แชร์

บทที่ 498

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-26 18:00:01
“ไม่อาจเป็นเพราะเฉินฝานยังไม่มีลูกชั่วคราว แล้วรังแกกันแบบนี้กระมัง”

“ให้โอกาสเฉินฝานได้อธิบาย”

“ให้โอกาสเฉินฝานได้อธิบาย”

ชาวบ้านเดือดพล่าน จางเจิ้งห้าวไม่อาจไม่ให้โอกาสเฉินฝาน

จางเจิ้งห้าวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินฝาน เจ้าตั้งใจทำร้ายดวงตาของชางเฟยอวี่ เป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว แต่ว่า เพื่อความยุติธรรม ข้าจะให้โอกาสเจ้าในการอธิบาย”

คำพูดของจางเจิ้งห้าวทำให้คนมากมายรู้สึกไม่ยุติธรรม พวกเขาเริ่มไม่พอใจ

“ตั้งใจ? ทั้งยังเป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว? คำพูดของนายอำเภอเกินไปแล้วกระมัง เอนเอียงไปทางตระกูลชางชัดเจนเกินไปแล้ว”

“ถูกต้อง ภรรยาพูดจาล่วงเกิน เฉินฝานเพียงสั่งสอนเท่านั้น ใครจะคิดว่าไข่มุกพุ่งเข้าตาชางเฟยอวี่”

“เรื่องนี้ ข้าว่าจะโทษก็โทษชางเฟยอวี่เอง เขาอยากจะล่วงเกินภรรยาของคนอื่น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หากเขาไม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แบบนั้น ไข่มุกจะพุ่งใส่ตาเขาได้อย่างไร”

นายท่านชางเริ่มรู้สึกผิดปกติ แต่ผิดปกติอย่างไร เขาไม่อาจอธิบายได้

“ใต้เท้าขอรับ!” เฉินฝานเริ่มอธิบาย “ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอรับ”

“เจ้าแก้ตัว เห็นชัดว่าเจ้าออกแรงมากไปจึงทำให้ไข่มุกกระเด็นเข้าตาข้า!” เห็นสถานการณ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 499

    “คุณชายชางอย่าโมโหเช่นนั้นขอรับ รีบไปหาหมอดีกว่า มิเช่นนั้นจะตาบอดแล้วจริงๆ”คำพูดของเฉินฝานเตือนสติคุณท่านชาง เขาตะคอกพ่อบ้าน “บ่าวแก่ไร้ความรับผิดชอบในหน้าที่ ยังยืนนิ่งอยู่ทำไม รีบพาคุณชายไปหาหมอเร็วเข้า!”“เฉินฝาน เจ้าตั้งใจทำร้ายดวงตาลูกชายข้าแน่นอน อีกทั้งนายอำเภอก็ยังร่วมมือกับเจ้า” ตอนเดินผ่านเฉินฝาน คุณท่านชางพูดเสียงเหี้ยมเวลานี้เขาค่อยรู้ตัวว่า เหตุใดเฉินฝานจึงบอกว่าเขาสนิทสนมกับจางเจิ้งห้าว จางเจิ้งห้าวชักสีหน้าให้เฉินฝานทันที ทั้งยังทำร้ายภรรยาของเฉินฝานเขาคิดว่าจางเจิ้งห้าวอยู่ในกำมือของเขาแล้ว แต่สุดท้ายอีกฝ่ายเพียงให้ความร่วมมือในการแสดงเท่านั้น เพื่อให้ชาวบ้านเดือดดาลแล้วเอนเอียงไปทางเฉินฝานเฉินฝานพูดเสียงแผ่วเบา “ถูกต้อง!”ชางเส้าอวี่กัดฟันแน่น “เฉินฝาน เจ้าคอยดูเถอะ!”“ได้ ข้าจะรอนะ แต่ว่าคุณชายชางรีบไปรักษาดวงตาของท่านก่อนเถอะ”ตอนกลางคืนครอบครัวของเฉินฝานเพิ่งรับประทานอาหารค่ำเสร็จ จางเจิ้งห้าวก็มา เขายืนอยู่หน้าโต๊ะหนังสือของเฉินฝาน มองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวังเฉินฝานทำราวกับไม่เห็นจางเจิ้งห้าวอย่างไรอย่างนั้น ก้มหน้าก้มตาดูบัญชี“ว่าไปแล้ว” หลี่ซา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-26
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 500

