วันนี้อวิ๋นรั่วซีเชื่อฟังคำพูดของเพื่อนสนิทโจวซานซาน จึงมาเดินเล่นผ่อนคลายที่แควร์คิดไม่ถึงว่า พอมาแล้วก็พบว่าฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็อยู่ที่นั่นด้วยถ้าจะจากไปเลยก็รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย จึงดึงหลี่เสี่ยวหว่านให้อยู่ต่อในขณะนี้ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อกำลังพูดอย่างจริงจัง“การสอบเข้าวิทยาลัยมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในเมื่อพวกเราได้จัดตั้งกลุ่มศึกษาขึ้นแล้ว เก็จะต้องพากเพียร ทุกสุดสัปดาห์นับจากนี้ต้องมาศึกษาเรียนรู้ด้วยกัน!”"ได้เลย ไม่มีปัญหา"“โจวซานซาน หวังจื่อเฉิน พื้นฐานของพวกเธอสองคนยังไม่ดีพ่อ พากเพียรขึ้นอีก แม้ว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังไม่ได้ แต่จะต้องสามารถสอบมหาลัยที่ดีรองลงมาได้อย่างแน่นอน!”“รู้แล้วค่ะพี่ฟ่าน”ตอนที่ฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดเช่นนี้ ก็มองไปที่อวิ๋นรั่วซีเป็นครั้งคราวเขาภูมิใจในผลการเรียนของตนมาโดยตลอดตอนนี้ ยังได้เป็นหัวหน้ากลุ่มการศึกษา นำคนทั้งกลุ่มศึกษาเรียนรู้อีกสถานการณ์อย่างนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องให้รั่วซีรับรู้ให้ได้อย่างนี้แล้ว บางทีรั่วซีอาจจะสนใจตนเองมากขึ้นดังนั้น หลังจากที่ฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดจบ ก็รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยปากพูดว่า:“รั่วซี ทำไมเธอไม่ศึกษาเรียน
ในความเข้าใจของอวิ๋นรั่วซี หลินโจวทำแบบนี้ ก็เพราะต้องการให้ตนเองรู้ว่าเขาเก่งแค่ไหนจากนั้นก็ให้อภัยเขาและอยู่ด้วยกันกับเขา“ทำไมเขาถึงได้ปัญญาอ่อนขนาดนี้!”“แม้ว่าจะขอโทษ หรือจะเอาอกเอาใจฉัน ก็ควรจะหาเหตุผลที่ดีกว่านี้หน่อยไหม?”? ? ? ?หลิวซื่อหมิงยิ้มด้วยความโกรธเขารู้สึกได้ทันทีว่า หลินโจวเลิกคบหาอวิ๋นรั่วซี ช่างเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดมาก!อวิ๋นรั่วซีเป็นคนที่ค่อนข้างหน้าตาดี แต่ทำไมถึงได้ทะนงตนขนาดนี้?คิดว่าโลกทั้งใบจะหมุนรอบตัวเธองั้นเหรอ!นี่ถึงเรียกว่าปัญญาอ่อนจริงๆ?แต่ตอนนี้ จะอธิบายอย่างไรพวกเขาถึงจะเชื่อ?พี่โจวของเขาสุดยอดจริงๆ!ในขณะที่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาก็มองเห็นร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งหลิวซื่อหมิงหัวเราะขึ้นทันที:“เอ๊ะ? พี่โจว ทางนี้!”หลินโจวที่กำลังจะออกจากสแควร์ พอเห็นพวกเขา ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง“เจ้าอ้วน นายทำอะไรอยู่?”อวิ๋นรั่วซีและคนอื่นๆมองตามเสียงนั้นไปก็ตกตะลึงจนตาค้างทันทีหญิงสาวหลายคนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ“นั่นคือหลินโจว?”“เขาหล่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เอ่อไม่ใช่ ฉันหมายถึง...”โจวซานซานนึกขึ้นได้ว่าตนเองพูดอะไรผิ
