แชร์

บทที่ 488

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ชางหย่งชาง เมื่อครู่เจ้าไม่ได้บอกว่าจะเจรจาธุรกิจกับเฉินฝานหรอกหรือ? เหตุใดจึงแอบเอาลูกสาวเข้าไปด้วยล่ะ?”

“ชางหย่งชาง เจ้าจะเกินไปละนะ เจ้าพูดมาก่อนว่าจะให้ธุรกิจที่ทำเงินได้มากมายกับเฉินฝาน พวกเราถึงหลีกทางให้เจ้า”

“ชางหย่งชาง...”

ในตอนที่ผู้คนผลัดกันวิพากษ์วิจารณ์ชางหย่งชาง เฉินฝานถึงได้รู้ว่าที่แท้ที่ชางหย่งชางพูดทั้งหมด คนอื่นเห็นเหล่าลูกสาวแต่งกายเช่นนี้เข้ามาเป็นการหลอกลวงเขา

ช่างเป็นพ่อค้าที่เจ้าเล่ห์จริงๆ

“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ ลูกสาวข้ามีน้ำมีนวลขนาดนี้เชียวนะ”

“เสี่ยวฝาน นี่คือลูกสาวข้า กู่ฉิน หมากล้ม ตำราและการวาดภาพล้วนเชี่ยวชาญทั้งนั้น เจ้ามองดูนางหน่อยสิ”

“เสี่ยวฝาน ลูกสาวข้า ไม่เพียงแต่เย็บปักถักร้อยยอดเยี่ยม ยังแต่งกลอนเป็น เจ้าก็มองดูนางด้วยสิ”

ชางหย่งชางเป็นคนเริ่มแล้ว คนเหล่าก็ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป แต่ละคนล้วนดันลูกสาวไปด้านหน้าเฉินฝาน

เด็กสาวที่ถูกดันมาด้านหน้าเฉินฝาน แต่ละคนล้วนหน้าขึ้นสี เหนียมอายอยู่ไม่สุข

เห็นสภาพการณ์ด้านหน้าเช่นนี้ เฉินฝานทั้งตกใจและเศร้าสลดเล็กน้อย

เขาเศร้าแทนเด็กสาวที่ถูกดันมาด้านหน้าเขาเหล่านั้น

พวกนางล้วนแต่ยังสาวยังสวย สวยราวกับบุป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 489

    “ตอนนั้นตอนนี้อะไรกัน ไม่ว่าตอนไหน เขาก็คือเฉินฝาน ถูกท่านนายพลและท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายถูกตาต้องใจแล้ว หลังจากนี้จะอำนาจล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโต เมียอย่างเจ้าจะไปเข้าใจอะไร?”ชางหย่งชางหมดความอดทนอยากจะคุณนายชางออกไป“เขามีอำนาจล้นฟ้า เป็นคนใหญ่คนโตที่ไหนกัน พวกลูกสาว พวกเรากลับ!” คุณนายชางพูดอย่างไม่เว้นวรรคพลางลากถิงถิงอิงอิงเยี่ยนเยี่ยนเดินออกไปด้านนอก“ลูกอวี่ เจ้าจะยังคุกเข่าอยู่อีกทำไม? ไป กลับบ้านกับแม่!” ตอนที่เดินผ่านชางเฟยอวี่ คุณนายชางก็ดึงเขาลุกขึ้น“นายท่าน พวกเรารีบไปกันเถอะ อย่ามัวมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย”“ใช่แล้ว สู้เก็บสินเดิมของเหล่าลูกสาวไว้ดีกว่า รอให้ผลการสอบพระราชวังของหรงตูออกมา ค่อยหาลูกเขยจากที่ประกาศผลสอบเอาละกัน”ตอนที่คุณนายชางลากลูกชายลูกสาวของตนเองออกไปด้านนอก เหล่าภรรยาด้านข้างก็ต่างพากันเรียกสามีตัวเองให้ออกไป“พวกเจ้าเหล่าภรรยาพวกนี้ เหตุใดแต่ละคน......ไม่เห็นด้วย พวกเจ้าไม่เห็นด้วยจริงๆ” ชางหย่งชางโมโหจนกระทืบเท้า“นายท่านชาง พวกเราไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่เป็นเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจลูกสาวตัวเอง” มีภรรยาคนหนึ่งพูดขึ้น“เฉินฝานเป็นคนหนุ่มที่อนาค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 490

