Share

บทที่ 209

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เมื่อเฉินฝานรู้สึกตัว ก็พบว่าใบหน้าของตนเองเปียกชุ่ม

เมื่อครู่นี้ น้ำตาของเขาไหล

เจ้าของร่างเดิมเริ่มดูถูกตัวเองหลังจากที่เฉินจินเซียงออกเรือน

ตอนที่เขายังไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ทุกครั้งที่เฉินจินเซียงกลับมาเรือนพ่อแม่ เจ้าของร่างเดิมจะหลบหน้านางเสมอ

เขารู้ว่าทำเช่นนั้นไม่ดี เขากลัวว่าเฉินจินเซียงจะผิดหวังในตัวเขา

เพราะเมื่อก่อนเฉินฝานก็หลบหน้าเฉินจินเซียงทุกครั้ง

ครั้งนี้เมื่อเฉินจินเซียงกลับมา เฉินฝูก็เรียกแต่เฉินผิง ไม่เรียกเฉินฝาน

ลูกสาวที่ออกเรือนแล้ว ไม่สามารถค้างคืนกับครอบครัวฝ่ายหญิงได้

หลังจากกินอาหารเช้าที่เรือนของเฉินเจียงเสร็จ เฉินจินเซียงก็เตรียมกลับเรือนสามีทันที

ครั้งนี้เฉินจินเซียงทำตัวผิดปกติเล็กน้อย นางถือของถุงใหญ่เดินเข้าไปในเรือนของเฉินฝานโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของเฉินฝูกับเฉินเจียง

เฉินจินเซียงยืนอยู่หน้าเรือนของเฉินฝาน มองดูเรือนใหม่เอี่ยมหลังนี้ นางพลอยตื่นเต้นมากจนร้องไห้และกล่าวพึมพำไม่หยุด

“เป็นเรื่องจริง พวกเขาไม่ได้โกหกข้า ฝานเอ๋อร์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว ดีขึ้นแล้วจริง ๆ”

ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวรีบเดินออกไปต้อนรับและเชิญเฉินจินเซียงเข้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 210

    “นายท่าน จะไปไหนเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวตามออกมาจากในห้อง“นายท่าน” ฉินเย่ว์เจียวที่กำลังสับฟืนอยู่ตรงลาน หยุดเฉินฝาน“อ่อใช่!”เฉินฝานใช้โอกาสนี้ดึงฉินเย่ว์เจียว “เย่ว์เจียว เจ้าไปกับข้า”“ไปที่ไหนเจ้าคะ?”“ด้านหลังของภูเขา”“ไปทำอะไรที่นั่นเจ้าคะ?”“ข้าไม่รู้เหมือนกัน แค่ตามข้ามา” เฉินฝานหวังว่าเขาคิดผิดหลังจากนั้นไม่นาน เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็มาถึงทางแยกทางหนึ่ง“นายท่าน ตอนนี้พวกเราไปทางไหนเจ้าคะ?”เฉินฝานเงยหน้าขึ้นมองข้างหน้าทางแยกทั้งสองทาง ล้วนเป็นทางที่ทะลุไปยังภูเขาที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้าน ทางหนึ่งมุ่งหน้าไปตะวันออกและอีกทางหนึ่งมุ่งหน้าไปทางตะวันตก“ที่ที่ข้าตกลงไปในหุบเขา อยู่ทางไหน? พาข้าไปที่นั่นเร็ว!”“นายท่าน เราไปที่นั่นทำไมเจ้าคะ?”“อย่าเพิ่งถาม พาข้าไปที่นั่นเร็วเข้า!”แม้แต่เฉินฝานก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากไปที่นั่นมันเป็นสัญชาตญาณ“นายท่าน ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวพลันหยุดเดินและมองเฉินฝานอย่างประหลาดใจทำไมเขาถึงอยากไปที่นั่น?อยากตกลงไปอีกครั้ง?หากครั้งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นคนแบบเมื่อก่อน ควรทำอย่างไร?เฉินฝานคนเก่า......

