“แต่ข่าวลือยิ่งกระจายก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น พูดกันว่าพระชายาเป็นหมอเทวดาหาตัวจับยาก มิว่าโรคใด ๆ เพียงแค่อยู่ในมือนางก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ กระทั่งคนตายก็รักษาให้ฟื้นคืนชีพได้ ข้าน้อยคิดว่าข่าวลือเหล่านี้ค่อนข้างแปลก คล้ายมีคนจงใจกระจายข่าว” สีหน้าของลู่หวายหนิงสับสนเล็กน้อย ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ กระจายข่าวว่าทักษะแพทย์ของนางมหัศจรรย์ยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่ารู้ดีว่าอาจารย์จะกลับเมืองหลวงในเร็ววันนี้ ต้องการให้หมอไปดูอาการป่วย คิดจะผลักพี่สาวคนงามออกไป” เขาเคยอยู่ในจวนอ๋องมาก่อน รู้ดีว่าอ๋องอู่เฉิงปฏิบัติต่อเสิ่นหรูโจวได้ไม่ดีเลย พระชายารองผู้นั้นก็ยิ่งไม่มีไมตรีจิต จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฉินอวี่ยกมือแตะคาง สีหน้าดูไม่มีความสุข “กงฉางจื้อนั่นตายไปแล้ว หรือว่าจวนอ๋องอยากให้พระชายามารักษาอาการป่วยของนายท่านแทนเขา” เขาชะงักไปเล็กน้อย ขมวดคิ้วเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยอย่างกังวล: “แต่พระชายาได้กรีดเลือดตนให้พระชายารองผู้นั้น ตอนนี้นางร่างกายอ่อนแอมากจนนอนซมอยู่บนเตียงทั้งวัน" “อะไรนะ?!” ลู่หวายหนิงตกใจ ดวงตาใสราวผืนน้ำเบิกกว้างด้วย
เบื้องหลังของมู่หว่านหรงคือถงอวิ๋นและฉินอวี่! ทำไมเขาก็มาด้วยล่ะ? เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย เมินมู่หว่านหรงและสาวรับใช้ของนาง ก่อนจะเดินไปหาฉินอวี่ “ฉินอวี่ เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?” ฉินอวี่ประสานมือคารวะเสิ่นหรูโจว แล้วพูดขึ้น “ได้ยินมาว่าพระชายาไม่สบาย นายน้อยเป็นกังวลมาก จึงได้สั่งให้ข้านำของขวัญมาเยี่ยมท่านโดยเฉพาะ” “ข้าเข้าจวนอ๋องมา ตอนที่มุ่งหน้ามาที่นี่ก็พบกับพระชายารองเข้า” พูดจบ เขาก็มองไปที่มู่หว่านหรงด้วยท่าทางไร้ปรานี และมองระมัดระวัง มู่หว่านหรงซึ่งอยู่ด้านข้าง มองใบหน้าของเสิ่นหรูโจวพลางยิ้มเย้ยหยันในใจ ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวแดงระเรื่อ แลดูแข็งแกร่ง ท่าทางอ่อนแอเล็กน้อยอยู่ที่ใดกัน? แน่นอนว่าแสร้งทำเป็นน่าสงสาร เพื่อดึงดูดความสนใจของท่านอ๋อง! เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้ว รีบรับของจากมือของเขา บนใบหน้ามีรอยยิ้ม ทว่ากลับเอ่ยเร่งรัด “ของนี้ข้ารับไว้แล้ว ขอบคุณนายน้อยของเจ้าแทนข้าด้วยนะ ข้าไม่รั้งเจ้าแล้ว เจ้ารีบกลับไปรายงานเขาเถอะ” ฉินอวี่ยังไม่ทันได้ตอบกลับ มู่หว่านหรงก็พูดขึ้นเสียงค่อย “องครักษ์ฉินอวี่ไม่ต้องกังวล ข้าเห็นว่าพระชาย
