แชร์

ตอนที่ 2 ร่างที่อ่อนแอ

ผู้แต่ง: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 13:14:36

ณ กระท่อมโทรม ๆ หลังหนึ่งที่อยู่ท้ายจวนขนาดใหญ่ มีร่างของหญิงสาวที่ชื่อว่ามู่หลินหว่านนอนคว่ำหน้าอย่างอ่อนแรง เพราะอาการบาดเจ็บจากการถูกลงโทษโบยถึงสิบไม้ จนแผ่นหลังนั้นเต็มไปด้วยเลือดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอบ ๆ พรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่องความอัดอั้นตันใจที่ไม่สามารถบอกกล่าวกับผู้ใดได้ ทั้งที่เป็นถึงบุตรสาวของฮูหยินเอกแห่งจวนเสนาบดี เป็นคุณหนูรองที่อยู่อย่างสุขสบายได้เพียงแค่สามปี มารดามาด่วนจากไปโดยไม่ทันได้ร่ำลาอันใดต่อกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามู่หลินหว่านถูกคนในจวนลืมเลือน ที่ซุกหัวนอนจากห้องกว้างขวางสวยงามกลับกลายเป็นกระท่อมแคบ ๆ ไม่มีอะไรสะดวกสบาย ถูกเรียกตัวไปรับใช้คุณหนูคุณชายคนอื่น ๆ ทำงานไม่ดีก็ถูกทุบตี แม้แต่บ่าวไพร่ก็ยังรังแกกลั่นแกล้งสารพัด 

            เมื่อเติบโตเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น จึงได้รู้ว่าบิดาของตนไม่เคยรักในตัวของมารดาสักนิด เขาร่วมมือกับสตรีที่รักเพื่อหวังแต่งงานกับมารดา เพราะสมบัติเงินทองที่ท่านตาท่านยายทิ้งไว้ให้มารดาเท่านั้น และในครั้งนี้ที่มู่หลินหว่านถูกลงโทษโบยมากกว่าทุกครั้ง เนื่องจากถูกมู่จือหย่ากล่าวหาว่านางขโมยปิ่นปักผมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ด้วยการให้สาวใช้อย่างฮุ่ยเหมยนำมันไปซ่อนไว้ในกระท่อม มู่หลินหว่านนอนซมไม่มีใครนำทั้งยาหรืออาหารมามอบให้นางแม้แต่น้อย คล้ายกับว่าต้องการให้นางตายไปเสียได้ก็ดี ด้วยเหตุนี้ร่างกายที่ซูบผอมจึงทนกับอาการบาดเจ็บไม่ไหว ถึงกับละเมอเพ้อหาผู้เป็นมารดาที่จากไปนานว่าตนเองนั้นจะได้พบเจอกับมารดาแล้ว

            “ทะ ทะ ท่านแม่ในที่สุดท่านก็มารับหว่านเออร์ไปอยู่กับท่านแล้วสินะ ฮึก หะ หะ เหตุใดถึงได้มารับหว่านเออร์ช้านักเล่า ท่านปล่อยให้หว่านเออร์ต้องทรมานอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ฮึก”

            “หว่านเออร์ลูกแม่”

“ตะ ตะ แต่ตอนนี้หว่านเออร์กับท่านแม่จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว ต่อไปไม่ต้องทนกับคนชั่วในจวนหลังนี้อีกละ..”

“ครืน ๆ ๆ ฟิ้ว ๆ ๆ เปรี้ยง ๆ ๆ”

เพียงแค่มู่หลินหว่านหมดลมหายใจไม่ถึงหนึ่งจิบชา เสียงดังจากบนท้องฟ้าก็ปั่นป่วนขึ้นมาทันทีทันใด ทำเอาผู้คนในจวนไม่กล้าออกจากเรือนของตนกันแม้แต่คนเดียว แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกระท่อมผุพังนั้น กลับปรากฏเรื่องน่าอัศจรรย์ ร่างของมู่หลินหว่านกลับมาหายใจอีกครั้งแต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับไม่ใช่มู่หลินหว่านคนเดิม

“เฮือก!! โอย ไอ้พวกกากเดนสังคมทำไมมันไม่ยิ่งให้แม่นตั้งแต่นัดแรกวะ จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดก่อนจะโดนยิงซ้ำตายอีกรอบเนี่ย อูย ว่าแต่ทำไมมันเจ็บที่หลังแทนที่ขากับหัวกันล่ะ ไม่มี!! ที่หัวไม่มีรูถูกยิงด้วยปืนที่ขาก็ไม่มีอีกเหมือนกัน แล้วตกลงที่นี่ไม่ใช่ที่ไร่ของไอ้จอมเหรอ เอ๊ะ!! ตอนที่สติจะดับวูบไปเหมือนจะได้ยินเสียงใครสักคน ตอบรับคำขอที่ว่าอยากมาอยู่ในซีรี่ย์จีนหรือว่าจะมีเทพเทวดาส่งไอ้จอมมาตามคำขอจริง ๆ” 

ขณะที่เจ้าจอมกำลังทบทวนความทรงจำก่อนตาย จู่ ๆ ก็มีภาพเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนปวดหัวตาลายอยากจะอาเจียนมันออกมา

“ที่แท้ก็ส่งไอ้จอมมาอยู่ในร่างของคนถูกรังแกนี่เอง พวกคนใช้ในจวนว่าชั่วแล้วแต่พ่อของร่างนี้ชั่วยิ่งกว่า มู่หลินหว่านหากวิญญาณของเธอรับรู้ถึงการมีอยู่ของฉัน จงจากไปอย่างหมดห่วงและปล่อยวางเรื่องทุกอย่างซะ ส่วนความอัดอั้นตันใจกับความทุกข์ของเธอที่ผ่านมานั้น ฉันเจ้าจอมลูกสาวกำนันจงผู้นี้จะเอาคืนพวกมันให้เธอเอง ก่อนจะออกจากจวนแห่งนี้ฉันอาจจะสั่งสอนพวกมันได้ไม่มาก แต่ได้โปรดเชื่อใจฉันเถอะเมื่อใดที่ออกไปจากที่นี่ได้ และฉันสามารถสร้างกิจการจนมีเส้นสายที่ใหญ่กว่าพ่อของเธอ รับรองได้เลยว่าวันที่คนตระกูลมู่จะต้องมีชีวิตที่ตกต่ำ กลายเป็นขี้ปากชาวบ้านร้านตลาดไปทั่วแคว้น รวมถึงต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำกับเธออย่างสาสมอยู่ไม่สู้ตายเท่านั้น ฉันจะมอบให้คนอย่างพวกมันที่รังแกเธอกับแม่ เป็นกำลังใจให้ฉันด้วยก็แล้วกันนะมู่หลินหว่าน” เจ้าจอมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานของ

มู่หลินหว่าน ก็แทบจะทนไม่ไหวอยากจะเอาคืนคนพวกนั้น เพียงแต่ร่างการยังไม่เอื้ออำนวยเท่าใดนัก หลังจากนี้ต้องบำรุงร่างกายฟื้นคืนกำลังเสียแล้ว

‘วูบ..ขอบคุณท่านมาก’

“เฮ้อ ร่างกายไม่มีแรงเอาซะเลยสาวน้อยคนนี้ ท่านเทพเทวดาผู้ที่พาฉัน เอ๊ย ข้ามายังที่แห่งนี้หากท่านมีอยู่จริงแล้วละก็ ได้โปรดเมตตาช่วยรักษาแผลที่หลังให้หน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ ขืนยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจจะต้องตายซ้ำอีกรอบก็ได้เจ้าค่ะ”

“............”