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 211

    เฉินจินเซียงยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่มีท่าทีจะฟื้นแต่อย่างใดเฉินฝานคอยเฝ้าอยู่ข้างกายของเฉินจินเซียงตลอดชีพจรของนางเต้นอย่างรุนแรง ลมหายใจสม่ำเสมอ น่าจะไม่มีเรื่องร้ายแรง หากนางผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ก็คงจะฟื้นในที่สุด“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว คืนนี้พวกเจ้าสองคนนอนเป็นเพื่อนท่านอานะ”เฉินฝานกลัวว่าเฉินจินเซียงจะฟื้นขึ้นมากลางดึกแล้วจะฆ่าตัวตายอีกฉินเย่ว์เจียวมีไหวพริบดี นางขัดขวางไม่ให้เฉินจินเซียงทำเรื่องโง่ ๆ ได้แต่นิสัยของฉินเย่ว์เจียวเป็นคนหัวร้อนและบุ่มบ่าม ปลอบคนไม่เป็นและโน้มน้าวใจคนไม่เป็นหากเฉินจินเซียงยังรั้นจะฆ่าตัวตาย ด้วยนิสัยของฉินเย่ว์เจียว นางคงจะใช้กำลังทำให้อีกฝ่ายสลบนางไม่เคยผ่านการฝึกฝน ฝีมือของนางไม่หนักไม่เบาฉินเย่ว์โหรวนั้นแตกต่างจากฉินเย่ว์เจียว นางมีนิสัยอ่อนโยนและละเอียดรอบคอบ น้ำเสียงของนางเบาเล็กและไพเราะน่าฟัง เขาจึงให้นางมาช่วยปลอบประโลมเฉินจินเซียง เหมาะสมที่สุดแล้ว “ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเหมือนกัน”เฉินฝานยังไม่ตอบตกลง ฉินเย่ว์ฉู่ก็รีบปีนขึ้นมาบนเตียงแล้ว“ก็ได้! “ฉินเย่ว์ฉู่ไม่เอ่ย เฉินฝานก็ตั้งใจจะทำแบบนั้นอยู่แล้วบุตรสาวคนโตของฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 212

    “อื้อ”ฉินเย่ว์ฉู่เดินออกมาอย่างไม่สบอารมณ์“นี่!” ฉินเย่ว์โหรวส่ายหน้า “ยิ่งอยู่ยิ่งทำตัวไม่เข้าท่า เพราะนายท่านนั่นแหละให้ท้ายนาง”“ใช่หรือ?”“ทำไมจะไม่ใช่.....”“เย่ว์โหรว เข้าเพิ่งทำน้ำแกงเต้าหู้หัวปลา เจ้าจะเรียนวิธีการทำไหม? พรุ่งนี้ข้าจะได้สอนเจ้า”“นายท่าน ท่านเปลี่ยนคำถามอีกแล้ว”“แล้วเจ้าจะเรียนหรือไม่? ข้านับหนึ่ง สอง สาม เจ้าไม่เรียนงั้นก็ช่างเถอะ”“หนึ่ง สอง.......”“เรียน ข้าเรียนอยู่แล้ว!”“เช่นนั้นก็อย่าบ่น”“นายท่าน......” ฉินเย่ว์โหรวแบะปากและขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจท่าทางกระเง้ากระงอนของฉินเย่ว์โหรวทั้งน่ารักทั้งมีเสน่ห์ เฉินฝานอยากจูบนางตอนนี้“แต่วันนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ เขายังมีเรื่องสำคัญต้องทำเฉินฝานทำอาหารอีกสองสามอย่างเขาตักน้ำแกงปลาไว้ชามหนึ่ง และวางลงบนจาน“พวกเจ้ากินกันก่อนเถอะ ไม่ต้องรอข้า”เฉินฝานยกน้ำแกงปลาในถาดเดินเข้าห้องด้านข้างไปหลังจากวางน้ำแกงปลาบนโต๊ะข้างเตียงแล้ว เฉินฝานก็นั่งลง จากนั้นก็ก้มมองเฉินจินเซียงที่ยังไม่ฟื้น ก่อนจะกล่าวเบา ๆ “ท่านอา วันนี้ข้าเข้าครัวเองเลยนะ”“ท่านคงจะได้ยินแล้ว ตอนนี้กิจการปลารุ่งเรืองมาก แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 213

