เสิ่นหรูโจวเม้มริมฝีปากเบา ๆคำพูดนี้ไม่ผิด เป่ยซิวเยี่ยนทรงอำนาจในราชสำนัก ไม่ว่าใครที่พูดถึงเขาก็ต่างหวาดหวั่น แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังทั้งเคารพและหวาดกลัวในตัวเขาเล็กน้อย ไม่กล้ายั่วยุคนเช่นนี้ง่าย ๆ หากเรื่องการรักษาเป่ยซิวเยี่ยนจะทำให้นางเกิดปัญหาจริง ๆ เกรงว่ามันจะยุ่งยากมาก“คุณหนู ท่านมั่นใจหรือว่าสามารถรักษาโรคของผู้สำเร็จราชการแทนได้” ดวงตาของเมี่ยวตงเต็มไปด้วยความกังวล หัวใจก็เต้นแรงเสิ่นหรูโจวส่ายหัว “ข้าไม่เคยเห็นอาการป่วยของเขามาก่อน ข้าไม่มั่นใจ”หัวใจของเมี่ยวตงก็เย็นวาบลงทันใด เมื่อนึกถึงหมอที่ผู้สำเร็จราชการแทนตัดหัว ก็มีเหงื่อเย็นไหลออกมาบนฝ่ามือ เอ่ยอย่างกังวล: “แล้วควรทำอย่างไรดี? ภายนอกมีข่าวลืออยู่ทุกที่เลย เกรงว่าคนจำนวนมากจะรู้ว่าท่านมีทักษะแพทย์แล้ว!”กระจกทองเหลืองสะท้อนใบหน้างดงามราวบุปผาแลจันทราของเสิ่นหรูโจว บนใบหน้าสดใสไม่มีแววหวาดกลัวแต่อย่างใด “อย่ารีบร้อน”นางยิ้มเล็กน้อย “นางกระจายข่าวได้ เราก็สามารถกระจายข่าวได้เช่นกัน เจ้าก็ไปปล่อยข่าวด้วยสิ แค่บอกว่าเพื่อให้เลือดกับมู่หว่านหรง ข้าเสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ ตอนนี้ล้มหมอนนอนเสื่อแล้ว”เมี่ยวตงครุ่น
เสิ่นหรูโจวเดินไปที่โต๊ะ หยิบโสมขึ้นมามอง “ของดีเชียว”เมี่ยวตงรู้สึกว่าท่าทีของท่านอ๋องที่มีต่อคุณหนูดีขึ้นไม่น้อย คุณหนูเองก็นับได้ว่าอดทนถึงที่สุด จนวันหนึ่งความยากลำบากผ่านพ้นไป นางก็มีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจเช่นกัน“ท่านอ๋องส่งยาบำรุงมามากมายเพียงนี้ ดูเหมือนจะยังนึกถึงท่านอยู่”เสิ่นหรูโจวส่งเสียง “หึ” อย่างเย็นชา บนใบหน้างามมีร่องรอยของการเหยียดหยามฉายแววใครอยากให้เขานึกถึงกันเล่า? อย่าเพิ่งรังเกียจนางเป็นพอ!“ข้าจะนำสิ่งเหล่านี้ไปที่ห้องคลังนะเจ้าคะ” เมี่ยวตงยิ้มและจัดเก็บยาทั้งหมดอย่างเรียบร้อยแต่เสิ่นหรูโจวหยุดนางไว้: “ไม่จำเป็น เอาไปขายเถอะ”นางเหยียดนิ้วออกก่อนจะชี้ไป พลางส่งยิ้มด้วยความพึงพอใจ “ของพวกนี้ล้วนมีค่ามาก ต้องขายได้ราคาดีแน่นอน”“อะไรนะ?” เมี่ยวตงตกใจ “ท่านจะขายทั้งหมดนี้เลยหรือ? ยากนักที่ท่านอ๋องจะส่งของให้ท่าน…”แม้ว่าของขวัญชิ้นนี้จะได้รับมาเพราะพระชายารอง แต่ก็ยังถือว่าเป็นของขวัญอยู่ดี คุณหนูจะขายจริงหรือ?!มันเหลือเชื่อมากจริง ๆ !เสิ่นหรูโจวมองสมุนไพรอันล้ำค่า บนใบหน้างามสงบราบเรียบ “มันไม่ได้พิเศษกว่าสิ่งใดเลยนี่ ทำตามที่บอกเถอะ”ของของเซ
“แต่ข่าวลือยิ่งกระจายก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น พูดกันว่าพระชายาเป็นหมอเทวดาหาตัวจับยาก มิว่าโรคใด ๆ เพียงแค่อยู่ในมือนางก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ กระทั่งคนตายก็รักษาให้ฟื้นคืนชีพได้ ข้าน้อยคิดว่าข่าวลือเหล่านี้ค่อนข้างแปลก คล้ายมีคนจงใจกระจายข่าว” สีหน้าของลู่หวายหนิงสับสนเล็กน้อย ทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ กระจายข่าวว่าทักษะแพทย์ของนางมหัศจรรย์ยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่ารู้ดีว่าอาจารย์จะกลับเมืองหลวงในเร็ววันนี้ ต้องการให้หมอไปดูอาการป่วย