แชร์

บทที่ 495

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทันทีที่ชางเฟยอวี่พูดออกมา เสียงขุ่นเคืองโดยรอบน้อยลงไปมา แทนที่ด้วยเสียงหัวเราะเยาะ

ท่ามกลางผู้คนที่มาชมการแข่งขัน มีตระกูลเฉินจากหมู่บ้านซานเหอ ขณะรายล้อมด้วยเสียงหัวเราะเยาะ พวกเขาค่อยๆ ถอยห่างจากเฉินฝาน

พวกเขามาชมการแข่งขัน เดิมทีคิดอยากจะเข้าใกล้เฉินฝาน

หลังจากเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นครู่หนึ่ง ก็เริ่มมีแววตาเสียดาย

พวกเขาเสียดายฉินเย่ว์เจียว ตัวสูงใหญ่และแข็งแรง อีกทั้งสะโพกก็ผาย เหมาะแก่การให้กำเนิดลูกชายยิ่งนัก แต่กลับแต่งงานกับคนไร้น้ำยาอย่างเฉินฝาน

ชางเฟยอวี่ถึงขึ้นส่งสายตาเลศนัยให้ฉินเย่ว์เจียวอย่างเปิดเผย ทำเหมือนเฉินฝานเป็นอากาศ

ไม่เพียงชางเฟยอวี่ ผู้ชายอีกหลายคนก็มองฉินเย่ว์เจียวด้วยสายตาเดียวกัน

“ชางเฟยอวี่ จะพูดจาเหลวไหลอะไร?”

ฉินเย่ว์เจียวที่อารมณ์ร้อนไม่อาจทนได้ นางกำหมัดแน่น

ฉินเย่ว์เจียวฝึกยิงธนูมานาน มือของนางแข็งแรงมาก หากนางปล่อยหมัดซัดเขา ชางเฟยอวี่ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน

“ข้าพูดจาเหลวไหลแล้วยังไง เก่งจริงเจ้าก็ตีข้าสิ!” ชางเฟยอวี่โอหังอย่างมาก ถึงขั้นยื่นหน้ามาให้นาง

เขาไม่กลัว เพราะเขามั่นใจว่าฉินเย่ว์เจียวไม่กล้าตีเขาจริงๆ

หากนางทำร้ายเขา นั่นเป็นสิ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 496

    ด้วยความไม่ตั้งใจเขาทำให้ไข่มุกบนผมของฉินเย่ว์เจียวปลิวออกไป แล้วไข่มุกนั้นก็บังเอิญพุ่งใส่ตาข้างขวาของชางเฟยอวี่“เฉินฝาน เฉินฝาน!” ชางเฟยอวี่โอดครวญอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวด“มาล้ว!” เฉินฝานวิ่งมาตรงหน้าชางเฟยอวี่ด้วยความกระวนกระวาย ถามด้วยความเป็นห่วง “คุณชายชางเรียกข้ามีเรื่องอะไร? ไอ้หยา เกิดอะไรขึ้นกับตาของท่าน!”“เจ้าอย่ามาเสแสร้ง เจ้าตั้งใจ อ๊าก ตาของข้า ข้าเจ็บจะตายแล้วๆ!” ชางเฟยอวี่ชี้หน้าเฉินฝานแล้วด่ากราด แต่ยิ่งเขาด่ารุนแรงเท่าใด ดวงตาของเขาก็ยิ่งเจ็บ เลือดก็ยิ่งไหลมากขึ้นเฉินฝานส่ายหน้าพร้อมกับรีบอธิบาย “คุณชายชาง ท่านไม่อาจพูดเช่นนี้ได้ ภรรยาของข้าล่วงเกินท่าน ข้าสั่งสอนนาง ไม่เกี่ยวอะไรกับดวงตาของท่าน”“จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร เจ้าสั่งสอนนาง แล้วไข่มุกบนผมของนางวิ่งมาโดนตาลูกชายข้าได้อย่างไร? หากดวงตาของลูกชายข้าไม่อาจรักษาให้หายดี ข้าจะให้เจ้าชดใช้” ฮูหยินชางด่าทอเสียงดัง“อะไรนะขอรับ?” สีหน้าของเฉินฝานฉายความตกตะลึง “ไข่มุกพุ่งใส่ตาของคุณชายชางเช่นนั้นหรือ?”เฉินฝานดึงตัวฉินเย่ว์เจียวมาใกล้ “เป็นความผิดของเจ้า รีบขอโทษคุณชายชางเดี๋ยวนี้!”เดิมทีฉินเย่ว์เจียว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 497

