ร้านอาหารจีนในห้างสรรพสินค้าคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างพากันมาลิ้มรสอาหารเลิศรส ในมุมหนึ่งของร้าน หลิวซินเยว่ถูกหลี่เหมยฮัวลากมานั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัวของเธอและครอบครัวนายพลตัวร้ายโดยที่เธอปฏิเสธไม่ได้ หวังต้าเหล่ย ผู้เป็นพ่อของหวังหย่งเจี๋ยเอ่ยถามลูกสาวของเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย
"หนูเหมยฮัว ไปเจอเจ้าหย่งเจี๋ยที่ไหนเหรอ"
หลี่เหมยฮัวยิ้มกว้างก่อนตอบ "หนูไปเจอพี่หย่งเจี๋ยข้างนอกค่ะ"
เฉินเฟยหง ผู้เป็นแม่ของหลี่เหมยฮัวมองไปยังหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ลูกสาวด้วยสายตาใคร่รู้ "แล้วนี่แม่หนูคนนี้คือใครเหรอ"
"คุณพ่อคุณแม่คะ นี่หลิวซินเยว่ เพื่อนของหนูเองค่ะ" หลี่เหมยฮัวแนะนำเพื่อนใหม่ให้พ่อแม่รู้จักด้วยความภาคภูมิใจ
"เธอเก่งมากเลยนะคะ เธอเคยฝึกการต่อสู้มาก่อนด้วย เธอช่วยหนูจับโจรที่มาขโมยกระเป๋าของหนูค่ะ" ดวงตาของหลี่เหมยฮัวเป็นประกายขณะเล่าเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น
เฉินเฟยหงและหลี่เจี้ยนจวิน หันไปมองหลิวซินเยว่ด้วยความประหลาดใจปนชื่นชม หวังต้าเหล่ยเองก็มองหลิวซินเยว่ด้วยความสนใจ
"คุณลุงคุณป้าค่ะพี่หย่งเจี๋ยทำนิสัยไม่ดี ทำเจ้าชู้ใส่เพื่อนหนูด้วยค่ะ" หลี่เหมยฮัวได้ทีก็ฟ้องทันที เธอซบหน้าลงกับไหล่ของจ้าวหรูอี้ อย่างออดอ้อน
หลิวซินเยว่เมื่อได้ยินในสิ่งที่คุณนางเอกเอ่ยเธอละอยากจับคุณนางเอกมาเขย่าเสียจริงๆ สร้างเรื่องให้กับเธออีกแล้ว
จ้าวหรูอี้ลูบหัวหลี่เหมยฮัวเบาๆ อย่างปลอบประโลม พลางปรายตามองลูกชายคนโตอย่างไม่ไว้ใจ "หย่งเจี๋ย จริงอย่างที่น้องว่าหรือเปล่า"
หวังหย่งเจี๋ยถึงกับตาเหลือก "โธ่ คุณแม่ครับ อย่าไปฟังยายตัวแสบพูดเลยครับ ผมแค่ถามชื่อเพื่อนของเหมยฮัวเฉยๆ " หวังหย่งเจี๋ยรีบแก้ตัว พลางส่งสายตาอ้อนวอนไปทางบิดา หวังว่าท่านจะช่วยพูดให้
"หย่งเจี๋ย อย่ามาทำเป็นไขสือ แม่ของแกรู้จักนิสัยแกดี แกเจ้าชู้จะตาย เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น" หวังต้าเหล่ย เอ็ดลูกชาย "ถ้าแกทำแบบนั้นกับเพื่อนของเหมยฮัวจริง พ่อจะตีแกให้หลังลายเลย"
หลิวซินเยว่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เธอเลยเอ่ยแก้ตัวให้นายพลหนุ่ม
"คุณลุงคุณป้าคะ หนูขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดค่ะ คือเมื่อกี้หนูเดินไม่ระวังไปชนคุณหวังเข้าพอดี ตอนนั้นคุณหวังดูจะโมโหหนูมาก หนูก็แค่หวาดกลัวตกใจไปเองเท่านั้นค่ะ เลยเผลอฟ้องเหมยฮัวว่าหนูถูกลวนลาม " หลิวซินเยว่พูดอย่างใจเย็น พลางเหลือบมองหวังหย่งเจี๋ยเป็นเชิงข่มขู่ ‘ถ้าไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากก็พูดตามที่เธอบอกซะ’
หวังหย่งเจี๋ยมองหลิวซินเยว่ด้วยสายตาเรียบเฉย เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าปฏิเสธเขาต่อหน้าคนอื่น ทั้งที่เมื่อครู่เธอยังทำท่าทางหวาดกลัวเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับทำท่ารังเกียจเขา
"คุณหวังคะ ช่วยอธิบายให้คุณลุงคุณป้าฟังหน่อยสิคะ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง" หลิวซินเยว่หันไปพูดกับหวังหย่งเจี๋ย เธออยากจะจบเรื่องวุ่นวายนี้โดยเร็ว ไม่อยากให้พ่อแม่ของตัวร้ายต้องมารับผิดชอบตัวเธอ
หวังหย่งเจี๋ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองหลิวซินเยว่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะหันไปยิ้มให้หวังผู้เป็นพ่อและแม่
"พ่อครับ แม่ครับ เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิดนะครับ ผมก็แค่..." เขาเว้นช่วงไปเล็กน้อย เหลือบมองหลิวซินเยว่ที่นั่งกอดอกมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
"ผมแค่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น อยากจะจีบเธอให้มาเป็นลูกสะใภ้ของพ่อกับแม่ ก็เท่านั้นครับ"
หลิวซินเยว่เมื่อได้ยินที่คุณตัวร้ายเอ่ยเธอเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ที่เขาพูดว่าอยากจีบเธอให้มาเป็นลูกสะใภ้ ต่อหน้าพ่อแม่ของเขา และคนที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แบบนี้เนี่ยนะ?
