แชร์

ตอนที่ 5 การเดินทางเพื่อเริ่มต้นใหม่

ผู้แต่ง: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 13:14:36

หลังจากได้รับอิสระพร้อมหนังสือตัดขาดมาอยู่ในมือของตนแล้ว มู่หลินหว่านเดินออกจากจวนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แม้ชุดที่สวมใส่จะเก่าจนมองไม่ออกว่ามันคือสีอะไร และแทบทั้งตัวยังมีร่อยรอยของการปะชุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่สามารถทำให้รอยยิ้มนั้นจางหายไปได้ ยิ่งเดินมาได้ครึ่งทางมู่หลินหว่านได้ยินเสี่ยวลวี่พูดขึ้น เกี่ยวกับเงินในห้องเก็บสมบัติที่เพิ่งจะเก็บกวาดมาได้

“นายหญิงเจ้าคะสิ่งแรกที่ท่านต้องทำก็คือไปร้านขายเสื้อผ้าเจ้าค่ะ เพราะชุดที่ท่านใส่ในตอนนี้ไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง”

“หือ เสี่ยวลวี่หรอกหรือเจ้าหายไปไหนมาเห็นเงียบไปเสียนาน ข้าลองเรียกดูก็ไม่มีการตอบกลับจากเจ้าเลย”

“เสี่ยวลวี่ไปจัดการเรื่องห้องเก็บสมบัติให้ท่านอย่างไรเล่า ยามนี้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ”

“งั้นแสดงว่าตอนนี้หากข้าต้องการซื้อสิ่งใดก็ตาม ย่อมมีเงินใช้จ่ายได้ไม่ว่าจะถูกหรือแพงใช่ไหมเสี่ยวลวี่”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะนายหญิงท่านเลือกเสือผ้าชุดสวย ๆ มาหลาย ๆ ชุดเลยนะเจ้าคะ จากนั้นไปหาที่หารถม้าสำหรับเดินทางไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ ว่าแต่นายหญิงจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ใดหรือเจ้าคะ”

“อืม ข้าไม่อยากอยู่ที่แคว้นเว่ยแห่งนี้แล้วล่ะเสี่ยวลวี่ สถานที่ที่คิดว่าเหมาะสมและน่าจะดีกว่าหลายเท่า ข้าคิดว่าจะไปแคว้นหยางน่ะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เข้าไปทำความสะอาด ด้านในห้องทำงานของเสนาบดีมู่มีข้อมูลการค้าของแคว้นหยาง เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันที่นั่นเถิดส่วนคนชั่วพวกนี้ รอสักวันหนึ่งที่ข้ามีผู้หนุนหลังตำแหน่งใหญ่โต ค่อยจัดการแก้แค้นให้กับท่านแม่ก็ยังไม่สายเกินไป แต่ตอนที่ข้ายังเด็กเคยมีสาวใช้กับบ่าวของท่านแม่ ที่ติดตามมาจากบ้านเดิมคอยดูแลข้างกายทุกวัน ต่อมาเมื่อท่านแม่ไม่อยู่แล้วพวกเขาก็ถูกไล่ออกไปเช่นกัน ตัวข้าจำได้เพียงว่าชื่ออะไรส่วนใบหน้านั้นเลือนรางเต็มที เสี่ยวลวี่เจ้าพอจะมีวิธีไหนตามหาพวกเขาได้บ้างไหม ทั้งสองคนชื่อว่าน่าซือกับหยุนเหลียงหากพวกเขายังอยู่ในเขตเมืองหลวง ข้าต้องการตามหาพวกเขาให้พบเสียก่อน จะได้เดินทางไปแคว้นหยางด้วยกัน”

“แน่นอนว่าเสี่ยวลวี่ย่อมมีวิธีสืบหาพวกเขาให้นายหญิง ตอนนี้ท่านสบายใจได้แล้วนะเจ้าคะไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นกันเถิดเจ้าค่ะ”

“อื้อ ขอบใจนะเสี่ยวลวี่”

“ยินดีรับใช้นายหญิงเจ้าค่ะ”

มู่หลินหว่านเดินตามหาร้านค้าขายเสื้อผ้าสำเร็จ จนผู้คนในเมืองหลวงที่เดินสวนทางกับนางต่างมองด้วยความสงสาร แต่มู่หลินหว่านมิได้สนใจผู้อื่นว่าจะคิดอย่างไร นางยังคงตามหาร้านค้าต่อไปจนพบกับร้านผ้าขนาดกลาง ๆ ที่มีลูกค้าอยู่ไม่มากนัก และรอจนกว่าลูกค้าจะออกจากร้านจนหมดแล้ว ค่อยเข้าไปด้านในร้านเพื่อสอบถามถึงชุดตัดสำเร็จรวมถึงราคาขายแต่ละชุด มู่หลินหว่านเลือกชุดสำเร็จสีอ่อน ๆ มาสองสามชุด และขอใช้ห้องของทางร้านเพื่อเปลี่ยนไปสวมชุดใหม่ทันที เจ้าของร้านที่เห็นยังเอ่ยปากชมว่านางงดงามน่ารักสมวัย ก่อนจะออกจากร้านเถ้าแก่ยังมอบผ้าคลุมหน้าให้อีกหนึ่งผืน มู่หลินหว่านเข้าใจความหมายของมันได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ปล่อยให้มู่หลินหว่านเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ เสี่ยวลวี่ได้หายตัวไปพบปะกับเหล่าต้นไม้ใบหญ้าทั้งหลาย ที่ขึ้นอยู่ตามตรอกซอกซอยในเมืองหลวง โดยขอความช่วยเหลือให้ตามหาคนชื่อน่าซือและหยุนเหลียง เหล่าสหายต้นไม้ก็ยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งเสี่ยวลวี่จะมาพบหลังจากนี้อีกครึ่งชั่วยาม สหายต้นไม้ทั้งหลายจึงรีบส่งข่าวไปยังมุมต่าง ๆ เผื่อจะได้ข้อมูลก่อนจะครบเวลาตามที่เสี่ยวลวี่บอกไว้ 

ส่วนมู่หลินหว่านนั่งรอเสี่ยวลวี่อยู่ในร้านน้ำชาร้านหนึ่ง และได้หยิบหนังสือตัดขาดฉบับนั้นขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เมื่อเห็นประโยคหนึ่งที่ห้ามมิให้นางใช้แซ่มู่อีกหลังจากออกจากตระกูล ฉะนั้นนางแค่กลับไปใช้แซ่ของมารดาก็ไม่เป็นปัญหาอันใด นับจากวันนี้เป็นต้นไปชื่อแซ่ของนางก็คือ ‘โจวหลินหว่าน

“เฮ้อ ในที่สุดข้าก็พาเจ้าหลุดพ้นจากตระกูลน่ารังเกียจนั่นมาได้เสียที มู่หลินหว่านขอให้เจ้ากับมารดาได้เกิดเป็นแม่ลูกกันอีกครั้ง และมีชีวิตที่ยืนยาวมากว่าในชาตินี้เถิดนะ เอ๊ะ! จะว่าไปแล้วเสี่ยวลวี่หายไปไหนนะตั้งแต่ออกจากจวน ก็หายเงียบไปเลยทุกทีต้องชวนข้าคุยแท้ ๆ”

“แว๊บ! กรี๊ดด อุ๊บ!”

