공유

บทที่ 498

작가: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ไม่อาจเป็นเพราะเฉินฝานยังไม่มีลูกชั่วคราว แล้วรังแกกันแบบนี้กระมัง”

“ให้โอกาสเฉินฝานได้อธิบาย”

“ให้โอกาสเฉินฝานได้อธิบาย”

ชาวบ้านเดือดพล่าน จางเจิ้งห้าวไม่อาจไม่ให้โอกาสเฉินฝาน

จางเจิ้งห้าวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินฝาน เจ้าตั้งใจทำร้ายดวงตาของชางเฟยอวี่ เป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว แต่ว่า เพื่อความยุติธรรม ข้าจะให้โอกาสเจ้าในการอธิบาย”

คำพูดของจางเจิ้งห้าวทำให้คนมากมายรู้สึกไม่ยุติธรรม พวกเขาเริ่มไม่พอใจ

“ตั้งใจ? ทั้งยังเป็นเรื่องที่แน่ชัดแล้ว? คำพูดของนายอำเภอเกินไปแล้วกระมัง เอนเอียงไปทางตระกูลชางชัดเจนเกินไปแล้ว”

“ถูกต้อง ภรรยาพูดจาล่วงเกิน เฉินฝานเพียงสั่งสอนเท่านั้น ใครจะคิดว่าไข่มุกพุ่งเข้าตาชางเฟยอวี่”

“เรื่องนี้ ข้าว่าจะโทษก็โทษชางเฟยอวี่เอง เขาอยากจะล่วงเกินภรรยาของคนอื่น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หากเขาไม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แบบนั้น ไข่มุกจะพุ่งใส่ตาเขาได้อย่างไร”

นายท่านชางเริ่มรู้สึกผิดปกติ แต่ผิดปกติอย่างไร เขาไม่อาจอธิบายได้

“ใต้เท้าขอรับ!” เฉินฝานเริ่มอธิบาย “ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอรับ”

“เจ้าแก้ตัว เห็นชัดว่าเจ้าออกแรงมากไปจึงทำให้ไข่มุกกระเด็นเข้าตาข้า!” เห็นสถานการณ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 499

    “คุณชายชางอย่าโมโหเช่นนั้นขอรับ รีบไปหาหมอดีกว่า มิเช่นนั้นจะตาบอดแล้วจริงๆ”คำพูดของเฉินฝานเตือนสติคุณท่านชาง เขาตะคอกพ่อบ้าน “บ่าวแก่ไร้ความรับผิดชอบในหน้าที่ ยังยืนนิ่งอยู่ทำไม รีบพาคุณชายไปหาหมอเร็วเข้า!”“เฉินฝาน เจ้าตั้งใจทำร้ายดวงตาลูกชายข้าแน่นอน อีกทั้งนายอำเภอก็ยังร่วมมือกับเจ้า” ตอนเดินผ่านเฉินฝาน คุณท่านชางพูดเสียงเหี้ยมเวลานี้เขาค่อยรู้ตัวว่า เหตุใดเฉินฝานจึงบอกว่าเขาสนิทสนมกับจางเจิ้งห้าว จางเจิ้งห้าวชักสีหน้าให้เฉินฝานทันที ทั้งยังทำร้ายภรรยาของเฉินฝานเขาคิดว่าจางเจิ้งห้าวอยู่ในกำมือของเขาแล้ว แต่สุดท้ายอีกฝ่ายเพียงให้ความร่วมมือในการแสดงเท่านั้น เพื่อให้ชาวบ้านเดือดดาลแล้วเอนเอียงไปทางเฉินฝานเฉินฝานพูดเสียงแผ่วเบา “ถูกต้อง!”ชางเส้าอวี่กัดฟันแน่น “เฉินฝาน เจ้าคอยดูเถอะ!”“ได้ ข้าจะรอนะ แต่ว่าคุณชายชางรีบไปรักษาดวงตาของท่านก่อนเถอะ”ตอนกลางคืนครอบครัวของเฉินฝานเพิ่งรับประทานอาหารค่ำเสร็จ จางเจิ้งห้าวก็มา เขายืนอยู่หน้าโต๊ะหนังสือของเฉินฝาน มองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวังเฉินฝานทำราวกับไม่เห็นจางเจิ้งห้าวอย่างไรอย่างนั้น ก้มหน้าก้มตาดูบัญชี“ว่าไปแล้ว” หลี่ซา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 500

