หวังหย่งเจี๋ยมองหญิงสาวบนเตียงด้วยแววตาซับซ้อน เขาจำได้ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ภาพความเร่าร้อนเมื่อค่ำคืนยังคงติดตา เขา เขาไม่คาดคิดเด็กสาวบ้านๆ ที่ดูภายนอกจะแสนจืดชืดคนนี้จะซ่อนรูปที่สุดแสนจะเย้ายวนเอาไว้ จะทำให้เขาเสียอาการจะควบคุมสติไม่อยู่ได้ถึงเพียงนี้
"เธอเป็นอย่างไรบ้าง" นายพลหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ
หลิวซินเยว่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของเขา
"คุณ..." เธอพยายามเปล่งเสียง แต่กลับพูดไม่ออก ลำคอของเธอแห้งผาก ร่างกายปวดร้าวระบมไปหมด
หวังหย่งเจี๋ยเห็นแววตาสับสนของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาไม่รู้จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดอย่างไร ความสัมพันธ์เพียงชั่วข้ามคืนที่เกิดจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด กลับทำให้เขาต้องมีอะไรกับหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ
"ผมขอโทษ..." หวังหย่งเจี๋ยเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "ผมไม่ได้ตั้งใจ เมื่อคืนผมโดนศัตรูลอบวางยาปลุกกำหนัดทำให้ผมควบคุมอารมณ์ไม่ได้" เขาพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงใจ หวังว่าคนร่างบางที่อยู่ตรงหน้าจะเข้าใจ
หลินซินเยว่ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้จะโทษใคร โทษโชคชะตาที่เล่นตลก ที่ทำให้เธอโผล่มาในร่างของตัวประกอบ ความบริสุทธิ์ที่รักษามาตลอดชีวิต กลับต้องมาเสียไปเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
"คุณพักผ่อนก่อน เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อยาแก้ปวดให้" หวังหย่งเจี๋ยลุกขึ้นจากเตียง
หญิงสาวพยักหน้ารับ เธอมองตามร่างสูงของของนายพลตัวร้ายที่เดินออกจากห้องไป เขาแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา กางเกงสแล็คสีดำ และรองเท้าหนังสีน้ำตาล ทำให้คนร่างสูงดูหล่อเหลาเป็นอย่างมาก จนหลิวซินเยว่ใจเต้นแรง
'โอ๊ยทำไมตัวร้ายในนิยายต้องหล่อ แบดบอยแบบนี้ด้วย 'เธอได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ ถึงแม้ในใจจะหวั่นไหวกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา แต่เธอก็ยังคงหวาดระแวง เพราะหวังหย่งเจี๋ยในนิยายนั้นมีความร้ายกาจ โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก คนที่เป็นศัตรูกับเขาไม่มีทางรอด แต่ถ้าคนไหนที่ทำให้เขารักและหลงใหล เขาก็จะดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ 'หลี่เหมยฮัว' นางเอกของเรื่อง...
หวังหย่งเจี๋ยขับรถจี๊ปสีเขียวมะกอกคู่ใจออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังร้านขายยา เขารู้สึกผิดต่อหญิงสาวคนนั้นมาก เขาอยากจะชดเชยความผิดที่เขาได้กระทำลงไป แม้ว่าเมื่อคืนเขาจะโดนยาปลุกกำหนัด แต่เขาก็ยังจำได้ดีถึงสัมผัส และกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอ
หลังจากคุณตัวร้ายผู้แสนเย็นชาขับรถออกจากบ้านไป หลิวซินเยว่ก็จัดการตัวเองทันที แม้ว่าเธอขยับร่างกายอย่างติดจัดไปบ้าง แค่โชคดีที่เธอเคยฝึกความแข็งแกร่งในค่ายตำรวจมาก่อน ทำให้เธอทนกับความปวดร้าวทั่วทั้งตัวได้ เธอหยิบชุดกี่เพ้าสีแดงที่เธอเคยใส่ขึ้นมามันขาดวิ่น เป็นผลพวงจากการกระทำอันป่าเถื่อนของนายพลหนุ่มเมื่อคืน หลิวซินเยว่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ของคุณตัวร้าย โชคยังดีที่หวังหย่งเจี๋ยมีรสนิยมชอบพาผู้หญิงมานอนค้างด้วย ในตู้ของเขาจึงมีเสื้อผ้าผู้หญิงหลงเหลืออยู่บ้าง เธอเลือกชุดเดรสสีขาวเรียบง่ายมาสวมใส่ ก่อนจะหยิบชุดที่ขาดไปทิ้งลงถังขยะที่อยู่หน้าบ้านชายหนุ่ม
หลิวซินเยว่สำรวจข้าวของในกระเป๋าของเจ้าของร่างนี้ พบว่ามีเงินสดจำนวนหนึ่งแม้ไม่มากแต่ก็คงจะพอซื้อยาคุมฉุกเฉินได้ ร่างบางตัดสินใจออกจากบ้านหลังนี้ไปทันที เธอไม่มีวันยอมเป็นเพียง 'ตัวประกอบ' ที่มีจุดจบอนาถ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับลูกในท้องอย่างในนิยายที่เธอเคยอ่าน และเธอจะไม่มีวันเข้าไปพัวพันกับหวังหย่งเจี๋ย หรือตัวละครหลักคนอื่นๆ อีก