“นายหญิงเจ้าคะข้าพอจะได้ข่าวคนของมารดาท่านแล้วเจ้าค่ะ”

“เสี่ยวลวี่!! โธ่เอ้ยข้าขอร้องละนะถ้าจะปรากฏตัวช่วยส่งเสียงบอกล่วงหน้าได้ไหม เจ้าเล่นปุ๊บปั้บโผล่ออกมาเช่นนี้ข้าเป็นต้องตกใจทุกทีสิน่า ค่อย ๆ ทำให้ชินไปที่ละนิดได้หรือไม่เสี่ยวลวี่คนงาม”

“แฮะ ๆ ๆ ขออภัยเจ้าค่ะเสี่ยวลวี่ลืมตัวไปหน่อยว่าท่านยังไม่ชิน คราวหน้าจะไม่ลืมอีกแล้วเจ้าค่ะนายหญิง ข้าดีใจที่มีข่าวคนของมารดาท่านจากเหล่าสหายต้นไม้ จึงรีบกลับมาเพื่อบอกกับท่านเจ้าค่ะ”

“เจ้าพูดจริงหรือเสี่ยวลวี่ที่ว่าได้ข่าวคนของท่านแม่น่ะ แล้วสหายของเจ้าพวกเขาบอกว่าอย่างไรบ้าง ยามนี้ทั้งสองคนพักอยู่ที่ใดยังสบายดีอยู่หรือไม่” โจวหลินหว่านถามเสี่ยวลวี่ด้วยความตื่นเต้น

“ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะนายหญิงไม่ต้องรีบร้อน ข้าจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้ สหายของข้าบอกว่าทั้งสองคนยังคงอยู่ที่เมืองหลวง โดยยึดอาชีพขายเซาปิ่งที่ตลาดเช้าทุกวันไม่ยอมกลับบ้านเกิด คงหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้พบเจอท่านที่เติบโตเป็นสตรีงดงาม ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินกันไปมาบนถนนในเมืองหลวงสักครั้งก็เป็นได้เจ้าค่ะ”

“พวกเขาช่างซื่อสัตย์กับท่านแม่ของข้ายิ่งนักเสี่ยวลวี่ ทั้งที่สามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวได้แท้ ๆ แต่กลับยังคงรอคอยเพื่อจะได้พบเจอกับข้า ที่ถูกกักขังใช้งานเยี่ยงทาสอยู่ภายในจวนนั่นสิบกว่าปี ใครจะรู้ว่ายามนี้ข้าผ่านพ้นวัยปักปิ่นมาแล้วถึงหนึ่งปี ในวงสังคมชนชั้นสูงไม่เคยมีใครเคยเห็นใบหน้าของคุณหนูรองผู้นี้ แม้แต่คู่หมั้นในวัยเด็กยังถูกพี่สาวต่างมารดาแย่งชิงไปเป็นของตนเอง ไม่เป็นไรยามนี้ข้าคือโจวหลินหว่านที่จะกลับมาแก้แค้นตระกูลมู่อย่างแน่นอน หากทั้งสองคนนั่นต้องไปขายของที่ตลาดในตอนเช้า เช่นนั้นพวกเราไปดูที่ตลาดกันเถิดเสี่ยวลวี่”

“เจ้าค่ะนายหญิง”

ณ ตอนนี้โจวหลินหว่านรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยในการเดินทางไปต่างแคว้นในครั้งนี้นางก็ไม่ได้ตัวคนเดียว เมื่อเริ่มกิจการอย่างไรเสียก็ต้องมีคนคอยช่วยเหลือ หากมีคนของมารดาติดตามไปย่อมเป็นเรื่องดีมากกว่าหลายเท่า โจวหลินหว่านเดินไปตามทางที่เสี่ยวลวี่คอยบอก ซึ่งไม่มีใครสามารถมองเห็นเสี่ยวลวี่ได้ นอกจากโจวหลินหว่านเจ้านายผู้นี้เท่านั้น 

พอเดินมาถึงตลาดก็สอดส่ายสายตามองหาคนขายเซาปิ่งทันที และสายตาของโจวหลินหว่านก็มองหาจนเจอ นางรีบเดินไปยังหน้าร้านของคนทั้งสองโดยไม่ส่งเสียงใด ๆ น่าซือคิดว่ามีลูกค้ามาซื้อเซาปิ่งของตนจึงพูดเหมือนกับทุก ๆ วัน โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อลูกค้ายังคงเงียบไม่ยอมสั่งเซาปิ่งเสียที น่าซือจำเป็นต้องหยุดมือที่นวดแป้งและเงยหน้า เพื่อสอบถามคนเป็นลูกค้าอีกครั้งแต่ทุกอย่างคล้ายหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ด้วยหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้านายของนางยิ่งนัก หยุนเหลียงที่รู้สึกว่าน่าซือเงียบเกินไปก็หันมามอง และเกิดอาการเช่นเดียวกับน่าซือไปอีกคน

“ลูกค้ารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะเตายังไม่ร้อน หากท่านไม่รีบสามารถไปเดินเลือกซื้อเสียก่อนแล้วค่อยกลับมารับก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะห่อแยกเก็บไว้ให้ท่านเป็นอย่างดี”

“ไส้ผักคงขายดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะแม่ค้า”

“ขวับ!...........!!”

“ฮูหยิน!/ฮูหยิน!” น่าซือและหยุนเหลียงเรียกหญิงสาวตรงหน้าว่าฮูหยิน ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากเจ้านายของพวกเขาตายไปแล้ว

“ท่านอาทั้งสองฮูหยินที่พวกท่านพูดถึงใช่โจวเชี่ยนเหยาหรือไม่เจ้าคะ?”

“ชะ ชะ ใช่แล้วเจ้าค่ะฮูหยินของพวกข้าแซ่โจวมีนามว่าเชี่ยนเหยา ไม่ทราบว่าเหตุใดคุณหนูท่านนี้ถึงได้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับฮูหยินนักเล่า” น่าซือเกิดความสงสัยมากมายจึงอยากถามให้แน่ใจ

“ท่านอาน่าซือเซาปิ่งของท่านไส้ผักอร่อยที่สุดนะเจ้าคะ หว่านเออร์ชอบกินไส้ผักใส่เนื้อแค่เล็กน้อย หากไม่กินผักจะปวดท้องจนล้มป่วยท่านอาน่าซือสอนไว้เช่นนั้น” นี่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของมู่หลินหว่านตัวจริง

“ฮึก ๆ หยะ หยะ หยุนเหลียงคุณหนูของบ่าวในที่สุดก็ได้พบกับท่านแล้ว ฮือ ๆ ๆ คุณหนูของน่าซือช่างงดงามเหมือนฮูหยินยิ่งนักเจ้าค่ะ”

“บ่าวหยุนเหลียงคารวะคุณหนูขอรับ”

“จริงด้วยสิเจ้าคะบ่าวมัวแต่ดีใจ จนเสียมารยาทกับคุณหนูไปได้ บ่าวน่าซือคารวะคุณหนูเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้อง ๆ ๆ ท่านอาทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ ยิ่งตอนนี้พวกท่านมิได้เป็นบ่าวไพร่ในจวนของผู้ใด แต่เป็นเจ้าของแผงขายเซาปิ่งจะคารวะผู้น้อยเช่นข้าคงไม่เหมาะสมนัก ว่าแต่พวกท่านตั้งร้านค้าเสร็จเรียบร้อยหรือยังเจ้าคะ”

