Share

บทที่ 213

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“แต่ เสี่ยวฝาน อาไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ”

เฉินจินเซียงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นนางก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

พี่น้องตระกูลฉินที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงก็เตรียมจะวิ่งเข้ามา แต่กลับถูกเฉินฝานขวางไว้

เวลานี้การปล่อยให้เฉินจินเซียงร้องไห้อย่างเต็มที่คือทางที่ดีที่สุดแล้ว ระบายความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ในใจออกมาให้หมด

หลังจากเฉินจินเซียงหยุดร้องไห้ เฉินฝานก็ไม่ได้ถามอะไรนางอีก เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยกน้ำแกงปลามาให้ตรงหน้าของนาง

“ท่านอา ท่านซดน้ำแกงปลาชามนี้ก่อนเถอะ ข้าลงมือทำครั้งแรกเชียวนะ ไม่รู้ว่าทำออกมาแล้วจะอร่อยถูกปากท่านอาหรือไม่ ท่านอาชิมแล้วช่วยแนะนำข้าด้วย”

นี่เป็นน้ำแกงปลากับเต้าหู้ชามแรกที่เขาทำหลังจากข้ามเวลามาที่นี่

หลังจากซดน้ำน้ำแกงไปได้สองสามคำ เฉินจินฝานก็หยุดชะงัก

“ทำไม?” เฉินฝานเริ่มเป็นรกังวล “มันไม่อร่อยใช่หรือไม่?”

“ไม่ใช่.....”

จู่ ๆ เฉินจินเซียงก็ร้องไห้ออกมา แต่ครั้งนี้นางร้องไห้ด้วยรอยยิ้ม “พี่ชาย พี่สะใภ้ ตอนนี้เฝานเอ๋อร์ดีขึ้นแล้วจริง ๆ พวกท่านวางใจได้แล้วนะ”

“นี่ ท่านอา ท่านทำข้าตกใจนะ ข้าจะจะลงโทษท่านด้วยการให้ซดน้ำแกงชามนี้ให้หมด”

“ชามเดียวจะไปพออ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 214

    หลังจากได้ฟัง เฉินฝานก็รู้สึกถึงบางอย่างไม่ชอบมาพากล“แล้วเมื่อวานที่ท่านอาซื้อของกลับมามากมาย ท่านอาไปเอาเงินมาจากไหน?”เมื่อวานเขาได้ยินชาวบ้านในละแวกนี้พูดกันว่าสิ่งของที่เฉินจินเซียงนำกลับมาครั้งนี้มากกว่าหลายปีที่ผ่านมา“ข้า....” มือทั้งสองข้างที่เฉินจินเซียงปล่อยลงข้างตัวเริ่มประสานกันอีกครั้งนางทั้งอึดอัดใจและกังวลใจในตอนนี้เองเฉินฝานก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าบนศีรษะของนางไม่มีเครื่องประดับสักชิ้นแล้วเป็นถึงภรรยาของตระกูลผู้มั่งคั่ง ไม่มีเครื่องประดับบนศีรษะได้อย่างไร“ท่านอา.....”เฉินฝานพยายามกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวลที่สุด “ท่านอานำเครื่องประดับเหล่านั้นไปจำนำแล้วใช่หรือไม่?”“ที่ไหนกัน ข้าแค่ไม่ได้ใส่มาเท่านั้น เพราะ.....”“ท่านอา!” เฉินฝานกุมมือของเฉินจินเซียงไว้ และกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าคือเสี่ยวฝานที่ท่านเคยรักมากที่สุด ท่านสามารถเล่าเรื่องที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้ข้าฟังได้ ข้าจะช่วยแก้ไขให้ท่านเอง”ช่วยเฉินจินเซียงเท่ากับช่วยให้กายนี้มีคุณค่ามากขึ้น“เสี่ยวฝาน!” นัยน์ตาของเฉินจินเซียงเปล่งประกาย“ขอรับ”เฉินจินเซียงก้มหน้าลง “ข้านำเครื่องประดับของข้าไปจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 215