“ว่าแล้วเชียวที่แท้พวกเทพอะไรเนี่ยไม่มีอยู่จริง ก็แค่เรื่องโกหกที่แต่งขึ้นให้คนจินตนาการก็เท่านั้น หรือว่าท่านเทพจะขี้เกียจทำงานเหมือนพวกดองงานไรงี้หากเป็นเช่นนี้ต้องร้องเรียนไปยังเง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว เฮ้ โยว่ ท่านเง็กเซียนผู้ปกครองสวรรค์ท่านรู้หรือไม่ว่ามีเทพเทวดาที่อยู่ใต้อาณัติของท่านกำลังขี้เกียจทำงานอยู่นะ อย่าลืมไปตรวจสอบเทพเหล่านั้นด้วยนะเจ้าคะ”

“วูบบบบบ...!!”

“เอ๊ะ!! จู่ ๆ ก็เหมือนจะไม่รู้สึกเจ็บที่หลังหรือที่อื่นอีก ทั้งแผลเก่าแผลใหม่สงสัยท่านเทพคงจะกลัวเง็กเซียนฮ่องเต้ลงโทษเป็นแน่ ฮ่า ๆ ๆ ต้องแบบนี้ท่านเทพทำงานรวดเร็วมากไว้วันหน้า หากข้าสามารถห้าซื้อที่ดินผืนใหญ่ได้และสร้างบ้านสวนได้สำเร็จ พวกท่านค่อยลงมาเที่ยวพักผ่อนที่บ้านสวนของข้าได้เสมอนะเจ้าคะ สาธุ” เจ้าจอมพูดจบก็ยกมือไหว้ขึ้นเหนือหัว

‘นี่ ๆ ๆ เจ้าดูนางสิเห็นหรือไม่ข้าเตือนแล้วนะว่าอย่าส่งนางไปโลกอื่น แล้วเป็นอย่างไรล่ะทีนี้ปากกล้ายิ่งนักความเป็นกุลสตรีคุณหนูในห้องหออยู่ตรงไหน ท่าทางเช่นนี้คนเขาเรียกว่ารนหาที่เจ็บตัวชัด ๆ ถึงนางจะเป็นลูกของเจ้าก็เถอะหากยังมีครั้งหน้าอีก ข้าจะไม่เกรงใจกับการสั่งสอนนางเป็นแน่ ฮึ ไปดีกว่า’

‘แล้วนางมิใช้หลานรักของเจ้ารึเทพจันทรา แต่ข้าว่านางเป็นเช่นนี้ออกจะน่ารักน่าชังมากกว่านะ ฮ่า ๆ ๆ’

หลังจากข่มขู่ขอให้เทพเทวดาช่วยรักษาบาดแผลที่หลัง เจ้าจอมที่อยู่ในร่างของมู่หลินหว่านก็เริ่มสำรวจกระท่อมน้อย ๆ ว่าพอจะมีอะไรให้กินรองท้องได้บ้าง แต่ทว่าเดินหาอยู่สักพักมีเพียงน้ำเปล่าเย็นชืดเท่านั้น รวมถึงชุดเก่า ๆ ที่มีร่องรอยของการปะชุนอยู่เต็มไปหมด เจ้าจอมได้แต่ถอนหายใจให้กับความลำบากนี้ของมู่หลินหว่านแล้วจริง ๆ ดั่งสวรรค์ต้องการทดสอบว่าการรักษาของตนดีมากเพียงใด เพราะด้านนอกกระท่อมยามนี้มีเสียงเรียกจากฮุ่ยเหมย ผู้เป็นสาวใช้

คนสนิทของมู่จือหย่ามาตามนางไปปรนนิบัติรับใช้ แต่คนอย่างไอ้เจ้าจอมจะยอมให้ถูกรังแกได้อย่างไร งานนี้มันต้องสำแดงเดชกันบ้างเอาคืนเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเป็นน้ำจิ้มไปก่อนก็แล้วกัน

“ปัง ๆ ๆ นังหลินหว่านออกมาเดี๋ยวนี้คุณหนู่ใหญ่เรียกหาเจ้า แอบอู้อยู่หลายวันเกินไปแล้วนะเปิดประตูออกมา อย่าให้ข้าต้องใช้ไม้แข็งบุกเข้าไปตามถึงด้านในนะนังหลินหว่าน”

“แอ๊ด กึก เป็นอะไรแหกปากเสียงดังอยู่ได้มันน่ารำคาญนะ เจ้าเข้าใจคำว่าน่ารำคาญป่ะกินนกหวีดเป็นอาหารหรือไง เสียงถึงได้แหลมบาดหูขนาดนี้เรียกปกติเคาะประตูอย่างมีมารยาทน่ะ ทำเป็นไหมหรือทำเป็นแต่ไม่อยากทำงั้นสิ ยัง ๆ จะมองหน้าอีกข้าถามไม่ได้ยินหรือไง คำว่ามารยาทรู้จักมะเจ้านายไม่สั่งสอนเลยเหรอนังฮุ่ยเหมย” 

“.........!!??”

“อ้าว ยังจะเงียบอีกถามไม่ตอบจะเงียบอีกนานไหมนังฮุ่ยเหมย ถ้าจะเงียบก็ดีข้าจะได้กลับไปนอนพักต่อ อย่าลืมปิดประตูให้ด้วยล่ะแต่อย่าปิดแรงเดี๋ยวมันจะพังเข้าใจแล้วนะ” มู่หลินหว่านคนใหม่พูดน้ำไหลไฟดับ จนฮุ่ยเหมยยังคงอึ้งกับท่าทางแปลก ๆ เหล่านี้

“จะ จะ เจ้าคือนังหลินหว่านจริง ๆ น่ะหรือเหตุใดถึงได้ไม่เหมือนเดิม เพราะถูกโบยจนสติเลอะเลือนไปแล้วการพูดจาการจาก็ดูแปลก ๆ ฟังไม่รู้เรื่องนกอะไรของเจ้าร้องหวีด ๆ ไม่มีนกตัวไหนส่งเสียงร้องเช่นนั้นหรอกนะ”

“เจ้าไม่รู้จัก อ้อ ไม่เป็นไรเอาเป็นว่าข้ารู้จักดีก็แล้วกัน ว่าธุระของเจ้ามาข้าไม่ว่างมายืนคุยกับบ่าวไม่มีมารยาทเช่นเจ้า”

“ฮึ ได้นอนพักหลายวันเข้าหน่อยทำปีกกล้าขาแข็ง พูดจาดั่งแม่ค้ากลางตลาดก่อนหน้านี้เหตุใดไม่ปากเก่งเช่นตอนนี้เล่า เอาเป็นว่าเจ้ารีบตามข้าไปพบคุณใหญ่ที่เรือนโดยเร็ว เพราะคุณหนูใหญ่มีงานสำคัญรอให้เจ้าไปทำรีบตามมาได้แล้ว เสียเวลาของข้าไปมากถ้าเจ้ายังไม่ยอมขยับเท้าละก็จะโดนอะไรย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจนะ”

