แชร์

บทที่ 219

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“เสี่ยวฝาน ด้านหน้าก็คือหมู่บ้านต้ากู่แล้ว”

เฉินฝานเงยหน้าทอดสายตาออกไป หมู่บ้านหนึ่งที่ใหญ่หมู่บ้านซานเหอมากกว่าสองเท่าตกกระทบสะท้อนเข้าไปในม่านตาของเขา

ในหมู่บ้านซานเหอบ้านกระเบื้องอิฐสีดำค่อนข้างน้อย หมู่บ้านต้ากู่กลับมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหมู่บ้านต้ากู่ไม่เพียงแต่ใหญ่กว่าหมู่บ้านซานเหอเท่านั้น ยังมีมหาเศรษฐีมากกว่าหมู่บ้านซานเหออย่างมหาศาล

ด้านหน้าหมู่บ้านต้ากู่ เป็นที่นาราบเรียบผืนใหญ่

เฉินฝานมองที่นาผืนใหญ่ผืนนั้น ในใจก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาอย่างช่วยไม่ได้

ที่ดินมากมายขนาดนั้น ไม่ร่ำรวยก็ล้วนเป็นเรื่องทรวงสวรรค์อภัยไม่ได้แล้ว

ตอนที่เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เฉินฝานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเฉินจินเซียงสั่นเทาเล็กน้อย

“ท่านป้า หลานอยู่ที่นี้ อย่ากลัวไปเลย”

เฉินจินเซียงหันหลังกลับมามองเด็กหนุ่มด้านหลังตนเอง

เด็กหนุ่มนี่ไม่ซึมเซาแบบที่นางเห็นเมื่อครึ่งปีก่อนอีกแล้ว

ตอนนี้ ร่างกายยืนตรงตระหง่าน แววตาสุกสกาวมีจิตวิญญาณ มีความมุ่งมั่น ท่าทางสง่าผ่าเผย

เฉินจินเซียงยิ้มอย่างหมดห่วง “มีเสี่ยวฝานอยู่ ป้าไม่กลัวแล้ว!”

“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าหมู่บ้านกัน!”

......

ห่าง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Maiy Maiy W
อัฟเดทแค่วันละตอนน้อยไปครับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 220

    “รถม้าเจ้าก็จงใจทำให้มันตกลงไปในแอ่งน้ำล่ะสิ”ผู้เฒ่าอึ้งอีกครั้ง ความคิดในใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่กว่าเดิมเด็กหนุ่มคนนี้เขาไม่สามารถพลาดไปได้“น้องชายไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆเสียด้วย...”“ว่าไงนะ?” เฉินจินเซียงตกใจกว่าเดิม “พวกเจ้าก็จงใจทำให้รถม้าตกลงไปในแอ่ง?”ผู้เฒ่ายิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย “พวกเราจงใจจริงๆ”“เหตุใดต้องทำเช่นนี้ พูดถึงเรื่องนี้ เหตุใดพวกเจ้าต้องตามพวกเรา?” เฉินจินเซียงสีหน้างุนงง“ข้า พวกข้า...” ผู้เฒ่าติดอ่างเล็กน้อยคนใช้ที่ยืนข้างกายผู้เฒ่า รู้สึกว่าหูของตัวเองมีปัญหามิเช่นนั้น เหตุใดได้ยินผู้เฒ่าติดอ่างคาดไม่ถึงเลยว่าคุณท่านของเขาจะติดอ่างคุณท่านของเขาทว่าทุกวันนี้...“พวกเราหลงทาง”ผู้เฒ่ายังติดอ่าง คนรับใช้ทนไม่ได้ที่จะพูด“ใช่ๆ!” ผู้เฒ่าพยักหน้ารัวๆ “พวกเราหลงทาง ดังนั้นก็ขับตามพวกเจ้ามาตลอดทาง เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าจะเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ข้าจะเอารถลงไปในแอ่งน้ำ หลังจากที่น้องชายมาช่วยแล้ว ค่อยให้ค่าตอบแทน หวังว่าน้องชายจะพาพวกเราออกจากเส้นทางนี้ได้”“โอ้...เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ?” เฉินฝานกอดอกน้ำเสียงดูไม่ได้ใส่ใจ“ใช่แล้ว ใช่แล้ว” ผู้เฒ่าไม่กล้าสบตากั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 221