    เฉินฝานพบกับผู้อาวุโสที่ดูแปลกประหลาดคนหนึ่ง เวลานี้เขากำลังสับสน เพราะเขากำลังยืนแต่งบทกวีบทหนึ่งเฉินฝานเดินทางออกจากหมู่บ้านซานเหอมายังหมู่บ้านต้ากู่กับเฉินจินเซียงในขณะที่พวกเขาเดินทางใกล้ถึงจุดหมายนั้น มีถนนที่ราบเรียบและค่อนข้างกว้างอยู่สายหนึ่งบนถนนสายนี้ เฉินฝานยังไม่เคยผ่านเส้นทางนี้มาก่อน นึกแปลกใจว่าทำไมในอำเภอผิงอันถึงมีถนนที่ดีเช่นนี้ เฉินจินเซียงจึงเล่าความเป็นมาของถนนสายนี้ให้เฉินฝานฟังถนนหลวงคือถนนที่ประชาชนร่วมกันสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อให้เหล่าขุนนางเมืองอื่นที่ได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ให้มาตรวจการได้เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น อำเภอผิงอันเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างยากจน โดยทั่วไปแล้วจะมีถนนหลวงที่ไม่ยาวนัก ถนนหลวงที่เฉินฝานเห็นในตอนนี้เป็นเพียงถนนเล็ก ๆ อ้อมอำเภอผิงเมืองเป็นเมืองต้าฟู่และอำเภอตูอัน!ถนนหลวงนั้นแตกต่างกัน ทิวทัศน์สองข้างทางนั้นงดงามกว่าทิวทัศน์ทั่วไปด้านขวางของถนนหลวง มีแม่น้ำต้าเจียงที่ปะปนกับก้อนน้ำแข็งสายหนึ่ง ตรงข้ามแม่น้ำเป็นยอดเขาที่ตัดสลับกันไม่สิ้นสุด ซึ่งบนยอดเขาเหล่านั้นถูกหิมะปกคลุม โดยมีต้นสนยืนต้นตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายลม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 216

    “ใต้เท้า แต่ถนนเส้นนั้นไม่ใช่ทางหลวง และไม่ผ่านอำเภอตูอันด้วย”“ตอนนี้ข้าไม่ได้ต้องการไปอำเภอตูอัน ไม่ต้องพูดให้มากความ รีบไปได้แล้ว!”“ขอรับใต้เท้า!” คนใช้ก็กระโดดขึ้นรถม้า“จริงสิ!”ผู้เฒ่าเลิกผ้าม่านของรถม้าขึ้น พูดกับคนรับใช้ว่า “เรียกข้าว่าคุณท่าน ไม่ต้องเรียกข้าว่าใต้เท้า!”“ขอรับ คุณท่าน”......“เสี่ยวฝาน!” เฉินจินเซียงเรียกเฉินฝานให้อยู่อย่างกะทันหันบนถนน“ท่านป้าท่านเหนื่อยแล้วใช่ไหม?” เฉินฝานหยุดการกระทำถามไถ่ด้วยความรีบร้อนเฉินจินเซียงส่ายหัวไปอย่างต่อเนื่อง “ถึงแม้ว่าป้าจะไม่เข้าใจบทกลอน ทว่าโคลงกลอนที่เจ้าท่องเมื่อครู่ รู้สึกมันดีจริงๆ เสี่ยวฝานเจ้าเขียนงั้นหรือ?”“ไม่ใช่แต่อย่างใด” เฉินฝานปฏิเสธอย่างรีบร้อน “นี่คือสิ่งที่หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถังเขียน”เฉินฝานไม่ได้สังเกต ไม่ใกล้จากตัวเขามากนัก มีรถม้าคันหนึ่งตามมา“หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถัง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถ ศีรษะเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย ในสมองค้นหาชื่อหลิ่วจงหยวนนี้“ราชวงศ์ถัง? อาณาจักรใดกัน หลิ่วจงหยวน? เป็นใครกัน?”“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับหลิ่วจงหยวนที่ประพันธ์บทกวีเก่งๆหรือไม่?” กลัวว่าตนเองแก่แล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 217

    ตอนที่นางเห็นความเห็นแก่ตัวความไม่แยแสไร้อารมณ์ของเฉินฟู่และเฉินเจียง นางก็แอบเอาข้อสอบมาซ่อนไว้ในแขนเสื้ออย่างลับๆเพราะข้อสอบพวกเขาบีบคั้นนางให้ถึงทางตันเช่นนั้นนางก็พกข้อสอบเดินทางมาด้วย ในฐานะที่เฉินจินเซียงเป็นลูกสาวของเฉินฟู่ พี่สาวของเฉินเจียง นี่เป็นเรื่องที่เคยอกตัญญูกับพวกเขาเพียงเรื่องเดียว “อ๋อ เข้าใจแล้ว” เฉินฝานพยักหน้านี่ก็เป็นของพวกเดียวกันกับพวกหนังสือเตรียมสอบหวงกังมี่ในยุคปัจจุบันหรือ?เฉินฝานก็นึกถึงเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหของเฉินเจียงต่อเฉินจินเซียงเมื่อคืน เพื่อข้อสอบอันนี้ล่ะสิ“ข้อสอบของสำนักบัณฑิตหลี่เสียง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถม้าจ้องไปที่ข้อสอบในมือเฉินจินเซียง สายตาไม่เมตตาอ่อนโยนเหมือนครู่อีกต่อไป เป็นสายตาถมึงทึง“คุณท่าน” คนใช้ก็สีหน้าจริงจัง “บอกพวกเขาลงมือหรือไม่”ณ เวลานี้ เฉินจินเซียงยัดข้อสอบใส่ในมือเฉินฝาน “เสี่ยวฝาน เจ้ารีบเอาไป มีสิ่งนี้ต้นฤดูใบไม้ผลิเจ้าต้องเข้าร่วมการสอบขุนนางได้อย่างแน่นอน”เฉินฝานรับข้อสอบมา แม้จะเหลือบมองก็ยังไม่ทำฉีกมันทิ้งในพริบตาเดียวเสียอย่างนั้น“เฮ้ย เสี่ยวฝาน เจ้า...” เฉินจินเซียงตื่นตกใจในขณะเวลาเดียวกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 218