    “ได้ยินหรือไม่ ข้าจะพักผ่อนแล้ว พวกท่านทั้งสองรีบออกไปซะ!” เฉินฝานไล่แขก ภรรยาตัวน้อยของเขาร้อนใจอยากทำลูกกับเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงไข่ตกหรือเปล่า ตลอดทั้งคืนคล้ายสาวน้อยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ฉินเย่ว์โหรวแนบชิดกับเฉินฝานไม่หยุดเฉินฝานไม่ตามใจนาง ทำให้นางหมดเรี่ยวแรง อ้อนวอนร้องขอเขาค่อยปล่อยตัวนางครุ่นคิด นางเหนื่อยตลอดทั้งคืนแล้ว ต้องนอนถึงเที่ยงค่อยตื่นเป็นแน่แท้ เฉินฝานจึงบอกให้พวกสุ่ยเซียนมาสายหน่อยคิดไม่ถึง วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สว่าง เฉินฝานยังไม่ตื่น ฉินเย่ว์โหรวที่นอนอยู่ข้างกายเขาตื่นนอน นางไม่เพียงตื่นนอนคนเดียว ยังปลุกเฉินฝานตื่นด้วย“ฟ้ายังไม่สว่าง ตื่นเช้าเช่นนี้ทำไม?” เฉินฝานยังคงหลับตา มือโอบเอวบางของฉินเย่ว์โหรว กดร่างบางกลับเข้ามาในผ้าห่มเหมือนว่านางยังเหนื่อยไม่พอ ต้องให้นางเหนื่อยอีกสักหน่อยเฉินฝานงุดหน้าไปที่ซอกคอของฉินเย่ว์โหรว กัดผ้าผูกเสื้อตัวของนางฉินเย่ว์โหรวเป็นคนบ้าจี้ เฉินฝานทำเช่นนี้นางจึงหัวเราะไม่หยุด นางผลักเฉินฝาน ร้อนรนเล็กน้อย “นายท่าน ไม่ได้เจ้าค่ะ ต้องรีบตื่น มิเช่นนั้นจะไม่ทัน...อื้ม”ริมฝีปากดอกท้อถูกเฉินฝานครอบครองถึงขั้นนี้แล้ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 501

    เฉินฝานเอื้อมมือเปิดม่านรถ มือของเขาเพิ่งสัมผัสโดนม่านฉินเย่ว์โหรวก็จับมือเขาแล้วดึงเขากลับมา“นายท่าน ไม่ต้องถามพี่สามเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าควรไปที่ใด”“ไปที่ใดรึ?” เฉินฝานหันกลับมาถาม“ไปวัดเทพอัปสรภูเขาจ้วงติงเจ้าค่ะ”“วัดเทพอัปสรภูเขาจ้วงติง?” เฉินฝานยิ่งงงงวย “แค่ไปวัด เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?”“นายท่าน ท่านจำไม่ได้อีกแล้วหรือเจ้าคะ!” เสียงใสชัดของฉินเย่ว์ฉู่ดังขึ้น นางเอียงศีรษะเล็กของนาง “เทพอัปสรในวัดเป็นเทพที่ประทานบุตรโดยเฉพาะ วันที่หนึ่งเดือนห้าของทุกปีเป็นวันที่เทพอัปสรเสด็จลงมายังโลกเพื่อประทานบุตร หากไปสักการะวันนี้ก็จะมีลูกชายในปีหน้าเจ้าค่ะ”เฉินฝาน: “......”เดิมทีเขาคิดจะตอบโต้ฉินเย่ว์ฉู่ โดยพูดว่าเขาสามารถมีลูกชายได้หรือไม่เป็นเรื่องของผู้ชาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าแต่อย่างใด แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งครัดของนาง เฉินฝานก็ไม่ได้พูดอะไรคนในยุคนี้ยังไม่มีความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ก็ให้ความคาดหวังที่สวยงามอยู่ในใจนางแล้วกันฉินเย่ว์โหรวผู้อ่อนโยนพลันพูดกับเฉินฝานสีหน้าจริงจัง “วัดเทพอัปสรศักดิ์สิทธิ์มาก คนที่ให้กำเนิดบุตรชายล้วนไปขอพรที่วัดเทพอัปสรในวันที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 502