หลิวซินเยว่ก้าวเท้าออกมาจากบ้าน แสงแดดจ้าทำให้เธอต้องหรี่ตา เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ อากาศยามเช้าสดชื่น ไร้มลพิษ ต่างจากโลกอนาคตที่เธอจากมาโดยสิ้นเชิง โชคดีที่มีรถลากเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้พอดี หลิวซินเยว่จึงโบกมือเรียกรถลาก บอกจุดหมายปลายทางคือร้านขายยา เธอต้องไปซื้อยาคุมกำเนิดมากินเสียก่อน เป็นการตัดหนทางเข้าสู่โศกนาฏกรรม
รถลากแล่นไปตามถนน สองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คน บ้านเรือน ร้านค้า ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่แปลกตาสำหรับหลิวซินเยว่ เธอเพิ่งเคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ในหนังจีนยุคเก่าเท่านั้น
"คุณหนู ถึงร้านขายยาแล้วครับ" เสียงคนขับรถลากปลุกหลิวซินเยว่จากภวังค์
หลิวซินเยว่จ่ายเงินค่ารถ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านขายยา เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะซื้อยาคุมกำเนิดอย่างไรในยุคนี้ แต่เธอก็ต้องลองดู
"ขอโทษนะคะ พอจะมี..." หลิวซินเยว่กำลังจะเอ่ยปากถามหายาคุมกำเนิด
แต่คำพูดของเธอก็ต้องขาดหายไป เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งในชุดทหารของชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาในร้านขายยาเล็กๆ แห่งนั้นอย่างเร่งรีบ ใบหน้าของเขาดูคมคาย เคร่งขรึม ดวงตาเฉียบคมภายใต้คิ้วเข้ม แม้จะดูเหนื่อยล้า แต่ก็ยังคงความสง่างามเอาไว้ได้อย่างน่าประหลาด
"ผู้พันซุน ต้องการอะไรคะ" เสียงหวานใสของเจ้าของร้านยาเอ่ยถามขึ้น ทำให้หลิวซินเยว่หลุดออกจากภวังค์
"ผมต้องการยาลดไข้ครับ" ชายหนุ่มตอบเสียงเข้ม "คนรักของผมตัวร้อนจัดเลยครับ"
หลิวซินเยว่เบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงอย่างไม่สามารถควบคุมได้ นี่มัน... นี่มันเป็นหนึ่งในฉากในนิยายที่เธอเคยอ่าน
'เวรแล้วไง นี่ฉันต้องมาเจอตัวละครหลักอีกแล้วเหรอเนี่ย' หลิวซินเยว่คิดในใจอย่างตกตะลึง เธอจำได้แม่นยำว่าฉากนี้คือตอนที่หลี่เหมยฮัว นางเอกของเรื่อง ป่วยหนักจนไม่สามารถไปตามนัดกับซุนเจ๋อได้ ซุนเจ๋อเป็นห่วงจึงรีบไปหาเธอที่บ้าน ก่อนจะพบว่าหลี่เหมยฮัวตัวร้อนจัด ชายหนุ่มจึงรีบร้อนออกมาซื้อยาลดไข้ให้
เจ้าของร้านยามองผู้พันซุนด้วยสายตาเป็นห่วง "เธอเป็นไข้สูงมากไหมคะ มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือเปล่า" เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับหยิบยาลดไข้ชนิดต่างๆ มาวางเรียงบนเคาน์เตอร์ "ที่ร้านมียาหลายแบบนะคะ ผู้พันอยากได้แบบไหนดี"
หลิวซินเยว่หันไปมองชายหนุ่มอย่างพิจารณา พลางคิดในใจ 'พระเอกนิยายนี่ช่าง... หล่อเหลาเอาการจริงๆ ตัวสูง ใบหน้าคมคาย ดวงตาเฉียบคมแต่ดูอบอุ่น ท่าทางองอาจสมกับเป็นทหาร หล่อกว่าที่นักเขียนในนิยายบรรยายไว้เสียอีก เขาสามารถไปเป็นพระเอกซีรีย์ได้สบายเลย'
'แต่ว่า...' หลิวซินเยว่ขมวดคิ้ว 'ทำไมพระเอก ตัวร้ายเรื่องนี้ ต้องหล่อเหลาเบอร์นี้ด้วย มันไม่ยุติธรรมสำหรับตัวประกอบแบบเธอเลย'
"ขอบคุณครับ" ซุนเจ๋อรับยาแล้วรีบเดินออกจากร้านไป
ในขณะที่เขากำลังจะเดินสวน หลิวซินเยว่รีบก้มหน้า เธอไม่อยากให้คุณพระเอกจำหน้าเธอได้ เพราะในนิยาย หลิวซินเยว่เป็นเพียงตัวประกอบ ไม่มีบทบาทสำคัญอะไร และอีกอย่างเธอก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราววุ่นวายของตัวละครหลัก ขอแค่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็พอแล้ว
เมื่อหลิวซินเยว่เห็นว่าคุณพระเอกเดินออกจากร้านไปแล้ว เธอถอนหายใจโล่งออกก่อนจะเอ่ยถามเจ้าของร้าน
"เอ่อ...ขอโทษนะคะ คุณพอจะมียาคุมฉุกเฉินไหมคะ" หลิวซินเยว่เริ่มต้นถามเจ้าของร้านอีกครั้ง หวังว่าคราวนี้จะไม่มีใครมาขัดจังหวะเธออีก
"ยาคุมฉุกเฉินเหรอ มีสิ เอายี่ห้อไหน แบบไหนล่ะ" เจ้าของร้านเป็นหญิงวัยกลางคน ถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร พร้อมกับเดินไปหยิบยาคุมกำเนิดหลากหลายยี่ห้อมาวางเรียงให้หลิวซินเยว่เลือก
หลิวซินเยว่มองยาคุมกำเนิดตรงหน้า รู้สึกมึนงงเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่ายาคุมกำเนิดในยุคนี้มียี่ห้ออะไรบ้าง จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้าน "เอ่อ...หนูไม่ค่อยรู้เรื่องยาคุมกำเนิดเท่าไหร่ค่ะ ป้าพอจะแนะนำได้ไหมคะ แบบที่กินแล้วปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงนะคะ"