    “ยามพูดรู้จักคิดบ้างไหม” ชายชราเตะบ่าวรับใช้บ่าวรับใช้ลูบบั้นท้ายของตนที่ถูกเตะ พูดพึมพำเสียงเบา “ก็เป็นเรื่องจริงหนิ ข้าน้อยพูดผิดหรือ”“ต้องตามติดแบบนั้นแหละ คลาดกันขึ้นมาจะทำอย่างไร?”ชายชราไม่ได้สนใจบ่าวรับใช้อีก เขาเปิดม่านบนรถม้า สายตาจับจ้องไปยังเฉินฝานที่กำลังเดินเข้าเรือนตระกูลหวัง…“นายท่าน ฮูหยิน คุณชาย”เฉินฝานกับเฉินจินเซียงเพิ่งเดินเข้าไปในตระกูลหวัง บ่าวรับใช้ตระกูลหวังก็รีบไปรายงานที่โถงหลักทันที“นายหญิงกลับมาแล้วขอรับ!”“นางกลับมาแล้วหรือ?” หวังหยวนหลงที่กำลังกินถั่วลิสงเงยหน้าขึ้น “ขโมยของในเรือนไป ยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ?”“กลับมาก็ดีเหมือนกัน พวกเราจะได้ไม่ต้องส่งใบหย่าไปให้อีก” คำพูดของฮูหยินหวังนางมั่ว ใจจืดใจดำเหมือนกับใบหน้าของนาง“นางกลับมาคนเดียวหรือ?” เทียบกันแล้วน้ำเสียงของหวังเจิ้งเจ๋อคุณท่านตระกูลหวังอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย“มีชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบมากับนางหนึ่งคนขอรับ”“เฉินเจียงหรือ?”จิ้งจอกชราเจ้าเล่ห์หวังเจิ้งเต๋อเริ่มวางแผนหากเฉินเจียงมากับเฉินจินเซียง เช่นนั้นสามารถยกเลิกการหย่าร้างกับเฉินจินเซียงมาเป็นข้อต่อรองได้ ให้เฉินเจียงรับปาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 222

    #แรกเริ่ม หลิ่วหรูเยียนได้ยินบ่าวรับใช้บอกว่ามีชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับเฉินจินเซียง นางผิดหวังเล็กน้อยเพราะนางคิดว่าเป็นเฉินเจียง หลิ่วหรูเยียนเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก รู้ว่าหวังเจิ้งเต๋อยังคงเห็นความสำคัญของเฉินเจียง ให้เกียรติเฉินเจียงเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือเฉินฝานไม่ใช่เฉินเจียง หลิ่วหรูเยียนดีใจมากเฉินจินเซียงหนอเฉินจินเซียง เจ้าช่างโง่เขลายิ่งนัก พาคนไม่เอาถ่านเช่นนี้กลับมา คิดว่าจะช่วยสนับสนุนตนได้ ช่างน่าขันจริงๆ“พี่หญิง เหตุใดยังยืนบื้ออยู่อีก ขืนยังไม่ไป วันนี้เสื้อผ้าไม่แห้งแน่”อนุภรรยาหยามเกียรติภรรยาเอก นี่เป็นความผิดร้ายแรงแต่แม่สามีนางมั่วกลับแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น นางยังคงรักษาภาพลักษณ์พื้นฐานของแม่สามี เรื่องเลวร้ายที่สุดให้คนอื่นทำ“เจ้าหูหนวกหรือ? ไม่ได้ยินหรือ? รีบไปซัก...”“ไปซักบ้าบออะไร!”เฉินฝานก้าวเท้าฉับๆ เดินไปหา คว้าถ้วยน้ำชาที่วางไว้ข้างหวังหยวนหลวง แล้วราดลงบนศีรษะของหวังหยวนหลง“อ๊าก!”หวังหยวนหลงเงยหน้าขึ้นร้องตะโกนเสียงดัง“ใช้กำลัง มีคนใช้กำลัง” หลิ่วหรูเยียนตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีนางมั่วที่นั่งอยู่ด้านบนตกใจจนพูดไม่ออก“เสี่ยวฝาน” เฉินจินเซียงก็ตก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 223

