"จางหลินซิน เธอพูดอะไร…ฉะ ฉัน ไม่ได้…"
หลี่หลิงเจินเปลี่ยนท่าทีไปจากเดิม เชิดหน้าขึ้นแล้วเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ในตอนแรกไม่เชื่อคำพูดลูกน้องที่บอกว่าในรถมีเพียงจางหลินซินและชายแปลกหน้าคนหนึ่ง โดยไม่มีบอดี้การ์ดของเฉินจือหาน เธอจึงสั่งการให้ลงมือฆ่าเพราะคิดว่ายังไงผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหลินซินคงไม่มีทางรอดได้แน่นอน
แต่ทำไมเธอถึงรอดมาได้ล่ะ?!
"หลี่หลิงเจิน จงใช้ชีวิตที่เหลือให้คุ้มค่า เพราะวันดีๆ ของเธอคงเหลือไม่มากแล้ว เพราะฉันจะทวงคืนทุกสิ่งที่เธอเคยทำกับฉันทีละน้อย" จางหลินซินก้าวเข้ามาบีบคอหลี่หลิงเจิน ออกแรงเพิ่มทีละนิดทำให้ฝ่ายตรงข้ามเริ่มขาดอากาศหายใจและพูดไม่ออก
ในเวลานี้บรรยากาศเย็นยะเยือกถึงขีดสุด ดวงตาของจางหลินซินเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น หลี่หลิงเจินกลัวจนพูดไม่ออก เธอจึงปล่อยมือแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน ทิ้งให้หลี่หลิงเจินนั่งหายใจเฮือกๆ อยู่บนพื้นโดยไม่แม้แต่จะมอง หลี่หลิงเจินทรุดตัวลงนั่งบนกระเบื้องยังช็อคไม่หาย
เธอเกือบถูกบีบคอตาย...น่ากลัวจริงๆ จางหลินซินไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เส้นเลือดในสมองของหลี่หลิงเจินเหมือนจะระเบิดแตก มือและเท้าเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
————
คฤหาสน์ตระกูลเฉิน
เฉินอวี่ผลักประตูห้องทำงานของเฉินจือหาน และเดินเข้ามารายงานความคืบหน้า
"ท่านประธาน ผู้คุ้มกันลับที่ส่งไปบอกว่ามีคนจะลอบสังหารนายหญิง"
เฉินจือหานเม้มปากแน่นเมื่อได้ยิน แววตาที่โหดเหี้ยมฉายแววโกรธเกรี้ยว พวกคนตาบอดพวกนี้หรือไรถึงกล้าต่อกรกับเขา เฉินอวี่รู้สึกว่าอุณหภูมิลดลงอย่างมาก รู้ได้เลยว่าท่านประธานโมโหแล้ว
"หลินซินไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"นายหญิงปลอดภัยดีท่านประธานวางใจได้ แต่ชายที่อยู่กับนายหญิงดูเหมือนจะเป็นนักฆ่ามืออาชีพ" เฉินอวี่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนถนนให้เฉินจือหานฟังอย่างละเอียด
แววตาของเฉินจือหานฉายแววชื่นชม ไม่คิดว่าผู้หญิงของเขาจะเก่งกาจและเฉียบขาดถึงเพียงนี้
"ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง"
"คือภรรยาใหม่ของจางเย่าหยาง"
ตระกูลจางอีกแล้ว เฉินจือหานไม่พอใจ ตระกูลจางล้ำเส้นเขามากเกินไปแล้ว บัดนี้หลินซินเป็นคนตระกูลเฉินอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนหน้านี้เขายุ่งอยู่กับการต่อสู้ภายในครอบครัวจนไม่มีเวลาสนใจ แต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว พวกตระกูลจางกล้าที่จะแตะต้องสมบัติของเขา รนหาที่ตายแท้ๆ
"เฉินอวี่ ได้เวลาเริ่มแผนการแล้ว"
"ครับ ท่านประธาน"
————
ตระกูลจาง
หลังจากรับโทรศัพท์หลี่หลิงเจินก็หลบอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา เธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้ดี ยังคงตื่นตระหนกเพราะเพิ่งเฉียดความตายมา เธอส่งคนไปติดตามจางหลินซิน และคนของเธอก็รายงานว่าจางหลินซินเริ่มสืบเรื่องที่เธอตั้งท้อง รวบรวมหลักฐานไว้มากมาย ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย จางเย่าหยางคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่
จนกระทั่งมีสายเข้ามีสายเข้านัดเธอไปที่โรงแรม หลี่หลิงเจินไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง รีบคว้ากระเป๋าแล้วออกจากบ้านตระกูลจางด้วยความตื่นตระหนก เธอจึงไม่ได้สังเกตว่าเสียงในโทรศัพท์ ถ้าฟังดีๆ จะรู้ว่าเป็นเสียงสังเคราะห์ของ AI
โรงแรมปักกิ่ง ห้อง 6706
หลี่หลิงเจินและหวังเหอไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว อยู่ๆ ในวันนี้เขาก็นัดพบกะทันหัน ด้วยความที่เธอเพิ่งผ่านเรื่องอกสั่นขวัญแขวนมาจึงไม่อยากอยู่ในบ้าน แต่การพบกันกับอดีตคนรักช่างน่าอึดอัดใจ
"เจินเจิน เข้าไปคุยกันในห้อง" หวังเหอกระชับไหล่หลี่หลิงเจิน พาเข้ามาในห้องที่จองเอาไว้เพื่อคุยเรื่องสำคัญ
หลี่หลิงเจินสะบัดมือหวังเหอออกแล้วเดินไปทางหนึ่ง "คุณบอกว่าทำลายหลักฐานทั้งหมดไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้หลักฐานที่จางหลินซินมีคืออะไร"
หวังเหอติดขัด "คือ ฉัน..."