    ฉินเย่ว์โหรวเจ็บจี๊ดในใจ นางจำความขมขื่นและความน้อยใจของการไปวัดเทพอัปสรเพื่อแย่งชิงที่นั่งเมื่อปีที่แล้ววันนี้ของปีที่แล้ว เพิ่งถึงเวลาเหม่า[footnoteRef:1] นางโจวก็รีบเร่งพาพวกนางไปแย่งชิงที่นั่งในวัดเทพอัปสร [1: เวลาเหม่า หมายถึง ช่วงเวลา 05:00-07:00เช้า] เวลาเหม่าก็คือเวลาระหว่างห้าถึงหกโมงเช้าตระกูลผู้ดีมีอำนาจล้วนค่อนข้างเกียจคร้าน พวกเขาอยากขอพรเรื่องลูก แต่ไม่อยากตื่นเช้าเกินไป ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเบียดออกไป จึงไปกดดันมัคานายกของวัดเทพอัปสร เมื่อทนแรงกดดันของผู้มีอำนาจเหล่านั้นไม่ได้ มัคนายกจึงประกาศเทพอัปสรผู้ประทานบุตรมีข้อกำหนด ผู้ที่เข้าแถวล่วงหน้าล้วนไม่เคร่งครัดพอ เฉพาะผู้ศรัทธาที่ออกเดินทางเวลาเหม่ากับสิบห้านาทีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าวัดเพื่อขอบุตรได้ฉินเย่ว์โหรวสุขภาพไม่ดี ฉินเย่ว์เจียวจึงแบกนางวิ่งทางเขาเมื่อนางวิ่งมาถึงวัดเทพอัปสร เท้าของฉินเย่ว์เจียวก็เต็มไปด้วยแผลพุพองถึงกระนั้น สองพี่น้องก็ยังรู้สึกว่ามันคุ้มค่า เพราะพวกนางแย่งที่นั่งไว้ได้แต่ไม่คาดคิด เมื่อพวกนางเข้าแถวรอเข้าวัดเทพอัปสรอย่างมีความสุข นางโจวที่มาถึงทีหลัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 503

