แชร์

บทที่ 482

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ข้าว่านะท่านใต้เท้าทั้งสองพวกท่านหยุดก่อนเถอะ” เฉินฝานถือพระราชโองการมายืนตรงหน้าเพ่ยจี้และซูซิวฉี

“โวยวายอะไร ไม่เห็นว่าพวกข้ากำลังยุ่งอยู่หรือกระไร?”

เพ่ยจี้ที่ระเบิดอารมณ์โมโหคิดว่าเป็นลูกน้องของพวกเขาทั้งสอง ตะคอกด้วยความโมโหออกมาเสียอย่างนั้น

เขาหงุดหงิดมากจริงๆ เพราะว่าคำพูดที่แทรกมากะทันหันนี้ ทำให้เขาถูกซูซิวฉีโยนขี้โคลนใส่หน้า

เขาและซูซิวฉีตีกันมาสองวันแล้ว เป็นครั้งแรกที่โดนซูซิวฉีโจมตีได้ จะไม่โมโหได้อย่างไร?

“เสี่ยวฝาน เขาด่าเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่ต้องเข้าร่วมกองทัพหมาป่าของเขา”

คนที่เห็นว่าเป็นเฉินฝานก่อนคือ ซูซิวฉี เมื่อเห็นเพ่ยจี้ด่าเฉินฝาน เขามีความสุขเป็นอย่างมาก

“ได้ ฟังที่ท่านอัครเสนาบดีพูด ข้าจะไม่ไปกองทัพหมาป่า” เฉินฝานยิ้มพลางพูด

“ไอ้หยา เสี่ยวฝาน ข้าผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว ข้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จริงๆว่าคนที่เดินมาคือเจ้า” เพ่ยจี้ขวัญหนีดีฝ่อกล่าวขอโทษเฉินฝาน

“พูดอะไรน่ะ เสี่ยวฝานตัวออกจะโตขนาดนั้น เจ้ามองไม่ชัด? เจ้าจงใจล่ะสิ” ไม่ง่ายเลยที่จะฉกฉวยโอกาสมาได้ ซูซิวฉีจึงไม่ปล่อยไปง่ายๆ

ความเพียรพยายามด้านร่างกาย เขาสู้เพ่ยจี้ไม่ได้ ความเพียรพยายามด้านฝีปากเพ่ยจี้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 483

    “ใต้เท้าจาง ฝ่าบาทออกพระราชโองการอันใดมา ข้าน้อยทราบได้หรือไม่?”หลี่ซานเองก็ถามจางเจิ้งห้าวด้วยความอยากรู้เช่นกัน“ไม่มีปัญหาหรอก ให้เจ้ารู้ก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียอีกประเดี๋ยวก็คงจะติดตรงป้ายประกาศของอำเภอ แต่พระราชโองการนั้น ช่าง.... กับเสี่ยวฝานเสียจริง เฮ้อ!”จางเจิ้งห้าวนำพระราชโองการฉบับคัดลอกด้วยมือส่งให้หลี่ซาน“ไม่ยุติธรรม เหตุใดฝ่าบาทจึงออกพระราชโองการเช่นนี้ ไม่ยุติธรรมกับคนมากมาย โดยเฉพาะกับเสี่ยวฝาน ไม่ยุติธรรมสุดๆ”หลี่ซานอ่านเนื้อหาในพระราชโองการจบแล้ว พูดออกมาด้วยความยากที่จะรับได้และไม่สบอารมณ์ไม่หยุดเรื่องนี้ทำหลี่ซานรับไม่ได้ และยังไม่พอใจในเนื้อหาพระราชโองการคร่าวๆที่เป็นเช่นนี้อย่างมากการสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลทั้งหมดในรัชสมัยต้าชิ่ง ให้อภิสิทธิ์กับปัญญาชนที่มีลูกชายก่อน ปัญญาชนที่ไม่มีลูกสามารถผ่านการสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลได้ ทว่าเข้าร่วมการสอบระดับพระราชวังไม่ได้หรือก็คือ เฉินฝานที่ไม่มีลูกชายลูกสาวในตอนนี้ ต่อให้เอาคนสอบอันดับแรกของการสอบระดับมณฑลอำเภอผิงอัน“ฝ่าบาทเสียสติไปแล้วกระมัง...”“หลี่ซาน!” จางเจิ้งห้าวรีบร้อนปิดปากหลี่ซาน “เจ้าอยากตา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 484