หลิวซินเยว่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ในใจรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่เข้าใจว่านายพลตัวร้ายกำลังเล่นละครอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือ เธอไม่อยากเข้าไปพัวพันกับครอบครัวนี้ ยิ่งเห็นสายตาของจ้าวหรูอี้ที่มองเธอราวกับสมบัติล้ำค่า ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัว
ทั้งสองสามีภรรยามองมาที่เธอด้วยสายตาแวววับ ราวกับว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ที่เพิ่งผ่านการต้อนรับเข้าบ้านสามีไปหมาดๆ
"คือ...คุณป้าคะ หนูกับคุณหวัง..."
"เรียกป้าว่าแม่สิจ๊ะ" จ้าวหรูอี้ยิ้มหวาน "ในเมื่อลูกชายป้าชอบหนู ป้าก็อยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้เหมือนกัน"
หลิวซินเยว่หน้าซีดเผือด เธอจะปฏิเสธยังไงดี ในใจภาวนาให้หวังหย่งเจี๋ยพูดความจริงออกมาเสียที เธอเหลือบไปมองตัวการร้ายอย่างเขาที่จ้องมองดูเธออย่างขบขัน
"เอ่อ...คือ..." หลิวซินเยว่พูดตะกุกตะกัก "จริงๆ แล้ว..."
หวังหย่งเจี๋ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "จริงๆ แล้วอะไรหรือครับ เยว่เยว่" เขาจงใจเน้นชื่อเธอ พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้
หลิวซินเยว่ทำหน้าเขียวปัดใส่นายพลตัวร้าย ก่อนจะหันไปหาจ้าวหรูอี้ "คือ...หนูกับคุณหวัง เราไม่ได้..."
"แม่เข้าใจจ้ะ" จ้าวหรูอียิ้มอย่างรู้ทัน "หนุ่มสาวสมัยนี้เขาก็แบบนี้แหละ อายที่จะพูด ไม่เป็นไรจ๊ะ แม่ไม่ถือ"
หลิวซินเยว่แทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพง สถานการณ์มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว เธอต้องรีบหาทางแก้ไขก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปกว่านี้
"ไม่ได้อะไรหรือ?น้องอายเหรอที่พี่บอกพ่อกับแม่ว่าพี่ว่าชอบเธอ? " หวังหย่งเจี๋ยเอ่ยขัดขึ้น น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "ไม่ต้องอายหรอกน่า ลองมาคบกับพี่ดูสิจะได้รู้ว่าพี่จริงใจกับเราแค่ไหน"
หลิวซินเยว่กำมือแน่น อยากจะตวาดใส่หน้าเขาสักทีว่า 'ใครจะบ้าไปคบกับคนอย่างคุณ' แต่ก็ต้องอดทนไว้ เธอไม่อยากทำให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ "คุณหวังคะ ฉันว่าคุณควรจะหยุดพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้วนะคะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ฉันไม่ได้ชอบคุณ และฉันก็พึ่งเจอคุณ"
คำพูดของหลิวซินเยว่ทำให้หวังหย่งเจี๋ยถึงกับชะงัก เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดจาแบบนี้กับเขา
"เธอ..." ชายหนุ่มกัดฟันกรอดความโกรธแล่นลิ้วขึ้นมา
"หย่งเจี๋ย ลูกพูดอะไรออกไปน่ะ" จ้าวหรูอี้รีบปรามลูกชาย "ทำไมพูดจาไม่น่ารักแบบนี้ล่ะ ดูสิ น้องเขาตกใจหมดแล้ว จะจีบน้องเขาก็จีบดีๆอย่ามาข่มขู่" ว่าแล้วก็หันมายิ้มหวานให้หลิวซินเยว่ "หนูเยว่เยว่อย่าถือสาคำพูดของลูกชายป้านะ มันปากเสียไปหน่อย"
หลิวซินเยว่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการปล่อยเลยตามเลย "ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า"
"ป้าว่าหนูเยว่เยว่คงหิวแล้วล่ะ ไปๆ เรารีบไปกินข้าวกันดีกว่า" ว่าแล้วก็คว้ามือหลิวซินเยว่ ดึงเธอไปนั่งใกล้ๆ ตัวเธอ ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย
หลิวซินเยว่ได้แต่มองตามแผ่นหลังของคุณนายหวังด้วยความรู้สึกเซ็งๆ ดูท่าทางแล้ว ครอบครัวนี้คงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารน่ารับประทาน แต่ร่างบางกลับรู้สึกไม่อยากทานเธอรู้สึกอึดอัดกับสายตาของนายพลตัวร้ายที่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเธอกลายเป็นเหยื่อที่พร้อมจะถูกเขากลืนกิน
"หนูเยว่เยว่ ลองชิมปลาตัวนี้สิ ร้านนี้กับข้าวอร่อยมาก" หวังต้าเหล่ยผู้เป็นพ่อของคุณตัวร้ายตักปลาใส่จานของหลิวซินเยว่อย่างกระตือรือร้น "อร่อยมากเลยนะ รับรองว่าหนูต้องชอบ"
หลิวซินเยว่มองปลาในจาน กลิ่นหอมของเครื่องเทศและน้ำมันงาโชยเตะจมูก แต่ความรู้สึกอึดอัดในใจทำให้เธอแทบไม่รู้สึกอยากอาหาร ฝืนยิ้มบางๆ ให้หวังต้าเหล่ย "ขอบคุณค่ะคุณลุง" เธอค่อยๆ ตักปลาเข้าปาก พยายามเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งที่ในใจกำลังคิดหาทางเลี่ยง
"เยว่เยว่ทานนี่สิ อร่อยมากนะ"หลี่เหมยฮัวตักอาหารให้ผู้มีพระคุณอย่างเอาใจ เธอยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีโดยไม่รู้เลยว่าเธอเป็นตัวการทำให้ หลิวซินเยว่ลำบากใจมากแค่ไหน
