“ในเมื่อเธออยากตายขนาดนั้น ทำไมไม่แทงตัวเอง แทนที่จะเล่นมายากลกระโดดตึกแบบนี้!” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเอือมระอา“ฉันก็คิดจะแทง...”ทันใดนั้น เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกว่าคำพูดของฮั่วเยี่ยนฉือมีบางอย่างที่ผิดปกติเธอกระโดดตึกตอนไหน?“คุณผู้หญิงคะ ในที่สุดคุณก็ฟื้นแล้ว”เวลานี้ ป้าหวังผู้เป็นสา
“เฉียวสือเนี่ยน เธอโวยวายพอหรือยัง และคิดจะโวยวายไปถึงเมื่อไร! ฮั่วเยี่ยนฉือกล่าวโทษอย่างโมโหและเย็นชาเฉียวสือเนี่ยนหัวเราะอย่างไม่มีเสียงออกมาเห็นได้ชัดว่า เธอต่างหากที่เป็นภรรยาของเขา แต่ท่าทางที่ฮั่วเยี่ยนฉือปฏิบัติต่อเธอกลับไม่ต่างจากคนนอกเลย“เยี่ยนฉือ คุณอย่าใจร้ายกับสือเนี่ยนมากนักสิคะ”เฉี
ญาติคนนี้ที่รักเธอมากที่สุด แม้แต่ตอนที่เสียชีวิตในชาติที่แล้ว เธอก็ยังไม่ได้พบหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำครั้งนี้ เธอจะต้องอยู่เคียงข้างและแสดงความกตัญญูเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้ผู้อาวุโสท่านผิดหวังอีกแล้วเพราะว่ายังมีบาดแผลอยู่ เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่กล้าไปพบคุณตาเธอทำได้แค่ระงับความตื่นเต้นและรีบ
เฉียวสือเนี่ยนหันกลับมา “ใครอนุญาตให้เธอเอาไปทิ้ง เก็บขึ้นมา!”พนักงานฝ่ายต้อนรับไม่กลัวเธอด้วยซ้ำ “ทำไมต้องเสียแรงเปล่าด้วยล่ะคะ ถึงอย่างไรท่านประธานก็คงไม่อ่านหรอก ทุกครั้งที่คุณส่งสิ่งของมา เขาก็ให้พวกเราเอาไปทิ้งหมดเลย!เมื่อก่อนเฉียวสือเนี่ยนเป็นห่วงว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะทำงานหนักเกินไป จึงยอมลำบาก
“เอาปากกามา!”“ท่านประธาน พวกประธานโจวกำลังรอท่านเซ็นสัญญาอยู่ เวลาจะไม่ทันแล้วครับ”โจวเทียนเฉิงเดินเข้ามากระซิบแจ้งเตือนนี่คือการร่วมงานสำคัญที่ ‘ฮั่ว กรุ๊ป’ เจรจาเป็นเวลานานแล้ว และเกือบจะล่าช้าเพราะเฉียวสือเนี่ยน!ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้สนใจเฉียวสือเนี่ยนอีก และรีบเดินไปทางประตูใหญ่กับโจวเทียนเฉิง
“ตระกูลฮั่วไม่ได้อัตคัดขัดสนจนถึงขั้นให้เธอหย่าออกไปตัวเปล่าหรอกนะ”ขณะที่เฉียวสือเนี่ยนมีแต่ความสงสัยอยู่เต็มใบหน้า ฮั่วเยี่ยนฉือก็กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันจะให้โจวเทียนเฉิงร่างข้อตกลงการจ่ายค่าชดเชยตามสมควรให้เธอใหม่หนึ่งฉบับ”“ไม่จำเป็น” เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธ “ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณเพราะเห็นแ
เขาเคยพูดเรื่องไว้หน้ากับเธอตอนไหน?เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกตลกเหลือเกินแบบนี้แสดงว่าฮั่วเยี่ยนฉือยังคงไม่เชื่อเธอสินะ คิดว่าเธอจะเอาเรื่องหย่าไปทำลายชื่อเสียงของเขาเพิ่งแต่งงานได้ปีเดียวก็หย่า แถมมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเด่อะไร เธอไม่มีทางเอาไปโพนทะนาข้างนอกหรอก“ฉันรับปากว่าจะไม่แพร่งพรายออกไปสักครึ่งคำ
เฉียวสือเนี่ยนลอบหัวเราะอยู่ในใจชาติก่อนเธอต้องทุกข์ทนรอตั้งแปดปี สุดท้ายก็แลกมาได้แค่ใบหย่ากับข่าวการแต่งงานใหม่ของเขากับป๋ายอีอีฮั่วเยี่ยนฉือจะมาตกหลุมรักเธอภายในช่วงเวลาสั้น ๆ สิบกว่าวันได้อย่างไร“ย่าพูดแค่ว่าถ้าหากเยี่ยนฉือได้รับรู้ถึงความดีแล้วหันมารักหนู หนูยังจะหย่ากับเขาอยู่ไหม?” คุณนายให
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั