จางซูฉี ตัดสินใจให้โอกาส หลินโจวหลินโจวหันกลับมา ลบคำตอบของคำถามสองข้อเดิม และเริ่มเขียนคำถามคราวนี้เขาไม่หยุดหลังจากถามเพื่อนร่วมโต๊ะเกี่ยวกับคำถามสำคัญสุดท้ายนี้ในวันนี้ เขาก็เกิดความคิดใหม่ระหว่างคาบเรียน เขากำลังเขียนคำตอบบนแท็บเล็ต และผลลัพธ์ก็แสดงออกมาแล้วในฐานะที่เกิดใหม่ หลินโจวไม่ชอบเป็นคนมีชื่อเสียงแต่มีเด็กไร้ยางอายบางคนที่ยืนกรานจะสร้างปัญหาถ้าอย่างนั้นอย่าโทษเขาที่ตบหน้าคุณดังนั้นแล้วภายใต้การจ้องมองที่ตกตะลึงของทุกคน หลินโจวรีบเขียนและวาดบนกระดานดำหลังจากนั้นไม่นาน กระดานดำก็เต็มไปด้วยข้อความหลินโจวเขียนประโยคที่สมบูรณ์แบบไว้ที่มุมสุดท้ายของกระดานดำเพื่อจบคำถามหลังจากที่เขาหันกลับมา เขาพบว่า จางซูฉี ตกตะลึง"ครู?"จางซูฉี ตอบสนอง ยกมือขึ้นและเริ่มปรบมือ“มันน่าทึ่ง น่าทึ่งมาก! ครูไม่เคยคิดถึงแนวคิดในการแก้ปัญหานี้ด้วยซ้ำ! หลินโจว คุณเรียนรู้มันจากใคร?”"ฉันก็คิดไปเอง"“เยี่ยมมาก หลินโจว คุณซ่อนความแข็งแกร่งของคุณไว้หรือเปล่า? หากคุณสามารถรักษาระดับนี้ได้ คุณอาจสอบผ่านได้ อย่ายอมแพ้!”"ครับ"ปฏิกิริยาของ จางซูฉี กระทบถึง โจวซานซาน ซึ่งพร้อมที
หลินโจวคิดไม่ถึงว่า เพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยจะไม่มีอารมณ์ขันล้อเธอเล่นหน่อยเดียว กลับนั่งลงไปเลยยัยนี่โง่จริงๆเชียวดีที่เขาสายตาดีเห็นเร็ว ยังจับเธอไว้ได้ในตอนที่แขนตกลงมาบนมือ หลินโจวในใจก็เจ็บปวดแขนเล็กๆ นี้ เล็กผอมเกินไปเพื่อนร่วมโต๊ะผอม ผอมมากไปจริงๆทนหิวมานานแค่ไหนแล้ว อีกหน่อยจะต้องเพิ่มอาหารให้เสียแล้วสู่เนี่ยนชูไม่พบว่าหลินโจวผิดแผกไป เธอจับโต๊ะอย่างระมัดระวัง แล้วรีบสลัดตัวเองออกมาจากหลินโจว"ขอบคุณ"เธอก้มหน้า ค่อยๆ บรรจงขยับไปด้านข้างเมื่อมั่นใจว่าตัวเองรักษาสมดูลได้แล้ว เธอก็ไม่ขยับอีกหลินโจวพบว่า เพื่อนร่วมโตีะตัวน้อยนั่งแบบเอาก้นครึ่งหนึ่งวางไว้นอกเก้าอี้แขนของเธอมีข้างนึงอยู่ด้านนอก อีกข้างหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ พยายามจะรักษาความมั่นคงของร่างกายให้เร็วนี่เธอ...กำลังให้ที่กับเขาเธอคิดว่าที่เขาไม่พอนั่งเลยมานั่งเบียดเธอเหรอเมื่อคิดได้ถึงปัญหานี้ หลินโจวก็รู้สึกว่ามีอะไรมาจุกอยู่ในอกเขาขยับออกไปอีกด้าน ส่งซิกให้สู่เนี่ยนชู"ขยับเข้ามาหน่อย""หา"สู่เนี่ยนชูเงยหน้า มองเขาทีหนึ่งแล้วก็รีบก้มหน้าลงไป"ขอบ..ขอบคุณ"แม้ว่าจะขยับนั่งมาทางนี้ แต่ก็ยั
ฟ่านหยุนเจ๋อ เป็นตัวแทนของชั้นเรียนคณิตศาสตร์ และคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเขาเป็นที่หนึ่งในชั้นเรียนมาโดยตลอดและเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของชั้นเรียนเดิมทีโจวซานชานต้องการให้หลินโจวก้าวลงจากตำแหน่ง แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเองก่อนที่หลินโจวจะพูดได้ ฟ่านหยุนเจ๋อก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธเขาหันกลับไปและกลอกตาไปที่หลินโจว แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "เขาสมควรได้รับมัน" แล้วเดินออกจากห้องเรียนเมื่อเห็นสิ่งนี้ หลิวชื่อหมิง กำลังจะขึ้นไปเย็ด ฟ่านหยุนเจ๋อ แต่ถูก หลินโจว หยุดไว้หลิวชื่อหมิง ไม่พอใจเล็กน้อย:“พี่โจว อย่าห้ามผมนะ!”