    “เจ้าพูดจามั่วซั่ว นายท่านของข้าเขา......”ไม่มีใครฟังคำอธิบายของฉินเย่ว์เจียว ล้วนกำลังถกเถียงกันว่าเฉินฝานเป็นพวกสร้างภาพจอมปลอมหรือไอ้สวะ“ไม่แปลกก่อนที่ท่านนายพลและท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายจะออกไปให้ยาเขาเยอะขนาดนั้น ที่แท้ไม่ใช่พวกสร้างภาพจอมปลอมแต่เป็นไอ้สวะนี่เอง”“ไอ้หยา!”มีชายคนหนึ่งตบเข่าฉาดเสียงดัง “เช่นนั้นถ้าให้ลูกสาวแต่งงานกับคนแบบนี้ ก็น่าสงสารแย่เลยสิ!”“ใช่เลย อย่าว่าแต่ให้กำเนิดลูกเลย เป็นผู้หญิงก้ยังเป็นไม่ได้ ยังดีที่มีภรรยาเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่พวกนางพุ่งเข้ามา พวกเราจะไปคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”“คนที่ควรขอบคุณที่สุดที่สุดคือคุณนายชาง นางกล้าหาญที่สุดแล้ว นายท่านชาง หลังจากที่ท่านกลับไป ต้องตกรางวัลให้นางอย่างามเลยนะ”“ต้องตกรางวัลอย่างาม!”“ขอบคุณคุณนายชาง!”ผู้คนห้อมล้อมคุณนายชางให้ไปอยู่ตรงกลางคุณนายชางต้องดีใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่หาได้ยากท่ามกลางผู้คนนี้ ที่จริงแล้วคนที่ดีใจที่สุดคือชางเฟยอวี่เขาและเฉินฝานอายุเท่ากัน และยังเดินทางสายสอบขุนนางเหมือนกัน ถึงแม้จะสอบไม่ติด ทว่าก่อนที่เฉินฝานจะปรากฏตัว เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 491

    “ถุย! ไอ้พวกคนเลวที่มีอำนาจ!”เสียงด่าทอของฉินเย่ว์เจียว ดังมาจากข้างนอก เมื่อครู่หลังจากคนพวกนั้นออกไป ฉินเย่ว์เจียวโมโหจนไล่ตามออกไปด่ากราดเวลานี้นางกลับมาหลังจากด่าจนเหนื่อยเมื่อเดินเข้าไปมาในโถงกลางบ้าน ฉินเย่ว์เจียวที่ด่าจนคอแห้ง คว้ากาน้ำชาที่วางอยู่หน้าเฉินฝานขึ้นมา ดื่มอึกๆ จนหมดกา“ตึ้ง!”สาวน้อยกระแทกกาน้ำชาลงบนโต๊ะอย่างแรง จนเฉินฝานตกใจ“อั๊ยย๊า!”เฉินฝานยังไม่ทันดึงสติกลับมา จู่ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็ร้องเสียงดัง ทำให้เฉินฝานตกใจอีกครั้ง“เย่ว์เจียว เจ้าอย่ากระโชกโฮกฮากได้ไหม? ขืนเจ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าต้องเป็นโรคหัวใจแน่ๆ”“โรคหัวใจคืออะไรเจ้าคะ?”เฉินฝานยังไม่ทันพูด ฉินเย่ว์เจียวก็พูดเอง “เฮ้อ นายท่าน! ท่านอย่าอธิบายเลยเข้าค่ะ ปัญหาตอนนี้คือ นายท่านมีกะจิตกะใจนั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ?”“ด้านนอกลือกันไหนถึงไหนแล้ว ท่านยังมีเวลานั่งจิบน้ำชาที่นี่อีก รีบกลับเข้าห้องทำลูกกับน้องสี่ยังดีเสียกว่า!”“พี่สาม กลางวันแสกๆ สุ่ยเซียนกับโบตั๋นก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ”ฉินเย่ว์เจียวอายจนพวงแก้มแดงระเรื่อ อยากหลุดจากพันธนาการของฉินเย่ว์เจียว แต่เรี่ยวแรงของนางจะเทียบฉินเย่ว์เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 492

