หลิ่วชิงเหยียนก้มศีรษะลง แล้วหัวเราะเบา ๆ :“หลินโจว วันนี้นายแปลกไปเล็กน้อยจริงๆนะ”มิน่าล่ะสวี่เนี่ยนชูถึงไม่ยอมเปลี่ยนที่นั่งเป็นเช่นนี้ ก็ดีเหมือนกัน“งั้นอาจารย์คิดว่าผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง?”"เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน แบบนี้ดีมาก หากสามารถพัฒนาการเรียนได้ มันจะดียิ่งกว่านี้!"“ฮ่า ผมว่าจะตั้งใจเรียนอยู่พอดีเลย”“อืม สู้ๆ อาจารย์จะสนับสนุนนาย”"ขอบคุณครับ"หลิ่วชิงเหยียนเปิดเบียร์ เทแก้วหนึ่งแล้วยื่นให้หลินโจว"ดื่มไหม?"“คุณครูหลิ่วครับ ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ สอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้วถึงจะบรรลุนิติภาวะ”"โอเค!"หลิ่วชิงเหยียนดื่มเองหนึ่งอึก สีหน้าดูเศร้าหมองเล็กน้อย“อันที่จริงแล้วเป็นวันเกิดที่ไม่มีความสุขเลย”ในตอนเช้าแต่งหน้าอย่างสวยงาม แต่กลับถูกบังคับให้ไปนัดบอด แม้แต่พิธีปฎิญาณตนหนึ่งร้อยวันของนักเรียนก็ยังไม่ได้เข้าร่วมต่อมา ยังถูกผู้ปกครองทั้งหลายร้องเรียน ว่าตนไปทำงานอื่นมากกว่างานหลักหลิ่วชิงเหยียนไม่รู้ว่า ทำไมชีวิตของตนถึงกลายเป็นแบบนี้“คุณครูหลิ่วครับ อันที่จริงผมคิดว่า ไม่จำเป็นต้องไปสนใจความคิดของคนเหล่านั้นหรอก”หลิ่วชิงเหยี
เมื่อฉินซูหลันได้ยินดังนี้ ก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะรู้ว่าสิ่งที่หลินฉางเจิงพูดหมายถึงอะไร เธอเอามือปิดปากเอาไว้น้ำตาแทบไหลแต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ยังคงส่ายหัว:“ไม่ได้ ฉางเจิง คุณลืมนิสัยของหลินโจวไปแล้วเหรอ? แม้ว่าวันนี้เขาจะให้คุณหาแม่ให้เขา แต่ถ้าเขาแค่อยากจะทดสอบคุณล่ะ?”“ถ้าเกิดเขารู้เรื่องของพวกเราแล้ว เริ่มโวยวายขึ้นมาล่ะ?”“เรื่องระหว่างฉันกับคุณเป็นเรื่องเล็ก แต่เขากำลังจะสอบเข้าวิทยาลัยนะ”“พวกเราจะทำให้เขาเสียเวลาไม่ได้”หลินฉางเจิงลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าในฐานะพ่อของหลินโจวหลินฉางเจิงเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเลี้ยงหลินโจวมาจนเติบใหญ่ด้วยตนเองตามลำพังดังนั้นเขาจึงรู้จักหลินโจวเป็นอย่างดีเด็กคนนี้ก่อเรื่องมาตั้งแต่เด็ก โตแล้วก็ยิ่งก่อเรื่องมากขึ้นวันนี้ ได้ยินอาจารย์ชมเชยหลินโจวจากปากของพวกเขา หลินฉางเจิงก็รู้สึกเหลือเชื่อแล้วคิดไม่ถึงว่า ยังจะได้ยินหลินโจวบอกให้เขาหาแม่สักคนให้เขาในเวลานั้น หลินฉางเจิงรู้สึกดีใจมากไม่ง่ายเลยที่เขากับฉินซูหลันจะได้อยู่ด้วยกัน พวกเขาคิดหาโอกาส ที่จะจัดการเรื่องเหล่านี้อยู่ตลอดเวลาแต่ว่า ฉินซูหลันพูดถูกหลินโจ