"ถ้าคุณไม่สามารถให้ชีวิตที่ดีที่สุดแก่เราแม่ลูกได้ ฉันก็พร้อมเลี้ยงลูกคนเดียว และทำให้เขามีอนาคตที่สดใส แต่คุณกลับทำลายมันเสียหมด!" หลี่หลิงเจินโกรธจนตัวสั่น ชี้หน้าชายตรงหน้า
"แล้วจางเย่าหยางเป็นคนดีเหรอ เขาแค่ต้องการลูกชายคนหนึ่งเท่านั้นถึงได้แต่งงานกับคุณ คุณคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญมากเหรอ ยอมนอนกับตาเฒ่าห้าสิบกว่า ลี่หลิงเจินคุณนี่หน้าด้านจริงๆ"
ตอนนั้นเขาตามจีบหลี่หลิงเจินมาสามปี เธอก็ไม่ยอมใจอ่อนจนเขาเกือบถอดใจแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าก่อนจบการศึกษา หลี่หลิงเจินจะตกลงคบและยอมมีอะไรกับเขา เขาคิดว่าหลี่หลิงเจินจริงใจ แต่แท้จริงแล้วเธอแค่อยากใช้ประโยชน์ เธอเพื่อหวังให้ลูกเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ตระกูลจาง เห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น
"คุณ...คุณ!" หลี่หลิงเจินโกรธจนพูดไม่ออก
ในเวลานั้น ประตูห้องถูกเปิดออก จางหลินซินเดินออกมาจากห้อง
"ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ" จางหลินซินปรบมือให้คนทั้งคู่
"จางหลินซิน! เธอมาที่นี่ได้ยังไง" หลี่หลิงเจินมองผู้มาใหม่ด้วยอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เต็มไปด้วยความตกใจและตื่นตระหนก
"เพราะฉันเป็นคนเรียกให้พวกเธอสองคนมาพบกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นละครฉากใหญ่”
หลี่หลิงเจินและหวังเหอสบตากันและรู้ว่าตัวเองโดนหลอก พวกเขายังสงสัยอยู่ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ขอพบกันอย่างผิดปกติ แต่ก็ติดกับอย่างง่ายดาย หลังจากที่จางหลินซินเยาะเย้ยเสร็จก็เดินออกจากห้อง เพราะตอนนี้เธอมีหลักฐานเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น หลี่หลิงเจินตกใจมากและรีบมาขวางไว้
"จางหลินซิน ฉันขอร้อง เธออย่าบอกเรื่องนี้กับพ่อเธอได้ไหม ถ้าคุณบอกฉันก็ตายแน่"
"ถ้าเธอตาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน" ใบหน้าของจางหลินซินเต็มไปด้วยความรำคาญและรังเกียจ
"เรา...เราเป็นเพื่อนสนิทกันไง...เธอใจร้ายกับฉันลงเหรอ" หลี่หลิงเจินเกาะแขนเสื้อของจางหลินซินแน่นไม่ยอมปล่อย ขอร้องอย่างคนอับจนหนทาง
"ใช่ ฉันยอมแทงข้างหลังเพื่อน เหมือนที่เธอเคยแทงฉันไง นี่เรานี่มันสุดยอดเพื่อนสนิทเลยเธอว่าไหม เพื่อนรักของฉัน กล้าปีนเตียงพ่อของฉัน เธอนี่มันแผนการสูงจริงๆ ฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อน แต่เธอกลับอยากเป็นแม่เลี้ยงฉัน"
หลี่หลิงเจินสิ้นหวัง เธอไม่คิดว่าความพยายามอย่างหนักหลายปีมานี้ จะถูกทำลายโดยผู้หญิงอย่างหลินซินภายในเวลาไม่กี่วัน!
"เธอทำลายฉันได้ แต่คิดเหรอว่าจะได้อยู่เป็นสุข!"
หลี่หลิงเจินพูดจบก็เอาท้องไปกระแทกกับราวบันไดข้างๆ กุมท้องร้องโอดครวญ ชุดคลุมท้องหลวมๆ เปื้อนเลือดสีแดงฉานน่ากลัว จางหลินซินก็ตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าหลี่หลิงเจินจะโหดเหี้ยมถึงขนาดทำร้ายตัวเองจนแท้งลูก
————
โรงพยาบาลปักกิ่ง ห้องคลอด
จางเย่าหยางและจางเหยียนอี้รีบมาที่โรงพยาบาล ผู้เป็นพ่อเห็นจางหลินซินยืนอยู่หน้าห้องคลอดด้วยสีหน้าไม่แยแส ก็โกรธจนของขึ้น
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจินเจิน ฉันจะเอาเรื่องกับเธอ!”
“พ่อ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ พี่สาวไม่ได้ตั้งใจผลักพีสะใภ้ล้ม พ่ออย่าโทษเธอเลยนะ”
จางหลินซินมองจางเย่าหยางและจางเหยียนอี้ด้วยท่าทางขยะแขยง ก็รู้สึกคลื่นเหียนอยากอ้วก จึงตอบโต้กลับอย่างเจ็บแสบ “ลูกที่แท้งไปไม่ใช่ลูกฉัน มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ ต่อให้ตายทั้งคู่ฉันก็ไม่สนใจ”
จางเย่าหยางตั้งใจจะต่อว่า แต่พอเห็นหมอเข็นหลี่หลิงเจินออกมาจากห้องคลอด ก็หันไปสนใจภรรยา หล่อนหน้าซีดเหงื่อท่วมตัวราวกับเพิ่งกลับมาจากนรก
“เจินเจิน เธอเป็นยังไงบ้าง...ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า”
“เย่าหยาง...ขอโทษนะ ลูกไม่อยู่แล้ว”
“ไม่เป็นไรเจินเจิน เธอสำคัญที่สุด” จางเย่าหยางพูดว่าเป็นห่วง แต่สายตากลับไม่ละจากท้องของหลี่หลิงเจินเลย
“ขอโทษด้วยค่ะ คุณจาง เธอแท้งลูกจากการบาดเจ็บรุนแรง จึงช่วยเด็กในท้องไว้ไม่ได้ เราพยายามเต็มที่แล้วค่ะ” พยาบาลอธิบายกับจางเย่าหยาง
“เย่าหยาง คุณต้องช่วยเราแม่ลูกด้วยนะ ทั้งหมดเป็นเพราะจางหลินซิน ลูกของเราถึงตาย” หลี่หลิงเจินจับมือจางเย่าหยางไว้แน่น ร้องขอความช่วยเหลืออย่างเวทนา
พยาบาลสาวทำหน้าตาเหมือนเห็นผี เธอคิดว่าผู้หญิงที่แท้งลูกคือลูกสาวของชายหนุ่มตรงหน้า เขาถึงได้เป็นห่วงขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะเป็นเสือแก่กินหญ้าอ่อน
จางเย่าหยางได้ยินแล้วก็โกรธมาก มองจางหลินซินแล้วตะโกนว่า “ลูกอกตัญญู! ทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอเหรอ แม้แต่เด็กที่อยู่ในท้องไม่กี่เดือนก็ยังไม่เว้น!”
“พี่สาวใจร้ายมากเลย พีสะใภ้ดีกับเราขนาดนี้ ลืมบุญคุณแล้วเหรอ...”