เจ้าของร้านเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังพิจารณา "หนู...แต่งงานแล้วเหรอ"
หลิวซินเยว่สะดุ้งเล็กน้อย เธอเกือบลืมไปว่าในยุคนี้ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานเป็นเรื่องน่าอาย เธอรีบส่ายหน้า "ยังค่ะ แต่..." เธออึกอัก ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี
เจ้าของร้านถอนหายใจ "ป้าพอจะเข้าใจ เดี๋ยวนี้เด็กสาวสมัยใหม่ใจร้อนกันเหลือเกิน" เธอหยิบกล่องยาสีขาวขุ่นขึ้นมา "อันนี้แหละ กินแล้วปลอดภัย แต่ก็อย่าไปทำอะไรแบบนี้อีกนะ รักนวลสงวนตัวไว้บ้าง"
หลิวซินเยว่รับกล่องยามา "ขอบคุณค่ะคุณป้า" เธอมองชื่อยา "ยี่ห้อ 'ดอกเหมย' เหรอคะ"
เจ้าของร้านพยักหน้า "ใช่แล้ว กินตามที่ป้าบอกนะ" เธออธิบายวิธีการกินยาอย่างละเอียด "จำไว้นะ ยาตัวนี้ช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ 100% ทางที่ดีที่สุดคือ ต้องป้องกันตัวเอง"
หลิวซินเยว่กล่าวขอบคุณก่อนจะเดินออกจากร้านกลับบ้านตามความทรงจำของเจ้าของร่างนี้
หวังหย่งเจี๋ยขับรถแล่นผ่านสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย รถจี๊ปสีเขียวมะกอกของเขาเลี้ยวเข้าสู่ตรอกเล็กๆ ก่อนจะจอดลงหน้าบ้านหลังหนึ่ง หยดน้ำฝนเกาะพราวบนกระจกหน้ารถ บดบังทัศนียภาพภายนอกให้เลือนรางเขาก้าวลงจากรถ ปิดประตูเสียงดัง ปล่อยให้ความเย็นยะเยือกของสายฝนซึมผ่านเสื้อโค้ตตัวหนา ความรู้สึกหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจ เขารีบสาวเท้าเข้าไปในบ้านความเย็นยะเยือกแทรกซึมผ่านเสื้อโค้ตตัวหนาของเขา แต่ไม่อาจสู้กับความร้อนรุ่มในใจที่กำลังคุกรุ่น เขาหวังว่าจะได้พบกับหญิงสาวที่ทำให้เขาหลงใหลในค่ำคืนที่ผ่านมาแต่ภายในบ้านกลับว่างเปล่า ไร้ซึ่งร่องรอยของเธอ"บ้าเอ๊ย" หวังหย่งเจี๋ยสบถออกมาอย่างหัวเสีย "ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงถึงหนีฉันไปแบบนี้" นายพลหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขาก้าวฉับๆ เข้าไปในห้องนอน เตียงนอนขนาดใหญ่ยังคงยับยู่ยี่ บ่งบอกถึงเรื่องราวร้อนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่เจ้าของร่างกายอันเย้ายวนใจกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เหลือแม้แต่เศษกระดาษโน้ตสักใบภาพความทรงจำของหญิงสาวเจ้าของเรือนร่างบอบบาง กลิ่นกายหอมหวาน และสัมผัสอันเร่าร้อนยังคงติดตรึงอยู่ในใจของนายพลหนุ่ม เขาไม่คาดคิดว่าสภาพที่ลุกจากเตียงไม่ขึ
หลิวซินเยว่เดินออกจากห้องนอนเล็กๆ ที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มุ่งหน้าไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน เธอหวังว่าแม่ของเธอจะทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทาง เธอเหลือบไปเห็นรูปถ่ายขาวดำใบหนึ่งวางอยู่บนชั้นวางของตั้งอยู่ในบ้าน เป็นรูปของผู้หญิงหน้าตาสะสวยอุ้มเด็กทารกไว้ในอ้อมแขน หญิงสาวในรูปมีเค้าโครงใบหน้าคล้ายกับเธอมาก'นี่คงเป็นแม่ของหลิวซินเยว่สินะ' เธอคิดในใจ พร้อมกับความรู้สึกโหยหาบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ก่อนเธอมองไปที่รูปถ่ายของชายวัยกลางคนในชุดทหารที่ตั้งอยู่ใกล้กัน นั่นคือพ่อของหลิวซินเยว่ เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เธออายุได้เพียง 10 ขวบ แม่ของเธอต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำงานตัดเย็บผ้าหามรุ่งหามค่ำเพื่อหาเลี้ยงชีพ ส่งเสียหลิวซินเยว่จนเรียนจบมัธยมปลาย และสอบเข้าคณะแพทย์มหาวิทยาลัยปักกิ่งได้'เยว่เยว่' เสียงเรียกของคนเป็นแม่ทำเอาความคิดที่กำลังล่องลอยของเธอถูกดึงกลับมาสู่โลกความจริง เธอเห็นแม่ของเธอกำลังเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับอาหารจานโปรด"วันนี้แม่ทำผัดผักกาดขาวกับเต้าหู้หม่าโผที่ลูกชอบ มาทานกันเร็ว""ค่ะแม่" หยวนชิงตอบรับก่อนจะเดินตามคนเป็นแม่เข้าไปนั่