หลิวซินเยว่ถอนหายใจในใจ วันนี้เธอน่าจะเคราะห์ร้ายเสียจริง ที่บังเอิญได้มาเจอทั้งนางเอกและตัวร้ายในนิยาย ที่สำคัญเธอไม่คิดเลยว่าตัวประกอบแบบเธอยังต้องมานั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอีก หลิวซินเยว่ได้แต่ภาวนาให้มื้ออาหารนี้จบลงโดยเร็ว
"ขอบคุณนะเหมยฮัว เธอไม่ต้องตักให้ฉันหรอกฉันทานไม่ค่อยเก่งค่ะ กลัวจะทานไม่หมด เสียดายของ" เธอแก้ตัวไปอย่างนั้น
หลี่เหมยฮัวดูจะไม่ติดใจอะไร เธอยิ้มหวานพลางตักอาหารให้พ่อแม่ของหวังหย่งเจี๋ยต่อ "คุณลุง คุณป้า ทานเยอะๆ นะคะ อาหารร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสด อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ"
"ขอบใจหนูเหมยฮัว" แม่ของหวังหย่งเจี๋ยเอ่ยรับด้วยสีหน้ายินดี "หนูเหมยฮัวนี่น่ารักจริงๆ นะป้าอยากได้ลูกสาวน่ารักๆ แบบนี้"
เธอหันไปมองหลิวซินเยว่ “หนูเยว่เยว่ก็น่ารักเหมือนกัน แต่ดูเงียบๆ ไปหน่อยนะลูก”
หลิวซินเยว่ยิ้มแห้งๆ “คือนอกจากเหมยฮัวแล้วหนูก็ไม่รู้จักกับใครเลยไม่รู้จะพูดยังไงคะ” เธอแก้ตัว ในใจภาวนาให้พ่อแม่ของหวังหย่งเจี๋ยเลิกจับคู่เธอให้กับลูกชายตัวร้ายของพวกเขาสักที
หวังหย่งเจี๋ยตวัดสายตาอันคมกริบมองมาที่หลิวซินเยว่แวบหนึ่ง ก่อนจะตักอาหารใส่จานของเธออีกครั้ง "เยว่เยว่ ก็กินเยอะๆ หน่อยสิ ตัวผอมหมดแล้วนะ"
หลิวซินเยว่แทบสำลัก "ผอม? " เธอเหลือบมองรูปร่างตัวเองในกระจกเงาของร้านอาหาร แม้จะไม่ได้อวบอัด แต่ก็ไม่ได้ผอมบางอย่างที่หวังหย่งเจี๋ยว่า หรือสายตาของคนยุคนี้มองว่าผู้หญิงต้องอ้วนท้วนถึงจะดูดี?
"ใช่" หวังหย่งเจี๋ยยืนยันเสียงหนักแน่น "ต้องกินเยอะๆ จะได้มีแรง..." ริมฝีปากของเขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
หลิวซินเยว่ขนลุกซู่ แววตาเจ้าเล่ห์ของหวังหย่งเจี๋ยทำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ในนิยายที่เธออ่าน หวังหย่งเจี๋ยเป็นตัวร้ายที่โหดเหี้ยม นอกจากนางเอกแล้วฮีร้ายกับทุกคน หลิวซินเยว่ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะต้องมาเจอกับคนแบบนี้ตัวเป็นๆ
"เอ่อ...คือ..." หญิงสาวกำลังหาทางปฏิเสธ แต่ก็ถูกเสียงใสๆ ของหลี่เหมยฮัวขัดขึ้นเสียก่อน
"เยว่เยว่เธอไม่ชอบอาหารพวกนี้เหรอ ทำไมทานได้น้อยจัง?ถ้าอย่างนั้นฉันจะสั่ง..."
"เปล่า ฉันชอบมาก เพียงแต่ฉันกินได้ไม่เยอะนะ" หลิวซินเยว่รีบตอบ เธอไม่อยากให้นางเอกสั่งอาหารให้เธอเพิ่มอีก นางเอกเรื่องนี้ช่างใสซื่อเกินไปแล้วมิน่าล่ะตัวร้ายจีบยังไงเธอก็ไม่เคยรับรู้ หลิวซินเยว่จึงจำใจตักอาหารเข้าปาก พยายามฝืนกลืนลงคออย่างยากลำบาก
"อร่อยไหม? " หวังหย่งเจี๋ยถาม ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วางตา
"อืม...อร่อยค่ะ" หลิวซินเยว่กัดฟันตอบ เธอรู้สึกอึดอัดกับสายตาของชายหนุ่ม เธออยากจะหนีไปให้พ้นๆ
'นี่มันไม่ใช่มื้ออาหาร แต่มันคือฝันร้ายชัดๆ' หลิวซินเยว่ได้แต่คร่ำครวญในใจ
หลังจากมื้ออาหารอันสุดแสนจะทรมานจบลง หลิวซินเยว่เอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ"ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ อาหารอร่อยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ"หลี่เหมยฮัวมองตามด้วยแววตาเป็นห่วง "เยว่เยว่ จะให้ฉันไปส่งที่บ้านไหม""ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันกลับเองได้" หลิวซินเยว่ปฏิเสธอย่างสุภาพ"งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอที่บ้านนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นหลิวซินเยว่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าหวังต้าเหล่ยและจ้าวหรูอี้ผู้เป็นพ่อแม่ของคุณตัวร้าย "คุณลุงคุณป้าหนูขอลาก่อนค่ะ" เธอโค้งศีรษะเล็กน้อยให้กับทั้งสอง ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นเฉินเฟยหงและหลี่เจี้ยนจวินที่นั่งอยู่ไม่ไกล "ลาก่อนค่ะ คุณลุง คุณป้า" เธอเอ่ยลาอย่างมีมารยาทจ้าวหรูอี้มองหลิวซินเยว่ด้วยสายตาเอ็นดู "เยว่เยว่ ไปเที่ยวที่บ้านป้าต่อไหมจ๊ะ บ้านของป้าติดกับบ้านของหนูเหมยฮัว" เธอเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นหลิวซินเยว่ส่งยิ้มบางๆ ให้กับคุณนายหวัง "ขอบคุณคุณป้าที่เอ็นดูหนูนะคะ แต่พอดีหนูมีธุระต้องไปทำต่อ" เธอปฏิเสธอย่างนุ่มนวล"แล้วหนูจะไปธุระที่ไหนต่อหรือ" จ้าวหรูอี้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง แม้จะเพิ่งพบหลิวซินเยว่เป็นครั้งแรก แต่เธ