    โถงตระกูลหวัง“โอ๊ย โอ๊ย”ผู้คุ้มกันตระกูล บ้างก็นอนหงาย บ้างก็นอนราบ บ้างก็นอนขดตัว บ้างก็คุกเข่าล้มลงบนพื้น พวกเขาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดใบหน้าของผู้คุมกันบนพื้นฟกช้ำดำเขียว แต่เฉินฝานกลับไม่มีสิ่งใดแตกต่างจากตอนที่เพิ่งเดินเข้าตระกูลหวัง ผมเรียบ หายใจเป็นจังหวะเฉินฝานกวาดมองผู้คุ้มกันบนพื้นด้วยแววตาเย็นชา “ยังมีใครคิดจะสู้อีกไหม”ผู้คุ้มกันเหล่านั้น บ้างปิดหน้า บ้างก้มหน้า กลัวทำให้เฉินฝานสนใจ บ้างถึงขั้นเริ่มคลานออกไปข้างนอก“พวกเจ้าทำอะไรอยู่ ตระกูลหวังจ่ายเงินมากมาย เลี้ยงคนไม่เอาไหนอย่างพวกเจ้าเนี่ยนะ? รีบลุกขึ้นมาสู้กันมันเดี๋ยวนี้!”หวังหยวนหลงกุมศีรษะที่ถูกเฉินฝานเอากาน้ำชาฟาดจนเจ็บ ตะคอกผู้คุ้มกันเหล่านั้นแต่เขายิ่งตะคอก ผู้คุ้มกันพวกนั้นยิ่งคลานเร็วขึ้นหวังเจิ้งเต๋อที่อยู่นอกห้องโถงก็พยายามหยุดเช่นเดียวกัน แต่ก็ไร้ประโยชน์ พวกเขาถูกต่อยตีจนกลัวแล้วจริงๆทุกกระบวนท่าของเฉินฝาน มองดูธรรมดามาก แต่ทุกครั้งที่สัมผัสร่างกายของพวกเขา เจ็บปวดอย่างมาก“ไม่เอาไหน ไม่เอาไหนจริงๆ หนีอะไรฮะ กลับมาเดี๋ยวนี้”เสียงของหวังหยวนหลง ดังก้องในหู น่ารำคาญยิ่งนักเฉินฝานหันหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 224