“พวกเราสองคนเพิ่งจะเตรียมเปิดร้านเท่านั้นเจ้าค่ะ หยุนเหลียงข้าว่าวันนี้พวกเราหยุดขายสักหนึ่งวันเถิด จะได้ไปนั่งพูดคุยกับคุณหนูที่บ้านของพวกเรา ขืนอยู่ที่นี่นาน ๆ ชุดคุณหนูจะมีแต่กลิ่นควันไฟเอาได้เจ้าเห็นด้วยกับข้าไหม”

“อือ ข้าก็คิดเช่นเจ้าน่าซือยังดีที่ยกของลงไม่หมด ใช้เวลาเก็บของไม่นานต้องรบกวนคุณหนูรอประเดี๋ยวนะขอรับ”

“ท่านอาตามสบายเถิดเจ้าค่ะข้ามิได้เร่งรีบอันใด พวกท่านค่อย ๆ เก็บมันขึ้นเกวียนเถิดอย่าได้รีบร้อนเลยเจ้าค่ะ”

“รบกวนคุณหนูรอพวกเราประเดี๋ยวนะเจ้าคะ หยุนเหลียงรีบเก็บของขึ้นเกวียนเร็วเข้า”

“ข้าก็เร่งมืออยู่เจ้าไม่ต้องรีบถึงเพียงนั้นหรอกน่าซือ ของแค่ไม่กี่อย่างเองไม่นานก็เก็บเรียบร้อยแล้วล่ะ เจ้าพาคุณหนูไปรอข้าที่เกวียนเถิดของพวกนี้ข้าจะเข็นไปเอง”

“ได้ ๆ ๆ คุณหนูเจ้าคะไปรอหยุนเหลียงที่เกวียนกันเถิดเจ้าค่ะ แล้วนี่ไม่มีสาวใช้คอยติดตามท่านเลยหรือเจ้าคะ” น่าซือสงสัยที่คุณหนูของตนเดินมาเพียงลำพัง ไม่เห็นวี่แววของสาวใช้ส่วนตัวสักคน

“ไว้ถึงเรือนของท่านอาแล้วข้าจะเล่าให้ฟังนะเจ้าคะ”

“เอาตามที่คุณหนูว่ามาก็ได้เจ้าค่ะ”

น่าซือคอยประคองบุตรสาวของเจ้านายเกรงว่าโจวหลินหว่านจะล้มก็มิปาน เพราะรูปร่างที่ผอมบางประหนึ่งจะถูกลมพัดปลิวไปได้ทุกเมื่อ ทั้งสองคนรออยู่ที่เกวียนไม่นานหยุนเหลียงก็เข็นข้าวของกลับมา เมื่อยกทุกอย่างขึ้นเกวียนจนครบแล้วจึงได้กลับหมู่บ้านนอกเมืองทันที อดีตบ่าวของมารดาโจวหลินหว่านได้เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ถูกไล่ออกจากจวนตระกูลมู่ภายหลังเจ้านายของตนสิ้นใจได้ไม่นาน พวกเขาหวังเอาไว้ว่าจะได้เจอคุณหนูตัวน้อย ๆ อีกสักครั้ง ค่อยตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตว่าจะทำอย่างไรต่อไป

เมื่อมาถึงเรือนของน่าซือกับหยุนเหลียงแล้ว โจวหลินหว่านได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง ระหว่างที่เติบโตอยู่ในจวนแห่งนั้นว่าต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง พร้อมทั้งยื่นหนังสือตัดขาดจากเสนาบดีมู่ให้พวกเขาได้ดูเป็นหลักฐาน ว่านางถูกไล่ออกมาแล้วอดีตบ่าวทั้งสองพอได้ฟังถึงกับน้ำตาซึม รู้สึกโกรธแค้นคนในจวนแห่งนั้นทั้งหมดถึงกับสาปแช่งสารพัด และโจวหลินหว่านตัดสินใจถามทั้งคู่ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ หรือจะติดตามนางไปยังแคว้นหยางเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น

และเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าน่าซือกับหยุนเหลียงไม่คิดปฏิเสธ พวกเขายินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ติดตามนาง เช่นเดียวกับติดตามมารดาของนางต่อไป

“สารเสว!! เป็นพ่อคนที่จิตใจชั่วช้ายิ่งนักข้าไม่คิดเลยว่า คนเช่นเสนาบดีมู่จะกลายเป็นบุรุษพูดจาสัปปลับทำร้ายบุตรสาวแท้ ๆ ได้ถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็วางแผนชั่วกับฮูหยินมานานนี่เอง” หยุนเหลียงที่ฟังเรื่องราวจากปากของโจวหลินหว่าน พร้อมหลักฐานในมือก็ให้รู้สึกโกรธแค้นยิ่งนัก

“โธ่ ฮูหยินของบ่าวท่านไม่น่าตัดสินใจเลือกรักบุรุษเช่นนี้เลย สุดท้ายก็แสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นจนได้ บ่าวขออภัยที่ไม่ได้อยู่ดูแลปกป้องคุณหนูได้ หากไม่ถูกขับไล่ออกมาท่านคงไม่พบเจอเรื่องราวที่หนักหนาเช่นนี้ บ่าวผิดเองเจ้าค่ะที่ไม่ยอมคุกเข่าอ้อนวอนเสนาบดีมู่ คุณหนูได้โปรดอภัยให้บ่าวด้วยเถิดเจ้าค่ะ ฮือ ๆ ๆ” น่าซือยังคงคิดโทษตนเองที่ไม่ยอมร้องขอความเมตตากับเสนาบดีมู่

“ท่านอาทั้งสองเจ้าคะเรื่องมันผ่านไปแล้วอย่าได้คิดถึงมันอีกเลย โชคดีที่ดวงจิตของข้าได้ท่านเทพคอยดูแลเอาไว้ ทั้งยังประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้อีกหลายแขนงให้ติดตัว ต่อไปภายภาคหน้าจะได้ใช้เพื่อทำมาหากินสร้างตัวได้ และตอนนี้ตัวข้าเป็นอิสระไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลมู่อีก แต่ความแค้นของท่านแม่จะต้องได้รับการแก้แค้นอย่างสาสม ขอเพียงในอนาคตพวกเรามีผู้หนุนหลังที่ตำแหน่งใหญ่โตกว่า จะบดขยี้ตระกูลนี้ให้แหลกอย่างไรก็ได้เจ้าค่ะ ท่านอาทั้งสองพวกท่านยินดีติดตามข้าไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่แคว้นหยางหรือไม่เจ้าคะ”

“ยินดีสิขอรับคุณหนูถึงท่านจะไม่ถามเรื่องนี้ แต่พวกข้าสองคนก็ยังยินดีติดตามท่านไปอย่างแน่นอนขอรับ”

“ใช่เจ้าค่ะพวกเราจะปล่อยให้คุณหนูเดินทางเพียงลำพังได้อย่างไร เส้นทางไปแคว้นหยางไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ใช่ว่าจะไม่มีอันตรายนะเจ้าคะ ยิ่งคุณหนูของน่าซืองดงามเช่นนี้ยิ่งอันตรายหลายเท่าเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นหากพวกเราออกเดินทางตั้งแต่ตอนนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ แต่ข้าอยากให้ท่านอาหยุนเหลียงเปลี่ยนจากเกวียนวัวเป็นรถม้า การเดินทางจะได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อยเจ้าค่ะ ส่วนเรื่องราคาของการจ้างรถม้าข้าพอรู้ว่ามันแพงกว่าเกวียนวัวมาก นี่คือเงินสิบตำลึงรบกวนท่านอาหยุนเหลียงช่วยจัดการ ขอด้านในรถม้าบุผ้ารองนั่งที่หนาสักหน่อยก็ดี จะได้นั่งกันได้สบายไม่ปวดเมื่อยระหว่างทางนะเจ้าคะ” โจวหลินหว่านยืนถุงใส่ตำลึงเงินให้กับหยุนเหลียงไป

