Share

บทที่ 209

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เมื่อเฉินฝานรู้สึกตัว ก็พบว่าใบหน้าของตนเองเปียกชุ่ม

เมื่อครู่นี้ น้ำตาของเขาไหล

เจ้าของร่างเดิมเริ่มดูถูกตัวเองหลังจากที่เฉินจินเซียงออกเรือน

ตอนที่เขายังไม่ได้เดินทางข้ามเวลามา ทุกครั้งที่เฉินจินเซียงกลับมาเรือนพ่อแม่ เจ้าของร่างเดิมจะหลบหน้านางเสมอ

เขารู้ว่าทำเช่นนั้นไม่ดี เขากลัวว่าเฉินจินเซียงจะผิดหวังในตัวเขา

เพราะเมื่อก่อนเฉินฝานก็หลบหน้าเฉินจินเซียงทุกครั้ง

ครั้งนี้เมื่อเฉินจินเซียงกลับมา เฉินฝูก็เรียกแต่เฉินผิง ไม่เรียกเฉินฝาน

ลูกสาวที่ออกเรือนแล้ว ไม่สามารถค้างคืนกับครอบครัวฝ่ายหญิงได้

หลังจากกินอาหารเช้าที่เรือนของเฉินเจียงเสร็จ เฉินจินเซียงก็เตรียมกลับเรือนสามีทันที

ครั้งนี้เฉินจินเซียงทำตัวผิดปกติเล็กน้อย นางถือของถุงใหญ่เดินเข้าไปในเรือนของเฉินฝานโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของเฉินฝูกับเฉินเจียง

เฉินจินเซียงยืนอยู่หน้าเรือนของเฉินฝาน มองดูเรือนใหม่เอี่ยมหลังนี้ นางพลอยตื่นเต้นมากจนร้องไห้และกล่าวพึมพำไม่หยุด

“เป็นเรื่องจริง พวกเขาไม่ได้โกหกข้า ฝานเอ๋อร์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว ดีขึ้นแล้วจริง ๆ”

ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวรีบเดินออกไปต้อนรับและเชิญเฉินจินเซียงเข้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 210

    “นายท่าน จะไปไหนเจ้าคะ?”ฉินเย่ว์โหรวตามออกมาจากในห้อง“นายท่าน” ฉินเย่ว์เจียวที่กำลังสับฟืนอยู่ตรงลาน หยุดเฉินฝาน“อ่อใช่!”เฉินฝานใช้โอกาสนี้ดึงฉินเย่ว์เจียว “เย่ว์เจียว เจ้าไปกับข้า”“ไปที่ไหนเจ้าคะ?”“ด้านหลังของภูเขา”“ไปทำอะไรที่นั่นเจ้าคะ?”“ข้าไม่รู้เหมือนกัน แค่ตามข้ามา” เฉินฝานหวังว่าเขาคิดผิดหลังจากนั้นไม่นาน เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็มาถึงทางแยกทางหนึ่ง“นายท่าน ตอนนี้พวกเราไปทางไหนเจ้าคะ?”เฉินฝานเงยหน้าขึ้นมองข้างหน้าทางแยกทั้งสองทาง ล้วนเป็นทางที่ทะลุไปยังภูเขาที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้าน ทางหนึ่งมุ่งหน้าไปตะวันออกและอีกทางหนึ่งมุ่งหน้าไปทางตะวันตก“ที่ที่ข้าตกลงไปในหุบเขา อยู่ทางไหน? พาข้าไปที่นั่นเร็ว!”“นายท่าน เราไปที่นั่นทำไมเจ้าคะ?”“อย่าเพิ่งถาม พาข้าไปที่นั่นเร็วเข้า!”แม้แต่เฉินฝานก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากไปที่นั่นมันเป็นสัญชาตญาณ“นายท่าน ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวพลันหยุดเดินและมองเฉินฝานอย่างประหลาดใจทำไมเขาถึงอยากไปที่นั่น?อยากตกลงไปอีกครั้ง?หากครั้งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นคนแบบเมื่อก่อน ควรทำอย่างไร?เฉินฝานคนเก่า......

