แชร์

บทที่ 0009

ผู้เขียน: แมลงผลไม้
เมื่อเห็นว่าใครโทรมา สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือก็พลันอ่อนโยนลงหลายส่วน เขาปัดหน้าจอรับสาย

“เยี่ยนฉือ ใกล้ถึงเวลาประชุมที่ป๋อโจวแล้วนะคะ อีกนานไหมกว่าคุณจะถึงที่นี่?”

ในรถเงียบกริบ น้ำเสียงอ่อนหวานของป๋ายอีอีดังออกมาจากโทรศัพท์ของฮั่วเยี่ยนฉือ และคำพูดเหล่านั้นก็ทะลุเข้าหูเฉียวสือเนี่ยนครบทุกคำไม่มีขาดตกบกพร่อง

ไม่นานมานี้เขาซื้อธนาคารเพื่อการลุงทุนป๋อโจวมา โดยมีป๋ายอีอีดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

ชาติก่อน ป๋ายอีอีทำรายได้ให้ป๋อโจวเป็นกอบเป็นกำ จนได้รับสมญานามว่าราชินีแห่งบริษัท

ตอนนั้นเธอยอมรับไม่ได้ เพราะอยากเข้าบริษัทตระกูลฮั่ว เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองเหมือนกัน

ทว่ากลับถูกฮั่วเยี่ยนฉือเย้ยหยัน

‘เธอจะไปทำงานเนี่ยนะ? เธอรู้จักวิธีเอาตัวรอดในบริษัทหรือไง? ป๋ายอีอีต้องใช้เวลา ทุมแรงกายแรงใจไปตั้งมากมายกว่าจะได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการบริษัท แต่เธอคิดจะใช้คำพูดทะเยอทะยานไม่กี่คำมาพิสูจน์ตัวเองเนี่ยนะ?’

‘เฉียวสือเนี่ยน ฐานะทางบ้านของป๋ายอีอีไม่ได้มีเท่าเธอ แต่ป๋ายอีอีขยันสร้างความก้าวหน้าให้ตัวเอง ทั้งยังรู้หนังสือรู้มารยาท! ใครจะไปเหมือนเธอ ที่วัน ๆ นอกจากใช้อำนาจรังแกคนอื่นแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง!’

‘……’

“ได้ เอาแบบนั้นแหละ”

ฮั่วเยี่ยนฉือวางสาย

เฉียวสือเนี่ยนเองก็หลุดออกมาจากความทรงจำเช่นกัน

ใบหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือในชาติก่อนและปัจจุบันซ้อนทับกัน อยู่ ๆ เฉียวสือเนี่ยนพลันสัมผัสได้ว่าอากาศในรถเบาบางลง

“ผู้ช่วยโจว รบกวนจอดรถข้างทางหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากลงจากรถ”

“คุณผู้หญิงครับ แถวนี้เรียกรถยาก นั่งไปบริษัทกับท่านประธานฮั่วก่อน แล้วผมค่อยไปส่งคุณผู้หญิงอีกทีดีไหมครับ?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้ฉันลงตรงนี้ก็พอ”

เฉียวสือเนี่ยนไม่อยากอยู่กับฮั่วเยี่ยนสือนานไปกว่านี้ จะนานกว่าสักหนึ่งนาทีก็ไม่เอา

โจวเทียนเฉิงไม่ได้รีบจอดรถแต่อย่างใด ทว่ากลับมองฮั่วเยี่ยนฉือผ่านกระจกหลัง รอคอยคำสั่งของเขา

ฮั่วเยี่ยนฉือเห็นท่าทางทนไม่ได้ของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว โทสะพลันปะทุขึ้นมาในใจอีกครั้ง “จอดรถ ให้เธอลงไปเสีย!”

