“เจ้านายของเจ้าทำความผิด เจ้าเป็นสาวรับใช้ต่ำต้อยก็มีความผิดเช่นกัน ขังไว้ในห้องซะ!”ในยามนี้ ด้านนอกประตูจวนอ๋องมีม้าแดงถูกควบเข้ามาหญิงสาวในชุดสีม่วงลงจากหลังม้า ใบหน้างามไปด้วยความรีบร้อน เร่งรุดเข้าไปในจวนอ๋องทหารยามเฝ้าประตูเห็นนางก็ไม่ได้หยุดนางไว้ ประสานมือคารวะพร้อมกับส่งเสียงออกไป: “คารวะท่านหญิง”หญิงสาวไม่ละสายตาไปมอง ในมือยังคงถือแส้ม้าและเดินฉับไว ก้าวเข้าไปอย่างรีบร้อนและรวดเร็วนางที่อยู่ในวังหลวงได้ยินว่าท่านน้ากำลังตามหาหมอหลวงอยู่ ครั้นนางเอ่ยถาม ปรากฏว่าฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส!นางขี่ม้าเร็วมาทันที ตลอดทางชนกับผู้คนที่สัญจรไปมานับไม่ถ้วน นางเดินอย่างเร่งรีบ เพียงแค่อยากเห็นฉินอวี่เร็ว ๆ เท่านั้นเมื่อเลี้ยวตรงหัวมุมก็พบกับมู่หว่านหรงพอดีมู่หว่านหรงและถงอวิ๋นเพิ่งออกมาจากเรือนพระชายา ไม่คาดคิดว่าจะพบกับหญิงสาวที่กำลังรีบร้อนอยู่นางแย้มรอยยิ้มก่อนเอ่ยทักทาย: “ท่านหญิงมาแล้ว”หญิงสาวในชุดสีม่วงเห็นนางจึงหยุดฝีเท้าลง ทว่าไม่มีเวลาทักทายนาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ: “ได้ยินมาว่าที่จวนอ๋องมีเรื่องเกิดขึ้น ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”น้ำเ
ทหารยามที่คอยเฝ้าประตูมองหน้ากัน มีความลำบากใจเล็กน้อยแต่พวกเขารู้แน่ชัดว่าผู้สูงศักดิ์น้อยคนนี้เอ่ยคำไหนคำนั้นและมุทะลุมาก แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง แต่เนื่องจากท่านหญิงออกปาก พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรอีก จึงเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เสิ่นหรูโจวที่กว่าจะสงบลงได้ถูกลากออกมาสองมือของเสิ่นหรูโจวถูกมัดไพล่หลัง ผมเผ้ายุ่งเหยิงตกลงมา บนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนทั้งดินและเลือด ท่าทางมีความทุลักทุเลอยู่บ้าง แต่ใบหน้าอันได้รูปยังคงงดงามอย่างน่าประหลาดใจนางเงยหน้า เห็นมู่หว่านหรงและถงอวิ๋นสองนายบ่าวจึงยกยิ้มเย็นที่มุมริมฝีปาก ดวงตาขยับเล็กน้อย และหญิงสาวในชุดสีม่วงก็เข้ามาในสายตา สีหน้ามีความอดกลั้นเล็กน้อยท่านหญิงเจียหนิงอยู่ที่นี่ด้วยหรือ?แต่ก็ใช่ ในชาติก่อนนางรู้ว่าเจียหนิงชอบฉินอวี่มาเสมอ แต่คนทั้งคู่ในสถานะแตกต่างกันมาก เมื่อตระหนักว่าไร้วาสนา เจียหนิงจึงทำได้เพียงละทิ้งความเพ้อฝัน ต่อมา เลือกที่จะแต่งงานเพื่อบัลลังก์ฮ่องเต้ของเซียวเฉินเหยี่ยน ในที่สุดก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในทะเลสาบในขณะนี้ นางมองท่าทางอาฆาตของเจียหนิง เป็นไปได้มากว่าคงเชื่อคำปรักปรำของมู่หว่านหรง และมาชำระบัญชีกับ
