Share

ตอนที่ 4 อิสระที่ข้าต้องการ

last update Dernière mise à jour: 2024-11-22 20:10:58

 มู่หลินหว่านใช้เวลาอยู่ในมิติพักใหญ่ถึงได้กลับออกมา และหยุดฟังเสียงโดยรอบกระท่อมหลังเล็กอยู่สักพัก เมื่อไม่มีเสียงของใครจึงวางใจได้ว่าวันนี้คงไม่เกิดเรื่องเช่นเมื่อเช้าอีก คืนนี้มู่หลินหว่านย่อมได้นอนหลับอย่างสบายใจเสียที แต่ในยามเช้าก่อนเวลาอาหารนางต้องไปที่ห้องครัวเสียหน่อย เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าเหตุใดนางยังมีชีวิตอยู่ได้หลายวัน ทั้งที่ถูกทำโทษหนักและไม่ได้ทานข้าวหรือยาแม้แต่น้อย จนพวกบ่าวไพร่บางคนยังคิดว่ามู่หลินหว่านตายอยู่ในกระท่อมหลังเล็กไปแล้ว แต่ที่นางยังไม่รู้ก็คือพวกบ่าวไพร่ที่ห้องครัวรอหาเรื่องนางอยู่ต่างหาก

            คืนแรกของการได้เข้ามาใช้ชีวิตในยุคโบราณที่ตนชื่นชอบเช่นนี้ ไม่มีอะไรทำให้นางหนักใจขอเพียงหลังจากนี้บำรุงตนเองให้มากเข้าไว้ ร่างกายย่อมกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววันอย่างแน่นอน ต้นยามเหม่ามู่หลินหว่านตื่นล้างหน้าแปรงฟันในห้องนอนของตนในมิติ หลังจากนั้นเดินมุ่งหน้าไปยังห้องครัวตามความทรงจำของร่างเดิม เมื่อมาถึงก็ถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างมาก 

แต่แล้วอย่างไรใครสนใจกันเพราะนางมาหาของกิน ไม่ได้มาหาเรื่องใครเสียหน่อยถึงจะเป็นเช่นนั้น ใช่ว่าเรื่องจะไม่วิ่งเข้ามาหาเสียเมื่อไหร่ แม้จะพอเดาได้จากสีหน้าทุกคนแต่มู่หลินหว่านคนใหม่ ใช่จะยอมให้รังแกกันได้โดยง่ายเช่นแต่ก่อนอีกต่อไป ยามนี้ใครเปิดมานางยินดีสวนกลับไม่มีการออมมือ

“โย้ว พวกเราดูสิว่าเช้านี้ใครเดินมาถึงห้องครัวแต่เช้ามืดได้ สงสัยจะนอนพักอย่างเต็มที่ถึงได้รีบกลับมาทำงานกระมัง”

“ฮึ ก็นึกว่าใครที่แท้ก็คุณหนูตกอับที่แม้แต่นายท่านก็ไม่แลนี่เอง จิ๊ ๆ ๆ ช่างน่าสงสารเหลือเกินวันนี้เดินมาถึงห้องครัว จะนำความโชคร้ายเสนียดจัญไรอันใดมาปล่อยทิ้งไว้หรือไม่นะ”

“อี๋ ทำไมห้องครัวถึงได้เหม็นสาบสิ่งสกปรกไปทั่วเช่นนี้เล่า เหล่าเจ้านายในจวนแห่งนี้ทนไปได้อย่างไรกันนะ ดั่งคนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นปียามที่ทำอาหารสิ่งสกปรกไม่ลงไปในหม้อด้วยหรือเนี่ย แหวะ!! แค่คิดก็จะอาเจียนออกมาอยู่แล้ว ดูสิผักก็เหี่ยวเฉาหมูก็เริ่มมีกลิ่นแล้วแต่เจ้านายทุกคนในบ้านก็ยังทานต่อไปได้ ข้าล่ะนับถือความกล้าหาญกับการทานอาหารที่จะเน่าเสียพวกนี้จริง ๆ” เมื่อมีคนเปิดประเด็นก่อนจะปิดปากไม่ตอบโต้ก็กลัวจะเสียมารยาท

“พวกเราดูสิวันนี้คุณหนูตกอับกล้าเถียงกลับด้วยล่ะ ที่ได้แอบอู้งานไปหลายวันเพราะมัวแต่ฝึกคำพูดพวกนี้ล่ะสิ ถ้าเจ้าคิดว่าในห้องครัวมันสกปรกแล้วมาที่นี่ทำไม นู่นกลับไปนอนในกระท่อมสะอาด ๆ ของเจ้าต่อไปสิข้าว่านะพื้นห้องครัวยังสะอาดกว่าเสื้อผ้าของเจ้าเสียอีก ฮ่า ๆ ๆ”

“อ้อ ข้าเข้าใจแล้วเพราะพ่ออย่างเสนาบดีมู่ไม่สนใจใยดีในตัวบุตรสาว ถูกเฉดหัวให้มากระท่อมโทรม ๆ ท้ายจวนทำงานเยี่ยงทาส พวกบ่าวไพร่ทั้งหลายจึงสามารถพูดจาดูถูกอย่างไรก็ได้งั้นหรือ อือ ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างอำนาจในมือของเสนาบดีมู่จะสั่นคลอนหรือไม่นะ น่าสน ๆ ยามนี้ข้าเป็นแค่สาวใช้ไม่ใช่บุตรสาวของเสนาบดีมู่ หากจะไปซุบซิบนินทาเรื่องเจ้านายในตลาดบ้างคงไม่เป็นไรหรอกเนอะพวกเจ้าว่าไหม คิ คิ คิ”

“หนอยแหน่ นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคิดจะสุมไฟให้นายท่านรึ อย่าได้ฝันไปเลยพวกข้าจะช่วยให้เจ้าได้นอนพักผ่อนต่ออีกหน่อย จะได้รู้ว่าสิ่งใดควรพูดสิ่งใดไม่ควรพูด พวกเจ้าสองคนจับตัวนางเอาไว้ข้าจะอบรมสั่งสอนแทนมารดาของนางเอง” หัวหน้าแม่ครัวสั่งสาวใช้สองคนที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อจับตัวมู่หลินหว่านจะได้ตบตีอย่างถนัดมือ

“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ”

มู่หลินหว่านที่ระวังตัวอยู่แล้วเมื่อเห็นว่าสาวใช้สองคนนี้ กำลังจะเข้ามาจับตนเองจึงหยิบไม้กระบองที่ยืดได้หดได้ออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าจอมมีไว้สำหรับป้องกันตัวในโลกก่อน ไม่ต้องรอให้สาวใช้สองคนนี้ถึงตัวก็รีบกดปุ่มสะบัดไม้กระบองออก จากนั้นเริ่มฟาดไปตามตัวของสาวใช้รวมถึงหัวหน้าแม่ครัวปากดี คิดจะอบรมสั่งสอนตนเองแทนมารดาที่ตายไปแล้ว จนทั้งสามคนมีรอยฟกช้ำจากการถูกตีไปทั่วร่างกาย และอาจจะเจ็บไปถึงกระดูกก็เป็นได้

“อยากเจ็บตัวก็เข้ามาจับตัวข้าให้ได้สิ”

“อวดเก่งดีนักประเดี๋ยวเจ้าต้องร้องขอชีวิตจากป้าจางแน่”

“ฟึบ! เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!! โอ๊ย เพี๊ยะ!! อ๊าย เพี๊ยะ!! โอ๊ย เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!! กรี๊ดดด เพี๊ยะ!!”