เสียงโวยวายดังลั่นหน้าบ้านปลุกหลิวซินเยว่ให้ตื่นจากภวังค์ เธอลุกขึ้นอย่างงัวเงีย หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงตะคอกดังมาจากหน้าบ้าน"ซูหลิน เงินที่แกยืมไปเมื่อไหร่จะคืน นี่มันเลยเวลาไปหลายวันแล้วนะ"หลิวซินเยว่รีบวิ่งไปที่หน้าบ้าน ภาพที่เห็นทำให้เลือดในกายเธอเดือดพล่าน ชายฉกรรจ์สองคนหน้าตาดุดันกำลังยืนค้ำหัวแม่ของเธออยู่ ใบหน้าของแม่ของเธอซีดเผือด มือข้างหนึ่งกำชายเสื้อไว้แน่น"ขอเวลาให้ฉันอีกหน่อยเถอะนะคะ พอดีลูกค้ายังไม่มาเอาเสื้อที่ตัดไว้ อีกไม่กี่วันฉันจะรีบเอาเงินไปคืนให้แน่นอนค่ะ" ซูหลินกล่าวเสียงสั่นเครือ"อีกไม่กี่วัน? แกพูดแบบนี้มาหลายรอบแล้ว อย่ามาลีลาหลอกลวงกูอีก" เสียงตวาดดังลั่นมาจากหน้าบ้าน ทำให้นางซูหลินสะดุ้งสุดตัวชายร่างยักษ์สองคนยืนจังก้าขวางประตู ใบหน้าดุร้ายราวกับยักษ์มาร หนึ่งในนั้นคือ เจียงกู่เหวยเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบผู้โหดเหี้ยม เขาเดินเข้ามาใกล้ซูหลิน ยกมือขึ้นหมายจะตบใบหน้าของเธอหลิวซินเยว่ เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เลือดในกายก็พลุ่งพล่าน เธอเคยเป็นตำรวจสาวมาก่อน ความเก่งกาจด้านการต่อสู้ยังคงฝังแน่นอยู่ในสัญชาตญาณ เธอพุ่งตัวออกไป ยืนขวางหน้าคนเป็นแม่ พร้อมกั
"แม่คะ เดี๋ยวเราแต่งตัวไปข้างนอกกันเถอะ หนูว่าจะไปร้านขายผ้าด้วย หนูจะเลือกซื้อผ้ามาตัดเย็บชุดแบบนี้ค่ะ" หลิวซินเยว่พูดพลางหยิบชุดที่เธอเพิ่งตัดเย็บเสร็จมาสวม เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวแขนพอง จับคู่กับกระโปรงทรงเอสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องของเธออย่างลงตัว ยิ่งขับให้เธอดูโดดเด่นสะดุดตา ชุดดูทันสมัยผิดวิสัยสาวชาวบ้านทั่วไป ใครเห็นแล้วต้องเหลียวมอง"แม่ว่ายังไงบ้างคะ" เธอถามแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มหวาน"ก็ดีเหมือนกันนะ เยว่เยว่ ลูกแต่งตัวแบบนี้ดูสวยขึ้นเยอะเลย" ซูหลินแม่ของเธอตอบด้วยแววตาเอ็นดู "แต่ว่า...""แต่ว่าอะไรเหรอคะแม่""เอ่อ... คือว่า..." นางซูมีสีหน้าลำบากใจ "แม่ว่าชุดนี้มันดู... โดดเด่นเกินไปหน่อยหรือเปล่าลูก ชาวบ้านแถวนี้เขาไม่ค่อยแต่งตัวแบบนี้กัน"หลิวซินเยว่เข้าใจความกังวลของผู้เป็นแม่ดี ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้คนยังค่อนข้างอนุรักษนิยม การแต่งตัวที่ฉูดฉาดเกินไปอาจทำให้ถูกนินทาได้ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเรากำลังเปิดประเทศ ผู้คนก็ต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ หนูอยากลองนำเทรนด์ดูบ้าง"ซูหลินเห็นลูกสาวมุ่งมั่นเช่นนั้นก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย "เอาเถอะๆ แม่ตามใจลูกก็แ
หลังจากซื้อผ้าเสร็จ หลิวซินเยว่ก็เอ่ยขึ้น "แม่คะ เดี๋ยวแม่จ้างรถลากให้ไปส่งของที่บ้านของเรานะคะ หนูจะไปห้างสรรพสินค้าหน่อยค่ะ หนูกะไปซื้อเครื่องสำอาง กับให้ช่างตัดผมซอยผมให้ด้วยค่ะ"นางซูพยักหน้า "ไปเถอะลูก เดี๋ยวแม่ขนผ้าพวกนี้ไปเอง"เมื่อเห็นแม่ขึ้นรถลากไปแล้ว หลิวซินเยว่ก็เรียกรถลากอีกคันให้ไปส่งเธอที่ห้างสรรพสินค้า วันนี้เธอกะจะไปเปลี่ยนทรงผมให้ทันสมัยขึ้น ก่อนจะไปซื้อเครื่องสำอาง ‘วันนี้ละฉันจะปฏิวัติจากแม่สาวสุดเฉิ่มมาเป็นสาวสวยให้ดู’ หลิวซินเยว่คิดในใจเมื่อมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ใจกลางเมืองหญิงสาวจ่ายเงินก่อนจะลงจากรถลาก เธอสูดหายใจเข้าลึก สัมผัสบรรยากาศแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่แตกต่างจากยุคปัจจุบันที่เธอจากมาโดยสิ้นเชิงร้านตัดผมในห้างสรรพสินค้าตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ส่องประกายสะท้อนแสงไฟนีออนสีสันสดใส ช่างผมชายหนุ่มท่าทางทันสมัยกำลังวุ่นอยู่กับการเซ็ตผมให้ลูกค้าสาวสวย หลิวซินเยว่ตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านทันที"สวัสดีครับ คุณลูกค้าสนใจใช้บริการอะไรครับ" ช่างผมหนุ่มเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม"ฉันอยากตัดผมค่ะ" หลิวซินเยว่ตอบ "อยากได้ทรงผมที่ทันสมัยหน่อยค่ะ""คุณอยากได้ทรงผมแบบไ