    “ได้สิ!”กล่าวว่าเวลาเดินช้า เวลาเดินเร็วเสมอฉินเย่ว์เจียวถูกเฉินฝานกด“มีลูกด้วยกัน!” เฉินฝานฉีกยิ้มกว้าง“...”ฉินเย่ว์เจียวนั่งตะลึงบนตักของเฉินฝาน เฉินฝานรวดเร็วยิ่งนัก นางไม่อาจตั้งตัวกระทั่งพวกสุ่ยเซียนวิ่งหัวเราะออกไปจากห้องโถง เสียงประตูห้องโถงปิดลง ฉินเย่ว์เจียวค่อยดึงสติกลับมา“นายท่าน สามคนนะเจ้าคะ จะมีลูกด้วยกันอย่างไร?”ฉินเย่ว์เจียวที่เดิมทีไม่กลัวฟ้ากลัวดิน จู่ๆ กลับกลายเป็นลูกกวางน้อยไม่ประสีประสา นั่งอยู่บนตักเฉินฝาน ด้วยความเกร็ง นางอยากลุกออกจากตักของเฉินฝาน แต่กลับถูกเฉินฝานกอดแน่น“เหตุใดสามคนจึงมีลูกด้วยกันไม่ได้ เรื่องแค่นี้ข้าทำได้สบายมาก ไม่เชื่อ ก็ลองดู!”ขณะพูด มือที่กอดพี่น้องตระกูลฉิน รัดแน่นพร้อมกัน ให้พวกนางแนบชิดกับตนฉินเย่ว์โหรวค่อนข้างอ่อนยวบ เพียงครู่หนึ่งก็แนบชิดในอ้อมกอดของเฉินฝานแล้ว“นายท่าน น่าตีจริงๆ ท่านทำเช่นนี้พี่สามจะตกใจนะเจ้าค่ะ”กำปั้นน้อยน้อยๆ ของฉินเย่ว์โหรว ทุบแผงอกกว้างของเฉินฝานเบาๆ ส่วนพี่สามที่นางกล่าวถึงนั่ง นั่งตัวเกร็งในอ้อมกอดของเฉินฝาน“จะตกใจได้อย่างไร เย่ว์เจียวของเราเก่งกาจ เมื่อตอนต่อสู้กับโจรภูเขานางยังไม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 493