    “ใต้เท้าขอรับ!” คุณท่านชางคุกเข่าอ้อนวอนจางเจิ้งห้าว “ทุกคนล้วนทราบกันดีว่าใต้เท้าคือขุนนางน้ำดีทำงานเพื่อราษฎร ท่านเจ้าเมืองถึงขั้นเขียนหนังสือชื่นชม ชื่นชมที่ท่านมีความยุติธรรม แม้จะเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ท่านก็ไม่เคยลำเอียง ใต้เท้าโปรดมอบความยุติธรรมให้กับลูกชายของข้าด้วยขอรับ!”“ข้า...ข้าย่อมทำตามกฎหมาย” จางเจิ้งห้าวไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจแสดงออกมา ไม่เพียงไม่อาจแสดงออก เรื่องนี้เขาต้องตัดสินอย่างยุติธรรม ไม่อาจลำเอียงคำพูดร่ายยาวเมื่อครู่ของคุณท่านชาง ไม่ได้ชื่นชมจางเจิ้งห้าวแม้แต่น้อย แท้จริงแล้วเป็นการตรึงเขาเอาไว้ แล้วอ้างท่านเจ้าเมืองมากดทับหากจางเจิ้งห้าวเข้าข้างเฉินฝาน เช่นนั้นก็จะเป็นการตัดสินด้วยความลำเอียง ไม่เห็นท่านเจ้าเมืองอยู่ในสายตา“ขอบคุณใต้เท้าขอรับ!”คุณท่านชางก้มคำนับ กัดฟันแน่นแสยะยิ้มร้ายกาจ วันนี้เขาจะเอาเฉินฝานให้ตาย เพื่อแก้แค้นชางเฟยอวี่ ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อช่วงชิงทรัพย์สินและภรรยาทาสของเฉินฝานหลังจากเฉินฝานเข้ามาบริหาร การค้าของตระกูลหลี่ กำไรพุ่งทะยาน เงินไหลมาเทมา จนคุณท่านชางเห็นแล้วอิจฉาตาร้อนแล้วยังมีบรรดาภรรยาทาสของเฉินฝาน แต่ละคนอรชรยิ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 498

    “ไม่อาจเป็นเพราะเฉินฝานยังไม่มีลูกชั่วคราว แล้วรังแกกันแบบนี้กระมัง”“ให้โอกาสเฉินฝานได้อธิบาย”“ให้โอกาสเฉินฝานได้อธิบาย”ชาวบ้านเดือดพล่าน จางเจิ้งห้าวไม่อาจไม่ให้โอกาสเฉินฝานจางเจิ้งห้าวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินฝาน เจ้าตั้งใจทำร้ายดวงตาของชางเฟยอวี่ เป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว แต่ว่า เพื่อความยุติธรรม ข้าจะให้โอกาสเจ้าในการอธิบาย”คำพูดของจางเจิ้งห้าวทำให้คนมากมายรู้สึกไม่ยุติธรรม พวกเขาเริ่มไม่พอใจ“ตั้งใจ? ทั้งยังเป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว? คำพูดของนายอำเภอเกินไปแล้วกระมัง เอนเอียงไปทางตระกูลชางชัดเจนเกินไปแล้ว”“ถูกต้อง ภรรยาพูดจาล่วงเกิน เฉินฝานเพียงสั่งสอนเท่านั้น ใครจะคิดว่าไข่มุกพุ่งเข้าตาชางเฟยอวี่”“เรื่องนี้ ข้าว่าจะโทษก็โทษชางเฟยอวี่เอง เขาอยากจะล่วงเกินภรรยาของคนอื่น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หากเขาไม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แบบนั้น ไข่มุกจะพุ่งใส่ตาเขาได้อย่างไร”นายท่านชางเริ่มรู้สึกผิดปกติ แต่ผิดปกติอย่างไร เขาไม่อาจอธิบายได้“ใต้เท้าขอรับ!” เฉินฝานเริ่มอธิบาย “ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอรับ”“เจ้าแก้ตัว เห็นชัดว่าเจ้าออกแรงมากไปจึงทำให้ไข่มุกกระเด็นเข้าตาข้า!” เห็นสถานการณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 499