ที่ห้องทำงานของนายพลหวังหย่งเจี๋ย บรรยากาศภายในห้องกลับเย็นเยียบราวกับพายุหิมะกำลังโหมกระหน่ำ ใบหน้าหล่อเหลาของท่านนายพลหนุ่ม บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไปยังลูกน้องสองคนที่ยืนตัวลีบอยู่ตรงหน้า"พวกแกหาหญิงสาวที่ออกจากบ้านฉันไปเมื่อวานนี้เจอแล้วหรือยัง" หวังหย่งเจี๋ยคำรามเสียงดังลั่น น้ำเสียงแข็งกร้าวราวกับฟ้าผ่า"ยังเลยครับ ท่านนายพล" ลูกน้องคนหนึ่งตอบเสียงสั่น "จากการสอบสวนยามหน้าหมู่บ้าน ไม่เจอผู้หญิงใส่ชุดแดงเดินออกมาจากในหมู่บ้านเลยครับ""ส่วนผมก็ไปหาข้อมูลที่ร้านอาหาร ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมา ท่านน่าจะออกตรงหลังร้าน ทำให้พวกยามที่หน้าร้านอาหารไม่เห็นครับว่าผู้หญิงที่ท่านลากกลับมาบ้านไปคือใคร""โถ่โว๊ย พวกแกไม่ได้เรื่องเลย" หวังหย่งเจี๋ยสบถออกมาอย่างหัวเสีย เขากำลังร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาพึงพอใจรสสัมผัสหญิงสาวคนนั้นเป็นอย่างมาก ไม่เคยมีใครทำให้ชายหนุ่มอิ่มเอมใจมาก่อน"แล้วท่านพอจะจำหน้าเธอได้ไหมครับ?เธอมีลักษณะเช่นไร?ผมจะได้ให้คนช่วยตามหาให้ครับ" ลูกน้องอีกคนถามอย่างระมัดระวังหวังหย่งเจี๋ยขมวดคิ้วแน่น ความทรงจำเมื่อคืนวูบไหวอยู่ในหัวสมองราว
หลิวซินเยว่สะดุ้งสุดตัวเมื่อแผ่นหลังบางแนบชิดกับกำแพงเย็นเฉียบ หวังหย่งเจี๋ยโน้มตัวเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมคายอยู่ห่างจากเธอเพียงคืบ ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับจะมองทะลุผ่านเข้าไปในใจ"ฉันถามว่าเธอชื่ออะไร" หวังหย่งเจี๋ยถามเสียงเข้ม น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยอำนาจ หลิวซินเยว่รู้สึกใจสั่นระรัว เธอพยายามรวบรวมสติ ไม่ยอมให้ความกลัวเข้าครอบงำ"ทำไมฉันต้องบอกชื่อให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักด้วย" เธอเน้นคำว่าไม่รู้จักเป็นพิเศษ ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่เกรงกลัว มองตรงไปยังชายหนุ่มตรงหน้าหวังหย่งเจี๋ยขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย เขาไม่คุ้นชินกับการถูกต่อต้านแบบนี้ โดยเฉพาะจากผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องเช่นนี้"นี่คุณถอยออกไปนะ ถ้าคุณไม่ออกไปฉันจะตะโกนบอกคนอื่นว่าถูกคุณลวนลาม" หลิวซินเยว่ตอบกลับเสียงแข็ง แม้ในใจจะหวาดกลัว แต่เธอก็พยายามแสดงออกถึงความเข้มแข็ง เธอพร้อมที่หนีจากคนร่างสูงเมื่อสบโอกาส"ลวนลาม?" หวังหย่งเจี๋ยทวนคำเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวอย่างพิจารณา "เธอคิดว่าฉันเป็นคนเช่นนั้น?""ก็ใครจะไปรู้ คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้" หลิวซินเยว่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย "ย
ร้านอาหารจีนในห้างสรรพสินค้าคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างพากันมาลิ้มรสอาหารเลิศรส ในมุมหนึ่งของร้าน หลิวซินเยว่ถูกหลี่เหมยฮัวลากมานั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัวของเธอและครอบครัวนายพลตัวร้ายโดยที่เธอปฏิเสธไม่ได้ หวังต้าเหล่ย ผู้เป็นพ่อของหวังหย่งเจี๋ยเอ่ยถามลูกสาวของเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย"หนูเหมยฮัว ไปเจอเจ้าหย่งเจี๋ยที่ไหนเหรอ"หลี่เหมยฮัวยิ้มกว้างก่อนตอบ "หนูไปเจอพี่หย่งเจี๋ยข้างนอกค่ะ"เฉินเฟยหง ผู้เป็นแม่ของหลี่เหมยฮัวมองไปยังหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ลูกสาวด้วยสายตาใคร่รู้ "แล้วนี่แม่หนูคนนี้คือใครเหรอ""คุณพ่อคุณแม่คะ นี่หลิวซินเยว่ เพื่อนของหนูเองค่ะ" หลี่เหมยฮัวแนะนำเพื่อนใหม่ให้พ่อแม่รู้จักด้วยความภาคภูมิใจ"เธอเก่งมากเลยนะคะ เธอเคยฝึกการต่อสู้มาก่อนด้วย เธอช่วยหนูจับโจรที่มาขโมยกระเป๋าของหนูค่ะ" ดวงตาของหลี่เหมยฮัวเป็นประกายขณะเล่าเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นเฉินเฟยหงและหลี่เจี้ยนจวิน หันไปมองหลิวซินเยว่ด้วยความประหลาดใจปนชื่นชม หวังต้าเหล่ยเองก็มองหลิวซินเยว่ด้วยความสนใจ"คุณลุงคุณป้าค่ะพี่หย่งเจี๋ยทำนิสัยไม่ดี ทำเจ้าชู้ใส่เพื่อนหนูด้วยค่ะ" หลี่เหมยฮัวได้ทีก็ฟ้องทันที เธอซบหน้าลงกับไหล่ขอ