“พอแล้ว ๆ ๆ หยุดตีเถิดข้าเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว ข้าแค่ทำตามคำสั่งไม่ได้คิดจะทำร้ายท่านเลยจริง ๆ โอย”

“เข้ามาอีกสิอยากเจ็บตัวกันมากนักก็เข้ามา จะจับตัวข้ามิใช่หรือ ที่ผ่านมาตั้งหลายปีข้าก็เจ็บเช่นนี้เหมือนกัน แต่ไม่เห็นมีผู้ใดหยุดมือที่เอาแต่ตบตีข้าสักครั้งเลยนี่ พอพบเจอกับตนเองกลับจะขอให้หยุดมือมันไม่ยุติธรรมสำหรับข้า เมื่อครู่เจ้าหัวหน้าแม่ครัวจางเป็นคนออกคำสั่งสินะ เช่นนั้นก็ลองลิ้มรสความเจ็บปวดดูบ้างจะเป็นไร” มู่หลินหว่านพูดจบก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาป้าจางและฟาดไม้กระบองลงไปไม่ยั้ง

“มะ มะ ไม่อย่าทำข้าเหมือนพวกนางหากข้าบาดเจ็บแล้วใครจะทำอาหาร มู่หลินหว่านเจ้ากำลังหาเรื่องใส่ตนเองอย่างแท้จริง” นางจางพูดไปเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ

“มาถึงขึ้นนี้แล้วเจ้าคิดว่าข้ากลัวอย่างที่พวกเจ้าพูดหรือไม่เล่า พวกเจ้าที่ยืนมองอยู่ด้านนอกหากใครกล้านำเรื่องนี้ไปฟ้องฮูหยิน ข้าจะตามไปตัดลิ้นให้หมดทุกคนอย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทำ พวกเจ้าก็คงเห็นเรื่องในตอนนี้แล้วว่าข้าจะกล้าทำจริงหรือไม่ เอาล่ะถึงเวลาที่คนแก่เช่นเจ้าจะต้องนอนพักบ้างแล้วล่ะ”

“เพี๊ยะ!! กรี๊ด เพี๊ยะ!! โอ๊ย เพี๊ยะ!! โอ๊ย เพี๊ยะ!! หมับ! ปึก”

“โอ๊ย จะ จะ เจ้าจะทำอะไรกับมือของข้าคงไม่ได้จะไม้นั่นที่อยู่ในมือของเจ้า ทุบมันลงมาบนมือของข้าใช่ไหมมู่หลินหว่าน คิดทบทวนให้ดีหากข้าไม่สามารถทำอาหารได้ละก็ นายท่านกับฮูหยินต้องลงโทษเจ้าหนักกว่าเดิมแน่ อึก”

“เช่นนั้นหรือน่ากลัวเสียจริงแต่บังเอิญว่ามันคือสิ่งที่ข้าต้องการ อย่ามัวโน้มน้าวให้เสียเวลาจะดีกว่าเรามาลงมือกันเถิดจะได้จบ ๆ เสียที”

“ไม่นะ ไม่ ๆ ๆ ม่ายยยยยยยยย!! กรี๊ดดดดดด”

“ปึง! ปึง! อ๊ายยยย กร๊อบ!”

“ตุบ เฮ้อ เหนื่อยใช่ย่อยนะเนี่ยไม่ไหวผอมแห้งเช่นนี้ทุบตีคนไม่สนุกเลย เอาไว้คราวหน้ารอให้ข้าแข็งแรงมากกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยกลับมาเล่นกับพวกเจ้าอีกครั้งก็แล้วกัน ฟู่ว อาหารเน่า ๆ ไม่เห็นจะน่ากินตรงไหนกลับไปหาผักมาทำอาหารเองดีกว่า” 

‘นี่นางยังคิดจะกลับมาทุบตีพวกเราอีกงั้นหรือ ยามนี้ยังไม่ค่อยแข็งแรงก็ช้ำไปทั้งตัวแล้วถ้านางแข็งแรงเช่นคนทั่วไป พวกเราทุกคนไม่ตายคามือนางไปเลยรึ’

มู่หลินหว่านหันหลังเดินออกจากห้องครัวไปอย่างสบายอารมณ์ คราแรกยังนึกว่าห้องครัวจะมีอะไรดี ๆ มากกว่านี้เสียอีก เมื่อลองเทียบดูแล้วบ้านสวนของนางยังดีกว่าไม่รู้กี่เท่า จึงกลับมายังกระท่อมและทำอาหารง่าย ๆ ทานเอง โดยไม่รู้ว่ามีคนไม่กลัวคำข่มขู่ของนาง และนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องครัวไปรายงานต่อนายท่านของจวนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นายท่านอย่างมู่อวี่เฉินถึงกับโมโหจนควันออกหู ยิ่งมีซุนฮูหยินคอยพูดจาโน้มน้าวให้จัดการมู่หลินหว่าน จึงเข้าทางทั้งสองเมื่อมีเรื่องร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นพอดี

“ตึก ตึก ตึก นายท่านขอรับเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่ห้องครัว แม่ครัวจางได้รับบาดเจ็บกระดูกมือหักไม่สามารถทำอาหารได้ขอรับ” พ่อบ้านมู่นำเรื่องนี้จากบ่าวไพร่ในห้องครัวมารายงานต่อมู่อวี่เฉิน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ห้องครัวเจ้ารีบพูดมาสิจะรอช้าอยู่ใย เหตุใดแม่ครัวถึงบาดเจ็บจนกระดูกมือหักได้ นี่ก็ใกล้จะได้เวลาที่ข้าต้องไปทำงานแล้วหากไม่ใช่เรื่องใหญ่ จะได้มอบหมายให้ฮูหยินเป็นคนจัดการเรื่องนี้แทน”

“เอ่อ คือเมื่อเช้านี้ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูรอง นางไปยังห้องครัวและหาเรื่องทะเลาะกับพวกแม่ครัวที่กำลังเตรียมอาหาร ถึงขั้นลงไม้ลงมือทุบตีจนแม่ครัวได้รับบาดเจ็บกระดูกมือหัก ไม่สามารถทำอาหารได้อีกนานหลายเดือนเชียวขอรับ”

“อะไรนะ!! นี่นางจะกำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้วกระมัง ใยเมื่อก่อนไม่เห็นนางจะตอบโต้กลับผู้ใด ท่านพี่เจ้าคะคราแรกข้าเองก็ยังไม่อยากเชื่อสักเท่าใดนัก เพราะหย่าเออร์เล่าให้ฟังว่ามู่หลินหว่านตบตีฮุ่ยเหมยบาดเจ็บเมื่อวานยามเช้า แต่พอวันนี้กลับเกิดเรื่องกับพวกแม่ครัวจนกระทบเรื่องอาหารไปทั้งจวน ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วนะเจ้าคะท่านพี่ อีกไม่กี่วันที่จวนของเราจะมีงานเลี้ยงน้ำชาแขกเหรื่อมากมาย หากนางเกิดเป็นบ้าขึ้นมาในวันงานละก็พวกเราคงขายหน้าแย่เจ้าค่ะ”

“หึ นังเด็กคนนี้ข้าอุตส่าห์ให้ที่อยู่ที่กินไม่ต้องไประเหเร่ร่อนข้างนอก ยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณสร้างปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น ในเมื่อนางปีกกล้าขาแข็งถึงเพียงนี้ก็ให้ออกไปใช้ชีวิตเองก็แล้วกัน พ่อบ้านมู่ไปตามนางมาพบข้าที่ห้องทำงานเดี๋ยวนี้” มู่อวี่เฉินเองก็ไม่อยากให้บุตรสาวคนนี้อยู่ในจวนเท่าใดนัก เพราะตนเองมิได้รักใคร่เอ็นดูอะไรในตัวนางแม้จะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของตนก็ตาม