    นับตั้งแต่คิดอยากจะให้ฉินเย่ว์โหรวตั้งครรภ์ เฉินฝานก็เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องหนึ่งรับประทานอาหารที่มีค่าความเป็นด่าง เพิ่มอัตราการให้กำเนิดลูกชายรับประทานอาหารที่มีค่าความเป็นกรด เพิ่มอัตราการให้กำเนิดลูกสาวแม้ทฤษฎีนี้ไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ระยะเวลานี้ จากการสังเกต เฉินฝานพบว่าคนแผ่นดินใหญ่ทานอาหารที่มีค่าความเป็นกรดสูงเป็นส่วนมากโดยเฉพาะต้าชิ่งสาหร่ายคืออาหารที่มีค่าความเป็นด่างสูง เฉินฝานให้หลี่ซานซื้อสาหร่ายจากแคว้นเยี่ยนที่อยู่ติดทะเลมาเป็นพิเศษคนแผ่นดินใหญ่ไม่ทานสาหร่าย ตอนหลี่ซานนำภาพวาดสาหร่ายที่เฉินฝานวาดเพื่อเป็นแบบในการซื้อนั้น ผู้คนมองหลี่ซานราวกับคนโง่เขลา โดยเฉพาะการที่เขาซื้อในราคาสูงตอนเก็บสาหร่ายให้หลี่ซาน ชาวประมงทำใจไม่ได้เล็กน้อย จึงให้ปูร้อยกว่าตัวกับเขาโดยไม่คิดเงินตอนกลับมา หลี่ซานบ่นไม่หยุด บอกว่าเฉินฝานทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะเขา“หญ้านั้น” แม้จะบอกคำที่ถูกต้องไปหลายครั้งแล้ว แต่ฉินเย่ว์โหรวยังคงเรียกสาหร่ายว่าหญ้า “ข้าน้อยลืมกินเจ้าค่ะ”ไม่ได้ลืม แต่ไม่อยากทาน นางไม่ชอบกลิ่นคาวของสาหร่ายนั่น“ไม่อาจลืมกินเด็ดข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 494

    “นายท่าน ท่านเคยบอกว่าชอบกลิ่นตัวข้าน้อยหลังอาบน้ำด้วยกลีบกุหลาบ หรือว่าตอนนี้ท่านไม่ชอบแล้วเจ้าคะ?”นี่คือสิ่งที่เฉินฝานพูดไปครั้งหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นปานิวก็อาบน้ำด้วยกลีบดอกกุหลาบทุกวันดวงตาเมล็ดซิ่งของปานิวน้ำตาคลอ มีความโกรธเคืองเล็กน้อย มองแล้วช่างน่าปวดใจ“หลังจากทำธุระเสร็จ คืนนี้ข้ามาค้างที่นี่”เฉินฝานเงยหน้าขึ้น อยากลูบผมปานิวเพื่อเป็นการปลอบโยนนาง แต่กลับถูกปานิวคว้าเอาไว้ ลากเข้าไปในห้องของนางโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดเมื่อเฉินฝานดึงสติกลับมา มือทั้งสองข้างของปานิวโอบกอดคอของเฉินฝานแล้ว“ตึ้ง!”ภายใต้แรงโน้มถ่วม ทั้งสองชนเข้ากับประตูไม้กลัวปานิวเจ็บตัว เฉินฝานทำได้เพียงกอดนาง ปกป้องนางเอาไว้“ดูเจ้าสิ โง่เขลาจริงๆ เสียงดังขนาดนี้ เจ้าเจ็บแล้วกระมัง”ปานิวส่ายหน้า ดวงตาเมล็ดซิ่งสะกดใจผู้คนมีความดื้อดึงที่เฉินฝานคุ้นเคย “ข้าน้อยไม่ต้องการให้นายท่านมาตอนกลางคืน ข้าน้อยต้องการตอนนี้เจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ทำให้นายท่านเสียเวลาเท่าใดนัก”พูดบ ริมฝีปากอ่อนนุ่มก็ประกบปากของเฉินฝานเรือนร่างของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบ เพราะการกระทำของนาง ทำให้กลิ่นนั้นหอมกว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 495