คิดจะผลักพี่สาวคนงามออกไป” เขาเคยอยู่ในจวนอ๋องมาก่อน รู้ดีว่าอ๋องอู่เฉิงปฏิบัติต่อเสิ่นหรูโจวได้ไม่ดีเลย พระชายารองผู้นั้นก็ยิ่งไม่มีไมตรีจิต จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฉินอวี่ยกมือแตะคาง สีหน้าดูไม่มีความสุข “กงฉางจื้อนั่นตายไปแล้ว หรือว่าจวนอ๋องอยากให้พระชายามารักษาอาการป่วยของนายท่านแทนเขา” เขาชะงักไปเล็กน้อย ขมวดคิ้วเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยอย่างกังวล: “แต่พระชายาได้กรีดเลือดตนให้พระชายารองผู้นั้น ตอนนี้นางร่างกายอ่อนแอมากจนนอนซมอยู่บนเตียงทั้งวัน" “อะไรนะ?!” ลู่หวายหนิงตกใจ ดวงตาใสราวผืนน้ำเบิกกว้างด้วย
เบื้องหลังของมู่หว่านหรงคือถงอวิ๋นและฉินอวี่! ทำไมเขาก็มาด้วยล่ะ? เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย เมินมู่หว่านหรงและสาวรับใช้ของนาง ก่อนจะเดินไปหาฉินอวี่ “ฉินอวี่ เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?” ฉินอวี่ประสานมือคารวะเสิ่นหรูโจว แล้วพูดขึ้น “ได้ยินมาว่าพระชายาไม่สบาย นายน้อยเป็นกังวลมาก จึงได้สั่งให้ข้านำของขวัญมาเยี่ยมท่านโดยเฉพาะ” “ข้าเข้าจวนอ๋องมา ตอนที่มุ่งหน้ามาที่นี่ก็พบกับพระชายารองเข้า” พูดจบ เขาก็มองไปที่มู่หว่านหรงด้วยท่าทางไร้ปรานี และมองระมัดระวัง มู่หว่านหรงซึ่งอยู่ด้านข้าง มองใบหน้าของเสิ่นหรูโจวพลางยิ้มเย้ยหยันในใจ ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวแดงระเรื่อ แลดูแข็งแกร่ง ท่าทางอ่อนแอเล็กน้อยอยู่ที่ใดกัน? แน่นอนว่าแสร้งทำเป็นน่าสงสาร เพื่อดึงดูดความสนใจของท่านอ๋อง! เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้ว รีบรับของจากมือของเขา บนใบหน้ามีรอยยิ้ม ทว่ากลับเอ่ยเร่งรัด “ของนี้ข้ารับไว้แล้ว ขอบคุณนายน้อยของเจ้าแทนข้าด้วยนะ ข้าไม่รั้งเจ้าแล้ว เจ้ารีบกลับไปรายงานเขาเถอะ” ฉินอวี่ยังไม่ทันได้ตอบกลับ มู่หว่านหรงก็พูดขึ้นเสียงค่อย “องครักษ์ฉินอวี่ไม่ต้องกังวล ข้าเห็นว่าพระชาย
ถงอวิ๋นกลัวสายตาของเขามากจนปากสั่น ทว่านางกลับขยับคอตั้งตรงแล้วพูด “องครักษ์ฉินอวี่เป็นคนของจวนผู้สำเร็จราชการแทน กลับเข้ามาจัดการเรื่องราวในจวนอ๋องอู่เฉิงของพวกเรา เข้ามาก้าวก่ายเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง!"ใบหน้าของฉินอวี่มืดลง ขณะที่กำลังจะตอบก็ถูกเสิ่นหรูโจวขัดจังหวะ หากล่าช้าไปอีก ฉินอวี่จะออกไปไม่ทันเวลา “เอาล่ะ ฉินอวี่ ข้าสบายดีจริง ๆ เจ้าไปเถอะ รีบกลับจวน...”ยังไม่ทันได้พูดจบ ลมเย็นวูบหนึ่งพัดพามาพร้อมแววเจตนาฆ่า เงาร่างสีดำหลายสิบร่างก็มาอยู่ตรงหน้าทันที มีแสงเย็นเฉียบ ดาบคมก็ทะลุผ่านสายลมมารูม่านตาของเสิ่นหรูโจวหดตัวลง “แย่แล้ว มากันแล้ว!”ดวงตาของฉินอวี่เป็นประกายแวววับ ดึงดาบออกมาจากเอวอย่างรวดเร็ว ก้าวยาว ๆ รีบรุดไปข้างหน้าเพื่อประมือกับมือสังหาร “พระชายาระวัง มีคนลอบสังหาร!” นักฆ่า จะมีนักฆ่าได้อย่างไร?! ใบหน้าของมู่หว่านหรงซีดขาวลงด้วยความตกใจยังไม่ทันที่จะได้คิดให้ดี ดาบยาวก็วาดมาตรงหน้านางแล้ว นางตกใจมากจนกรีดร้องซ้ำ ๆ ไม่หยุด นางกับถงอวิ๋นยกมือกุมหัวแล้ววิ่งไปทั่วมือสังหารสองสามคนชักดาบไปทางฉินอวี่พลางจ้องเสิ่นหรูโจวอย่างโหดเหี้ยมหัวใจของฉิน