“ขอรับคุณหนูท่านรออยู่ที่นี่กับน่าซือไปก่อน บ่าวจะไปจัดการเรื่องรถม้าให้เองขอรับ”

“รบกวนท่านอาหยุนเหลียงแล้วเจ้าค่ะ”

หยุนเหลียงถือถุงเงินกระโดดขึ้นเกวียนวัวไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนำเกวียนวัวไปเปลี่ยนเป็นรถม้าอย่างดี คุณหนูของเขาจะได้นั่งหรือนอนได้อย่างสบาย ตลอดระยะเวลานับเดือนต่อจากนี้เป็นต้นไป ส่วนน่าซือมิได้นั่งรออยู่เฉย ๆ นางรีบเข้าไปเก็บของที่จำเป็น ซึ่งมีอยู่ไม่กี่อย่างใส่ห่อผ้าเอาไว้และไม่ลืมเรื่องเสบียงอาหาร ที่ทั้งสามคนต้องมีติดตัวไว้ทานระหว่างเดินทางอีก ข้าวสารอาหารแห้งที่ยังมีเหลืออยู่น่าซือเก็บมาจนหมด ไม่มีหลงเหลือให้เจ้าของบ้านเช่าได้มาเก็บไปใช้ประโยชน์แทนตนเองหรอก โจวหลินหว่านกับน่าซือรออยู่สองเค่อโดยประมาณ หยุนเหลียงก็นำบังคับรถม้าคันใหญ่มาแทนเกวียน ยามนี้ข้าวของยกย้ายขึ้นรถม้าทั้งหมดแล้วจึงได้เวลาออกเดินทางอย่างจริงจังเสียที และนี่ยังเป็นครั้งแรกของโจวหลินหว่านที่จะเดินทางไปต่างแคว้น

ด้านจวนตระกูลมู่กว่าจะรู้ว่าในห้องเก็บสมบัติไม่เหลือสิ่งใดให้หยิบใช้ ก็ต่อเมื่อใกล้จะถึงวันจัดงานเลี้ยงน้ำชาที่ต้องใช้เงินจำนวนมากและเครื่องประดับบางส่วน ถึงได้พบว่าสมบัติที่สะสมไว้มากมายยามนี้เหลือเพียงห้องว่างเปล่า แม้แต่เศษเงินเหรียญอีแปะยังไม่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าสักเหรียญ ไม่ว่าเสนาบดีมู่จะสอบสวนบ่าวไพร่และคนในจวนทั้งหมดอย่างไร ก็ไม่อาจทราบสาเหตุที่แท้จริงได้ว่าหีบสมบัติมากมายที่มีจะอันตรธานหายไปได้อย่างไร้ร่อยรอย

..............

“ฮึบ โอ้ว นี่สวรรค์ประทานพรถึงกับส่งบุรุษหน้าตาหล่อเหลา เพื่อมอบให้เป็นการตอบแทนที่ข้าทำความดีใช่หรือไม่นะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 6 พบเจอบุรุษปริศนา

    โจวหลินหว่านและบ่าวผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองคน ออกเดินทางด้วยรถม้าทำให้สะดวกสบายกว่านั่งเกวียนวัวหลายเท่า พวกเขาทั้งสามคนไม่รีบร้อนค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นการสำรวจตามเมืองต่าง ๆ ที่เป็นทางผ่าน รวมถึงแวะซื้อเสบียงอาหารเพิ่มเติมเป็นระยะ เพื่อป้องกันยามที่ต้องพักค้างแรมตามป่าเขาที่ไม่มีโรงเตี๊ยม ระหว่างนั่งรถม้าน่าซือได้เล่าถึงตระกูลของมารดา ที่ยามนี้ต่างแยกย้ายกระจัดการกระจายไปคนละทิศละทาง ภายหลังท่านตาท่านยายเสียชีวิตก็มีการแบ่งสมบัติ โดยท่านแม่ได้มากกว่าพี่ชายและน้องสาวคนอื่น ๆ เนื่องจากท่านแม่ช่วยครอบครัวทำงานมากกว่าจึงได้สมบัติเยอะ ด้วยเหตุนี้มู่อวี่เฉินจึงพยายามตามเกี้ยวพามารดาของนาง จนได้แต่งงานและใช้เงินทองในการสอบขุนนางอยู่หลายครั้งกว่าจะผ่านได้ แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับกลายเป็นคนทรยศหักหลังไปเสียได้ โจวหลินหว่านไม่อยากให้บ่าวทั้งสองคิดถึงอดีตอีก จึงเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะนางไม่ได้มีความทรงจำที่ดีกับคนเลวเช่นนั้น“ท่านอาน่าซืออย่าได้ยึดติดกับเรื่องในอดีตอีกเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราจะพาท่านแม่ไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน ข้าจะหาซื้อที่ดินสวย ๆ อยู่ติดเชิงเขาจะแบ่งส่วนหนึ่งทำสุสานให้กับท่านแ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 7 ซื้อที่ดิน

    เช้าวันต่อมาหลินหว่านคิดว่าตนเองตื่นเช้าแล้ว แต่ยังถือว่าช้ากว่าบ่าวทั้งสองของตนเองอีก เพราะที่หน้าประตูมี น่าซือและหยุนเหลียงยืนรอนางอยู่นานแล้ว พวกเขาไม่เคาะประตูเรียกเนื่องจากต้องการให้เจ้านายได้พักผ่อน จากที่ได้สังเกตรูปร่างของหลินหว่านมาสักพักพวกเขาเห็นว่ายังซูบผอมอยู่มาก จึงอยากบำรุงให้นางมีน้ำมีนวลมากอีกสักเล็กน้อย “แอ๊ด อะ อ้าว ท่านอาทั้งสองมาอยู่หน้าห้องของข้าตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ แล้วเหตุใดไม่เคาะประตูเรียกจะได้ไม่ต้องยืนรอให้เมื่อยเช่นนี้” หลินหว่านตกใจเล็กน้อยที่เปิดประตูก็เจอบ่าวทั้งสอง“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณหนูเราสองคนอยากให้ท่านได้พักมากหน่อย ที่สำคัญวันนี้จะให้หยุนเหลียงพาคุณหนูไปที่ศาลาว่าการ เพื่อติดต่อเรื่องซื้อที่ดินที่ท่านต้องการนะเจ้าคะ ส่วนตัวบ่าวจะไปร้านขายสมุนไพรหาซื้อยาบำรุงมาต้มให้คุณหนูได้ดื่ม ร่างกายจะได้มีน้ำมีนวลมากขึ้นเพราะยามนี้ท่านยังดูซุบผอมอยู่เลยเจ้าค่ะ หากยังผ่ายผอมเกรงว่าจะล้มป่วยได้ง่าย ๆ นะเจ้าคะ”“ขอบคุณท่านอาน่าซื้อมากเจ้าค่ะที่เอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ว่านอกจากจะซื้อที่ดินแล้วข้ายังต้องการขอขึ้นทะเบียนกับท่านเจ้าเมือง เพื่อเปลี่ยนสถานะเป็