หลังจากที่เธอเพิ่งได้จักรเย็บผ้าจากป้าเจียงมา งานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผ้าหลากสีสันถูกตัดเย็บอย่างประณีตบรรจง ตอนนี้เธอกับแม่ตัดเย็บชุดเสร็จไปได้เกือบ 10 ชุดแล้ว แต่ละชุดล้วนมีดีไซน์ที่ทันสมัย ต่างจากเสื้อผ้าแบบเดิมๆ ที่มีขายทั่วไปในตลาดขณะที่หลินซินเยว่กำลังเย็บชายกระโปรงชุดสีแดงสดอยู่นั้น เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน "ขอโทษนะคะ ร้านตัดเย็บซูหลินอยู่นี่หรือเปล่าคะ"ซินเยว่วางมือจากงานตรงหน้า รีบเดินออกไปต้อนรับ ทันทีที่เปิดประตู รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า "เหมยฮัว"หลี่เหมยฮัว อยู่ในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีฟ้า ยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน"เยว่เยว่ บ้านของเธอหลังนี้นี่เอง""ใช่แล้ว เข้ามาสิ" หลิวซินเยว่ผายมือเชื้อเชิญ "บ้านฉันแคบหน่อยนะ" เธอกล่าวพลางเดินนำหลี่เหมยฮัวเข้าไปในบ้านภายในบ้าน นางซูหลิน ผู้เป็นแม่ กำลังนั่งเย็บกระดุมเสื้ออยู่ หลิวซินเยว่รินน้ำชาใส่แก้ว แล้วยื่นให้หลี่เหมยฮัว "เหมยฮัว นี่แม่ฉัน เธอชื่อซูหลิน" หญิงสาวเอ่ยแนะนำ "ชุดพวกนี้ ฉันกับแม่ช่วยกันตัดเย็บเอง" หลิวซินเยว่ชี้นิ้วไปยังเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลากสีที่แขวนเรียงรายอยู่บนราวหลี่เหมยฮัวมองชุดเหล่านั้นด้
เช้าวันต่อมารถจี๊ปทหารคันใหญ่ก็แล่นมาจอดหน้าร้านตัดเย็บซูหลินเล็กๆ ในตลาดหรงเหมย หวังหย่งเจี๋ยในชุดเครื่องแบบนายพลก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าคมคายดูสง่าผ่าเผย เขามองเข้าไปในร้าน เห็นเพียงหญิงวัยกลางคนกำลังนั่งเย็บเสื้อผ้าอยู่ แต่ไม่เห็นวี่แววของหญิงสาวร่างบางที่เขาเจอเมื่อวานภายในร้านดูเรียบร้อยสะอาดตา ผิดกับภายนอกที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน หวังหย่งเจี๋ย มองไปรอบๆ ก่อนจะเอ่ยทักขึ้น"สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือเจ้าของร้านตัดเย็บแห่งนี้ใช่ไหมครับซูหลินเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า "ใช่แล้วค่ะ ฉันชื่อซูหลินเป็นเจ้าของร้านตัดเย็บแห่งนี้ค่ะ ท่านนายพลต้องการอะไรคะ" แววตาของหล่อนฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเครื่องแบบทหารบนตัวเขา"ผมต้องการสั่งตัดชุดทหารครับ" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "ไม่ทราบว่าที่ร้านมีพนักงานคนอื่นอีกไหมครับ พอดีผมต้องการสั่งตัดหลายชุด" สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ร้าน"ที่ร้านแห่งนี้มีฉันเพียงแค่คนเพียงคนเดียวค่ะ" นางซูหลินตอบ "ปกติจะมีลูกสาวมาช่วยด้วย แต่วันนี้เธอมีเรียนค่ะ น่าจะกลับช่วงเย็นๆ โน่นแหละค่ะ""อ้อ" หวังหย่งเจี๋ย รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย "งั้นผมจะสั่งตัดชุดทหาร สัก 7 ชุด นะครับ ถ
หลังเลิกเรียนในตอนเย็น หลิวซินเยว่เก็บหนังสือใส่กระเป๋า วันนี้เป็นอีกวันที่เธอต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในยุคนี้ ดีที่เธอยังมีความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างเดิมหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงใช้ชีวิตในยุคนี้ได้อย่างยากลำบากเพราะแต่ละวิชาในคณะแพทย์นั้นยากมาก ความรู้ที่ติดตัวมาทำให้เธอเรียนได้อย่างสบายๆ อีกเพียงปีเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว และเทอมหน้าก็ต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาลตอนนี้เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปที่โรงพยาบาลที่ไหนดีในขณะที่เธอกำลังเก็บข้าวของทันใดนั้น เสียงใสๆ ของจางเสี่ยวหลานเพื่อนสนิทของเธอก็ดังขึ้น"เยว่เยว่ เธอไปทำอะไรมานี่ ทำไมดูสวยขึ้น?" จางเสี่ยวหลานเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตจ้องมองหลิวซินเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับจะสแกนหาความเปลี่ยนแปลงหลิวซินเยว่ยิ้มให้เพื่อนสนิท "ฉันก็แค่ไปเปลี่ยนทรงผมกับลองแต่งหน้าดูเท่านั้นแหละ""จริงเหรอ แค่นั้นเองเหรอ" จางเสี่ยวหลานหรี่ตามอง "หรือว่าเธอมีความรักหรือเปล่าถึงได้หันมาดูแลตัวเองแบบนี้" น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความสงสัยใคร่รู้"บ้า ไม่มีหรอก ฉันก็แค่อยากสวยเฉยๆ" หลิวซินเยว่รีบปฏิเสธ แก้มใสขึ้นสีระเรื่อจางเสี่ยวหลานยิ้มกริ่ม "เย
