ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามดูเซียวเฉินเหยี่ยนดูเคร่งเครียดเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่เชิญเขาเข้าไปพักผ่อนในศาลาด้านข้าง ส่วนฉินอวี่จะเป็นหรือตาย คงต้องรอดูผลลัพธ์แล้วในศาลามีโต๊ะไม้มะฮอกกานีฝังด้วยหินอ่อน เป่ยซิวเยี่ยนและเซียวเฉินเหยี่ยนนั่งตรงข้ามกัน ส่วนคนอื่น ๆ นั่งพิงอยู่ที่ราวบันได ลู่หวายหนิงร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง ยืนอยู่ด้านล่างศาลา หันมองไปทางเรือนปีกไม่หยุด สีหน้าเต็มไปด้วยความร้อนรน“อาจารย์ หวายหนิงอยากไปดูสักหน่อย”เมื่อเจียหนิงได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ก็อยากตามไปด้วยเช่นกัน ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก ก็ถูกเซียวเฉินเหยี่ยนมองฟาดด้วยสายตาจนไม่กล้าส่งเสียงนางปิดปากเงียบอย่างไม่เต็มใจ“เจ้าไปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้” เป่ยซิวเยี่ยนหันมองลู่หวายหนิง จากนั้นจึงผละสายตาอย่างไม่แยแส พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้ความปรานี : “นั่งลง รอฟังข่าว”ได้ยินดังนั้น ลู่หวายหนิงก็นั่งลงหน้าจ๋อยมู่หว่านหรงกะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนโยนดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิ “นายน้อยไม่ต้องร้อนใจไป พระยาชาและหมอหลวงต่างอยู่กันครบ จะต้องมีหนทางอย่างแน่นอน”ลู่หวายหนิงหันมองนางด้วยสายตาเย็นชา ไม่ปิดบังความ
แววตาของเสิ่นหรูโจวเป็นประกายขึ้นมาทันที แอบรู้สึกโล่งใจไม่น้อย อาเจียนเลือดพิษออกมาแล้ว นั่นหมายความว่ารอดชีวิต !หมอหลวงตกตะลึงไปทันที รีบจับข้อมือข้างหนึ่งของฉินอวี่ขึ้นมา แล้วใช้สองนิ้วทาบลงไปที่ข้อมือชีพจรกลับมาเป็นปกติแล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ !เขาแสดงสีหน้าประหลาดใจ ไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง “รอดแล้ว ? รอดแล้วจริง ๆ ! ชีพจรก็เป็นปกติแล้ว ทุกอย่างปกติดีแล้ว !”เขาหันมองเสิ่นหรูโจวอย่างไม่อยากเชื่อ หญิงสาวหน้าตางดงามมีสีหน้าที่สงบนิ่ง อายุยังน้อยอยู่แท้ ๆ แต่ร่างกายกลับแผ่รัศมีที่ดูหนักแน่นมั่นคงออกมาในฐานะที่เป็นหมอ อาการบาดเจ็บของฉินอวี่ร้ายแรงเพียงใด เขารู้ดีกว่าใคร นี่เท่ากับดึงคนกลับมาจากประตูนรกเชียวนะเขารู้ดีว่าตนเองจนปัญญาที่จะช่วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเยาะเย้ยดูถูกเสิ่นหรูโจว คิดว่านางอายุยังน้อย ไม่มีทางที่จะมีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมเช่นนั้น คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่า สุดท้ายจะถูกนางช่วยกลับมาได้จริง ๆ !เมื่อนึกถึงคำพูดที่ตนเองดูถูกเยาะเย้ยเสิ่นหรูโจวเมื่อครู่ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว อับอายอย่างยิ่ง“พระชายา กระหม่อมมีตาหามีแววไม่ เมื่อครู่เสียมารยาทต่อพระชายา ขอพร