“อ้อ หากข้าไม่ยอมทำตามที่เจ้าบอกมาข้าจะต้องเจ็บตัวสินะ แล้วเจ้าเคยเจ็บแบบข้าสักครั้งหรือยัง ถ้าข้าไม่ก้าวเท้าตามเจ้าไปในวันนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากจะโดนเจ้าทุบตีเป็นคนแรกเช่นทุกครั้ง”

“นังหลินหว่าน!! อย่ามาต่อปากต่อคำให้มากนักจะได้ไหม พอหายเจ็บก็ปากเก่งกว่าเดิมเชียวนะ แม่ของเจ้ายังไม่กล้าแม้จะต่อล้อต่อเถียงกับข้าเลยได้เจ้าจะยืนนิ่ง ๆ อยู่เช่นนั้นใช่ไหมได้เลยเจ้าอยากเจ็บตัวเพิ่ม ข้าฮุ่ยเหมยยินดีอย่างมากจะสนองให้เจ้าอะ..”

“เพี๊ยะ!! โอ้ย เพี๊ยะ!! โอ้ย หมับ โป๊ก!! โป๊ก!!”

“ข้าบอกว่าอย่างไรที่พูดออกไปมันไม่เข้าหูของเจ้าเลยรึ  ห๊ะ!! ชอบรังแกคนอ่อนแอดีนักใช่ไหมวันนี้หากไม่สั่งสอนซะบ้าง เจ้าคงจะลืมตัวไปอีกนานว่าเจ้าคือสาวใช้ไม่ใช่เจ้านายของจวนนี้ โป๊ก!! เพราะข้าคือคุณหนูรองมู่หลินหว่านที่เป็นเจ้านาย สาวใช้เช่นเจ้ากล้าดียังไงมาออกคำสั่งจิกหัวใช้ข้า” มู่หลินหว่านทั้งตบทั้งจับหัวของฮุ่ยเหมยโขกกับขอบประตูกระท่อม

“กรี๊ดดด ปล่อยข้านะอย่าทำอีกเลยข้าเจ็บแล้ว โอ๊ย หัวของข้าปูดบวมถึงเพียงนี้แล้วหยุดมือซะที”

“หึ ทำไมยามที่ข้าร้องขอความเมตตาจากเจ้าล่ะ เคยมอบมันให้ข้าบ้างหรือไม่เคยคิดจะหยุดมือที่ทำร้ายข้าบ้างไหม ไม่เคยมีทั้งเจ้านายทั้งบ่าวสารเลวเหมือนกันหมด ก่อนที่เจ้าจะกลับไปรายงานกับมู่จือหย่าเจ้าต้องไปหาข้าวมาให้ข้ากินซะดี ๆ”

“เพ้ย!! เจ้ากล้าขู่ข้างั้นหรือนังหลินหว่าน สตรีที่โง่ไม่รู้ความเช่นเจ้าคิดจะสังหารข้ามันไม่ง่ายหรอกนะ..”

“งั้นหรือไม่โดนเพิ่มอีกสักทีสองทีคงจะไม่ดีขึ้น เช่นนั้นข้าจะช่วยทำให้เจ้าจดจำข้ามู่หลินหว่านไปตลอดชีวิต”

“ผั๊วะ! ผั๊วะ! อ๊ะ โอ๊ย ตุบ ตุบ อั่ก ปึก! ปึก! อ่ะ แค่ก ๆ ๆ”

“ยะ ยะ ยอมแล้วข้ายอมทำตามที่เจ้าบอก ได้โปรดหยุดมือของเจ้าเถิดข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว” ฮุ่ยเหมยถูกเจ้าจอมที่อยู่ในร่างของมู่หลินหว่าน ตบตีโดยใช้ทั้งมือและเท้าจนสภาพของฮุ่ยเหมยต่างกับตอนมาที่กระท่อมลิบลับ

“ผลัก! ยอมทำตามตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเจ็บตัวถึงเพียงนี้ รีบไปเอาอาหารมาให้ข้าได้แล้วอย่าได้ชักช้าอีก ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะเปลี่ยนใจฝังเจ้าไว้ที่นี่แทน ส่วนคำแก้ตัวที่ข้าไม่ยอมไปเจ้าก็หาทางออกเอาเอง” 

“ปะ ปะ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะท่านรอไม่นานข้าจะรีบกลับมา อูย”

ฮุ่ยเหมยไม่กล้าสบตากับมู่หลินหว่านอีก นางก้มหน้าวิ่งออกไป เพื่อทำตามที่ถูกข่มขู่ไว้อาหารบำรุงหลายอย่าง ที่วางอยู่บนถาดฮุ่ยเหมยยกไปยังกระท่อมเก่า ๆ อย่างรวดเร็ว นางไม่คิดไม่ฝันว่ามู่หลินหว่านจะเปลี่ยนไปได้เพียงนี้หลังจากถูกโบย สายตาที่มองมาน่ากลัวมากกว่ายามเจ้านายของตนโกรธเสียอีก แต่ฮุ่ยเหมยก็ต้องเจ็บตัวอีกครั้งเพราะตามมู่หลินหว่านไปไม่ได้ ทำให้มู่จือหย่าเสียเวลารออยู่ในเรือนตั้งนานสองนาน จนเกือบทำให้คู่หมั้นที่ตนอุตส่าห์แย่งมาจากมู่หลินหว่านได้ ไม่อยากรอจวนเจียนจะกลับจวนอยู่แล้วมู่จือหย่าถึงได้ออกมาพบ และกล่าวขออภัยกันอยู่ยกใหญ่ฝ่ายบุรุษจึงยอมยกโทษให้ เมื่อรู้ว่าที่มู่จือหย่าออกมาพบตนเองช้าเป็นเพราะถูกมู่หลินหว่าน คอยกลั่นแกล้งขัดขวางนางเอาไว้ไม่ยอมให้มาพบกับคู่หมั้น เพื่อสร้างความเกลียดชังในตัวของมู่หลินหว่านเพิ่มขึ้นไปอีก

“นังหลินหว่านมาได้เสียทีรีบมาช่วยข้าแต่งตัวเร็วเข้า ป่านนี้คุณชายเฉินคงมานั่งรออยู่ที่ห้องรับรองแขกนานแล้ว หากยังชักช้าอยู่อีกข้าจะสั่งให้คนโบยเจ้าเพิ่ม” มู่จือหย่าได้ยินเพียงเสียงเปิดประตูเรือน มิได้หันไปมองว่าคนที่มาใช่มู่หลินหว่านหรือไม่ จนกระทั่งมีเสียงตอบกลับมาถึงได้รู้ว่าเป็นฮุ่ยเหมยแทน

“คะ คะ คุณหนูบ่าวฮุ่ยเหมยเองเจ้าค่ะ ขออภัยคุณหนูที่ปล่อยให้ท่านต้องรอนานเช่นนี้ แต่ว่าบ่าวไม่สามารถพาตัวนังหลินหว่านมาได้ มิหนำซ้ำยังถูกนางทุบตีจนมีสภาพอย่างที่คุณหนูเห็นเจ้าค่ะ อูย เจ็บ”