ทั้งคู่สลับกันต่อว่า แต่จางหลินซินไม่พูดอะไรเลย การแก้ตัวก็คือการปกปิดความผิด ก็เหมือนกับว่ามีคนใส่ร้ายว่าขโมยของกิน แบบนั้นไม่รีบต้องผ่าท้องตัวเองเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เหรอ สิ่งที่ทำคือการสงบปากสงบคำ เพราะพูดไปก็เปล่าประโยชน์ ครอบครัวนี้เกลียดชังเธอมากแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลย แค่รอดูละครฉากใหญ่ ปล่อยให้พวกเขาพูดไปเรื่อยอยากด่าอะไรก็เชิญ
จางเย่าหยางเห็นจางหลินซินไม่สะทกสะท้าน ก็อยากจะตบหน้าเธอตรงนั้นเลย จางเย่าหยางกำลังยกมือขึ้น แต่ก็ถูกมือที่แข็งแรงมีพลังจับไว้จนขยับไม่ได้
“ไอ้เวรนี่เป็นใครกัน!”
“คุณกล้าแตะต้องเมียฉันเหรอ” เฉินจือหานสีหน้าเย็นชา ดวงตามีประกายแห่งความโกรธที่ลุกโชน กล้าตีสมบัติของเขาได้อย่างไร
“ฉะ...ท่านประธานเฉิน”
จางเย่าหยางกลายเป็นไก่ตื่นตูมทันที ความโมโหลดลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นความหวาดหวั่นแทน
“เมียฉันไม่ใช่ลูกคุณเหรอ ลำเอียงเห็นๆ แบบนี้ มันไม่ยุติธรรมเกินไปหน่อยเหรอ จางเย่าหยาง”
“เข้าใจผิดแล้วครับ เข้าใจผิดแล้วประธานเฉิน ลูกหลานทั้งนั้น ผมแค่ตักเตือนหลินซินเล็กน้อยเท่านั้นเอง...”
“งั้นฉันก็ตักเตือนคุณเล็กน้อยเหมือนกัน”
“โอ๊ย ยะ อย่า ประธานเฉิน”
“หลิวซูเหยียน จัดการมันให้หนัก!”
“ครับท่านประธาน”
หลิวซูเหยียนพับแขนเสื้อขึ้น แล้วตบหน้าจางเย่าหยางอย่างแรงหลายครั้ง จางเย่าหยางไม่กล้าขัดขืน ยืนนิ่งให้ตบอย่างเต็มที่ จมูกและปากมีแต่กลิ่นเลือด หลิวซูเหยียนมองหน้าครอบครัวจาง แล้วก็รู้สึกไม่พอใจแทนนายหญิง นี่มันพ่อที่มาจากนรกขุมไหนกัน ถึงเอาแต่หาเรื่องตำหนิลูกสาวตัวเอง เจอหน้าแต่ละทีฝันร้ายไปทั้งคืน
เฉินจือหานแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการปกป้อง มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจมาก รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยที่ขาดหายไป ในใจค่อยๆ ได้รับการเติมเต็มทีละน้อย
“ลูกคุณหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้” จางหลินซินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เธอจะพูดอะไร” จางเย่าหยางโกรธ
ทันใดนั้น นักข่าวจำนวนมากก็กรูกันเข้ามาล้อมครอบครัวจางไว้
“ประธานจาง จริงหรือไม่ครับที่ภรรยาใหม่ของคุณตั้งท้องลูกคนอื่น”
“ประธานจาง คุณตอบได้ไหมครับว่าวิดีโอและรูปภาพ ที่เผยแพร่ออกมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
“ขอถามประธานจางหน่อยครับ ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร...”
“...”
หลี่หลิงเจินเห็นนักข่าวก็รู้ว่าเธอจบแล้ว
จางหลินซินมองหล่อนแล้วพูดตรงๆ “หลี่หลิงเจิน เธอจบเห่แน่ ฉันถนัดทำเรื่องไร้สาระเสียด้วย เตรียมใจไว้ได้เลย”
หลังจากนั้นเฉินจือหานก็พาจางหลินซินออกจากที่แห่งนี้ไปยังคฤหาสน์
————
บ้านตระกูลจาง
หลี่หลิงเจินผ่าตัดตอนเช้า แต่ก็แอบหนีออกจากโรงพยาบาลตอนบ่าย เธอคุกเข่าต่อหน้าจางเย่าหยางแล้วร้องขอความเมตตา “เย่าหยาง ฉันผิดไปแล้ว คุณให้อภัยฉันเถอะ”
กางเกงของหลี่หลิงเจินมีเลือดซึมออกมาเป็นหย่อมๆ จากการฉีกขาด ชุดคนไข้ก็เปื้อนเลือดไปหมด แต่จางเย่าหยางทำเหมือนไม่เห็นอะไรเลย ยังคงผลักหล่อนออกไปอย่างแรง
“เธอมันแพศยา มีลูกกับชายอื่น ยังกล้ามาหลอกฉันว่าเป็นลูกฉัน แม้แต่ทรัพย์สินของตระกูลจางเธอก็ยังอยากได้ บอกเลยว่าไม่มีทาง!” จางเย่าหยางใช้แรงทั้งหมดตบหลี่หลิงเจินไปหนึ่งที ทำให้หล่อนเซล้มลงพื้น
“ไม่จริง…ไม่จริง เย่าหยาง เป็นจางหลินซินที่ใส่ร้ายฉัน หลักฐานพวกนี้มันเป็นของปลอม”
หลี่หลิงเจินสะอื้นไห้ ในขณะที่ชายหนุ่มยื่นอะไรบางอย่างให้ดู จางเย่าหยางเปิดคลิปที่หลี่หลิงเจินและหวังเหอมีอะไรกันให้หล่อนดู วันที่ที่ปรากฏในวิดีโอนั้นคือเดือนมิถุนายน แต่ใบรับรองการตั้งครรภ์ของเธอนั้นอยู่ในเดือนถัดมา
จางเย่าหยางเพิ่งรู้จักเธอในเดือนสิงหาคม หลักฐานชัดเจน จบแล้ว…จบทุกอย่างแล้ว ความหวังที่จะได้เป็นคุณนายจาง หวังให้ลูกชายอยู่อย่างสุขสบายฮุบสมบัติทั้งหมด ความฝันเหล่านั้นพังทลายลงแล้ว!
“แม่บ้าน รีบเอาของของหล่อนทั้งหมดออกไป แล้วหลังจากนี้เธอไม่ใช่คนของตระกูลจาง! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลี่หลิงเจิน เธอและฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว!”