    “ได้ยินหรือไม่ ข้าจะพักผ่อนแล้ว พวกท่านทั้งสองรีบออกไปซะ!” เฉินฝานไล่แขก ภรรยาตัวน้อยของเขาร้อนใจอยากทำลูกกับเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงไข่ตกหรือเปล่า ตลอดทั้งคืนคล้ายสาวน้อยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ฉินเย่ว์โหรวแนบชิดกับเฉินฝานไม่หยุดเฉินฝานไม่ตามใจนาง ทำให้นางหมดเรี่ยวแรง อ้อนวอนร้องขอเขาค่อยปล่อยตัวนางครุ่นคิด นางเหนื่อยตลอดทั้งคืนแล้ว ต้องนอนถึงเที่ยงค่อยตื่นเป็นแน่แท้ เฉินฝานจึงบอกให้พวกสุ่ยเซียนมาสายหน่อยคิดไม่ถึง วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สว่าง เฉินฝานยังไม่ตื่น ฉินเย่ว์โหรวที่นอนอยู่ข้างกายเขาตื่นนอน นางไม่เพียงตื่นนอนคนเดียว ยังปลุกเฉินฝานตื่นด้วย“ฟ้ายังไม่สว่าง ตื่นเช้าเช่นนี้ทำไม?” เฉินฝานยังคงหลับตา มือโอบเอวบางของฉินเย่ว์โหรว กดร่างบางกลับเข้ามาในผ้าห่มเหมือนว่านางยังเหนื่อยไม่พอ ต้องให้นางเหนื่อยอีกสักหน่อยเฉินฝานงุดหน้าไปที่ซอกคอของฉินเย่ว์โหรว กัดผ้าผูกเสื้อตัวของนางฉินเย่ว์โหรวเป็นคนบ้าจี้ เฉินฝานทำเช่นนี้นางจึงหัวเราะไม่หยุด นางผลักเฉินฝาน ร้อนรนเล็กน้อย “นายท่าน ไม่ได้เจ้าค่ะ ต้องรีบตื่น มิเช่นนั้นจะไม่ทัน...อื้ม”ริมฝีปากดอกท้อถูกเฉินฝานครอบครองถึงขั้นนี้แล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-26
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 501

    เฉินฝานเอื้อมมือเปิดม่านรถ มือของเขาเพิ่งสัมผัสโดนม่านฉินเย่ว์โหรวก็จับมือเขาแล้วดึงเขากลับมา“นายท่าน ไม่ต้องถามพี่สามเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าควรไปที่ใด”“ไปที่ใดรึ?” เฉินฝานหันกลับมาถาม“ไปวัดเทพอัปสรภูเขาจ้วงติงเจ้าค่ะ”“วัดเทพอัปสรภูเขาจ้วงติง?” เฉินฝานยิ่งงงงวย “แค่ไปวัด เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?”“นายท่าน ท่านจำไม่ได้อีกแล้วหรือเจ้าคะ!” เสียงใสชัดของฉินเย่ว์ฉู่ดังขึ้น นางเอียงศีรษะเล็กของนาง “เทพอัปสรในวัดเป็นเทพที่ประทานบุตรโดยเฉพาะ วันที่หนึ่งเดือนห้าของทุกปีเป็นวันที่เทพอัปสรเสด็จลงมายังโลกเพื่อประทานบุตร หากไปสักการะวันนี้ก็จะมีลูกชายในปีหน้าเจ้าค่ะ”เฉินฝาน: “......”เดิมทีเขาคิดจะตอบโต้ฉินเย่ว์ฉู่ โดยพูดว่าเขาสามารถมีลูกชายได้หรือไม่เป็นเรื่องของผู้ชาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าแต่อย่างใด แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งครัดของนาง เฉินฝานก็ไม่ได้พูดอะไรคนในยุคนี้ยังไม่มีความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ก็ให้ความคาดหวังที่สวยงามอยู่ในใจนางแล้วกันฉินเย่ว์โหรวผู้อ่อนโยนพลันพูดกับเฉินฝานสีหน้าจริงจัง “วัดเทพอัปสรศักดิ์สิทธิ์มาก คนที่ให้กำเนิดบุตรชายล้วนไปขอพรที่วัดเทพอัปสรในวันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 502

    ฉินเย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดในใจ นางจำความขมขื่นและความน้อยใจของการไปวัดเทพอัปสรเพื่อแย่งชิงที่นั่งเมื่อปีที่แล้ววันนี้ของปีที่แล้ว เพิ่งถึงเวลาเหม่า[footnoteRef:1] นางโจวก็รีบเร่งพาพวกนางไปแย่งชิงที่นั่งในวัดเทพอัปสร [1: เวลาเหม่า หมายถึง ช่วงเวลา 05:00-07:00เช้า] เวลาเหม่าก็คือเวลาระหว่างห้าถึงหกโมงเช้าตระกูลผู้ดีมีอำนาจล้วนค่อนข้างเกียจคร้าน พวกเขาอยากขอพรเรื่องลูก แต่ไม่อยากตื่นเช้าเกินไป ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเบียดออกไป จึงไปกดดันมัคานายกของวัดเทพอัปสร เมื่อทนแรงกดดันของผู้มีอำนาจเหล่านั้นไม่ได้ มัคนายกจึงประกาศเทพอัปสรผู้ประทานบุตรมีข้อกำหนด ผู้ที่เข้าแถวล่วงหน้าล้วนไม่เคร่งครัดพอ เฉพาะผู้ศรัทธาที่ออกเดินทางเวลาเหม่ากับสิบห้านาทีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าวัดเพื่อขอบุตรได้ฉินเย่ว์โหรวสุขภาพไม่ดี ฉินเย่ว์เจียวจึงแบกนางวิ่งทางเขาเมื่อนางวิ่งมาถึงวัดเทพอัปสร เท้าของฉินเย่ว์เจียวก็เต็มไปด้วยแผลพุพองถึงกระนั้น สองพี่น้องก็ยังรู้สึกว่ามันคุ้มค่า เพราะพวกนางแย่งที่นั่งไว้ได้แต่ไม่คาดคิด เมื่อพวกนางเข้าแถวรอเข้าวัดเทพอัปสรอย่างมีความสุข นางโจวที่มาถึงทีหลัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 503