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 8 สั่งทำอุปกรณ์และทดลองทำขนม

    เมื่อทำการเยี่ยมหวังซินหยางเรียบร้อยพร้อมความขายหน้าของตนเอง หลินหว่านจึงให้หยุนเหลียงพาไปตามหาร้านตีเหล็ก เพื่อจะสั่งทำอุปกรณ์สำหรับทำขนมในการทำเป็นอาชีพต่อจากนี้ ซึ่งเจ้าของร้านตีเหล็กที่เห็นแบบของอุปกรณ์ตามที่หลินหว่านต้องการ ถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยเห็นมีใครสั่งทำถาดเหล็กเป็นหลุมเช่นนี้มาก่อน แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการตัวนายช่าง จึงต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งและได้แจ้งหลินหว่านไว้ว่าหลังจากนี้อีกสามวันให้มารับของได้ที่ร้าน พอรู้เช่นนี้หลินหว่านได้วางมัดจำเอาไว้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากนางสั่งทำไว้สามใบต่อจากร้านทำอุปกรณ์หลินหว่านไปหานายช่างรับสร้างบ้าน ที่มีชาวบ้านแนะนำมาว่านายช่างคนนี้สร้างบ้านได้เก่งที่สุด แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ให้หยุดทำงาน ด้วยเหตุคนงานของนายช่างไปหลอกรับงานอีกเมืองหนึ่ง แต่มิได้บอกกับนายช่างคล้ายไปหลอกลวงลูกค้าเพื่อเอาเงิน จึงเกิดเป็นคดีความแม้จะพ้นผิดแต่ไม่มีใครกล้าจ้างงานมาหลายเดือนแล้ว หลินหว่านที่ได้ฟังเรื่องราวกลับคิดว่าเพราะนายช่างไว้ใจลูกน้องมากเกินไป หากต้องรับสร้างบ้านสวนให้กับนางแล้วละก็ทุกคนต้องลงลายมือชื่อในสัญญา เป็นหลักฐานป้องกั

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 9 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว

    ต้นยามเหม่าในวันต่อมาหลินหว่านตื่นพร้อมกับบ่าวทั้งสอง เพื่อเตรียมตัวไปเปิดแผงขายขนมครกเป็นวันแรก ซึ่งหวังซินหยางที่รู้สึกตื่นเต้นไปกับการเริ่มกิจการของหลินหว่าน ก็ยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อส่งนางที่หน้าประตูบ้านเช่า โดยหลินหว่านเองก็ไม่คิดว่าหวังซินหยางจะตื่นนอน เพียงแค่มายืนส่งนางไปขายของที่ตลาดใกล้ ๆ ด้วยตนเอง จึงส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณออกไปเบา ๆ เท่านั้นเมื่อมาถึงบริเวณตลาดเช้าที่เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ก็ยังมีคนที่มาจับจ่ายซื้อหาวัตถุดิบไปทำอาหารด้วยเช่นกัน หลินหว่านไม่รอช้าเริ่มจัดวางโต๊ะจุดเตาตรงจุดที่ตนเช่าแผงขายของไว้ทันที เผื่ออีกสองเค่อจะมีผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนมของตนจะได้พอมีไว้ขายหลินหว่านยังไม่รู้ว่าแค่สามเตาจะทำทันหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรหากเป็นของอร่อยคนย่อมรอซื้ออยู่แล้ว และก็เริ่มจะเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เมื่อกระทะร้อนได้ที่ ก็เริ่มหยอดแป้งขนมกลิ่นหอมของน้ำกะทิก็กระจายออกไป คนที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาตามกลิ่นและมีคนทนไม่ไหวจึงเดินมาถาม ว่าที่หลินหว่านกำลังทำอยู่นี้คืออะไรเพราะกลิ่นของมันหอมมาก“เอ่อ แม่หนูป้าขอถามอะไรหน่อยสิที่เจ้ากำลังทำคือสิ่งใดรึ เหตุใดถึ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 10 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน

    ตั้งแต่เริ่มทำกิจการขายขนมมาเกือบสิบวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยและยังขายหมดทุกวัน ยิ่งมีเหวินเสียนมาเป็นผู้ช่วยหลังจากได้กระทะขนมมาเพิ่มอีกสามใบ ก็มีลูกค้าสตรีแวะมาซื้อเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นผลดีกับกิจการขนมของหลินหว่านไปในตัว เมื่อขนมครกของหลินหว่านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นางจึงคิดว่าต้องเพิ่มผักลงไปบนหน้าขนมครกบ้างแล้ว เพราะสีสันที่หลากหลายจะยิ่งช่วยให้ขนมน่าทาน รวมถึงเป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจของลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาได้เช่นกันส่วนหวังซินหยางที่พยายามอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บ เขาเคร่งครัดตามคำสั่งของท่านหมอและยังมีหลินหว่าน ที่คอยกำชับเขาอยู่ทุกวันจึงทำให้เขาอยากจะหายเป็นปกติโดยเร็ว อย่างน้อยพอให้ร่างกายแข็งแรงได้ออกไปช่วยงานหลินหว่านก็ยังดี แม้เหวินเสียนจะบอกว่าไม่มีบุรุษมาเกี้ยวพานางก็เถิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะ ไม่มีใครสนใจในตัวของหลินหว่าน ฉะนั้นหวังซินหยางจึงเชื่อฟังและดื่มยาให้ครบถึงจะรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ตนเองสามารถเดินเหินไปด้านนอกได้ก็ต้องอดทนในวันนี้หลังจากขายขนมเสร็จและกลับมาถึงบ้านเช่าแล้ว หลินหว่านได้บอกกับหยุน

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 11 ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย

    ภารกิจตามล่าหาหัวมันและฟักทองประสบความสำเร็จด้วยดี เมื่อนำกลับมาถึงบ้านเช่าหลินหว่านมีผู้ช่วยทั้งสี่ คอยทำความสะอาดปอกเปลือกหัวมันกับฟังทอง เพื่อนำไปนึ่งให้สุกพอประมาณแต่ไม่เละสำหรับโรยบนหน้าขนมครก แต่มีบุรุษผู้หล่อเหลานั่งทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่กับที่ดูทุกคนทำงาน ต่างกับตนเองทำได้เพียงนั่งมองกรอกตาไปมา หวังซินหยางอยากจะลุกขึ้นไปช่วยทำงานอย่างยิ่ง ยามนี้เขาทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้นหากยังฝืนทำ มีหวังหลินหว่านคงจะโกรธและไม่พูดคุยกับเขาเป็นแน่หลังจากนึ่งหัวมันกับฟักทองจนได้ที่ยังต้องนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้โรยบนหน้าขนมครกที่จะเริ่มมีสีสันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ในใจของทุกคนกำลังคิดคล้าย ๆ กันว่าลูกค้าที่ได้เห็น จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไรหรือมีคำติชมวิจารณ์เช่นไร เพียงแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นล่วงหน้าไปเสียแล้วแต่งานในมือก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง กว่าจะจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็เข้ายามซวีไปแล้ว หลินหว่านจึงให้น่าซือทำอะไรง่าย ๆ มาทานด้วยกัน หากทำอาหารที่มีหลายขั้นตอนเกรงว่าจะดึกมากไปกว่านี้ และทุกคนจะเสียเวลาพักผ่อนพรุ่งนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้เมื่อถึงเวลาต้องตื่นไปขายขนมที่ตลาดทุกค

