หลังจากที่เธอเพิ่งได้จักรเย็บผ้าจากป้าเจียงมา งานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผ้าหลากสีสันถูกตัดเย็บอย่างประณีตบรรจง ตอนนี้เธอกับแม่ตัดเย็บชุดเสร็จไปได้เกือบ 10 ชุดแล้ว แต่ละชุดล้วนมีดีไซน์ที่ทันสมัย ต่างจากเสื้อผ้าแบบเดิมๆ ที่มีขายทั่วไปในตลาด
ขณะที่หลินซินเยว่กำลังเย็บชายกระโปรงชุดสีแดงสดอยู่นั้น เสียงใสๆ ก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน "ขอโทษนะคะ ร้านตัดเย็บซูหลินอยู่นี่หรือเปล่าคะ"
ซินเยว่วางมือจากงานตรงหน้า รีบเดินออกไปต้อนรับ ทันทีที่เปิดประตู รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า "เหมยฮัว"
หลี่เหมยฮัว อยู่ในชุดกระโปรงลายดอกไม้สีฟ้า ยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน
"เยว่เยว่ บ้านของเธอหลังนี้นี่เอง"
"ใช่แล้ว เข้ามาสิ" หลิวซินเยว่ผายมือเชื้อเชิญ "บ้านฉันแคบหน่อยนะ" เธอกล่าวพลางเดินนำหลี่เหมยฮัวเข้าไปในบ้าน
ภายในบ้าน นางซูหลิน ผู้เป็นแม่ กำลังนั่งเย็บกระดุมเสื้ออยู่ หลิวซินเยว่รินน้ำชาใส่แก้ว แล้วยื่นให้หลี่เหมยฮัว
"เหมยฮัว นี่แม่ฉัน เธอชื่อซูหลิน" หญิงสาวเอ่ยแนะนำ "ชุดพวกนี้ ฉันกับแม่ช่วยกันตัดเย็บเอง" หลิวซินเยว่ชี้นิ้วไปยังเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลากสีที่แขวนเรียงรายอยู่บนราว
หลี่เหมยฮัวมองชุดเหล่านั้นด้วยดวงตาเป็นประกาย "เยว่เยว่ ฉันขอดูชุดที่เธอออกแบบหน่อย"
หลิวซินเยว่ยกยิ้มบางๆ ให้คุณนางเอก ก่อนจะพาเดินเข้าไปในห้องรับแขกเล็กๆ ที่จัดไว้เป็นมุมโชว์เสื้อผ้า เธอจัดแจงแขวนชุดที่ตัดเย็บเสร็จแล้วบนราวไม้ไผ่เรียบร้อย ผ้าลินินสีสันสดใสตัดเย็บเป็นชุดกระโปรงทรงเอ ชุดเดรสแขนตุ๊กตา และเสื้อเชิ้ตแขนยาวเข้ารูปกับกางเกงขายาวทรงกระบอก ดูทันสมัยแปลกตาจากเสื้อผ้าแบบเดิมๆ
"นี่แหละ ชุดที่ฉันออกแบบ" หลิวซินเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ "แม่ของฉันช่วยฉันตัดเย็บ ส่วนฉันก็รับผิดชอบเรื่องการออกแบบ"
หลี่เหมยฮัวเดินเข้าไปสำรวจเสื้อผ้าแต่ละชุดอย่างพินิจพิเคราะห์ ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับด้วยความตื่นเต้น
"เยว่เยว่ ชุดพวกนี้สวยมาก ไม่เหมือนชุดที่ขายทั่วไปในตลาดเลย" หญิงสาวอุทานออกมา "มันดูทันสมัย สีสันก็สดใส ฉันชอบมาก"
"ฉันดีใจที่เธอชอบนะ" หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง "ฉันอยากออกแบบเสื้อผ้าที่ทำให้ผู้หญิงดูสวยและมั่นใจ ฉันคิดว่าผู้หญิงยุคนี้ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าแบบเดิมๆ สีทึมๆ อีกต่อไปแล้ว"
"จริงอย่างที่เธอว่า" หลี่เหมยฮัวพยักหน้าเห็นด้วย "ฉันเบื่อชุดแบบเดิมๆ เต็มทีแล้ว อยากใส่ชุดสวยๆ แบบนี้บ้าง" เธอมองชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีเหลืองสดใสอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนอยากรู้
"ชุดพวกนี้ฉันขอซื้อนะ เยว่เยว่ ฉันจะเหมาหมดทุกตัวเลย ทั้งหมดนี้เป็นเงินเท่าไหร่เหรอ"
หลิวซินเยว่ยิ้มกว้างพลางคิดคำนวณราคาชุดทั้งหมดในใจอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตอบกลับไป
"ทั้งหมดห้าสิบหยวนจ้ะ เหมยฮัว"
"นี่จ้ะ" หลี่เหมยฮัวยื่นเงินให้หลิวซินเยว่ด้วยความยินดี "ขอบคุณมากนะ เยว่เยว่ ที่ผลิตชุดชุดสวยๆ ออกมา ถ้าคราวหน้ามีแบบใหม่ฉันจะมาอุดหนุนอีกนะ"
"ขอบคุณมากนะเหมยฮัว เธอน่ารักที่สุดเลย" หลิวซินเยว่รับเงินมาพลางยิ้มรับ "แล้วเจอกันใหม่นะ เหมยฮัว"
หลี่เหมยฮัวโบกมือลาหลิวซินเยว่ ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ในที่สุดเธอก็ได้เป็นเจ้าของชุดสวยๆ สมใจอยากเสียที
เมื่อคุณนางเอกจากไป หลิวซินเยว่ก็เดินเข้าไปหาซูหลินผู้เป็นแม่ พลางยื่นเงิน 50 หยวนที่นับได้ให้
"แม่เก็บเงินไว้นะจ๊ะ" หลิวซินเยว่พูดด้วยน้ำเสียงสดใส แม้ใบหน้าจะเหนื่อยล้าจากการเร่งตัดเย็บผ้ามาทั้งวัน