“ขอรับนายท่าน”

พ่อบ้านมู่รับคำและรีบไปยังกระท่อมเก่า ๆ ด้านหลังจวนทันที มู่หลินหว่านกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะเลือกใครเป็นเหยื่อ เพื่อสร้างเรื่องในวันจัดงานเลี้ยงก็มีเสียงเรียกดังขึ้นเสียก่อน

“มู่หลินหว่านนายท่านเรียกให้เจ้าไปพบที่ห้องทำงาน รีบตาม

ข้าไปเดี๋ยวนี้อย่ามัวชักช้ายืดยาดออกมาได้แล้ว”

“แอ๊ด หือ ท่านเสนาบดีมู่ต้องการพบข้าด้วยเรื่องอันใด รบกวนพ่อบ้านมู่แจ้งให้ทราบสักหน่อยเถิด ข้าจะได้รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรยามที่เข้าไปพบท่านเสนาบดีมู่”

“หึ แล้ววันนี้เจ้าไปก่อเรื่องอันใดเอาไว้ที่ห้องครัวเล่า อย่าบอกว่าเจ้าลืมสิ่งที่ตนเองเพิ่งกระทำไปนะมู่หลินหว่าน”

“อ้อ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เองสงสัยจะโมโหหิวกันสินะ ขอบใจที่อุตส่าห์มาตามเชิญพ่อบ้านมู่นำทางเถิด”

‘นายหญิงหรือว่าเราจะได้ออกจากจวนนี้ก่อนเวลา หากเป็นเช่นนั้นย่อมดีกับตัวท่านน่ะสิเจ้าคะ’

‘จริงด้วยเสี่ยวลวี่หากเป็นเช่นที่เจ้าว่ามาก็ดี แต่พวกเรายังไม่ได้ไปที่ห้องเก็บสมบัติเลยนะ หากถูกไล่ออกจากจวนทันทีจะทำอย่างไรเล่า’

‘เรื่องนี้นายหญิงไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะปล่อยให้เสี่ยวลวี่จัดการเอง ท่านต้องได้หนังสือตัดขาดกับตระกูลนี้มาให้ได้ก็พอเจ้าค่ะ’

‘ได้ฝากเจ้าด้วยนะเสี่ยวลวี่ไว้ข้าได้รับอิสระเมื่อไหร่ จะทำขนมของโปรดที่ข้าชอบให้เจ้าลองกินดู’

‘ขอบคุณเจ้าค่ะนายหญิง’

เสี่ยวลวี่คุยกับมู่หลินหว่านเสร็จก็หายไปทันที สถานที่ที่เสี่ยวลวี่ไปนั้นไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นห้องเก็บสมบัติ เมื่อเห็นว่าคนตระกูลนี้ทำร้ายเจ้านายของตนมากเพียงใด ความเมตตาที่จะทิ้งเงินทองไว้ให้สักเล็กน้อยก็ไม่มีอีกต่อไป เสี่ยวลวี่เก็บสมบัติทั้งหมดเข้าในมิติบ้านสวนทั้งหมด เพียงพริบตาในห้องที่เคยอัดแน่นไปด้วยหีบมากมาย กลับว่างเปล่าเหลือเพียงเศษฝุ่นละอองไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

เมื่อมาถึงภายในห้องทำงานของเสนาบดีมู่ นางเองยังไม่ทันจะได้ทำความเคารพมู่หลินหว่านต้องออกแรงปกป้องตนเอง เนื่องจากคนเป็นบิดาลุกขึ้นเดินเข้ามาหาหวังจะตบหน้า เพราะสัญชาตญาณที่มีจึงยกมือขึ้นปัดมือหนาได้ทัน ก่อนที่มันจะฟาดลงมาบนใบหน้าเรียวอย่างแรงเสียก่อน

“หมับ! ยังไม่ทันให้ข้าได้ทำความเคารพตามมารยาท เสนาบดีมู่ก็คิดจะใช้ความรุนแรงต่อสตรีอ่อนแอแล้วงั้นหรือ”

“นี่เจ้า! ดี ดีจริง ๆ อยู่อาศัยกินนอนในจวนของข้ายังกล้าโต้เถียงกับเจ้าของจวน ไหนจะทำร้ายบ่าวไพร่จนบาดเจ็บอีกหลายคนใครให้ความกล้านี้แก่เจ้า” เสนาบดีมู่ไม่คิดว่าจะถูกมือบางยกขึ้นมาปัดป้อง มิหนำซ้ำแรงที่นางใช้จับมือตนคล้ายกับคนไม่เคยเจ็บป่วยสักนิด

“เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องให้ใครมามอบความกล้าให้ข้าหรอกเจ้าค่ะ และใช่จวนนี้เป็นของตระกูลมู่ที่มีท่านเป็นเจ้าของ แต่ก่อนที่ตระกูลท่านจะยิ่งใหญ่ได้ถึงทุกวันนี้ คิดทบทวนดูสักนิดก่อนจะพูดมันออกมาจะดีกว่าไหมเจ้าคะ ว่าใครที่คอยช่วยเหลือท่านทุกอย่างเพื่อสนับสนุนท่าน ขอเพียงให้คนเช่นท่านสอบผ่านจอหงวนเข้ารับราชการ ใครจะคิดว่าคนที่มารดาของข้ารักมากกลับเป็นคนที่ร้ายกาจ ทรยศหักหลังเมื่อได้ดิบได้ดีเป็นขุนนางเรืองอำนาจ ท่านคงจะภูมิใจในตนเองมากกระมังเสนาบดีมู่” มู่หลินหว่านตอบกลับอย่างไม่กลัวและสบตายามที่พูดอยู่ตลอดเวลา

“เจ้าอย่ามาเปลี่ยนเรื่องที่ตนเองกระทำความผิด จะยอมรับโทษแต่โดยดีหรือจะให้ข้าออกคำสั่งไล่เจ้าออกไปจากที่นี่ จวนของข้าไม่เลี้ยงคนอกตัญญูไว้ให้เปลืองเงินทอง หากจะอยู่ที่นี่ต้องรู้จักสงบเสงี่ยมอย่าได้สร้างปัญหาขึ้นมาอีก ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายนะมู่หลินหว่าน” มู่อวี่เฉินไม่ยอมรับว่าสิ่งที่บุตรสาวคนรองพูดออกมาคือเรื่องจริง

“ฮึ ใครจะไปอยากอยู่ในจวนที่เหมือนนรกกันล่ะเจ้าคะ ยามนี้สบโอกาสที่จะกำจัดข้าไปให้พ้นได้เสียที เมื่อข้าไปตายอยู่ด้านนอกท่านก็ไม่ต้องถูกผู้คนครหา แต่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากชาวบ้านแทน เอาเป็นว่าข้ามู่หลินหว่านไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีก รบกวนท่านเสนาบดีมู่มอบหนังสือตัดขาดความสัมพันธ์ เป็นตายไม่เผาผีไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวยเงินทองมีชื่อเสียง จะไม่ขอมีส่วนข้องเกี่ยวใด ๆ ต่อกันอีกไปตลอดชีวิต หรือจะให้ดีรบกวนท่านตัดชื่อข้ากับท่านแม่ออกจาก

ผังตระกูลได้ก็ยิ่งดีเจ้าค่ะ”