ถงอวิ๋นกลัวสายตาของเขามากจนปากสั่น ทว่านางกลับขยับคอตั้งตรงแล้วพูด “องครักษ์ฉินอวี่เป็นคนของจวนผู้สำเร็จราชการแทน กลับเข้ามาจัดการเรื่องราวในจวนอ๋องอู่เฉิงของพวกเรา เข้ามาก้าวก่ายเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง!"ใบหน้าของฉินอวี่มืดลง ขณะที่กำลังจะตอบก็ถูกเสิ่นหรูโจวขัดจังหวะ หากล่าช้าไปอีก ฉินอวี่จะออกไปไม่ทันเวลา “เอาล่ะ ฉินอวี่ ข้าสบายดีจริง ๆ เจ้าไปเถอะ รีบกลับจวน...”ยังไม่ทันได้พูดจบ ลมเย็นวูบหนึ่งพัดพามาพร้อมแววเจตนาฆ่า เงาร่างสีดำหลายสิบร่างก็มาอยู่ตรงหน้าทันที มีแสงเย็นเฉียบ ดาบคมก็ทะลุผ่านสายลมมารูม่านตาของเสิ่นหรูโจวหดตัวลง “แย่แล้ว มากันแล้ว!”ดวงตาของฉินอวี่เป็นประกายแวววับ ดึงดาบออกมาจากเอวอย่างรวดเร็ว ก้าวยาว ๆ รีบรุดไปข้างหน้าเพื่อประมือกับมือสังหาร “พระชายาระวัง มีคนลอบสังหาร!” นักฆ่า จะมีนักฆ่าได้อย่างไร?! ใบหน้าของมู่หว่านหรงซีดขาวลงด้วยความตกใจยังไม่ทันที่จะได้คิดให้ดี ดาบยาวก็วาดมาตรงหน้านางแล้ว นางตกใจมากจนกรีดร้องซ้ำ ๆ ไม่หยุด นางกับถงอวิ๋นยกมือกุมหัวแล้ววิ่งไปทั่วมือสังหารสองสามคนชักดาบไปทางฉินอวี่พลางจ้องเสิ่นหรูโจวอย่างโหดเหี้ยมหัวใจของฉิน
มู่หว่านหรงเห็นปลายดาบเปื้อนเลือดบนเอวของฉินอวี่ก็ดึงมือกลับด้วยความหวาดกลัว ปิดปากไว้ สองขาอ่อนแรงก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้นมือสังหารดึงดาบออกมาอย่างคล่องแคล่ว กลุ่มเลือดก็กระเซ็น ฉินอวี่ยังไม่ทันได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก็ล้มลงบนพื้น สลบไปแล้วเสียงกรีดร้องของมู่หว่านหรงยิ่งหวีดแหลมขึ้น ในเวลานี้การมองเห็นของเสิ่นหรูโจวก็กลับมาเป็นปกติ เมื่อเห็นฉินอวี่นอนอยู่บนพื้นเลือดท่วมร่าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“ฉินอวี่!”นางรีบวิ่งไปหาฉินอวี่ทันที ก่อนจะโปรยผงพิษและเข็มพิษออกมาจำนวนมาก ในช่วงเวลาหนึ่งมือสังหารเหล่านั้นเห็นว่าไม่สามารถจัดการกับเสิ่นหรูโจวได้ ถึงกับคิดว่านางมีการเตรียมตัวมาอย่างดี จึงรีบถอนตัวออกไปเสิ่นหรูโจวไปตรวจดูอาการของฉินอวี่ทันที เห็นว่าท้องของเขาถูกแทง เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด และหมดสติไปแล้วมู่หว่านหรงนั่งอยู่บนพื้น ใบหน้าของนางขาวซีด ร่างกายสั่นเทา ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานานและถงอวิ๋นซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ เหลือบมองมู่หว่านหรงด้วยความตื่นตระหนกตกใจ สูดลมหายใจเข้าหลายครั้ง จากนั้นจึงเดินไปหามู่หว่านหรงนางเห็นมันทั้งหมดแล้ว เป็นพระชายารองที่ผลักอ