    อยู่ๆซูซิวฉีและเพ่ยจี้ที่ทะเลาะกันมาสองวันก็ดีกันเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะจากอำเภอผิงอันไป พวกเขาต่างหาหมอห้าคนให้กับเฉินฝานและพี่น้องนางฉินในตอนแรก พี่น้องนางฉินไม่รู้ว่าหมอมาทำอะไร เห็นหมอสิบคนกำลังห้อมล้อมเฉินฝาน ยังคิดว่าเฉินฝานป่วยหนักฉินเย่ว์โหรวบ่อน้ำตาตื้น ร้องไห้หนักมากเฉินฝานโมโหจนด่าอย่างรุนแรง ให้ซูซิวฉีและเพ่ยจี้นำหมอเหล่านั้นออกไปซูซิวฉีและเพ่ยจี้ไม่ว่าอะไรก็ทำตามเฉินฝานหมด เรื่องนี้กลับไม่ทำตามหลังจากที่หมอสิบคนล้วนกล่าวว่าร่างกายของเฉินฝานและพี่น้องนางฉินปกติดีทุกอย่าง สามารถให้กำเนิดลูกได้ ใจที่เป็นกังวลของสองผู้เฒ่าถึงวางใจได้นิดหน่อยวางใจได้นิดหน่อยจริงๆ ไม่เช่นนั้น...เฉินฝานยืนตกตะลึงอยู่ตรงทางเข้ายุ้งฉางที่มักจะเอาไว้เก็บเสบียงอาหารห้านาทีสองผู้เฒ่านี้ ออกไปแล้วยังจะหาเรื่องลำบากมาให้เขาอีก“เสี่ยวฝาน ที่แท้เจ้าก็อยู่ที่นี้เอง ข้าหาเจ้าตั้งนาน”ด้านหลังมีเสียงของหลี่ซานดังขึ้น“เจ้ายืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น ยุ้งฉางมีอะไรน่าดู มีโจรบุกเข้ามาขโมยเสบียงงั้นหรือ”เสียงของหลี่ซานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ“เฮ้ย !”ตอนที่หลี่ซานเห็นของในยุ้งฉางชัดเจนแล้ว ก็ตกใจเช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 485

    “นายท่านชางเจ้าค่ะ เขาพานายน้อยชางเฟยอวี่และเหล่าคุณหนูชางมา เจ้านายต้องการพบหรือไม่?”“เจ้าพาพวกเขาไปโถงรับแขกแล้วกัน!”การประลองสามรอบกับอำเภอตูอันครั้งก่อน ภาพจำของเฉินฝานที่มีต่อชางเฟยอวี่ไม่ดีนักทว่าตระกูลชางเป็นตระกูลพ่อค้าอันดับสองในอำเภอผิงอัน และตระกูลชางก็อาศัยอยู่ตรงข้ามกัน ในวันธรรมดาไม่มากก็น้อยก็ต้องเห็นกันอยู่แล้ว ความสัมพันธ์แบบเพื่อนบ้าน ก็ควรจะพยายามสมานฉันท์อย่างเต็มที่เฉินฝานเพิ่งจะมาถึงโถงรับแขก สุ่ยเซียนก็พาคนเข้ามาเช่นกัน“หลานฝานเอ๋ย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน นายท่านชางชางหย่งชางก็ทักทายเฉินฝานอย่างอบอุ่นด้านหลังชางหย่งชางตามมาด้วยหนึ่งชายสามหญิงผู้ชายนั้นก็ต้องเป็นชางเฟยอวี่อยู่แล้ว ผู้หญิงน่าจะเป็นเหล่าลูกสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนของชางหย่งชางต้องยังไม่ได้ออกเรือนเป็นแน่ ถ้าออกเรือนไปแล้ว ชางหย่งชางไม่พามาด้วยหรอก ออกเรือนมีสามีแล้ว ต่อให้ออกมา ก็ไม่ใช่ชางหย่งชางพามาตระกูลชางสี่คนยืนแถวเรียงหนึ่งรวมทั้งชางหย่งชางด้วย แต่ละคนล้วนหิ้วกล่องของขวัญมากมาย“ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหลานชายมานมนานแล้ว ตาแก่อย่างข้าจำใจทำงานตรากตำอยู่ต่างถิ่น เมื่อวานถึงจะไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 486