    พ่อตา แม่ยาย สามีพร้อมใจขอให้ยกโทษ แต่เฉินจินเซียงกลับเงียบตลอดหลายปีที่ผ่านมานางมองทะลุปรุโปร่งแล้วตระกูลหวังตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ไม่มีใครเชื่อได้สักคนในฐานะจิ้งจอกชราเจ้าเล่ห์ หวังเจิ้งเต๋อย่อมเดาความกังวลของเฉินจินเซียงได้“จินเซียง ข้าให้หยวนหลงเขียนหนังสือรับประกันให้เจ้า ไม่ใช่แค่หยวนหลง ข้าและแม่สามีของเจ้าก็เขียนเช่นเดียวกัน รับประกันว่าหลังจากนี้ตระกูลหวังจะปฏิบัติกับเจ้าและครอบครัวเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”“นายท่าน!”“ท่านมั่ว!”นางมั่วกับหวังหยวนหลงมองไปทางหวังเจิ้งเต๋อพร้อมกัน พวกนางไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของหวังเจิ้งเต๋อทำดีกับเฉินจินเซียงคนเดียวก็พอแล้ว เหตุใดต้องดึงเอาครอบครัวของนางมาเกี่ยวด้วยโดยเฉพาะคนตรงหน้าอย่างเฉินฝานทั้งจนและเกียจคร้าน เป็นคนไม่เอาไหน อนาคตต้องสร้างปัญหาให้ครอบครัวคนอื่นแน่นอนราวกับหวังเจิ้งเต๋อไม่ได้ยินเสียงภรรยาและลูก เขายังคงพูดต่อ อีกทั้งครั้งนี้เขาพูดกับเฉินฝาน “หนังสือรับประกันนี้แบ่งเป็นสามฉบับ ทั้งข้า หยวนหลง แม่ของหยวนหลงล้วนประทับรอยนิ้วมือ โดยสามฉบับนี้แบ่งเป็นของครอบครัวข้าหนึ่งฉบับ จินเซียงหนึ่งฉบับ ส่วนอีกหนึ่งฉบั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 225

    “เร็วเข้า! มิเช่นนั้นไม่ทันแล้ว”เห็นเฉินฝานยืนนิ่ง สีหน้าของเฉินจินเซียงฉายความกระวนกระวาย“หนี? ฮ่าๆ!”หวังหยวนหลงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าคิดว่าเขาหนีรอดหรือ?”“ใครก็ได้! นำกาน้ำชาเข้ามาให้ข้าสักสี่ห้าใบสิ!”เมื่อครู่เฉินฝานตีเขาอย่างไร ประเดี๋ยวเขาก็จะตีเฉินฝานแบบนั้น ทั้งยังจะทวีคูณค่อยๆ ทรมานเขา ไม่ให้เขาตายในทันที“ท่านอา อย่ากลัว”เห็นเฉินจินเซียงกระวนกระวาย เฉินฝานปลอบโยนนาง“อาไม่กลัว แต่อาไม่อยากทำให้เจ้าเดือดร้อน พวกเขาตามปลัดอำเภอมาแน่ๆ ปลัดอำเภอเป็นญาติของหวังหยวนหลง เมื่อครู่เจ้าตี...”เวลานี้เฉินจินเซียงเกลียดตัวเองมาก หากเมื่อวานนางไม่ลังเล รีบกระโดดลงหน้าผา ก็ไม่มีเรื่องวันนี้แล้ว“ปลัดอำเภอ?”“ใช่ เขาคือน้าของข้า!”คนที่ตอบเฉินฝานคือหวังหยวนหลง เขาที่ใบหน้าเปื้อนเลือด มองแล้วโหดเหี้ยมยิ่งนัก “คุกเข่า คุกเข่าขอร้องข้า อื้ม แบบนี้ก็แล้วกัน”หวังหยวนหลงยื่นเท้าออกไปข้างหนึ่ง “เจ้าคุกเข่าขอร้องข้า พร้อมเลียขาข้าให้สะอาด ข้าจะไม่ให้ท่านน้าเอาตัวเจ้าไป”เฉินฝานมองรถม้าที่ยังคงจอดหน้าตระกูลหวังปราดหนึ่งชายชราบนรถม้า สีหน้านิ่งสงบ เมื่อเห็นเฉินฝานมองเขา เข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 226

    เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”มือปราบหน้าตาเหี้ยมโหดคนหนึ่ง พูดกับสารถีชรา “เขาเป็นปลัดอำเภอของเรา เจ้ากล้าสั่งให้ใต้เท้าหลีกทางให้ม้าของเจ้าหรือ?”“อ่อ” สีหน้าสารถีชราฉายความตกตะลึง เขามองปลัดอำเภอ “ท่านคือปลัดอำเภอของอำเภอผิงอันหรือ!”ขณะพูด สารถีชราหันไปพูดกับชายชราในรถม้า “นายท่าน เขาคือปลัดอำเภอผิงอันขอรับ!”“สามหาว!”มือปราบคนนั้นตำหนิอีกครั้ง “ในเมื่อรู้ว่าเป็นท่านใต้เท้า ยังไม่รีบเคลื่อนรถม้าของพวกเจ้าไปข้างๆ แล้วลงจากรถม้ามาคุกเข่าคำนับท่านใต้เท้าอีก”ชายชราจับหู “เจ้าพูดอะไร? ข้าฟังไม่ค่อยชัด พูดอีกรอบสิ”“พวกเขาบอกว่า” สารถีชราชี้ไปยังปลัดอำเภอที่นั่งอยู่บนหลังม้า “ท่านผู้นั้นคือปลัดอำเภอผิงอัน ให้พวกเราลงจากรถม้าไปคุกเข่าคำนับขอรับ ท่านว่าพวกเราต้องคุกเข่าหรือไม่?”“อะไรนะ? แพง? แค่จอดรถก็เรียกเงินด้วยหรือ” ชายชราหยิบตราคำสั่งสีทองขึ้นมา ยื่นให้สารถี “เจ้าดูสิว่าพอไหม?”“นายท่าน...” สารถีจ้องมองตราคำสั่งนั่น ลังเลครู่หนึ่ง ค่อยยื่นมือไปรับ“เอ๊ะ!”มือของสารถีเพิ่งสัมผัสตราคำสั่ง ชายชราก็ถอนกลับไป “เจ้านี่ ทั้งที่ตนเองก็มีตราคำสั่งเหมือนกันไม่ใช่หรือไง”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 227

    ปลัดอำเภอเดินไปตรงหน้าชายชรา เสียงอ่อนมาโดยตลอด ทั้งยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้น “นายท่าน ท่านมีอะไรให้รับใช้ขอรับ?”“เจ้าเดินเข้ามาใกล้อีกหน่อย”ไม่รู้ว่าชายชราพูดอะไรกับปลัดอำเภอ เห็นเพียงสีหน้าของปลัดอำเภอแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวหลังจากชายชราสนทนากับปลัดอำเภอจบ หันไปบอกสารถี “เอาตราคำสั่งของเจ้าให้เขา!”“ขอรับ?”สารถีป้องตราคำสั่งที่ห้อยไว้บนเอว “เพราะเหตุใดขอรับ?”“สั่งให้เจ้าให้ก็ให้สิ พูดร่ายยาวจริงๆ”สารถีไม่ค่อยยินดีที่จะให้เท่าใดนัก เขายื่นตราคำสั่งของตนให้ปลัดอำเภอปลัดอำเภอโค้งลำตัว รับตราคำสั่งสีเงินจากสารถีเขาเพิ่งรับตราคำสั่ง หวังเจิ้งเต๋อก็พาคนเดินออกมาจากตระกูลหวังเมื่อเห็นหวังเจิ้งเต๋อ ชายชราส่งสายตาให้อำเภอทันที บอกให้เขาอย่าเอะอะโวยวายสารถีเปลี่ยนสีหน้าจากเคร่งขรึมเมื่อครู่ กลายมาเป็นชายชราต่ำต้อยที่ขับรถม้า“ไอ้แก่นี่ ตาบอดหรืออย่างไร ถึงขี่รถม้ามาจอดหน้าเรือนข้า”ทันทีที่หวังเจิ้งเต๋อมาถึงก็ด่าทอสารถีฉอดๆปลัดอำเภอหันไปอีกทาง เขาไม่กล้ามองภาพนี้จริงๆชายชรามีคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงไม่อาจพูดอะไร“ขอโทษขอรับ ขอโทษขอรับ” สารถีก้มหน้าขอโทษด้วยความอ่อนน้อม “ข้าแก่