    นั่นเป็นรถม้าม้าสี่ตัว ยิ่งไปกว่านั้นม้าทั้งสี่ตัวไม่มีตัวไหนไม่อ้วนท้วนและแข็งแรงเสียงกึกก้องดังขึ้นเรื่อย ๆ ฝุ่นและควันที่ลอยขึ้นจากถนนที่ม้าเหยียบย่ำนั้นเริ่มซัดเข้ามาในรถม้าม้าสี่ตัวคันนั้นม่านถูกเปิดออก เผยให้เห็นหน้าของชางเฟยอวี่ ดวงตาข้างขวาของเขาปิดไว้ด้วยผ้าปิดตาสีดำ ดังที่เฉินฝานพูดว่าตาของเขาใช้ไม่ได้แล้วชางเฟยอวี่เยาะเย้ยเฉินฝานอย่างภาคภูมิใจ “เฉินฝาน เจ้าไม่ได้มีอำนาจและร่ำรวยมากนักหรือ? ทำไมถึงมีรถม้าม้าสองตัวล่ะและยังเป็นม้าธรรมดา โถ ๆ ๆ ม้าแบบนี้ของเจ้า จะวิ่งเร็วสู้ม้าของข้าได้อย่างไรกันเล่า”“แต่ว่า แม้จะวิ่งช้าเกินไปและเข้าแถวเข้าวัดเทพอัปสรไม่ได้ก็ไม่มีผลกระทบใดกับเจ้าหรอก เพราะต่อให้เจ้าไปถึงคนแรกก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเจ้าเป็นไอ้อ่อน/หัดได้ ฮ่า ๆ ๆ!” เสียงหัวเราะเยาะทำให้ใบหน้าของชางเฟยอวี่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย“นี่! ตอนแรกก็ดี แต่ตอนนี้น่าเกลียดมาก!” เฉินฝานส่ายหัวและถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเฉินฝานไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังพูดว่าเขาน่าสงสาร ชางเฟยอวี่ก็โกรธเคือง “เจ้าพูดว่าใครน่าเกลียด”เฉินฝานยิ้มเหยาะ “ข้ารู้สึกเสียดายกับนายน้อยชาง เจ้าเคยมีร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 504

    “ชาติหน้าอะไร ข้าอยากมีลูกและมีความสุขร่วมกับพวกเจ้าชาตินี้”“และเจ้าเสี่ยวฉู่ อายุเท่าข้า? หยุดคิดได้แล้ว จงเติบโตให้ดีแล้วมอบลูกสาวที่น่ารักอย่างเจ้าให้ข้า”เฉินฝานดึงฉินเย่ว์โหรวและฉินเย่ว์ฉู่ออกจากตัวเขาเปิดม่านรถม้าและก้าวเท้ากว้างมาอยู่ข้าง ๆ ฉินเย่ว์เจียว“นี่เจ้าทำอะไร จะบังคับรถม้าเองรึ? เฉินฝาน ข้าจะบอกให้ หยุดต่อสู้ที่ไร้จุดหมายเถอะ ฮ่า ๆ ๆ!” เสียงหัวเราะของชางเฟยอวี่ชวนขนลุกรถม้าของเฉินฝานถูกเบียดมาถึงขอบหน้าผา หากล้อขยับออกไปอีกเล็กน้อยสามารถตกเขาได้ทันที“สวบ!”เฉินฝานดึงลูกธนูสองดอกออกจากกระบอกบนหลังฉินเย่ว์เจียว“ลูกธนู! ฮ่า ๆ ๆ” ชางเฟยอวี่กล่าวดูถูก “เจ้าคิดว่ายังตายไม่เร็วมากพองั้นรึ?”ระยะห่างระหว่างรถม้าสองคันไม่ถึงครึ่งเมตร หากเฉินฝานทำร้ายม้าด้วยลูกธนูตอนนี้ ม้าต้องตกใจกลัวและตื่นตัวแน่ ไม่ต้องใช้คนขับรถม้าก็สามารถชนเฉินฝานตกเขาได้ทันที“เฉินฝาน โปรดอย่าต่อสู้ที่ไร้จุดหมายและยอมรับความตายซะเถอะ ไม่ต้องกังวล ถ้าเจ้าไม่ขัดขืน ข้า ชางเฟยอวี่จะช่วยเจ้าจัดพิธีที่ยิ่งใหญ่และฝังศพของเจ้ากับภรรยาของเจ้าอย่างสมเกียรติ”ชางเฟยอวี่เหลือบมองฉินเย่ว์เจียวด้วยสีหน้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 505