“เจ้าว่าอะไรนะ?”“อย่าพูดจาเหลวไหล พระชายาไม่ได้ตั้งใจแน่นอน นางน่าจะกลัวมากเกินไป” มู่หว่านหรงดุเบา ๆ ในขณะที่มองถงอวิ๋นอย่างพอใจถงอวิ๋นร้อนตัวทว่าระงับอารมณ์ไว้ สบตากับดวงตาบูดบึ้งของเซียวเฉินเหยี่ยน“ท่านอ๋อง สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริงทั้งหมด ข้าเห็นกับตาตัวเอง ในช่วงเวลาวิกฤติ พระชายาผลักองครักษ์ฉินอวี่ออกไปรับดาบเจ้าค่ะ!”“เรื่องนี้ ข้าก็ไม่กล้าโกหกหรอก ท้ายที่สุดแล้วองครักษ์ฉินอวี่ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงคนสนิทของนายน้อยลู่ ท่านอ๋อง พระชายาได้ทำร้ายคนไปแบบนี้แล้ว ถ้าเกิดวันหลังผู้สำเร็จราชการแทนมาขอคำอธิบาย จะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ?”“เสิ่นหรูโจว!” หลังจากที่เซียวเฉินเหยี่ยนเค้นสามคำนี้ลอดไรฟัน ดวงตาคู่หนึ่งเฉียบแหลมและโหดเหี้ยมราวกับนกอินทรี เดินไปยังเรือนพระชายาด้วยฝีเท้าราวกับสายลม“รีบไปเชิญหมอมา!”จบคำพูด เขาก็ก้าวเข้าไปในเรือน กลิ่นเลือดโชยกระทบจมูก ในเรือนเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มือสังหารในชุดดำนอนอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เสิ่นหรูโจวกำลังนั่งยอง ๆ มือเป็นระวิงอยู่ตรงหน้าร่างคนผู้หนึ่งเขาเดินไปหาเสิ่นหรูโจวอย่างรวดเร็ว มองลงไปเห็นว่าชายที่นอนอยู่บนพื้นคือฉินอวี่!เมื่อเห็นอากา
กล่าวเช่นนั้น เขาก็มองฉินอวี่ที่หมดสติ ก่อนจะเอ่ยอย่างเคร่งเครียด: “ส่งคนเข้าวังเชิญหมอหลวงมาให้เร็ว!"ในยามนี้ ไม่สนใจแล้วว่าจะทำให้รู้ไปถึงหูของผู้สำเร็จราชการแทนหรือไม่ ฉินอวี่เป็นองครักษ์ส่วนตัวที่ผู้สำเร็จราชการแทนจัดแจงให้อยู่ข้างกายลู่หวายหนิงโดยเฉพาะ ค่อนข้างได้รับความไว้วางใจและเห็นคุณค่าจากผู้สำเร็จราชการแทน จะมีเรื่องเกิดขึ้นกับเขาไม่ได้เด็ดขาดทหารยามหลายคนลงมือทันที จับเสิ่นหรูโจวไว้ นางถูกออกแรงดึงเข้าไปข้างในขณะที่หันกลับมาอย่างกังวลใจ “เซียวเฉินเหยี่ยน! ท่านฟังไม่เข้าใจภาษาคนหรือ? ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพวิกฤติ คนที่อยู่ที่นี่มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้!”นางเพิ่งถอนพิษให้ฉินอวี่ไป ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาปริมาณเลือดที่ออกมาได้ แต่ก็พ้นขีดอันตรายแล้วและที่น่ากลัวที่สุดคือ ตอนนี้นางกำลังถูกปรักปรำ มู่หว่านหรงกล่าวหาว่านางผลักฉินอวี่ไปรับดาบแทน แต่การโต้เถียงกลับไม่มีประโยชน์เลย ชื่อเสียงของนางแย่มาก ไม่มีใครเชื่อนางหรอกแต่นางก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ฉินอวี่น่าจะมีความสามารถป้องกันตัวเองได้ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาได้อย่าง