“เอ๊ะ? นี้ไม่ใช่ผู้ช่วยของเถ้าแก่เฉียนเหรอ? ทำไมเขาถึงมาที่นี่?”หลิวซื่อหมิงจำคนที่มาได้ผู้ช่วยรีบเข้ามาที่ข้างหลินโจว เหลือบมองนักเรียนคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเขา และถามอย่างสงสัยว่า:“เพื่อนร่วมชั้น คุณมีธุระอะไรบางอย่างที่ต้องทำไหม?”“ไม่มีธุระอะไรครับ ทำไมเหรอ?”“งั้น ขอเวลาคุยด้วยหน่อย?”หลินโจวพยักหน้า กำลังจะจากไป ก็ได้ยินหวังจื่อเฉินตะโกนอีกครั้ง:“เกิดอะไรขึ้นเหรอหลินโจว? ไปทำเรื่องที่มีลับลมคมนัยอะไรมาเหรอ? อ้อ ฉันรู้ว่านายหาเงินมาได้ยังไง…”"มิน่าล่ะถึงที่สามารถหาเงินได้ห้าพันบาทภายในเช้าวันเดียว!"เขามองหลินโจวด้วยใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามหลินโจว:“……งั้นก็พูดอยู่ตรงนี้เลย?”ผู้ช่วยเหลือบมองหวังจื่อเฉินด้วยความแปลกใจ จากนั้นหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า และมอบให้หลินโจว:“คือย่างนี้นนะ เมื่อกี้คุณช่วยเถ้าแก่ของพวกเราเอาไว้ได้มากเลย เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ เถ้าแก่ของพวกเราให้ผมมามอบอั่งเปาเล็กๆน้อยให้คุณ”“ผมกลัวว่าคุณจะเดินเร็วเกินไป และตามทันไม่ทัน ก็เลยตัดสินใจไม่ไปซื้อซองอั่งเปา กะว่าจะให้เงินสดไปเลย!”ขณะที่พูด เขาก็เอาเงินปึกนั้นให้หลินโจวหลังจากได้
แม้ว่าเธอจะเคยไปที่ภัตตาคารชมจันทร์แล้ว แต่ถ้าหลินโจวต้องการจะพาเธอไปด้วย...เธอก็ไม่รังเกียจที่จะไปอีกครั้งในขณะนี้ จู่ๆเธอก็เห็นหลินโจวขึ้นมอเตอร์ไซค์ของหลิวซื่อหมิง โดยไม่หันมามองเธอเลย:“หลิวซื่อหมิง ไปกัน!”“ไปไหนเหรอพี่โจว?”“ไปภัตตาคารชมจันทร์ไง!”อวิ๋นรั่วซี:? ? ?ทำไมหลินโจวถึงไม่พาเธอไปด้วย?หลินโจวไม่รู้เหรอว่าเธออาจจะยกโทษให้เธอถ้าเขาพาเธอไปด้วย?โอกาสดีขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะพาแต่หลิวซื่อหมิงไป?ในเวลานี้หลิวซื่อหมิงก็รู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความสำคัญเช่นกัน:“ห๊า? พี่โจว พี่จะพาผมไปด้วยเหรอ?”“ไร้สาระ ไม่พานายไปด้วยแล้วฉันจะไปยังไง? ฉันไม่มีรถ...”“แล้ว พวกเขาล่ะ?”“พวกเขาเกี่ยวอะไรกับฉันเหรอ? เพื่อนร่วมชั้นฟ่านคงจะพาพวกเขาไปกินข้าวมั๊ง?”สายตาของหลายคนจับจ้องมาที่ฟ่านอวิ๋นเจ๋อเดิมทีฟ่านอวิ๋นเจ๋อไม่มีความตั้งใจที่จะเลี้ยงข้าวและไม่ได้นำเงินมามากนัก:...แต่อวิ๋นรั่วซีอยู่ด้วย เขาจึงไม่สามารถพูดอะไรได้จำใจพูดว่า "ได้เลย วันนี้ผมจะเลี้ยงไก่จานใหญ่ทุกคนเอง"ทุกคน:……จู่ๆพวกเขาก็รู้สึกว่าฟ่านอวิ๋นเจ๋อขี้เหนียวมากเมื่อเทียบกับภัตตาคารชมจันทร์แล้ว ไก่จ
หลังจากกินข้าวแล้ว หลิวซื่อหมิงจะไปเข้าห้องน้ำเฉียนโหย่วฉายเรียกเฉียนกั๋วกั่ว ให้เธอพาเขาไปแม้ว่าเฉียนกั๋วกั่วจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังตามออกไปเฉียนโหย่วฉายเทแก้วน้ำให้หลินโจวหนึ่งแก้วหลินโจวต้องการปฏิเสธ แต่เฉียนโหย่วฉายไม่ให้โอกาสเขาเลย:“น้ำแก้วนี้ นายคู่ควรกับมัน วันนี้ถ้าไม่ได้นาย งานเลี้ยงผูกสัมพันธ์จะต้องพังแน่ๆ และฉันก็สูญเสียมากขึ้น!ให้อังเปานายนายก็ไม่เอา เพื่อนร่วมชั้นหลิน ไม่รู้ว่าจะขอบคุณนายยังไงจริงๆ นายก็ไม่สามารถดื่มเหล้าได้ ก็ดื่มชาก็แล้วกัน ?”