หลังเลิกเรียนในตอนเย็น หลิวซินเยว่เก็บหนังสือใส่กระเป๋า วันนี้เป็นอีกวันที่เธอต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในยุคนี้ ดีที่เธอยังมีความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างเดิมหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงใช้ชีวิตในยุคนี้ได้อย่างยากลำบากเพราะแต่ละวิชาในคณะแพทย์นั้นยากมาก ความรู้ที่ติดตัวมาทำให้เธอเรียนได้อย่างสบายๆ อีกเพียงปีเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว และเทอมหน้าก็ต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาลตอนนี้เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปที่โรงพยาบาลที่ไหนดีในขณะที่เธอกำลังเก็บข้าวของทันใดนั้น เสียงใสๆ ของจางเสี่ยวหลานเพื่อนสนิทของเธอก็ดังขึ้น"เยว่เยว่ เธอไปทำอะไรมานี่ ทำไมดูสวยขึ้น?" จางเสี่ยวหลานเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตจ้องมองหลิวซินเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับจะสแกนหาความเปลี่ยนแปลงหลิวซินเยว่ยิ้มให้เพื่อนสนิท "ฉันก็แค่ไปเปลี่ยนทรงผมกับลองแต่งหน้าดูเท่านั้นแหละ""จริงเหรอ แค่นั้นเองเหรอ" จางเสี่ยวหลานหรี่ตามอง "หรือว่าเธอมีความรักหรือเปล่าถึงได้หันมาดูแลตัวเองแบบนี้" น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความสงสัยใคร่รู้"บ้า ไม่มีหรอก ฉันก็แค่อยากสวยเฉยๆ" หลิวซินเยว่รีบปฏิเสธ แก้มใสขึ้นสีระเรื่อจางเสี่ยวหลานยิ้มกริ่ม "เย
เช้าวันต่อมารถจี๊ปทหารคันใหญ่ก็แล่นมาจอดหน้าร้านตัดเย็บซูหลินเล็กๆ ในตลาดหรงเหมย หวังหย่งเจี๋ยในชุดเครื่องแบบนายพลก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าคมคายดูสง่าผ่าเผย เขามองเข้าไปในร้าน เห็นเพียงหญิงวัยกลางคนกำลังนั่งเย็บเสื้อผ้าอยู่ แต่ไม่เห็นวี่แววของหญิงสาวร่างบางที่เขาเจอเมื่อวานภายในร้านดูเรียบร้อยสะอาดตา ผิดกับภายนอกที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน หวังหย่งเจี๋ย มองไปรอบๆ ก่อนจะเอ่ยทักขึ้น"สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือเจ้าของร้านตัดเย็บแห่งนี้ใช่ไหมครับซูหลินเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า "ใช่แล้วค่ะ ฉันชื่อซูหลินเป็นเจ้าของร้านตัดเย็บแห่งนี้ค่ะ ท่านนายพลต้องการอะไรคะ" แววตาของหล่อนฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเครื่องแบบทหารบนตัวเขา"ผมต้องการสั่งตัดชุดทหารครับ" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "ไม่ทราบว่าที่ร้านมีพนักงานคนอื่นอีกไหมครับ พอดีผมต้องการสั่งตัดหลายชุด" สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ร้าน"ที่ร้านแห่งนี้มีฉันเพียงแค่คนเพียงคนเดียวค่ะ" นางซูหลินตอบ "ปกติจะมีลูกสาวมาช่วยด้วย แต่วันนี้เธอมีเรียนค่ะ น่าจะกลับช่วงเย็นๆ โน่นแหละค่ะ""อ้อ" หวังหย่งเจี๋ย รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย "งั้นผมจะสั่งตัดชุดทหาร สัก 7 ชุด นะครับ ถ
หลังจากที่เธอเพิ่งได้จักรเย็บผ้าจากป้าเจียงมา งานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผ้าหลากสีสันถูกตัดเย็บอย่างประณีตบรรจง ตอนนี้เธอกับแม่ตัดเย็บชุดเสร็จไปได้เกือบ 10 ชุดแล้ว แต่ละชุดล้วนมีดีไซน์ที่ทันสมัย ต่างจากเสื้อผ้าแบบเดิมๆ ที่มีขายทั่วไปในตลาดขณะที่หลินซินเยว่กำลังเย็บชายกระโปรงชุดสีแดงสดอยู่นั้น เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน "ขอโทษนะคะ ร้านตัดเย็บซูหลินอยู่นี่หรือเปล่าคะ"ซินเยว่วางมือจากงานตรงหน้า รีบเดินออกไปต้อนรับ ทันทีที่เปิดประตู รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า "เหมยฮัว"หลี่เหมยฮัว อยู่ในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีฟ้า ยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน"เยว่เยว่ บ้านของเธอหลังนี้นี่เอง""ใช่แล้ว เข้ามาสิ" หลิวซินเยว่ผายมือเชื้อเชิญ "บ้านฉันแคบหน่อยนะ" เธอกล่าวพลางเดินนำหลี่เหมยฮัวเข้าไปในบ้านภายในบ้าน นางซูหลิน ผู้เป็นแม่ กำลังนั่งเย็บกระดุมเสื้ออยู่ หลิวซินเยว่รินน้ำชาใส่แก้ว แล้วยื่นให้หลี่เหมยฮัว "เหมยฮัว นี่แม่ฉัน เธอชื่อซูหลิน" หญิงสาวเอ่ยแนะนำ "ชุดพวกนี้ ฉันกับแม่ช่วยกันตัดเย็บเอง" หลิวซินเยว่ชี้นิ้วไปยังเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลากสีที่แขวนเรียงรายอยู่บนราวหลี่เหมยฮัวมองชุดเหล่านั้นด้