“เจ้านายของเจ้าทำความผิด เจ้าเป็นสาวรับใช้ต่ำต้อยก็มีความผิดเช่นกัน ขังไว้ในห้องซะ!”ในยามนี้ ด้านนอกประตูจวนอ๋องมีม้าแดงถูกควบเข้ามาหญิงสาวในชุดสีม่วงลงจากหลังม้า ใบหน้างามไปด้วยความรีบร้อน เร่งรุดเข้าไปในจวนอ๋องทหารยามเฝ้าประตูเห็นนางก็ไม่ได้หยุดนางไว้ ประสานมือคารวะพร้อมกับส่งเสียงออกไป: “คารวะท่านหญิง”หญิงสาวไม่ละสายตาไปมอง ในมือยังคงถือแส้ม้าและเดินฉับไว ก้าวเข้าไปอย่างรีบร้อนและรวดเร็วนางที่อยู่ในวังหลวงได้ยินว่าท่านน้ากำลังตามหาหมอหลวงอยู่ ครั้นนางเอ่ยถาม ปรากฏว่าฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส!นางขี่ม้าเร็วมาทันที ตลอดทางชนกับผู้คนที่สัญจรไปมานับไม่ถ้วน นางเดินอย่างเร่งรีบ เพียงแค่อยากเห็นฉินอวี่เร็ว ๆ เท่านั้นเมื่อเลี้ยวตรงหัวมุมก็พบกับมู่หว่านหรงพอดีมู่หว่านหรงและถงอวิ๋นเพิ่งออกมาจากเรือนพระชายา ไม่คาดคิดว่าจะพบกับหญิงสาวที่กำลังรีบร้อนอยู่นางแย้มรอยยิ้มก่อนเอ่ยทักทาย: “ท่านหญิงมาแล้ว”หญิงสาวในชุดสีม่วงเห็นนางจึงหยุดฝีเท้าลง ทว่าไม่มีเวลาทักทายนาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ: “ได้ยินมาว่าที่จวนอ๋องมีเรื่องเกิดขึ้น ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”น้ำเ
ทหารยามที่คอยเฝ้าประตูมองหน้ากัน มีความลำบากใจเล็กน้อยแต่พวกเขารู้แน่ชัดว่าผู้สูงศักดิ์น้อยคนนี้เอ่ยคำไหนคำนั้นและมุทะลุมาก แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง แต่เนื่องจากท่านหญิงออกปาก พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรอีก จึงเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เสิ่นหรูโจวที่กว่าจะสงบลงได้ถูกลากออกมาสองมือของเสิ่นหรูโจวถูกมัดไพล่หลัง ผมเผ้ายุ่งเหยิงตกลงมา บนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนทั้งดินและเลือด ท่าทางมีความทุลักทุเลอยู่บ้าง แต่ใบหน้าอันได้รูปยังคงงดงามอย่างน่าประหลาดใจนางเงยหน้า เห็นมู่หว่านหรงและถงอวิ๋นสองนายบ่าวจึงยกยิ้มเย็นที่มุมริมฝีปาก ดวงตาขยับเล็กน้อย และหญิงสาวในชุดสีม่วงก็เข้ามาในสายตา สีหน้ามีความอดกลั้นเล็กน้อยท่านหญิงเจียหนิงอยู่ที่นี่ด้วยหรือ?แต่ก็ใช่ ในชาติก่อนนางรู้ว่าเจียหนิงชอบฉินอวี่มาเสมอ แต่คนทั้งคู่ในสถานะแตกต่างกันมาก เมื่อตระหนักว่าไร้วาสนา เจียหนิงจึงทำได้เพียงละทิ้งความเพ้อฝัน ต่อมา เลือกที่จะแต่งงานเพื่อบัลลังก์ฮ่องเต้ของเซียวเฉินเหยี่ยน ในที่สุดก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในทะเลสาบในขณะนี้ นางมองท่าทางอาฆาตของเจียหนิง เป็นไปได้มากว่าคงเชื่อคำปรักปรำของมู่หว่านหรง และมาชำระบัญชีกับ