“อวดดีเหมือนแม่ของเจ้าไม่มีผิดหากข้ารู้ว่าแม่ของเจ้า จะเป็นสตรีหัวแข็งต่อต้านสามีก่อนที่นางจะตายเช่นนี้ คงไม่คิดแต่งนางมาเป็นภรรยาให้เสียเวลาหรอก หน้าที่ของสตรีมิคิดจัดการแต่ชอบสอดมือมายุ่งเรื่องของบุรุษ หากเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ดีเหมือนกันข้าจะได้เชิญไต้ซือมาทำบุญล้างความอัปมงคล ที่อยู่ในจวนมานานหลายปีให้หมดไปซะ พ่อบ้านมู่เตรียมหมึกกับกระดาษให้ข้าวันนี้ต้องไม่มีนางเสนอหน้าอยู่ในจวนนี้อีก อย่าลืมลบชื่อของนางออกจากผังตระกูลทั้งแม่ทั้งลูก”

“ไอหยา ขอบคุณท่านเสนาบดีมู่มาก ๆ เลยเจ้าค่ะ หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปขอเพิ่มอีกหนึ่งอย่างได้หรือไม่ ป้ายวิญญาณของท่านแม่ข้าต้องการนำติดตัวไปด้วย หวังว่าท่านจะยกให้แต่โดยดีถึงอย่างไรท่านก็ไม่ต้องการอยู่แล้ว มิสู้มอบให้ข้าเป็นสมบัติติดตัวไปเสียจะดีกว่าเจ้าค่ะ” มู่หลินหว่านลอยหน้าลอยตาเอ่ยขอป้ายวิญญาณมารดา โดยไม่สนใจว่ายามนี้เสนาบดีมู่จะมีสีหน้าท่าทางเช่นไร

เสนาบดีมู่รีบนั่งลงเขียนหนังสือตัดขาดให้มู่หลินหว่าน ที่สำคัญเขาไม่อนุญาตให้นางใช้แซ่มู่อีกต่อไป แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่มู่หลินหว่านให้ความสนใจ นางกลับไปใช้แซ่ของมารดาแทนก็มิได้มีปัญหาอันใด หรือจะสร้างตระกูลใหม่ขึ้นมาเป็นของตนเองก็ย่อมได้ ตราประทับของตระกูลมู่ประทับบนกระดาษเรียบร้อย นี่คือสิ่งที่มู่หลินหว่านต้องการมากที่สุดในเวลานี้ เมื่อได้มันมาอยู่ในมือนางไม่รอช้ารีบก้มหัวลงขอบคุณ และกล่าวอำลาเสนาบดีมู่อย่างรวดเร็ว

“หมับ! ขอบคุณท่านเสนาบดีมู่ที่ยินดีมอบหนังสือฉบับนี้ให้ข้า หวังว่านับต่อจากไปพวกเราจะไม่ต้องพบกันอีกนะเจ้าคะ ลาก่อน ลาขาด ลาจากตระกูลที่น่ารังเกียจตลอดไปเจ้าค่ะ อ้อ แต่หากบังเอิญได้พบเจอรบกวนอย่าได้เอ่ยทักทาย หรือชวนพูดคุยเนื่องจากตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราไม่รู้จักมักจี่เป็นเพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น ขอตัว” มู่หลินหว่านชิงพูดขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

“........!?”

เสนาบดีมู่ยังไม่ทันได้ตอบโต้อันใดมู่หลินหว่านก็ออกไปจากห้องทำงานแล้ว นางรับป้ายวิญญาณของมารดามาจากมือพ่อบ้านมู่ และออกจากจวนโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย พวกบ่าวไพร่ที่แอบดูอยู่ต่างพากันแปลกใจไปตาม ๆ กัน ที่มู่หลินหว่านไม่มีท่าทีอาลัยอาวรณ์ให้เห็นสักนิด ส่วนในใจของมู่หลินหว่านนั้นกลับกล่าวคำสาบานอยู่

เงียบ ๆ ให้กับทุกคนในจวนตระกูลมู่

‘พวกเจ้าทั้งหมดใช้ชีวิตกันให้มีความสุขไปก่อนเถิด หากวันใดที่ข้าสามารถมีขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า ขอสาบานว่าจะทำให้พวกเจ้าทั้งนายทั้งบ่าวอยู่มิสู้ตายกันทุกคน’

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 5 การเดินทางเพื่อเริ่มต้นใหม่

    หลังจากได้รับอิสระพร้อมหนังสือตัดขาดมาอยู่ในมือของตนแล้ว มู่หลินหว่านเดินออกจากจวนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แม้ชุดที่สวมใส่จะเก่าจนมองไม่ออกว่ามันคือสีอะไร และแทบทั้งตัวยังมีร่อยรอยของการปะชุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่สามารถทำให้รอยยิ้มนั้นจางหายไปได้ ยิ่งเดินมาได้ครึ่งทางมู่หลินหว่านได้ยินเสี่ยวลวี่พูดขึ้น เกี่ยวกับเงินในห้องเก็บสมบัติที่เพิ่งจะเก็บกวาดมาได้“นายหญิงเจ้าคะสิ่งแรกที่ท่านต้องทำก็คือไปร้านขายเสื้อผ้าเจ้าค่ะ เพราะชุดที่ท่านใส่ในตอนนี้ไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง”“หือ เสี่ยวลวี่หรอกหรือเจ้าหายไปไหนมาเห็นเงียบไปเสียนาน ข้าลองเรียกดูก็ไม่มีการตอบกลับจากเจ้าเลย”“เสี่ยวลวี่ไปจัดการเรื่องห้องเก็บสมบัติให้ท่านอย่างไรเล่า ยามนี้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ”“งั้นแสดงว่าตอนนี้หากข้าต้องการซื้อสิ่งใดก็ตาม ย่อมมีเงินใช้จ่ายได้ไม่ว่าจะถูกหรือแพงใช่ไหมเสี่ยวลวี่”“ใช่แล้วเจ้าค่ะนายหญิงท่านเลือกเสือผ้าชุดสวย ๆ มาหลาย ๆ ชุดเลยนะเจ้าคะ จากนั้นไปหาที่หารถม้าสำหรับเดินทางไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ ว่าแต่นายหญิงจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ใดหรือเจ้าคะ”“อืม ข้าไม่อยากอยู่ที่แคว้นเว่ยแห่งนี้

    Dernière mise à jour : 2024-11-24
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 6 พบเจอบุรุษปริศนา

    โจวหลินหว่านและบ่าวผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองคน ออกเดินทางด้วยรถม้าทำให้สะดวกสบายกว่านั่งเกวียนวัวหลายเท่า พวกเขาทั้งสามคนไม่รีบร้อนค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นการสำรวจตามเมืองต่าง ๆ ที่เป็นทางผ่าน รวมถึงแวะซื้อเสบียงอาหารเพิ่มเติมเป็นระยะ เพื่อป้องกันยามที่ต้องพักค้างแรมตามป่าเขาที่ไม่มีโรงเตี๊ยม ระหว่างนั่งรถม้าน่าซือได้เล่าถึงตระกูลของมารดา ที่ยามนี้ต่างแยกย้ายกระจัดการกระจายไปคนละทิศละทาง ภายหลังท่านตาท่านยายเสียชีวิตก็มีการแบ่งสมบัติ โดยท่านแม่ได้มากกว่าพี่ชายและน้องสาวคนอื่น ๆ เนื่องจากท่านแม่ช่วยครอบครัวทำงานมากกว่าจึงได้สมบัติเยอะ ด้วยเหตุนี้มู่อวี่เฉินจึงพยายามตามเกี้ยวพามารดาของนาง จนได้แต่งงานและใช้เงินทองในการสอบขุนนางอยู่หลายครั้งกว่าจะผ่านได้ แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับกลายเป็นคนทรยศหักหลังไปเสียได้ โจวหลินหว่านไม่อยากให้บ่าวทั้งสองคิดถึงอดีตอีก จึงเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะนางไม่ได้มีความทรงจำที่ดีกับคนเลวเช่นนั้น“ท่านอาน่าซืออย่าได้ยึดติดกับเรื่องในอดีตอีกเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราจะพาท่านแม่ไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน ข้าจะหาซื้อที่ดินสวย ๆ อยู่ติดเชิงเขาจะแบ่งส่วนหนึ่งทำสุสานให้กับท่านแ