============================
แผนชั่วไม่สำเร็จ คิดจะป้ายความผิดให้หลินซิน บอกเลยว่าไมง่ายนะจ้ะ
ชาตินี้นางเอกของเราฉลาดแล้วจ้า
ถนนวงแหวนรอบเขาภายในรถโรลส์-รอยซ์ หลินซินซบอยู่ในอ้อมกอดของเฉินจือหาน เธอรู้สึกอ่อนล้าเล็กน้อย จึงพูดเสียงอ่อนว่า "จือหาน เมื่อวานคุณมาโรงพยาบาลได้ยังไง" ถ้าเมื่อวานจือหานมาช้ากว่านี้ เธอคงโดนบิดาตบหน้าไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นไม่ควรเป็นพ่อคนด้วยซ้ำ!"ฉันคิดถึงเธอ" เฉินจือหานจูบหน้าผากของหลินซิน "เลยไปหา"เฉินอวี้ลดแสงไฟในร ถรู้จักหน้าที่ของตัวเองดี จึงรีบยกฉากกั้นเบาะหลังลง เฉินจือหานพอใจมาก เดี๋ยวจะให้โบนัสเฉินอวี้สามเท่าเลย"ฉันก็คิดถึงคุณ จือหาน แต่เพราะฉันต้องจัดการเรื่องยุ่งๆ ของตระกูลจางให้เรียบร้อยก่อน""ให้ฉันจัดการให้ไหม""ไม่ได้จือหาน คนพวกนี้ฉันต้องจัดการเอง""ได้สิ ฉันตามใจภรรยาอยู่แล้ว จำไว้ว่าฉันคือภูเขาที่แข็งแกร่ง คอยอยู่ข้างหลังเธอเสมอ ถ้าไม่อยากจัดการเอาก็บอกฉันได้ทุกเมื่อ" เฉินจือหานมองเธออย่างเอ็นดู ยกมือปัดผมของหลินซินสายตาของทั้งคู่ค่อยๆ ร้อนแรงขึ้น เฉินจือหานอดใจไม่ไหว จูบปากนุ่มๆ ของหลินซิน สอดลิ้นเข้าไปไปในปากของเธอ แลกความหวานในโพรงปาก หลินซินตอบสนองจูบของเขาเช่นกัน"อืม..." หลินซินครางในลำคอ โอบแขนรอบคอสามีดึงเขาเข้าหาตัวในชาติที่แล้วเธอเกลียดเขา เพียงเพราะเชื
หลินซินไม่สนใจการขัดขวางของเฉินเค่อและเฉินอวี้ เธอผลักประตูเปื้อนเลือดแล้วพุ่งเข้าไปข้างใน เมื่อเห็นภาพสยดสยอง ภายในใจของเธอก็จมดิ่งลงสู่ก้นเหว บอดี้การ์ดสิบกว่าคนถูกซัดจนล้มระเนระนาด ส่งเสียงร้องโหยหวนไม่ขาดสาย บาดแผลบนร่างกายมีทั้งเล็กทั้งใหญ่ ชวนให้ผู้พบเห็นสะเทือนใจ แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจที่สุดก็คือ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวเปื้อนเลือด กำลังคลุ้มคลั่งเหมือนสติไม่อยู่กับตัว นั่นนคือเฉินจือหาน"จือหาน ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง" น้ำเสียงของหลินซินสั่นเครือในเวลานี้ดวงตาของเฉินจือหานแดงก่ำ เขาไม่ได้ยินสิ่งที่หลินซินพูดเลย รู้เพียงว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าของหลินซินพร่ามัวไปหมด คำพูดที่ดังอยู่ข้างหูก็ไม่ได้ยิน"เธอ...เป็นใคร" เฉินจือหานกัดฟันพูด"จือหาน ฉันหลินซิน ภรรยาที่คุณรักที่สุด...คุณจำไม่ได้แล้วเหรอ""ภ... ภรรยา"หลังจากได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เฉินจือหานก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสติ แต่ในวินาทีต่อมา ใบหน้าของหลินซินก็เปลี่ยนไป... เป็นใบหน้าของคนที่เขาเกลียดที่สุด เป็นผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ!"จือหาน คุณเป็นอะไร..."แต่ก่อนที่หลินซินจะพูดจบ เฉินจือหานที
เช้าตรู่, คฤหาสน์ตระกูลเฉินแสงแดดลอดผ่านหน้าต่างส่องลงบนเตียง ทำให้ห้องสว่างไสวด้วยสีทอง เฉินจือหานหลับไปทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมา เขาเห็นหลินซินที่นอนหลับอยู่ข้างเตียง ก็อดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้หลินซินรู้สึกตัวว่าคนข้างๆ ขยับตัวจึงลืมตาขึ้น เห็นสามีตื่นแล้วก็ดีใจมาก"จือหาน คุณตื่นแล้ว มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า"“ซินซิน ฉันไม่เป็นไรแล้ว" เฉินจือหานปลอบใจเธอเขามองภรรยาที่อยู่ตรงหน้า นึกถึงผู้หญิงที่มองไม่เห็นในฝัน ท่าทางและน้ำเสียงคล้ายคลึงกันมากทำให้เฉินจือหานเผลอคิดไปชั่วขณะอาจจะเป็นฝันร้ายกระมังเขาไม่อยากคิดมากให้ปวดหัว"ฉันทำเธอเหนื่อยใช่ไหม" เฉินจือหานลูบหน้าหลินซินแล้วดึงเข้ามากอดในอ้อมแขน พูดเบาๆ ว่า "เมื่อวาน...เธอกลัวรึเปล่า"หลินซินเงยหน้าขึ้นหัวเราะคิกคัก "ไม่กลัว จือหาน คุณไม่ใช่ปีศาจร้าย ฉันจะกลัวได้ยังไง""ขอบคุณนะภรรยาของฉัน" สีหน้าของเฉินจือหานสงบลงเล็กน้อย เดิมทีไม่ต้องการให้หลินซินเห็นเขาในสภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ กังวลว่าเธอจะตกใจและต่อต้าน หวาดหวั่นว่าเธอจะไม่รักเขาอีก ดังนั้นเมื่อเขาอาการกำเริบ ก็จะไปหลบที่ห้องใต้ดินแต่ปฏิกิริยาแรกของหลินซินเมื่อเห็นเขาในสภาพ
