่งชางก็ทักทายเฉินฝานอย่างอบอุ่นด้านหลังชางหย่งชางตามมาด้วยหนึ่งชายสามหญิงผู้ชายนั้นก็ต้องเป็นชางเฟยอวี่อยู่แล้ว ผู้หญิงน่าจะเป็นเหล่าลูกสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนของชางหย่งชางต้องยังไม่ได้ออกเรือนเป็นแน่ ถ้าออกเรือนไปแล้ว ชางหย่งชางไม่พามาด้วยหรอก ออกเรือนมีสามีแล้ว ต่อให้ออกมา ก็ไม่ใช่ชางหย่งชางพามาตระกูลชางสี่คนยืนแถวเรียงหนึ่งรวมทั้งชางหย่งชางด้วย แต่ละคนล้วนหิ้วกล่องของขวัญมากมาย“ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหลานชายมานมนานแล้ว ตาแก่อย่างข้าจำใจทำงานตรากตำอยู่ต่างถิ่น เมื่อวานถึงจะไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 486

    พวกนางประดับศีรษะด้วยปิ่นปักผมล้ำค่าสีชาด ใบหน้าแต่งแต้มอย่างประณีต เรือนร่างล้วนสวมใส่ผ้าไหมดักแด้อย่างดี คุณภาพคล้ายกับผ้าพันแผลชั้นดีในยุคปัจจุบันผ้าไหมดักแด้ห่อหุ้มร่างกาย ขับความงดงามอ่อนช้อยของเรือนร่างเด็กสาวให้เด่นชัดยิ่งขึ้น สวยงามหยดย้อยราวกับนางอัปสรพวกนางก้าวเท้าสั้นๆ ค่อยๆเดินไปหาเฉินฝาน“เสี่ยวฝาน!” ชางหย่งชางแนะนำเหล่าลูกสาวตนเองให้กับเฉินฝาน “นี่คือลูกสาวคนที่ห้าคนที่หกคนที่เจ็ดของตาเฒ่า ถิงถิง อิงอิง เยี่ยนเยี่ยน รีบมาทักทายพี่ฝานของพวกเจ้าสิ”“...แคก!”เฉินฝานแทบจะพ่นน้ำชาในปากออกมาชางหย่งชางนั้นการค้าการปฏิบัติตนล้วนรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางทั้งนั้น ทว่าความสามารถในการตั้งชื่ออยู่ในระดับพอถูๆไถๆจริงๆหากไม่ใช่ความเหนียมอายที่ปรากฏบนใบหน้าของนางทั้งสามคน เฉินฝานยังคิดไปเองว่าชางหย่งชางพาหญิงสาวสามคนจากสำนักนางโลมมาเสียอีก“ทักทายพี่ฝาน!”ตอนที่ถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยนโน้มตัวทักทาย ชั่วพริบตาเฉินฝานสามารถเห็น...ของพวกนางได้รางๆ“สวัสดีพวกน้องสาว ดีเลย!”ตามประเพณีดั้งเดิมของราษฎรต้าชิ่ง ชางหย่งชางให้เหล่าลูกสาวแต่งกายเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนโง่ก็เข้าใจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 487

    “หลานฝาน เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม? พวกนางให้ข้าตัดสินใจ เอาแบบนี้แล้วกัน!” เสียงของชางหย่งชางเหินขึ้นสูงทันควัน“สรรพสิ่งเป็นไปตามธรรมชาติก็ดีแล้ว ประเดี๋ยวให้พ่อบ้านของตระกูลนำหนังสือสัญญาของที่นากับร้านค้ามาให้ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นสินเดิมของถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยน พวกเจ้าสี่คนแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งของพวกนางจะอยู่ใต้ภรรยาเดิมของเจ้า”“......”บัดซบเอ้ย!ในใจของเฉินฝานนับถือชางหย่งชางเล็กน้อย ไม่แปลกที่เขาก่อร่างสร้างตัวจากที่ไม่มีอะไรสักอย่างเลย ทำให้ธุรกิจการค้าของตระกูลชางเป็นอันดับสองของอำเภอผิงอันชางหย่งชางเจรจาต่อเก่งเป็นอย่างมาก ผ่อนหนักผ่อนเบาอย่างเหมาะสม สามารถสร้างความกดดันให้คนได้ เมื่อสบโอกาสก็คว้ามาให้อย่างแม่นยำหากคนที่นั่งอยู่ต่อหน้าชางหย่งชางไม่ใช่เฉินฝานแต่เป็นคนอื่นล่ะก็ เช่นนั้นคงจะดิ้นให้หลุดไม่ได้อยู่แล้ว ต้องกลายเป็นลูกเขยของเขาอย่างว่าง่าย“พวกเจ้าสามคนงงอะไรกัน?” ชางหย่งชางฉุดดึงเหล่าลูกสาวของตัวเอง “ยังไม่รีบเรียกนายท่านอีก”“อย่าเลย!” เฉินฝานพูดอย่างรีบร้อน “พวกเจ้าอย่าเรียกเลย สาวๆเอ๋ย ข้าไม่ใช้สามีของพวกเจ้า หวังว่าพวกเจ้าจะหาคนที่รักพวกเจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 488