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 12 วางแผนไม่เนียนก็รับโทษไป

    หลินหว่านเดินนำหน้าทุกคนตรงไปยังศาลาว่าการเมืองหยางหลิว ที่ยามนี้ใกล้จะได้เวลาเปิดทำการตามปกติกลับมีเสียงตีกลองด้านหน้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่สองสามคนถึงกับรีบวิ่งออกมาดูว่า ใครกันที่มาร้องทุกข์แต่เช้าเช่นนี้ เมื่อพบว่ามีกลุ่มชาวบ้านยืนรอพร้อมกันมากกว่าสี่สิบคน จึงสอบถามเรื่องราวเบื้องต้นเสียก่อนเพื่อนำกลับไปรายงานต่อท่าน เจ้าเมือง และให้ผู้ที่มาร้องทุกข์เข้าไปรอด้านในห้องไต่สวน แต่เจ้าหน้าที่หนึ่งในนั้นจำหน้าหลินหว่านได้จึงเป็นคนเอ่ยถามออกมาแทน“อ้าว คุณหนูท่านนี้ข้าจำท่านได้ท่านเคยมาติดต่อซื้อที่ดินนับร้อยหมู่ ไม่ทราบว่าวันนี้มีเรื่องอะไรกันหรือขอรับ ถึงได้มากันเสียเยอะแยะ แล้วใครที่เป็นคนตีกลองร้องทุกข์เมื่อกี้หรือขอรับ”“สวัสดีตอนเช้าเจ้าค่ะพี่ชายเป็นข้าเองที่ตีกลองร้องทุกข์ไป เนื่องจากมีคนไปอาละวาดที่ตลาดกล่าวหาว่า ขนมที่ข้าทำขายอยู่เกือบหนึ่งเดือนมานี้ไปขโมยสูตรผู้อื่นมา ดังนั้นจึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับท่านเจ้าเมือง เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของสูตรขนมตัวจริงเจ้าค่ะ”“เมืองหยางหลิวไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน ช่างใจกล้ายิ่งนักที่คิดทำเรื่องผิดศีลธรรมทำลายภาพลัก

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 13 ตระกูลมู่เกิดเรื่องฉาวโฉ่

    การเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังแคว้นหยางเป็นสิ่งที่หลินหว่านตัดสินใจได้ถูกต้อง หากยังเลือกที่จะอยู่แคว้นเว่ยป่านนี้ชีวิตคงไม่มีความสุขเป็นของตนเองแน่ เพราะมู่จือหย่าไม่มีทางให้หลินหว่านอยู่เป็นหนามตำใจ ด้วยเกรงว่าคู่หมั้นที่อุตส่าห์แย่งไปเป็นของตนเองได้จะกลับมาวุ่นวายกับนาง และเช้าวันนี้ก็เป็นวันที่หลินหว่านต้องทำตามคำพูดของนาง นั่นก็คือการทำขนมครกแจกชาวบ้านเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับเรื่องที่ถูกใส่ร้ายเมื่อวานนี้ บรรยากาศการแจกขนมช่างคึกคักยิ่งกว่าทุกวันใครบ้างไม่อยากทานของอร่อย แม้จะพอเจียดเงินไปซื้อทานเองได้ถึงอย่างไรการได้รับของแจกเป็นครั้งคราว ก็ช่วยประหยัดเงินในครอบครัวไปได้ไม่มากก็น้อยและยังเก็บเงินนี้ไว้ซื้อสิ่งอื่นที่ราคาใกล้เคียงกันได้หวังซินหยางผู้เป็นห่วงหลินหว่านเกรงว่านางจะเหนื่อยจนเกินไป จึงได้ให้ซั่วเหยียนมาช่วยแจกขนมกับนางด้วยอีกคน เนื่องจากยามนี้อาการบาดเจ็บของเขาใกล้จะหายดีแล้วสามารถทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ถือเป็นการออกกำลังให้ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว ขณะที่หวังซินหยางกำลังนั่งนึกถึงภาพรอยยิ้มอันอ่อนหวาน ที่หลินหว่านมอบให้กับเขาไปเมื่อวานนี้อยู่ภายใน

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 15 ย้ายเข้าบ้านสวนเสียที

    ด้านจวนตระกูลมู่สถานการณ์ภายในห้องโถงรับแขกของจวนนั้น กลับแตกต่างจากจวนตระกูลเฉินอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากมู่จือหย่าเอาแต่โวยวาย และบอกว่าตัวของนางถูกคนวางแผนทำลายอนาคต โดยเฉพาะการปักใจเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของหลินหนิงเซียนอย่างแน่นอน แต่ฮูหยินผู้เฒ่ามู่กลับเห็นต่างเมื่อได้รับรู้เหตุการณ์ของหลานสาวคนโปรด “กรี๊ดดดด!! ข้าจะกลับไปหาทานพี่เขาเป็นสามีของข้าแล้ว เหตุใดท่านพ่อถึงไม่ช่วยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะนังหนิงเซียนนั่น ที่วางแผนสกปรกทำให้ข้าและตระกูลมู่ต้องอับอายนะเจ้าคะ ฮือ ๆ ๆ” มู่จือหย่ายังไม่หยุดโวยวายแม้จะกลับมาถึงจวนแล้วก็ตาม“เจ้าจะหุบปากได้หรือยัง!! ไม่ว่าจะเป็นแผนการของใครก็ตามแต่เป็นเจ้าที่โง่เอง ในเมื่อคิดได้ว่าหลินหนิงเซียนจะส่งคนเข้ามาปะปนอยู่หมู่บ่าวไพร่ ทำไมยังเรียกหาอาหารหรือน้ำชาจากสาวใช้ที่ไม่น่าไว้ใจได้ ส่วนเจ้าเป็นสาวใช้คนสนิทกลับไม่ตักเตือนเจ้านายแทนที่จะเป็นเจ้าที่ไปยังห้องครัวเพื่อรับอาหารว่างเอง แต่กลับห่วงเรื่องประจบสอพลอเจ้านายหวังเงินรางวัล จนทำให้เกิดเรื่องใหญ่ถึงขั้นที่ตระกูลมู่ของข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง นังบ่าวไม่มีความคิดเจ้ารู้ไหมพรุ่งนี้เช

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 14 ตระกูลมู่อับอายไปทั่วเมืองหลวง

    เฉินจิ้งที่รอเวลาตามแผนหลังจากเริ่มมีเสียงครวญครางดังลั่นด้านในห้อง เขาปล่อยให้จิ้นโจวได้มอบความสุขสมให้มู่จือหย่าอยู่เช่นนั้นเกือบครึ่งชั่วยาม พอสมควรแก่เวลาที่กำหนดไว้จึงกลับเข้าไปในงานเลี้ยงที่ยังมีแขกเหรื่ออยู่ร่วมงาน รวมถึงเหล่าบุรุษและสตรีที่ติดตามบิดามารดามาแสดงความยินดี หนึ่งในนั้นมีหลินหนิงเซียนที่มาพร้อมกับบิดามารดา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า มิได้มีใจอิจฉาริษยามู่จือหย่าแต่อย่างใดเฉินจิ้งแสร้งทำตัวเลิ่กลั่กให้เป็นที่น่าสงสัยสำหรับคนที่มองมา เฉินจิ้งจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเฉินเยี่ยนหมิงด้วยท่าทางมีพิรุธสายตาหลายคู่จึงจับจ้องมายังเฉินจิ้งเป็นพิเศษ ใบหูแต่ละคนก็คอยฟังว่าบ่าวคนสนิทผู้นี้จะบอกเรื่องอะไรกับเจ้านายตนกันแน่ ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นความลับที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ก็ตาม แต่มักจะมีคนที่ชื่นชอบยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของผู้อื่น เป็นคนกระจายข่าวแทนเสมอ“หือ อาหมิงเหตุใดเฉินจิ้งถึงดูกระวนกระวายแปลก ๆ เจ้าเรียกเฉินจิ้งเข้ามาหาพวกเราหน่อยจะดีหรือไม่ จากท่าทางกระอึกกระอักนั่นคล้ายกับว่ามีเรื่องจะรายงานกับเจ้านะ ลองสอบถามดูสิว่ามีเรื่องอันใดอย่าให้ทำตัวไม่มีมารยาทต่อหน้าแขกเหรื่อเช่นนี