    “แต่ เสี่ยวฝาน อาไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ”เฉินจินเซียงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นนางก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดพี่น้องตระกูลฉินที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงก็เตรียมจะวิ่งเข้ามา แต่กลับถูกเฉินฝานขวางไว้เวลานี้การปล่อยให้เฉินจินเซียงร้องไห้อย่างเต็มที่คือทางที่ดีที่สุดแล้ว ระบายความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ในใจออกมาให้หมดหลังจากเฉินจินเซียงหยุดร้องไห้ เฉินฝานก็ไม่ได้ถามอะไรนางอีก เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยกน้ำแกงปลามาให้ตรงหน้าของนาง“ท่านอา ท่านซดน้ำแกงปลาชามนี้ก่อนเถอะ ข้าลงมือทำครั้งแรกเชียวนะ ไม่รู้ว่าทำออกมาแล้วจะอร่อยถูกปากท่านอาหรือไม่ ท่านอาชิมแล้วช่วยแนะนำข้าด้วย”นี่เป็นน้ำแกงปลากับเต้าหู้ชามแรกที่เขาทำหลังจากข้ามเวลามาที่นี่หลังจากซดน้ำน้ำแกงไปได้สองสามคำ เฉินจินฝานก็หยุดชะงัก“ทำไม?” เฉินฝานเริ่มเป็นรกังวล “มันไม่อร่อยใช่หรือไม่?”“ไม่ใช่.....”จู่ ๆ เฉินจินเซียงก็ร้องไห้ออกมา แต่ครั้งนี้นางร้องไห้ด้วยรอยยิ้ม “พี่ชาย พี่สะใภ้ ตอนนี้เฝานเอ๋อร์ดีขึ้นแล้วจริง ๆ พวกท่านวางใจได้แล้วนะ”“นี่ ท่านอา ท่านทำข้าตกใจนะ ข้าจะจะลงโทษท่านด้วยการให้ซดน้ำแกงชามนี้ให้หมด”“ชามเดียวจะไปพออ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 214

    หลังจากได้ฟัง เฉินฝานก็รู้สึกถึงบางอย่างไม่ชอบมาพากล“แล้วเมื่อวานที่ท่านอาซื้อของกลับมามากมาย ท่านอาไปเอาเงินมาจากไหน?”เมื่อวานเขาได้ยินชาวบ้านในละแวกนี้พูดกันว่าสิ่งของที่เฉินจินเซียงนำกลับมาครั้งนี้มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา“ข้า....” มือทั้งสองข้างที่เฉินจินเซียงปล่อยลงข้างตัวเริ่มประสานกันอีกครั้งนางทั้งอึดอัดใจและกังวลใจในตอนนี้เองเฉินฝานก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าบนศีรษะของนางไม่มีเครื่องประดับสักชิ้นแล้วเป็นถึงภรรยาของตระกูลผู้มั่งคั่ง ไม่มีเครื่องประดับบนศีรษะได้อย่างไร“ท่านอา.....”เฉินฝานพยายามกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวลที่สุด “ท่านอานำเครื่องประดับเหล่านั้นไปจำนำแล้วใช่หรือไม่?”“ที่ไหนกัน ข้าแค่ไม่ได้ใส่มาเท่านั้น เพราะ.....”“ท่านอา!” เฉินฝานกุมมือของเฉินจินเซียงไว้ และกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าคือเสี่ยวฝานที่ท่านเคยรักมากที่สุด ท่านสามารถเล่าเรื่องที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้ข้าฟังได้ ข้าจะช่วยแก้ไขให้ท่านเอง”ช่วยเฉินจินเซียงเท่ากับช่วยให้กายนี้มีคุณค่ามากขึ้น“เสี่ยวฝาน!” นัยน์ตาของเฉินจินเซียงเปล่งประกาย“ขอรับ”เฉินจินเซียงก้มหน้าลง “ข้านำเครื่องประดับของข้าไปจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 215