เมื่อรถจี๊ปทหารคันใหญ่แล่นมาจอดเทียบหน้าธนาคารประชาชน หลิวซินเยว่ หันมายิ้มหวานให้หวังหย่งเจี๋ย"ขอบคุณนะคะ ท่านนายพล ที่อุตส่าห์มาส่งฉัน"หวังหย่งเจี๋ยพยักหน้ารับ "ไม่เป็นไร ถือว่าฉันผ่านมาทางนี้พอดี" เขาตอบเสียงเรียบหลิวซินเยว่เปิดประตูรถ ก้าวลงมายืนบนฟุตบาท แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นนายพลตัวร้าย ก้าวลงจากรถตามเธอมาติดๆ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย"ท่านนายพลหวัง...คุณจะตามฉันมาทำไมคะ" เธอถามอย่างแปลกใจ "คนใหญ่คนโตเช่นคุณน่าจะมีธุระมากมาย ไม่ควรเสียเวลากับคนเล็กแบบฉันเช่นนี้" หลิวซินเยว่เอ่ยไล่คุณตัวร้ายกลายๆ"วันนี้ฉันว่าง" หวังหย่งเจี๋ยตอบเสียงเรียบ สายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตาหลิวซินเยว่ยิ้มบางๆ อย่างรู้ทัน "ว่าง...ท่านนายพลหวังล้อเล่นใช่ไหมคะ" เธอยังคงพยายามรักษาน้ำเสียงให้สุภาพ แม้ในใจจะเริ่มหงุดหงิดกับความหน้าด้านหน้าทนของชายหนุ่มผู้นี้เต็มที
"ในเมื่อเธอได้เงินมาแล้วเธอจะทำอะไรต่อ" หวังหย่งเจี๋ยเอ่ยถาม ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่หญิงสาว ราวกับจะมองทะลุผ่านเข้าไปในใจ"ฉันว่าจะไปซื้อที่ดินมาจัดตั้งโรงงาน คงต้องไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐ" หลิวซินเยว่ตอบ พยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แม้ในใจจะยังคงหวั่นไหวกับสายตาของนายพลตัวร้าย"งั้นเดี๋ยวพี่พาเราไปเอง" ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายหลิวซินเยว่รู้สึกแปลกใจมากที่เห็นท่านนายพลตัวร้ายคอยช่วยเหลือเธอ เขาคิดอะไรกับเธอหรือเปล่า หรือเพียงเพราะต้องการเอาใจ เพื่อหวังผลประโยชน์จากเธอในอนาคต ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจ แต่เธอก็ได้แต่เก็บงำมันเอาไว้ เธอไม่อาจเอ่ยถามมันออกไปได้รถจี๊ปทหารสีเขียวเข้มแล่นเข้าสู่เขตที่ว่าการ บรรยากาศคึกคักจอแจไปด้วยผู้คนที่มาติดต่อราชการ หลิวซินเยว่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเหยียบสถานที่ราชการแบบนี้ชายหนุ่มจอดรถเสร็จสรรพก็หันมาถามหญิงสาว "เยว่เยว่เธออยากดื่มชาก่อนไหม?พี่เห็นร้านน้ำชาอยู่ตรงหัวมุมนั่น"หลิวซินเยว่ส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เป็นไรค่ะท่านนายพล ฉันอยากรีบจัดการเรื่องที่ดินให้เสร็จ" จ
รถจี๊ปสีเขียวเข้มแล่นมาจอดหน้าบ้านตระกูลหลิว หวังหย่งเจี๋ยหันมายิ้มให้หลิวซินเยว่ แก้มสากที่เคยตึงเครียดจากการฝึกทหารบัดนี้คลายตัวลงจนเห็นลักยิ้มข้างแก้ม"ถึงบ้านแล้วครับคนดี" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน ต่างจากน้ำเสียงแข็งกร้าวที่เคยใช้ในค่ายทหารราวกับเป็นคนละคนหลิวซินเยว่ยังคงนิ่งอึ้ง ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ภาพเหตุการณ์ในรถยังคงติดตา หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของคนร่างสูง ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "ขอบคุณค่ะพี่หย่งเจี๋ย "หวังหย่งเจี๋ยหัวเราะในลำคอเบาๆ กับท่าทีเขินอายของหญิงสาวตรงหน้า เขายื่นมือไปลูบผมหลิวซินเยว่เบาๆ อย่างเอ็นดูร่างบางเขินจนหน้าแดงก่ำ รู้สึกเหมือนเลือดทั้งหมดพุ่งขึ้นมาบนใบหน้า เธอไม่คิดว่าเขาจะจำเรื่องคืนนั้นได้เพียงแค่ได้จูบกับเธอ"เป็นหมาหรือยังไงกัน แค่ได้กลิ่นเธอก็จำได้" หลิวซินเยว่บ่นพึมพำในใจ พลางก้มหน้าลง มือเล็กๆ บิดชายเสื้อไปมาอย่างประหม่าชายหนุ่มห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของเธอแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ "ทำไมเราถึงคิดว่าพี่จะจำไม่ได้ละ พวกเรามีเซ็กส์กันตั้งหลายรอบและร่างกายของพวกเราก็เข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม" เขาพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดวงตาเป็นปร
หลิวซินเยว่ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนที่เธอช่วยเอาไว้ "ไม่เป็นไรแล้วนะคะ คุณป้าปลอดภัยแล้ว"หญิงวัยกลางมองหลิวซินเยว่ด้วยแววตาซาบซึ้ง มือเหี่ยวย่นบีบมือเรียวเล็กของเธออย่างขอบคุณ"ขอบใจแม่หนู...เอ่อ...มากนะ ถ้าไม่ได้หนูช่วยไว้ป้าคงจะแย่เลย" หวังลี่จูพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ตอนนี้ป้าไม่รู้จะหาเงินได้ยังไง ตอนนี้ป้ายิ่งโดนเจ้าของร้านตัดเย็บไล่ออกจากงานแล้วด้วย" น้ำตาของเธอคลอหน่วย ชีวิตของเธอช่างอาภัพ"ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า หนูชื่อหลิวซินเยว่ค่ะ" ร่างบางยิ้มหวานให้ รอยยิ้มนั้นทำให้หวังลี่จูรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด "แล้วป้าชื่ออะไรคะ? ""ป้าชื่อหวังลี่จูจ้ะ" หญิงวัยกลางคนตอบ แม้จะรู้สึกสิ้นหวังกับชีวิต"แล้วตกลงป้าโดนไล่ออกเพราะอะไรเหรอคะ เล่าให้หนูฟังได้ไหม"หวังลี่จูถอนหายใจยาว "คืออย่างนี้นะนังหนูหลิว พอดีป้าทำงานเป็นช่างตัดเสื้ออยู่ที่ร้าน 'หงส์หยก' แถวถนนหนานจิงตะวันออก เมื่อวานมีคุณหนูคนหนึ่งมาสั่งตัดชุด หล่อนอยากได้ชุดกี่เพ้าที่ทันสมัย แบบที่ดูโก้หรู แต่แบบที่หล่อนเอามาให้ป้าดูมันเชยมาก ไม่เหมาะกับรูปร่างหล่อนเลย ป้าก็เลยแนะนำไปว่าควรจะแก้แบบตรงช่วงเอวกับคอเสื้อนิดหน่อย แต