“ดังนั้นท่านอ๋องจึงสั่งให้ข้าน้อยเข้าวังโดยเร็ว เชิญหมอหลวงไปรักษาเขาขอรับ!”หัวใจของลู่หวายหนิงตึงเครียดทันที ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความกังวล “จะเป็นไปได้อย่างไร”เขาจัดแจงให้ฉินอวี่ไปจวนอ๋องอู่เฉิง แล้วทำไมถึงได้บังเอิญถูกลอบสังหารอย่างนี้ล่ะ?!“พระชายาอ๋องอู่เฉิง?” คนในรถม้าเอ่ยห้าคำนี้ เสียงของเขาทุ้มต่ำ เนิบนาบและไร้อารมณ์ฉินหมิงก้มศีรษะลงและตอบทันที: “นายท่าน พระชายาอ๋องอู่เฉิงเป็นบุตรีของแม่ทัพเสิ่น นามเสิ่นหรูโจวขอรับ”“นางไม่ต่างจากลูกผู้ดีมีเงิน รักเดียวต่ออ๋องอู่เฉิง ด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้นางทุบตีบุตรีขุนนางในบ้าน และที่ทำร้ายผู้หญิงในบ้าน ทั้งหมดก็เพราะหึงหวงและมักจะมีชื่อเสียงฉาวโฉ่อยู่เสมอ”“ถ้าเป็นการปกป้องชีวิตตน นางสามารถทำเรื่องอย่างเช่นการผลักฉินอวี่ออกมารับดาบแทนได้อย่างแน่นอน”จู่ ๆ ลู่หวายหนิงก็เริ่มกังวลเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด: “อาจารย์ พี่หญิงคนงามไม่ใช่คนแบบนั้น ข้าได้รู้จักกับพี่หญิงคนงามแล้ว นางเป็นคนที่มีจิตใจดี และจะไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้แน่ เรื่องนี้คงจะมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่นอน”เรื่องอาการบาดเจ็บของฉินอวี่อย่างไรก็ต้องมีคำอธิบาย แ
ใบหน้าของลู่หวายหนิงจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่น “อาจารย์ แม้ว่าข้ากับพี่หญิงคนงามจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่นางก็เป็นคนดีและน่าเชื่อถือจริง ๆ นะขอรับ”“ท่านอย่าฟังคำพูดของคนเหล่านี้ฝ่ายเดียว เชื่อง่าย ๆ ว่านางทำร้ายคน หวายหนิงคิดว่า เรื่องของฉินอวี่จะต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่นอน! เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือการช่วยเหลือฉินอวี่ รอจนกว่าจะช่วยเขาได้ ทุกอย่างก็จะพูดคุยกันง่ายขึ้น!”เด็กชายตัวสั่นเมื่อได้ยินแบบนี้พลางลอบบ่นกับตัวเองแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นพระชายาผลักคนมารับดาบด้วยตาตัวเอง แต่เขาได้ยินสิ่งที่สาวรับใช้พูดกับหูตัวเอง ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่กล้าแพร่งพรายข่าวลือหมอหลวงมีเหงื่อเย็นหยดย้อยลงมา ไม่กล้าพูดอะไรสักคำชายในเกี้ยวนั่งอยู่ท่ามกลางแสงสว่างและความมืดมิด ดวงตาเฉยเมย ในน้ำเสียงเฉียบคมไม่แยแสต่อสิ่งใด“ไม่ง่ายเลยที่เจ้าจะมีคนที่เข้าตา ถ้าอย่างนั้นก็พาข้าไปพบหน่อยเถอะ”เสียงของเป่ยซิวเยี่ยนเยือกเย็น ไร้อารมณ์ใด ๆ แต่ฉินหมิงกลับพินิจได้ว่ามีบางสิ่งที่ผิดปกติเจ้านายของเขาคือใคร ?แค่การที่ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บนั้นไม่เพียงพอที่จะให้เขาไปถามคนร้ายถึงประตูด้วยตนเองด้วยซ้ำ เพียงจับกุม