    “ท่านผู้ใดคือกฎของคาน?” ฉินเย่ว์เจียวที่มีบุคลิกตรงไปตรงมาขานเรียกโดยตรงเฉินฝานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีจึงดึงฉินเย่ว์เจียว “เย่ว์เจียว อย่าตะโกน กฎของคานไม่ใช่คน”“ไม่ใช่คน?” ใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่คนแล้วจะช่วยพวกเราได้อย่างไรเจ้าคะ?”“ข้ารู้แล้ว!” ฉินเย่ว์ฉู่พูดอย่างมั่นใจ ตอนที่นายท่านตกลงไปในหุบเขา ท่านก็ไปถึงโลกที่เหมือนสวรรค์ไม่ใช่หรือเจ้าคะ? กฎของคานนี่ต้องเป็นเพื่อนของนายท่านที่อยู่ที่นั่นแน่ ๆ”“เอ่อ......” เฉินฝานเกาหัว “จะว่าอย่างนั้นก็ได้!”“เอ้อ พวกเราต้องรีบไปขอประทานบุตรไม่ใช่เหรอ? ถ้าช้ากว่านี้พวกเราจะไม่ทันเข้าแถวนะ” เฉินฝานรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวว่าพี่น้องตระกูลฉินยังสับสนกับปัญหานี้“ใช่ ๆ พวกเราต้องรีบไปแล้ว!”ออกเดินทางแต่เช้า หลังจากเกือบถูกรถม้าคันอื่นชนถึงสามครั้งตลอดทางเดิน พวกเฉินฝานเพิ่งมาถึงวัดเทพอัปสรที่อยู่บนภูเขาจ้วงติงคนที่ต่อแถว หากใช้คำว่าฟาดฟันตลอดทางก็ไม่มากเกินไป ทุกคนต่างเหนื่อยกับการเดินทาง หลายคนยังมีเลือดเปื้อนตามร่างกายคนที่รู้ว่ามาขอบุตรนั้นแล้วไป แต่คนที่ไม่รู้ คงคิดว่าคนเหล่านี้หนีมาจากสนามรบใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 506

    ฉินเย่ว์โหรวรีบปิดปากของเฉินฝาน “นายท่าน โปรดอย่าล่วงเกินเทพอัปสรผู้ประทานบุตรเจ้าค่ะ”ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวต้าชิ่งกล้าที่จะล่วงเกินเทพเจ้าใด ๆ แต่ไม่กล้าล่วงเกินเทพอัปสรผู้ประทานบุตรแม้ว่าเฉินฝานจะบอกความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่มากมายให้กับพวกฉินเย่ว์โหรว อย่างไรเสียพวกนางก็อาศัยอยู่ในยุคโบราณระบบศักดินาและความเชื่อไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีทางคิดนอกกรอบ“นี่เจ้าเป็นใคร ชักช้าอยู่ไย ถ้าไม่อยากเข้าไปก็ออกไปให้พ้นทางและอย่าขวางทางพวกเรา”มีเสียงใจร้อนดังมาจากด้านหลังเมื่อเฉินฝานหันกลับไป คนที่เห็นว่าเป็นเฉินฝานพูดดังขึ้นกว่าเดิม “อ้าว นี่เฉินฝานไม่ใช่หรือ?”เฉินฝานดีใจทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “นายน้อยชาง วันนี้เจ้าแต่งตัวโดดเด่นไม่เบาเชียวนะ คล้ายกับหัวหมูบนเขียงดี”คำพูดของเขา เกิดเสียงหัวเราะเบา ๆ เป็นพัก ๆตอนนี้ชางเฟยอวี่สวมผ้าปิดตาด้านขวาของใบหน้า ด้านซ้ายบวมแดงและเต็มไปด้วยรอยแผล มองแล้วเหมือนหัวหมูจริง ๆ“ไม่ว่าข้าจะเป็นอย่างไร ข้าก็ยังดีกว่าเจ้า!” ชางเฟยอวี่กัดฟันกร่อนและพูดอย่างขมขื่น “เจ้ามันแค่คนอ่อนหัดที่ไร้ความสามารถ!”ขณะที่พูด ชางเฟยอวี่เริ่มพูดจาเหน็บแ

최신 챕터

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status