Share

บทที่ 216

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ใต้เท้า แต่ถนนเส้นนั้นไม่ใช่ทางหลวง และไม่ผ่านอำเภอตูอันด้วย”

“ตอนนี้ข้าไม่ได้ต้องการไปอำเภอตูอัน ไม่ต้องพูดให้มากความ รีบไปได้แล้ว!”

“ขอรับใต้เท้า!” คนใช้ก็กระโดดขึ้นรถม้า

“จริงสิ!”

ผู้เฒ่าเลิกผ้าม่านของรถม้าขึ้น พูดกับคนรับใช้ว่า “เรียกข้าว่าคุณท่าน ไม่ต้องเรียกข้าว่าใต้เท้า!”

“ขอรับ คุณท่าน”

......

“เสี่ยวฝาน!” เฉินจินเซียงเรียกเฉินฝานให้อยู่อย่างกะทันหันบนถนน

“ท่านป้าท่านเหนื่อยแล้วใช่ไหม?” เฉินฝานหยุดการกระทำถามไถ่ด้วยความรีบร้อน

เฉินจินเซียงส่ายหัวไปอย่างต่อเนื่อง “ถึงแม้ว่าป้าจะไม่เข้าใจบทกลอน ทว่าโคลงกลอนที่เจ้าท่องเมื่อครู่ รู้สึกมันดีจริงๆ เสี่ยวฝานเจ้าเขียนงั้นหรือ?”

“ไม่ใช่แต่อย่างใด” เฉินฝานปฏิเสธอย่างรีบร้อน “นี่คือสิ่งที่หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถังเขียน”

เฉินฝานไม่ได้สังเกต ไม่ใกล้จากตัวเขามากนัก มีรถม้าคันหนึ่งตามมา

“หลิ่วจงหยวนสมัยราชวงศ์ถัง?”

ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถ ศีรษะเอียงไปด้านหน้าเล็กน้อย ในสมองค้นหาชื่อหลิ่วจงหยวนนี้

“ราชวงศ์ถัง? อาณาจักรใดกัน หลิ่วจงหยวน? เป็นใครกัน?”

“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับหลิ่วจงหยวนที่ประพันธ์บทกวีเก่งๆหรือไม่?” กลัวว่าตนเองแก่แล
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 217

    ตอนที่นางเห็นความเห็นแก่ตัวความไม่แยแสไร้อารมณ์ของเฉินฟู่และเฉินเจียง นางก็แอบเอาข้อสอบมาซ่อนไว้ในแขนเสื้ออย่างลับๆเพราะข้อสอบพวกเขาบีบคั้นนางให้ถึงทางตันเช่นนั้นนางก็พกข้อสอบเดินทางมาด้วย ในฐานะที่เฉินจินเซียงเป็นลูกสาวของเฉินฟู่ พี่สาวของเฉินเจียง นี่เป็นเรื่องที่เคยอกตัญญูกับพวกเขาเพียงเรื่องเดียว “อ๋อ เข้าใจแล้ว” เฉินฝานพยักหน้านี่ก็เป็นของพวกเดียวกันกับพวกหนังสือเตรียมสอบหวงกังมี่ในยุคปัจจุบันหรือ?เฉินฝานก็นึกถึงเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหของเฉินเจียงต่อเฉินจินเซียงเมื่อคืน เพื่อข้อสอบอันนี้ล่ะสิ“ข้อสอบของสำนักบัณฑิตหลี่เสียง?”ผู้เฒ่าที่อยู่บนรถม้าจ้องไปที่ข้อสอบในมือเฉินจินเซียง สายตาไม่เมตตาอ่อนโยนเหมือนครู่อีกต่อไป เป็นสายตาถมึงทึง“คุณท่าน” คนใช้ก็สีหน้าจริงจัง “บอกพวกเขาลงมือหรือไม่”ณ เวลานี้ เฉินจินเซียงยัดข้อสอบใส่ในมือเฉินฝาน “เสี่ยวฝาน เจ้ารีบเอาไป มีสิ่งนี้ต้นฤดูใบไม้ผลิเจ้าต้องเข้าร่วมการสอบขุนนางได้อย่างแน่นอน”เฉินฝานรับข้อสอบมา แม้จะเหลือบมองก็ยังไม่ทำฉีกมันทิ้งในพริบตาเดียวเสียอย่างนั้น“เฮ้ย เสี่ยวฝาน เจ้า...” เฉินจินเซียงตื่นตกใจในขณะเวลาเดียวกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 218