ในร้านกาแฟ หญิงสาวสองคนนั่งตรงข้ามกัน"เธอแน่ใจเหรอว่าหล่อนจะมา?""ฉันแน่ใจ ฉันไปหาหล่อนที่บ้านและขอร้องด้วยตัวเอง ไม่มีทางไม่มาหรอ"หลี่หลิงเจินที่นั่งอยู่ตรงข้ามถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำสีม่วงดำ จางเหยียนอี้รู้สึกประหลาดใจมาก เธอไม่คิดว่าหลินซินจะลงมือทำร้ายอดีตแม่เลี้ยงหลี่หลิงเจินค่อยๆ เพิ่มแรงมือที่ถือแก้วไว้ แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง "ถึงเวลาแล้ว แผนของเราต้องไร้ที่ติ เราต้องทำให้หลินซินเสื่อมเสียชื่อเสียง!""ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงเวลานั้นฉันจะได้เป็นสะใภ้รองของตระกูลฉิน ส่วนเธอจะได้เงินไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ เราทั้งคู่จะได้ในสิ่งที่ต้องการ"ทั้งคู่สบตากันและยิ้ม คราวนี้พวกเธอจะทำให้หลินซินล่มจม! หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็ออกจากร้านกาแฟ แต่ในมุมหนึ่งของร้านนั้น มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่โดยที่ไม่ได้สั่งอาหาร ไม่มีใครสังเกตเห็นชายคนนี้ เขาได้ยินบทสนทนาทั้งหมดอย่างชัดเจน เมื่อพวกนั้นไปแล้วเขาจึงกดหูฟังบูลทูทเพื่อติดต่อบอส"หัวหน้า หลี่หลิงเจินและจางเหยียนอี้พบกันที่ร้านกาแฟ พวกเขาวางแผนที่จะจัดการกับคุณ"หลินซินยิ้มในขณที่พิงหน้าต่างบานใหญ่ "001 สืบ
ที่ชั้นสองห้องพักผ่อน จางเหยียนอี้นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หลับตาลงใบหน้าอันงดงามปรากฏรอยแดงจางๆ โดยเฉพาะแก้มข้างขวาที่บวมเล็กน้อย ในเวลานี้ผู้ช่วยสาวถือถุงน้ำแข็งเข้ามา แล้วประคบแก้มข้างที่บวมของจางเหยียนอี้"อุ๊ย..." จางเหยียนอี้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และด่าออกมาอย่างเจ็บใจ "ยายแก่ตายโหงนั่น มือหนักจริงๆ!"เมื่อมองดูตัวเองที่ดูโทรมในกระจก จางเหยียนอี้ก็ยิ่งเกลียดชังคุณนายฉินมากขึ้นไปอีกก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น"เข้ามา"พนักงานชายคนหนึ่งเดินเข้ามา โค้งคำนับเล็กน้อย แล้วพูดช้าๆ "คุณหนูจาง คนที่คุณให้ผมจัดการ…เรียบร้อยแล้วครับ""แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรผิดพลาด?" จางเหยียนอี้ถามด้วยสีหน้ายินดี"ผมแน่ใจครับ คุณหนูจาง ตอนนี้คุณหนูไปตรวจสอบได้เลยครับ""รออะไรอยู่ล่ะ พาฉันไปสิ!!"จางเหยียนอี้รีบโยนถุงน้ำแข็งทิ้ง แล้วตามพนักงานชายออกจากห้องพักผ่อน ด้วยความรู้สึกภูมิใจเต็มเปี่ยม พนักงานชายที่นำทางไปข้างหน้า แววตาแฝงไปด้วยความมืดมน ในขณะเดียวกันในห้องน้ำหญิงข้างๆ พนักงานหญิงคนหนึ่งถูกมัดอยู่ในห้องน้ำ ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ภายใน ขณะที่มือและเท้าถูกมัดด้วยเนคไทจนแน่น และมีผ้าอุดปากอยู่ ที่หน้าปร
ในเวลานี้จางเหยียนอี้เสียหลัก คุณชายและคุณนายลู่เสียหลัก ฉินเสิ่นและลู่หยวนก็เสียหลักด้วยเช่นกันจางเหยียนอี้คิดว่าตัวเองวางแผนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งสามารถแต่งงานกับตระกูลฉินเพื่อเป็นสะใภ้ และสามารถทำลายหลินซินได้ แต่ทำไม... ทางด้านฉินเสิ่นคิดว่าที่แผนการเป็นไปตามปกติทุกอย่าง แต่ทำไมผู้หญิงของตัวเองถึงได้ถูกพี่ชายร่วมสาบานหลับนอนด้วยส่วนลู่หยวนหมายมั่นปั้นมือว่าจะได้นอนกับสาวงาม แต่ทำไมตอนนี้ถึงต้องกลายเป็นผู้ชายที่หลับนอนกับว่าที่ภรรยาของฉินเสิ่นซึ่งเปรียบได้กับน้องสะใภ้ ผู้ใหญ่ทั้งสองคนของตระกูลลู่ แค่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ลูกชายไม่เพียงก่อเรื่อง ยังลากพวกเขามาขายหน้าท่ามกลางตระกูลใหญ่ที่มาร่วมงานภายในงานเลี้ยง คนที่น่าจะดีใจที่สุดคงมีเพียงคุณนายฉินเมื่อตระกูลลู่ปูพรมให้เดินเช่นนี้ เหยียนอี้จะปฏิเสธได้อย่างไร เพราะเธอไม่มีทางไปแล้ว คุณนายฉินคงไม่ยอมรับเข้าตระกูลแน่ หลังจากที่ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายปรึกษากันแล้ว ก็ตัดสินใจว่าตระกูลจางและตระกูลฉิน จะยกเลิกพิธีแต่งงานแต่จะต้องจ่ายค่าสินสอดคุณนายลู่รู้สึกเกลียดจางเหยียนอี้จนอยากจะหั่นเป็นชิ้นๆ ผู้หญิงคนนี้วางแผนจับลูกชายของหล่อน แต่ไ
ตระกูลจางพายุยังไม่สงบ ทุกคนต่างก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ในขณะที่ใบมีดในมือของหลี่หลิงเจิน กำลังจะแทงเข้าที่หน้าอกของหลินซินอย่างฉิวเฉียด เฉินจือหานก็ตอบสนองอย่างฉับไว ดึงหลินซินเข้ามากอดไว้ แล้วหันข้างเตะหลี่หลิงเจินออกไปด้วยแรงมหาศาล หลี่หลิงเจินถูกเฉินจือหานเตะออกไปไกลกว่าสิบเมตร"ไอ้...ไอ้"มีดผลไม้ก็หลุดจากมือของหลี่หลิงเจินเนื่องจากแรงกระแทก แล้วก็ไถลไปบนพื้น ร่างกระแทกเข้ากับเสา ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าอวัยวะภายในถูกบดขยี้ ทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงอาเจียนออกมาเป็นเลือด"เฉินอวี้! ลากตัวเธอลงไป ฉันจะจัดการกับเธอเอง!"ดวงตาของเฉินจือหานเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว จ้องมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าที่ไม่ประสงค์ดีคนนั้นอย่างโกรธจัด ในขณะนี้ดวงตาของเขาก็แดงก่ำไปด้วยเส้นเลือด ไร้ซึ่งความอบอุ่น ในสายตาของคนอื่นเขาก็เหมือนซาตานที่เย็นชาและไร้ความปราณี เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้กล้าที่จะลงมือกับคนที่เขารักต่อหน้าต่อตาเขา หาเรื่องตายจริง!เฉินอวี้ก็ตกใจเช่นกัน ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าลงมือกับภรรยาของประธานบริษัท ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ช่างไม่รู้จักกาละเทศะ เหล่าบอดี้การ์ดได้ยินคำสั่งของเฉินอวี้แล้ว ก็รีบเข้ามาจ