    “คุณชายชางอย่าโมโหเช่นนั้นขอรับ รีบไปหาหมอดีกว่า มิเช่นนั้นจะตาบอดแล้วจริงๆ”คำพูดของเฉินฝานเตือนสติคุณท่านชาง เขาตะคอกพ่อบ้าน “บ่าวแก่ไร้ความรับผิดชอบในหน้าที่ ยังยืนนิ่งอยู่ทำไม รีบพาคุณชายไปหาหมอเร็วเข้า!”“เฉินฝาน เจ้าตั้งใจทำร้ายดวงตาลูกชายข้าแน่นอน อีกทั้งนายอำเภอก็ยังร่วมมือกับเจ้า” ตอนเดินผ่านเฉินฝาน คุณท่านชางพูดเสียงเหี้ยมเวลานี้เขาค่อยรู้ตัวว่า เหตุใดเฉินฝานจึงบอกว่าเขาสนิทสนมกับจางเจิ้งห้าว จางเจิ้งห้าวชักสีหน้าให้เฉินฝานทันที ทั้งยังทำร้ายภรรยาของเฉินฝานเขาคิดว่าจางเจิ้งห้าวอยู่ในกำมือของเขาแล้ว แต่สุดท้ายอีกฝ่ายเพียงให้ความร่วมมือในการแสดงเท่านั้น เพื่อให้ชาวบ้านเดือดดาลแล้วเอนเอียงไปทางเฉินฝานเฉินฝานพูดเสียงแผ่วเบา “ถูกต้อง!”ชางเส้าอวี่กัดฟันแน่น “เฉินฝาน เจ้าคอยดูเถอะ!”“ได้ ข้าจะรอนะ แต่ว่าคุณชายชางรีบไปรักษาดวงตาของท่านก่อนเถอะ”ตอนกลางคืนครอบครัวของเฉินฝานเพิ่งรับประทานอาหารค่ำเสร็จ จางเจิ้งห้าวก็มา เขายืนอยู่หน้าโต๊ะหนังสือของเฉินฝาน มองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวังเฉินฝานทำราวกับไม่เห็นจางเจิ้งห้าวอย่างไรอย่างนั้น ก้มหน้าก้มตาดูบัญชี“ว่าไปแล้ว” หลี่ซา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 500