เรื่องของวันนี้ ไม่ว่าเพื่อนร่วมชั้นหลินโจวคนนี้จะทำโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ก็สมควรที่จะได้รับคำขอบคุณตอนนี้กั๋วกั่วอยู่ เขาไม่อยากเสียหน้า จึงหาเรื่องให้เฉียนกั๋วกั่วออกไปหลินโจวก็ไม่ปฏิเสธเช่นกันเขายังอยากหาเงินในอนาคต ก่อนที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะสิ้นสุดลง เขายังต้องอยู่ที่เมืองเจียงคนอย่างเฉียนโหย่วฉาย ถือว่าเป็นสปริงบอร์ดที่ไม่เลวเลย....“เถ้าแก่เฉียนเกรงใจเกินไปแล้ว”หลินโจวยกถ้วยชาขึ้น“หากนายมีปัญหาใดๆในอนาคต สามารถบอกกั๋วกั่วได้ ฉันจะช่วยนายครั้งหนึ่งโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ”“ถ้าอย่างนั้นก็ขอขอบคุณเถ้า
หลิวซื่อหมิงใส่หูฟังแล้วตะโกนเสียงดัง:“ให้ตายเถอะ พี่โจว สู้กันอีกรอบ สู้กันอีกรอบ! คราวนี้ ผมจะเอาชนะพี่ได้แน่นอน!”หลินโจวโยนการ์ดแต้มเกมให้หลิวซื่อหมิง:“นายเล่นเองเถอะ ไปละ!”“เอ๊ะ?พี่โจว ไม่ไม่ไม่ การ์ดแต้มเกมผมให้พี่ นัดสุดท้าย!พี่จะมาฆ่าผมตายทุกครั้งไม่ตายนะ!”“เล่นอีกนัดหนึ่งนายก็ยังตายอยู่ดี หิมะใกล้จะหยุดแล้ว ฉันมีธุระ”“วันหยุดสุดสัปดาห์จะไปมีธุระอะไร?”“ไปหาเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย!”"ห๊า? สวี่เนี่ยนชู? หนาวขนานี้ พี่จะไปหาเธอทำไม?"“นายไม่เข้าใจ!”หลินโจวไม่ตอบหลิวซื่อหมิง หันหลังกลับแล้วจากไปจากร้านอินเทอร์เน็ตไปถึงโรงเรียนไม่ไกลนักบ้านของสวี่เนี่ยนชูไกลมาก เธอจึงพักอยู่ที่โรงเรียน แม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็พักที่โรงเรียนในช่วงวัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ หลินโจวรออยู่ที่ชั้นล่างของหอพักหญิงเป็นเวลานานในที่สุดเธอก็ได้พบกับเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของเพื่อนร่วมชั้น เขาขอให้เธอช่วยเรียกสวี่เนี่ยนชูให้เมื่อสวี่เนี่ยนชูได้ยินว่าหลินโจวกำลังตามหาเธอ ก็เปิดผ้าห่มออกด้วยความตื่นตระหนก กระโดดลงจากเตียง รีบสวมรองเท้าแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วหลั
มีเสียงกระซิบกระซาบดังมาจากคนรอบข้างอีกครั้ง!“โอ้สวรรค์ เขามีแฟนแล้วเหรอ”“อุ๊ย ยังใส่เสื้อคลุมให้เธอด้วย ฮือฮือฮืออบอุ่นจัง!”“ฉันก็อยากมีแฟนแบบนี้เหมือนกัน”…….สวี่เนี่ยนชูก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก หน้าก็กลายเป็นเหมือนแอปเปิ้ลสีแดง“ฉัน คือว่า ฉันไม่ต้องใช้มัน ฉันไม่หนาว”ทันทีที่พูดจบ เธอก็หนาวจนตัวสั่นสะท้านสวี่เนี่ยนชู: ....แย่แล้ว!น่าอายมากเลยเป็นไปตามที่คาดคิดไว้ มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ:“อย่าดื้อ รีบใส่เร็วเข้า! เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”อย่าดื้อน่า...ทำไมเขาถึงได้ใช้คำที่สนิทสนมอย่างนี้นะ?ไม่สิไม่สิเขาจะใช้คำพูดที่สนิทสนมขนาดนี้กับเธอได้ยังไงเท่าที่จำได้ นอกจากพ่อแม่ของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ไม่มีใครเคยพูดอย่างนี้กับเธอเลยตั้งแต่วันที่พวกเขาจากเธอไป เธอก็กลายเป็นเด็กดีที่ว่านอนสอนง่ายคนหนึ่งสวี่เนี่ยนชูรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเธอถูกข่วนด้วยอุ้งเท้าแมว มันทำให้เธอไม่สบายใจชายหนุ่มอยู่ใกล้เธอมากเกินไปแล้วสวี่เนี่ยนชูรู้สึกแค่เพียงว่าสายตาที่ร้อนระอุกำลังจะแผดเผาเธอให้วอดวายเธอก้มศีรษะต่ำลงเรื่อยๆ“คือว่า คือว่าฉัน...”“ฉันจะ