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว บอกให้คนเมืองหลวงรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสของตระกูลหวัง งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี กำลังจะเริ่มต้นขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ แขกเหรื่อมากมายต่างทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ในที่สุดวันนี้ วันที่หวังหย่งเจี๋ยเฝ้ารอคอยก็มาถึง หลังจากที่เขาต้องอดทนรอให้หลิวซินเยว่ คนรักของตนเรียนจบมหาวิทยาลัยตลอดหนึ่งปีเต็ม วันนี้เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักที่สุดเสียทีหวังหย่งเจี๋ยในชุดสูทสีดำดูที่ดูหล่อเหลา เขานั่งรอเจ้าสาวอย่างใจจดใจจ่อ เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก หวังหย่งเจี๋ยที่ยืนรออยู่ด้านนอกแทบหยุดหายใจ หัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เขารักดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าสาวของเขาหลิวซินเยว่ในชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินระยิบระยับเข้ารูปกับเรือนร่างอรชร ใบหน้างดงามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาแต่ขับเน้นให้ดวงตากลมโตดูสดใสเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มทาด้วยลิปสติกสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องราวกับหยกชั้นดี ยิ่งขับให้เธอดูงดงามราวกับนางฟ้า เธอเดินออกมาพร้อมหลี่เหมยฮัวเพื่อนสนิทของเ
พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังเสร็จสิ้นพิธี หลี่เหมยฮัวและซุนเจ๋อคู่สามีภรรยาผู้เป็นเพื่อนสนิทของหลิวซินเยว่ ก็เข้ามาแสดงความยินดีหลิวซินเยว่ เข้ามาทักทายคนมี้งคู่ทันที "เหมยฮัว ดีใจจังที่มาได้" เธอกอดคุณนางเอกไว้แน่น"เยว่เยว่ ยินดีด้วยนะ วันนี้เธอสวยมาก" เหมยฮัวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม"ขอบคุณนะเหมยฮัว" เธอกล่าวขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นของคุณนางเอก"เหมยฮัว เธอเป็นอย่างไรบ้าง แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"นิดหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันแทบทานอะไรไม่ได้เลย"คนเป็นแม่หมาดๆ เอ่ยตอบ"ถ้าเธอไม่สบาย ไม่ต้องบังคับตัวเองมางานหมั้นฉันก็ได้นะ" หลิวซินเยว่กล่าว"ฉันจะไม่มางานหมั้นเพื่อนสนิทของฉันได้อย่างไร" เหมยฮัวตอบกลับด้วยรอยยิ้มสดใส แม้ใบหน้าจะซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการแพ้ท้อง"แล้วตอนนี้เธอรู้หรือยังว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว" หลิวซินเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นพลางลูบท้องของเพื่อนเบาๆ"ยังไม่รู้เพศเลย" หลี่เหมยฮัวตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ"ถ้าฉันมีลูกชาย แล้วเยว่เยว่มีลูกสาว พวกเราจับทั้งสองหมั้
ไม่นานนักพวกเขาทั้งคู่ก็ก้าวลงจากรถยนต์คันหรูด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ เบื้องหน้าเธอคือร้านอาหารฝรั่งเศสตกแต่งสไตล์ยุโรป ดูหรูหรา ทันสมัย ตัดกับบรรยากาศรอบข้างอย่างสิ้นเชิง"ว้าว สวยจังเลยค่ะพี่หย่งเจี๋ย" เยว่เยว่อุทานอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตเป็นประกายหวังหย่งเจี๋ยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ "ชอบไหม?พี่ตั้งใจเลือกเลยนะ""ชอบมากค่ะ" หลิวซินเยว่พยักหน้าหงึกหงัก "ไม่คิดว่าปักกิ่งจะมีร้านแบบนี้ด้วย""ร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ เขาว่ากันว่าอาหารอร่อยมาก แถมบรรยากาศยังโรแมนติก เหมาะกับคู่รักอย่างเรา" หวังหย่งเจี๋ยขยิบตาให้หลิวซินเยว่ ก่อนจะคว้ามือบางของเธอเดินเข้าไปในร้านภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ทอง ดูหรูหรา โอ่อ่า เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงเบาๆ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา โค้งคำนับต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้ม"โต๊ะริมหน้าต่าง วิวดีที่สุดครับ" หวังหย่งเจี๋ยบอกพนักงาน ก่อนจะพาหลิวซินเยว่ ไปนั่งประจำที่"พี่หย่งเจี๋ยคะ ที่นี่ดูแพงมากเลย" เยว่เยว่กระซิบเสียงเบา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย"ไม่ต้องห่วงน่า พี่เลี้ยงเอง" หวังหย่