    “ได้ยินหรือไม่ ข้าจะพักผ่อนแล้ว พวกท่านทั้งสองรีบออกไปซะ!” เฉินฝานไล่แขก ภรรยาตัวน้อยของเขาร้อนใจอยากทำลูกกับเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงไข่ตกหรือเปล่า ตลอดทั้งคืนคล้ายสาวน้อยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ฉินเย่ว์โหรวแนบชิดกับเฉินฝานไม่หยุดเฉินฝานไม่ตามใจนาง ทำให้นางหมดเรี่ยวแรง อ้อนวอนร้องขอเขาค่อยปล่อยตัวนางครุ่นคิด นางเหนื่อยตลอดทั้งคืนแล้ว ต้องนอนถึงเที่ยงค่อยตื่นเป็นแน่แท้ เฉินฝานจึงบอกให้พวกสุ่ยเซียนมาสายหน่อยคิดไม่ถึง วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สว่าง เฉินฝานยังไม่ตื่น ฉินเย่ว์โหรวที่นอนอยู่ข้างกายเขาตื่นนอน นางไม่เพียงตื่นนอนคนเดียว ยังปลุกเฉินฝานตื่นด้วย“ฟ้ายังไม่สว่าง ตื่นเช้าเช่นนี้ทำไม?” เฉินฝานยังคงหลับตา มือโอบเอวบางของฉินเย่ว์โหรว กดร่างบางกลับเข้ามาในผ้าห่มเหมือนว่านางยังเหนื่อยไม่พอ ต้องให้นางเหนื่อยอีกสักหน่อยเฉินฝานงุดหน้าไปที่ซอกคอของฉินเย่ว์โหรว กัดผ้าผูกเสื้อตัวของนางฉินเย่ว์โหรวเป็นคนบ้าจี้ เฉินฝานทำเช่นนี้นางจึงหัวเราะไม่หยุด นางผลักเฉินฝาน ร้อนรนเล็กน้อย “นายท่าน ไม่ได้เจ้าค่ะ ต้องรีบตื่น มิเช่นนั้นจะไม่ทัน...อื้ม”ริมฝีปากดอกท้อถูกเฉินฝานครอบครองถึงขั้นนี้แล้ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 501

    เฉินฝานเอื้อมมือเปิดม่านรถ มือของเขาเพิ่งสัมผัสโดนม่านฉินเย่ว์โหรวก็จับมือเขาแล้วดึงเขากลับมา“นายท่าน ไม่ต้องถามพี่สามเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าควรไปที่ใด”“ไปที่ใดรึ?” เฉินฝานหันกลับมาถาม“ไปวัดเทพอัปสรภูเขาจ้วงติงเจ้าค่ะ”“วัดเทพอัปสรภูเขาจ้วงติง?” เฉินฝานยิ่งงงงวย “แค่ไปวัด เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?”“นายท่าน ท่านจำไม่ได้อีกแล้วหรือเจ้าคะ!” เสียงใสชัดของฉินเย่ว์ฉู่ดังขึ้น นางเอียงศีรษะเล็กของนาง “เทพอัปสรในวัดเป็นเทพที่ประทานบุตรโดยเฉพาะ วันที่หนึ่งเดือนห้าของทุกปีเป็นวันที่เทพอัปสรเสด็จลงมายังโลกเพื่อประทานบุตร หากไปสักการะวันนี้ก็จะมีลูกชายในปีหน้าเจ้าค่ะ”เฉินฝาน: “......”เดิมทีเขาคิดจะตอบโต้ฉินเย่ว์ฉู่ โดยพูดว่าเขาสามารถมีลูกชายได้หรือไม่เป็นเรื่องของผู้ชาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าแต่อย่างใด แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งครัดของนาง เฉินฝานก็ไม่ได้พูดอะไรคนในยุคนี้ยังไม่มีความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ก็ให้ความคาดหวังที่สวยงามอยู่ในใจนางแล้วกันฉินเย่ว์โหรวผู้อ่อนโยนพลันพูดกับเฉินฝานสีหน้าจริงจัง “วัดเทพอัปสรศักดิ์สิทธิ์มาก คนที่ให้กำเนิดบุตรชายล้วนไปขอพรที่วัดเทพอัปสรในวันที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 502