หนึ่งเดือนต่อมา บ้านตระกูลลู่จางเหยียนอี้เพิ่งตื่นนอน หล่อนก็เดินออกมาจากห้องในชุดนอน ขยี้ตาเพราะยังง่วงอยู่ เหมือนกับว่าเธอยังอยู่บ้านตระกูลจาง เดินไปที่ห้องครัวโดยไม่รู้ตัว เปิดตู้เย็นแล้วรินนมให้ตัวเองเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะอาหารว่างเปล่า จางเหยียนอี้ก็ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรขึ้นมา ระเบิดอารมณ์ใส่แม่บ้านหลิวที่อยู่ข้างๆ "พวกเธอทำหน้าที่คนรับใช้ยังไงกัน! ฉันตื่นแล้วทำไมไม่จัดอาหารเช้า จะให้ฉันอดตายหรือไง!"แม่บ้านหลิวตกใจจนก้มหัวลง พูดกับจางเหยียนอี้ด้วยเสียงอ่อนโยน "คุณหนู...นายหญิงและนายท่านยังไม่ตื่น จึงยังจัดโต๊ะอาหารไม่ได้ คุณหนูจะรับประทานของว่างรองท้องก่อนไหมคะ""พวกเขาไม่ตื่นเกี่ยวอะไร ฉันหิวแล้ว จัดอาหารมา!" เธอไม่ได้เต็มใจแต่งงานเข้ามาในตระกูลลู่ ดังนั้นกฎของตระกูลลู่เธอจึงไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม"คุณหนู นี่เป็นกฎของตระกูลลู่ ต้องรอให้ผู้ใหญ่มาถึงก่อนถึงจะทานอาหารได้ ขอโทษด้วยนะคะ""ไม่จัดอาหารเช้าใช่ไหม" จางเหยียนอี้กัดฟัน จ้องแม่บ้านหลิวด้วยความโกรธ"คุณหนู... ไม่ได้ค่ะ" แม่บ้านหลิวก้มหัวลงต่ำกว่าเดิม คิดในใจว่าไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่นายน้อยแต่งเข้ามาจะเอาแต่ใจขนาดนี้ ไม่ฟังอะ
เป็นคืนที่วุ่นวายที่สุดในเมืองหลวง ถนนหลายสายถูกปิดกั้น รถติดเป็นทางยาว และท้องฟ้ายามค่ำคืนมีเครื่องบินส่วนตัวหลายลำบินผ่านไปมา ชาวเมืองคิดว่าเป็นการซ้อมรบทางทหาร จึงพากันซุบซิบหลินซินกับทีมที่เจ็ดที่อยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ถูกโจมตีจากหน่วยคอมมาโดต่างชาติอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเริ่มเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่กระนั้นก็ยังคงยิงได้แม่นยำ แต่การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง ลูกกระสุนที่บรรจุก็ไม่ราบรื่นเหมือนตอนแรก ดูเหมือนว่าศัตรูจะไม่มีวันหมดสิ้น ฆ่าหนึ่งคนก็มีคนใหม่เข้ามาแทนหลินซินเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งเหนื่อยและหงุดหงิด"ใช้ยุทธวิธีฝูงชน น่ารำคาญจริงๆ" เธอยิงศัตรูที่กำลังวิ่งเข้ามา ยิงได้แม่นยำและฆ่ามันได้ทันที"หัวหน้า ศัตรูเยอะเกินไป เราไม่มีทางชนะ พวกเราจะถูกพวกมันฆ่าหมดถ้ายังสู้แบบนี้" 001 เปลี่ยนกระสุนซุ่มยิง"ฉันรู้!" หลินซินขมวดคิ้ว ในขณะที่เธอกำลังคิดหาวิธีแก้ไข ทีมที่เจ็ดที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็มาวิ่งมาหา ในแววตาแสดงถึงความหวัง"หัวหน้า! ทีมฉุกเฉินย้ายผู้ป่วยสำเร็จแล้ว พวกเขาให้เรามาแจ้งข่าว"ขอบคุณพระเจ้า!หากการผ่าตัดล้มเหลวหรือยืดเยื้อไปกว่านี้ พวกเขาทั้งหมดอาจต้องสังเวยชีวิต เธอไม
เงียบเกินไป เงียบจนหน้ากลัว ในขณะนี้ เธอได้ยินเพียงเสียงคลื่นทะเลตึก...ตึก...ตึก...บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอามือกุมบาดแผลที่หน้าอก เดินขากะเผลกเข้ามาหาหลินซิน ด้วยความเจ็บปวดเขาคุกเข่าลงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "นายหญิงหนีไปเถอะ...คุณชายมีอาการกำเริบ ครั้งนี้น่ากลัวมากไม่สามารถระงับได้ ผู้ช่วยเฉินให้ผมมาบอก คุณรีบออกจากเกาะตอนนี้เลย"หลินซินตัวเย็นเหงื่อท่วม เธอโยนของทุกอย่างในมือทิ้ง จับเสื้อของบอดี้การ์ดถามอย่างเร่งรีบ "ว่าอะไรนะ?! จือหานมีอาการกำเริบงั้นเหรอ ทำไมไม่แจ้งฉันเร็วกว่านี้!""นายหญิง เกาะที่คุณไปไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ข้อความจึงส่งไปไม่ถึง" บอดี้การ์ดไอเป็นเลือดในขณะนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของหลินซินส่งเสียงเตือน เธอดึงออกมาดูพบว่ามีสายเรียกเข้าและข้อความแจ้งเตือนมากมาย"แย่แล้ว!"หลินซินทิ้งโทรศัพท์วิ่งตรงไปยังบ้านพัก ศพของสาวใช้และบอดี้การ์ดนอนเกลื่อนกลาด เลือดท่วมเต็มห้องนั่งเล่น มีโทรศัพท์ตกอยู่ข้างโซฟา เฉินอวี้พยายามยื่นมือไปหยิบเพื่อเรียกความช่วยเหลือ แต่ในวินาทีต่อมา เฉินจือหานเห็นการกระทำของเขา ยิงปืนจนโทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆจือหานเดินมาหาเฉินอวี้ใช้ปืนจ่อที่หัวเขา ริมฝีป