เวลาผ่านไปอย่ารวดเร็ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมากิจการร้านขายเสื้อผ้าบูติกที่ถนนหนานจิงขายดีเป็นอย่างมาก ภายในร้าน หลิวซินเยว่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดเรียงเสื้อผ้าตัวใหม่ๆ"คุณหลิว เสื้อผ้าที่ทำออกมาขายแทบจะตัดเย็บไม่ทันแล้วนะ" เสียงจินฮวาดังขึ้นขณะกำลังแขวนชุดเดรสลายดอกไม้สีสดใส "ลูกค้าติดใจแบบเสื้อผ้าของเราใหญ่เลย คนแน่นร้านทุกวัน""จริงอย่างที่พี่จินฮวาว่า" เสี่ยวหลันพูดพลางจัดเรียงกางเกงยีนตัวใหม่ "เมื่อวานตอนบ่าย ฉันเห็นลูกค้าต่อแถวรอซื้อเสื้อผ้าหน้าร้านยาวเหยียดเลย"หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง พลางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ขึ้นมาพับอย่างบรรจง "ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่ร้านของเราขายดีแบบนี้ ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันเต็มที่ขนาดนี้""แต่ว่านะคุณหลิว" จินฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "พวกเราจะทำเสื้อผ้าทันขายเหรอ?แค่พวกคุณซูกับป้าหวังคงไม่ไหวแน่ๆ "หลิวซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราคงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ" หลังจากจัดของในร้านเสร็จเธอก็ไปหาแม่และป้าหวังที่บ้านของเธอเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ"ป้าหวัง ...เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้ กว่าโ
เช้าวันรุ่งซินเยว่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนยินดี เธอจัดแจงแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่เตรียมไว้ ก่อนจะลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้ากับนางซูหลินผู้เป็นแม่"อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่" ซินเยว่กล่าวทักทายพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะอาหาร"อรุณสวัสดิ์จ้ะเยว่เยว่ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม" นางซูหลินถามด้วยรอยยิ้ม"ค่ะแม่ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายมากเลยค่ะ"บนโต๊ะอาหารมีโจ๊กข้าวต้มร้อนๆ กับหมั่นโถววางอยู่ หลิวซินเยว่ตักโจ๊กเข้าปากพลางเล่าเรื่องราวที่ร้านเมื่อวานนี้ให้แม่ฟังด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข"แม่คะ เมื่อวานนี้คนมาซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเยอะมากเลยค่ะ ขายดีจนสินค้าในร้านหายไปครึ่งหนึ่งเลย""จริงเหรอจ๊ะ แม่ดีใจด้วยนะลูก" นางซูยิ้มกว้าง "แล้วขายได้เงินเท่าไหร่ล่ะ""เมื่อวานขายได้ตั้ง 1,000 หยวนแน่ะค่ะ แม้ว่าจะลดราคาครึ่งหนึ่งก็ตาม" ซินเยว่บอกด้วยความภูมิใจ"เก่งมากจ้ะลูก"ซูหลินลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู "วันนี้แม่จะเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ไปเติมที่ร้านให้เอง ลูกจะได้ไปงานแต่งงานของเหมยฮัวได้อย่างสบายใจ""ขอบคุณมากนะคะแม่" หลิวซินเยว่ยิ้มกว
สองอาทิตย์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร้านบูติกของหลิวซินเยว่ก็ได้เปิดทำการที่ถนนหนานจิง เธอจัดร้านแบบร้านขายเสื้อผ้าในห้างยุคปัจจุบัน ทำให้ร้านของเธอเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก หน้าร้านเป็นกระจกใส มี หุ่นโชว์เสื้อผ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางร้านดูโดดเด่นสะดุดตา เสื้อผ้าสีสันสดใสตัดเย็บอย่างประณีตถูกสวมใส่โดยหุ่นเหล่านั้นราวกับมีชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างชะงักฝีเท้า จ้องมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้านด้วยความสนใจ บ้างก็กระซิบกระซาบพูดคุยกันถึงความแปลกใหม่ บ้างก็จูงมือกันเข้ามาในร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น"นี่มันร้านอะไรกันเนี่ย ตกแต่งแปลกตาดีจัง" หญิงสาวคนหนึ่งพูดกับเพื่อนที่เดินข้างกันหลิวซินเยว่ในชุดเดรสสีแดงสด ยืนยิ้มต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญชมสินค้าตามสบายได้เลยนะคะ วันนี้ร้านเราเปิดร้านวันแรก ลดราคา 50% ทุกชิ้นเลยค่ะ"เสียงพูดของหลิวซินเยว่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายซื้อของ"ลดตั้งครึ่งราคาเลยเหรอ จริงหรือเนี่ย" พี่สาวเฉิน สาวโรงงานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น"จริงค่ะพี่สาววันนี้วันเดียวเท่านั้นนะค