    ฉินเย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดในใจ นางจำความขมขื่นและความน้อยใจของการไปวัดเทพอัปสรเพื่อแย่งชิงที่นั่งเมื่อปีที่แล้ววันนี้ของปีที่แล้ว เพิ่งถึงเวลาเหม่า[footnoteRef:1] นางโจวก็รีบเร่งพาพวกนางไปแย่งชิงที่นั่งในวัดเทพอัปสร [1: เวลาเหม่า หมายถึง ช่วงเวลา 05:00-07:00เช้า] เวลาเหม่าก็คือเวลาระหว่างห้าถึงหกโมงเช้าตระกูลผู้ดีมีอำนาจล้วนค่อนข้างเกียจคร้าน พวกเขาอยากขอพรเรื่องลูก แต่ไม่อยากตื่นเช้าเกินไป ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเบียดออกไป จึงไปกดดันมัคานายกของวัดเทพอัปสร เมื่อทนแรงกดดันของผู้มีอำนาจเหล่านั้นไม่ได้ มัคนายกจึงประกาศเทพอัปสรผู้ประทานบุตรมีข้อกำหนด ผู้ที่เข้าแถวล่วงหน้าล้วนไม่เคร่งครัดพอ เฉพาะผู้ศรัทธาที่ออกเดินทางเวลาเหม่ากับสิบห้านาทีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าวัดเพื่อขอบุตรได้ฉินเย่ว์โหรวสุขภาพไม่ดี ฉินเย่ว์เจียวจึงแบกนางวิ่งทางเขาเมื่อนางวิ่งมาถึงวัดเทพอัปสร เท้าของฉินเย่ว์เจียวก็เต็มไปด้วยแผลพุพองถึงกระนั้น สองพี่น้องก็ยังรู้สึกว่ามันคุ้มค่า เพราะพวกนางแย่งที่นั่งไว้ได้แต่ไม่คาดคิด เมื่อพวกนางเข้าแถวรอเข้าวัดเทพอัปสรอย่างมีความสุข นางโจวที่มาถึงทีหลัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 503

    นั่นเป็นรถม้าม้าสี่ตัว ยิ่งไปกว่านั้นม้าทั้งสี่ตัวไม่มีตัวไหนไม่อ้วนท้วนและแข็งแรงเสียงกึกก้องดังขึ้นเรื่อย ๆ ฝุ่นและควันที่ลอยขึ้นจากถนนที่ม้าเหยียบย่ำนั้นเริ่มซัดเข้ามาในรถม้าม้าสี่ตัวคันนั้นม่านถูกเปิดออก เผยให้เห็นหน้าของชางเฟยอวี่ ดวงตาข้างขวาของเขาปิดไว้ด้วยผ้าปิดตาสีดำ ดังที่เฉินฝานพูดว่าตาของเขาใช้ไม่ได้แล้วชางเฟยอวี่เยาะเย้ยเฉินฝานอย่างภาคภูมิใจ “เฉินฝาน เจ้าไม่ได้มีอำนาจและร่ำรวยมากนักหรือ? ทำไมถึงมีรถม้าม้าสองตัวล่ะและยังเป็นม้าธรรมดา โถ ๆ ๆ ม้าแบบนี้ของเจ้า จะวิ่งเร็วสู้ม้าของข้าได้อย่างไรกันเล่า”“แต่ว่า แม้จะวิ่งช้าเกินไปและเข้าแถวเข้าวัดเทพอัปสรไม่ได้ก็ไม่มีผลกระทบใดกับเจ้าหรอก เพราะต่อให้เจ้าไปถึงคนแรกก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเจ้าเป็นไอ้อ่อน/หัดได้ ฮ่า ๆ ๆ!” เสียงหัวเราะเยาะทำให้ใบหน้าของชางเฟยอวี่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย“นี่! ตอนแรกก็ดี แต่ตอนนี้น่าเกลียดมาก!” เฉินฝานส่ายหัวและถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเฉินฝานไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังพูดว่าเขาน่าสงสาร ชางเฟยอวี่ก็โกรธเคือง “เจ้าพูดว่าใครน่าเกลียด”เฉินฝานยิ้มเหยาะ “ข้ารู้สึกเสียดายกับนายน้อยชาง เจ้าเคยมีร

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status