ลู่หวายหนิงขมวดคิ้ว กวาดสายตามองสองนายบ่าวอย่างไม่เป็นมิตร พวกนางต้องการผลักความดีความชอบไปให้หมอหลวง ซ้ำยังเหยียบย่ำพี่สาวคนสวยอีก ? ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก !“พวกท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นพี่สาวคนสวยเป็นคนออกแรง !”มู่หว่านหรงไม่แสดงสีหน้าร้ายกาจออกมาแม้แต่น้อย “ใช่แล้ว พระชายาออกแรงก็จริง เพียงแต่พระชายาอายุยังน้อย ความรู้ตื้นเขิน ย่อมไม่มีทักษะทางการแพทย์ที่เยี่ยมยอดอย่างเช่นหมอหลวงจางแน่นอน ถึงแม้นายน้อยจะเข้าข้างพระชายา แต่จะมองข้ามผมงานของหมอหลวงจางก็คงไม่ได้นะ”เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้ว แย่งชิงผลงานกันต่อหน้าเป่ยซิวเยี่ยนเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมจริง ๆ เสิ่นหรูโจวมีความสามารถมากน้อยเพียงใดเขาย่อมรู้ดี หวังให้นางช่วยคนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้“แน่นอนว่าหมอหลวงจางต้องเป็นผู้สร้างผลงานใหญ่ ช่วยคนกลับมาได้ต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่จพเป็นต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องพวกนี้”ตอนนี้เอง หมอหลวงจางกลับรีบโต้แย้งขึ้นมาว่า : “ช้าก่อน อ๋องอู่เฉิง พระชายารอง พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว การช่วยเหลือองครักษ์ฉินอวี่ครั้งนี้ต้องพึ่งพาพระชายาทั้งหมด กระหม่อมเป็นเพ
เสิ่นหรูโจวจ้องมองเป่ยซิวเยี่ยน “เขาจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ผู้สำเร็จราชการแทนพาตัวเขาไปเถอะนะ”สายตาพิจารณาของเป่ยซิวเยี่ยนจับจ้องมาที่ใบหน้าของเสิ่นหรูโจว นางมีใบหน้าที่สวยสดงดงาม แววตาบริสุทธิ์สดใสยากจะหาได้ ซ้ำยังแฝงไปด้วยความแน่วแน่ น้อยนักที่จะเห็นความสดใสงดงามและความดื้อรั้นรวมอยู่ในคนคนเดียวแววตาของเขามืดมนลงเล็กน้อยจนไม่อาจสังเกตเห็นได้ ยังไม่ทันได้พูดอะไร เจียหนิงก็ตะคอกออกมาเสียงดัง “ไม่ได้ !”“ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น เพิ่งช่วยชีวิตกลับมาได้ จะต้องพักฟื้นอย่างสงบ ให้เคลื่อนย้ายเขาไปมาในตอนนี้ เจ้าไม่อยากให้เขาหายดีหรืออย่างไร ?”มู่หว่านหรงมีสีหน้าตื่นตระหนก รีบพูดเสริมขึ้นมา“ท่านหญิงพูดถูก ตอนนี้ไม่สมควรเคลื่อนย้ายจริง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บรุนแรงกว่าเดิม ให้อยู่ที่จวนอ๋องไปก่อนเถิด รอให้อาการบาดเจ็บดีขึ้นสักหน่อย แล้วค่อยส่งกลับไปที่จวนผู้สำเร็จราชการแทน”ฉินอวี่จะไปไม่ได้ !หากเขาพักฟื้นอยู่ในจวน นางก็ยังมีโอกาสที่จะฆ่าเขา แต่หากพาตัวฉินอวี่ไปรักษาอาการบาดเจ็บอย่างดีละก็ เมื่อฉินอวี่ฟื้นขึ้นมาแล้วพูดความจริง นางต้องจบเห่แน่ !เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดค
นางมองเพียงแวบเดียว ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น แต่ในใจกลับยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นมาผู้สำเร็จราชการแทนที่ปกติเลือดเย็นไร้ความปรานี ทำไมถึงได้เชื่อฟังเสิ่นหรูโจว ? ไม่เห็นความปลอดภัยของฉินอวี่อยู่ในสายตาเลยสักนิด“ทำไมวันนี้ผู้สำเร็จราชการแทนถึงได้หูเบานัก ฟังคำพูดยุแยงเพียงไม่กี่ตำก็ตกปากรับคำนาง ? หรือว่า ผู้สำเร็จราชการแทนมีใจคิดปกป้อง ?”มู่หว่านหรงแอบนึกดีใจ เจียหนิงเป็นคนอารมณ์ร้อน เมื่อโมโหขึ้นมาก็ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ขอเพียงนางไม่ยอมเสียอย่าง ฉินอวี่ก็ไม่มีทางถูกพาตัวไปแน่ !เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้วโก่งขึ้นเล็กน้อย ถึงขั้นยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกสนุกชาติก่อนเจียหนิงอกใหญ่ไร้สมอง ชาตินี้ก็เช่นเดียวกัน นางเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ท่านหญิงผู้ยิ่งใหญ่ จะพูดจารนหาที่ตายออกมาสักกี่คำเมื่อเห็นเจียหนิงกล่าวโทษเป่ยซิวเยี่ยนออกมาเช่นนี้ เซียวเฉินเหยี่ยนก็มีสีหน้ามืดมนทันที และตำหนิออกมา“หุบปาก ! พูดไร้สาระไร ?”เจียหนิงกลับจ้องเขาตาเขม็ง ยิ่งเพิ่มเสียงสูงหนักกว่าเก่า“ข้าไม่ได้พูดไร้สาระ ! ท่านน้า ท่านดูผู้สำเร็จราชการแทนสิ ตั้งแต่เข้าจวนมา ก็เชื่อฟังคำพูดของเสิ่นหรูโจวมาตลอ
อะไรนะ ? !ผู้สำเร็จราชการแทนที่น่ากลัว กลับเห็นด้วยกับคำขอที่ไร้เหตุผลของพระชายา ? !ทุกคนต่างตกตะลึง ยากที่จะเชื่อเป่ยซิวเยี่ยนพูดขึ้นอย่างไม่แยแส เผยความเกียจคร้านออกมาเล็กน้อย คำเพียงไม่กี่คำเมื่อดังเข้าไปในหูของเจียหนิง กลับเป็นเหมือนดาบน้ำแข็ง ใบหน้าที่หยิ่งยโสของนางแข็งทื่อไปทันทีคิดไม่ถึงเลยว่าผู้สำเร็จราชการแทนจะฟังคำของเสิ่นหรูโจว จะลงโทษตบหน้านางร้อยครั้ง ! นางโตจนป่านนี้ ยังไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้มาก่อนเลย !เซียวเฉินเหยี่ยนตกตะลึงยิ่งกว่า คิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันเจียหนิงคือหลานสาวของเขา ถูกประคบประหงมมาแต่เด็ก จะถูกลงโทษเช่นนี้ได้อย่างไร ?เสิ่นหรูโจว ทำไมใจดำอำมหิตเพียงนี้ แก้แค้นด้วยเรื่องส่วนตัวเช่นนี้เลยหรือ ? !เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง : “ผู้สำเร็จราชการแทนโปรดใจเย็น จริงอยู่ที่เจียหนิงมีความผิด แต่ลงโทษเช่นนี้ ดูจะหนักเกินไปหน่อย ขอให้ผู้สำเร็จราชการแทนโปรดเมตตา ละเว้นนางสักครั้ง”ใบหน้าอันหล่อเหลาของเป่ยซิวเยี่ยน กลับปกคลุมไปด้วยรัศมีของความเย็นชา ทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเซียวเฉินเหยี่ยนเลยสักนิดแววตาของมู่หว่านหรงเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบแสดงท่า