    Dernière mise à jour : 2024-11-24
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 7 ซื้อที่ดิน

    เช้าวันต่อมาหลินหว่านคิดว่าตนเองตื่นเช้าแล้ว แต่ยังถือว่าช้ากว่าบ่าวทั้งสองของตนเองอีก เพราะที่หน้าประตูมี น่าซือและหยุนเหลียงยืนรอนางอยู่นานแล้ว พวกเขาไม่เคาะประตูเรียกเนื่องจากต้องการให้เจ้านายได้พักผ่อน จากที่ได้สังเกตรูปร่างของหลินหว่านมาสักพักพวกเขาเห็นว่ายังซูบผอมอยู่มาก จึงอยากบำรุงให้นางมีน้ำมีนวลมากอีกสักเล็กน้อย “แอ๊ด อะ อ้าว ท่านอาทั้งสองมาอยู่หน้าห้องของข้าตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ แล้วเหตุใดไม่เคาะประตูเรียกจะได้ไม่ต้องยืนรอให้เมื่อยเช่นนี้” หลินหว่านตกใจเล็กน้อยที่เปิดประตูก็เจอบ่าวทั้งสอง“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณหนูเราสองคนอยากให้ท่านได้พักมากหน่อย ที่สำคัญวันนี้จะให้หยุนเหลียงพาคุณหนูไปที่ศาลาว่าการ เพื่อติดต่อเรื่องซื้อที่ดินที่ท่านต้องการนะเจ้าคะ ส่วนตัวบ่าวจะไปร้านขายสมุนไพรหาซื้อยาบำรุงมาต้มให้คุณหนูได้ดื่ม ร่างกายจะได้มีน้ำมีนวลมากขึ้นเพราะยามนี้ท่านยังดูซุบผอมอยู่เลยเจ้าค่ะ หากยังผ่ายผอมเกรงว่าจะล้มป่วยได้ง่าย ๆ นะเจ้าคะ”“ขอบคุณท่านอาน่าซื้อมากเจ้าค่ะที่เอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ว่านอกจากจะซื้อที่ดินแล้วข้ายังต้องการขอขึ้นทะเบียนกับท่านเจ้าเมือง เพื่อเปลี่ยนสถานะเป็

    Dernière mise à jour : 2024-11-25
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 8 สั่งทำอุปกรณ์และทดลองทำขนม

    เมื่อทำการเยี่ยมหวังซินหยางเรียบร้อยพร้อมความขายหน้าของตนเอง หลินหว่านจึงให้หยุนเหลียงพาไปตามหาร้านตีเหล็ก เพื่อจะสั่งทำอุปกรณ์สำหรับทำขนมในการทำเป็นอาชีพต่อจากนี้ ซึ่งเจ้าของร้านตีเหล็กที่เห็นแบบของอุปกรณ์ตามที่หลินหว่านต้องการ ถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยเห็นมีใครสั่งทำถาดเหล็กเป็นหลุมเช่นนี้มาก่อน แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการตัวนายช่าง จึงต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งและได้แจ้งหลินหว่านไว้ว่าหลังจากนี้อีกสามวันให้มารับของได้ที่ร้าน พอรู้เช่นนี้หลินหว่านได้วางมัดจำเอาไว้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากนางสั่งทำไว้สามใบต่อจากร้านทำอุปกรณ์หลินหว่านไปหานายช่างรับสร้างบ้าน ที่มีชาวบ้านแนะนำมาว่านายช่างคนนี้สร้างบ้านได้เก่งที่สุด แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ให้หยุดทำงาน ด้วยเหตุคนงานของนายช่างไปหลอกรับงานอีกเมืองหนึ่ง แต่มิได้บอกกับนายช่างคล้ายไปหลอกลวงลูกค้าเพื่อเอาเงิน จึงเกิดเป็นคดีความแม้จะพ้นผิดแต่ไม่มีใครกล้าจ้างงานมาหลายเดือนแล้ว หลินหว่านที่ได้ฟังเรื่องราวกลับคิดว่าเพราะนายช่างไว้ใจลูกน้องมากเกินไป หากต้องรับสร้างบ้านสวนให้กับนางแล้วละก็ทุกคนต้องลงลายมือชื่อในสัญญา เป็นหลักฐานป้องกั

    Dernière mise à jour : 2024-11-25
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 9 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว

    ต้นยามเหม่าในวันต่อมาหลินหว่านตื่นพร้อมกับบ่าวทั้งสอง เพื่อเตรียมตัวไปเปิดแผงขายขนมครกเป็นวันแรก ซึ่งหวังซินหยางที่รู้สึกตื่นเต้นไปกับการเริ่มกิจการของหลินหว่าน ก็ยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อส่งนางที่หน้าประตูบ้านเช่า โดยหลินหว่านเองก็ไม่คิดว่าหวังซินหยางจะตื่นนอน เพียงแค่มายืนส่งนางไปขายของที่ตลาดใกล้ ๆ ด้วยตนเอง จึงส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณออกไปเบา ๆ เท่านั้นเมื่อมาถึงบริเวณตลาดเช้าที่เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ก็ยังมีคนที่มาจับจ่ายซื้อหาวัตถุดิบไปทำอาหารด้วยเช่นกัน หลินหว่านไม่รอช้าเริ่มจัดวางโต๊ะจุดเตาตรงจุดที่ตนเช่าแผงขายของไว้ทันที เผื่ออีกสองเค่อจะมีผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนมของตนจะได้พอมีไว้ขายหลินหว่านยังไม่รู้ว่าแค่สามเตาจะทำทันหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรหากเป็นของอร่อยคนย่อมรอซื้ออยู่แล้ว และก็เริ่มจะเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เมื่อกระทะร้อนได้ที่ ก็เริ่มหยอดแป้งขนมกลิ่นหอมของน้ำกะทิก็กระจายออกไป คนที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาตามกลิ่นและมีคนทนไม่ไหวจึงเดินมาถาม ว่าที่หลินหว่านกำลังทำอยู่นี้คืออะไรเพราะกลิ่นของมันหอมมาก“เอ่อ แม่หนูป้าขอถามอะไรหน่อยสิที่เจ้ากำลังทำคือสิ่งใดรึ เหตุใดถึ

    Dernière mise à jour : 2024-11-25
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 10 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน

    ตั้งแต่เริ่มทำกิจการขายขนมมาเกือบสิบวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยและยังขายหมดทุกวัน ยิ่งมีเหวินเสียนมาเป็นผู้ช่วยหลังจากได้กระทะขนมมาเพิ่มอีกสามใบ ก็มีลูกค้าสตรีแวะมาซื้อเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นผลดีกับกิจการขนมของหลินหว่านไปในตัว เมื่อขนมครกของหลินหว่านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นางจึงคิดว่าต้องเพิ่มผักลงไปบนหน้าขนมครกบ้างแล้ว เพราะสีสันที่หลากหลายจะยิ่งช่วยให้ขนมน่าทาน รวมถึงเป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจของลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาได้เช่นกันส่วนหวังซินหยางที่พยายามอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บ เขาเคร่งครัดตามคำสั่งของท่านหมอและยังมีหลินหว่าน ที่คอยกำชับเขาอยู่ทุกวันจึงทำให้เขาอยากจะหายเป็นปกติโดยเร็ว อย่างน้อยพอให้ร่างกายแข็งแรงได้ออกไปช่วยงานหลินหว่านก็ยังดี แม้เหวินเสียนจะบอกว่าไม่มีบุรุษมาเกี้ยวพานางก็เถิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะ ไม่มีใครสนใจในตัวของหลินหว่าน ฉะนั้นหวังซินหยางจึงเชื่อฟังและดื่มยาให้ครบถึงจะรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ตนเองสามารถเดินเหินไปด้านนอกได้ก็ต้องอดทนในวันนี้หลังจากขายขนมเสร็จและกลับมาถึงบ้านเช่าแล้ว หลินหว่านได้บอกกับหยุน