นางซูรับเงินมาด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย "ได้ตั้ง 50 หยวนแน่ะ ขายดีแบบนี้ อีกหน่อยพวกเราก็มีเงินไปใช้หนี้แล้วนะเยว่เยว่" แววตาของผู้เป็นแม่เต็มไปด้วยความหวัง เมื่อวานนี้เธอเพิ่งตัดสินใจครั้งใหญ่ รวบรวมเงินเก็บทั้งหมดที่มีซื้อผ้ามาตัดเย็บเสื้อผ้า ลงทุนไปทั้งหมด 80 หยวน ตอนนั้นเธอใจคอไม่ดีเลย กลัวว่าจะขายชุดสำเร็จรูปไม่ได้ แต่ตอนนี้แค่ขายไป 10 ชุด ก็ได้เงินมาตั้ง 50 หยวนแล้ว
"แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะขยันเย็บผ้า พวกเราจะต้องผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายไปด้วยกันให้ได้" หลิวซินเยว่พูดให้กำลังใจมารดา แม้ใบหน้าจะซีดเซียวจากการอดหลับอดนอนเพื่อเร่งตัดเย็บชุดสวยๆ แต่แววตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ซูหลินมองลูกสาวด้วยความตื้นตันใจ "เยว่ เยว่ ลูกแม่เก่งที่สุดเลย
....
เมื่อหลี่เหมยฮัวก้าวลงจากรถคู่ใจ พลางถือถุงกระดาษใบใหญ่ไว้ในมือ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นบุรุษร่างสูงคุ้นตา ยืนอยู่หน้าบ้าน
"พี่หย่งเจี๋ย" เธออุทานด้วยความประหลาดใจ "มาหาฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ? "
หวังหย่งเจี๋ยมองน้องสาวข้างบ้านด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป "เหมยฮัวน้องไปไหนมาหรือ ถึงได้กลับมาเอาป่านนี้"
"ฉันก็ไปอุดหนุนชุดสวยๆ ที่เยว่เยว่ผลิตมาสิคะ ฉันซื้อมาหมดทุกแบบทุกสไตล์เลย" หลี่เหมยฮัวตอบอย่างอารมณ์ดีพลางยกถุงกระดาษขึ้นโชว์
หวังหย่งเจี๋ยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ "เยว่เยว่?หมายถึงเพื่อนสนิทของเหมยฮัวคนนั้นน่ะเหรอ? "
"ใช่แล้วค่ะ ทำไมเหรอคะ? " หลี่เหมยฮัวถามกลับด้วยความสงสัย
"เปล่า... พี่แค่อยากรู้จักบ้างน่ะ" หวังหย่งเจี๋ยตอบพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ "ว่าแต่บ้านเยว่เยว่อยู่ไหนล่ะ เผื่อพี่จะได้ไปอุดหนุนบ้าง"
หลี่เหมยฮัวเบิกตากว้าง รีบเก็บอาการตกใจ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเข้ม "พี่หย่งเจี๋ยจะไปทำไมคะ ที่นั่นมีแต่ชุดผู้หญิง?อย่าบอกนะว่า... พี่คิดจะจีบเพื่อนของฉัน"
หลี่เหมยฮัวนั่งกอดอก มองหวังหย่งเจี๋ยด้วยสายตาไม่พอใจ
"บอกแล้วไงคะ ว่าเยว่เยว่ไม่ได้ชอบพี่" เธอพูดเสียงแข็ง "พี่คิดเลิกคิดที่จะไปจีบเพื่อนฉันได้แล้ว"
หวังหย่งเจี๋ยยกยิ้มมุมปาก "หืม... ทำไมล่ะ? " เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว "เยว่เยว่น่ารัก เธอดูเหมาะสมกับพี่จะตายไป"
"ไม่ได้นะคะ" หลี่เหมยฮัวโพล่งออกมา "เยว่เยว่ไม่ชอบคนเจ้าชู้ เจ้าชู้แบบพี่มีแต่จะทำให้เพื่อนฉันช้ำใจเท่านั้นค่ะ"
หวังหย่งเจี๋ยหัวเราะในลำคอ "เหมยฮัวนี่หวงเพื่อนจริงๆ เลยนะ" เขามองหลี่เหมยฮัวด้วยสายตาเอ็นดู "หรือว่า... เหมยฮัวหึงพี่? "
แก้มของหลี่เหมยฮัวขึ้นสีระเรื่อ "บ้า ใครหึงพี่กัน" เธอรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว "ฉันคิดกับพี่แค่พี่ชายข้างบ้านเท่านั้นแหละ ฉันเป็นห่วงเพื่อนของฉันต่างหาก"
หวังหย่งเจี๋ยอมยิ้ม เขารู้ดีว่าหลี่เหมยฮัวคิดกับเขาอย่างไร แต่แปลกที่ตอนนี้ความรู้สึกเจ็บปวดที่เคยกัดกินหัวใจเมื่อเห็นเธออยู่กับซุนเจ๋อรุ่นน้องคนสนิทของเขา กลับจางหายไปราวกับควัน
หลี่เหมยฮัวเมื่อเห็นหวังหย่งเจี๋ยเงียบไป จึงรีบหาทางเปลี่ยนเรื่อง "พี่หย่งเจี๋ย เดี๋ยวฉันเข้าบ้านก่อนนะคะ ฉันอดใจรอแป๊บไม่ไหวที่จะได้ลองชุดที่เยว่เยว่เป็นคนออกแบบแล้วค่ะ"
"งั้นพี่กลับก่อนนะ" หวังหย่งเจี๋ยโบกมือลา สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวานซึ้งของหลี่เหมยฮัวจนกระทั่งเธอกลับเข้าไปในบ้าน เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินไปหาคนขับรถของน้องสาวข้าวบ้านที่ทำหน้าที่เป็นสายให้กับเขา
"บอกฉันมาว่าวันนี้เหมยฮัวไปที่ไหนบ้าง"
"เอ่อ...วันนี้คุณหนูเหมยฮัวไม่ได้ไปหาคุณชายซุนเจ๋อครับ"
"เรื่องนั้นฉันไม่อยากรู้ บอกมาว่าบ้านของเยว่เยว่อยู่ที่ไหน" น้ำเสียงของเขาแฝงไว้ด้วยอำนาจ
คนขับรถสะดุ้งเล็กน้อย ปกติแล้วท่านนายพลหวังจะให้เขาติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวของคุณหนูเหมยฮัวเท่านั้น ไม่เคยถามถึงคนอื่น แต่เขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากขัดคำสั่ง