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1022

    ลักพาตัวอ๋องแคว้นจ้าวต่อหน้าต่อตาองครักษ์หนึ่งหมื่นกว่าคน และยังสามารถทำให้เขายอมถอยทัพแต่โดยดี จะต้องมิใช่การประเมินศัตรูต่ำไปเพียงอย่างเดียวแน่นอนใต้เท้าด้านนอกผู้นั้นจะต้องมีวรยุทธ์และสติปัญญาเหนือมนุษย์เป็นแน่ได้ยินว่า เขามีสิ่งของที่เป็นเหล็กปลายแหลมสามารถโจมตีได้ น่าหวาดกลัวอย่างมาก สามารถต่อกรกับศัตรูจำนวนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวดังนั้น เฉินฝานต้องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจึงมาเยือนต่อให้มิมีความมั่นใจว่าจะชนะได้ ทว่าพวกเขาก็ต้องมั่นใจว่าตนเองจะสามารถถอยกลับได้อย่างปลอดภัยแน่นอนหากล่าถอยไปแล้วกลับมาอีกครั้ง คงจะมิได้มีเพียงสองคน แต่เป็นกองกำลังจำนวนมหาศาลพื้นที่ธารน้ำอันคับแคบจะสามารถต่อต้านกองกำลังมหาศาลได้อย่างไร?“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ!”อ๋องตวนตะโกนด้วยความตื่นตกใจทันที เขาชี้ไปร่างเงาตรงโพรงหญ้า “โจรป่าเหล่านั้นออกมาแล้ว และยังมาจำนวนมหาศาลอีกด้วย ตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งพันคน”“ฮี่ ๆ ๆ!”อ๋องตวนฉีกยิ้ม มองเฉินฝานด้วยความนับถือ“เสี่ยวฝาน เจ้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ เจ้าบอกว่าขอแค่พวกเราสองคนมา โจรป่าจะต้องออกมาแน่นอน”“มิใช่ว่าข้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ นี่คือจิตวิทยา” เฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1021

    ผู้ที่เสนอตัวขอออกรบก่อนคือ หัวหน้าสามกั้วเจียงหลงชื่อที่โหดเหี้ยมปานนี้ มิใช่เพราะเขาเก่งกาจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตอนยังเด็กเขาซุกซนจนถูกแม่ไล่ตี ตอนที่หน้าสิ่วหน้าขวาน จึงกระโดดลงแม่น้ำว่ายไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหนีแม่ของตนเองจึงเป็นที่มาของชื่อกั้วเจียงหลง“ออกไปรบงั้นรึ? กำจัดพวกเขาให้สิ้นซากรึ?” หัวหน้าใหญ่เหอหรันถีบกั้วเจียงหลงด้วยความโมโหทันที “เจ้าเก่งกว่ากองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวรึ?”“หัวหน้าใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าระแวงเกินไป หัวหน้าสามพูดถูก ควรจะออกไปสู้!”เสียงเคร่งขรึมดูมีอายุดังขึ้น ชายชราผมหงอกทั้งหัวเดินเข้ามาจากด้านนอก“ท่านอาจารย์!”เมื่อเห็นชายชราผู้นั้น เหอหรันรีบทำมือเคารพอย่างลนลาน คนอื่นก็พากันทำตามเมื่อชายชราเห็นด้วย กั้วเจียงหลงจึงเงยหน้าทันที “หัวหน้าใหญ่ ท่านอาจารย์ยังคิดว่าท่านระแวงเกินไป พวกเรามิได้เป็นแบบกองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวเสียหน่อย”กั้วเจียงหลงพูดจบ ชายชรารีบพูดต่อทันที “หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าสามพูดถูกแล้ว พวกเรามิใช่กองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าว สาเหตุที่พวกเขาพ่ายแพ้เพราะประเมินศัตรูต่ำและอวดดีเกินไป ตอนนี้ผู้ที่อวดดีและประเมินศัตรูต่ำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1020