    “ชางหย่งชาง เมื่อครู่เจ้าไม่ได้บอกว่าจะเจรจาธุรกิจกับเฉินฝานหรอกหรือ? เหตุใดจึงแอบเอาลูกสาวเข้าไปด้วยล่ะ?”“ชางหย่งชาง เจ้าจะเกินไปละนะ เจ้าพูดมาก่อนว่าจะให้ธุรกิจที่ทำเงินได้มากมายกับเฉินฝาน พวกเราถึงหลีกทางให้เจ้า”“ชางหย่งชาง...”ในตอนที่ผู้คนผลัดกันวิพากษ์วิจารณ์ชางหย่งชาง เฉินฝานถึงได้รู้ว่าที่แท้ที่ชางหย่งชางพูดทั้งหมด คนอื่นเห็นเหล่าลูกสาวแต่งกายเช่นนี้เข้ามาเป็นการหลอกลวงเขาช่างเป็นพ่อค้าที่เจ้าเล่ห์จริงๆ“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ ลูกสาวข้ามีน้ำมีนวลขนาดนี้เชียวนะ”“เสี่ยวฝาน นี่คือลูกสาวข้า กู่ฉิน หมากล้ม ตำราและการวาดภาพล้วนเชี่ยวชาญทั้งนั้น เจ้ามองดูนางหน่อยสิ”“เสี่ยวฝาน ลูกสาวข้า ไม่เพียงแต่เย็บปักถักร้อยยอดเยี่ยม ยังแต่งกลอนเป็น เจ้าก็มองดูนางด้วยสิ”ชางหย่งชางเป็นคนเริ่มแล้ว คนเหล่าก็ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป แต่ละคนล้วนดันลูกสาวไปด้านหน้าเฉินฝานเด็กสาวที่ถูกดันมาด้านหน้าเฉินฝาน แต่ละคนล้วนหน้าขึ้นสี เหนียมอายอยู่ไม่สุขเห็นสภาพการณ์ด้านหน้าเช่นนี้ เฉินฝานทั้งตกใจและเศร้าสลดเล็กน้อยเขาเศร้าแทนเด็กสาวที่ถูกดันมาด้านหน้าเขาเหล่านั้นพวกนางล้วนแต่ยังสาวยังสวย สวยราวกับบุป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 489

    “ตอนนั้นตอนนี้อะไรกัน ไม่ว่าตอนไหน เขาก็คือเฉินฝาน ถูกท่านนายพลและท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายถูกตาต้องใจแล้ว หลังจากนี้จะอำนาจล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโต เมียอย่างเจ้าจะไปเข้าใจอะไร?”ชางหย่งชางหมดความอดทนอยากจะคุณนายชางออกไป“เขามีอำนาจล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโตที่ไหนกัน พวกลูกสาว พวกเรากลับ!” คุณนายชางพูดอย่างไม่เว้นวรรคพลางลากถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยนเดินออกไปด้านนอก“ลูกอวี่ เจ้าจะยังคุกเข่าอยู่อีกทำไม? ไป กลับบ้านกับแม่!” ตอนที่เดินผ่านชางเฟยอวี่ คุณนายชางก็ดึงเขาลุกขึ้น“นายท่าน พวกเรารีบไปกันเถอะ อย่ามัวมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย”“ใช่แล้ว สู้เก็บสินเดิมของเหล่าลูกสาวไว้ดีกว่า รอให้ผลการสอบพระราชวังของหรงตูออกมา ค่อยหาลูกเขยจากที่ประกาศผลสอบเอาละกัน”ตอนที่คุณนายชางลากลูกชายลูกสาวของตนเองออกไปด้านนอก เหล่าภรรยาด้านข้างก็ต่างพากันเรียกสามีตัวเองให้ออกไป“พวกเจ้าเหล่าภรรยาพวกนี้ เหตุใดแต่ละคน......ไม่เห็นด้วย พวกเจ้าไม่เห็นด้วยจริงๆ” ชางหย่งชางโมโหจนกระทืบเท้า“นายท่านชาง พวกเราไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่เป็นเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจลูกสาวตัวเอง” มีภรรยาคนหนึ่งพูดขึ้น“เฉินฝานเป็นคนหนุ่มที่อนาค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 490

    “เจ้าพูดจามั่วซั่ว นายท่านของข้าเขา......”ไม่มีใครฟังคำอธิบายของฉินเย่ว์เจียว ล้วนกำลังถกเถียงกันว่าเฉินฝานเป็นพวกสร้างภาพจอมปลอมหรือไอ้สวะ“ไม่แปลกก่อนที่ท่านนายพลและท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายจะออกไปให้ยาเขาเยอะขนาดนั้น ที่แท้ไม่ใช่พวกสร้างภาพจอมปลอมแต่เป็นไอ้สวะนี่เอง”“ไอ้หยา!”มีชายคนหนึ่งตบเข่าฉาดเสียงดัง “เช่นนั้นถ้าให้ลูกสาวแต่งงานกับคนแบบนี้ ก็น่าสงสารแย่เลยสิ!”“ใช่เลย อย่าว่าแต่ให้กำเนิดลูกเลย เป็นผู้หญิงก้ยังเป็นไม่ได้ ยังดีที่มีภรรยาเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่พวกนางพุ่งเข้ามา พวกเราจะไปคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”“คนที่ควรขอบคุณที่สุดที่สุดคือคุณนายชาง นางกล้าหาญที่สุดแล้ว นายท่านชาง หลังจากที่ท่านกลับไป ต้องตกรางวัลให้นางอย่างามเลยนะ”“ต้องตกรางวัลอย่างาม!”“ขอบคุณคุณนายชาง!”ผู้คนห้อมล้อมคุณนายชางให้ไปอยู่ตรงกลางคุณนายชางต้องดีใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่หาได้ยากท่ามกลางผู้คนนี้ ที่จริงแล้วคนที่ดีใจที่สุดคือชางเฟยอวี่เขาและเฉินฝานอายุเท่ากัน และยังเดินทางสายสอบขุนนางเหมือนกัน ถึงแม้จะสอบไม่ติด ทว่าก่อนที่เฉินฝานจะปรากฏตัว เ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status