    พวกนางประดับศีรษะด้วยปิ่นปักผมล้ำค่าสีชาด ใบหน้าแต่งแต้มอย่างประณีต เรือนร่างล้วนสวมใส่ผ้าไหมดักแด้อย่างดี คุณภาพคล้ายกับผ้าพันแผลชั้นดีในยุคปัจจุบันผ้าไหมดักแด้ห่อหุ้มร่างกาย ขับความงดงามอ่อนช้อยของเรือนร่างเด็กสาวให้เด่นชัดยิ่งขึ้น สวยงามหยดย้อยราวกับนางอัปสรพวกนางก้าวเท้าสั้นๆ ค่อยๆเดินไปหาเฉินฝาน“เสี่ยวฝาน!” ชางหย่งชางแนะนำเหล่าลูกสาวตนเองให้กับเฉินฝาน “นี่คือลูกสาวคนที่ห้าคนที่หกคนที่เจ็ดของตาเฒ่า ถิงถิง อิงอิง เยี่ยนเยี่ยน รีบมาทักทายพี่ฝานของพวกเจ้าสิ”“...แคก!”เฉินฝานแทบจะพ่นน้ำชาในปากออกมาชางหย่งชางนั้นการค้าการปฏิบัติตนล้วนรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางทั้งนั้น ทว่าความสามารถในการตั้งชื่ออยู่ในระดับพอถูๆไถๆจริงๆหากไม่ใช่ความเหนียมอายที่ปรากฏบนใบหน้าของนางทั้งสามคน เฉินฝานยังคิดไปเองว่าชางหย่งชางพาหญิงสาวสามคนจากสำนักนางโลมมาเสียอีก“ทักทายพี่ฝาน!”ตอนที่ถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยนโน้มตัวทักทาย ชั่วพริบตาเฉินฝานสามารถเห็น...ของพวกนางได้รางๆ“สวัสดีพวกน้องสาว ดีเลย!”ตามประเพณีดั้งเดิมของราษฎรต้าชิ่ง ชางหย่งชางให้เหล่าลูกสาวแต่งกายเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนโง่ก็เข้าใจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 487

    “หลานฝาน เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม? พวกนางให้ข้าตัดสินใจ เอาแบบนี้แล้วกัน!” เสียงของชางหย่งชางเหินขึ้นสูงทันควัน“สรรพสิ่งเป็นไปตามธรรมชาติก็ดีแล้ว ประเดี๋ยวให้พ่อบ้านของตระกูลนำหนังสือสัญญาของที่นากับร้านค้ามาให้ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นสินเดิมของถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยน พวกเจ้าสี่คนแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งของพวกนางจะอยู่ใต้ภรรยาเดิมของเจ้า”“......”บัดซบเอ้ย!ในใจของเฉินฝานนับถือชางหย่งชางเล็กน้อย ไม่แปลกที่เขาก่อร่างสร้างตัวจากที่ไม่มีอะไรสักอย่างเลย ทำให้ธุรกิจการค้าของตระกูลชางเป็นอันดับสองของอำเภอผิงอันชางหย่งชางเจรจาต่อเก่งเป็นอย่างมาก ผ่อนหนักผ่อนเบาอย่างเหมาะสม สามารถสร้างความกดดันให้คนได้ เมื่อสบโอกาสก็คว้ามาให้อย่างแม่นยำหากคนที่นั่งอยู่ต่อหน้าชางหย่งชางไม่ใช่เฉินฝานแต่เป็นคนอื่นล่ะก็ เช่นนั้นคงจะดิ้นให้หลุดไม่ได้อยู่แล้ว ต้องกลายเป็นลูกเขยของเขาอย่างว่าง่าย“พวกเจ้าสามคนงงอะไรกัน?” ชางหย่งชางฉุดดึงเหล่าลูกสาวของตัวเอง “ยังไม่รีบเรียกนายท่านอีก”“อย่าเลย!” เฉินฝานพูดอย่างรีบร้อน “พวกเจ้าอย่าเรียกเลย สาวๆเอ๋ย ข้าไม่ใช้สามีของพวกเจ้า หวังว่าพวกเจ้าจะหาคนที่รักพวกเจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 488

    “ชางหย่งชาง เมื่อครู่เจ้าไม่ได้บอกว่าจะเจรจาธุรกิจกับเฉินฝานหรอกหรือ? เหตุใดจึงแอบเอาลูกสาวเข้าไปด้วยล่ะ?”“ชางหย่งชาง เจ้าจะเกินไปละนะ เจ้าพูดมาก่อนว่าจะให้ธุรกิจที่ทำเงินได้มากมายกับเฉินฝาน พวกเราถึงหลีกทางให้เจ้า”“ชางหย่งชาง...”ในตอนที่ผู้คนผลัดกันวิพากษ์วิจารณ์ชางหย่งชาง เฉินฝานถึงได้รู้ว่าที่แท้ที่ชางหย่งชางพูดทั้งหมด คนอื่นเห็นเหล่าลูกสาวแต่งกายเช่นนี้เข้ามาเป็นการหลอกลวงเขาช่างเป็นพ่อค้าที่เจ้าเล่ห์จริงๆ“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ ลูกสาวข้ามีน้ำมีนวลขนาดนี้เชียวนะ”“เสี่ยวฝาน นี่คือลูกสาวข้า กู่ฉิน หมากล้ม ตำราและการวาดภาพล้วนเชี่ยวชาญทั้งนั้น เจ้ามองดูนางหน่อยสิ”“เสี่ยวฝาน ลูกสาวข้า ไม่เพียงแต่เย็บปักถักร้อยยอดเยี่ยม ยังแต่งกลอนเป็น เจ้าก็มองดูนางด้วยสิ”ชางหย่งชางเป็นคนเริ่มแล้ว คนเหล่าก็ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป แต่ละคนล้วนดันลูกสาวไปด้านหน้าเฉินฝานเด็กสาวที่ถูกดันมาด้านหน้าเฉินฝาน แต่ละคนล้วนหน้าขึ้นสี เหนียมอายอยู่ไม่สุขเห็นสภาพการณ์ด้านหน้าเช่นนี้ เฉินฝานทั้งตกใจและเศร้าสลดเล็กน้อยเขาเศร้าแทนเด็กสาวที่ถูกดันมาด้านหน้าเขาเหล่านั้นพวกนางล้วนแต่ยังสาวยังสวย สวยราวกับบุป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 489