    นั่นเป็นรถม้าม้าสี่ตัว ยิ่งไปกว่านั้นม้าทั้งสี่ตัวไม่มีตัวไหนไม่อ้วนท้วนและแข็งแรงเสียงกึกก้องดังขึ้นเรื่อย ๆ ฝุ่นและควันที่ลอยขึ้นจากถนนที่ม้าเหยียบย่ำนั้นเริ่มซัดเข้ามาในรถม้าม้าสี่ตัวคันนั้นม่านถูกเปิดออก เผยให้เห็นหน้าของชางเฟยอวี่ ดวงตาข้างขวาของเขาปิดไว้ด้วยผ้าปิดตาสีดำ ดังที่เฉินฝานพูดว่าตาของเขาใช้ไม่ได้แล้วชางเฟยอวี่เยาะเย้ยเฉินฝานอย่างภาคภูมิใจ “เฉินฝาน เจ้าไม่ได้มีอำนาจและร่ำรวยมากนักหรือ? ทำไมถึงมีรถม้าม้าสองตัวล่ะและยังเป็นม้าธรรมดา โถ ๆ ๆ ม้าแบบนี้ของเจ้า จะวิ่งเร็วสู้ม้าของข้าได้อย่างไรกันเล่า”“แต่ว่า แม้จะวิ่งช้าเกินไปและเข้าแถวเข้าวัดเทพอัปสรไม่ได้ก็ไม่มีผลกระทบใดกับเจ้าหรอก เพราะต่อให้เจ้าไปถึงคนแรกก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเจ้าเป็นไอ้อ่อน/หัดได้ ฮ่า ๆ ๆ!” เสียงหัวเราะเยาะทำให้ใบหน้าของชางเฟยอวี่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย“นี่! ตอนแรกก็ดี แต่ตอนนี้น่าเกลียดมาก!” เฉินฝานส่ายหัวและถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเฉินฝานไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังพูดว่าเขาน่าสงสาร ชางเฟยอวี่ก็โกรธเคือง “เจ้าพูดว่าใครน่าเกลียด”เฉินฝานยิ้มเหยาะ “ข้ารู้สึกเสียดายกับนายน้อยชาง เจ้าเคยมีร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 504

    “ชาติหน้าอะไร ข้าอยากมีลูกและมีความสุขร่วมกับพวกเจ้าชาตินี้”“และเจ้าเสี่ยวฉู่ อายุเท่าข้า? หยุดคิดได้แล้ว จงเติบโตให้ดีแล้วมอบลูกสาวที่น่ารักอย่างเจ้าให้ข้า”เฉินฝานดึงฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ออกจากตัวเขาเปิดม่านรถม้าและก้าวเท้ากว้างมาอยู่ข้าง ๆ ฉินเย่ว์เจียว“นี่เจ้าทำอะไร จะบังคับรถม้าเองรึ? เฉินฝาน ข้าจะบอกให้ หยุดต่อสู้ที่ไร้จุดหมายเถอะ ฮ่า ๆ ๆ!” เสียงหัวเราะของชางเฟยอวี่ชวนขนลุกรถม้าของเฉินฝานถูกเบียดมาถึงขอบหน้าผา หากล้อขยับออกไปอีกเล็กน้อยสามารถตกเขาได้ทันที“สวบ!”เฉินฝานดึงลูกธนูสองดอกออกจากกระบอกบนหลังฉินเย่ว์เจียว“ลูกธนู! ฮ่า ๆ ๆ” ชางเฟยอวี่กล่าวดูถูก “เจ้าคิดว่ายังตายไม่เร็วมากพองั้นรึ?”ระยะห่างระหว่างรถม้าสองคันไม่ถึงครึ่งเมตร หากเฉินฝานทำร้ายม้าด้วยลูกธนูตอนนี้ ม้าต้องตกใจกลัวและตื่นตัวแน่ ไม่ต้องใช้คนขับรถม้าก็สามารถชนเฉินฝานตกเขาได้ทันที“เฉินฝาน โปรดอย่าต่อสู้ที่ไร้จุดหมายและยอมรับความตายซะเถอะ ไม่ต้องกังวล ถ้าเจ้าไม่ขัดขืน ข้า ชางเฟยอวี่จะช่วยเจ้าจัดพิธีที่ยิ่งใหญ่และฝังศพของเจ้ากับภรรยาของเจ้าอย่างสมเกียรติ”ชางเฟยอวี่เหลือบมองฉินเย่ว์เจียวด้วยสีหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 505