    Dernière mise à jour : 2024-11-26
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 11 ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย

    ภารกิจตามล่าหาหัวมันและฟักทองประสบความสำเร็จด้วยดี เมื่อนำกลับมาถึงบ้านเช่าหลินหว่านมีผู้ช่วยทั้งสี่ คอยทำความสะอาดปอกเปลือกหัวมันกับฟังทอง เพื่อนำไปนึ่งให้สุกพอประมาณแต่ไม่เละสำหรับโรยบนหน้าขนมครก แต่มีบุรุษผู้หล่อเหลานั่งทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่กับที่ดูทุกคนทำงาน ต่างกับตนเองทำได้เพียงนั่งมองกรอกตาไปมา หวังซินหยางอยากจะลุกขึ้นไปช่วยทำงานอย่างยิ่ง ยามนี้เขาทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้นหากยังฝืนทำ มีหวังหลินหว่านคงจะโกรธและไม่พูดคุยกับเขาเป็นแน่หลังจากนึ่งหัวมันกับฟักทองจนได้ที่ยังต้องนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้โรยบนหน้าขนมครกที่จะเริ่มมีสีสันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ในใจของทุกคนกำลังคิดคล้าย ๆ กันว่าลูกค้าที่ได้เห็น จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไรหรือมีคำติชมวิจารณ์เช่นไร เพียงแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นล่วงหน้าไปเสียแล้วแต่งานในมือก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง กว่าจะจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็เข้ายามซวีไปแล้ว หลินหว่านจึงให้น่าซือทำอะไรง่าย ๆ มาทานด้วยกัน หากทำอาหารที่มีหลายขั้นตอนเกรงว่าจะดึกมากไปกว่านี้ และทุกคนจะเสียเวลาพักผ่อนพรุ่งนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้เมื่อถึงเวลาต้องตื่นไปขายขนมที่ตลาดทุกค

    Dernière mise à jour : 2024-11-26
  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 12 วางแผนไม่เนียนก็รับโทษไป

    หลินหว่านเดินนำหน้าทุกคนตรงไปยังศาลาว่าการเมืองหยางหลิว ที่ยามนี้ใกล้จะได้เวลาเปิดทำการตามปกติกลับมีเสียงตีกลองด้านหน้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่สองสามคนถึงกับรีบวิ่งออกมาดูว่า ใครกันที่มาร้องทุกข์แต่เช้าเช่นนี้ เมื่อพบว่ามีกลุ่มชาวบ้านยืนรอพร้อมกันมากกว่าสี่สิบคน จึงสอบถามเรื่องราวเบื้องต้นเสียก่อนเพื่อนำกลับไปรายงานต่อท่าน เจ้าเมือง และให้ผู้ที่มาร้องทุกข์เข้าไปรอด้านในห้องไต่สวน แต่เจ้าหน้าที่หนึ่งในนั้นจำหน้าหลินหว่านได้จึงเป็นคนเอ่ยถามออกมาแทน“อ้าว คุณหนูท่านนี้ข้าจำท่านได้ท่านเคยมาติดต่อซื้อที่ดินนับร้อยหมู่ ไม่ทราบว่าวันนี้มีเรื่องอะไรกันหรือขอรับ ถึงได้มากันเสียเยอะแยะ แล้วใครที่เป็นคนตีกลองร้องทุกข์เมื่อกี้หรือขอรับ”“สวัสดีตอนเช้าเจ้าค่ะพี่ชายเป็นข้าเองที่ตีกลองร้องทุกข์ไป เนื่องจากมีคนไปอาละวาดที่ตลาดกล่าวหาว่า ขนมที่ข้าทำขายอยู่เกือบหนึ่งเดือนมานี้ไปขโมยสูตรผู้อื่นมา ดังนั้นจึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับท่านเจ้าเมือง เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของสูตรขนมตัวจริงเจ้าค่ะ”“เมืองหยางหลิวไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน ช่างใจกล้ายิ่งนักที่คิดทำเรื่องผิดศีลธรรมทำลายภาพลัก

    Dernière mise à jour : 2024-11-26

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 43 กันและกันทุกชาติภพ

    และในที่สุดวันที่หวังซินหยางรอคอยก็มาถึงเสียที ทุกคนตื่นขึ้นมาช่วยกันจัดเตรียมงานพิธีการตรวจดูความเรียบร้อย ตลอดจนหีบสินสอดมากมายที่นำมาวางให้แขกได้เห็นว่าเจ้าบ่าวให้ความสำคัญกับเจ้าสาวมากเพียงใด ด้านในห้องนอนของหลินหว่านมีน่าซือและฟางจือฉิงช่วยกันอาบน้ำให้เจ้าสาว ด้วยการใช้สมุนไพรเนื่องจากเป็นความเชื่อว่าจะนำโชคลาภ ความสุข และความสำเร็จมาให้ เช่น ใบไผ่ ดอกบัว หรือดอกมะลิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความงาม จากนั้นชุดเจ้าสาวสีแดงปักดิ้นทองด้วยลวดลายที่สวยงามก็ถูกสวมใส่บนเรือนร่างที่งดงามไร้ที่ติของหลินหว่าน เครื่องหัวเป็นรูปทรงดอกบัวและมีปิ่นปักผมรูปนกยูงหลังจากแต่งตัวเสร็จ หลินหว่านมีหน้าที่นั่งรอเจ้าบ่าวมารับตัวและใช้พัดปิดบังใบหน้าเอาไว้เมื่อได้เวลาเสียงฝีเท้ามากมายดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ยิ่งทำให้หัวใจของหลินหว่านเริ่มเต้นถี่รัว เพราะนี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกของนางทั้งสองชาติภพเชียวนะ“เจ้าบ่าวได้เวลารับตัวเจ้าสาวแล้ว”เสียงของจิ้นกงกงผู้รับผิดชอบดำเนินการเรื่องพิธีดังขึ้นบริเวณด้านหน้าห้อง หวังซินหยางเดินผ่านประตูเข้ามาดวงตาคมกริบทอดมองไปร่างของเจ้าสาวที่นั่งรอเขาอยู่ เมื่