    การสอบถงเซิงของต้าชิ่งสอบแค่ “เถี่ยจิง” กับ “เวิ่นอี้” พูดตรงๆก็คือการท่องจำตำราใครท่องจำตำราได้เยอะก็ยิ่งเก่งกาจดังนั้น เฉินไปเรียนที่สถานศึกษาสิบวัน ก็ได้ยินพวกปัญญาชนที่สถานศึกษาท่องจำตำราพวกนั้นสิบวันความจำของเฉินฝานไม่แย่ ตำราที่พวกปัญญาชนอ่าน เขาท่องจำได้ทั้งหมดแล้ว ตำราที่พวกปัญญาชนยังไม่ได้อ่าน ก็เป็นตำราที่ขายในร้านหนังสือของเขา เขาก็ท่องจำได้ทั้งหมดแล้วเนื่องด้วยปีนี้ผู้ชายมีจำนวนน้อย กำลังทหารด่านชายแดนไม่เพียงพอ ฮ่องเต้ต้าชิ่งออกคำสั่งให้ลดจำนวนปัญญาชนมาจากการสอบขุนนางหลังจากที่หัวหน้าเลขาฝ่ายพิธีการได้รับคำสั่ง ก็เริ่มเพิ่มระดับความยากของข้อสอบขุนนางขนานใหญ่ คือข้อสอบที่ออกนับวันยิ่งเล่ห์เหลี่ยม นับวันยิ่งออกทะเลไปเรื่อยๆตำราที่พวกปัญญาชนต้องท่องจำเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนมากกว่าสิบเท่าความจำของคนมีขีดจำกัด ปัญญาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถท่องจำตำรามากโขเช่นนั้นได้ ดังนั้นการเดาหัวข้อที่สำนักบัณฑิตหลี่เสียงออกเสียงให้แม่นยำเสียหน่อย กลายเป็นสิ่งนิยมชมชอบในหมู่ปัญญาชนรัชสมัยต้าชิ่งทว่ามีคนกลับไม่ชอบสำนักบัณฑิตหลี่เสียงนี้เป็นอย่างมากนั่นก็คือกลุ่มขุนนางของฝ่ายพิธีกา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 219

    “เสี่ยวฝาน ด้านหน้าก็คือหมู่บ้านต้ากู่แล้ว”เฉินฝานเงยหน้าทอดสายตาออกไป หมู่บ้านหนึ่งที่ใหญ่หมู่บ้านซานเหอมากกว่าสองเท่าตกกระทบสะท้อนเข้าไปในม่านตาของเขาในหมู่บ้านซานเหอบ้านกระเบื้องอิฐสีดำค่อนข้างน้อย หมู่บ้านต้ากู่กลับมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหมู่บ้านต้ากู่ไม่เพียงแต่ใหญ่กว่าหมู่บ้านซานเหอเท่านั้น ยังมีมหาเศรษฐีมากกว่าหมู่บ้านซานเหออย่างมหาศาลด้านหน้าหมู่บ้านต้ากู่ เป็นที่นาราบเรียบผืนใหญ่เฉินฝานมองที่นาผืนใหญ่ผืนนั้น ในใจก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาอย่างช่วยไม่ได้ที่ดินมากมายขนาดนั้น ไม่ร่ำรวยก็ล้วนเป็นเรื่องทรวงสวรรค์อภัยไม่ได้แล้วตอนที่เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เฉินฝานรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเฉินจินเซียงสั่นเทาเล็กน้อย“ท่านป้า หลานอยู่ที่นี้ อย่ากลัวไปเลย”เฉินจินเซียงหันหลังกลับมามองเด็กหนุ่มด้านหลังตนเองเด็กหนุ่มนี่ไม่ซึมเซาแบบที่นางเห็นเมื่อครึ่งปีก่อนอีกแล้วตอนนี้ ร่างกายยืนตรงตระหง่าน แววตาสุกสกาวมีจิตวิญญาณ มีความมุ่งมั่น ท่าทางสง่าผ่าเผยเฉินจินเซียงยิ้มอย่างหมดห่วง “มีเสี่ยวฝานอยู่ ป้าไม่กลัวแล้ว!”“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าหมู่บ้านกัน!”......ห่าง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 220