    “ท่านผู้ใดคือกฎของคาน?” ฉินเย่ว์เจียวที่มีบุคลิกตรงไปตรงมาขานเรียกโดยตรงเฉินฝานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีจึงดึงฉินเย่ว์เจียว “เย่ว์เจียว อย่าตะโกน กฎของคานไม่ใช่คน”“ไม่ใช่คน?” ใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่คนแล้วจะช่วยพวกเราได้อย่างไรเจ้าคะ?”“ข้ารู้แล้ว!” ฉินเย่ว์ฉู่พูดอย่างมั่นใจ ตอนที่นายท่านตกลงไปในหุบเขา ท่านก็ไปถึงโลกที่เหมือนสวรรค์ไม่ใช่หรือเจ้าคะ? กฎของคานนี่ต้องเป็นเพื่อนของนายท่านที่อยู่ที่นั่นแน่ ๆ”“เอ่อ......” เฉินฝานเกาหัว “จะว่าอย่างนั้นก็ได้!”“เอ้อ พวกเราต้องรีบไปขอประทานบุตรไม่ใช่เหรอ? ถ้าช้ากว่านี้พวกเราจะไม่ทันเข้าแถวนะ” เฉินฝานรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวว่าพี่น้องตระกูลฉินยังสับสนกับปัญหานี้“ใช่ ๆ พวกเราต้องรีบไปแล้ว!”ออกเดินทางแต่เช้า หลังจากเกือบถูกรถม้าคันอื่นชนถึงสามครั้งตลอดทางเดิน พวกเฉินฝานเพิ่งมาถึงวัดเทพอัปสรที่อยู่บนภูเขาจ้วงติงคนที่ต่อแถว หากใช้คำว่าฟาดฟันตลอดทางก็ไม่มากเกินไป ทุกคนต่างเหนื่อยกับการเดินทาง หลายคนยังมีเลือดเปื้อนตามร่างกายคนที่รู้ว่ามาขอบุตรนั้นแล้วไป แต่คนที่ไม่รู้ คงคิดว่าคนเหล่านี้หนีมาจากสนามรบใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-28
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 506

    ฉินเย่ว์โหรวรีบปิดปากของเฉินฝาน “นายท่าน โปรดอย่าล่วงเกินเทพอัปสรผู้ประทานบุตรเจ้าค่ะ”ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวต้าชิ่งกล้าที่จะล่วงเกินเทพเจ้าใด ๆ แต่ไม่กล้าล่วงเกินเทพอัปสรผู้ประทานบุตรแม้ว่าเฉินฝานจะบอกความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่มากมายให้กับพวกฉินเย่ว์โหรว อย่างไรเสียพวกนางก็อาศัยอยู่ในยุคโบราณระบบศักดินาและความเชื่อไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีทางคิดนอกกรอบ“นี่เจ้าเป็นใคร ชักช้าอยู่ไย ถ้าไม่อยากเข้าไปก็ออกไปให้พ้นทางและอย่าขวางทางพวกเรา”มีเสียงใจร้อนดังมาจากด้านหลังเมื่อเฉินฝานหันกลับไป คนที่เห็นว่าเป็นเฉินฝานพูดดังขึ้นกว่าเดิม “อ้าว นี่เฉินฝานไม่ใช่หรือ?”เฉินฝานดีใจทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “นายน้อยชาง วันนี้เจ้าแต่งตัวโดดเด่นไม่เบาเชียวนะ คล้ายกับหัวหมูบนเขียงดี”คำพูดของเขา เกิดเสียงหัวเราะเบา ๆ เป็นพัก ๆตอนนี้ชางเฟยอวี่สวมผ้าปิดตาด้านขวาของใบหน้า ด้านซ้ายบวมแดงและเต็มไปด้วยรอยแผล มองแล้วเหมือนหัวหมูจริง ๆ“ไม่ว่าข้าจะเป็นอย่างไร ข้าก็ยังดีกว่าเจ้า!” ชางเฟยอวี่กัดฟันกร่อนและพูดอย่างขมขื่น “เจ้ามันแค่คนอ่อนหัดที่ไร้ความสามารถ!”ขณะที่พูด ชางเฟยอวี่เริ่มพูดจาเหน็บแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-28