โจวเทียนเฉิงจอดรถเทียบข้างทางตามคำบัญชา

เฉียวสือเนี่ยนลงจากรถโดยไม่ลังเล แล้วเหวี่ยงปิดประตูรถ

“เฉียวสือเนี่ยน ถ้าเธอกล้าเอาเรื่องย่าฉันมาล้อเล่นอีกละก็ ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”

เฉียวสือเนี่ยนทำเป็นไม่ได้ยินคำเตือนของฮั่วเยี่ยนฉือ มุ่งเดินหน้าต่อไปโดยไม่หันหลังกลับไปมอง

ฮั่วเยี่ยนฉือโกรธขึ้งจนพูดไม่ออก สะบัดหน้ากลับไปทางโจวเทียนเฉิงพร้อมกล่าวด้วยความโมโห “ยังไม่ออกรถอีก ต้องรอให้ฟ้ามืดก่อนหรือไง?”

โจวเทียนเฉิง “……”

เฉียวสือเนี่ยนเรียกรถจากโทรศัพท์ ถึงแม้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพราะระยะทางที่ไกล แต่เธอก็สบายใจเหลือเกิน

เธอนั่งรถไปที่โรงพยาบาลก่อน ทำการตรวจสุขภาพที่นั่น โดยเน้นไปที่กระเพาะเป็นพิเศษ

ความเจ็บปวดจากโรคมะเร็งกระเพาะนั้นทรมานเกินไป ชาตินี้เธอจะต้องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี เพื่อขัดขวางโอกาสที่จะเกิดมะเร็งให้ได้ทุกทาง

ต้องรออีกสองสามวันผลตรวจถึงจะออก เฉียวสือเนี่ยนจึงกลับไปยังวิลลาหลงเถิง

กระเป๋าที่เธอเก็บของไว้เมื่อคืน ถูกป้าหวังนำของด้านในกลับไปวางไว้ที่เดิมเรียบร้อย

“คุณผู้หญิง วันนี้คุณผู้ชายจะกลับมาไหมคะ? จะให้เก็บของบางส่วนกลับเข้าไปหรือเปล่าคะ?” ป้าหวังเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง

เฉียวสือเนี่ยน “……”

ฉะนั้นแล้วในสายตาป้าหวัง คงคิดว่าที่เมื่อวานเธอเก็บของใส่กระเป๋าแล้วไปหย่านั้น เป็นเพราะรู้ว่าฮั่วเยี่ยนฉือต้องกลับมาแน่นอน ก็เลยจงใจแสดงละครให้เขาดูสินะ?

หมดสิ้นคำจะเอื้อนเอ่ย เฉียวสือเนี่ยนตัดป้าหวังออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยที่นำความลับไปบอกคุณย่าอยู่ในใจ

ใครกันนะที่ปากมาก?

อยากจะลากตัวออกมาตีเสียให้เข็ด

อีกเพียงนิดเดียวเธอก็จะตัดขาดกับฮั่วเยี่ยนฉือได้อยู่แล้วเชียว!

เธอตกปากรับคำคุณย่าไว้แล้ว เธอจะย้ายออกไปจากวิลล่าหลงเถิงไม่ได้ก่อนหย่าขาด ทำได้เพียงต้องอยู่ที่นี่ต่อเป็นการชั่วคราวเท่านั้น

……

หลังจากตื่นนอนในวันรุ่งขึ้น เฉียวสือเนี่ยนตัดสินใจไปเรียนขับรถ

ใบขับขี่ของเธอได้มาก็ตั้งแต่จบมัธยมปลายแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้แตะรถมาตั้งหลายปี จึงลืมวิธีขับไปหมดแล้ว

เพื่อที่ต่อไปจะได้เข้าออกได้สะดวก เธอจะต้องรื้อฟื้นทักษะนี้กลับคืนมาให้ได้เสียก่อน

ในมุมหนึ่งของโรงจอดรถมีรถมาเซราติที่คุณตามอบให้ตอนเธอแต่งงาน ทว่าเธอทำใจเอามาขับไม่ได้

ยิ่งดูจากฝีมือของเธอในตอนนี้แล้ว ถ้าเกิดไปขูดหรือไปชน ต้องใจสลายแน่

ดังนั้นเธอเลยเลือกรถของฮั่วเยี่ยนฉือมาส่งเดชสักคัน ขับออกไปด้วยทักษะที่ยังหลงเหลืออยู่

ไม่ง่ายเลยกว่าจะขับขึ้นถนนมาได้ เฉียวสือเนี่ยนไม่กล้าขับไปทางเขตเมืองที่ผู้คนหนาแน่น เลยเลือกขับช้า ๆ ไปทางที่ค่อนข้างสงบแทน