หลินโจว: "ฉันไม่ได้ห้ามนายนะ แต่เจ้าอ้วน ถ้าสุนัขกัด นายจะกัดกลับไหม?"หลิวชื่อหมิง: "อ่า หมายถึงอะไร?"ฉันไม่รู้ว่าใครตะโกน: "เขาด่าฟ่านหยุนเจ๋อว่าสุนัข"หลิวซื่อหมิง: "อา ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"ฟ่านหยุนเจ๋อเดินไปที่ประตู หยุดชั่วคราว กำหมัดแน่นแล้วเดินออกไปรอยยิ้มของ หลิวชื่อหมิง ยิ่งพูดเกินจริง!หลินโจวรู้สึกว่าทั้งอาคารกำลังสั่นสะเทือนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เขาจึงตัดสินใจตื่น... ไม่ ปลุกหลิวซือหมิง"เจ้าอ้วน!""หา"“
เงาร่างนั้นยังไม่ใกล้เข้ามา..หลินโจวได้ยินเสียงที่จู้จี้จุกจิกของเขา:“ครูจาง ครูจาง ฉันมาแล้ว!”“ฉันขอโทษนะคะครูจาง แต่เด็กเหลือขอของฉันคนนั้นทำให้นายเดือดร้อนอีกแล้ว!”“ครูจาง ฉันจะสอนบทเรียนให้เขาตอนนี้ คุณต้องไม่ไล่เขาออก! อย่างน้อยเขาก็ต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับบรรพบุรุษของฉันได้!”หลินฉางเจิ้ง!ผู้ชายคนนี้อายุสี่สิบกว่าแล้ว และมีผมหงอกแล้วครึ่งหนึ่งบางทีอาจเป็นเพราะเขากังวล เขาจึงเดินเซเล็กน้อยขณะเดินเขาลืมเคาะประตู เปิดประตูห้องทำงานของ จางซูฉี และเริ่มโค้งคำนับและขอโทษ:“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ อาจารย์จาง โปรดยกโทษให้หลินโจวด้วย ฉันสัญญาว่าจะไม่มีครั้งต่อไป”หลินโจวที่กำลังนั่งอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บจมูกเขาทนไว้และไม่ปล่อยให้น้ำตาไหลเขาลุกขึ้นจากโซฟาโดยไม่รู้ตัว“เฒ่าหลิน”ด้วยการตะโกนเพียงครั้งเดียว หลินโจวรีบรีบไปหาหลินฉางเจิ้งยี่สิบปีแล้วที่เราพบกันครั้งสุดท้ายในชาติที่แล้ว หลินโจววัย 18 ปีตระหนักว่าหยุนรัวซีกำลังหลอกลวงเขาจากนั้นเขาก็เริ่มต้นชีวิตที่เสื่อมโทรมของเที่ยวคลับทั้งกลางวันและกลางคืนหลินฉางเจิ้ง
เขาลดเสียงลงเพื่อให้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยินครึ่งประโยคสุดท้าย“หลินโจว ฉันไม่ได้เรียกพ่อของนายมา เป็นเหล่าพวกผู้ปกครองที่ไม่รู้เรื่องราวโทรหาเขา เขาไม่วางใจ อยากจะมาดูนาย กลัวว่าจะถูกไล่ออก "หลินฉางเจิ้ง หัวเราะเบา ๆ: "ฉันไม่กังวลเหรอ?"ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กคนนี้ถูกเรียกว่าพ่อแม่จางซูฉี ทำอะไรไม่ถูก:“คุณเชื่อไหมตอนนี้ โรงเรียนไม่มีแผนที่จะไล่หลินโจวจริงๆ พ่อแม่พวกนั้นไม่เข้าใจสถานการณ์และคิดว่าหลินโจวกำลังมีความรักตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ดอกกุหลาบของเขาอยู่ที่นั่นเพื่อครูของเรา”จางซูฉี ชี้ไปที่ดอกกุหลาบที่อยู่ตรงนั้นเป็นเวลาหนึ่งวันตรงมุมห้อง“เดิมทีฉันตั้งใจจะให้ครูไปคนละดอก แต่พวกเขาบอกว่าดอกไม้ทั้งช่อน่าจะดูดีกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงยืนกรานที่จะเอาดอกไม้ทั้งหมดมาที่นี่กับฉัน”“เฒ่าหลิน หลินโจวเป็นเด็กดี ฉันจะอธิบายให้ผู้ปกครองฟัง ไม่ต้องกังวล!”หลินฉางเจิ้งไม่อยากจะเชื่อเลย:"จริงๆ?"นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำชื่นชมจากอาจารย์หลินโจว!"แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง""นั่นก็ดี นั่นก็ดี!"เขาหัวเราะเบา ๆ และตบไหล่ของหลินโจวอย่างแรง“เด็กดี คราวนี้คุณทำได้ด