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 13 ตระกูลมู่เกิดเรื่องฉาวโฉ่

    การเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังแคว้นหยางเป็นสิ่งที่หลินหว่านตัดสินใจได้ถูกต้อง หากยังเลือกที่จะอยู่แคว้นเว่ยป่านนี้ชีวิตคงไม่มีความสุขเป็นของตนเองแน่ เพราะมู่จือหย่าไม่มีทางให้หลินหว่านอยู่เป็นหนามตำใจ ด้วยเกรงว่าคู่หมั้นที่อุตส่าห์แย่งไปเป็นของตนเองได้จะกลับมาวุ่นวายกับนาง และเช้าวันนี้ก็เป็นวันที่หลินหว่านต้องทำตามคำพูดของนาง นั่นก็คือการทำขนมครกแจกชาวบ้านเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับเรื่องที่ถูกใส่ร้ายเมื่อวานนี้ บรรยากาศการแจกขนมช่างคึกคักยิ่งกว่าทุกวันใครบ้างไม่อยากทานของอร่อย แม้จะพอเจียดเงินไปซื้อทานเองได้ถึงอย่างไรการได้รับของแจกเป็นครั้งคราว ก็ช่วยประหยัดเงินในครอบครัวไปได้ไม่มากก็น้อยและยังเก็บเงินนี้ไว้ซื้อสิ่งอื่นที่ราคาใกล้เคียงกันได้หวังซินหยางผู้เป็นห่วงหลินหว่านเกรงว่านางจะเหนื่อยจนเกินไป จึงได้ให้ซั่วเหยียนมาช่วยแจกขนมกับนางด้วยอีกคน เนื่องจากยามนี้อาการบาดเจ็บของเขาใกล้จะหายดีแล้วสามารถทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ถือเป็นการออกกำลังให้ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว ขณะที่หวังซินหยางกำลังนั่งนึกถึงภาพรอยยิ้มอันอ่อนหวาน ที่หลินหว่านมอบให้กับเขาไปเมื่อวานนี้อยู่ภายใน

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 12 วางแผนไม่เนียนก็รับโทษไป

    หลินหว่านเดินนำหน้าทุกคนตรงไปยังศาลาว่าการเมืองหยางหลิว ที่ยามนี้ใกล้จะได้เวลาเปิดทำการตามปกติกลับมีเสียงตีกลองด้านหน้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่สองสามคนถึงกับรีบวิ่งออกมาดูว่า ใครกันที่มาร้องทุกข์แต่เช้าเช่นนี้ เมื่อพบว่ามีกลุ่มชาวบ้านยืนรอพร้อมกันมากกว่าสี่สิบคน จึงสอบถามเรื่องราวเบื้องต้นเสียก่อนเพื่อนำกลับไปรายงานต่อท่าน เจ้าเมือง และให้ผู้ที่มาร้องทุกข์เข้าไปรอด้านในห้องไต่สวน แต่เจ้าหน้าที่หนึ่งในนั้นจำหน้าหลินหว่านได้จึงเป็นคนเอ่ยถามออกมาแทน“อ้าว คุณหนูท่านนี้ข้าจำท่านได้ท่านเคยมาติดต่อซื้อที่ดินนับร้อยหมู่ ไม่ทราบว่าวันนี้มีเรื่องอะไรกันหรือขอรับ ถึงได้มากันเสียเยอะแยะ แล้วใครที่เป็นคนตีกลองร้องทุกข์เมื่อกี้หรือขอรับ”“สวัสดีตอนเช้าเจ้าค่ะพี่ชายเป็นข้าเองที่ตีกลองร้องทุกข์ไป เนื่องจากมีคนไปอาละวาดที่ตลาดกล่าวหาว่า ขนมที่ข้าทำขายอยู่เกือบหนึ่งเดือนมานี้ไปขโมยสูตรผู้อื่นมา ดังนั้นจึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับท่านเจ้าเมือง เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของสูตรขนมตัวจริงเจ้าค่ะ”“เมืองหยางหลิวไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน ช่างใจกล้ายิ่งนักที่คิดทำเรื่องผิดศีลธรรมทำลายภาพลัก

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 11 ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย

    ภารกิจตามล่าหาหัวมันและฟักทองประสบความสำเร็จด้วยดี เมื่อนำกลับมาถึงบ้านเช่าหลินหว่านมีผู้ช่วยทั้งสี่ คอยทำความสะอาดปอกเปลือกหัวมันกับฟังทอง เพื่อนำไปนึ่งให้สุกพอประมาณแต่ไม่เละสำหรับโรยบนหน้าขนมครก แต่มีบุรุษผู้หล่อเหลานั่งทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่กับที่ดูทุกคนทำงาน ต่างกับตนเองทำได้เพียงนั่งมองกรอกตาไปมา หวังซินหยางอยากจะลุกขึ้นไปช่วยทำงานอย่างยิ่ง ยามนี้เขาทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้นหากยังฝืนทำ มีหวังหลินหว่านคงจะโกรธและไม่พูดคุยกับเขาเป็นแน่หลังจากนึ่งหัวมันกับฟักทองจนได้ที่ยังต้องนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้โรยบนหน้าขนมครกที่จะเริ่มมีสีสันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ในใจของทุกคนกำลังคิดคล้าย ๆ กันว่าลูกค้าที่ได้เห็น จะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างไรหรือมีคำติชมวิจารณ์เช่นไร เพียงแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นล่วงหน้าไปเสียแล้วแต่งานในมือก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง กว่าจะจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็เข้ายามซวีไปแล้ว หลินหว่านจึงให้น่าซือทำอะไรง่าย ๆ มาทานด้วยกัน หากทำอาหารที่มีหลายขั้นตอนเกรงว่าจะดึกมากไปกว่านี้ และทุกคนจะเสียเวลาพักผ่อนพรุ่งนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้เมื่อถึงเวลาต้องตื่นไปขายขนมที่ตลาดทุกค