เธอรู้สึกเริ่มชินมือมากขึ้นในช่วงบ่ายที่เธอออกไปขับอีกครั้ง จึงเร่งความเร็วกว่าตอนขับช่วงเช้า

มีทางเลี้ยวโค้วอยู่ข้างหน้า ขณะที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังคิดอยากจะเลี้ยวไปนั้น ลูกหมาตัวหนึ่งก็วิ่งพรวดออกมา ทำให้เธอตกใจจนหักพวงมาลัยไปอีกทาง

เสียง “โครม” ดังสนั่น เธอชนเข้ากับรถคันหนึ่งที่ขับอยู่บนถนนสายหลัก

เห็นสีแลคเกอร์เป็นมันวาว พร้อมกับตรารถแวววาวเป็นประกายของอีกฝ่ายแล้ว คิ้วทั้งสองข้างของเฉียวสือเนี่ยนพลันเลิกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก ——

แพ้ตั้งแต่ยกแรกเลย ดันมาชนเข้ากับรถหรูเสียได้

โชคดีที่สังหรณ์ใจไม่ได้ขับรถของตัวเองออกมา ไม่อย่างนั้นได้เละแน่

คนขับรถคันข้างหน้าลงจากรถมาแล้ว เธอเองก็รีบลงไปเช่นกัน

“ขอโทษนะคะ เมื่อกี้ฉันไม่ทันสังเกต……”

อีกฝ่ายไม่ได้สนใจคำขอโทษของเธอเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ตั้งอกตั้งใจถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับโทรแจ้งความ ราวกับว่าเกิดเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

“ทำไมถึงได้ช้านักนะ?” น้ำเสียงหงุดหงิดดังออกมาจากด้านในรถ

“ขอโทษครับคุณชายโม่ ประเดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้วครับ”

หลังคนขับรถตอบกลับด้วยความเคารพยำเกรงเสร็จ ก็หันมากล่าวกับเฉียวสือเนี่ยน “รบกวนเอาใบขับขี่ออกมาให้ผมถ่ายรูปไว้ด้วยครับ แล้วก็กรุณาทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วยนะครับ อีกเดี๋ยวจะมีทนายความติดต่อไปครับ”

คนมีเงินเดี๋ยวนี้เขาจัดการอุบัติเหตุจราจรกันพิถีพิถันกันขนาดนี้แล้วเหรอ?

เฉียวสือเนี่ยนคว้าใบขับขี่ออกมาจากในรถแล้วยื่นให้

“เจ้าของรถชื่อฮั่วเยี่ยนฉือ รถคันนี้ไม่ใช่ของคุณนี่ครับ?”

“ของสามีฉันค่ะ ส่วนนี่เบอร์โทรศัพท์ของฉัน”

เฉียวสือเนี่ยนยื่นกระดาษที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ของเธอไปให้

“นี่นามบัตรของทนายครับ เขา……”

“เดี๋ยวก่อน”

เฉียวสือเนี่ยนกำลังคิดจะเอื้อมมือไปรับนามบัตร ประตูรถด้านหลังก็เปิดออก ขาเรียวยาวของผู้ชายคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0010

    ผู้ชายคนนี้มีหน้าตาหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ บนกายสวมใส่ชุดสูททรงสบายๆ สีขาว หากคนทั่วไปใส่ชุดแบบนี้ละก็ ต้องกลายเป็นหายนะทางแฟชั่นแน่ ทว่าเขากลับใส่แล้วกลับให้ความรู้สึกสูงส่ง แลดูภูมิฐานระคนเกียจคร้านมากกว่าเหมือนกับปีศาจร้ายเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับเคยเจอคนคนนี้ที่ไหนมาก่อน เพียง

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0011

    “คุณนายฮั่ว ฉันลืมถามเธอไปหนึ่งคำถาม” โม่ซิวหย่วนเอ่ยอย่างชั่วร้าย ถามเธอเหรอ? โม่ซิวหย่วนยกโทรศัพท์ตนเองขึ้นอย่างตั้งใจ “คุณนายฮั่วคิดว่าระหว่างฉันกับคุณฮั่ว ใครจะชนะพนันกันนะ?” จากท่าทางการยกโทรศัพท์ขึ้นของเขา เฉียวสือเนี่ยนก็เข้าใจทันทีว่าโม่ซิวหยวนหมายถึงอะไร ก่อนหน้าที่เธอริเริ่มเก็บหมายเลข