    “รถม้าเจ้าก็จงใจทำให้มันตกลงไปในแอ่งน้ำล่ะสิ”ผู้เฒ่าอึ้งอีกครั้ง ความคิดในใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่กว่าเดิมเด็กหนุ่มคนนี้เขาไม่สามารถพลาดไปได้“น้องชายไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆเสียด้วย...”“ว่าไงนะ?” เฉินจินเซียงตกใจกว่าเดิม “พวกเจ้าก็จงใจทำให้รถม้าตกลงไปในแอ่ง?”ผู้เฒ่ายิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย “พวกเราจงใจจริงๆ”“เหตุใดต้องทำเช่นนี้ พูดถึงเรื่องนี้ เหตุใดพวกเจ้าต้องตามพวกเรา?” เฉินจินเซียงสีหน้างุนงง“ข้า พวกข้า...” ผู้เฒ่าติดอ่างเล็กน้อยคนใช้ที่ยืนข้างกายผู้เฒ่า รู้สึกว่าหูของตัวเองมีปัญหามิเช่นนั้น เหตุใดได้ยินผู้เฒ่าติดอ่างคาดไม่ถึงเลยว่าคุณท่านของเขาจะติดอ่างคุณท่านของเขาทว่าทุกวันนี้...“พวกเราหลงทาง”ผู้เฒ่ายังติดอ่าง คนรับใช้ทนไม่ได้ที่จะพูด“ใช่ๆ!” ผู้เฒ่าพยักหน้ารัวๆ “พวกเราหลงทาง ดังนั้นก็ขับตามพวกเจ้ามาตลอดทาง เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าจะเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ข้าจะเอารถลงไปในแอ่งน้ำ หลังจากที่น้องชายมาช่วยแล้ว ค่อยให้ค่าตอบแทน หวังว่าน้องชายจะพาพวกเราออกจากเส้นทางนี้ได้”“โอ้...เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ?” เฉินฝานกอดอกน้ำเสียงดูไม่ได้ใส่ใจ“ใช่แล้ว ใช่แล้ว” ผู้เฒ่าไม่กล้าสบตากั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 221