หลินซินตื่นเพราะเสียงคลื่นทะเล และถูกปลุกด้วยการถูกใบไม้เกามือ เมื่อเธอลืมตาใบหน้าหล่อเหลาของเฉินจือหานก็ปรากฏตรงหน้า เขาหนุนศีรษะด้วยมือข้างหนึ่งและใช้ใบไม้ด้วยมืออีกข้างเกาเธอเล่น"ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ""…"เป็นเพราะถูกเกาจนตื่นต่างหาก! เฉินจือหานถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ก็ไม่สนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลินซินนั่งขึ้นด้วยความโกรธ แต่ด้วยแรงที่มากไป ผ้าห่มที่คลุมอกเธอก็เลื่อนลงมา เผยให้เห็นเรือนร่างเธอรีบคลุมผ้าห่มขึ้นกลิ่นของทะเลโชยเข้ามาในลำคอทำให้เธอรู้สึกแห้งผาก เมื่อมองไปรอบๆ ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่บังแสงอาทิตย์ไว้ ปล่อยให้มีพื้นที่ร่มรื่น ที่นั่งของพวกเขามีผ้าพื้นเมืองสีสันสดใสรองไว้กันทราย"พวกเราเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านเหรอ" สายลมทะเลพัดผมที่ต้นคอของหลินซินเบาๆ"ใช่ เห็นเธอนอนหลับสบายเกินไป ฉันไม่อยากปลุก เลยสั่งให้เฉินอวี้เอาผ้าห่มมาให้ เรานอนที่นี่ทั้งคืน""อย่างนี้ก็แปลว่า..."เฉินอวี้เห็นพวกเราหมดแล้วสิ! หลินซินหน้าแดงจัด เฉินจือหานหัวเราะในลำคอ ความอบอุ่นซ่านในใจ เขาคิดว่าเธอน่ารักเหลือเกิน"ยังจะหัวเราะอีก!" หลินซินขว้างหมอนอิงใส่สามีด้วยความโกรธ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าหาชายหาดราวกับจิตใจที่ปั่นป่วนของหลินซิน ดวงตาเธอแดงขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ ใจเกิดความรู้สึกหวั่นไหวจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา"ฉันก็รักคุณค่ะ จือหาน ชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน ฉันก็จะรักคุณ"เฉินจือหานสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางของหลินซิน และจูบที่หลังมือเธอราวกับเป็นการสาบาน ทั้งสองนั่งที่โต๊ะ เขารินไวน์แดงให้เธอ"นี่คือ นี่คือน้ำแห่งความรักของเรา ดื่มเพื่อฉลอง""ดื่มเพื่อฉลอง"แก้วไวน์ชนกัน หลังจากดื่มไวน์แดงไปหลายแก้ว แก้มของหลินซินเริ่มแดง ตาเธอพร่ามัว และมีอาการเมา เฉินจือหานเข้ามาใกล้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนของเขาพ่นลงบนลำคอ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ประคองใบหน้าของสามีและจูบเขา ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม"ที่รัก เธอทำแบบนี้ ฉันก็แย่สิ…" เฉินจือหานพูดเสียงแหบมีนัยยั่วยวนหลินซินยกมือขึ้นไปแตะเป้ากางเกงของเขา ทำให้ชายหนุ่มมีปฏิกิริยาตื่นตัว เธออายจนก้มหน้าลง เฉินจือหานอุ้มภรรยามาที่ใต้ต้นมะพร้าว เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก วางรองหลังเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ทรายบาดผิว"จะทำที่นี่เหรอ..." หลินซินกัดริมฝีปาก มองไปรอบๆ สถานที่นี้ดีมาก มีป่ามะพร้าวใหญ่บังสายตาได้อย่างดี เป
หลังสถานการณ์สงบลงมีเสียงปิดประตูดังขึ้น เฉินอวี้ออกไปแล้ว เหลือเพียงเฉินจือหานนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องทำงาน หนึ่งแก้ว…แล้วอีกแก้ว ดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเตรียมจะไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ หลินซินก็รีบกลับไปที่ระเบียงของห้องนอนเมื่อกลับมาถึงห้อง หลินซินรู้สึกไม่สบายใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจร้อน แต่เรื่องที่เฉินจือหานถูกพิษ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก ตราบใดที่มาดามหมิงยังอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน การที่จือหานต้องอยู่ภายใต้การข่มขู่ของเธอเป็นเวลาหนึ่งวัน ทำให้มาดามหมิงเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นจุดอ่อนของลูกชาย การฆ่าคนง่าย แต่การฆ่าคนที่สามารถจับจุดอ่อนของตนได้มันยากมากหลินซินหยิบโทรศัพท์พิเศษออกมา และโทรหาหมายเลข 001“ไปตรวจสอบบุคคลที่ชื่อว่า หมิงฉวน ฉันต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของหล่อนอย่างละเอียด ใช่, มันสำคัญมาก”สั่งเสร็จก็วางโทรศัพท์ลง เธอกลับไปนอนบนเตียงและห่มผ้าห่ม…แต่ลืมตาตื่นตลอดทั้งคืนเช้าวันถัดมาหลินซินตื่นขึ้นและพบว่า ฉินจือหานไม่ได้กลับมาที่ห้องนอน เขาอยู่ที่ห้องทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยขวดเหล้า จึงสั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด หลายวันผ่านไปหลินซินไม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงชายหนุ่มที่เย็นเยียบดังขึ้นมาดามหมิงหยุดมือ ซ่อนเจตนาฆ่าที่เพิ่งแสดงออกเมื่อสักครู่ กลับมามีท่าทางใจดีอีกครั้งเมื่อมองลูกชาย เขาเดินมาจากสวนไกลๆ เห็นหลินซินถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่บนสนามหญ้า ลมหนาวพัดผ่านผมของเธอ เขาโกรธสุดขีด ผู้หญิงของเขาไม่เคยต้องทนความอับอายแบบนี้!ปัง!