    ทันทีที่ชางเฟยอวี่พูดออกมา เสียงขุ่นเคืองโดยรอบน้อยลงไปมา แทนที่ด้วยเสียงหัวเราะเยาะท่ามกลางผู้คนที่มาชมการแข่งขัน มีตระกูลเฉินจากหมู่บ้านซานเหอ ขณะรายล้อมด้วยเสียงหัวเราะเยาะ พวกเขาค่อยๆ ถอยห่างจากเฉินฝานพวกเขามาชมการแข่งขัน เดิมทีคิดอยากจะเข้าใกล้เฉินฝานหลังจากเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นครู่หนึ่ง ก็เริ่มมีแววตาเสียดายพวกเขาเสียดายฉินเย่ว์เจียว ตัวสูงใหญ่และแข็งแรง อีกทั้งสะโพกก็ผาย เหมาะแก่การให้กำเนิดลูกชายยิ่งนัก แต่กลับแต่งงานกับคนไร้น้ำยาอย่างเฉินฝานชางเฟยอวี่ถึงขึ้นส่งสายตาเลศนัยให้ฉินเย่ว์เจียวอย่างเปิดเผย ทำเหมือนเฉินฝานเป็นอากาศไม่เพียงชางเฟยอวี่ ผู้ชายอีกหลายคนก็มองฉินเย่ว์เจียวด้วยสายตาเดียวกัน“ชางเฟยอวี่ จะพูดจาเหลวไหลอะไร?”ฉินเย่ว์เจียวที่อารมณ์ร้อนไม่อาจทนได้ นางกำหมัดแน่นฉินเย่ว์เจียวฝึกยิงธนูมานาน มือของนางแข็งแรงมาก หากนางปล่อยหมัดซัดเขา ชางเฟยอวี่ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน“ข้าพูดจาเหลวไหลแล้วยังไง เก่งจริงเจ้าก็ตีข้าสิ!” ชางเฟยอวี่โอหังอย่างมาก ถึงขั้นยื่นหน้ามาให้นางเขาไม่กลัว เพราะเขามั่นใจว่าฉินเย่ว์เจียวไม่กล้าตีเขาจริงๆหากนางทำร้ายเขา นั่นเป็นสิ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 496

    ด้วยความไม่ตั้งใจเขาทำให้ไข่มุกบนผมของฉินเย่ว์เจียวปลิวออกไป แล้วไข่มุกนั้นก็บังเอิญพุ่งใส่ตาข้างขวาของชางเฟยอวี่“เฉินฝาน เฉินฝาน!” ชางเฟยอวี่โอดครวญอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวด“มาล้ว!” เฉินฝานวิ่งมาตรงหน้าชางเฟยอวี่ด้วยความกระวนกระวาย ถามด้วยความเป็นห่วง “คุณชายชางเรียกข้ามีเรื่องอะไร? ไอ้หยา เกิดอะไรขึ้นกับตาของท่าน!”“เจ้าอย่ามาเสแสร้ง เจ้าตั้งใจ อ๊าก ตาของข้า ข้าเจ็บจะตายแล้วๆ!” ชางเฟยอวี่ชี้หน้าเฉินฝานแล้วด่ากราด แต่ยิ่งเขาด่ารุนแรงเท่าใด ดวงตาของเขาก็ยิ่งเจ็บ เลือดก็ยิ่งไหลมากขึ้นเฉินฝานส่ายหน้าพร้อมกับรีบอธิบาย “คุณชายชาง ท่านไม่อาจพูดเช่นนี้ได้ ภรรยาของข้าล่วงเกินท่าน ข้าสั่งสอนนาง ไม่เกี่ยวอะไรกับดวงตาของท่าน”“จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร เจ้าสั่งสอนนาง แล้วไข่มุกบนผมของนางวิ่งมาโดนตาลูกชายข้าได้อย่างไร? หากดวงตาของลูกชายข้าไม่อาจรักษาให้หายดี ข้าจะให้เจ้าชดใช้” ฮูหยินชางด่าทอเสียงดัง“อะไรนะขอรับ?” สีหน้าของเฉินฝานฉายความตกตะลึง “ไข่มุกพุ่งใส่ตาของคุณชายชางเช่นนั้นหรือ?”เฉินฝานดึงตัวฉินเย่ว์เจียวมาใกล้ “เป็นความผิดของเจ้า รีบขอโทษคุณชายชางเดี๋ยวนี้!”เดิมทีฉินเย่ว์เจียว

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status