"วันนี้คุณหนูเหมยฮัวไปซื้อเสื้อผ้าที่บ้านของเพื่อนเธอที่ชื่อเยว่เยว่ครับ บ้านของเธอ คือร้านตัดเย็บซูหลิน ใกล้กับตลาดหรงเหมยครับ" คนขับรถรายงานด้วยน้ำเสียงสุภาพ
หวังหย่งเจี๋ยเมื่อได้ฟังข้อมูลก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ แววตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์
"เยว่เยว่คิดว่าเธอจะหนีรอดจากฉันคนนี้ได้หรือ" เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหายไปกับสายลม
เช้าวันต่อมารถจี๊ปทหารคันใหญ่ก็แล่นมาจอดหน้าร้านตัดเย็บซูหลินเล็กๆ ในตลาดหรงเหมย หวังหย่งเจี๋ยในชุดเครื่องแบบนายพลก้าวลงมาจากรถ ใบหน้าคมคายดูสง่าผ่าเผย เขามองเข้าไปในร้าน เห็นเพียงหญิงวัยกลางคนกำลังนั่งเย็บเสื้อผ้าอยู่ แต่ไม่เห็นวี่แววของหญิงสาวร่างบางที่เขาเจอเมื่อวานภายในร้านดูเรียบร้อยสะอาดตา ผิดกับภายนอกที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน หวังหย่งเจี๋ย มองไปรอบๆ ก่อนจะเอ่ยทักขึ้น"สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือเจ้าของร้านตัดเย็บแห่งนี้ใช่ไหมครับซูหลินเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า "ใช่แล้วค่ะ ฉันชื่อซูหลินเป็นเจ้าของร้านตัดเย็บแห่งนี้ค่ะ ท่านนายพลต้องการอะไรคะ" แววตาของหล่อนฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเครื่องแบบทหารบนตัวเขา"ผมต้องการสั่งตัดชุดทหารครับ" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "ไม่ทราบว่าที่ร้านมีพนักงานคนอื่นอีกไหมครับ พอดีผมต้องการสั่งตัดหลายชุด" สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ร้าน"ที่ร้านแห่งนี้มีฉันเพียงแค่คนเพียงคนเดียวค่ะ" นางซูหลินตอบ "ปกติจะมีลูกสาวมาช่วยด้วย แต่วันนี้เธอมีเรียนค่ะ น่าจะกลับช่วงเย็นๆ โน่นแหละค่ะ""อ้อ" หวังหย่งเจี๋ย รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย "งั้นผมจะสั่งตัดชุดทหาร สัก 7 ชุด นะครับ ถ
หลังเลิกเรียนในตอนเย็น หลิวซินเยว่เก็บหนังสือใส่กระเป๋า วันนี้เป็นอีกวันที่เธอต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในยุคนี้ ดีที่เธอยังมีความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างเดิมหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงใช้ชีวิตในยุคนี้ได้อย่างยากลำบากเพราะแต่ละวิชาในคณะแพทย์นั้นยากมาก ความรู้ที่ติดตัวมาทำให้เธอเรียนได้อย่างสบายๆ อีกเพียงปีเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว และเทอมหน้าก็ต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาลตอนนี้เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปที่โรงพยาบาลที่ไหนดีในขณะที่เธอกำลังเก็บข้าวของทันใดนั้น เสียงใสๆ ของจางเสี่ยวหลานเพื่อนสนิทของเธอก็ดังขึ้น"เยว่เยว่ เธอไปทำอะไรมานี่ ทำไมดูสวยขึ้น?" จางเสี่ยวหลานเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตจ้องมองหลิวซินเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับจะสแกนหาความเปลี่ยนแปลงหลิวซินเยว่ยิ้มให้เพื่อนสนิท "ฉันก็แค่ไปเปลี่ยนทรงผมกับลองแต่งหน้าดูเท่านั้นแหละ""จริงเหรอ แค่นั้นเองเหรอ" จางเสี่ยวหลานหรี่ตามอง "หรือว่าเธอมีความรักหรือเปล่าถึงได้หันมาดูแลตัวเองแบบนี้" น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความสงสัยใคร่รู้"บ้า ไม่มีหรอก ฉันก็แค่อยากสวยเฉยๆ" หลิวซินเยว่รีบปฏิเสธ แก้มใสขึ้นสีระเรื่อจางเสี่ยวหลานยิ้มกริ่ม "เย
เมื่อรถจี๊ปทหารคันใหญ่แล่นมาจอดเทียบหน้าธนาคารประชาชน หลิวซินเยว่ หันมายิ้มหวานให้หวังหย่งเจี๋ย"ขอบคุณนะคะ ท่านนายพล ที่อุตส่าห์มาส่งฉัน"หวังหย่งเจี๋ยพยักหน้ารับ "ไม่เป็นไร ถือว่าฉันผ่านมาทางนี้พอดี" เขาตอบเสียงเรียบหลิวซินเยว่เปิดประตูรถ ก้าวลงมายืนบนฟุตบาท แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นนายพลตัวร้าย ก้าวลงจากรถตามเธอมาติดๆ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย"ท่านนายพลหวัง...คุณจะตามฉันมาทำไมคะ" เธอถามอย่างแปลกใจ "คนใหญ่คนโตเช่นคุณน่าจะมีธุระมากมาย ไม่ควรเสียเวลากับคนเล็กแบบฉันเช่นนี้" หลิวซินเยว่เอ่ยไล่คุณตัวร้ายกลายๆ"วันนี้ฉันว่าง" หวังหย่งเจี๋ยตอบเสียงเรียบ สายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตาหลิวซินเยว่ยิ้มบางๆ อย่างรู้ทัน "ว่าง...ท่านนายพลหวังล้อเล่นใช่ไหมคะ" เธอยังคงพยายามรักษาน้ำเสียงให้สุภาพ แม้ในใจจะเริ่มหงุดหงิดกับความหน้าด้านหน้าทนของชายหนุ่มผู้นี้เต็มที