    เฉินฝานพบกับผู้อาวุโสที่ดูแปลกประหลาดคนหนึ่ง เวลานี้เขากำลังสับสน เพราะเขากำลังยืนแต่งบทกวีบทหนึ่งเฉินฝานเดินทางออกจากหมู่บ้านซานเหอมายังหมู่บ้านต้ากู่กับเฉินจินเซียงในขณะที่พวกเขาเดินทางใกล้ถึงจุดหมายนั้น มีถนนที่ราบเรียบและค่อนข้างกว้างอยู่สายหนึ่งบนถนนสายนี้ เฉินฝานยังไม่เคยผ่านเส้นทางนี้มาก่อน นึกแปลกใจว่าทำไมในอำเภอผิงอันถึงมีถนนที่ดีเช่นนี้ เฉินจินเซียงจึงเล่าความเป็นมาของถนนสายนี้ให้เฉินฝานฟังถนนหลวงคือถนนที่ประชาชนร่วมกันสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อให้เหล่าขุนนางเมืองอื่นที่ได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ให้มาตรวจการได้เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น อำเภอผิงอันเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างยากจน โดยทั่วไปแล้วจะมีถนนหลวงที่ไม่ยาวนัก ถนนหลวงที่เฉินฝานเห็นในตอนนี้เป็นเพียงถนนเล็ก ๆ อ้อมอำเภอผิงเมืองเป็นเมืองต้าฟู่และอำเภอตูอัน!ถนนหลวงนั้นแตกต่างกัน ทิวทัศน์สองข้างทางนั้นงดงามกว่าทิวทัศน์ทั่วไปด้านขวางของถนนหลวง มีแม่น้ำต้าเจียงที่ปะปนกับก้อนน้ำแข็งสายหนึ่ง ตรงข้ามแม่น้ำเป็นยอดเขาที่ตัดสลับกันไม่สิ้นสุด ซึ่งบนยอดเขาเหล่านั้นถูกหิมะปกคลุม โดยมีต้นสนยืนต้นตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายลม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 216

    “ใต้เท้า แต่ถนนเส้นนั้นไม่ใช่ทางหลวง และไม่ผ่านอำเภอตูอันด้วย”“ตอนนี้ข้าไม่ได้ต้องการไปอำเภอตูอัน ไม่ต้องพูดให้มากความ รีบไปได้แล้ว!”“ขอรับใต้เท้า!” คนใช้ก็กระโดดขึ้นรถม้า“จริงสิ!”ผู้เฒ่าเลิกผ้าม่านของรถม้าขึ้น พูดกับคนรับใช้ว่า “เรียกข้าว่าคุณท่าน ไม่ต้องเรียกข้าว่าใต้เท้า!”“ขอรับ คุณท่าน”......“เสี่ยวฝาน!” เฉินจินเซียงเรียกเฉินฝานให้อยู่อย่างกะทันหันบนถนน“ท่านป้าท่านเหนื่อยแล้วใช่ไหม?” เฉินฝานหยุดการกระทำถามไถ่ด้วยความรีบร้อนเฉินจินเซียงส่ายหัวไปอย่างต่อเนื่อง “ถึงแม้ว่าป้าจะไม่เข้าใจบทกลอน ทว่าโคลงกลอนที่เจ้าท่องเมื่อครู่ รู้สึกมันดีจริงๆ เสี่ยวฝานเจ้าเขียนงั้นหรือ?”“ไม่ใช่แต่อย่างใด” เฉินฝานปฏิเสธอย่างรีบร้อน “นี่คือสิ่งที่หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถังเขียน”เฉินฝานไม่ได้สังเกต ไม่ใกล้จากตัวเขามากนัก มีรถม้าคันหนึ่งตามมา“หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถัง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถ ศีรษะเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย ในสมองค้นหาชื่อหลิ่วจงหยวนนี้“ราชวงศ์ถัง? อาณาจักรใดกัน หลิ่วจงหยวน? เป็นใครกัน?”“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับหลิ่วจงหยวนที่ประพันธ์บทกวีเก่งๆหรือไม่?” กลัวว่าตนเองแก่แล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 217

    ตอนที่นางเห็นความเห็นแก่ตัวความไม่แยแสไร้อารมณ์ของเฉินฟู่และเฉินเจียง นางก็แอบเอาข้อสอบมาซ่อนไว้ในแขนเสื้ออย่างลับๆเพราะข้อสอบพวกเขาบีบคั้นนางให้ถึงทางตันเช่นนั้นนางก็พกข้อสอบเดินทางมาด้วย ในฐานะที่เฉินจินเซียงเป็นลูกสาวของเฉินฟู่ พี่สาวของเฉินเจียง นี่เป็นเรื่องที่เคยอกตัญญูกับพวกเขาเพียงเรื่องเดียว “อ๋อ เข้าใจแล้ว” เฉินฝานพยักหน้านี่ก็เป็นของพวกเดียวกันกับพวกหนังสือเตรียมสอบหวงกังมี่ในยุคปัจจุบันหรือ?เฉินฝานก็นึกถึงเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหของเฉินเจียงต่อเฉินจินเซียงเมื่อคืน เพื่อข้อสอบอันนี้ล่ะสิ“ข้อสอบของสำนักบัณฑิตหลี่เสียง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถม้าจ้องไปที่ข้อสอบในมือเฉินจินเซียง สายตาไม่เมตตาอ่อนโยนเหมือนครู่อีกต่อไป เป็นสายตาถมึงทึง“คุณท่าน” คนใช้ก็สีหน้าจริงจัง “บอกพวกเขาลงมือหรือไม่”ณ เวลานี้ เฉินจินเซียงยัดข้อสอบใส่ในมือเฉินฝาน “เสี่ยวฝาน เจ้ารีบเอาไป มีสิ่งนี้ต้นฤดูใบไม้ผลิเจ้าต้องเข้าร่วมการสอบขุนนางได้อย่างแน่นอน”เฉินฝานรับข้อสอบมา แม้จะเหลือบมองก็ยังไม่ทำฉีกมันทิ้งในพริบตาเดียวเสียอย่างนั้น“เฮ้ย เสี่ยวฝาน เจ้า...” เฉินจินเซียงตื่นตกใจในขณะเวลาเดียวกั