หลี่ฉินจัดการวางร่างคุณหนูจางผู้แสนเย่อหยิ่งลงบนเตียง ตอนนี้ยาเริ่มออกฤทธิ์คุณหนูตัวร้ายมีอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายจนตัวของเขาเปลือยเปล่า ก่อนจะเดินเข้ามาหาคุณหนูตัวร้าย“นี่แกจะทำอะไรฉัน ไอ้คนขับรถ ปล่อยฉันนะ กรี๊ดดดดดด ไอ้โรคจิต”หลี่ฉินเมื่อได้ยินคุณหนูตัวร้ายด่า เขาจัดการประกบริมฝีปากของเธอทันที ก่อนจะจูบอย่างหนักหน่วง จางเจียอิน พยายามจะผลักคนขับรถออกจากร่างกายแต่เรี่ยวแรงเธอเริ่มหายไป แต่ยิ่งเธอดิ้น เธอยิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นร่างบางแทบไม่อยากยอมรับ ว่าตอนนี้เธอรู้สึกดีและเสียวซ่านเป็นอย่างมาก จนน้ำในช่องทางรักฉ่ำเยิ้ม“ไอ้คนชั้นต่ำ แกวางยาฉันใช่ไหม แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ “เธอดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ยิ่งดิ้นผมยิ่งชอบ คุณหนูรู้รึเปล่าครับ” สิ้นเสียงชายหนุ่มริมฝีปากของเขาก็ประกบลงมาอีกครั้ง เสื้อที่เธอใส่ถูกเขาฉีกจนเกิดเสียงดังแขวกก่อนจะโยนทิ้งไปไหนก็ไม่รู้หลี่ฉินบีบขยำเข้าที่หน้าอกของคุณหนูตัวร้ายอย่างแรง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากของเขาลงสู่ลำคอของเธอ ไล่เลียซอกคอ ไล่ลงมาจนถึงเนินอกขาว เข
ทางด้านจางเจียอิน ลูกสาวคนเดียวของจอมพลจาง ผู้ทรงอำนาจแห่งกองทัพจีน ใบหน้าสวยหวานของเธอซีดเผือด ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาคู่คมฉายแววผิดหวังและโกรธแค้น"เป็นไปไม่ได้ นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาด" เจียอินพึมพำกับตัวเอง ขณะจ้องมองภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ ข่าวประกาศการแต่งงานของ ซุนเจ๋อ ชายหนุ่มที่เธอหมายปองกับ หลี่เหมยฮัว ที่จะจัดขึ้นในอีก2อาทิตย์ ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจจางเจียอินวางแผนทุกอย่างอย่างรัดกุมเพื่อให้ได้ครอบครองซุนเจ๋อ แต่สถานการณ์กลับพลิกพลันให้ทั้งสองได้ลงเอยกัน ทุกอย่างกลับพังทลายลง ซุนเจ๋อ ไม่เพียงแต่หลุดรอดจากตกหลุมพรางของเธอ แต่เขายังไปแต่งงานกับศัตรูของเธอ"นังเหมยฮัว แกมันก็แค่ผู้หญิงหน้าด้าน ไร้ยางอาย" จางเจียอินกัดฟันกรอด "แกกล้าดียังไงมาแย่งพี่เจ๋อไปจากฉัน"ความโกรธแค้นในใจของจางเจียอิน พลุ่งพล่านราวกับไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง เธอขยำหนังสือพิมพ์ในมือจนยับยู่ยี่ ก่อนจะปาลงพื้นอย่างแรง"กรี๊ดดด...มันเป็นไปไม่ได้ พี่เจ๋อจะแต่งงานกับนังเหมยฮัวได้อย่างไร" จางเจียอินอาละวาดข้าวปาข้าวของ แจกันใบสวยราคาแพงจะลอยละลิ่วในห้องไปกระ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวซินเยว่รีบตื่นแต่เช้า วันนี้เป็นวันสำคัญที่หวังหย่งเจี๋ยจะมารับเธอไปร่วมงานประมูลที่ดิน ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่ความฝันในการสร้างธุรกิจของเธอเสียงแตรรถดังขึ้นเบาๆ หน้าบ้าน ทำให้หลิวซินเยว่สะดุ้งเล็กน้อย เธอรีบแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน เรียบง่ายแต่ดูดี หวีผมยาวสลวยให้เรียบร้อย ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือใบเล็กแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างหวังหย่งเจี๋ยยืนพิงรถจี๊ปสีเขียวเข้ม ใบหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อเห็นหลิวซินเยว่เดินออกมา เขาก้าวเข้ามา"ขอโทษที่มาช้านะคะ พี่รอนานหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ"ไม่นานเลย พี่เองก็เพิ่งมาถึง" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "พร้อมจะไปฟังผลการประมูลกันหรือยัง? "หลิวซินเยว่พยักหน้ารับ ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น "พร้อมแล้วค่ะ"หวังหย่งเจี๋ยปิดประตูให้เธอ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ เขาสตาร์ทรถ แล้วขับออกไปบนถนนสายหลักหลิวซินเยว่มองออกไปนอกหน้าต่าง รถยนต์คันแล้วคันเล่าแล่นผ่านไปมา ผู้คนต่างรีบเร่งไปยังจุดหมายปลายทางของตนเอง บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"ตื่นเต้นไหม? " ช