"ในเมื่อเธอได้เงินมาแล้วเธอจะทำอะไรต่อ" หวังหย่งเจี๋ยเอ่ยถาม ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่หญิงสาว ราวกับจะมองทะลุผ่านเข้าไปในใจ"ฉันว่าจะไปซื้อที่ดินมาจัดตั้งโรงงาน คงต้องไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐ" หลิวซินเยว่ตอบ พยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แม้ในใจจะยังคงหวั่นไหวกับสายตาของนายพลตัวร้าย"งั้นเดี๋ยวพี่พาเราไปเอง" ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายหลิวซินเยว่รู้สึกแปลกใจมากที่เห็นท่านนายพลตัวร้ายคอยช่วยเหลือเธอ เขาคิดอะไรกับเธอหรือเปล่า หรือเพียงเพราะต้องการเอาใจ เพื่อหวังผลประโยชน์จากเธอในอนาคต ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจ แต่เธอก็ได้แต่เก็บงำมันเอาไว้ เธอไม่อาจเอ่ยถามมันออกไปได้รถจี๊ปทหารสีเขียวเข้มแล่นเข้าสู่เขตที่ว่าการ บรรยากาศคึกคักจอแจไปด้วยผู้คนที่มาติดต่อราชการ หลิวซินเยว่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเหยียบสถานที่ราชการแบบนี้ชายหนุ่มจอดรถเสร็จสรรพก็หันมาถามหญิงสาว "เยว่เยว่เธออยากดื่มชาก่อนไหม?พี่เห็นร้านน้ำชาอยู่ตรงหัวมุมนั่น"หลิวซินเยว่ส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เป็นไรค่ะท่านนายพล ฉันอยากรีบจัดการเรื่องที่ดินให้เสร็จ" จ
รถจี๊ปสีเขียวเข้มแล่นมาจอดหน้าบ้านตระกูลหลิว หวังหย่งเจี๋ยหันมายิ้มให้หลิวซินเยว่ แก้มสากที่เคยตึงเครียดจากการฝึกทหารบัดนี้คลายตัวลงจนเห็นลักยิ้มข้างแก้ม"ถึงบ้านแล้วครับคนดี" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน ต่างจากน้ำเสียงแข็งกร้าวที่เคยใช้ในค่ายทหารราวกับเป็นคนละคนหลิวซินเยว่ยังคงนิ่งอึ้ง ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ภาพเหตุการณ์ในรถยังคงติดตา หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของคนร่างสูง ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "ขอบคุณค่ะพี่หย่งเจี๋ย "หวังหย่งเจี๋ยหัวเราะในลำคอเบาๆ กับท่าทีเขินอายของหญิงสาวตรงหน้า เขายื่นมือไปลูบผมหลิวซินเยว่เบาๆ อย่างเอ็นดูร่างบางเขินจนหน้าแดงก่ำ รู้สึกเหมือนเลือดทั้งหมดพุ่งขึ้นมาบนใบหน้า เธอไม่คิดว่าเขาจะจำเรื่องคืนนั้นได้เพียงแค่ได้จูบกับเธอ"เป็นหมาหรือยังไงกัน แค่ได้กลิ่นเธอก็จำได้" หลิวซินเยว่บ่นพึมพำในใจ พลางก้มหน้าลง มือเล็กๆ บิดชายเสื้อไปมาอย่างประหม่าชายหนุ่มห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของเธอแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ "ทำไมเราถึงคิดว่าพี่จะจำไม่ได้ละ พวกเรามีเซ็กส์กันตั้งหลายรอบและร่างกายของพวกเราก็เข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม" เขาพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดวงตาเป็นปร
หลิวซินเยว่ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนที่เธอช่วยเอาไว้ "ไม่เป็นไรแล้วนะคะ คุณป้าปลอดภัยแล้ว"หญิงวัยกลางมองหลิวซินเยว่ด้วยแววตาซาบซึ้ง มือเหี่ยวย่นบีบมือเรียวเล็กของเธออย่างขอบคุณ"ขอบใจแม่หนู...เอ่อ...มากนะ ถ้าไม่ได้หนูช่วยไว้ป้าคงจะแย่เลย" หวังลี่จูพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ตอนนี้ป้าไม่รู้จะหาเงินได้ยังไง ตอนนี้ป้ายิ่งโดนเจ้าของร้านตัดเย็บไล่ออกจากงานแล้วด้วย" น้ำตาของเธอคลอหน่วย ชีวิตของเธอช่างอาภัพ"ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า หนูชื่อหลิวซินเยว่ค่ะ" ร่างบางยิ้มหวานให้ รอยยิ้มนั้นทำให้หวังลี่จูรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด "แล้วป้าชื่ออะไรคะ? ""ป้าชื่อหวังลี่จูจ้ะ" หญิงวัยกลางคนตอบ แม้จะรู้สึกสิ้นหวังกับชีวิต"แล้วตกลงป้าโดนไล่ออกเพราะอะไรเหรอคะ เล่าให้หนูฟังได้ไหม"หวังลี่จูถอนหายใจยาว "คืออย่างนี้นะนังหนูหลิว พอดีป้าทำงานเป็นช่างตัดเสื้ออยู่ที่ร้าน 'หงส์หยก' แถวถนนหนานจิงตะวันออก เมื่อวานมีคุณหนูคนหนึ่งมาสั่งตัดชุด หล่อนอยากได้ชุดกี่เพ้าที่ทันสมัย แบบที่ดูโก้หรู แต่แบบที่หล่อนเอามาให้ป้าดูมันเชยมาก ไม่เหมาะกับรูปร่างหล่อนเลย ป้าก็เลยแนะนำไปว่าควรจะแก้แบบตรงช่วงเอวกับคอเสื้อนิดหน่อย แต