    “ตอนนั้นตอนนี้อะไรกัน ไม่ว่าตอนไหน เขาก็คือเฉินฝาน ถูกท่านนายพลและท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายถูกตาต้องใจแล้ว หลังจากนี้จะอำนาจล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโต เมียอย่างเจ้าจะไปเข้าใจอะไร?”ชางหย่งชางหมดความอดทนอยากจะคุณนายชางออกไป“เขามีอำนาจล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโตที่ไหนกัน พวกลูกสาว พวกเรากลับ!” คุณนายชางพูดอย่างไม่เว้นวรรคพลางลากถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยนเดินออกไปด้านนอก“ลูกอวี่ เจ้าจะยังคุกเข่าอยู่อีกทำไม? ไป กลับบ้านกับแม่!” ตอนที่เดินผ่านชางเฟยอวี่ คุณนายชางก็ดึงเขาลุกขึ้น“นายท่าน พวกเรารีบไปกันเถอะ อย่ามัวมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย”“ใช่แล้ว สู้เก็บสินเดิมของเหล่าลูกสาวไว้ดีกว่า รอให้ผลการสอบพระราชวังของหรงตูออกมา ค่อยหาลูกเขยจากที่ประกาศผลสอบเอาละกัน”ตอนที่คุณนายชางลากลูกชายลูกสาวของตนเองออกไปด้านนอก เหล่าภรรยาด้านข้างก็ต่างพากันเรียกสามีตัวเองให้ออกไป“พวกเจ้าเหล่าภรรยาพวกนี้ เหตุใดแต่ละคน......ไม่เห็นด้วย พวกเจ้าไม่เห็นด้วยจริงๆ” ชางหย่งชางโมโหจนกระทืบเท้า“นายท่านชาง พวกเราไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่เป็นเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจลูกสาวตัวเอง” มีภรรยาคนหนึ่งพูดขึ้น“เฉินฝานเป็นคนหนุ่มที่อนาค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 490

    “เจ้าพูดจามั่วซั่ว นายท่านของข้าเขา......”ไม่มีใครฟังคำอธิบายของฉินเย่ว์เจียว ล้วนกำลังถกเถียงกันว่าเฉินฝานเป็นพวกสร้างภาพจอมปลอมหรือไอ้สวะ“ไม่แปลกก่อนที่ท่านนายพลและท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายจะออกไปให้ยาเขาเยอะขนาดนั้น ที่แท้ไม่ใช่พวกสร้างภาพจอมปลอมแต่เป็นไอ้สวะนี่เอง”“ไอ้หยา!”มีชายคนหนึ่งตบเข่าฉาดเสียงดัง “เช่นนั้นถ้าให้ลูกสาวแต่งงานกับคนแบบนี้ ก็น่าสงสารแย่เลยสิ!”“ใช่เลย อย่าว่าแต่ให้กำเนิดลูกเลย เป็นผู้หญิงก้ยังเป็นไม่ได้ ยังดีที่มีภรรยาเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่พวกนางพุ่งเข้ามา พวกเราจะไปคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”“คนที่ควรขอบคุณที่สุดที่สุดคือคุณนายชาง นางกล้าหาญที่สุดแล้ว นายท่านชาง หลังจากที่ท่านกลับไป ต้องตกรางวัลให้นางอย่างามเลยนะ”“ต้องตกรางวัลอย่างาม!”“ขอบคุณคุณนายชาง!”ผู้คนห้อมล้อมคุณนายชางให้ไปอยู่ตรงกลางคุณนายชางต้องดีใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่หาได้ยากท่ามกลางผู้คนนี้ ที่จริงแล้วคนที่ดีใจที่สุดคือชางเฟยอวี่เขาและเฉินฝานอายุเท่ากัน และยังเดินทางสายสอบขุนนางเหมือนกัน ถึงแม้จะสอบไม่ติด ทว่าก่อนที่เฉินฝานจะปรากฏตัว เ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status