ยิ่งเจียหนิงถ่วงเวลานางมากเท่าใด ฉินอวี่ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น!เจียหนิงได้ยินเสียงก็หัวเราะเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ?”เสิ่นหรูโจวเป็นคนที่ผลักฉินอวี่ออกไปรับดาบ มาพูดถึงเรื่องนี้ตอนนี้คงจะอับอายล่ะสิ!เสิ่นหรูโจวมีท่าทางวิตกกังวล พยายามที่จะไม่ใช้ความรุนแรง ก่อนจะเอ่ยกระซิบ: “ข้ารู้ว่าท่านชอบฉินอวี่”“ยิ่งสถานการณ์เร่งด่วนก็ยิ่งต้องใจเย็น ต้องไม่ให้ความกังวลนำไปสู่ความวุ่นวายได้ กว่าที่หมอหลวงจะมาต้องใช้เวลาสักพัก อาการของเขารอไม่ได้ ยิ่งรอนานเท่าใดก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ข้ามีทักษะแพทย์ สามารถช่วยเขาได้! ถ้าท่านไม่อยากเห็นเขาตายก็อย่ามารั้งข้าไว้!”เจียหนิงตกใจมากที่เสิ่นหรูโจวรู้ความลับของนาง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นหรูโจวอีกครั้งก็พูดด้วยความโกรธ“ที่ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะถูกเจ้าทำร้าย ตอนนี้ยังจะมาพูดถึงเรื่องช่วยเขาอะไรอีก ข้าเห็นว่าเจ้าแค่อยากจะไปฆ่าปิดปากเขา!”“ถ้ากล้า เจ้าก็ฆ่าข้าตอนนี้เสียสิ ท่านน้าและท่านแม่ของข้าจะได้ฝังจวนแม่ทัพทั้งหมดไปด้วยกัน ถ้าเจ้าไม่กล้าลงมือกับข้า ก็รอจนกว่าข้าจะฆ่าเจ้าแล้วกัน!”พูดจบ นางกลอกตา เอ่ยกับทหารยามทั้
ชายหนุ่มสวมชุดแพร่สีดำ รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม เส้นผมสีเงินส่องประกายภายใต้แสงอาทิตย์ที่ตกสะท้อน ทำให้ผู้ที่พบเห็นเหมือนต้องมนต์สะกด ราวกับมีรัศมีจาง ๆ ปกคลุมอยู่รอบกายใบหน้าของเขาหล่อเหลาไม่ธรรมดา มีดวงตาเรียวยาวเหมือนดอกท้อ ดำขลับเหมือนหินชนวนดูลึกซึ้ง มอบเพียงแวบเดียวก็ทำให้รู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไป ทั้งตัวเผยให้เห็นถึงความสูงส่งที่มีมาแต่กำเนิด ราวกับพระจันทร์ที่ลอยสูงอยู่บนท้องฟ้า ยังคงให้ความรู้สึกไกลเกินเอื้อมเช่นเดียวกับชาติที่แล้วลมหายใจของเสิ่นหรูโจวหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ส่งเสียงพูดออกมาจากปากเบา ๆ ว่า : “ผู้สำเร็จราชการแทน เป่ยซิวเยี่ยน ?”เขามาได้อย่างไร ?เจียหนิงและมู่หว่านหรงกลับมองตาค้าง เซียวเฉินเหยี่ยนนับว่าหล่อเหลามากพอแล้ว ในใต้หล้าผู้ที่จะเทียบความงามกับเขาได้มีอยู่น้อยมาก แต่เมื่อเขายืนคู่กับเป่ยซิวเยี่ยนที่มีผมทั้งหัวเป็นสีเงิน กลับถูกแย่งชิงความสนใจไปเสียได้ผู้สำเร็จราชการแทนที่มีชื่อเสียงและทรงพลานุภาพ เมื่อเห็นแล้วทำให้รู้สึกประทับใจอย่างลึกซึ้งดังว่าจริง ๆ เป่ยซิวเยี่ยนก้าวเท้าเดินเข้าไปในจวนอ๋อง ลู่หวายหนิงเดินตามไปด้านหลังติด ๆ เซียวเฉินเหยี่ยนหันไ