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 910

    เฉินฝานที่พักสายตาโดยตลอดลืมตาขึ้น “ครอบครัวผู้เฒ่ามีหลานสาวสิบคนที่ยังมิได้ออกเรือนงั้นหรือ?”“เฮ้อ หากจะกล่าวให้ถูกต้องคือมีทั้งหมดสิบห้าคน มีห้าคนที่คิดว่าตนเองอายุมากแล้ว กลายเป็นภาระของคนในบ้านจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย”เสียงของผู้เฒ่าตาบอดตะกุกตะกักเป็นอย่างมาก “ปีที่แล้วผูกคอตาย เดือนที่แล้ว ก็มีอีกสองคนที่จวนจะ...โชคดีที่ยายเฒ่าไปเจอเสียก่อน มิเช่นนั้นก็คง...”ผู้เฒ่าตาบอดพูดมิออกแล้ว มีเพียงดวงตาที่ขาวโพลนมิมีตาดำพรั่งพรูน้ำตาอุ่นๆออกมามิหยุดอากาศหนาวจนถึงจุดเยือกแข็ง มินานนักน้ำตาก็แข็งตัวเป็นน้ำแข็งคำพูดของผู้เฒ่าตาบอดแทงใจดำของเย่ว์หนูในตอนแรกที่นางอยู่ในครอบครัว ก็มีพี่น้องสิบคนเช่นกัน รายชื่อล้วนถูกแจ้งไปที่จวนอำเภอแล้ว ทว่าต่อให้ถูกส่งตัวไปแล้ว ท้ายที่สุดก็ถูกส่งตัวคืนมาอยู่ดีหากมิใช่ตอนนั้นเห็นว่าเฉินฝานกำลังรับกองกำลังหญิงพอดี ตอนนี้นางก็คงจะเป็นวิญญาณสาวเร่ร่อนตนหนึ่งในอำเภอผิงอันไปเรียบร้อยแล้ว“เช่นนั้นพ่อแม่เหล่าหลานสาวของท่านล่ะ? พวกเขามิสนใจพวกนางเลยหรือ?”ถึงแม้จะยากลำบาก พ่อแม่ของเย่ว์หนู ก็ยังดูแลพวกนางอย่างดีที่สุด“เฮ้อ~”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ว์ห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 909

    “ตอบคำถามข้ามา!”“คำถามของเจ้างั้นรึ? คำถามอันใดกัน?”“อย่ามาแกล้งโง่!”“นี่ ๆ ข้ามิได้แกล้งเสียหน่อย!” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของเซียนเจี้ยนหวงทำเหมือนกับว่ามิมีความผิด “เมื่อครู่ข้าเผลอหลับไป ได้ยินมิชัดเจนจริง ๆ เจ้ากล่าวว่าตำหนักเซียวเหยารึ? ตำหนักเซียวเหยาคืออะไรกัน?”“จุดประสงค์ที่ตำหนักเซียวเหยายังคงอยู่คืออันใด เจ้าก็รู้แก่ใจดีมิใช่รึ หรือว่าเจ้าจะรอให้ผู้ชายจำนวนมากต้องถูกสังหารโดยที่เจ้ามิทำอันใดเลยงั้นรึ”“เพื่อนของซูซิวฉีเป็นเช่นนี้งั้นรึ?”เฉินฝานมองซียนเจี้ยนหวงอย่างมิละสายตา“ข้า ข้า...” ในท้ายที่สุดเสียงของเซียนเจี้ยนหวงก็ขาดหายไป “ข้าทำได้เพียงรับปากเจ้าว่าจะมิยอมให้คนของตำหนักเซียวเหยาสังหารชายผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าอย่างเด็ดขาด”“เรื่องอื่นข้าก็มิรู้แล้ว เจ้ามิต้องถามข้าแล้ว” เซียนเจี้ยนหวงวิ่งหายไปในกลีบเมฆทันทีตอนที่เฉินฝานเดินออกจากหลุมศพของเมี่ยวอวี่แล้วเดินมาตรงถนน เห็น...“เย่ว์หนู ไฉนเจ้ายืนอยู่คนเดียว? รถม้าล่ะ?”เฉินฝานกล่าวถามเย่ว์หนูสีหน้าคับข้องใจยืนอยู่บนถนนโดยลำพังนิสัยของเย่ว์หนูค่อนข้างคล้ายคลึงกับผู้ชาย น้อยครั้งที่จะเป็นเช่นน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 908

