มู่หว่านหรงเห็นปลายดาบเปื้อนเลือดบนเอวของฉินอวี่ก็ดึงมือกลับด้วยความหวาดกลัว ปิดปากไว้ สองขาอ่อนแรงก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้นมือสังหารดึงดาบออกมาอย่างคล่องแคล่ว กลุ่มเลือดก็กระเซ็น ฉินอวี่ยังไม่ทันได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก็ล้มลงบนพื้น สลบไปแล้วเสียงกรีดร้องของมู่หว่านหรงยิ่งหวีดแหลมขึ้น ในเวลานี้การมองเห็นของเสิ่นหรูโจวก็กลับมาเป็นปกติ เมื่อเห็นฉินอวี่นอนอยู่บนพื้นเลือดท่วมร่าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“ฉินอวี่!”นางรีบวิ่งไปหาฉินอวี่ทันที ก่อนจะโปรยผงพิษและเข็มพิษออกมาจำนวนมาก ในช่วงเวลาหนึ่งมือสังหารเหล่านั้นเห็นว่าไม่สามารถจัดการกับเสิ่นหรูโจวได้ ถึงกับคิดว่านางมีการเตรียมตัวมาอย่างดี จึงรีบถอนตัวออกไปเสิ่นหรูโจวไปตรวจดูอาการของฉินอวี่ทันที เห็นว่าท้องของเขาถูกแทง เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด และหมดสติไปแล้วมู่หว่านหรงนั่งอยู่บนพื้น ใบหน้าของนางขาวซีด ร่างกายสั่นเทา ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานานและถงอวิ๋นซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ เหลือบมองมู่หว่านหรงด้วยความตื่นตระหนกตกใจ สูดลมหายใจเข้าหลายครั้ง จากนั้นจึงเดินไปหามู่หว่านหรงนางเห็นมันทั้งหมดแล้ว เป็นพระชายารองที่ผลักอ
“เจ้าว่าอะไรนะ?”“อย่าพูดจาเหลวไหล พระชายาไม่ได้ตั้งใจแน่นอน นางน่าจะกลัวมากเกินไป” มู่หว่านหรงดุเบา ๆ ในขณะที่มองถงอวิ๋นอย่างพอใจถงอวิ๋นร้อนตัวทว่าระงับอารมณ์ไว้ สบตากับดวงตาบูดบึ้งของเซียวเฉินเหยี่ยน“ท่านอ๋อง สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริงทั้งหมด ข้าเห็นกับตาตัวเอง ในช่วงเวลาวิกฤติ พระชายาผลักองครักษ์ฉินอวี่ออกไปรับดาบเจ้าค่ะ!”“เรื่องนี้ ข้าก็ไม่กล้าโกหกหรอก ท้ายที่สุดแล้วองครักษ์ฉินอวี่ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงคนสนิทของนายน้อยลู่ ท่านอ๋อง พระชายาได้ทำร้ายคนไปแบบนี้แล้ว ถ้าเกิดวันหลังผู้สำเร็จราชการแทนมาขอคำอธิบาย จะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ?”“เสิ่นหรูโจว!” หลังจากที่เซียวเฉินเหยี่ยนเค้นสามคำนี้ลอดไรฟัน ดวงตาคู่หนึ่งเฉียบแหลมและโหดเหี้ยมราวกับนกอินทรี เดินไปยังเรือนพระชายาด้วยฝีเท้าราวกับสายลม“รีบไปเชิญหมอมา!”จบคำพูด เขาก็ก้าวเข้าไปในเรือน กลิ่นเลือดโชยกระทบจมูก ในเรือนเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มือสังหารในชุดดำนอนอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เสิ่นหรูโจวกำลังนั่งยอง ๆ มือเป็นระวิงอยู่ตรงหน้าร่างคนผู้หนึ่งเขาเดินไปหาเสิ่นหรูโจวอย่างรวดเร็ว มองลงไปเห็นว่าชายที่นอนอยู่บนพื้นคือฉินอวี่!เมื่อเห็นอากา