    การสอบถงเซิงของต้าชิ่งสอบแค่ “เถี่ยจิง” กับ “เวิ่นอี้” พูดตรงๆก็คือการท่องจำตำราใครท่องจำตำราได้เยอะก็ยิ่งเก่งกาจดังนั้น เฉินไปเรียนที่สถานศึกษาสิบวัน ก็ได้ยินพวกปัญญาชนที่สถานศึกษาท่องจำตำราพวกนั้นสิบวันความจำของเฉินฝานไม่แย่ ตำราที่พวกปัญญาชนอ่าน เขาท่องจำได้ทั้งหมดแล้ว ตำราที่พวกปัญญาชนยังไม่ได้อ่าน ก็เป็นตำราที่ขายในร้านหนังสือของเขา เขาก็ท่องจำได้ทั้งหมดแล้วเนื่องด้วยปีนี้ผู้ชายมีจำนวนน้อย กำลังทหารด่านชายแดนไม่เพียงพอ ฮ่องเต้ต้าชิ่งออกคำสั่งให้ลดจำนวนปัญญาชนมาจากการสอบขุนนางหลังจากที่หัวหน้าเลขาฝ่ายพิธีการได้รับคำสั่ง ก็เริ่มเพิ่มระดับความยากของข้อสอบขุนนางขนานใหญ่ คือข้อสอบที่ออกนับวันยิ่งเล่ห์เหลี่ยม นับวันยิ่งออกทะเลไปเรื่อยๆตำราที่พวกปัญญาชนต้องท่องจำเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนมากกว่าสิบเท่าความจำของคนมีขีดจำกัด ปัญญาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถท่องจำตำรามากโขเช่นนั้นได้ ดังนั้นการเดาหัวข้อที่สำนักบัณฑิตหลี่เสียงออกเสียงให้แม่นยำเสียหน่อย กลายเป็นสิ่งนิยมชมชอบในหมู่ปัญญาชนรัชสมัยต้าชิ่งทว่ามีคนกลับไม่ชอบสำนักบัณฑิตหลี่เสียงนี้เป็นอย่างมากนั่นก็คือกลุ่มขุนนางของฝ่ายพิธีกา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 219

    “เสี่ยวฝาน ด้านหน้าก็คือหมู่บ้านต้ากู่แล้ว”เฉินฝานเงยหน้าทอดสายตาออกไป หมู่บ้านหนึ่งที่ใหญ่หมู่บ้านซานเหอมากกว่าสองเท่าตกกระทบสะท้อนเข้าไปในม่านตาของเขาในหมู่บ้านซานเหอบ้านกระเบื้องอิฐสีดำค่อนข้างน้อย หมู่บ้านต้ากู่กลับมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหมู่บ้านต้ากู่ไม่เพียงแต่ใหญ่กว่าหมู่บ้านซานเหอเท่านั้น ยังมีมหาเศรษฐีมากกว่าหมู่บ้านซานเหออย่างมหาศาลด้านหน้าหมู่บ้านต้ากู่ เป็นที่นาราบเรียบผืนใหญ่เฉินฝานมองที่นาผืนใหญ่ผืนนั้น ในใจก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาอย่างช่วยไม่ได้ที่ดินมากมายขนาดนั้น ไม่ร่ำรวยก็ล้วนเป็นเรื่องทรวงสวรรค์อภัยไม่ได้แล้วตอนที่เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เฉินฝานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเฉินจินเซียงสั่นเทาเล็กน้อย“ท่านป้า หลานอยู่ที่นี้ อย่ากลัวไปเลย”เฉินจินเซียงหันหลังกลับมามองเด็กหนุ่มด้านหลังตนเองเด็กหนุ่มนี่ไม่ซึมเซาแบบที่นางเห็นเมื่อครึ่งปีก่อนอีกแล้วตอนนี้ ร่างกายยืนตรงตระหง่าน แววตาสุกสกาวมีจิตวิญญาณ มีความมุ่งมั่น ท่าทางสง่าผ่าเผยเฉินจินเซียงยิ้มอย่างหมดห่วง “มีเสี่ยวฝานอยู่ ป้าไม่กลัวแล้ว!”“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าหมู่บ้านกัน!”......ห่าง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 220

    “รถม้าเจ้าก็จงใจทำให้มันตกลงไปในแอ่งน้ำล่ะสิ”ผู้เฒ่าอึ้งอีกครั้ง ความคิดในใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่กว่าเดิมเด็กหนุ่มคนนี้เขาไม่สามารถพลาดไปได้“น้องชายไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆเสียด้วย...”“ว่าไงนะ?” เฉินจินเซียงตกใจกว่าเดิม “พวกเจ้าก็จงใจทำให้รถม้าตกลงไปในแอ่ง?”ผู้เฒ่ายิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย “พวกเราจงใจจริงๆ”“เหตุใดต้องทำเช่นนี้ พูดถึงเรื่องนี้ เหตุใดพวกเจ้าต้องตามพวกเรา?” เฉินจินเซียงสีหน้างุนงง“ข้า พวกข้า...” ผู้เฒ่าติดอ่างเล็กน้อยคนใช้ที่ยืนข้างกายผู้เฒ่า รู้สึกว่าหูของตัวเองมีปัญหามิเช่นนั้น เหตุใดได้ยินผู้เฒ่าติดอ่างคาดไม่ถึงเลยว่าคุณท่านของเขาจะติดอ่างคุณท่านของเขาทว่าทุกวันนี้...“พวกเราหลงทาง”ผู้เฒ่ายังติดอ่าง คนรับใช้ทนไม่ได้ที่จะพูด“ใช่ๆ!” ผู้เฒ่าพยักหน้ารัวๆ “พวกเราหลงทาง ดังนั้นก็ขับตามพวกเจ้ามาตลอดทาง เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าจะเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ข้าจะเอารถลงไปในแอ่งน้ำ หลังจากที่น้องชายมาช่วยแล้ว ค่อยให้ค่าตอบแทน หวังว่าน้องชายจะพาพวกเราออกจากเส้นทางนี้ได้”“โอ้...เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ?” เฉินฝานกอดอกน้ำเสียงดูไม่ได้ใส่ใจ“ใช่แล้ว ใช่แล้ว” ผู้เฒ่าไม่กล้าสบตากั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 221

    “ยามพูดรู้จักคิดบ้างไหม” ชายชราเตะบ่าวรับใช้บ่าวรับใช้ลูบบั้นท้ายของตนที่ถูกเตะ พูดพึมพำเสียงเบา “ก็เป็นเรื่องจริงหนิ ข้าน้อยพูดผิดหรือ”“ต้องตามติดแบบนั้นแหละ คลาดกันขึ้นมาจะทำอย่างไร?”ชายชราไม่ได้สนใจบ่าวรับใช้อีก เขาเปิดม่านบนรถม้า สายตาจับจ้องไปยังเฉินฝานที่กำลังเดินเข้าเรือนตระกูลหวัง…“นายท่าน ฮูหยิน คุณชาย”เฉินฝานกับเฉินจินเซียงเพิ่งเดินเข้าไปในตระกูลหวัง บ่าวรับใช้ตระกูลหวังก็รีบไปรายงานที่โถงหลักทันที“นายหญิงกลับมาแล้วขอรับ!”“นางกลับมาแล้วหรือ?” หวังหยวนหลงที่กำลังกินถั่วลิสงเงยหน้าขึ้น “ขโมยของในเรือนไป ยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ?”“กลับมาก็ดีเหมือนกัน พวกเราจะได้ไม่ต้องส่งใบหย่าไปให้อีก” คำพูดของฮูหยินหวังนางมั่ว ใจจืดใจดำเหมือนกับใบหน้าของนาง“นางกลับมาคนเดียวหรือ?” เทียบกันแล้วน้ำเสียงของหวังเจิ้งเจ๋อคุณท่านตระกูลหวังอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย“มีชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบมากับนางหนึ่งคนขอรับ”“เฉินเจียงหรือ?”จิ้งจอกชราเจ้าเล่ห์หวังเจิ้งเต๋อเริ่มวางแผนหากเฉินเจียงมากับเฉินจินเซียง เช่นนั้นสามารถยกเลิกการหย่าร้างกับเฉินจินเซียงมาเป็นข้อต่อรองได้ ให้เฉินเจียงรับปาก

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status