เมื่อหลิวซินเยว่ เดินเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย แต่แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อสายตาของจางเสี่ยวหลาน เพื่อนสาวคนสนิท จับจ้องมาที่เธอตั้งแต่ไกล ใบหน้าของเสี่ยวหลานเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นหญิงสาวรีบวิ่งเข้ามาหาซินเยว่ ดวงตาเป็นประกาย "เยว่เยว่ เมื่อกี้ใครมาส่งยะ หล่อมากเลย รถก็เท่สุดๆ บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะว่าเป็นใคร" น้ำเสียงของเธอฟังดูตื่นเต้นจนแทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่หลิวซินเยว่รู้สึกถึงเลือดที่สูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าจนแดงก่ำ "บะ... บังเอิญเจอพี่ชายที่รู้จักกันน่ะ เขาเลยอาสาไปส่ง" เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่บอกความจริงจางเสี่ยวหลานหรี่ตาลงเล็กน้อย ทำหน้าไม่เชื่อถือในคำตอบของเพื่อน "พี่ชายคนที่รู้จัก?อย่ามาโกหกฉันนะ ดูสายตาที่เขามองเธอสิ หวานหยาดเยิ้มเชียว แถมยังบอกจะมารับตอนเย็นอีก นี่มันไม่ใช่แค่พี่ชายที่รู้จักกันธรรมดาแล้ว"หลิวซินเยว่อึกอัก "เอ่อ... คือ..." เธอพยายามหาคำพูดมาแก้ตัว แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรจางเสี่ยวหลานเขย่าแขนหลิวซินเยว่เบาๆ "บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ซินเยว่ ฉันเป็นเพื่อนสนิทเธอนะ อย่าปิดบังกันสิ" น้ำเสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อย แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความอ
หลังเลิกเรียนเสร็จเธอก็เก็บกระเป๋าก่อนจะเดินออกจากมหาวิทยาลัยมาพร้อมกับจางเสี่ยวหลาน ทันใดนั้นรถจี๊ปทหารก็มาจอดรับหลิวซินเยว่ ที่หน้ามหาวิทยาลัย " เยว่เยว่พี่มารับ"จางเสี่ยวหลานยิ้มกริ่ม แสร้งทำท่าเช็ดน้ำตาพลางพูดว่า "โอ๊ยๆๆ อิจฉาจังเลยนะเยว่เยว่ มีคนมารับด้วย แถมยังเป็นนายทหารหล่อล่ำบึกอีกต่างหาก"หลิวซินเยว่หัวเราะอย่างเขินๆ ก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มในชุดทหารที่ยืนรออยู่ข้างรถจี๊ป "พี่หย่งเจี๋ย นี่จางเสี่ยวหลาน เพื่อนสนิทฉันเองค่ะ"หวังหย่งเจี๋ยพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย "สวัสดีครับคุณจางเสี่ยวหลาน ผมหวังหย่งเจี๋ยครับ""สวัสดีค่ะพี่หวัง" จางเสี่ยวหลานยิ้มตอบรับ ก่อนจะแกล้งทำท่าสำรวจชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา"แหม... พี่หวังสมกับเป็นทหารจริงๆ นะคะ ทั้งหล่อทั้งสง่าผ่าเผย" จางเสี่ยวหลานแอบยักคิ้วให้หลิวซินเยว่ "เยว่เยว่ของเรานี่ตาถึงจริงๆ ""บ้าเหรอเสี่ยวหลาน พูดอะไรน่ะ" หลิวซินเยว่ดุเพื่อนสนิทเบาๆจางเสี่ยวหลานหัวเราะคิกคักที่เห็นเพื่อนสาวเริ่มออกอาการ "ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าพี่ชายคนนี้เขามารับเธอถึงหน้ามหาวิทยาลัย แบบนี้ไม่ใช่แค่คนกำลังคุยกันแล้วมั้ง" เธอแอบแซวเพื่อนสนิทด้วยรอ
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว บอกให้คนเมืองหลวงรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสของตระกูลหวัง งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี กำลังจะเริ่มต้นขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ แขกเหรื่อมากมายต่างทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ในที่สุดวันนี้ วันที่หวังหย่งเจี๋ยเฝ้ารอคอยก็มาถึง หลังจากที่เขาต้องอดทนรอให้หลิวซินเยว่ คนรักของตนเรียนจบมหาวิทยาลัยตลอดหนึ่งปีเต็ม วันนี้เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักที่สุดเสียทีหวังหย่งเจี๋ยในชุดสูทสีดำดูที่ดูหล่อเหลา เขานั่งรอเจ้าสาวอย่างใจจดใจจ่อ เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก หวังหย่งเจี๋ยที่ยืนรออยู่ด้านนอกแทบหยุดหายใจ หัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เขารักดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าสาวของเขาหลิวซินเยว่ในชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินระยิบระยับเข้ารูปกับเรือนร่างอรชร ใบหน้างดงามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาแต่ขับเน้นให้ดวงตากลมโตดูสดใสเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มทาด้วยลิปสติกสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องราวกับหยกชั้นดี ยิ่งขับให้เธอดูงดงามราวกับนางฟ้า เธอเดินออกมาพร้อมหลี่เหมยฮัวเพื่อนสนิทของเ
พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังเสร็จสิ้นพิธี หลี่เหมยฮัวและซุนเจ๋อคู่สามีภรรยาผู้เป็นเพื่อนสนิทของหลิวซินเยว่ ก็เข้ามาแสดงความยินดีหลิวซินเยว่ เข้ามาทักทายคนมี้งคู่ทันที "เหมยฮัว ดีใจจังที่มาได้" เธอกอดคุณนางเอกไว้แน่น"เยว่เยว่ ยินดีด้วยนะ วันนี้เธอสวยมาก" เหมยฮัวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม"ขอบคุณนะเหมยฮัว" เธอกล่าวขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นของคุณนางเอก"เหมยฮัว เธอเป็นอย่างไรบ้าง แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"นิดหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันแทบทานอะไรไม่ได้เลย"คนเป็นแม่หมาดๆ เอ่ยตอบ"ถ้าเธอไม่สบาย ไม่ต้องบังคับตัวเองมางานหมั้นฉันก็ได้นะ" หลิวซินเยว่กล่าว"ฉันจะไม่มางานหมั้นเพื่อนสนิทของฉันได้อย่างไร" เหมยฮัวตอบกลับด้วยรอยยิ้มสดใส แม้ใบหน้าจะซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการแพ้ท้อง"แล้วตอนนี้เธอรู้หรือยังว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว" หลิวซินเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นพลางลูบท้องของเพื่อนเบาๆ"ยังไม่รู้เพศเลย" หลี่เหมยฮัวตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ"ถ้าฉันมีลูกชาย แล้วเยว่เยว่มีลูกสาว พวกเราจับทั้งสองหมั้
ไม่นานนักพวกเขาทั้งคู่ก็ก้าวลงจากรถยนต์คันหรูด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ เบื้องหน้าเธอคือร้านอาหารฝรั่งเศสตกแต่งสไตล์ยุโรป ดูหรูหรา ทันสมัย ตัดกับบรรยากาศรอบข้างอย่างสิ้นเชิง"ว้าว สวยจังเลยค่ะพี่หย่งเจี๋ย" เยว่เยว่อุทานอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตเป็นประกายหวังหย่งเจี๋ยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ "ชอบไหม?พี่ตั้งใจเลือกเลยนะ""ชอบมากค่ะ" หลิวซินเยว่พยักหน้าหงึกหงัก "ไม่คิดว่าปักกิ่งจะมีร้านแบบนี้ด้วย""ร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ เขาว่ากันว่าอาหารอร่อยมาก แถมบรรยากาศยังโรแมนติก เหมาะกับคู่รักอย่างเรา" หวังหย่งเจี๋ยขยิบตาให้หลิวซินเยว่ ก่อนจะคว้ามือบางของเธอเดินเข้าไปในร้านภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ทอง ดูหรูหรา โอ่อ่า เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงเบาๆ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา โค้งคำนับต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้ม"โต๊ะริมหน้าต่าง วิวดีที่สุดครับ" หวังหย่งเจี๋ยบอกพนักงาน ก่อนจะพาหลิวซินเยว่ ไปนั่งประจำที่"พี่หย่งเจี๋ยคะ ที่นี่ดูแพงมากเลย" เยว่เยว่กระซิบเสียงเบา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย"ไม่ต้องห่วงน่า พี่เลี้ยงเอง" หวังหย่