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 10 ขึ้นเขาตามหาหัวมัน

    ตั้งแต่เริ่มทำกิจการขายขนมมาเกือบสิบวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยและยังขายหมดทุกวัน ยิ่งมีเหวินเสียนมาเป็นผู้ช่วยหลังจากได้กระทะขนมมาเพิ่มอีกสามใบ ก็มีลูกค้าสตรีแวะมาซื้อเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นผลดีกับกิจการขนมของหลินหว่านไปในตัว เมื่อขนมครกของหลินหว่านเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นางจึงคิดว่าต้องเพิ่มผักลงไปบนหน้าขนมครกบ้างแล้ว เพราะสีสันที่หลากหลายจะยิ่งช่วยให้ขนมน่าทาน รวมถึงเป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจของลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาได้เช่นกันส่วนหวังซินหยางที่พยายามอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บ เขาเคร่งครัดตามคำสั่งของท่านหมอและยังมีหลินหว่าน ที่คอยกำชับเขาอยู่ทุกวันจึงทำให้เขาอยากจะหายเป็นปกติโดยเร็ว อย่างน้อยพอให้ร่างกายแข็งแรงได้ออกไปช่วยงานหลินหว่านก็ยังดี แม้เหวินเสียนจะบอกว่าไม่มีบุรุษมาเกี้ยวพานางก็เถิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าจะ ไม่มีใครสนใจในตัวของหลินหว่าน ฉะนั้นหวังซินหยางจึงเชื่อฟังและดื่มยาให้ครบถึงจะรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ตนเองสามารถเดินเหินไปด้านนอกได้ก็ต้องอดทนในวันนี้หลังจากขายขนมเสร็จและกลับมาถึงบ้านเช่าแล้ว หลินหว่านได้บอกกับหยุน

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 9 เริ่มกิจการแรกในเมืองหยางหลิว

    ต้นยามเหม่าในวันต่อมาหลินหว่านตื่นพร้อมกับบ่าวทั้งสอง เพื่อเตรียมตัวไปเปิดแผงขายขนมครกเป็นวันแรก ซึ่งหวังซินหยางที่รู้สึกตื่นเต้นไปกับการเริ่มกิจการของหลินหว่าน ก็ยังอุตส่าห์ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อส่งนางที่หน้าประตูบ้านเช่า โดยหลินหว่านเองก็ไม่คิดว่าหวังซินหยางจะตื่นนอน เพียงแค่มายืนส่งนางไปขายของที่ตลาดใกล้ ๆ ด้วยตนเอง จึงส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณออกไปเบา ๆ เท่านั้นเมื่อมาถึงบริเวณตลาดเช้าที่เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ก็ยังมีคนที่มาจับจ่ายซื้อหาวัตถุดิบไปทำอาหารด้วยเช่นกัน หลินหว่านไม่รอช้าเริ่มจัดวางโต๊ะจุดเตาตรงจุดที่ตนเช่าแผงขายของไว้ทันที เผื่ออีกสองเค่อจะมีผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขนมของตนจะได้พอมีไว้ขายหลินหว่านยังไม่รู้ว่าแค่สามเตาจะทำทันหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรหากเป็นของอร่อยคนย่อมรอซื้ออยู่แล้ว และก็เริ่มจะเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เมื่อกระทะร้อนได้ที่ ก็เริ่มหยอดแป้งขนมกลิ่นหอมของน้ำกะทิก็กระจายออกไป คนที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาตามกลิ่นและมีคนทนไม่ไหวจึงเดินมาถาม ว่าที่หลินหว่านกำลังทำอยู่นี้คืออะไรเพราะกลิ่นของมันหอมมาก“เอ่อ แม่หนูป้าขอถามอะไรหน่อยสิที่เจ้ากำลังทำคือสิ่งใดรึ เหตุใดถึ

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 8 สั่งทำอุปกรณ์และทดลองทำขนม

    เมื่อทำการเยี่ยมหวังซินหยางเรียบร้อยพร้อมความขายหน้าของตนเอง หลินหว่านจึงให้หยุนเหลียงพาไปตามหาร้านตีเหล็ก เพื่อจะสั่งทำอุปกรณ์สำหรับทำขนมในการทำเป็นอาชีพต่อจากนี้ ซึ่งเจ้าของร้านตีเหล็กที่เห็นแบบของอุปกรณ์ตามที่หลินหว่านต้องการ ถึงกับงุนงงเพราะไม่เคยเห็นมีใครสั่งทำถาดเหล็กเป็นหลุมเช่นนี้มาก่อน แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการตัวนายช่าง จึงต้องทำตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งและได้แจ้งหลินหว่านไว้ว่าหลังจากนี้อีกสามวันให้มารับของได้ที่ร้าน พอรู้เช่นนี้หลินหว่านได้วางมัดจำเอาไว้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากนางสั่งทำไว้สามใบต่อจากร้านทำอุปกรณ์หลินหว่านไปหานายช่างรับสร้างบ้าน ที่มีชาวบ้านแนะนำมาว่านายช่างคนนี้สร้างบ้านได้เก่งที่สุด แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์ให้หยุดทำงาน ด้วยเหตุคนงานของนายช่างไปหลอกรับงานอีกเมืองหนึ่ง แต่มิได้บอกกับนายช่างคล้ายไปหลอกลวงลูกค้าเพื่อเอาเงิน จึงเกิดเป็นคดีความแม้จะพ้นผิดแต่ไม่มีใครกล้าจ้างงานมาหลายเดือนแล้ว หลินหว่านที่ได้ฟังเรื่องราวกลับคิดว่าเพราะนายช่างไว้ใจลูกน้องมากเกินไป หากต้องรับสร้างบ้านสวนให้กับนางแล้วละก็ทุกคนต้องลงลายมือชื่อในสัญญา เป็นหลักฐานป้องกั

  • เกิดใหม่เป็นคุณหนูไร้ค่าพร้อมมิติบ้านสวน   ตอนที่ 7 ซื้อที่ดิน

    เช้าวันต่อมาหลินหว่านคิดว่าตนเองตื่นเช้าแล้ว แต่ยังถือว่าช้ากว่าบ่าวทั้งสองของตนเองอีก เพราะที่หน้าประตูมี น่าซือและหยุนเหลียงยืนรอนางอยู่นานแล้ว พวกเขาไม่เคาะประตูเรียกเนื่องจากต้องการให้เจ้านายได้พักผ่อน จากที่ได้สังเกตรูปร่างของหลินหว่านมาสักพักพวกเขาเห็นว่ายังซูบผอมอยู่มาก จึงอยากบำรุงให้นางมีน้ำมีนวลมากอีกสักเล็กน้อย “แอ๊ด อะ อ้าว ท่านอาทั้งสองมาอยู่หน้าห้องของข้าตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ แล้วเหตุใดไม่เคาะประตูเรียกจะได้ไม่ต้องยืนรอให้เมื่อยเช่นนี้” หลินหว่านตกใจเล็กน้อยที่เปิดประตูก็เจอบ่าวทั้งสอง“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณหนูเราสองคนอยากให้ท่านได้พักมากหน่อย ที่สำคัญวันนี้จะให้หยุนเหลียงพาคุณหนูไปที่ศาลาว่าการ เพื่อติดต่อเรื่องซื้อที่ดินที่ท่านต้องการนะเจ้าคะ ส่วนตัวบ่าวจะไปร้านขายสมุนไพรหาซื้อยาบำรุงมาต้มให้คุณหนูได้ดื่ม ร่างกายจะได้มีน้ำมีนวลมากขึ้นเพราะยามนี้ท่านยังดูซุบผอมอยู่เลยเจ้าค่ะ หากยังผ่ายผอมเกรงว่าจะล้มป่วยได้ง่าย ๆ นะเจ้าคะ”“ขอบคุณท่านอาน่าซื้อมากเจ้าค่ะที่เอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ว่านอกจากจะซื้อที่ดินแล้วข้ายังต้องการขอขึ้นทะเบียนกับท่านเจ้าเมือง เพื่อเปลี่ยนสถานะเป็

DMCA.com Protection Status