เซียวเฉินเหยี่ยนให้คนอุ้มเจียงหนิงกลับเข้าห้องทันที แววตาเย็นเหยียบกวาดมองเสิ่นหรูโจวพร้อมด้วยใบหน้าที่หมองหม่นเจียงหนิงพูดจาไม่รู้กาลเทศะย่อมมีความผิด แต่เสิ่นหรูโจวก็ใช้กำลังอย่างไม่รู้จักหนักเบา คนที่นางตีคือหลานสาวแท้ ๆ ของเขา ถือเป็นการไม่ให้เกียรติเขาโดยสิ้นเชิง!“ท่านอุปราช คนหมดสติไปแล้ว ไม่ควรลงโทษต่อ! หากเป็นอะไรไปจริง ๆ องค์หญิงใหญ่ถามเอาความผิดขึ้นมาคงยากที่จะตอบ”เป่ยซิวเยี่ยนลูบลู่หวายหนิง เขาไม่ตอบเซียวเฉินเหยี่ยนแต่เบือนหน้าไปด้านข้างเล็กน้อยและดวงตาของเขาที่เหมือนสระน้ำลึกในคืนที่หนาวเหน็บไร้ก้นบึ้งตกลงที่ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวเงียบ ๆชุดยาวสีแดงทำให้คนดูมีเสน่ห์จับใจคน ใบหน้าละเอียดอ่อนและสวยงามราวกับเป็นภาพวาด แววตาเคลื่อนลงไปเห็นลำคอที่เนียนขาวและเรียวยาว ไหล่ที่ราวกับแกะสลักออกมากับเอวที่บางเฉียบหญิงสาวมีเสน่ห์และน่าหลงใหล แต่นางไม่ใช่คนอ่อนแอไม่มีกระดูก นางมีความเยือกเย็น เย่อหยิ่ง ดุร้ายและเฉียบคมเสิ่นหรูโจวเหมือนรู้สึกได้จึงหันหน้ามองไป นางตกไปอยู่ในสายตาของเป่ยซิวเยี่ยนเข้าโดยไม่ทันตั้งตัวรูปตาดุจหงส์คู่นั้นช่างงดงาม เป็นดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกโดย
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากก้นบึ้งของหัวใจแผ่กระจายออกไป เขาเจ็บถึงกระทั่งพูดไม่ออก สติกลับคืนมาทันใดและถอยหลังไปสองก้าวทุกคนเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเขาแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความผิดปกติ มู่หว่านหรงยังยื่นมือให้เขาพร้อมส่งสายตาเป็นห่วง “ท่านอ๋อง เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ”เสิ่นหรูโจวรู้สึกเหมือนกันว่าเขาดูผิดปกติ ดูเหมือนไม่ค่อยสบาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรเมื่อชาติก่อน นางรักเขาดุจชีวิต เพียงไม่สบายเล็กน้อยนางก็เป็นห่วงอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ แม้จะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ทำให้นางเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าการเป็นห่วงผู้ชายมีแต่จะประสบความซวยที่ยิ่งใหญ่เซียวเฉินเหยี่ยนเม้มริมฝีปากอันบอบบางแน่น เขาปัดมือมู่หว่านหรงออก แววตาจับจ้องเสิ่นหรูโจวผู้มีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์และเอาความกลัวในใจออกไปได้เลย“เจ้าจะไปจวนผู้สำเร็จราชการแทนจริง ๆ รึ”ใบหน้าที่สวยงามของเสิ่นหรูโจวไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แววตาเรียบนิ่ง “ดูเหมือนว่าสิ่งที่ข้าพูดไป ท่านเข้าใจดีแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ดี”เมื่อพูดเสร็จ นางกวาดสายตาเย็นชาให้กับมู่หว่านหรงแล้วหันหลังจากไปทันที