เวลาผ่านไปอย่ารวดเร็ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมากิจการร้านขายเสื้อผ้าบูติกที่ถนนหนานจิงขายดีเป็นอย่างมาก ภายในร้าน หลิวซินเยว่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดเรียงเสื้อผ้าตัวใหม่ๆ"คุณหลิว เสื้อผ้าที่ทำออกมาขายแทบจะตัดเย็บไม่ทันแล้วนะ" เสียงจินฮวาดังขึ้นขณะกำลังแขวนชุดเดรสลายดอกไม้สีสดใส "ลูกค้าติดใจแบบเสื้อผ้าของเราใหญ่เลย คนแน่นร้านทุกวัน""จริงอย่างที่พี่จินฮวาว่า" เสี่ยวหลันพูดพลางจัดเรียงกางเกงยีนตัวใหม่ "เมื่อวานตอนบ่าย ฉันเห็นลูกค้าต่อแถวรอซื้อเสื้อผ้าหน้าร้านยาวเหยียดเลย"หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง พลางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ขึ้นมาพับอย่างบรรจง "ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่ร้านของเราขายดีแบบนี้ ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันเต็มที่ขนาดนี้""แต่ว่านะคุณหลิว" จินฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "พวกเราจะทำเสื้อผ้าทันขายเหรอ?แค่พวกคุณซูกับป้าหวังคงไม่ไหวแน่ๆ "หลิวซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราคงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ" หลังจากจัดของในร้านเสร็จเธอก็ไปหาแม่และป้าหวังที่บ้านของเธอเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ"ป้าหวัง ...เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้ กว่าโ
เช้าวันรุ่งซินเยว่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนยินดี เธอจัดแจงแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่เตรียมไว้ ก่อนจะลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้ากับนางซูหลินผู้เป็นแม่"อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่" ซินเยว่กล่าวทักทายพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะอาหาร"อรุณสวัสดิ์จ้ะเยว่เยว่ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม" นางซูหลินถามด้วยรอยยิ้ม"ค่ะแม่ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายมากเลยค่ะ"บนโต๊ะอาหารมีโจ๊กข้าวต้มร้อนๆ กับหมั่นโถววางอยู่ หลิวซินเยว่ตักโจ๊กเข้าปากพลางเล่าเรื่องราวที่ร้านเมื่อวานนี้ให้แม่ฟังด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข"แม่คะ เมื่อวานนี้คนมาซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเยอะมากเลยค่ะ ขายดีจนสินค้าในร้านหายไปครึ่งหนึ่งเลย""จริงเหรอจ๊ะ แม่ดีใจด้วยนะลูก" นางซูยิ้มกว้าง "แล้วขายได้เงินเท่าไหร่ล่ะ""เมื่อวานขายได้ตั้ง 1,000 หยวนแน่ะค่ะ แม้ว่าจะลดราคาครึ่งหนึ่งก็ตาม" ซินเยว่บอกด้วยความภูมิใจ"เก่งมากจ้ะลูก"ซูหลินลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู "วันนี้แม่จะเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ไปเติมที่ร้านให้เอง ลูกจะได้ไปงานแต่งงานของเหมยฮัวได้อย่างสบายใจ""ขอบคุณมากนะคะแม่" หลิวซินเยว่ยิ้มกว
สองอาทิตย์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร้านบูติกของหลิวซินเยว่ก็ได้เปิดทำการที่ถนนหนานจิง เธอจัดร้านแบบร้านขายเสื้อผ้าในห้างยุคปัจจุบัน ทำให้ร้านของเธอเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก หน้าร้านเป็นกระจกใส มี หุ่นโชว์เสื้อผ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางร้านดูโดดเด่นสะดุดตา เสื้อผ้าสีสันสดใสตัดเย็บอย่างประณีตถูกสวมใส่โดยหุ่นเหล่านั้นราวกับมีชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างชะงักฝีเท้า จ้องมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้านด้วยความสนใจ บ้างก็กระซิบกระซาบพูดคุยกันถึงความแปลกใหม่ บ้างก็จูงมือกันเข้ามาในร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น"นี่มันร้านอะไรกันเนี่ย ตกแต่งแปลกตาดีจัง" หญิงสาวคนหนึ่งพูดกับเพื่อนที่เดินข้างกันหลิวซินเยว่ในชุดเดรสสีแดงสด ยืนยิ้มต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญชมสินค้าตามสบายได้เลยนะคะ วันนี้ร้านเราเปิดร้านวันแรก ลดราคา 50% ทุกชิ้นเลยค่ะ"เสียงพูดของหลิวซินเยว่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายซื้อของ"ลดตั้งครึ่งราคาเลยเหรอ จริงหรือเนี่ย" พี่สาวเฉิน สาวโรงงานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น"จริงค่ะพี่สาววันนี้วันเดียวเท่านั้นนะค