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 211

    เฉินจินเซียงยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่มีท่าทีจะฟื้นแต่อย่างใดเฉินฝานคอยเฝ้าอยู่ข้างกายของเฉินจินเซียงตลอดชีพจรของนางเต้นอย่างรุนแรง ลมหายใจสม่ำเสมอ น่าจะไม่มีเรื่องร้ายแรง หากนางผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ก็คงจะฟื้นในที่สุด“เย่ว์เจียว เย่ว์โหรว คืนนี้พวกเจ้าสองคนนอนเป็นเพื่อนท่านอานะ”เฉินฝานกลัวว่าเฉินจินเซียงจะฟื้นขึ้นมากลางดึกแล้วจะฆ่าตัวตายอีกฉินเย่ว์เจียวมีไหวพริบดี นางขัดขวางไม่ให้เฉินจินเซียงทำเรื่องโง่ ๆ ได้แต่นิสัยของฉินเย่ว์เจียวเป็นคนหัวร้อนและบุ่มบ่าม ปลอบคนไม่เป็นและโน้มน้าวใจคนไม่เป็นหากเฉินจินเซียงยังรั้นจะฆ่าตัวตาย ด้วยนิสัยของฉินเย่ว์เจียว นางคงจะใช้กำลังทำให้อีกฝ่ายสลบนางไม่เคยผ่านการฝึกฝน ฝีมือของนางไม่หนักไม่เบาฉินเย่ว์โหรวนั้นแตกต่างจากฉินเย่ว์เจียว นางมีนิสัยอ่อนโยนและละเอียดรอบคอบ น้ำเสียงของนางเบาเล็กและไพเราะน่าฟัง เขาจึงให้นางมาช่วยปลอบประโลมเฉินจินเซียง เหมาะสมที่สุดแล้ว “ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเหมือนกัน”เฉินฝานยังไม่ตอบตกลง ฉินเย่ว์ฉู่ก็รีบปีนขึ้นมาบนเตียงแล้ว“ก็ได้! “ฉินเย่ว์ฉู่ไม่เอ่ย เฉินฝานก็ตั้งใจจะทำแบบนั้นอยู่แล้วบุตรสาวคนโตของฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 212

    “อื้อ”ฉินเย่ว์ฉู่เดินออกมาอย่างไม่สบอารมณ์“นี่!” ฉินเย่ว์โหรวส่ายหน้า “ยิ่งอยู่ยิ่งทำตัวไม่เข้าท่า เพราะนายท่านนั่นแหละให้ท้ายนาง”“ใช่หรือ?”“ทำไมจะไม่ใช่.....”“เย่ว์โหรว เข้าเพิ่งทำน้ำแกงเต้าหู้หัวปลา เจ้าจะเรียนวิธีการทำไหม? พรุ่งนี้ข้าจะได้สอนเจ้า”“นายท่าน ท่านเปลี่ยนคำถามอีกแล้ว”“แล้วเจ้าจะเรียนหรือไม่? ข้านับหนึ่ง สอง สาม เจ้าไม่เรียนงั้นก็ช่างเถอะ”“หนึ่ง สอง.......”“เรียน ข้าเรียนอยู่แล้ว!”“เช่นนั้นก็อย่าบ่น”“นายท่าน......” ฉินเย่ว์โหรวแบะปากและขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจท่าทางกระเง้ากระงอนของฉินเย่ว์โหรวทั้งน่ารักทั้งมีเสน่ห์ เฉินฝานอยากจูบนางตอนนี้“แต่วันนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ เขายังมีเรื่องสำคัญต้องทำเฉินฝานทำอาหารอีกสองสามอย่างเขาตักน้ำแกงปลาไว้ชามหนึ่ง และวางลงบนจาน“พวกเจ้ากินกันก่อนเถอะ ไม่ต้องรอข้า”เฉินฝานยกน้ำแกงปลาในถาดเดินเข้าห้องด้านข้างไปหลังจากวางน้ำแกงปลาบนโต๊ะข้างเตียงแล้ว เฉินฝานก็นั่งลง จากนั้นก็ก้มมองเฉินจินเซียงที่ยังไม่ฟื้น ก่อนจะกล่าวเบา ๆ “ท่านอา วันนี้ข้าเข้าครัวเองเลยนะ”“ท่านคงจะได้ยินแล้ว ตอนนี้กิจการปลารุ่งเรืองมาก แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 213