เฉินจือหานหยิบปืนออกมา ยิงบอดี้การ์ดชาวต่างชาติสองคนที่กักขังหลินซินทันที ทั้งสองมีรูเลือดดำทมึนที่หัวล้มลงกับพื้นทันที หลินซินไม่มีที่พึ่งก็ล้มลงบนสนามหญ้า เฉินจือหานเดินมาอย่างรวดเร็วแล้วกอดภรรยาไว้ ใส่เสื้อคลุมให้เธอเมื่อเห็นเศษแก้วบนขาของหลินซินแ ละมือที่แดงจากการถูกน้ำร้อนลวก เฉินจือหานก็แทบเป็นบ้า ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรงพุ่งเป้ามองไปที่คุณนายหมิง “คุณกล้าแอบทำร้ายผู้หญิงของผม! หมิงฉวน!” ปลายกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากมาดามหมิง หล่อนไม่หลบไม่หนี ยังคงมีท่าทางใจดีเหมือนเดิม“อาจือ ทำแบบนี้แม่จะเสียใจนะ” แกล้งร้องไห้และปล่อยน้ำตาหยดสองหยด“มันสมควรแล้วไหม แต่เดิมคุณซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศ อยู่ไปจนตายก็ไม่มีใครสน แต่เมื่อกลับมาผมจะส่งคุณลงนรก ผลของการทำร้ายผู้หญิงของผมคือความตาย
ไม่นานนักม้าพันธุ์เผือกชื่อ ทาเสวี่ย ถูกนำตัวมา เป็นม้าสีขาวทั้งตัวมีเพียงกีบเท้าทั้งสี่ที่เป็นสีน้ำตาล เป็นม้าพันธุ์ดี มีความเร็วและความอึดสูง เป็นพันธุ์ที่หายากมาก"คุณผู้หญิง ทาเสวี่ยมาแล้วค่ะ" แม่บ้านซุนส่งสายบังเหียนให้หลินซิน"ดี" หลินซินรับสายบังเหียน ขณะที่บอดี้การ์ดกำลังพาตัวจงเซียนไปที่ประตูใหญ่ หลินซินก็สั่งให้หยุด"ปล่อยเธอ" หลินซินสั่ง"ปล่อย ปล่อยฉัน” เมื่อบอดี้การ์ดปล่อยตัว จงเซียนก็สะบัดมือออกทันที"ฉันจะให้โอกาสเธอ ถ้าเธออยากได้ตำแหน่งนี้มากนัก หากวันนี้เธอสามารถทำให้ทาเสวี่ยเชื่องต่อหน้าทุกคนได้ ฉันจะยกตำแหน่งให้เธอเลย เป็นไง?""เธอไม่ได้หลอกใช่ไหม?" จงเซียนไม่แน่ใจ"พูดคำไหนคำนั้น"หลินซินยื่นสายบังเหียนให้จงเซียน พร้อมทำท่าทางเหมือนว่าถ้าพูดโกหกจะตายทันที"แค่ม้าตัวเดียวเอง รอดูได้เลย!"จงเซียนรับสายบังเหียน แล้วขึ้นม้าทันที ตั้งแต่เด็กเธอก็เคยเข้าร่วมการแข่งมาหลายครั้ง การทำให้ม้าเชื่องไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอ เมื่อขึ้นม้าแล้วก็หันไปมองหลินซินด้วยสายตาท้าทาย"แต่ถ้าเธอแพ้ เธอต้องย้ายออกจากคฤหาสน์ทันที และห้ามเข้ามาอีก""ยังมีเวลาเปลี่ยนใจนะ" คำพูดของหลินซินทำให้
ผู้ชายดูดีที่สุดเมื่อไหร่ แน่นอนว่าเมื่อเขายืนอยู่ข้างภรรยาโดยไม่มีเงื่อนไข! ผู้ชายที่รักภรรยามากควรที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับเฉินจือหานความรักและความเอาใจใส่ ที่หลินซินได้รับต้องมาจากเขาเท่านั้น พร้อมแสดงความรักที่มีต่อภรรยาให้ทุกคนเห็นโดยไม่มีเงื่อนไข หลินซินในอ้อมกอดของเฉินจือหานมีความสุขมาก ยิ้มจนเกือบถึงหูมาดามหมิงลงมาจากชั้นสาม เห็นคนรับใช้พากันคุกเข่าและคราบเลือดบนพื้นก็ขมวดคิ้ว "คุณปู่ของเธอไม่เกลียดการฆ่าคนในบ้านหรอกเหรอ?""นี่คือบ้านของผม ใครจะตายไม่ใช่เรื่องที่คุณมีสิทธิ์ยุ่งโดยเฉพาะคุณ อย่ายุ่งเรื่องของผมให้มากนัก" เฉินจือหานหัวเราะเย็นชา"จือหาน... เธอ" มาดามหมิงพูดไม่ออก โกรธจนต้องบีบที่จับบันไดอย่างแรง ไม่คิดว่าเฉินจือหานที่ไม่ได้เจอกันสิบปี จะมีนิสัยแข็งกร้าวขนาดนี้ กล้าต่อกรกับเธอแล้ว“ทำไมคุณถึงอยู่ที่ชั้นสาม นั่นเป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่เหรอคะ”คำถามง่ายๆ ของหลินซิน ทำลายบรรยากาศในตอนนั้น ห้องของเธอกับเฉินจือหานอยู่ที่ชั้นสาม เพื่อความเป็นส่วนตัวปกติจะอนุญาตให้แม่บ้านซุน เข้ามาทำความสะอาดเท่านั้น คนรับใช้คนอื่นๆ สามารถทำงานได้เฉพาะที่ชั้นหนึ่งเท่านั้น
อาการบาดเจ็บของเฉินจือหานไม่มีอะไรน่าห่วง หลังจากตรวจเสร็จเขาก็สั่งให้เฉินอวี้เก็บของและเตรียมตัวกลับบ้าน ในระหว่างการตรวจ เฉินจือหานยืนกรานที่จะกอดภรรยาเอาไว้ ไม่ว่าจะตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด ทั้งหมดเขาต้องมีหลินซินอยู่ข้างๆ ด้วย มิฉะนั้นจะไม่ยอมให้ตรวจพยาบาลที่อยู่ข้างๆ ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความประทับใจ พวกเธอต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภรรยาของคุณเฉินช่างโชคดีจริงๆ “คุณเฉิน ถ้าไม่มีกิจกรรมที่รุนแรงและไม่ทำให้แผลเปิด ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงครับ” หมอแจ้งอาการเมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว“รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วยไหม?” เฉินจือหานถามขึ้นหลินซินฟังแล้วหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่หมอมีประสบการณ์มาก จึงเพียงไอเบาๆ และตอบว่า “ตราบเท่าที่ไม่รุนแรงเกินไปก็ไม่มีปัญหาครับ”“ได้ยินไหมที่รัก ครั้งหน้าเบาๆ หน่อยนะ” เฉินจือหานกอดหลินซินแล้วขบหูเธอเบาๆ“คุณก็ทำตัวให้ดีๆ หน่อยนะ จือหาน” หลินซินทุบหน้าอกเขาเบาๆ พร้อมพูดด้วยเสียงอ้อนๆหลังจากการตรวจเสร็จ เขาก็กอดภรรยาเดินออกจากโรงพยาบาลไปที่ลานจอดรถ ทุกคนคิดว่าเฉินจือหานแสดงความคลั่งรักแบบสุดใจ แต่ความจริงแล้วเขารู้สึกเจ็บปวดใจมาก ที่เมื่อวานเขาทำให้เธอบาด