“ฮุ่ยเหมย!! ฮึ่ย เพี๊ยะ!! โอ๊ย เพี๊ยะ!! โอ๊ย”

“ไร้ประโยชน์แค่กาฝากคนเดียวก็จัดการไม่ได้ แล้วจะให้เจ้าคอยอยู่ดูแลข้างกายข้าได้อย่างไร”

“คุณหนู ๆ ยามนี้อย่าเพิ่งลงโทษบ่าวเลยนะเจ้าคะ ท่านควรแต่งตัวให้งดงามและออกไปพบคุณชายเฉินเสียก่อน หากยังไม่ยอมออกไปบ่าวเกรงว่าคุณชายเฉินจะกลับจวน แทนที่คุณหนูจะได้ออกไปเดินเล่นให้สตรีด้านนอกอิจฉาท่านได้นะเจ้าคะ” ฮุ่ยเหมยรีบขัดอารมณ์โมโหของมู่จือหย่าไว้ด้วยชื่อของเฉินเยี่ยนหมิง

“หึ ถือว่าเจ้ารอดตัวไปก็แล้วกันรีบมาช่วยข้าแต่งตัว คราวหน้าหากยังทำงานไม่ได้เรื่องเช่นนี้อีก เจ้าจะถูกขายออกไปจากจวนหลังนี้อย่างถาวร” มู่จือหย่าพยายามอย่างมากกับการระงับความโกรธที่มี เพื่อปรับเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาเรียบร้อยอ่อนหวาน สำหรับเรียกร้องความสนใจจากบุรุษที่ตนหลงใหลมาตั้งแต่เยาว์วัย

“มู่หลินหว่านท่านพ่อและท่านแม่แย่งทุกอย่างจากมารดาเจ้าได้ ตัวข้าก็แย่งบุรุษที่ควรเป็นของเจ้ามาอยู่ข้างกายของข้า คนไร้ค่าเช่นเจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮูหยินขุนนางชั้นสูง”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 3 มิติบ้านสวน

    มู่หลินหว่านไม่สนว่าผู้ใดจะนัดเจอกันไม่ว่าจะเป็นที่จวนหรือที่ไหนก็ช่าง ยามนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทานอาหารให้อิ่มท้อง และนอนพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงโดยเร็วเท่านั้น เพื่อหาหนทางออกไปจากตระกูลที่น่ารังเกียจแห่งนี้ ด้านของมู่จือหย่าที่รีบแต่งตัวออกมาพบคู่หมั้นหนุ่มอนาคตไกล ที่พยายามให้มารดาแย่งมาจากน้องสาวอย่างมู่หลินหว่านได้ นางรีบขอโทษขอโพยต่อเฉินเยี่ยนหมิงเป็นการใหญ่ โดยกล่าววาจาใส่ร้ายว่าถูกน้องสาวคนรองกลั้นแกล้ง ทำชุดที่เพิ่งได้รับจากร้านตัดเสื้อเปรอะเปื้อน ทั้งที่ตั้งใจจะสวมใส่เพื่อออกไปด้านนอกในวันนี้“หย่าเออร์ขออภัยคุณชายเฉินจริง ๆ เจ้าค่ะที่ออกมาพบล่าช้าจนทำให้คุณชายเสียเวลานั่งรออยู่ตั้งนาน” มู่จือหย่ามาถึงก็เริ่มเสแสร้งเป็นผู้ถูกกระทำทันที“ไม่เป็นไรคุณหนูใหญ่มู่ข้าเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเช่นกัน ว่าแต่เหตุใดถึงไม่สวมชุดใหม่ที่เจ้าบอกเอาไว้เล่า มิใช่ว่าที่ร้านได้นำมันมาส่งให้ที่จวนแล้วรึ”“เอ่อ คือว่าชุดที่หย่าเออร์ตั้งใจจะสวมวันนี้ ถูกน้องรองทำมันเปรอะเปื้อนตอนที่นำไปซักเจ้าค่ะ หย่าเออร์ไม่แน่ใจว่านางไม่ได้ตั้งใจหรือแค่อยากกลั่นแกล้งกันแน่ ไม่กี่วันก่อนก็แอบขโมยปิ่นปั

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 4 อิสระที่ข้าต้องการ

    มู่หลินหว่านใช้เวลาอยู่ในมิติพักใหญ่ถึงได้กลับออกมา และหยุดฟังเสียงโดยรอบกระท่อมหลังเล็กอยู่สักพัก เมื่อไม่มีเสียงของใครจึงวางใจได้ว่าวันนี้คงไม่เกิดเรื่องเช่นเมื่อเช้าอีก คืนนี้มู่หลินหว่านย่อมได้นอนหลับอย่างสบายใจเสียที แต่ในยามเช้าก่อนเวลาอาหารนางต้องไปที่ห้องครัวเสียหน่อย เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าเหตุใดนางยังมีชีวิตอยู่ได้หลายวัน ทั้งที่ถูกทำโทษหนักและไม่ได้ทานข้าวหรือยาแม้แต่น้อย จนพวกบ่าวไพร่บางคนยังคิดว่ามู่หลินหว่านตายอยู่ในกระท่อมหลังเล็กไปแล้ว แต่ที่นางยังไม่รู้ก็คือพวกบ่าวไพร่ที่ห้องครัวรอหาเรื่องนางอยู่ต่างหาก คืนแรกของการได้เข้ามาใช้ชีวิตในยุคโบราณที่ตนชื่นชอบเช่นนี้ ไม่มีอะไรทำให้นางหนักใจขอเพียงหลังจากนี้บำรุงตนเองให้มากเข้าไว้ ร่างกายย่อมกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววันอย่างแน่นอน ต้นยามเหม่ามู่หลินหว่านตื่นล้างหน้าแปรงฟันในห้องนอนของตนในมิติ หลังจากนั้นเดินมุ่งหน้าไปยังห้องครัวตามความทรงจำของร่างเดิม เมื่อมาถึงก็ถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างมาก แต่แล้วอย่างไรใครสนใจกันเพราะนางมาหาของกิน ไม่ได้มาหาเรื่องใครเสียหน่อยถึงจะเป็นเช่นนั้น ใช่ว่าเรื่องจะไม่วิ่งเข้าม

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 5 การเดินทางเพื่อเริ่มต้นใหม่