    “ยามพูดรู้จักคิดบ้างไหม” ชายชราเตะบ่าวรับใช้บ่าวรับใช้ลูบบั้นท้ายของตนที่ถูกเตะ พูดพึมพำเสียงเบา “ก็เป็นเรื่องจริงหนิ ข้าน้อยพูดผิดหรือ”“ต้องตามติดแบบนั้นแหละ คลาดกันขึ้นมาจะทำอย่างไร?”ชายชราไม่ได้สนใจบ่าวรับใช้อีก เขาเปิดม่านบนรถม้า สายตาจับจ้องไปยังเฉินฝานที่กำลังเดินเข้าเรือนตระกูลหวัง…“นายท่าน ฮูหยิน คุณชาย”เฉินฝานกับเฉินจินเซียงเพิ่งเดินเข้าไปในตระกูลหวัง บ่าวรับใช้ตระกูลหวังก็รีบไปรายงานที่โถงหลักทันที“นายหญิงกลับมาแล้วขอรับ!”“นางกลับมาแล้วหรือ?” หวังหยวนหลงที่กำลังกินถั่วลิสงเงยหน้าขึ้น “ขโมยของในเรือนไป ยังมีหน้ากลับมาอีกหรือ?”“กลับมาก็ดีเหมือนกัน พวกเราจะได้ไม่ต้องส่งใบหย่าไปให้อีก” คำพูดของฮูหยินหวังนางมั่ว ใจจืดใจดำเหมือนกับใบหน้าของนาง“นางกลับมาคนเดียวหรือ?” เทียบกันแล้วน้ำเสียงของหวังเจิ้งเจ๋อคุณท่านตระกูลหวังอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย“มีชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบมากับนางหนึ่งคนขอรับ”“เฉินเจียงหรือ?”จิ้งจอกชราเจ้าเล่ห์หวังเจิ้งเต๋อเริ่มวางแผนหากเฉินเจียงมากับเฉินจินเซียง เช่นนั้นสามารถยกเลิกการหย่าร้างกับเฉินจินเซียงมาเป็นข้อต่อรองได้ ให้เฉินเจียงรับปาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 222

    #แรกเริ่ม หลิ่วหรูเยียนได้ยินบ่าวรับใช้บอกว่ามีชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับเฉินจินเซียง นางผิดหวังเล็กน้อยเพราะนางคิดว่าเป็นเฉินเจียง หลิ่วหรูเยียนเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก รู้ว่าหวังเจิ้งเต๋อยังคงเห็นความสำคัญของเฉินเจียง ให้เกียรติเฉินเจียงเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือเฉินฝานไม่ใช่เฉินเจียง หลิ่วหรูเยียนดีใจมากเฉินจินเซียงหนอเฉินจินเซียง เจ้าช่างโง่เขลายิ่งนัก พาคนไม่เอาถ่านเช่นนี้กลับมา คิดว่าจะช่วยสนับสนุนตนได้ ช่างน่าขันจริงๆ“พี่หญิง เหตุใดยังยืนบื้ออยู่อีก ขืนยังไม่ไป วันนี้เสื้อผ้าไม่แห้งแน่”อนุภรรยาหยามเกียรติภรรยาเอก นี่เป็นความผิดร้ายแรงแต่แม่สามีนางมั่วกลับแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น นางยังคงรักษาภาพลักษณ์พื้นฐานของแม่สามี เรื่องเลวร้ายที่สุดให้คนอื่นทำ“เจ้าหูหนวกหรือ? ไม่ได้ยินหรือ? รีบไปซัก...”“ไปซักบ้าบออะไร!”เฉินฝานก้าวเท้าฉับๆ เดินไปหา คว้าถ้วยน้ำชาที่วางไว้ข้างหวังหยวนหลวง แล้วราดลงบนศีรษะของหวังหยวนหลง“อ๊าก!”หวังหยวนหลงเงยหน้าขึ้นร้องตะโกนเสียงดัง“ใช้กำลัง มีคนใช้กำลัง” หลิ่วหรูเยียนตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีนางมั่วที่นั่งอยู่ด้านบนตกใจจนพูดไม่ออก“เสี่ยวฝาน” เฉินจินเซียงก็ตก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 223