    “แต่ เสี่ยวฝาน อาไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ”เฉินจินเซียงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นนางก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดพี่น้องตระกูลฉินที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงก็เตรียมจะวิ่งเข้ามา แต่กลับถูกเฉินฝานขวางไว้เวลานี้การปล่อยให้เฉินจินเซียงร้องไห้อย่างเต็มที่คือทางที่ดีที่สุดแล้ว ระบายความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ในใจออกมาให้หมดหลังจากเฉินจินเซียงหยุดร้องไห้ เฉินฝานก็ไม่ได้ถามอะไรนางอีก เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยกน้ำแกงปลามาให้ตรงหน้าของนาง“ท่านอา ท่านซดน้ำแกงปลาชามนี้ก่อนเถอะ ข้าลงมือทำครั้งแรกเชียวนะ ไม่รู้ว่าทำออกมาแล้วจะอร่อยถูกปากท่านอาหรือไม่ ท่านอาชิมแล้วช่วยแนะนำข้าด้วย”นี่เป็นน้ำแกงปลากับเต้าหู้ชามแรกที่เขาทำหลังจากข้ามเวลามาที่นี่หลังจากซดน้ำน้ำแกงไปได้สองสามคำ เฉินจินฝานก็หยุดชะงัก“ทำไม?” เฉินฝานเริ่มเป็นรกังวล “มันไม่อร่อยใช่หรือไม่?”“ไม่ใช่.....”จู่ ๆ เฉินจินเซียงก็ร้องไห้ออกมา แต่ครั้งนี้นางร้องไห้ด้วยรอยยิ้ม “พี่ชาย พี่สะใภ้ ตอนนี้เฝานเอ๋อร์ดีขึ้นแล้วจริง ๆ พวกท่านวางใจได้แล้วนะ”“นี่ ท่านอา ท่านทำข้าตกใจนะ ข้าจะจะลงโทษท่านด้วยการให้ซดน้ำแกงชามนี้ให้หมด”“ชามเดียวจะไปพออ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 214

    หลังจากได้ฟัง เฉินฝานก็รู้สึกถึงบางอย่างไม่ชอบมาพากล“แล้วเมื่อวานที่ท่านอาซื้อของกลับมามากมาย ท่านอาไปเอาเงินมาจากไหน?”เมื่อวานเขาได้ยินชาวบ้านในละแวกนี้พูดกันว่าสิ่งของที่เฉินจินเซียงนำกลับมาครั้งนี้มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา“ข้า....” มือทั้งสองข้างที่เฉินจินเซียงปล่อยลงข้างตัวเริ่มประสานกันอีกครั้งนางทั้งอึดอัดใจและกังวลใจในตอนนี้เองเฉินฝานก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าบนศีรษะของนางไม่มีเครื่องประดับสักชิ้นแล้วเป็นถึงภรรยาของตระกูลผู้มั่งคั่ง ไม่มีเครื่องประดับบนศีรษะได้อย่างไร“ท่านอา.....”เฉินฝานพยายามกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวลที่สุด “ท่านอานำเครื่องประดับเหล่านั้นไปจำนำแล้วใช่หรือไม่?”“ที่ไหนกัน ข้าแค่ไม่ได้ใส่มาเท่านั้น เพราะ.....”“ท่านอา!” เฉินฝานกุมมือของเฉินจินเซียงไว้ และกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าคือเสี่ยวฝานที่ท่านเคยรักมากที่สุด ท่านสามารถเล่าเรื่องที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้ข้าฟังได้ ข้าจะช่วยแก้ไขให้ท่านเอง”ช่วยเฉินจินเซียงเท่ากับช่วยให้กายนี้มีคุณค่ามากขึ้น“เสี่ยวฝาน!” นัยน์ตาของเฉินจินเซียงเปล่งประกาย“ขอรับ”เฉินจินเซียงก้มหน้าลง “ข้านำเครื่องประดับของข้าไปจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 215

    เฉินฝานพบกับผู้อาวุโสที่ดูแปลกประหลาดคนหนึ่ง เวลานี้เขากำลังสับสน เพราะเขากำลังยืนแต่งบทกวีบทหนึ่งเฉินฝานเดินทางออกจากหมู่บ้านซานเหอมายังหมู่บ้านต้ากู่กับเฉินจินเซียงในขณะที่พวกเขาเดินทางใกล้ถึงจุดหมายนั้น มีถนนที่ราบเรียบและค่อนข้างกว้างอยู่สายหนึ่งบนถนนสายนี้ เฉินฝานยังไม่เคยผ่านเส้นทางนี้มาก่อน นึกแปลกใจว่าทำไมในอำเภอผิงอันถึงมีถนนที่ดีเช่นนี้ เฉินจินเซียงจึงเล่าความเป็นมาของถนนสายนี้ให้เฉินฝานฟังถนนหลวงคือถนนที่ประชาชนร่วมกันสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อให้เหล่าขุนนางเมืองอื่นที่ได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ให้มาตรวจการได้เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น อำเภอผิงอันเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างยากจน โดยทั่วไปแล้วจะมีถนนหลวงที่ไม่ยาวนัก ถนนหลวงที่เฉินฝานเห็นในตอนนี้เป็นเพียงถนนเล็ก ๆ อ้อมอำเภอผิงเมืองเป็นเมืองต้าฟู่และอำเภอตูอัน!ถนนหลวงนั้นแตกต่างกัน ทิวทัศน์สองข้างทางนั้นงดงามกว่าทิวทัศน์ทั่วไปด้านขวางของถนนหลวง มีแม่น้ำต้าเจียงที่ปะปนกับก้อนน้ำแข็งสายหนึ่ง ตรงข้ามแม่น้ำเป็นยอดเขาที่ตัดสลับกันไม่สิ้นสุด ซึ่งบนยอดเขาเหล่านั้นถูกหิมะปกคลุม โดยมีต้นสนยืนต้นตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายลม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 216