    หลังจากได้รับอิสระพร้อมหนังสือตัดขาดมาอยู่ในมือของตนแล้ว มู่หลินหว่านเดินออกจากจวนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แม้ชุดที่สวมใส่จะเก่าจนมองไม่ออกว่ามันคือสีอะไร และแทบทั้งตัวยังมีร่อยรอยของการปะชุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่สามารถทำให้รอยยิ้มนั้นจางหายไปได้ ยิ่งเดินมาได้ครึ่งทางมู่หลินหว่านได้ยินเสี่ยวลวี่พูดขึ้น เกี่ยวกับเงินในห้องเก็บสมบัติที่เพิ่งจะเก็บกวาดมาได้“นายหญิงเจ้าคะสิ่งแรกที่ท่านต้องทำก็คือไปร้านขายเสื้อผ้าเจ้าค่ะ เพราะชุดที่ท่านใส่ในตอนนี้ไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง”“หือ เสี่ยวลวี่หรอกหรือเจ้าหายไปไหนมาเห็นเงียบไปเสียนาน ข้าลองเรียกดูก็ไม่มีการตอบกลับจากเจ้าเลย”“เสี่ยวลวี่ไปจัดการเรื่องห้องเก็บสมบัติให้ท่านอย่างไรเล่า ยามนี้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ”“งั้นแสดงว่าตอนนี้หากข้าต้องการซื้อสิ่งใดก็ตาม ย่อมมีเงินใช้จ่ายได้ไม่ว่าจะถูกหรือแพงใช่ไหมเสี่ยวลวี่”“ใช่แล้วเจ้าค่ะนายหญิงท่านเลือกเสือผ้าชุดสวย ๆ มาหลาย ๆ ชุดเลยนะเจ้าคะ จากนั้นไปหาที่หารถม้าสำหรับเดินทางไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ ว่าแต่นายหญิงจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ใดหรือเจ้าคะ”“อืม ข้าไม่อยากอยู่ที่แคว้นเว่ยแห่งนี้

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 6 พบเจอบุรุษปริศนา

    โจวหลินหว่านและบ่าวผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองคน ออกเดินทางด้วยรถม้าทำให้สะดวกสบายกว่านั่งเกวียนวัวหลายเท่า พวกเขาทั้งสามคนไม่รีบร้อนค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นการสำรวจตามเมืองต่าง ๆ ที่เป็นทางผ่าน รวมถึงแวะซื้อเสบียงอาหารเพิ่มเติมเป็นระยะ เพื่อป้องกันยามที่ต้องพักค้างแรมตามป่าเขาที่ไม่มีโรงเตี๊ยม ระหว่างนั่งรถม้าน่าซือได้เล่าถึงตระกูลของมารดา ที่ยามนี้ต่างแยกย้ายกระจัดการกระจายไปคนละทิศละทาง ภายหลังท่านตาท่านยายเสียชีวิตก็มีการแบ่งสมบัติ โดยท่านแม่ได้มากกว่าพี่ชายและน้องสาวคนอื่น ๆ เนื่องจากท่านแม่ช่วยครอบครัวทำงานมากกว่าจึงได้สมบัติเยอะ ด้วยเหตุนี้มู่อวี่เฉินจึงพยายามตามเกี้ยวพามารดาของนาง จนได้แต่งงานและใช้เงินทองในการสอบขุนนางอยู่หลายครั้งกว่าจะผ่านได้ แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับกลายเป็นคนทรยศหักหลังไปเสียได้ โจวหลินหว่านไม่อยากให้บ่าวทั้งสองคิดถึงอดีตอีก จึงเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะนางไม่ได้มีความทรงจำที่ดีกับคนเลวเช่นนั้น“ท่านอาน่าซืออย่าได้ยึดติดกับเรื่องในอดีตอีกเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราจะพาท่านแม่ไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน ข้าจะหาซื้อที่ดินสวย ๆ อยู่ติดเชิงเขาจะแบ่งส่วนหนึ่งทำสุสานให้กับท่านแ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 7 ซื้อที่ดิน

    เช้าวันต่อมาหลินหว่านคิดว่าตนเองตื่นเช้าแล้ว แต่ยังถือว่าช้ากว่าบ่าวทั้งสองของตนเองอีก เพราะที่หน้าประตูมี น่าซือและหยุนเหลียงยืนรอนางอยู่นานแล้ว พวกเขาไม่เคาะประตูเรียกเนื่องจากต้องการให้เจ้านายได้พักผ่อน จากที่ได้สังเกตรูปร่างของหลินหว่านมาสักพักพวกเขาเห็นว่ายังซูบผอมอยู่มาก จึงอยากบำรุงให้นางมีน้ำมีนวลมากอีกสักเล็กน้อย “แอ๊ด อะ อ้าว ท่านอาทั้งสองมาอยู่หน้าห้องของข้าตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ แล้วเหตุใดไม่เคาะประตูเรียกจะได้ไม่ต้องยืนรอให้เมื่อยเช่นนี้” หลินหว่านตกใจเล็กน้อยที่เปิดประตูก็เจอบ่าวทั้งสอง“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณหนูเราสองคนอยากให้ท่านได้พักมากหน่อย ที่สำคัญวันนี้จะให้หยุนเหลียงพาคุณหนูไปที่ศาลาว่าการ เพื่อติดต่อเรื่องซื้อที่ดินที่ท่านต้องการนะเจ้าคะ ส่วนตัวบ่าวจะไปร้านขายสมุนไพรหาซื้อยาบำรุงมาต้มให้คุณหนูได้ดื่ม ร่างกายจะได้มีน้ำมีนวลมากขึ้นเพราะยามนี้ท่านยังดูซุบผอมอยู่เลยเจ้าค่ะ หากยังผ่ายผอมเกรงว่าจะล้มป่วยได้ง่าย ๆ นะเจ้าคะ”“ขอบคุณท่านอาน่าซื้อมากเจ้าค่ะที่เอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ว่านอกจากจะซื้อที่ดินแล้วข้ายังต้องการขอขึ้นทะเบียนกับท่านเจ้าเมือง เพื่อเปลี่ยนสถานะเป็

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 8 สั่งทำอุปกรณ์และทดลองทำขนม

    เมื่อทำการเยี่ยมหวังซินหยางเรียบร้อยพร้อมความขายหน้าของตนเอง หลินหว่านจึงให้หยุนเหลียงพาไปตามหาร้านตีเหล็ก เพื่อจะสั่งทำอุปกรณ์สำหรับทำขนมในการทำเป็นอาชีพต่อจากนี้ ซึ่งเจ้าของร้านตีเหล็กที่เห็นแบบของอุปกรณ์ตามที่หลินหว่านต้องการ ถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยเห็นมีใครสั่งทำถาดเหล็กเป็นหลุมเช่นนี้มาก่อน แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการตัวนายช่าง จึงต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งและได้แจ้งหลินหว่านไว้ว่าหลังจากนี้อีกสามวันให้มารับของได้ที่ร้าน พอรู้เช่นนี้หลินหว่านได้วางมัดจำเอาไว้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากนางสั่งทำไว้สามใบต่อจากร้านทำอุปกรณ์หลินหว่านไปหานายช่างรับสร้างบ้าน ที่มีชาวบ้านแนะนำมาว่านายช่างคนนี้สร้างบ้านได้เก่งที่สุด แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ให้หยุดทำงาน ด้วยเหตุคนงานของนายช่างไปหลอกรับงานอีกเมืองหนึ่ง แต่มิได้บอกกับนายช่างคล้ายไปหลอกลวงลูกค้าเพื่อเอาเงิน จึงเกิดเป็นคดีความแม้จะพ้นผิดแต่ไม่มีใครกล้าจ้างงานมาหลายเดือนแล้ว หลินหว่านที่ได้ฟังเรื่องราวกลับคิดว่าเพราะนายช่างไว้ใจลูกน้องมากเกินไป หากต้องรับสร้างบ้านสวนให้กับนางแล้วละก็ทุกคนต้องลงลายมือชื่อในสัญญา เป็นหลักฐานป้องกั