    ความเย็นที่หัวไหล่ปลุกฉินเย่ว์เหมยที่กำลังเคลิบเคลิ้มให้ตื่นจากภวังค์“ชายมักมาก!”ฉินเย่ว์เหมยที่อับอายจนโมโหถีบเฉินฝานออกไปทันที“โอ๊ย ๆ ๆ!”เฉินฝานกุมท้องที่ถูกถีบจนเจ็บปวดกลิ้งตัวไปมา ครั้งนี้เป็นความเจ็บของจริงทว่าครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยเพิกเฉยอย่างจริงจัง มิว่าเฉินฝานจะร้องอย่างไร นางก็จะมิเดินเข้าไปหาอีกนางพร่ำบอกตนเองเสมอนางเป็นจักรพรรดินีของต้าชิ่ง ๆชีวิตของนางถูกลิขิตให้อุทิศแก่ราชวงศ์ต้าชิ่ง นางจะอภิเษกสมรสมิได้“ตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกดื่นแล้ว เจ้ายังมีเรื่องอันใดจะกราบทูลอีกหรือไม่? หากมิมีก็กลับไปเถอะ”ความเจ็บตรงท้องของเฉินฝานเพิ่งจะจางหายไป โสตประสาทก็ได้ยินเสียงอันเยือกเย็นของฉินเย่ว์เหมยเมื่อเงยหน้ามอง เห็นว่าฉินเย่ว์เหมยที่นั่งตรงข้ามกับเขาได้กลับสู่ท่าทางเย่อหยิ่งเยือกเย็นดังเดิมแล้วเฉินฝานยักไหล่หากต้องการพิชิตจักรพรรดินีท่านนี้ ดูแล้วหนทางด้านยังอีกยาวไกลสินะ“ข้ามิได้มีเรื่องอันใดเป็นพิเศษ เดิมทีก็แค่อยากเจอเจ้า”เฉินฝานจัดเสื้อผ้าตนเองเล็กน้อย เขาก็เตรียมตัวที่จะจากไปแล้วเช่นกันหลังจากที่กลับมาพบกับพวกฉินเย่ว์โหรวอีกครั้ง ก็อยู่ในสถานการณ์เสี่ย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 907

    “เจ้า...เจ้าผู้ชายมักมาก ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”ฉินเย่ว์เหมยที่สูญเสียการทรงตัวไถลเข้าไปในอ้อมอกของเฉินฝาน ใบหน้าขึ้นสี ใช้มือผลักเฉินฝานออกไป“มิปล่อย!”เฉินฝานกอดรัดแน่นกว่าเดิม“เจ้าตัวหอมนุ่มนิ่มเช่นนี้ ข้าจะตัดใจยอมปล่อยได้อย่างไรกัน”“เจ้า!” ฉินเย่ว์เหมยโกรธจนตัวสั่น “หน้าด้านไร้ยางอาย!”“ถูกต้อง!” เฉินฝานทำท่าทีหน้าด้านหน้าทน “ข้าก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ฝ่าบาทท่านเพิ่งมารู้ตัวตอนนี้งั้นหรือ?”“เจ้า...”ฉินเย่ว์เหมยยื่นมือออกไปคิดที่จะผลักเฉินฝานออกอีกครั้ง“ห้ามขยับตัว!” เฉินฝานจับมือสองข้างของฉินเย่ว์เหมยไว้ “เจ้าให้ข้านอนพักสักครู่ได้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานก็ปล่อยมือของฉินเย่ว์เหมย หยิบหมอนมาไว้บนตักของนางสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ หากเขามิได้อยู่ในเส้นทางการสู้รบกำจัดกบฏ ก็เผชิญความยากลำบากที่คาบเกี่ยวกับความตายห้องของฉินเย่ว์เหมยอบอุ่น เรือนร่างของฉินเย่ว์เหมยกลิ่นช่างหอมหวนยิ่งนัก ทำให้เฉินฝานได้สัมผัสกับความอบอุ่นและความปลอดภัยที่มิเคยรู้สึกมาก่อน“อยากนอน เจ้าไยมิกลับห้องตนเอง...”ฉินเย่ว์เหมยหยุดพูดทันที เพราะนางเห็นว่าเฉินฝานที่นอนหนุนตักของนางได้หลับไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 906

    ยามค่ำคืนสำนักบัณฑิตเมืองเซียนตูตอนนี้เป็นที่พำนักของฉินเย่ว์เหมยชั่วคราวณ เรือนหลักลานกลางฉินเย่ว์เหมยสวมชุดบรรทมสีเหลือง ก้มหน้าก้มตาอ่านสาสน์กราบทูล“นี่โกรธข้าอยู่งั้นหรือ มิใช่ว่าข้ามิอยากพบเจ้าในทันทีเสียหน่อย กองกำลังทหารหลวงของหลี่ชิ่งปิดล้อมจวนเจ้าเมืองอย่างแน่นหนา เข้าได้ไปยากยิ่งนัก!”เฉินฝานพูดอธิบายกับฉินเย่ว์เหมย ฉินเย่ว์เหมยกลับเพิกเฉยมิได้สนใจเขาแม้แต่น้อยเฉินฝานเดินไปทางซ้าย นางก็จะหันหน้าไปทางขวาเฉินฝานเดินไปทางขวา นางก็จะหันหน้าไปทางซ้ายอย่างไรเสียมิว่าเฉินฝานจะพยายามเพียงใด นางก็จะมิสบตากับเฉินฝานหมดหนทางแล้วจริง ๆ เฉินฝานจึงแย่งสาสน์กราบทูลในมือฉินเย่ว์เหมยมา จากนั้นมิพูดมิจาดึงฉินเย่ว์เหมยเข้ามาในอ้อมอกทันที“เจ้า เจ้าผู้ชายมักมาก!”ฉินเย่ว์เหมยมีวรยุทธ์ต่อสู้ติดตัว และฝีมือยอดเยี่ยมอีกด้วยตบสองสามทีก็สามารถทำให้เฉินฝานลงไปนอนกับพื้นได้“โอ๊ย ๆ ๆ เจ็บเหลือเกิน เจ็บจะตายแล้ว!”เฉินฝานกุมท้องตนเอง กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น“เจ้าอย่ามาแสร้ง...”ราวกับเฉินฝานมิได้ยินคำพูดของฉินเย่ว์เหมย ยังคงกุมท้องกลิ้งไปกลิ้งมา สีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดสุดขีด“เจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 905

    “เฉินฝาน ถึงแม้ตอนเจ้าจะเป็นอัครเสนาบดีขั้นหนึ่งระดับสูง ทว่าก็มิสามารถสังหารเลขาธิการขั้นสองระดับสูงอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ได้!”เสิ่นหมิงหยวนที่พอจะสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เริ่มประณามเฉินฝาน“ถูกต้อง ในฐานะที่หยางอวิ๋นหู่เป็นเลขาธิการกรมโยธาธิการขั้นสอง ต่อให้จะทำความผิด ก่อนที่จะสังหารก็ต้องฝ่าบาทออกคำสั่งก่อนจึงจะสังหารได้ อัครเสนาบดีเบื้องซ้ายทำเกินไปแล้ว”“เพิ่งจะได้รับตำแหน่งอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย ก็กำเริบเสิบสานแล้วหรือ? คิดว่าสามารถสังหารขุนนางที่ยศน้อยกว่าเขาได้ ตามอำเภอใจงั้นหรือ?”“คนที่โหดเหี้ยม และมิให้เกียรติฝ่าบาทเช่นนี้ จะสามารถเป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายเยี่ยงไร?”มีขุนนางจำนวนมากที่เดือดดาลกับการกระทำของเฉินฝานแน่นอนว่าเหล่าคนที่เดือดดาลเหล่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพรรคพวกของเสิ่นหมิงหยวน“ฝ่าบาท!” เสิ่นหยวนเลี่ยงรีบเดินออกมาจากด้านหลังเสิ่นหมิงหยวนทันที “ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย...”“ชิ้ง!”เฉินฝานตวัดกระบี่ในมือชี้ไปที่เสิ่นหยวนเลี่ยงทันที “ถ้าเจ้ายังพูดพล่ามอีก อย่าหาว่ากระบี่ในมือข้าไร้ความปรานี”น้ำเสียงเฉินฝานดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ท่าทางโหดเหี้ยมอย่างมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 904

    “ฝ่าบาท”เฉินฝานพุ่งตัวขึ้นไป ส่ายหน้าให้กับฉินเย่ว์เหมยหลี่ชิ่งยังมีทหารหลวงประจำการอยู่ด้านนอกเมืองเซียนตูห้าหมื่นกว่าคน สามารถเคลื่อนทัพตามคำสั่งของเสิ่นหมิงหยวนได้ทุกเมื่ออำนาจของเสิ่นหมิงหยวนเป็นปึกแผ่นอย่างมาก ตอนนี้หากอยากจะโค่นล้มเสิ่นหมิงหยวนในคราเดียว ต้องบีบบังคับให้เสิ่นหมิงหยวนจนตรอกให้ได้สถานการณ์ตอนนี้ ควรปล่อยตามน้ำไปก่อนน้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยผ่อนคลายลงแล้ว “ทหารหลวงรวมพลมากมายอยู่ที่แห่งนี้ ข้าคิดว่าใต้เท้าเสิ่นจะก่อกบฏเสียอีก?”เสิ่นหมิงหยวนเลิกคิ้วขึ้นทันที เขารู้ว่าฉินเย่ว์เหมยยอมอ่อนข้อแล้วเหมือนกับที่เฉินฝานคาดการณ์ เสิ่นหมิงหยวนได้เตรียมการโต้กลับไว้เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงฉินเย่ว์เหมยออกคำสั่งโจมตีเขา เขาก็จะสั่งให้กองกำลังทหารหลวงห้าหมื่นคนของหลี่ชิ่งปิดล้อมเมืองทันทีเสิ่นหมิงหยวนรีบกล่าวอย่างลนลาน “ฝ่าบาทคิดจะทำให้ข้าน้อยตกใจตายหรือกระไร ข้าน้อยเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นคนหนึ่ง ไฉนจะคิดก่อกบฏได้”คำพูดนี้เสิ่นหมิงหยวน มิเพียงแสดงความจงรักภักดีเท่านั้น และยังเป็นการพูดจาเหน็บแนมเฉินฝานอีกด้วยอำนาจในการนำทัพกองกำลังลาดตระเวนยังคงอยู่ในมือของเฉินฝาน ถึงแม้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 903