เซียวเฉินเหยี่ยนฟังจบ แววตาก็อำมหิตขึ้นมาจนดูน่ากลัวลู่หวายหนิงหันมองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าร้อนใจเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ที่เกิดเรื่องขึ้นกันฉินอวี่ มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่เสิ่นหรูโจวหันมองเป่ยซิวเยี่ยน แววตากระจ่างใสสงบนิ่งอย่างยิ่งชาติก่อนนางมีปฏิสัมพันธ์กับเป่ยซิวเยี่ยนไม่มากนัก แต่ทุกครั้งที่พบกับชายคนนี้ ก็จะถูกใบหน้าที่ทรงเสน่ห์ของเขา รวมถึงพลานุภาพอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา ทำให้รู้สึกหวั่นไหวจะว่าไปแล้ว เป่ยซิวเยี่ยนกับนางนับว่ามีบุญคุณต่อกัน นางจำได้ว่าเมื่อชาติก่อนในงานเลี้ยงงานหนึ่ง มีคนลอบสังหาร สถานการณ์วุ่นวายอย่างยิ่ง เซียวเฉินเหยี่ยนเกรงว่ามู่หว่านชิงจะได้รับอันตราย จึงวิ่งเข้าไปปกป้องมู่หว่านชิง ส่วนนางกลับถูกทิ้งให้อยู่กับที่ ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกนางรู้วิชาแพทย์ แต่ไม่รู้วรยุทธ์ นี่เป็นจุดอ่อนของนางมาโดยตลอด ตอนนั้นจู่ ๆ ก็มีธนูยิงเข้าใส่นาง นางหลบไม่ทัน ขณะที่คิดว่าคงต้องจบชีวิตลงที่นี่ ก็มีมือเรียวยาวเห็นข้อกระดูกที่ชัดเจน คว้าลูกธนูดอกนั้นไว้อย่างฉับพลันตอนนั้น นางเงยหน้ามองไปด้วยความตะลึง เห็นเพียงใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่เปรียบของ
แม้นางจะทำตัวน่ารำคาญ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขากลับไม่อยากให้นางตายอย่างบอกไม่ถูกคิดไม่ถึงว่าเสิ่นหรูโจวยังไม่ทันพูดอะไร เจียหนิงก็กระโดดออกมาเสียก่อนเมื่อครู่นางถูกเสิ่นหรูโจวจับตัวไว้จึงรู้สึกโกรธจัด เมื่อได้ยินท่านน้าตำหนิเสิ่นหรูโจว ก็ไม่อาจระงับโทสะเอาไว้ได้อีก“นางจะยอมรับผิดได้อย่างไร ? นางเป็นผู้หญิงจิตใจหยาบช้า ! แม้แต่ข้าก็ยังกล้าจับตัวไว้ ยังมีอะไรที่นางไม่ล้าทำอีกบ้าง ! ฉินอวี่ต้องถูกนางทำร้ายแน่นอน !”“ท่านน้ากับผู้สำเร็จราชการแทนอย่าได้ฟังคำแก้ตัวของนางอีกเลย ผู้หญิงที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ควรตัดคอให้ตายเสีย จะได้ไม่เป็นภัยต่อโลกมนุษย์ !”ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เจียหนิงทนไม่ไหวอีกต่อไป ชั่วพริบตาเดียว เมื่อมองเห็นกระบี่ที่แขวนอยู่ตรงเอวของฉินหมิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ชักออกมาแล้วแทงเข้าใส่เสิ่นหรูโจวทันที“เจียหนิง หยุดนะ !” เซียวเฉินเหยี่ยนเผยความตกตะลึงออกมาบนใบหน้า และยื่นมือออกไปขวางตามสัญชาตญาณ ยังไม่ทันที่จะคว้าแขนเสื้อของเจียหนิงไว้ได้ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียง “เก๊ง” ดังขึ้น ——กระบี่ที่พุ่งเข้ามาตรงหน้าเสิ่นหรูโจว กระเด็นออกไปเพราะลูกปัดขนาดเท่าปลายนิ้ว กระบี่ร่วงลงจากม