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 9 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว

    ต้นยามเหม่าในวันต่อมาหลินหว่านตื่นพร้อมกับบ่าวทั้งสอง เพื่อเตรียมตัวไปเปิดแผงขายขนมครกเป็นวันแรก ซึ่งหวังซินหยางที่รู้สึกตื่นเต้นไปกับการเริ่มกิจการของหลินหว่าน ก็ยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อส่งนางที่หน้าประตูบ้านเช่า โดยหลินหว่านเองก็ไม่คิดว่าหวังซินหยางจะตื่นนอน เพียงแค่มายืนส่งนางไปขายของที่ตลาดใกล้ ๆ ด้วยตนเอง จึงส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณออกไปเบา ๆ เท่านั้นเมื่อมาถึงบริเวณตลาดเช้าที่เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ก็ยังมีคนที่มาจับจ่ายซื้อหาวัตถุดิบไปทำอาหารด้วยเช่นกัน หลินหว่านไม่รอช้าเริ่มจัดวางโต๊ะจุดเตาตรงจุดที่ตนเช่าแผงขายของไว้ทันที เผื่ออีกสองเค่อจะมีผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนมของตนจะได้พอมีไว้ขายหลินหว่านยังไม่รู้ว่าแค่สามเตาจะทำทันหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรหากเป็นของอร่อยคนย่อมรอซื้ออยู่แล้ว และก็เริ่มจะเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เมื่อกระทะร้อนได้ที่ ก็เริ่มหยอดแป้งขนมกลิ่นหอมของน้ำกะทิก็กระจายออกไป คนที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาตามกลิ่นและมีคนทนไม่ไหวจึงเดินมาถาม ว่าที่หลินหว่านกำลังทำอยู่นี้คืออะไรเพราะกลิ่นของมันหอมมาก“เอ่อ แม่หนูป้าขอถามอะไรหน่อยสิที่เจ้ากำลังทำคือสิ่งใดรึ เหตุใดถึ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 10 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน

    ตั้งแต่เริ่มทำกิจการขายขนมมาเกือบสิบวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยและยังขายหมดทุกวัน ยิ่งมีเหวินเสียนมาเป็นผู้ช่วยหลังจากได้กระทะขนมมาเพิ่มอีกสามใบ ก็มีลูกค้าสตรีแวะมาซื้อเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นผลดีกับกิจการขนมของหลินหว่านไปในตัว เมื่อขนมครกของหลินหว่านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นางจึงคิดว่าต้องเพิ่มผักลงไปบนหน้าขนมครกบ้างแล้ว เพราะสีสันที่หลากหลายจะยิ่งช่วยให้ขนมน่าทาน รวมถึงเป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจของลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาได้เช่นกันส่วนหวังซินหยางที่พยายามอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บ เขาเคร่งครัดตามคำสั่งของท่านหมอและยังมีหลินหว่าน ที่คอยกำชับเขาอยู่ทุกวันจึงทำให้เขาอยากจะหายเป็นปกติโดยเร็ว อย่างน้อยพอให้ร่างกายแข็งแรงได้ออกไปช่วยงานหลินหว่านก็ยังดี แม้เหวินเสียนจะบอกว่าไม่มีบุรุษมาเกี้ยวพานางก็เถิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะ ไม่มีใครสนใจในตัวของหลินหว่าน ฉะนั้นหวังซินหยางจึงเชื่อฟังและดื่มยาให้ครบถึงจะรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ตนเองสามารถเดินเหินไปด้านนอกได้ก็ต้องอดทนในวันนี้หลังจากขายขนมเสร็จและกลับมาถึงบ้านเช่าแล้ว หลินหว่านได้บอกกับหยุน

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 15 ย้ายเข้าบ้านสวนเสียที

    ด้านจวนตระกูลมู่สถานการณ์ภายในห้องโถงรับแขกของจวนนั้น กลับแตกต่างจากจวนตระกูลเฉินอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากมู่จือหย่าเอาแต่โวยวาย และบอกว่าตัวของนางถูกคนวางแผนทำลายอนาคต โดยเฉพาะการปักใจเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของหลินหนิงเซียนอย่างแน่นอน แต่ฮูหยินผู้เฒ่ามู่กลับเห็นต่างเมื่อได้รับรู้เหตุการณ์ของหลานสาวคนโปรด “กรี๊ดดดด!! ข้าจะกลับไปหาทานพี่เขาเป็นสามีของข้าแล้ว เหตุใดท่านพ่อถึงไม่ช่วยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะนังหนิงเซียนนั่น ที่วางแผนสกปรกทำให้ข้าและตระกูลมู่ต้องอับอายนะเจ้าคะ ฮือ ๆ ๆ” มู่จือหย่ายังไม่หยุดโวยวายแม้จะกลับมาถึงจวนแล้วก็ตาม“เจ้าจะหุบปากได้หรือยัง!! ไม่ว่าจะเป็นแผนการของใครก็ตามแต่เป็นเจ้าที่โง่เอง ในเมื่อคิดได้ว่าหลินหนิงเซียนจะส่งคนเข้ามาปะปนอยู่หมู่บ่าวไพร่ ทำไมยังเรียกหาอาหารหรือน้ำชาจากสาวใช้ที่ไม่น่าไว้ใจได้ ส่วนเจ้าเป็นสาวใช้คนสนิทกลับไม่ตักเตือนเจ้านายแทนที่จะเป็นเจ้าที่ไปยังห้องครัวเพื่อรับอาหารว่างเอง แต่กลับห่วงเรื่องประจบสอพลอเจ้านายหวังเงินรางวัล จนทำให้เกิดเรื่องใหญ่ถึงขั้นที่ตระกูลมู่ของข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง นังบ่าวไม่มีความคิดเจ้ารู้ไหมพรุ่งนี้เช

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 14 ตระกูลมู่อับอายไปทั่วเมืองหลวง

    เฉินจิ้งที่รอเวลาตามแผนหลังจากเริ่มมีเสียงครวญครางดังลั่นด้านในห้อง เขาปล่อยให้จิ้นโจวได้มอบความสุขสมให้มู่จือหย่าอยู่เช่นนั้นเกือบครึ่งชั่วยาม พอสมควรแก่เวลาที่กำหนดไว้จึงกลับเข้าไปในงานเลี้ยงที่ยังมีแขกเหรื่ออยู่ร่วมงาน รวมถึงเหล่าบุรุษและสตรีที่ติดตามบิดามารดามาแสดงความยินดี หนึ่งในนั้นมีหลินหนิงเซียนที่มาพร้อมกับบิดามารดา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า มิได้มีใจอิจฉาริษยามู่จือหย่าแต่อย่างใดเฉินจิ้งแสร้งทำตัวเลิ่กลั่กให้เป็นที่น่าสงสัยสำหรับคนที่มองมา เฉินจิ้งจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเฉินเยี่ยนหมิงด้วยท่าทางมีพิรุธสายตาหลายคู่จึงจับจ้องมายังเฉินจิ้งเป็นพิเศษ ใบหูแต่ละคนก็คอยฟังว่าบ่าวคนสนิทผู้นี้จะบอกเรื่องอะไรกับเจ้านายตนกันแน่ ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นความลับที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ก็ตาม แต่มักจะมีคนที่ชื่นชอบยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของผู้อื่น เป็นคนกระจายข่าวแทนเสมอ“หือ อาหมิงเหตุใดเฉินจิ้งถึงดูกระวนกระวายแปลก ๆ เจ้าเรียกเฉินจิ้งเข้ามาหาพวกเราหน่อยจะดีหรือไม่ จากท่าทางกระอึกกระอักนั่นคล้ายกับว่ามีเรื่องจะรายงานกับเจ้านะ ลองสอบถามดูสิว่ามีเรื่องอันใดอย่าให้ทำตัวไม่มีมารยาทต่อหน้าแขกเหรื่อเช่นนี