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 42 กลุ่มค้าข้าวเพื่อชาวนา

    หวังซินหยางและหลินหว่านเดินจูงมือกันลงมาจากเชิงเขา ก่อนที่ทั้งสองจะลงมาถึงด้านล่างก็มองเห็นแล้วว่ามีใครจับกลุ่มยืนรออยู่บ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้หลินหว่านจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต นางให้หวังซินหยางบอกกับทุกคนเรื่องที่บ้านสวนแห่งนี้ของนาง กำลังจะมีงานมงคลเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า“นี่อาหยางเจ้าต้องอธิบายกับเปิ่นหวางและทุกคนแล้วนะ เล่นเดินจับมือคุณหนูโจวไม่ปล่อยเช่นนี้หมายความว่าไร แล้วไอ้ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตลอดทางนั่นอีกรีบบอกมาเร็วเข้า” หยางอ๋องเห็นท่าทีของพระสหายที่ดูมีความสุขเกินไป จึงสงสัยว่ามีอะไรที่พวกเขารู้เห็นกันเพียงสองคนหรือไม่“นั่นสิพี่ใหญ่ท่านบอกพวกเรามาเถิด มิใช่แค่ท่านอ๋องที่อยากรู้แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ล้วนอยากรู้ทุกคนเลยล่ะ” พระชายาหวังแอบคิดอยู่ในใจว่าจะเป็นอย่างที่คิดไหม“คุณชายหยะ....”“เอาล่ะ ๆ ๆ เจ้าไม่ต้องถามเพิ่มแล้วเหวินเสียน ไหน ๆ ก็อยู่พร้อมหน้ากันทั้งหมดเช่นนั้นขอบอกให้ทุกคนทราบว่า หว่านเออร์ยินดีแต่งเข้าตระกูลหวังในฐานะสะใภ้ใหญ่แล้ว และงานมงคลสมรสจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เมื่อบิดาของข้านำสินสอดมารับขวัญว่าที่ลูกสะใภ้” พอได้บอกออกไปหวังซินหยางรู้สึกสบายใจมากกว่าเดิมเสียอ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 41 เจ้าช่วยเป็นฮูหยินของพี่ได้ไหม

    แม้ว่าจะมีแขกสูงศักดิ์ช่วยประเดิมเข้าพักในบ้านสวนของหลินหว่าน แต่ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติเพียงแต่ต้องจัดสรรเวลาใหม่ เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าไม่ว่าจะเรื่องอาหาร เสื้อผ้าสำหรับทำกิจกรรมตามตารางที่หลินหว่านทำไว้ รวมถึงงานที่ทำร่วมกับชาวบ้านอย่างธูปสมุนไพรไล่ยุง ซึ่งครอบครัวของใต้เท้าหลัวและครอบครัวใต้เท้าจิ่ง อยากซื้อกลับไปใช้ที่จวนในเมืองหยางฉินจำนวนหลายห่อ หลินหว่านจึงได้แนะนำให้ซื้อกับตัวแทนของหมู่บ้านหลูหยาง ทำให้ใต้เท้าหลัวได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของคนในหมู่บ้านแห่งนี้ จนเกิดแนวความคิดจะใช้หมู่บ้านหลูหยางเป็นต้นแบบ เพื่อให้หมู่บ้านในพื้นที่อื่น ๆ รักและสามัคคีเช่นนี้บ้าง ใต้เท้าหลัวยังคิดไปถึงเรื่องการคิดค้นผลิตภัณฑ์ประจำหมู่บ้าน ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงออกมาวางขายด้วยเช่นกันเมื่อกิจการในฝันได้เริ่มต้นขึ้นตามที่ต้องการแล้ว หลินหว่านจึงมอบหมายให้หยุนเหลียงไปซื้อร้านค้าในเมืองหลางหลิว สำหรับทำเป็นร้านขายขนมครกและรับสมัครลูกจ้างประจำร้านห้าคน เพราะมันเป็นกิจการแรกที่หลินหว่านใช้หาเงินหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ โดยจะให้น่าซือไปตรวจบัญชีของร้านทุกสิบห้าวัน“คุณหนูให้เ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 40 ได้ฤกษ์เปิดกิจการ

    ระหว่างทางกลับหมู่บ้านหลูหยางรถม้าของหลินหว่านได้หยุดกลางคัน เนื่องจากฟางติงฉ่ายบิดาของฟางจื่อฉิงกำลังจะตามไปที่หมู่บ้านหลูเฟินพอดี เมื่อบังเอิญเจอกันเหอซู่เผิงจึงได้เรียกเอาไว้และบอกว่า ยามนี้ฟางจื่อฉิงอยู่บนรถม้าของหลินหว่านแล้ว จึงได้บอกให้ทุกคนกลับหมู่บ้านแทนเพราะไม่อยากให้มีเรื่องราวใหญ่โตพอทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฟางจื่อฉิง พวกเขาต่างก็มาเยี่ยมและให้กำลังใจกับฟางจื่อฉิง เพราชาวบ้านเองต่างก็เอ็นดูนางและเห็นการเติบโตของนางมาตั้งแต่เด็ก บางคนถึงกับโกรธแค้นหมู่บ้านหลูเฟินที่ไม่คิดจะยื่นมือช่วยเหลือฟางจื่อฉิงสักนิด ยามที่ถูกสองแม่ลูกนั่นรุมทำร้ายเอาแต่ยืนมองดั่งก้อนหิน แต่เมื่อได้ยินว่าคุณหนูโจวเจ้าของน้ำปุ๋ยหมักให้ส่งจดหมายถึงหยางอ๋อง ว่าไม่ต้องการขายมันให้กับคนไร้ศีลธรรมจึงพอจะลดความโกรธลงมาได้ “สมน้ำหน้าพวกนั้นแล้วในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจ ควรตามฟางเหม่ยไปรับฟังและหาทางออกร่วมกันถึงจะถูก แต่นี่กลับบังคับให้ฉิงเออร์หย่าขาดกับสามีตัวดีนั่นท่าเดียว” นางหงโยวที่มาเยี่ยมและให้กำลังทั้งสหายกับบุตรสาวนั่งพูดด้วยความโมโห“ต่อไปทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้นไปด้วยกันทั้งเมือง แต่

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 39 ถูกบังคับให้หย่า

    ต้นยามเฉินของเช้าวันต่อมาหลังจากทานมื้อเช้าที่แสนอร่อย หลินหว่านและทุกคนจึงได้เริ่มต้นตกแต่งภายในบ้านแต่ละหลัง โดยที่นางไม่ลืมหยิบภาพวาดที่คัดเลือกมาบางส่วน นำมาตกแต่งเพิ่มให้กับผนังห้องไม่ให้ดูโล่งจนเกินไป หลินหว่านเน้นความอบอุ่นและสวยงามด้วยการผสมผสานเครื่องตกแต่งที่ทำจากไม้คุณภาพดี มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับห้องรับแขกด้านในห้องนั่งเล่นส่วนตัวนั้นหลินหว่านจัดวางเก้าอี้ตัวใหญ่นั่งได้อย่างสบาย ๆ พร้อมโต๊ะกลางที่มีลายไม้สวยงามผนังห้องประดับด้วยงานศิลปะ ที่สื่อถึงวัฒนธรรมจีนเป็นการสร้างบรรยากาศที่สงบฝั่งห้องทานอาหารตกแต่งด้วยโต๊ะไม้ขนาดพอดีและเก้าอี้ที่มีเบาะรองนั่งสีอ่อน ตรงกลางโต๊ะมีแจกันดอกไม้สดเพิ่มความสดชื่นและสีสันยามนั่งทานอาหาร ส่วนห้องนอนถูกออกแบบให้เป็นที่พักผ่อนอย่างแท้จริง โดยใช้เตียงที่มีหัวเตียงทำจากไม้สลักลวดลายละเอียด พร้อมด้วยผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนในโทนสีเนื้อและสีทอง ที่ช่วยสร้างความอบอุ่นและผ่อนคลายให้กับการนอนหลับ ผนังห้องตกแต่งด้วยภาพธรรมชาติที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อน จากฝีมือของจิตรกรทั้งสามคนที่วาดภาพได้งดงามไม่แพ้จิตร

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 38 ถึงบ้านสวนเตรียมเปิดกิจการในฝัน