หลังจากมื้ออาหารอันสุดแสนจะทรมานจบลง หลิวซินเยว่เอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ"ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ อาหารอร่อยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ"หลี่เหมยฮัวมองตามด้วยแววตาเป็นห่วง "เยว่เยว่ จะให้ฉันไปส่งที่บ้านไหม""ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันกลับเองได้" หลิวซินเยว่ปฏิเสธอย่างสุภาพ"งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอที่บ้านนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นหลิวซินเยว่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าหวังต้าเหล่ยและจ้าวหรูอี้ผู้เป็นพ่อแม่ของคุณตัวร้าย "คุณลุงคุณป้าหนูขอลาก่อนค่ะ" เธอโค้งศีรษะเล็กน้อยให้กับทั้งสอง ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นเฉินเฟยหงและหลี่เจี้ยนจวินที่นั่งอยู่ไม่ไกล "ลาก่อนค่ะ คุณลุง คุณป้า" เธอเอ่ยลาอย่างมีมารยาทจ้าวหรูอี้มองหลิวซินเยว่ด้วยสายตาเอ็นดู "เยว่เยว่ ไปเที่ยวที่บ้านป้าต่อไหมจ๊ะ บ้านของป้าติดกับบ้านของหนูเหมยฮัว" เธอเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นหลิวซินเยว่ส่งยิ้มบางๆ ให้กับคุณนายหวัง "ขอบคุณคุณป้าที่เอ็นดูหนูนะคะ แต่พอดีหนูมีธุระต้องไปทำต่อ" เธอปฏิเสธอย่างนุ่มนวล"แล้วหนูจะไปธุระที่ไหนต่อหรือ" จ้าวหรูอี้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง แม้จะเพิ่งพบหลิวซินเยว่เป็นครั้งแรก แต่เธ
ร้านอาหารจีนในห้างสรรพสินค้าคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างพากันมาลิ้มรสอาหารเลิศรส ในมุมหนึ่งของร้าน หลิวซินเยว่ถูกหลี่เหมยฮัวลากมานั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัวของเธอและครอบครัวนายพลตัวร้ายโดยที่เธอปฏิเสธไม่ได้ หวังต้าเหล่ย ผู้เป็นพ่อของหวังหย่งเจี๋ยเอ่ยถามลูกสาวของเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย"หนูเหมยฮัว ไปเจอเจ้าหย่งเจี๋ยที่ไหนเหรอ"หลี่เหมยฮัวยิ้มกว้างก่อนตอบ "หนูไปเจอพี่หย่งเจี๋ยข้างนอกค่ะ"เฉินเฟยหง ผู้เป็นแม่ของหลี่เหมยฮัวมองไปยังหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ลูกสาวด้วยสายตาใคร่รู้ "แล้วนี่แม่หนูคนนี้คือใครเหรอ""คุณพ่อคุณแม่คะ นี่หลิวซินเยว่ เพื่อนของหนูเองค่ะ" หลี่เหมยฮัวแนะนำเพื่อนใหม่ให้พ่อแม่รู้จักด้วยความภาคภูมิใจ"เธอเก่งมากเลยนะคะ เธอเคยฝึกการต่อสู้มาก่อนด้วย เธอช่วยหนูจับโจรที่มาขโมยกระเป๋าของหนูค่ะ" ดวงตาของหลี่เหมยฮัวเป็นประกายขณะเล่าเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นเฉินเฟยหงและหลี่เจี้ยนจวิน หันไปมองหลิวซินเยว่ด้วยความประหลาดใจปนชื่นชม หวังต้าเหล่ยเองก็มองหลิวซินเยว่ด้วยความสนใจ"คุณลุงคุณป้าค่ะพี่หย่งเจี๋ยทำนิสัยไม่ดี ทำเจ้าชู้ใส่เพื่อนหนูด้วยค่ะ" หลี่เหมยฮัวได้ทีก็ฟ้องทันที เธอซบหน้าลงกับไหล่ขอ
หลิวซินเยว่สะดุ้งสุดตัวเมื่อแผ่นหลังบางแนบชิดกับกำแพงเย็นเฉียบ หวังหย่งเจี๋ยโน้มตัวเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมคายอยู่ห่างจากเธอเพียงคืบ ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับจะมองทะลุผ่านเข้าไปในใจ"ฉันถามว่าเธอชื่ออะไร" หวังหย่งเจี๋ยถามเสียงเข้ม น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยอำนาจ หลิวซินเยว่รู้สึกใจสั่นระรัว เธอพยายามรวบรวมสติ ไม่ยอมให้ความกลัวเข้าครอบงำ"ทำไมฉันต้องบอกชื่อให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักด้วย" เธอเน้นคำว่าไม่รู้จักเป็นพิเศษ ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่เกรงกลัว มองตรงไปยังชายหนุ่มตรงหน้าหวังหย่งเจี๋ยขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย เขาไม่คุ้นชินกับการถูกต่อต้านแบบนี้ โดยเฉพาะจากผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องเช่นนี้"นี่คุณถอยออกไปนะ ถ้าคุณไม่ออกไปฉันจะตะโกนบอกคนอื่นว่าถูกคุณลวนลาม" หลิวซินเยว่ตอบกลับเสียงแข็ง แม้ในใจจะหวาดกลัว แต่เธอก็พยายามแสดงออกถึงความเข้มแข็ง เธอพร้อมที่หนีจากคนร่างสูงเมื่อสบโอกาส"ลวนลาม?" หวังหย่งเจี๋ยทวนคำเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวอย่างพิจารณา "เธอคิดว่าฉันเป็นคนเช่นนั้น?""ก็ใครจะไปรู้ คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้" หลิวซินเยว่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย "ย