หลินโจวถูกหลินฉางเจิ้งดุเมื่อฉันเดินเข้าไปในห้องเรียน พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ในชั้นเรียนยังไม่กลับมาเวลามื้อเย็นนั้นค่อนข้างนาน สนามเด็กเล่นของโรงเรียนก็เปิดแล้วหลังจากเรียนมา 1 วัน นักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกไปสนามเด็กเล่นเพื่อพักผ่อนแน่นอนว่ายังมีคนที่ไปเดทแบบลับๆในนามของการพักผ่อนด้วยในสามแถวด้านหลังห้องเรียน สู่เนี่ยนชู นั่งอยู่คนเดียวมีหนังสือและขนมปังอยู่บนมือซ้ายของเธอในมือขวาของเขา เขายังถือขนมปังที่เคี้ยวไปแล้วด้วยราคาถูกมากในปี 2547 แม้แต่ในโรงเรียนก็ถูกกว่าด้วยซ้ำ ซาลาเปาชิ้นเล็กสองชิ้นมีราคาห้าสิบสตางค์หลินโจวกินได้แปดลูกในมื้อเดียว!บางที เนี่ยนชู อาจจะซื้อแค่หนึ่งหรือสองอันเท่านั้นหลินโจวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกไปก่อนที่ สู่เนี่ยนชู จะทันโต้ตอบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คว้าขนมปังจากมือของเธอ แล้วกัดเข้าไปสู่เนี่ยนชู เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จากนั้นก็ตัวแข็งตำแหน่งที่หลินโจวกินนั้นเป็นตำแหน่งที่เธอกัดนี่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่มักพูดกันในละครโทรทัศน์...จูบทางอ้อมเหรอ?เธอจูบหลินโจวหรือเปล่า?โอ้พระเจ้า!สู่เนี่ยนชู ไม่มีเวลาคิดว่าทำไม หลินโ
เมื่อกลิ่นหอมกระทบต่อมรับรส ก็ควบคุมไม่ได้อีกต่อไปสวี่เนี่ยนชูระงับความกลัวในใจเอาไว้ และเริ่มกินอย่างจริงจัง“เอ๊ะ? พี่โจว อะไรถึงได้หอมขนาดนี้ ให้ผมกินหน่อย?ผมหิวจะตายอยู่แล้ว…”พอหลิวซื่อหมิงที่กำลังคัดลอกข้อสอบอยู่ที่หน้าต่างได้กลิ่นหอม ก็รีบวิ่งเข้ามาทันทีเมื่อเห็นท่าทางของหลินโจวกับสวี่เนี่ยนชู เขาก็รีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว:“เอ่อ คือว่า ผมไม่หิวเลยสักนิด ผมล้อพวกพี่เล่นเฉยๆ เหอะๆ ลอกข้อสอบยังไม่เสร็จเลย เดี๋ยวผมจะไปลอกต่อ…”ทำไมข้อสอบของวันนี้ถึงได้จี๊ดใจขนาดนี้?สวี่เนี่ยนชูงุนงงเล็กน้อย เธอชี้ไปทางหลิวซื่อหมิงอย่างงุนงง:"เขาก็ไม่กินข้าวเหมือนกันใช่ไหม? เอาให้เขากินหน่อยไหม?"“ไม่ต้อง เขาลดน้ำหนักอยู่”เมื่อเห็นว่าสวี่เนี่ยนชูไม่เชื่อ หลินโจวจึงพูดอีกครั้งว่า:"ดูสิว่าเขาอ้วนขนาดไหน อ้วนมากไม่ดีต่อสุขภาพหรอก ปู่ของเขาเพราะอ้วนเกินไปจึงทำให้เลือดออกในสมองแล้วเสียชีวิต เขาต้องลดน้ำหนักแล้ว"สิ่งที่หลินโจวพูดนั้นเป็นความจริงใช่ว่าเขาให้หลิวซื่อหมิงลดน้ำหนัก แต่เป็นเพราะหลังจากที่เรียนจบมัธยมปลายเขาเริ่มกินตามอำเภอใจมากขึ้นภายหลังกินจนน้ำหนักถึงร้อยห้าสิบกิโลกรัม