สวี่เนี่ยนชูถึงตระหนักได้ว่า เสื้อของหลินโจวยังคงอยู่บนตัวของตนเองเธอถอดเสื้อผ้าออกด้วยความลนลาน“ฉัน คือว่า...คือฉัน...”ฉันต้องการอธิบาย แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนเพื่อนร่วมห้องทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่:“ สวี่เนี่ยนชูหรือว่าเธอจะมีแฟนแล้ว?”"ไม่มีซะหน่อย!"สวี่เนี่ยนชูตอบกลับอย่างรวดเร็ว แม้แต่เสียงก็ดังขึ้นเล็กน้อยหน้าของเพื่อนร่วมห้องดูไม่ค่อยเชื่อแต่สวี่เนี่ยนชูไม่ให้โอกาสเธอได้ถามต่อ สวมเสื้อแจ็คเก็ตของตนเอง จากนั้นก็ถือเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์สีดำแล้วออกไปหลินโจวยังอยู่ข้างนอกเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ของเขาอยู่บนมือเธอ เขาจะหนาวจนตัวแข็งแน่เลยเมื่อตระหนักถึงจุดนี้ สวี่เนี่ยนชูจึงเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้งจนเดินไปถึงข้างหลินโจว เธอถึงตระหนักได้ว่า ตนเองยังคงกังวลอยู่แต่ตอนนี้ เธอไม่มีเวลาไปสนใจอารมณ์แบบนี้แล้วเพราะเธอเห็นว่า หลินโจวกำลังกอดผ้าพันคอยืนอยู่ที่นั่น และมองเธอด้วยรอยยิ้มสวี่เนี่ยนชูรีบเดินไป แล้วเอาเสื้อแจ็คเก็ตส่งให้เขา:“รีบใส่เร็ว ทำไมนายถึงไม่พันผ้าพันคอล่ะ?”ถ้าพันแล้ว มันจะต้านทานความหนาวได้นิดหน่อย“ไม่เป็นไร ฉันไม่หนาว”“จะเป็นไปได้ยังไ
คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห
สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ
มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต
ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด
“ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก
อยากจะหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่กล้าฉินอวี่เถียนจึงทำได้แค่เพียงหดคอ และเดินไปข้างหน้าต่อไปใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้วใกล้จะเดินออกไปแล้วในเวลานี้ ทันใดนั้นฉินอวี่เถียนก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตรงคอของตนเองถูกคนคว้าเอาไว้เค้าโครงเรื่องในหนังผีมาสู่ความเป็นจริงฉินอวี่เถียนแทบจะเป็นบ้า!“อร๊าย~”เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมาจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ"เถียนเถียน"เอิ่ม?นี่คือ……เสียงของหลินโจว?ฉินอวี่เถียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นจริงอย่างที่คาดไว้เธอเห็นหลินโจวขี่จักรยาน มองดูเธออย่างขบขัน“ร้องอะไรน่ะ? นั่นก็แค่หนูตัวหนึ่งก็เท่านั้น และมันก็วิ่งหนีไปแล้ว”ฉินอวี่เถียน:“……”“นายนายนาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”“ก็มาส่งเธอไง พี่พูดคำไหนคำนั้น!”“แต่ว่าเมื่อกี้นาย...”“เมื่อกี้กลับไปยืมจักรยานที่โรงเรียนไง แบบนี้มันจะเร็วกว่า เธอก็คงจะไม่อยากให้ป้าฉินกังวลใช่ไหม?”"......"ฉินอวี่เถียนไม่มีอะไรจะพูดเมื่อนึกถึงการกระทำที่ขี้ขลาดเมื่อครู่นี้ เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปฉินอวี่เถียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วอธิบายอย่างข้างๆคูๆว่า:
สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่เถียนประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าหลินโจวกำลังช่วยเรื่องการเรียนของเพื่อนร่วมชั้นด้วย?แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจะน่ารำคาญนิดหน่อยแต่……หลินโจวเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จริงๆเหรอ?ฉินอวี่เถียนไม่อยากจะเชื่อเลย“ฉันเป็นพี่ชายของเธอ ฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ!”ฉินอวี่เถียนส่งเสียงเชอะ หันหลังกลับแล้วเดินไป“ฉันยอมรับตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เฮ้อ? สาวน้อยคนนี้ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฉันรู้ทางกลับบ้าน”ฉินอวี่เถียนหันกลับมาอย่างดื้อรั้น แล้วเดินกลับบ้าน“น้องสาวจริงๆเหรอ?”หลิวซื่อหมิงชะโงกศีรษะ ด้วยสีหน้าที่งุนงง"ก็จริงน่ะสิ!"“แต่ว่า พ่อของพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”“ฉันจะมีแม่เลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ?”"......"หลิวซื่อหมิงสำลักเขามองไปที่หลินโจวด้วยความประหลาดใจ: “พ่อของพี่หาแม่เลี้ยงให้พี่เหรอ? แถมยังพาน้องเลี้ยงมาอีกคนด้วย?”“นายเข้าใจถูกแล้ว”หลิวซื่อหมิงกลืนน้ำลาย หลังจากที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างผิวเผินแล้ว ก็เริ่มกังวลข
“ได้ครับ ขอบคุณครับครูจาง”ทันทีที่หลินโจวพูดจบ เขาก็ได้ยินฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดด้วยความโกรธ:“หลินโจว แม้ว่าจะเอาคลังโจทย์ข้อสอบเหล่านั้นให้นาย นายจะอ่านเข้าใจเหรอ?”พูดจบ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินโจวยืนอยู่ตรงหน้าจางซูฉี:“ครูจางคะ หนูก็ขอชุดหนึ่งค่ะ”“เธอจะเอาไปทำอะไร? เธอไม่จำเป็นต้องฝึกทำโจทย์ แค่รักษามาตรฐานในปัจจุบันของเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”"หนูอยากจะช่วยหลินโจวค่ะ"“อืม?”จู่ๆจางซูฉีก็นึกได้ว่าความก้าวหน้าของหลินโจวในช่วงนี้ สวี่เนี่ยนชูก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากให้เธอช่วยก็ดีเหมือนกัน"ได้ ครูจะเตรียมให้เธอด้วยหนึ่ง""ขอบคุณค่ะครู"สวี่เนี่ยนชูติดตามหลินโจวไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีดฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ......เขาหันศีรษะด้วยความโกรธแ ละพูดกับอวิ๋นรั่วซีว่า:"รั่วซี เธอดูสองคนนั้นสิโง่หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าครูจางให้มาเพียงพอแล้ว แต่ยังยืนกรานที่จะขอเพิ่ม กลยุทธ์ฝึกฝนทำโจทย์ใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคน พวกเราแค่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ .. "ยังไม่ทันได้พูดจบฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นอวิ๋นรั่วซีลุกยืนขึ้นเช่นกันสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลินโจวผู้ชายคนนี้