    โถงตระกูลหวัง“โอ๊ย โอ๊ย”ผู้คุ้มกันตระกูล บ้างก็นอนหงาย บ้างก็นอนราบ บ้างก็นอนขดตัว บ้างก็คุกเข่าล้มลงบนพื้น พวกเขาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดใบหน้าของผู้คุมกันบนพื้นฟกช้ำดำเขียว แต่เฉินฝานกลับไม่มีสิ่งใดแตกต่างจากตอนที่เพิ่งเดินเข้าตระกูลหวัง ผมเรียบ หายใจเป็นจังหวะเฉินฝานกวาดมองผู้คุ้มกันบนพื้นด้วยแววตาเย็นชา “ยังมีใครคิดจะสู้อีกไหม”ผู้คุ้มกันเหล่านั้น บ้างปิดหน้า บ้างก้มหน้า กลัวทำให้เฉินฝานสนใจ บ้างถึงขั้นเริ่มคลานออกไปข้างนอก“พวกเจ้าทำอะไรอยู่ ตระกูลหวังจ่ายเงินมากมาย เลี้ยงคนไม่เอาไหนอย่างพวกเจ้าเนี่ยนะ? รีบลุกขึ้นมาสู้กันมันเดี๋ยวนี้!”หวังหยวนหลงกุมศีรษะที่ถูกเฉินฝานเอากาน้ำชาฟาดจนเจ็บ ตะคอกผู้คุ้มกันเหล่านั้นแต่เขายิ่งตะคอก ผู้คุ้มกันพวกนั้นยิ่งคลานเร็วขึ้นหวังเจิ้งเต๋อที่อยู่นอกห้องโถงก็พยายามหยุดเช่นเดียวกัน แต่ก็ไร้ประโยชน์ พวกเขาถูกต่อยตีจนกลัวแล้วจริงๆทุกกระบวนท่าของเฉินฝาน มองดูธรรมดามาก แต่ทุกครั้งที่สัมผัสร่างกายของพวกเขา เจ็บปวดอย่างมาก“ไม่เอาไหน ไม่เอาไหนจริงๆ หนีอะไรฮะ กลับมาเดี๋ยวนี้”เสียงของหวังหยวนหลง ดังก้องในหู น่ารำคาญยิ่งนักเฉินฝานหันหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 224

    พ่อตา แม่ยาย สามีพร้อมใจขอให้ยกโทษ แต่เฉินจินเซียงกลับเงียบตลอดหลายปีที่ผ่านมานางมองทะลุปรุโปร่งแล้วตระกูลหวังตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ไม่มีใครเชื่อได้สักคนในฐานะจิ้งจอกชราเจ้าเล่ห์ หวังเจิ้งเต๋อย่อมเดาความกังวลของเฉินจินเซียงได้“จินเซียง ข้าให้หยวนหลงเขียนหนังสือรับประกันให้เจ้า ไม่ใช่แค่หยวนหลง ข้าและแม่สามีของเจ้าก็เขียนเช่นเดียวกัน รับประกันว่าหลังจากนี้ตระกูลหวังจะปฏิบัติกับเจ้าและครอบครัวเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”“นายท่าน!”“ท่านมั่ว!”นางมั่วกับหวังหยวนหลงมองไปทางหวังเจิ้งเต๋อพร้อมกัน พวกนางไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของหวังเจิ้งเต๋อทำดีกับเฉินจินเซียงคนเดียวก็พอแล้ว เหตุใดต้องดึงเอาครอบครัวของนางมาเกี่ยวด้วยโดยเฉพาะคนตรงหน้าอย่างเฉินฝานทั้งจนและเกียจคร้าน เป็นคนไม่เอาไหน อนาคตต้องสร้างปัญหาให้ครอบครัวคนอื่นแน่นอนราวกับหวังเจิ้งเต๋อไม่ได้ยินเสียงภรรยาและลูก เขายังคงพูดต่อ อีกทั้งครั้งนี้เขาพูดกับเฉินฝาน “หนังสือรับประกันนี้แบ่งเป็นสามฉบับ ทั้งข้า หยวนหลง แม่ของหยวนหลงล้วนประทับรอยนิ้วมือ โดยสามฉบับนี้แบ่งเป็นของครอบครัวข้าหนึ่งฉบับ จินเซียงหนึ่งฉบับ ส่วนอีกหนึ่งฉบั

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status