พอเห็นหลินโจวออกไปข้างนอก เธอแทบรอไม่ไหวที่จะลุกขึ้นไปเรียนที่ห้องสามอวิ๋นรั่วซีกับหลี่เสี่ยวหว่านเพิ่งกลับมาจากกินข้าวพอดีพอเห็นเธอ อวิ๋นรั่วซีก็ขมวดคิ้ว:“โจวซานซาน?เธอมาพอดีเลย ฉันกำลังตามหาเธออยู่ วันนี้ฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับฟ่านอวิ๋นเจ๋อกับหลินโจวแล้วนะ เธอไปบอกฟ่านอวิ๋นเจ๋อว่า อย่าปัญญาอ่อนให้มันมากนัก เรื่องหลินโจวกับฉัน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา และบอกเขาว่าอย่าทำให้หลินโจวลำบากใจอีก!”ตอนที่ทานข้าว อวิ๋นรั่วซีได้ยินทุกอย่างหมดแล้วเธอโกรธมากแม้ว่าอยากจะสร้างปัญหาให้กับหลินโจว ก็ควรจะเป็นเธอที่ไปฟ่านอวิ๋นเจ๋อคือใคร?ทันทีที่เธอพูดจบ ก็เห็นฟ่านอวิ๋นเจ๋อถือชามข้าวมาจากทางด้านหลังสีหน้าของเขาดูแย่เล็กน้อย“รั่วซี”“อ้อ นายอยู่นี่ก็ดีแล้ว โจวซานซานจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูดอีกรอบ”ฟ่านอวิ๋นเจ๋อกำมือเอาไว้แน่น ไม่กล้าพูดอะไรสักคำทั้งหมดเป็นเพราะหลินโจวการทำข้อสอบจำลองครั้งนี้ เขาจะต้องทำให้หลินโจวได้เจอดีแน่!เขาไม่เชื่อว่า คนที่ไม่ผ่านวิชาคณิตศาสตร์ จะสอบได้คะแนนดีกว่าเขาพออวิ๋นรั่วซีพูดจบ ก็จูงมือหลี่เสี่ยวหว่านและกำลังจะจากไปโจวซานซานก็รีบขวางทางเธอเอาไว้:
คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห
สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ
มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต
ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด
“ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก
อยากจะหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่กล้าฉินอวี่เถียนจึงทำได้แค่เพียงหดคอ และเดินไปข้างหน้าต่อไปใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้วใกล้จะเดินออกไปแล้วในเวลานี้ ทันใดนั้นฉินอวี่เถียนก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตรงคอของตนเองถูกคนคว้าเอาไว้เค้าโครงเรื่องในหนังผีมาสู่ความเป็นจริงฉินอวี่เถียนแทบจะเป็นบ้า!“อร๊าย~”เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมาจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ"เถียนเถียน"เอิ่ม?นี่คือ……เสียงของหลินโจว?ฉินอวี่เถียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นจริงอย่างที่คาดไว้เธอเห็นหลินโจวขี่จักรยาน มองดูเธออย่างขบขัน“ร้องอะไรน่ะ? นั่นก็แค่หนูตัวหนึ่งก็เท่านั้น และมันก็วิ่งหนีไปแล้ว”ฉินอวี่เถียน:“……”“นายนายนาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”“ก็มาส่งเธอไง พี่พูดคำไหนคำนั้น!”“แต่ว่าเมื่อกี้นาย...”“เมื่อกี้กลับไปยืมจักรยานที่โรงเรียนไง แบบนี้มันจะเร็วกว่า เธอก็คงจะไม่อยากให้ป้าฉินกังวลใช่ไหม?”"......"ฉินอวี่เถียนไม่มีอะไรจะพูดเมื่อนึกถึงการกระทำที่ขี้ขลาดเมื่อครู่นี้ เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปฉินอวี่เถียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วอธิบายอย่างข้างๆคูๆว่า:
สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่เถียนประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าหลินโจวกำลังช่วยเรื่องการเรียนของเพื่อนร่วมชั้นด้วย?แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจะน่ารำคาญนิดหน่อยแต่……หลินโจวเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จริงๆเหรอ?ฉินอวี่เถียนไม่อยากจะเชื่อเลย“ฉันเป็นพี่ชายของเธอ ฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ!”ฉินอวี่เถียนส่งเสียงเชอะ หันหลังกลับแล้วเดินไป“ฉันยอมรับตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เฮ้อ? สาวน้อยคนนี้ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฉันรู้ทางกลับบ้าน”ฉินอวี่เถียนหันกลับมาอย่างดื้อรั้น แล้วเดินกลับบ้าน“น้องสาวจริงๆเหรอ?”หลิวซื่อหมิงชะโงกศีรษะ ด้วยสีหน้าที่งุนงง"ก็จริงน่ะสิ!"“แต่ว่า พ่อของพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”“ฉันจะมีแม่เลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ?”"......"หลิวซื่อหมิงสำลักเขามองไปที่หลินโจวด้วยความประหลาดใจ: “พ่อของพี่หาแม่เลี้ยงให้พี่เหรอ? แถมยังพาน้องเลี้ยงมาอีกคนด้วย?”“นายเข้าใจถูกแล้ว”หลิวซื่อหมิงกลืนน้ำลาย หลังจากที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างผิวเผินแล้ว ก็เริ่มกังวลข
“ได้ครับ ขอบคุณครับครูจาง”ทันทีที่หลินโจวพูดจบ เขาก็ได้ยินฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดด้วยความโกรธ:“หลินโจว แม้ว่าจะเอาคลังโจทย์ข้อสอบเหล่านั้นให้นาย นายจะอ่านเข้าใจเหรอ?”พูดจบ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินโจวยืนอยู่ตรงหน้าจางซูฉี:“ครูจางคะ หนูก็ขอชุดหนึ่งค่ะ”“เธอจะเอาไปทำอะไร? เธอไม่จำเป็นต้องฝึกทำโจทย์ แค่รักษามาตรฐานในปัจจุบันของเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”"หนูอยากจะช่วยหลินโจวค่ะ"“อืม?”จู่ๆจางซูฉีก็นึกได้ว่าความก้าวหน้าของหลินโจวในช่วงนี้ สวี่เนี่ยนชูก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากให้เธอช่วยก็ดีเหมือนกัน"ได้ ครูจะเตรียมให้เธอด้วยหนึ่ง""ขอบคุณค่ะครู"สวี่เนี่ยนชูติดตามหลินโจวไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีดฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ......เขาหันศีรษะด้วยความโกรธแ ละพูดกับอวิ๋นรั่วซีว่า:"รั่วซี เธอดูสองคนนั้นสิโง่หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าครูจางให้มาเพียงพอแล้ว แต่ยังยืนกรานที่จะขอเพิ่ม กลยุทธ์ฝึกฝนทำโจทย์ใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคน พวกเราแค่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ .. "ยังไม่ทันได้พูดจบฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นอวิ๋นรั่วซีลุกยืนขึ้นเช่นกันสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลินโจวผู้ชายคนนี้