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 13 ตระกูลมู่เกิดเรื่องฉาวโฉ่

    การเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังแคว้นหยางเป็นสิ่งที่หลินหว่านตัดสินใจได้ถูกต้อง หากยังเลือกที่จะอยู่แคว้นเว่ยป่านนี้ชีวิตคงไม่มีความสุขเป็นของตนเองแน่ เพราะมู่จือหย่าไม่มีทางให้หลินหว่านอยู่เป็นหนามตำใจ ด้วยเกรงว่าคู่หมั้นที่อุตส่าห์แย่งไปเป็นของตนเองได้จะกลับมาวุ่นวายกับนาง และเช้าวันนี้ก็เป็นวันที่หลินหว่านต้องทำตามคำพูดของนาง นั่นก็คือการทำขนมครกแจกชาวบ้านเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับเรื่องที่ถูกใส่ร้ายเมื่อวานนี้ บรรยากาศการแจกขนมช่างคึกคักยิ่งกว่าทุกวันใครบ้างไม่อยากทานของอร่อย แม้จะพอเจียดเงินไปซื้อทานเองได้ถึงอย่างไรการได้รับของแจกเป็นครั้งคราว ก็ช่วยประหยัดเงินในครอบครัวไปได้ไม่มากก็น้อยและยังเก็บเงินนี้ไว้ซื้อสิ่งอื่นที่ราคาใกล้เคียงกันได้หวังซินหยางผู้เป็นห่วงหลินหว่านเกรงว่านางจะเหนื่อยจนเกินไป จึงได้ให้ซั่วเหยียนมาช่วยแจกขนมกับนางด้วยอีกคน เนื่องจากยามนี้อาการบาดเจ็บของเขาใกล้จะหายดีแล้วสามารถทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ถือเป็นการออกกำลังให้ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว ขณะที่หวังซินหยางกำลังนั่งนึกถึงภาพรอยยิ้มอันอ่อนหวาน ที่หลินหว่านมอบให้กับเขาไปเมื่อวานนี้อยู่ภายใน

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 12 วางแผนไม่เนียนก็รับโทษไป

    หลินหว่านเดินนำหน้าทุกคนตรงไปยังศาลาว่าการเมืองหยางหลิว ที่ยามนี้ใกล้จะได้เวลาเปิดทำการตามปกติกลับมีเสียงตีกลองด้านหน้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่สองสามคนถึงกับรีบวิ่งออกมาดูว่า ใครกันที่มาร้องทุกข์แต่เช้าเช่นนี้ เมื่อพบว่ามีกลุ่มชาวบ้านยืนรอพร้อมกันมากกว่าสี่สิบคน จึงสอบถามเรื่องราวเบื้องต้นเสียก่อนเพื่อนำกลับไปรายงานต่อท่าน เจ้าเมือง และให้ผู้ที่มาร้องทุกข์เข้าไปรอด้านในห้องไต่สวน แต่เจ้าหน้าที่หนึ่งในนั้นจำหน้าหลินหว่านได้จึงเป็นคนเอ่ยถามออกมาแทน“อ้าว คุณหนูท่านนี้ข้าจำท่านได้ท่านเคยมาติดต่อซื้อที่ดินนับร้อยหมู่ ไม่ทราบว่าวันนี้มีเรื่องอะไรกันหรือขอรับ ถึงได้มากันเสียเยอะแยะ แล้วใครที่เป็นคนตีกลองร้องทุกข์เมื่อกี้หรือขอรับ”“สวัสดีตอนเช้าเจ้าค่ะพี่ชายเป็นข้าเองที่ตีกลองร้องทุกข์ไป เนื่องจากมีคนไปอาละวาดที่ตลาดกล่าวหาว่า ขนมที่ข้าทำขายอยู่เกือบหนึ่งเดือนมานี้ไปขโมยสูตรผู้อื่นมา ดังนั้นจึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับท่านเจ้าเมือง เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของสูตรขนมตัวจริงเจ้าค่ะ”“เมืองหยางหลิวไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน ช่างใจกล้ายิ่งนักที่คิดทำเรื่องผิดศีลธรรมทำลายภาพลัก

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 11 ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย

    ภารกิจตามล่าหาหัวมันและฟักทองประสบความสำเร็จด้วยดี เมื่อนำกลับมาถึงบ้านเช่าหลินหว่านมีผู้ช่วยทั้งสี่ คอยทำความสะอาดปอกเปลือกหัวมันกับฟังทอง เพื่อนำไปนึ่งให้สุกพอประมาณแต่ไม่เละสำหรับโรยบนหน้าขนมครก แต่มีบุรุษผู้หล่อเหลานั่งทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่กับที่ดูทุกคนทำงาน ต่างกับตนเองทำได้เพียงนั่งมองกรอกตาไปมา หวังซินหยางอยากจะลุกขึ้นไปช่วยทำงานอย่างยิ่ง ยามนี้เขาทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้นหากยังฝืนทำ มีหวังหลินหว่านคงจะโกรธและไม่พูดคุยกับเขาเป็นแน่หลังจากนึ่งหัวมันกับฟักทองจนได้ที่ยังต้องนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้โรยบนหน้าขนมครกที่จะเริ่มมีสีสันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ในใจของทุกคนกำลังคิดคล้าย ๆ กันว่าลูกค้าที่ได้เห็น จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไรหรือมีคำติชมวิจารณ์เช่นไร เพียงแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นล่วงหน้าไปเสียแล้วแต่งานในมือก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง กว่าจะจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็เข้ายามซวีไปแล้ว หลินหว่านจึงให้น่าซือทำอะไรง่าย ๆ มาทานด้วยกัน หากทำอาหารที่มีหลายขั้นตอนเกรงว่าจะดึกมากไปกว่านี้ และทุกคนจะเสียเวลาพักผ่อนพรุ่งนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้เมื่อถึงเวลาต้องตื่นไปขายขนมที่ตลาดทุกค

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 10 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน

    ตั้งแต่เริ่มทำกิจการขายขนมมาเกือบสิบวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยและยังขายหมดทุกวัน ยิ่งมีเหวินเสียนมาเป็นผู้ช่วยหลังจากได้กระทะขนมมาเพิ่มอีกสามใบ ก็มีลูกค้าสตรีแวะมาซื้อเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นผลดีกับกิจการขนมของหลินหว่านไปในตัว เมื่อขนมครกของหลินหว่านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นางจึงคิดว่าต้องเพิ่มผักลงไปบนหน้าขนมครกบ้างแล้ว เพราะสีสันที่หลากหลายจะยิ่งช่วยให้ขนมน่าทาน รวมถึงเป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจของลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาได้เช่นกันส่วนหวังซินหยางที่พยายามอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บ เขาเคร่งครัดตามคำสั่งของท่านหมอและยังมีหลินหว่าน ที่คอยกำชับเขาอยู่ทุกวันจึงทำให้เขาอยากจะหายเป็นปกติโดยเร็ว อย่างน้อยพอให้ร่างกายแข็งแรงได้ออกไปช่วยงานหลินหว่านก็ยังดี แม้เหวินเสียนจะบอกว่าไม่มีบุรุษมาเกี้ยวพานางก็เถิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะ ไม่มีใครสนใจในตัวของหลินหว่าน ฉะนั้นหวังซินหยางจึงเชื่อฟังและดื่มยาให้ครบถึงจะรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ตนเองสามารถเดินเหินไปด้านนอกได้ก็ต้องอดทนในวันนี้หลังจากขายขนมเสร็จและกลับมาถึงบ้านเช่าแล้ว หลินหว่านได้บอกกับหยุน

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 9 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว

    ต้นยามเหม่าในวันต่อมาหลินหว่านตื่นพร้อมกับบ่าวทั้งสอง เพื่อเตรียมตัวไปเปิดแผงขายขนมครกเป็นวันแรก ซึ่งหวังซินหยางที่รู้สึกตื่นเต้นไปกับการเริ่มกิจการของหลินหว่าน ก็ยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อส่งนางที่หน้าประตูบ้านเช่า โดยหลินหว่านเองก็ไม่คิดว่าหวังซินหยางจะตื่นนอน เพียงแค่มายืนส่งนางไปขายของที่ตลาดใกล้ ๆ ด้วยตนเอง จึงส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณออกไปเบา ๆ เท่านั้นเมื่อมาถึงบริเวณตลาดเช้าที่เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ก็ยังมีคนที่มาจับจ่ายซื้อหาวัตถุดิบไปทำอาหารด้วยเช่นกัน หลินหว่านไม่รอช้าเริ่มจัดวางโต๊ะจุดเตาตรงจุดที่ตนเช่าแผงขายของไว้ทันที เผื่ออีกสองเค่อจะมีผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนมของตนจะได้พอมีไว้ขายหลินหว่านยังไม่รู้ว่าแค่สามเตาจะทำทันหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรหากเป็นของอร่อยคนย่อมรอซื้ออยู่แล้ว และก็เริ่มจะเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เมื่อกระทะร้อนได้ที่ ก็เริ่มหยอดแป้งขนมกลิ่นหอมของน้ำกะทิก็กระจายออกไป คนที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาตามกลิ่นและมีคนทนไม่ไหวจึงเดินมาถาม ว่าที่หลินหว่านกำลังทำอยู่นี้คืออะไรเพราะกลิ่นของมันหอมมาก“เอ่อ แม่หนูป้าขอถามอะไรหน่อยสิที่เจ้ากำลังทำคือสิ่งใดรึ เหตุใดถึ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 8 สั่งทำอุปกรณ์และทดลองทำขนม

    เมื่อทำการเยี่ยมหวังซินหยางเรียบร้อยพร้อมความขายหน้าของตนเอง หลินหว่านจึงให้หยุนเหลียงพาไปตามหาร้านตีเหล็ก เพื่อจะสั่งทำอุปกรณ์สำหรับทำขนมในการทำเป็นอาชีพต่อจากนี้ ซึ่งเจ้าของร้านตีเหล็กที่เห็นแบบของอุปกรณ์ตามที่หลินหว่านต้องการ ถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยเห็นมีใครสั่งทำถาดเหล็กเป็นหลุมเช่นนี้มาก่อน แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการตัวนายช่าง จึงต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งและได้แจ้งหลินหว่านไว้ว่าหลังจากนี้อีกสามวันให้มารับของได้ที่ร้าน พอรู้เช่นนี้หลินหว่านได้วางมัดจำเอาไว้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากนางสั่งทำไว้สามใบต่อจากร้านทำอุปกรณ์หลินหว่านไปหานายช่างรับสร้างบ้าน ที่มีชาวบ้านแนะนำมาว่านายช่างคนนี้สร้างบ้านได้เก่งที่สุด แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ให้หยุดทำงาน ด้วยเหตุคนงานของนายช่างไปหลอกรับงานอีกเมืองหนึ่ง แต่มิได้บอกกับนายช่างคล้ายไปหลอกลวงลูกค้าเพื่อเอาเงิน จึงเกิดเป็นคดีความแม้จะพ้นผิดแต่ไม่มีใครกล้าจ้างงานมาหลายเดือนแล้ว หลินหว่านที่ได้ฟังเรื่องราวกลับคิดว่าเพราะนายช่างไว้ใจลูกน้องมากเกินไป หากต้องรับสร้างบ้านสวนให้กับนางแล้วละก็ทุกคนต้องลงลายมือชื่อในสัญญา เป็นหลักฐานป้องกั

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 7 ซื้อที่ดิน

    เช้าวันต่อมาหลินหว่านคิดว่าตนเองตื่นเช้าแล้ว แต่ยังถือว่าช้ากว่าบ่าวทั้งสองของตนเองอีก เพราะที่หน้าประตูมี น่าซือและหยุนเหลียงยืนรอนางอยู่นานแล้ว พวกเขาไม่เคาะประตูเรียกเนื่องจากต้องการให้เจ้านายได้พักผ่อน จากที่ได้สังเกตรูปร่างของหลินหว่านมาสักพักพวกเขาเห็นว่ายังซูบผอมอยู่มาก จึงอยากบำรุงให้นางมีน้ำมีนวลมากอีกสักเล็กน้อย “แอ๊ด อะ อ้าว ท่านอาทั้งสองมาอยู่หน้าห้องของข้าตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ แล้วเหตุใดไม่เคาะประตูเรียกจะได้ไม่ต้องยืนรอให้เมื่อยเช่นนี้” หลินหว่านตกใจเล็กน้อยที่เปิดประตูก็เจอบ่าวทั้งสอง“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณหนูเราสองคนอยากให้ท่านได้พักมากหน่อย ที่สำคัญวันนี้จะให้หยุนเหลียงพาคุณหนูไปที่ศาลาว่าการ เพื่อติดต่อเรื่องซื้อที่ดินที่ท่านต้องการนะเจ้าคะ ส่วนตัวบ่าวจะไปร้านขายสมุนไพรหาซื้อยาบำรุงมาต้มให้คุณหนูได้ดื่ม ร่างกายจะได้มีน้ำมีนวลมากขึ้นเพราะยามนี้ท่านยังดูซุบผอมอยู่เลยเจ้าค่ะ หากยังผ่ายผอมเกรงว่าจะล้มป่วยได้ง่าย ๆ นะเจ้าคะ”“ขอบคุณท่านอาน่าซื้อมากเจ้าค่ะที่เอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ว่านอกจากจะซื้อที่ดินแล้วข้ายังต้องการขอขึ้นทะเบียนกับท่านเจ้าเมือง เพื่อเปลี่ยนสถานะเป็

DMCA.com Protection Status