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0012

    รถของโม่ซิวหย่วนชนเข้ากับตัวกองโคลนปูนขนาดใหญ่บนไหล่ทาง ท้ายรถและตัวรถเองถูกชนจนไม่เหลือรูปทรงเดิมดูเหมือนรถของเขาจะพังยับกว่าฮั่วเยี่ยนฉือ เสียอีก ขณะนี้ เสียงรถพยาบาลก็ดังขึ้น ในไม่ช้าแพทย์ก็นำตัวโม่ซิวหย่วนออกจากรถโดยทันที “ไม่มีอาการบาดเจ็บหรือมีอาการกระดูกแตกหักอย่างชัดเจน เบื้องต้นวินิจฉั

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0013

    “จะไปไหนของเธอ มาทายาให้ฉันเดี๋ยวนี้!” “ขอโทษนะ พอดีฉันไม่ใช่หมอ และฉันเองก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องทำ” เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธอย่างเย็นชา ฮั่วเยี่ยนฉือยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเขาร้อนใจและเป็นกังวลมาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา เปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือ! “นี่ไ

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0014

    “ฉันได้ยินว่าฮั่วเยี่ยนฉือบาดเจ็บ เลยมาดูสักหน่อย สือเนี่ยน เธออย่าเข้าใจผิดไปนะ!” ป๋ายอีอีเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ รีบอธิบายอย่างทันที “คือฉันมีเอกสารที่ต้องเอามาให้เยี่ยนฉือเซ็น ฉันไปห้องทำงานของเข าจึงได้ยินผู้ช่วยพิเศษโจวบอกว่าเขาบาดเจ็บ เยี่ยนฉือไม่ได้เป็นคนบอกฉันเองนะคะ!” เธอพูดอะไรแล้วหร

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0015

    ฮั่วเยี่ยนฉือสวมเสื้อสูทสีดำ รูปร่างหน้าตาของเขาหล่อเหลาและสง่า กำลังเดินย่างกายเข้ามา เขามาได้อย่างไร? เมื่อเจอเธอ ดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือดูเย็นชาลงเล็กน้อย ราวกับเขาพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น หรือว่ายังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่? “คุณตาครับ” ขณะที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังสงสัย ฮั่ว

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0016

    “เธอดูเอาเอง!”ฮั่วเยี่ยนฉือโยนโทรศัพท์ให้เธอเฉียวสือเนี่ยนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา บนหน้าจอฉายวิดิโอจากกล้องวงจรปิดสถานที่ดูเหมือนจะเป็นโรงรถ มีผู้ชายสองคนสวมหมวกและหน้ากากอนามัย ด้อม ๆ มอง ๆ อย่างน่าสงสัยอยู่ที่มุมตึกไม่นาน ป๋ายอีอีที่สวมชุดสูทก็มาถึงลานจอดรถหลังกดล็อครถ ผู้ชายสองคนนั้นก็พุ่งเข้าหาเ

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0017

    หัวเราะอยู่ดี ๆ น้ำตาของเฉียวสือเนี่ยนก็ไหลออกมาฉากที่ถูกทุบตี ดุด่า และถูกทรมานในตอนที่ป่วยทางจิตเมื่อชาติก่อน วาบผ่านอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ขาดสายพยาบาลรับจ้างที่ดูแลเธอดูเหมือนจะแข็งแกร่ง จนสามารถดึงผมและลากเธออกไปได้แล้วก็ยังสามารถคว่ำโจ๊กเพียงชามเดียวของเธอด้วยฝ่ามือเดียวแถมตอนที่เธอปฏิเสธจะกิน

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0985

    เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0984

    ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0983

    หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0982

    แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0981

    พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0980

    หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0979

    พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0978

    เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน

  • เกิดใหม่ทั้งที งั้นขอหย่าเลยแล้วกัน   บทที่ 0977

    ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status