    ตอนที่ห่างจากเฉินฝานอย่างน้อยสิบเมตร ฉินเย่ว์เหมยก็ลงจากเกี้ยวเดินลงมาสาวเท้ามาหาเฉินฝานอย่างเร่งรีบตอนที่ห่างจากเฉินฝานประมาณสามสี่เมตร ฉินเย่ว์เหมยกลับหยุดฝีเท้าของตนเองไว้หิมะค่อยๆโปรยปรายลงมาตอนที่ห่างกันประมาณสองสามเมตร ฉินเย่ว์เหมยและเฉินฝานยืนมองหน้ากันและกันห่างกันไปเพียงเวลาสั้นๆมิกี่เดือน ทว่ารู้สึกห่างจากเฉินฝานไปสองภพชาติจึงได้กลับมาพบกันอีกครั้งน้ำตาคลอเบ้า จวนจะเอ่อล้นไหลออกมาแต่ท้ายที่สุดก็ต้องฝืนกล้ำกลืนน้ำตากลับไปแต่ไรมานางมิเคยลืมนางเป็นจักรพรรดินี เขาเป็นขุนนางนางต้องเก็บอาการไว้!“เขาคือใต้เท้าเฉินจริงๆ”“ใต้เท้าเฉินฝานยังมีชีวิตอยู่!”ท่ามกลางเหล่าขุนนาง มีคนตะโกนลั่นด้วยความดีใจคนผู้นี้คือเลขาธิการกรมยุติธรรมไป่เผยหราน“ใต้เท้าเฉินคืนชีพจากความตาย ช่างเป็นโชคดีของพวกเราต้าชิ่งเสียจริง!”เหล่าขุนนางที่ปกติมิฝักใฝ่เป็นพวกของเสิ่นหมิงหยวนพากันซาบซึ้งใจ“เฉินฝาน!”เสียงตื่นเต้นดีใจครั้งนี้ดังกว่าเสียงดีใจก่อนหน้านี้เสียอีก“ไอ้หยา!”ร่างเงาหนึ่งพุ่งผ่านเหล่าขุนนาง ข้ามผ่านฉินเย่ว์เหมยไป เดินตรงไปหาเฉินฝานทันที“เป็นเจ้าจริงๆด้วย ช่างดีเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 902

    ตวนซินอ๋องมิอยากเชื่อสายตาของตนเอง เขายกกำปั้นไปด้านหน้าเฉินฝานทันที หลังนั้นก็ชูสามนิ้วออกไปชูสามนิ้วแล้วตะโกนพูดขึ้นหนึ่งประโยค“หนึ่งกฎเกณฑ์ สองสตรี สามเงินเหวิน!”เมื่อตะโกนจบก็จ้องไปที่เฉินฝาน สื่อความหมายว่าถึงตาเจ้าแล้วเฉินฝานรู้สึกหมดคำพูดอีกครั้ง ถูกพลทหารหนึ่งพันปิดล้อมมิสำคัญ จวนจะถูกตัดหัวประหารก็มิสำคัญเช่นกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ...เฉินฝานก็ยกกำปั้นขึ้นมาชูนิ้วยื่นไปด้านหน้าตวนซินอ๋องเช่นกัน“สี่ฤดูกาล ห้าปรมาจารย์ หกที่นั่ง!”ทหารหลวงที่ปิดล้อมเฉินฝานและตวนซินอ๋องไว้มึนงงในบัดดลแม้กระทั่งหลี่ชิ่งที่เป็นหัวหน้าของพวกเขายังกวาดสายตามองไปรอบข้าง เขากำลังสงสัยว่านี้เป็นสัญญาณลับระหว่างเฉินฝานและตวนซินอ๋องหรือไม่“ถูกต้องทั้งหมด ๆ!”ตวนซินอ๋องดีใจออกนอกหน้าเดินไปกอดเฉินฝาน “เจ้าพูดรหัสลับของการเล่นทายตัวเลขถูกทั้งหมด เจ้าเป็นลูกเขยที่แสนดีของข้าจริงๆด้วย เจ้ายังมีชีวิตดังคาดสินะ”กำปั้นแห่งความปีติของตวนซินอ๋อง ทุบไปหลังเฉินฝานครั้งแล้วครั้งเล่าเฉินฝานรู้สึกวิงเวียนศีรษะ เขาจวนจะถูกพ่อตาของตนเองตบหลังจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว“ชาวบ้านใจกล้า ก่อความวุ่

DMCA.com Protection Status