ที่ห้องทำงานของนายพลหวังหย่งเจี๋ย บรรยากาศภายในห้องกลับเย็นเยียบราวกับพายุหิมะกำลังโหมกระหน่ำ ใบหน้าหล่อเหลาของท่านนายพลหนุ่ม บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไปยังลูกน้องสองคนที่ยืนตัวลีบอยู่ตรงหน้า"พวกแกหาหญิงสาวที่ออกจากบ้านฉันไปเมื่อวานนี้เจอแล้วหรือยัง" หวังหย่งเจี๋ยคำรามเสียงดังลั่น น้ำเสียงแข็งกร้าวราวกับฟ้าผ่า"ยังเลยครับ ท่านนายพล" ลูกน้องคนหนึ่งตอบเสียงสั่น "จากการสอบสวนยามหน้าหมู่บ้าน ไม่เจอผู้หญิงใส่ชุดแดงเดินออกมาจากในหมู่บ้านเลยครับ""ส่วนผมก็ไปหาข้อมูลที่ร้านอาหาร ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมา ท่านน่าจะออกตรงหลังร้าน ทำให้พวกยามที่หน้าร้านอาหารไม่เห็นครับว่าผู้หญิงที่ท่านลากกลับมาบ้านไปคือใคร""โถ่โว๊ย พวกแกไม่ได้เรื่องเลย" หวังหย่งเจี๋ยสบถออกมาอย่างหัวเสีย เขากำลังร้อนใจเป็นอย่างมาก เขาพึงพอใจรสสัมผัสหญิงสาวคนนั้นเป็นอย่างมาก ไม่เคยมีใครทำให้ชายหนุ่มอิ่มเอมใจมาก่อน"แล้วท่านพอจะจำหน้าเธอได้ไหมครับ?เธอมีลักษณะเช่นไร?ผมจะได้ให้คนช่วยตามหาให้ครับ" ลูกน้องอีกคนถามอย่างระมัดระวังหวังหย่งเจี๋ยขมวดคิ้วแน่น ความทรงจำเมื่อคืนวูบไหวอยู่ในหัวสมองราว
หลังจากซื้อผ้าเสร็จ หลิวซินเยว่ก็เอ่ยขึ้น "แม่คะ เดี๋ยวแม่จ้างรถลากให้ไปส่งของที่บ้านของเรานะคะ หนูจะไปห้างสรรพสินค้าหน่อยค่ะ หนูกะไปซื้อเครื่องสำอาง กับให้ช่างตัดผมซอยผมให้ด้วยค่ะ"นางซูพยักหน้า "ไปเถอะลูก เดี๋ยวแม่ขนผ้าพวกนี้ไปเอง"เมื่อเห็นแม่ขึ้นรถลากไปแล้ว หลิวซินเยว่ก็เรียกรถลากอีกคันให้ไปส่งเธอที่ห้างสรรพสินค้า วันนี้เธอกะจะไปเปลี่ยนทรงผมให้ทันสมัยขึ้น ก่อนจะไปซื้อเครื่องสำอาง ‘วันนี้ละฉันจะปฏิวัติจากแม่สาวสุดเฉิ่มมาเป็นสาวสวยให้ดู’ หลิวซินเยว่คิดในใจเมื่อมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ใจกลางเมืองหญิงสาวจ่ายเงินก่อนจะลงจากรถลาก เธอสูดหายใจเข้าลึก สัมผัสบรรยากาศแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่แตกต่างจากยุคปัจจุบันที่เธอจากมาโดยสิ้นเชิงร้านตัดผมในห้างสรรพสินค้าตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ส่องประกายสะท้อนแสงไฟนีออนสีสันสดใส ช่างผมชายหนุ่มท่าทางทันสมัยกำลังวุ่นอยู่กับการเซ็ตผมให้ลูกค้าสาวสวย หลิวซินเยว่ตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านทันที"สวัสดีครับ คุณลูกค้าสนใจใช้บริการอะไรครับ" ช่างผมหนุ่มเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม"ฉันอยากตัดผมค่ะ" หลิวซินเยว่ตอบ "อยากได้ทรงผมที่ทันสมัยหน่อยค่ะ""คุณอยากได้ทรงผมแบบไ
"แม่คะ เดี๋ยวเราแต่งตัวไปข้างนอกกันเถอะ หนูว่าจะไปร้านขายผ้าด้วย หนูจะเลือกซื้อผ้ามาตัดเย็บชุดแบบนี้ค่ะ" หลิวซินเยว่พูดพลางหยิบชุดที่เธอเพิ่งตัดเย็บเสร็จมาสวม เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวแขนพอง จับคู่กับกระโปรงทรงเอสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องของเธออย่างลงตัว ยิ่งขับให้เธอดูโดดเด่นสะดุดตา ชุดดูทันสมัยผิดวิสัยสาวชาวบ้านทั่วไป ใครเห็นแล้วต้องเหลียวมอง"แม่ว่ายังไงบ้างคะ" เธอถามแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มหวาน"ก็ดีเหมือนกันนะ เยว่เยว่ ลูกแต่งตัวแบบนี้ดูสวยขึ้นเยอะเลย" ซูหลินแม่ของเธอตอบด้วยแววตาเอ็นดู "แต่ว่า...""แต่ว่าอะไรเหรอคะแม่""เอ่อ... คือว่า..." นางซูมีสีหน้าลำบากใจ "แม่ว่าชุดนี้มันดู... โดดเด่นเกินไปหน่อยหรือเปล่าลูก ชาวบ้านแถวนี้เขาไม่ค่อยแต่งตัวแบบนี้กัน"หลิวซินเยว่เข้าใจความกังวลของผู้เป็นแม่ดี ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้คนยังค่อนข้างอนุรักษนิยม การแต่งตัวที่ฉูดฉาดเกินไปอาจทำให้ถูกนินทาได้ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเรากำลังเปิดประเทศ ผู้คนก็ต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ หนูอยากลองนำเทรนด์ดูบ้าง"ซูหลินเห็นลูกสาวมุ่งมั่นเช่นนั้นก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย "เอาเถอะๆ แม่ตามใจลูกก็แ