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1022

    ลักพาตัวอ๋องแคว้นจ้าวต่อหน้าต่อตาองครักษ์หนึ่งหมื่นกว่าคน และยังสามารถทำให้เขายอมถอยทัพแต่โดยดี จะต้องมิใช่การประเมินศัตรูต่ำไปเพียงอย่างเดียวแน่นอนใต้เท้าด้านนอกผู้นั้นจะต้องมีวรยุทธ์และสติปัญญาเหนือมนุษย์เป็นแน่ได้ยินว่า เขามีสิ่งของที่เป็นเหล็กปลายแหลมสามารถโจมตีได้ น่าหวาดกลัวอย่างมาก สามารถต่อกรกับศัตรูจำนวนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวดังนั้น เฉินฝานต้องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจึงมาเยือนต่อให้มิมีความมั่นใจว่าจะชนะได้ ทว่าพวกเขาก็ต้องมั่นใจว่าตนเองจะสามารถถอยกลับได้อย่างปลอดภัยแน่นอนหากล่าถอยไปแล้วกลับมาอีกครั้ง คงจะมิได้มีเพียงสองคน แต่เป็นกองกำลังจำนวนมหาศาลพื้นที่ธารน้ำอันคับแคบจะสามารถต่อต้านกองกำลังมหาศาลได้อย่างไร?“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ!”อ๋องตวนตะโกนด้วยความตื่นตกใจทันที เขาชี้ไปร่างเงาตรงโพรงหญ้า “โจรป่าเหล่านั้นออกมาแล้ว และยังมาจำนวนมหาศาลอีกด้วย ตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งพันคน”“ฮี่ ๆ ๆ!”อ๋องตวนฉีกยิ้ม มองเฉินฝานด้วยความนับถือ“เสี่ยวฝาน เจ้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ เจ้าบอกว่าขอแค่พวกเราสองคนมา โจรป่าจะต้องออกมาแน่นอน”“มิใช่ว่าข้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ นี่คือจิตวิทยา” เฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1021

    ผู้ที่เสนอตัวขอออกรบก่อนคือ หัวหน้าสามกั้วเจียงหลงชื่อที่โหดเหี้ยมปานนี้ มิใช่เพราะเขาเก่งกาจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตอนยังเด็กเขาซุกซนจนถูกแม่ไล่ตี ตอนที่หน้าสิ่วหน้าขวาน จึงกระโดดลงแม่น้ำว่ายไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหนีแม่ของตนเองจึงเป็นที่มาของชื่อกั้วเจียงหลง“ออกไปรบงั้นรึ? กำจัดพวกเขาให้สิ้นซากรึ?” หัวหน้าใหญ่เหอหรันถีบกั้วเจียงหลงด้วยความโมโหทันที “เจ้าเก่งกว่ากองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวรึ?”“หัวหน้าใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าระแวงเกินไป หัวหน้าสามพูดถูก ควรจะออกไปสู้!”เสียงเคร่งขรึมดูมีอายุดังขึ้น ชายชราผมหงอกทั้งหัวเดินเข้ามาจากด้านนอก“ท่านอาจารย์!”เมื่อเห็นชายชราผู้นั้น เหอหรันรีบทำมือเคารพอย่างลนลาน คนอื่นก็พากันทำตามเมื่อชายชราเห็นด้วย กั้วเจียงหลงจึงเงยหน้าทันที “หัวหน้าใหญ่ ท่านอาจารย์ยังคิดว่าท่านระแวงเกินไป พวกเรามิได้เป็นแบบกองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวเสียหน่อย”กั้วเจียงหลงพูดจบ ชายชรารีบพูดต่อทันที “หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าสามพูดถูกแล้ว พวกเรามิใช่กองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าว สาเหตุที่พวกเขาพ่ายแพ้เพราะประเมินศัตรูต่ำและอวดดีเกินไป ตอนนี้ผู้ที่อวดดีและประเมินศัตรูต่ำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1020