กล่าวเช่นนั้น เขาก็มองฉินอวี่ที่หมดสติ ก่อนจะเอ่ยอย่างเคร่งเครียด: “ส่งคนเข้าวังเชิญหมอหลวงมาให้เร็ว!"ในยามนี้ ไม่สนใจแล้วว่าจะทำให้รู้ไปถึงหูของผู้สำเร็จราชการแทนหรือไม่ ฉินอวี่เป็นองครักษ์ส่วนตัวที่ผู้สำเร็จราชการแทนจัดแจงให้อยู่ข้างกายลู่หวายหนิงโดยเฉพาะ ค่อนข้างได้รับความไว้วางใจและเห็นคุณค่าจากผู้สำเร็จราชการแทน จะมีเรื่องเกิดขึ้นกับเขาไม่ได้เด็ดขาดทหารยามหลายคนลงมือทันที จับเสิ่นหรูโจวไว้ นางถูกออกแรงดึงเข้าไปข้างในขณะที่หันกลับมาอย่างกังวลใจ “เซียวเฉินเหยี่ยน! ท่านฟังไม่เข้าใจภาษาคนหรือ? ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพวิกฤติ คนที่อยู่ที่นี่มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้!”นางเพิ่งถอนพิษให้ฉินอวี่ไป ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาปริมาณเลือดที่ออกมาได้ แต่ก็พ้นขีดอันตรายแล้วและที่น่ากลัวที่สุดคือ ตอนนี้นางกำลังถูกปรักปรำ มู่หว่านหรงกล่าวหาว่านางผลักฉินอวี่ไปรับดาบแทน แต่การโต้เถียงกลับไม่มีประโยชน์เลย ชื่อเสียงของนางแย่มาก ไม่มีใครเชื่อนางหรอกแต่นางก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ฉินอวี่น่าจะมีความสามารถป้องกันตัวเองได้ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาได้อย่าง
“เจ้านายของเจ้าทำความผิด เจ้าเป็นสาวรับใช้ต่ำต้อยก็มีความผิดเช่นกัน ขังไว้ในห้องซะ!”ในยามนี้ ด้านนอกประตูจวนอ๋องมีม้าแดงถูกควบเข้ามาหญิงสาวในชุดสีม่วงลงจากหลังม้า ใบหน้างามไปด้วยความรีบร้อน เร่งรุดเข้าไปในจวนอ๋องทหารยามเฝ้าประตูเห็นนางก็ไม่ได้หยุดนางไว้ ประสานมือคารวะพร้อมกับส่งเสียงออกไป: “คารวะท่านหญิง”หญิงสาวไม่ละสายตาไปมอง ในมือยังคงถือแส้ม้าและเดินฉับไว ก้าวเข้าไปอย่างรีบร้อนและรวดเร็วนางที่อยู่ในวังหลวงได้ยินว่าท่านน้ากำลังตามหาหมอหลวงอยู่ ครั้นนางเอ่ยถาม ปรากฏว่าฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส!นางขี่ม้าเร็วมาทันที ตลอดทางชนกับผู้คนที่สัญจรไปมานับไม่ถ้วน นางเดินอย่างเร่งรีบ เพียงแค่อยากเห็นฉินอวี่เร็ว ๆ เท่านั้นเมื่อเลี้ยวตรงหัวมุมก็พบกับมู่หว่านหรงพอดีมู่หว่านหรงและถงอวิ๋นเพิ่งออกมาจากเรือนพระชายา ไม่คาดคิดว่าจะพบกับหญิงสาวที่กำลังรีบร้อนอยู่นางแย้มรอยยิ้มก่อนเอ่ยทักทาย: “ท่านหญิงมาแล้ว”หญิงสาวในชุดสีม่วงเห็นนางจึงหยุดฝีเท้าลง ทว่าไม่มีเวลาทักทายนาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ: “ได้ยินมาว่าที่จวนอ๋องมีเรื่องเกิดขึ้น ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”น้ำเ