แต่ว่าเขารู้มานานแล้วว่า วิธีการที่สื่อสารที่ดีที่สุด ระหว่างพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด หรือระหว่างปู่ย่านั้น ก็คือการถูกต้องการแม้ว่าพวกเขาจะจู้จี้ขี้บ่น และตัดพ้อต่อว่าแต่ถ้าคุณเอาสิ่งที่พวกเขาเตรียมไว้ไปจริงๆ พวกเขาจะมีความสุขมากเช่นคนที่ไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลานาน ทุกครั้งที่กลับไปต่างก็ใช้รถหรูประเภทต่างๆ บรระจุมันฝรั่งและมันเทศจากที่บ้านและสิ่งของทุกอย่างที่หาซื้อได้ง่ายในเมืองและพ่อแม่ของพวกเขา ก็มีความสุขมากเฒ่าหลินก็เป็นคนเช่นนี้ชาติที่แล้ว หลินโจวรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งนี้มาก และมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าเฒ่าหลินกำลังจำกัดชีวิตของตนเองทั้งหัวขบถทั้งโง่เขลาในขณะนี้ เมื่อได้พบเฒ่าหลินอีกครั้ง หลินโจวจึงได้รู้ว่ามันมีค่าเพียงใด“โรงเรียนไม่อนุญาตให้นำอาหารไปไม่ใช่เหรอ?”ขณะที่หลินฉางเจิงพูด ก็ฮัมเพลงอย่างมีความสุข แล้วไปเตรียมตัวที่ห้องครัว“ผมแอบเอาไป”หลินโจวกลับไปที่ห้องนอน และเริ่มนำหนังสือคณิตศาสตร์กลับมาด้วยแม้ว่าเขาจะไม่สนใจคำพูดของโจวซานซานและคนอื่นๆแต่ในเมื่อตัดสินใจเรียนแล้ว ก็จะต้องพัฒนาขึ้นฟ่านอวิ๋นเจ๋อคนนี้ไม่ชอบตนเองมาโดยตลอด เอาเขาเป็นเป้าหมายแรกก็แล้ว
ถ้ารู้ว่าเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยสอบที่ไหน หลินโจวก็จะมีทิศทางในความพากเพียรสักวันหนึ่ง จะต้องเอาเธอมาโอบกอดไว้ในอ้อมแขนตลอดไปให้ได้ร่างเล็กๆของสวี่เนี่ยนชูชะงักครู่หนึ่ง“มหาวิทยาลัยเหรอ? ฉัน... ฉันยังไม่ได้คิดเลย”เธอดันแว่นตาของตนเองขึ้น สีหน้าหม่นหมองลงไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถเรียนมหาวิทยาลัยได้ไหมได้ยินมาว่าค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยแพงมาก ค่าครองชีพก็แพงมากเช่นกันครอบครัวไม่มีเงินแล้ว...“งั้นก็เริ่มคิดตั้งแต่ตอนนี้เลย?”พอดูสีหน้าของเธอ หลินโจวก็แทบจะเดาความคิดของเธอออก"ตอนนี้เหรอ?""ใช่ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย ยังมีเวลาอีกตั้งร้อยวัน ทันแน่นอน ""แต่ว่า……"“เธอจะต้องได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยแน่ เชื่อฉันสิ”หลินโจวพูดอย่างมั่นใจ จนหัวใจของสวี่เนี่ยนชูเต้นรัวจู่ๆเธอก็เริ่มโหยหาชีวิตในมหาวิทยาลัย“มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเป็นแบบไหนกันนะ?”สวี่เนี่ยนชูอาศัยอยู่ที่เมืองเจียงมาตั้งแต่เด็ก เมืองเจียงเป็นอำเภอเล็กๆ เธอจึงไม่เคยเห็นมหาวิทยาลัยมาก่อนเลยญาติของครอบครัวก็ยังไม่มีใครเคยเรียนมหาวิทยาลัยเลย"มหาวิทยาลัยน่ะเหรอ มหาวิทยาลัยสวยงามมากๆ จะได้พบปะกับผู้คนมากมายหลากหลา
จึงมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเธอเช่นกันสวี่เนี่ยนชูตกใจเล็กน้อย และก้มศีรษะลงทำยังไงดีทำยังไงดี?คนดูเยอะขนาดนี้เธอ……เธอท่องไม่ได้จริงๆเมื่อวานสามารถยืนขึ้นมาพูดแทนหลินโจวได้ เป็นเพราะความหุนหันพลันแล่นชั่ววูบล้วนๆหลินโจวช่วยเธอ เธอก็แค่อยากจะช่วยหลินโจวตามสัญชาตญาณจางซูฉีก็เป็นคนที่ดีมาก ไม่มีการวางมาดอวดเบ่งอะไรเธอพูดแค่สองประโยคแล้วก็นั่งลงแต่ตอนนี้ บทเรียนทั้งหมดต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามนาทีเพื่อนร่วมห้องทั้งหมดรวมทั้งอาจารย์ต่างก็พากันจ้องมองเธอ แถมยังเป็นภาษาอังกฤษอีกสวี่เนี่ยนชูลนลานมากแต่ก่อนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมต้นหมายเลขสอง เพราะเธอเป็นแบบนี้ ครูจึงไม่ถามคำถามเธอเลยสวี่เนี่ยนชูกังวลจนสมองตื้อไปหมด จู่ๆแม้แต่ศัพท์คำเดียวก็จำไม่ได้เลยเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด หวังหมิ่นก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง“สวี่เนี่ยนชู? ถ้าท่องไม่ได้ก็ถือหนังสือแล้วไปยืนที่ข้างหลัง!”