หลี่ฉินจัดการวางร่างคุณหนูจางผู้แสนเย่อหยิ่งลงบนเตียง ตอนนี้ยาเริ่มออกฤทธิ์คุณหนูตัวร้ายมีอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายจนตัวของเขาเปลือยเปล่า ก่อนจะเดินเข้ามาหาคุณหนูตัวร้าย“นี่แกจะทำอะไรฉัน ไอ้คนขับรถ ปล่อยฉันนะ กรี๊ดดดดดด ไอ้โรคจิต”หลี่ฉินเมื่อได้ยินคุณหนูตัวร้ายด่า เขาจัดการประกบริมฝีปากของเธอทันที ก่อนจะจูบอย่างหนักหน่วง จางเจียอิน พยายามจะผลักคนขับรถออกจากร่างกายแต่เรี่ยวแรงเธอเริ่มหายไป แต่ยิ่งเธอดิ้น เธอยิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นร่างบางแทบไม่อยากยอมรับ ว่าตอนนี้เธอรู้สึกดีและเสียวซ่านเป็นอย่างมาก จนน้ำในช่องทางรักฉ่ำเยิ้ม“ไอ้คนชั้นต่ำ แกวางยาฉันใช่ไหม แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ “เธอดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ยิ่งดิ้นผมยิ่งชอบ คุณหนูรู้รึเปล่าครับ” สิ้นเสียงชายหนุ่มริมฝีปากของเขาก็ประกบลงมาอีกครั้ง เสื้อที่เธอใส่ถูกเขาฉีกจนเกิดเสียงดังแขวกก่อนจะโยนทิ้งไปไหนก็ไม่รู้หลี่ฉินบีบขยำเข้าที่หน้าอกของคุณหนูตัวร้ายอย่างแรง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากของเขาลงสู่ลำคอของเธอ ไล่เลียซอกคอ ไล่ลงมาจนถึงเนินอกขาว เข
ทางด้านจางเจียอิน ลูกสาวคนเดียวของจอมพลจาง ผู้ทรงอำนาจแห่งกองทัพจีน ใบหน้าสวยหวานของเธอซีดเผือด ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาคู่คมฉายแววผิดหวังและโกรธแค้น"เป็นไปไม่ได้ นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาด" เจียอินพึมพำกับตัวเอง ขณะจ้องมองภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ ข่าวประกาศการแต่งงานของ ซุนเจ๋อ ชายหนุ่มที่เธอหมายปองกับ หลี่เหมยฮัว ที่จะจัดขึ้นในอีก2อาทิตย์ ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจจางเจียอินวางแผนทุกอย่างอย่างรัดกุมเพื่อให้ได้ครอบครองซุนเจ๋อ แต่สถานการณ์กลับพลิกพลันให้ทั้งสองได้ลงเอยกัน ทุกอย่างกลับพังทลายลง ซุนเจ๋อ ไม่เพียงแต่หลุดรอดจากตกหลุมพรางของเธอ แต่เขายังไปแต่งงานกับศัตรูของเธอ"นังเหมยฮัว แกมันก็แค่ผู้หญิงหน้าด้าน ไร้ยางอาย" จางเจียอินกัดฟันกรอด "แกกล้าดียังไงมาแย่งพี่เจ๋อไปจากฉัน"ความโกรธแค้นในใจของจางเจียอิน พลุ่งพล่านราวกับไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง เธอขยำหนังสือพิมพ์ในมือจนยับยู่ยี่ ก่อนจะปาลงพื้นอย่างแรง"กรี๊ดดด...มันเป็นไปไม่ได้ พี่เจ๋อจะแต่งงานกับนังเหมยฮัวได้อย่างไร" จางเจียอินอาละวาดข้าวปาข้าวของ แจกันใบสวยราคาแพงจะลอยละลิ่วในห้องไปกระ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวซินเยว่รีบตื่นแต่เช้า วันนี้เป็นวันสำคัญที่หวังหย่งเจี๋ยจะมารับเธอไปร่วมงานประมูลที่ดิน ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่ความฝันในการสร้างธุรกิจของเธอเสียงแตรรถดังขึ้นเบาๆ หน้าบ้าน ทำให้หลิวซินเยว่สะดุ้งเล็กน้อย เธอรีบแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน เรียบง่ายแต่ดูดี หวีผมยาวสลวยให้เรียบร้อย ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือใบเล็กแล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่างหวังหย่งเจี๋ยยืนพิงรถจี๊ปสีเขียวเข้ม ใบหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อเห็นหลิวซินเยว่เดินออกมา เขาก้าวเข้ามา"ขอโทษที่มาช้านะคะ พี่รอนานหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจ"ไม่นานเลย พี่เองก็เพิ่งมาถึง" หวังหย่งเจี๋ยตอบ "พร้อมจะไปฟังผลการประมูลกันหรือยัง? "หลิวซินเยว่พยักหน้ารับ ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น "พร้อมแล้วค่ะ"หวังหย่งเจี๋ยปิดประตูให้เธอ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ เขาสตาร์ทรถ แล้วขับออกไปบนถนนสายหลักหลิวซินเยว่มองออกไปนอกหน้าต่าง รถยนต์คันแล้วคันเล่าแล่นผ่านไปมา ผู้คนต่างรีบเร่งไปยังจุดหมายปลายทางของตนเอง บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"ตื่นเต้นไหม? " ช