ทหารยามที่คอยเฝ้าประตูมองหน้ากัน มีความลำบากใจเล็กน้อยแต่พวกเขารู้แน่ชัดว่าผู้สูงศักดิ์น้อยคนนี้เอ่ยคำไหนคำนั้นและมุทะลุมาก แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง แต่เนื่องจากท่านหญิงออกปาก พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรอีก จึงเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เสิ่นหรูโจวที่กว่าจะสงบลงได้ถูกลากออกมาสองมือของเสิ่นหรูโจวถูกมัดไพล่หลัง ผมเผ้ายุ่งเหยิงตกลงมา บนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนทั้งดินและเลือด ท่าทางมีความทุลักทุเลอยู่บ้าง แต่ใบหน้าอันได้รูปยังคงงดงามอย่างน่าประหลาดใจนางเงยหน้า เห็นมู่หว่านหรงและถงอวิ๋นสองนายบ่าวจึงยกยิ้มเย็นที่มุมริมฝีปาก ดวงตาขยับเล็กน้อย และหญิงสาวในชุดสีม่วงก็เข้ามาในสายตา สีหน้ามีความอดกลั้นเล็กน้อยท่านหญิงเจียหนิงอยู่ที่นี่ด้วยหรือ?แต่ก็ใช่ ในชาติก่อนนางรู้ว่าเจียหนิงชอบฉินอวี่มาเสมอ แต่คนทั้งคู่ในสถานะแตกต่างกันมาก เมื่อตระหนักว่าไร้วาสนา เจียหนิงจึงทำได้เพียงละทิ้งความเพ้อฝัน ต่อมา เลือกที่จะแต่งงานเพื่อบัลลังก์ฮ่องเต้ของเซียวเฉินเหยี่ยน ในที่สุดก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในทะเลสาบในขณะนี้ นางมองท่าทางอาฆาตของเจียหนิง เป็นไปได้มากว่าคงเชื่อคำปรักปรำของมู่หว่านหรง และมาชำระบัญชีกับ
“ดังนั้นท่านอ๋องจึงสั่งให้ข้าน้อยเข้าวังโดยเร็ว เชิญหมอหลวงไปรักษาเขาขอรับ!”หัวใจของลู่หวายหนิงตึงเครียดทันที ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความกังวล “จะเป็นไปได้อย่างไร”เขาจัดแจงให้ฉินอวี่ไปจวนอ๋องอู่เฉิง แล้วทำไมถึงได้บังเอิญถูกลอบสังหารอย่างนี้ล่ะ?!“พระชายาอ๋องอู่เฉิง?” คนในรถม้าเอ่ยห้าคำนี้ เสียงของเขาทุ้มต่ำ เนิบนาบและไร้อารมณ์ฉินหมิงก้มศีรษะลงและตอบทันที: “นายท่าน พระชายาอ๋องอู่เฉิงเป็นบุตรีของแม่ทัพเสิ่น นามเสิ่นหรูโจวขอรับ”“นางไม่ต่างจากลูกผู้ดีมีเงิน รักเดียวต่ออ๋องอู่เฉิง ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้นางทุบตีบุตรีขุนนางในบ้าน และที่ทำร้ายผู้หญิงในบ้าน ทั้งหมดก็เพราะหึงหวงและมักจะมีชื่อเสียงฉาวโฉ่อยู่เสมอ”“ถ้าเป็นการปกป้องชีวิตตน นางสามารถทำเรื่องอย่างเช่นการผลักฉินอวี่ออกมารับดาบแทนได้อย่างแน่นอน”จู่ ๆ ลู่หวายหนิงก็เริ่มกังวลเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด: “อาจารย์ พี่หญิงคนงามไม่ใช่คนแบบนั้น ข้าได้รู้จักกับพี่หญิงคนงามแล้ว นางเป็นคนที่มีจิตใจดี และจะไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้แน่ เรื่องนี้คงจะมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่นอน”เรื่องอาการบาดเจ็บของฉินอวี่อย่างไรก็ต้องมีคำอธิบาย แ