สวี่เนี่ยนชูเงยหน้าขึ้นทันที รู้สึกแสบจมูกเธอท่องได้!เห็นได้ชัดว่าเธอท่องได้ทำไมถึงเป็นแบบนี้?เธอไม่อยากให้เป็นแบบนี้!“ครูครับ ผม...”ขณะนี้หลินโจว ก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปเขาหันหน้าไปด้านข้าง เห็นว
เช้าตรู่ของฤดูใบไม้ผลิ ฟ้าสางช้าเล็กน้อยตอนเลิกเรียนตอนเจ็ดโมงเช้า ข้างนอกยังมืดสลัวอยู่หลิวซื่อหมิงเร่งเร้าให้หลินโจวรีบไปทานข้าวหลินโจวมุ่งความสนใจไปที่เพื่อนร่วมโต๊ะน้อยเมื่อวานหลอกล่อเพื่อนร่วมโจ๊ะน้อยกินข้าวสองมื้อและลูกอมหนึ่งกำ วันนี้เธอฉลาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดข้าวของวันนี้ จะหลอกล่อยังไงดี?“หลิน หลินโจว”จู่ๆเสียงของสวี่เนี่ยนชูก็ดังขึ้น หลินโจวก็มองไปที่เธอ"มีอะไรเหรอ?"“วัน วันนี้ฉันมีเงินแล้ว เช้านี้ครูหลิ่วให้เงินฉันมาห้าร้อยบาท นายไม่ต้องให้ฉันกินอะไรแล้ว”“ครูหลิ่ว?”"ใช่ ใช่ เธอยังบอกด้วยว่าต่อไปจะให้เงินช่วยเหลือฉันห้าร้อยบาทต่อเดือน รอให้ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้วค่อยหาเงินมาคืนเธอ"หลังจากได้กินอาหารสองมื้อและลูกอมกระต่ายขาวกองหนึ่งของหลินโจว รวมทั้งปฏิกิริยาของหลินโจวในวันนี้ สวี่เนี่ยนชูแทบจะสามารถคอนเฟิร์มได้แล้วหลินโจวตั้งใจให้เธอกินแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไม แต่สวี่เนี่ยนชูรู้ว่า จะเป็นเช่นนี้ตลอดไปไม่ได้ดังนั้นวันนี้ ตอนที่หลิ่วชิงเหยียนบอกว่าจะให้เงินเธอ สวี่เนี่ยนชูครุ่นคิดสักพัก แล้วก็รับเงินมาในนามของการยืมและสัญญาว่าจะทำงานหาเงินมาค
สีหน้าของหลินโจวเคร่งขรึมลงหมวกใบนี้ ตอนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ห้า ในวันเกิดของอวิ๋นรั่วซี เขามอบให้เธอเป็นของขวัญอวิ๋นรั่วซีไม่เคยใส่มันมาก่อนเลยแต่วันนี้ ทำไมเธอถึงได้ใส่มัน?"มีอะไรเหรอ?"“นาย...เมื่อกี้นายเพิ่งจะกินข้าวกับผู้หญิงเหรอ?”ทันทีที่เข้าไปในโรงอาหาร อวิ๋นรั่วซีก็เห็นหลินโจวเดิมทีเธออยากจะเรียกหลินโจวให้มากินข้าวด้วยกัน แต่พอนึกได้ว่ากำลังมีปัญหากับหลินโจว จึงสาบานว่าจะเพิกเฉยต่อเขาสักสองสามวันอวิ๋นรั่วซีจึงไม่ได้สนใจแต่ว่า เธอไม่เคยละหางตาไปจากหลินโจวเลยแม้แต่น้อยพอเห็นหลินโจวเดินถือกล่องอาหารมาทางเธอ อวิ๋นรั่วซีครุ่นคิดถ้าหลินโจวมาหาเธอเพื่อขอโทษ บางทีเธออาจจะให้อภัยเขาสักนิดนึงก็ได้?อืม!เอาแบบนี้แหละ!ยังไงซะหลินโจวก็ไปแสดงละครกับผู้หญิงคนอื่นเพื่อทำให้เธอโกรธแล้วไว้หน้าเขาหน่อยก็แล้วกันแต่ที่ไหนได้เมื่อหลินโจวเดินมาถึงข้างเธอ กลับไม่หยุดเขาเดินตรงไปที่ข้างหลังเธออวิ๋นรั่วซีชะงักไป พอหันหน้ากลับไป ก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่อยู่ตรงมุมเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?เมื่อกี้หลินโจวไม่เห็นเธอเหรอ?ไม่ไม่ไม่!หลินโจวจะต้องเห็นเธอแล้วแน่ๆเขาทำแบบนี้ ยั