    เมื่อได้รับพระราชานุญาตตามฎีกาที่ตนได้ถวายต่อฮ่องเต้แล้ว หวังซินหยางยังไม่กลับจวนในทันทีเขากลับไปที่สำนักตรวจสอบ เพื่อสะสางงานที่ยังค้างอยู่เล็กน้อยและพิจารณารายชื่อ เหล่าหัวหน้าแต่ละกลุ่มตามผลงานที่ผ่านมาเป็นแนวทางในการคัดเลือก สำหรับตำแหน่งผู้รักษาการสำนักตรวจสอบในเมืองหลวง แต่ไม่ว่าหวังซินหยางจะเลือกหัวหน้าคนใดขึ้นมาก็ตาม ทุกคนในสำนักตรวจสอบย่อมเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะทุกคนล้วนทำงานร่วมกันมานานเสี่ยงอันตรายมาก็มาก นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายก่อนที่หวังซินหยางจะตัดสินใจเลือก ‘สุยอี้หยวน’ รับภาระดูแลสำนักตรวจสอบในเมืองหลวงแทนเขา และหวังซินหยางยังได้เตรียมส่งมอบงานที่เป็นคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาที่นี่ได้ทำฆ่าเวลา เมื่อใดที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับขุนนางที่ทำผิดกฎหมายของแคว้น เวลานั้นพวกเขาทุกคนจะได้ทำงานร่วมกันอีกครั้งด้านหลินหว่านที่จัดการกับสิ่งของต่าง ๆ ของตนเรียบร้อย จึงได้แวะไปสนทนากับว่าที่พระชายาเอกของหยางอ๋อง อย่างหวังลี่ถิงที่พักหลังนางต้องดูแลตนเองเป็นอย่างดี ทั้งกริยามารยาทรวมถึงเรื่องรูปร่างผิวพรรณที่ต้องงดงามที่สุด ยามที่สวมชุดแต่งงานจะยิ่งทำให้ดูสง่างามเพิ่มขึ้นอีกหลายเท

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 37 การตัดสินใจของหวังซินหยาง

    ภายหลังมื้ออาหารเย็นในวันหนึ่งก่อนหลินหว่านจะกลับเรือนรับรอง ได้เดินมาหยุดมองดวงจันทร์กลมโตที่ส่องสว่างมากเป็นพิเศษในคืนนี้ นางนึกถึงเรื่องที่ตนได้มาสานต่อความฝันยังอีกโลกหนึ่ง หลังจากต้องตายด้วยฝีมือของกลุ่มคนชั่ว นอกจากนี้ยังได้นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาช่วยเหลือผู้คนมากมาย ซึ่งตอนนี้ในเมืองหลวงเริ่มมีชาวบ้านนำผัก มาขายมากขึ้น ส่วนตัวของหลินหว่านเองก็ลงมือเพาะปลูกวัตถุดิบทั้งหลาย ที่ต้องใช้ในกิจการร้านขนมครกเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางกลับเมืองหยางหลิวพร้อมขบวนเสด็จของหยางอ๋อง เพราะต้องนำเกี้ยวเจ้าสาวอย่างหวังลี่ถิงกลับตำหนักอ๋องในเมืองหยางฉินหวังซินหยางที่เดินตามหลังหลินหว่านมาติด ๆ เห็นนางหยุดยืนเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน จึงได้สาวเท้าตามไปพูดคุยเรื่องบางอย่างกับนาง“หว่านเออร์เหตุใดถึงมาหยุดอยู่ตรงนี้เล่า กำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือพี่เห็นเจ้าเอาแต่จ้องมองท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวและดวงจันทร์อยู่นาน” และภาพที่เขาได้เห็นมันช่างงดงามดั่งภาพวาดก็มิปาน“พี่ชายหวังท่านมิได้กลับเรือนนอนหรอกหรือเจ้าคะ ที่ข้าหยุดยืนมองท้องฟ้าเป็นเพราะว่าคืนนี้ดวงจันทร์งดงามมากเจ้าค่ะ และยัง

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 36 สามตระกูลใหญ่ล่มสลาย

    หลังจากวันที่ได้สั่งสอนบุรุษเช่นเฉินเยี่ยนหมิง หลินหว่านยังคงวุ่นอยู่กับการเตรียมต้นกล้าผัก และการเข้าไปดูร้านขนมสลับกับหวังลี่ถิงเป็นครั้งคราว เพราะหลินหว่านต้องใช้ที่ดินทั้งสิบหมู่ที่หวังซินหยางซื้อให้ เพาะปลูกผักที่เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับขนมครกของนาง และได้ส่งจดหมายถึงน่าซือว่าต้องอยู่จัดการงานที่เมืองหลวงเสียก่อน จากนั้นจะกลับไปเปิดกิจการบ้านสวนที่นางใฝ่ฝันเสียทีหวังซินหยางที่รู้เรื่องนี้ก็มิได้ร้อนรนแต่อย่างใด เพราะเท่าที่เขาสังเกตตั้งแต่รู้จักกันในวันแรก ๆ พอจะเดาได้ไม่ยากนัก ว่าสถานที่ที่หลินหว่านชอบและต้องการอาศัยอยู่มากที่สุด นั่นก็คือบ้านสวนของนางที่หมู่บ้านหลูหยาง ตัวของหวังซินหยางจึงได้คิดวางแผนอนาคตของตนไว้เงียบ ๆ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเขาย่อมตัดสินใจอย่างไม่ลังเลการใช้ชีวิตและการทำงานของหลินหว่านกับหวังซินหยาง ยังคงเหมือนเช่นเดิมในทุก ๆ วันอาจจะมีเรื่องรุนแรงบ้างแต่ไม่หนักหนาเท่าใดนัก แต่สถานการณ์ภายในเมืองหลวงของแคว้นเว่ย กำลังสับสนวุ่นวายขึ้นในวันหนึ่งยามเช้าตรู่ เมื่อผู้คนออกจากบ้านเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน และได้พบกับกระดาษมากมายที่ถูกโยนทิ้งไว้กลางถนน“นี่มันกระดาษอั

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 35 เจ้าคิดผิดมหันต์ที่อยากได้ข้าเป็นเมีย

    วันถัดมาหวังซินหยางถูกเรียกตัวเข้าวังหลวงอย่างที่คิดจริง ๆ หวังเจี้ยนหนานที่เห็นสีหน้าแววตาของบุตรชายคนโต จำต้องตักเตือนสักเล็กน้อยมิให้เขาแสดงออกชัดเจนจนเกินไป แม้จะโมโหจนอยากสังหารให้ตายก็อย่าให้ศัตรูอ่านความคิดได้ หวังซินหยางจึงพยายามปรับอารมณ์และสีหน้าของตนให้เป็นปกติเท่าที่จะทำได้และเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น ฮ่องเต้ไม่ต้องใช้เวลาในการตัดสินพระทัยคำตอบที่เฉินเยี่ยนหมิงได้รับ คือการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาแม้จะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ที่ดี แต่ฮ่องเต้ย่อมต้องคัดเลือกสตรีที่เหมาะสมและจงรักภักดีกับรัชทายาท รวมถึงราชบัลลังก์ไม่มีความคิดที่จะแย่งชิง“ฝากใต้เท้าเฉินกลับไปทูลฮ่องเต้ของท่านด้วยว่า เจิ้นรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนักที่ฮ่องเต้ของท่านยอมตัดใจส่งธิดาองค์โตมาเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ แต่เจิ้นมีวิธีการแก้ไขปัญหาเป็นของตนเองถึงยามนี้จะยังไม่ดีนัก แต่ในอีกไม่ช้าทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดทีเดียว เมื่อวันนั้นมาถึงข่าวลือย่อมไปถึงแคว้นเว่ยอย่างรวดเร็วแน่ ๆ” หากเจิ้นโง่คงไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรนี้หรอกนะ“เอ่อ ฝ่าบาทจะไม่ทรงเก็บไปพิจารณาดูก่อนหรือพ่ะย่ะค่ะ”“หืม เ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status