    “ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องออกจากเมืองไปแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับเมืองหลวง แต่ว่ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้าเฮยแล้วขอรับ!”พื้นที่ต้าเฮยก็คือรังของพวกโจร“เช่นนั้นพวกเราก็รีบตามไป ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องให้หลี่ฉวินไปด้วยหรือไม่”หลี่ฉวินเป็นนายกองพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวง เป็นแม่ทัพของกองทัพพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวงเมืองเฟิ่งหวงเป็นเพียงเมืองป้อมปราการภายใต้เมืองเหอตู ไม่ควรมีนายกอง แต่เนื่องจากเมืองเฟิ่งหวงอยู่ติดชายแดน ดังนั้นจึงมีกองทัพพิทักษ์เมือง มีนายกองเช่นกันเพียงแต่ว่าต้าชิ่งขาดแคลนชายฉกรรจ์ เมืองป้อมปราการติดชายแดนที่ยากจนข้นแค้นอย่างเมืองเฟิ่งหวงยิ่งมีชายฉกรรจ์น้อยลงไปอีก กอปรกับก่อนหน้านี้ต่อสู้ต้านทานกองทหารของแคว้นจ้าว ตอนนี้กำลังพลในมือหลี่ฉวินจึงมีไม่ถึงสามร้อยนายเหอจื้อเฟยวิ่งกลับไปที่ห้องหยิบรองเท้าของตนขึ้นมา สวมพลางเดินออกไป “พวกเราก็รีบตามไปด้วย!” “ใต้เท้า!” เวลานี้เองหลี่ฉวินก็มาถึงแล้วเช่นกัน“หลี่ฉวิน?” เหอจื้อเฟยมองหลี่ฉวินด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ตอนนี้เจ้าควรไปที่พื้นที่ต้าเฮยกับท่านอัครเสนาบดีมิใช่หรือ?”“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1019

    สิ่งปลูกสร้างที่ดีที่สุดในเมืองกลับเป็นราชนิเวศน์ที่ฮ่องเต้จ้าวพำนักก่อนหน้านี้ ราชนิเวศน์นั้นยังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาหลังจากที่แคว้นจ้าวยึดครองเมืองเฟิ่งหวงอีกด้วยก่อนหน้านี้เฉินฝานรู้สึกว่าการได้เป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายนั้นเก่งกาจมากแล้ว มีอำนาจล้นฟ้า แม้แต่เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้ตามใจชอบตอนนี้เขาถึงค่อยรู้สึกว่ายิ่งมีอำนาจบนตัวมาก ภาระบนบ่าก็ยิ่งหนักมากต้าชิ่งยังคงยากจนข้นแค้นมากเมื่อเห็นเฉินฝานอารมณ์หดหู่มากถึงเพียงนั้น อ๋องตวนก็ไม่กล้าลากเขาไปดื่มเหล้าทายตัวเลขแล้ว เขาอยู่ทางด้านข้าง แม้แต่เสียงดื่มเหล้าก็ยังเบามาก“เฮ้อ นี่มันปัญหาใหญ่จริง ๆ!”อ๋องตวนที่ดื่มจนเมากรึ่มแล้ววางไหเหล้าลงข้าง ๆ พิงกำแพงเมืองอย่างเอียงเอน“เสี่ยวฝาน เจ้าคิดว่าโจรพวกนี้ยังควรจะปราบหรือไม่?”“โจรย่อมต้องถูกปราบอยู่แล้ว!” เฉินฝานเอ่ยอย่างหนักแน่น“แล้วบุตรชายของเหอจื้อเฟยจะจัดการอย่างไร? เขาถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นหัวหน้าโจรที่ดื้อรั้นเสียแล้ว”“เหอจื้อเฟยฆ่าบุตรชายกับมือไปแล้วหนึ่งคน หากสังหารอีกคน ดูเหมือนว่า...”อ๋องตวนยกไหเหล้าจากทางด้านข้างขึ้นมากรอกอีกคำแล้วค่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status