ใบหน้าของลู่หวายหนิงจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่น “อาจารย์ แม้ว่าข้ากับพี่หญิงคนงามจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่นางก็เป็นคนดีและน่าเชื่อถือจริง ๆ นะขอรับ”“ท่านอย่าฟังคำพูดของคนเหล่านี้ฝ่ายเดียว เชื่อง่าย ๆ ว่านางทำร้ายคน หวายหนิงคิดว่า เรื่องของฉินอวี่จะต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่นอน! เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือการช่วยเหลือฉินอวี่ รอจนกว่าจะช่วยเขาได้ ทุกอย่างก็จะพูดคุยกันง่ายขึ้น!”เด็กชายตัวสั่นเมื่อได้ยินแบบนี้พลางลอบบ่นกับตัวเองแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นพระชายาผลักคนมารับดาบด้วยตาตัวเอง แต่เขาได้ยินสิ่งที่สาวรับใช้พูดกับหูตัวเอง ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่กล้าแพร่งพรายข่าวลือหมอหลวงมีเหงื่อเย็นหยดย้อยลงมา ไม่กล้าพูดอะไรสักคำชายในเกี้ยวนั่งอยู่ท่ามกลางแสงสว่างและความมืดมิด ดวงตาเฉยเมย ในน้ำเสียงเฉียบคมไม่แยแสต่อสิ่งใด“ไม่ง่ายเลยที่เจ้าจะมีคนที่เข้าตา ถ้าอย่างนั้นก็พาข้าไปพบหน่อยเถอะ”เสียงของเป่ยซิวเยี่ยนเยือกเย็น ไร้อารมณ์ใด ๆ แต่ฉินหมิงกลับพินิจได้ว่ามีบางสิ่งที่ผิดปกติเจ้านายของเขาคือใคร ?แค่การที่ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บนั้นไม่เพียงพอที่จะให้เขาไปถามคนร้ายถึงประตูด้วยตนเองด้วยซ้ำ เพียงจับกุม
ยิ่งเจียหนิงถ่วงเวลานางมากเท่าใด ฉินอวี่ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น!เจียหนิงได้ยินเสียงก็หัวเราะเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ?”เสิ่นหรูโจวเป็นคนที่ผลักฉินอวี่ออกไปรับดาบ มาพูดถึงเรื่องนี้ตอนนี้คงจะอับอายล่ะสิ!เสิ่นหรูโจวมีท่าทางวิตกกังวล พยายามที่จะไม่ใช้ความรุนแรง ก่อนจะเอ่ยกระซิบ: “ข้ารู้ว่าท่านชอบฉินอวี่”“ยิ่งสถานการณ์เร่งด่วนก็ยิ่งต้องใจเย็น ต้องไม่ให้ความกังวลนำไปสู่ความวุ่นวายได้ กว่าที่หมอหลวงจะมาต้องใช้เวลาสักพัก อาการของเขารอไม่ได้ ยิ่งรอนานเท่าใดก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ข้ามีทักษะแพทย์ สามารถช่วยเขาได้! ถ้าท่านไม่อยากเห็นเขาตายก็อย่ามารั้งข้าไว้!”เจียหนิงตกใจมากที่เสิ่นหรูโจวรู้ความลับของนาง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นหรูโจวอีกครั้งก็พูดด้วยความโกรธ“ที่ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะถูกเจ้าทำร้าย ตอนนี้ยังจะมาพูดถึงเรื่องช่วยเขาอะไรอีก ข้าเห็นว่าเจ้าแค่อยากจะไปฆ่าปิดปากเขา!”“ถ้ากล้า เจ้าก็ฆ่าข้าตอนนี้เสียสิ ท่านน้าและท่านแม่ของข้าจะได้ฝังจวนแม่ทัพทั้งหมดไปด้วยกัน ถ้าเจ้าไม่กล้าลงมือกับข้า ก็รอจนกว่าข้าจะฆ่าเจ้าแล้วกัน!”พูดจบ นางกลอกตา เอ่ยกับทหารยามทั้