    “ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องออกจากเมืองไปแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับเมืองหลวง แต่ว่ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้าเฮยแล้วขอรับ!”พื้นที่ต้าเฮยก็คือรังของพวกโจร“เช่นนั้นพวกเราก็รีบตามไป ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องให้หลี่ฉวินไปด้วยหรือไม่”หลี่ฉวินเป็นนายกองพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวง เป็นแม่ทัพของกองทัพพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวงเมืองเฟิ่งหวงเป็นเพียงเมืองป้อมปราการภายใต้เมืองเหอตู ไม่ควรมีนายกอง แต่เนื่องจากเมืองเฟิ่งหวงอยู่ติดชายแดน ดังนั้นจึงมีกองทัพพิทักษ์เมือง มีนายกองเช่นกันเพียงแต่ว่าต้าชิ่งขาดแคลนชายฉกรรจ์ เมืองป้อมปราการติดชายแดนที่ยากจนข้นแค้นอย่างเมืองเฟิ่งหวงยิ่งมีชายฉกรรจ์น้อยลงไปอีก กอปรกับก่อนหน้านี้ต่อสู้ต้านทานกองทหารของแคว้นจ้าว ตอนนี้กำลังพลในมือหลี่ฉวินจึงมีไม่ถึงสามร้อยนายเหอจื้อเฟยวิ่งกลับไปที่ห้องหยิบรองเท้าของตนขึ้นมา สวมพลางเดินออกไป “พวกเราก็รีบตามไปด้วย!” “ใต้เท้า!” เวลานี้เองหลี่ฉวินก็มาถึงแล้วเช่นกัน“หลี่ฉวิน?” เหอจื้อเฟยมองหลี่ฉวินด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ตอนนี้เจ้าควรไปที่พื้นที่ต้าเฮยกับท่านอัครเสนาบดีมิใช่หรือ?”“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1019

    สิ่งปลูกสร้างที่ดีที่สุดในเมืองกลับเป็นราชนิเวศน์ที่ฮ่องเต้จ้าวพำนักก่อนหน้านี้ ราชนิเวศน์นั้นยังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาหลังจากที่แคว้นจ้าวยึดครองเมืองเฟิ่งหวงอีกด้วยก่อนหน้านี้เฉินฝานรู้สึกว่าการได้เป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายนั้นเก่งกาจมากแล้ว มีอำนาจล้นฟ้า แม้แต่เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้ตามใจชอบตอนนี้เขาถึงค่อยรู้สึกว่ายิ่งมีอำนาจบนตัวมาก ภาระบนบ่าก็ยิ่งหนักมากต้าชิ่งยังคงยากจนข้นแค้นมากเมื่อเห็นเฉินฝานอารมณ์หดหู่มากถึงเพียงนั้น อ๋องตวนก็ไม่กล้าลากเขาไปดื่มเหล้าทายตัวเลขแล้ว เขาอยู่ทางด้านข้าง แม้แต่เสียงดื่มเหล้าก็ยังเบามาก“เฮ้อ นี่มันปัญหาใหญ่จริง ๆ!”อ๋องตวนที่ดื่มจนเมากรึ่มแล้ววางไหเหล้าลงข้าง ๆ พิงกำแพงเมืองอย่างเอียงเอน“เสี่ยวฝาน เจ้าคิดว่าโจรพวกนี้ยังควรจะปราบหรือไม่?”“โจรย่อมต้องถูกปราบอยู่แล้ว!” เฉินฝานเอ่ยอย่างหนักแน่น“แล้วบุตรชายของเหอจื้อเฟยจะจัดการอย่างไร? เขาถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นหัวหน้าโจรที่ดื้อรั้นเสียแล้ว”“เหอจื้อเฟยฆ่าบุตรชายกับมือไปแล้วหนึ่งคน หากสังหารอีกคน ดูเหมือนว่า...”อ๋องตวนยกไหเหล้าจากทางด้านข้างขึ้นมากรอกอีกคำแล้วค่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status