    “ใต้เท้า แต่ถนนเส้นนั้นไม่ใช่ทางหลวง และไม่ผ่านอำเภอตูอันด้วย”“ตอนนี้ข้าไม่ได้ต้องการไปอำเภอตูอัน ไม่ต้องพูดให้มากความ รีบไปได้แล้ว!”“ขอรับใต้เท้า!” คนใช้ก็กระโดดขึ้นรถม้า“จริงสิ!”ผู้เฒ่าเลิกผ้าม่านของรถม้าขึ้น พูดกับคนรับใช้ว่า “เรียกข้าว่าคุณท่าน ไม่ต้องเรียกข้าว่าใต้เท้า!”“ขอรับ คุณท่าน”......“เสี่ยวฝาน!” เฉินจินเซียงเรียกเฉินฝานให้อยู่อย่างกะทันหันบนถนน“ท่านป้าท่านเหนื่อยแล้วใช่ไหม?” เฉินฝานหยุดการกระทำถามไถ่ด้วยความรีบร้อนเฉินจินเซียงส่ายหัวไปอย่างต่อเนื่อง “ถึงแม้ว่าป้าจะไม่เข้าใจบทกลอน ทว่าโคลงกลอนที่เจ้าท่องเมื่อครู่ รู้สึกมันดีจริงๆ เสี่ยวฝานเจ้าเขียนงั้นหรือ?”“ไม่ใช่แต่อย่างใด” เฉินฝานปฏิเสธอย่างรีบร้อน “นี่คือสิ่งที่หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถังเขียน”เฉินฝานไม่ได้สังเกต ไม่ใกล้จากตัวเขามากนัก มีรถม้าคันหนึ่งตามมา“หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถัง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถ ศีรษะเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย ในสมองค้นหาชื่อหลิ่วจงหยวนนี้“ราชวงศ์ถัง? อาณาจักรใดกัน หลิ่วจงหยวน? เป็นใครกัน?”“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับหลิ่วจงหยวนที่ประพันธ์บทกวีเก่งๆหรือไม่?” กลัวว่าตนเองแก่แล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 217

    ตอนที่นางเห็นความเห็นแก่ตัวความไม่แยแสไร้อารมณ์ของเฉินฟู่และเฉินเจียง นางก็แอบเอาข้อสอบมาซ่อนไว้ในแขนเสื้ออย่างลับๆเพราะข้อสอบพวกเขาบีบคั้นนางให้ถึงทางตันเช่นนั้นนางก็พกข้อสอบเดินทางมาด้วย ในฐานะที่เฉินจินเซียงเป็นลูกสาวของเฉินฟู่ พี่สาวของเฉินเจียง นี่เป็นเรื่องที่เคยอกตัญญูกับพวกเขาเพียงเรื่องเดียว “อ๋อ เข้าใจแล้ว” เฉินฝานพยักหน้านี่ก็เป็นของพวกเดียวกันกับพวกหนังสือเตรียมสอบหวงกังมี่ในยุคปัจจุบันหรือ?เฉินฝานก็นึกถึงเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหของเฉินเจียงต่อเฉินจินเซียงเมื่อคืน เพื่อข้อสอบอันนี้ล่ะสิ“ข้อสอบของสำนักบัณฑิตหลี่เสียง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถม้าจ้องไปที่ข้อสอบในมือเฉินจินเซียง สายตาไม่เมตตาอ่อนโยนเหมือนครู่อีกต่อไป เป็นสายตาถมึงทึง“คุณท่าน” คนใช้ก็สีหน้าจริงจัง “บอกพวกเขาลงมือหรือไม่”ณ เวลานี้ เฉินจินเซียงยัดข้อสอบใส่ในมือเฉินฝาน “เสี่ยวฝาน เจ้ารีบเอาไป มีสิ่งนี้ต้นฤดูใบไม้ผลิเจ้าต้องเข้าร่วมการสอบขุนนางได้อย่างแน่นอน”เฉินฝานรับข้อสอบมา แม้จะเหลือบมองก็ยังไม่ทำฉีกมันทิ้งในพริบตาเดียวเสียอย่างนั้น“เฮ้ย เสี่ยวฝาน เจ้า...” เฉินจินเซียงตื่นตกใจในขณะเวลาเดียวกั

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status