คาบที่สองในตอนเช้าเป็นวิชาภาษาจีนวันนี้หลิ่วชิงเหยียนสวมถุงเท้าหนาสีเนื้อท่อนล่างเป็นรองเท้าบูทยาวแมทช์กับกระโปรงสั้น ส่วนท่อนบนแมทช์กับเสื้อขนเป็ดที่สะดุดตายิ่งกว่าเมื่อวานเธอปล่อยผมสลายลงมา เป็นลอนยาว ริมฝีปากสีแดงที่พอเหมาะ ดูมีสไตล์ และมีเสน่ห์มากสวยกว่าดาราดังในโปสเตอร์บนหัวเตียงของผู้ชายเสียอีกพอเธอเข้าไปในห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ดังลั่น“ให้ตายเถอะ ครูหลิ่ว?”“ครูสวยสวยเกินไปแล้ว?”“พูดตามความจริงเลยนะ ถ้าครูแต่งตัวแบบนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ ผมคงจะสอบภาษาจีนได้ร้อยสามสิบคะแนน”หลิ่วชิงเหยียนเอาหนังสือเรียนวางไว้บนแท่นเวที มองลงไปที่ด้านล่างของแท่นเวทีด้วยรอยยิ้ม“ดีเลย งั้นพวกเธอทั้งหมดก็สอบให้ได้ร้อยสามสิบคะแนนให้ฉันเห็น ต่อไปครูจะใส่อย่างนี้ทุกวัน!”จะเห็นได้ว่า วันนี้เธอมีความสุขมากกว่าเมื่อวาน“จริงเหรอครับจริงเหรอครับ? งั้นผมจะต้องเริ่มขยันแล้ว!”"จริงแท้แน่นอน!"“เยี่ยมมาก ครูหลิ่วครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เริ่มเรียนตอนนี้เลย ผมไม่อยากพลาดโอกาสในการเรียนรู้แม้แต่วินาทีเดียว”“ฮ่าฮ่า ได้เลย ทุกคนเปิดสมุดแบบฝึกหัด! วันนี้พวกเราจะมาพูดถึงแบบฝึ
คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห
สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ
มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต
ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด
“ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก
อยากจะหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่กล้าฉินอวี่เถียนจึงทำได้แค่เพียงหดคอ และเดินไปข้างหน้าต่อไปใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้วใกล้จะเดินออกไปแล้วในเวลานี้ ทันใดนั้นฉินอวี่เถียนก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตรงคอของตนเองถูกคนคว้าเอาไว้เค้าโครงเรื่องในหนังผีมาสู่ความเป็นจริงฉินอวี่เถียนแทบจะเป็นบ้า!“อร๊าย~”เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมาจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ"เถียนเถียน"เอิ่ม?นี่คือ……เสียงของหลินโจว?ฉินอวี่เถียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นจริงอย่างที่คาดไว้เธอเห็นหลินโจวขี่จักรยาน มองดูเธออย่างขบขัน“ร้องอะไรน่ะ? นั่นก็แค่หนูตัวหนึ่งก็เท่านั้น และมันก็วิ่งหนีไปแล้ว”ฉินอวี่เถียน:“……”“นายนายนาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”“ก็มาส่งเธอไง พี่พูดคำไหนคำนั้น!”“แต่ว่าเมื่อกี้นาย...”“เมื่อกี้กลับไปยืมจักรยานที่โรงเรียนไง แบบนี้มันจะเร็วกว่า เธอก็คงจะไม่อยากให้ป้าฉินกังวลใช่ไหม?”"......"ฉินอวี่เถียนไม่มีอะไรจะพูดเมื่อนึกถึงการกระทำที่ขี้ขลาดเมื่อครู่นี้ เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปฉินอวี่เถียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วอธิบายอย่างข้างๆคูๆว่า:
สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่เถียนประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าหลินโจวกำลังช่วยเรื่องการเรียนของเพื่อนร่วมชั้นด้วย?แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจะน่ารำคาญนิดหน่อยแต่……หลินโจวเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จริงๆเหรอ?ฉินอวี่เถียนไม่อยากจะเชื่อเลย“ฉันเป็นพี่ชายของเธอ ฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ!”ฉินอวี่เถียนส่งเสียงเชอะ หันหลังกลับแล้วเดินไป“ฉันยอมรับตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เฮ้อ? สาวน้อยคนนี้ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฉันรู้ทางกลับบ้าน”ฉินอวี่เถียนหันกลับมาอย่างดื้อรั้น แล้วเดินกลับบ้าน“น้องสาวจริงๆเหรอ?”หลิวซื่อหมิงชะโงกศีรษะ ด้วยสีหน้าที่งุนงง"ก็จริงน่ะสิ!"“แต่ว่า พ่อของพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”“ฉันจะมีแม่เลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ?”"......"หลิวซื่อหมิงสำลักเขามองไปที่หลินโจวด้วยความประหลาดใจ: “พ่อของพี่หาแม่เลี้ยงให้พี่เหรอ? แถมยังพาน้องเลี้ยงมาอีกคนด้วย?”“นายเข้าใจถูกแล้ว”หลิวซื่อหมิงกลืนน้ำลาย หลังจากที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างผิวเผินแล้ว ก็เริ่มกังวลข
“ได้ครับ ขอบคุณครับครูจาง”ทันทีที่หลินโจวพูดจบ เขาก็ได้ยินฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดด้วยความโกรธ:“หลินโจว แม้ว่าจะเอาคลังโจทย์ข้อสอบเหล่านั้นให้นาย นายจะอ่านเข้าใจเหรอ?”พูดจบ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินโจวยืนอยู่ตรงหน้าจางซูฉี:“ครูจางคะ หนูก็ขอชุดหนึ่งค่ะ”“เธอจะเอาไปทำอะไร? เธอไม่จำเป็นต้องฝึกทำโจทย์ แค่รักษามาตรฐานในปัจจุบันของเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”"หนูอยากจะช่วยหลินโจวค่ะ"“อืม?”จู่ๆจางซูฉีก็นึกได้ว่าความก้าวหน้าของหลินโจวในช่วงนี้ สวี่เนี่ยนชูก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากให้เธอช่วยก็ดีเหมือนกัน"ได้ ครูจะเตรียมให้เธอด้วยหนึ่ง""ขอบคุณค่ะครู"สวี่เนี่ยนชูติดตามหลินโจวไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีดฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ......เขาหันศีรษะด้วยความโกรธแ ละพูดกับอวิ๋นรั่วซีว่า:"รั่วซี เธอดูสองคนนั้นสิโง่หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าครูจางให้มาเพียงพอแล้ว แต่ยังยืนกรานที่จะขอเพิ่ม กลยุทธ์ฝึกฝนทำโจทย์ใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคน พวกเราแค่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ .. "ยังไม่ทันได้พูดจบฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นอวิ๋นรั่วซีลุกยืนขึ้นเช่นกันสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลินโจวผู้ชายคนนี้