มู่หว่านหรงเห็นปลายดาบเปื้อนเลือดบนเอวของฉินอวี่ก็ดึงมือกลับด้วยความหวาดกลัว ปิดปากไว้ สองขาอ่อนแรงก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้นมือสังหารดึงดาบออกมาอย่างคล่องแคล่ว กลุ่มเลือดก็กระเซ็น ฉินอวี่ยังไม่ทันได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก็ล้มลงบนพื้น สลบไปแล้วเสียงกรีดร้องของมู่หว่านหรงยิ่งหวีดแหลมขึ้น ในเวลานี้การมองเห็นของเสิ่นหรูโจวก็กลับมาเป็นปกติ เมื่อเห็นฉินอวี่นอนอยู่บนพื้นเลือดท่วมร่าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“ฉินอวี่!”นางรีบวิ่งไปหาฉินอวี่ทันที ก่อนจะโปรยผงพิษและเข็มพิษออกมาจำนวนมาก ในช่วงเวลาหนึ่งมือสังหารเหล่านั้นเห็นว่าไม่สามารถจัดการกับเสิ่นหรูโจวได้ ถึงกับคิดว่านางมีการเตรียมตัวมาอย่างดี จึงรีบถอนตัวออกไปเสิ่นหรูโจวไปตรวจดูอาการของฉินอวี่ทันที เห็นว่าท้องของเขาถูกแทง เลือดสดไหลออกมาไม่หยุด และหมดสติไปแล้วมู่หว่านหรงนั่งอยู่บนพื้น ใบหน้าของนางขาวซีด ร่างกายสั่นเทา ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานานและถงอวิ๋นซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ เหลือบมองมู่หว่านหรงด้วยความตื่นตระหนกตกใจ สูดลมหายใจเข้าหลายครั้ง จากนั้นจึงเดินไปหามู่หว่านหรงนางเห็นมันทั้งหมดแล้ว เป็นพระชายารองที่ผลักอ
“เจ้าว่าอะไรนะ?”“อย่าพูดจาเหลวไหล พระชายาไม่ได้ตั้งใจแน่นอน นางน่าจะกลัวมากเกินไป” มู่หว่านหรงดุเบา ๆ ในขณะที่มองถงอวิ๋นอย่างพอใจถงอวิ๋นร้อนตัวทว่าระงับอารมณ์ไว้ สบตากับดวงตาบูดบึ้งของเซียวเฉินเหยี่ยน“ท่านอ๋อง สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริงทั้งหมด ข้าเห็นกับตาตัวเอง ในช่วงเวลาวิกฤติ พระชายาผลักองครักษ์ฉินอวี่ออกไปรับดาบเจ้าค่ะ!”“เรื่องนี้ ข้าก็ไม่กล้าโกหกหรอก ท้ายที่สุดแล้วองครักษ์ฉินอวี่ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงคนสนิทของนายน้อยลู่ ท่านอ๋อง พระชายาได้ทำร้ายคนไปแบบนี้แล้ว ถ้าเกิดวันหลังผู้สำเร็จราชการแทนมาขอคำอธิบาย จะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะ?”“เสิ่นหรูโจว!” หลังจากที่เซียวเฉินเหยี่ยนเค้นสามคำนี้ลอดไรฟัน ดวงตาคู่หนึ่งเฉียบแหลมและโหดเหี้ยมราวกับนกอินทรี เดินไปยังเรือนพระชายาด้วยฝีเท้าราวกับสายลม“รีบไปเชิญหมอมา!”จบคำพูด เขาก็ก้าวเข้าไปในเรือน กลิ่นเลือดโชยกระทบจมูก ในเรือนเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน มือสังหารในชุดดำนอนอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เสิ่นหรูโจวกำลังนั่งยอง ๆ มือเป็นระวิงอยู่ตรงหน้าร่างคนผู้หนึ่งเขาเดินไปหาเสิ่นหรูโจวอย่างรวดเร็ว มองลงไปเห็นว่าชายที่นอนอยู่บนพื้นคือฉินอวี่!เมื่อเห็นอากา
กล่าวเช่นนั้น เขาก็มองฉินอวี่ที่หมดสติ ก่อนจะเอ่ยอย่างเคร่งเครียด: “ส่งคนเข้าวังเชิญหมอหลวงมาให้เร็ว!"ในยามนี้ ไม่สนใจแล้วว่าจะทำให้รู้ไปถึงหูของผู้สำเร็จราชการแทนหรือไม่ ฉินอวี่เป็นองครักษ์ส่วนตัวที่ผู้สำเร็จราชการแทนจัดแจงให้อยู่ข้างกายลู่หวายหนิงโดยเฉพาะ ค่อนข้างได้รับความไว้วางใจและเห็นคุณค่าจากผู้สำเร็จราชการแทน จะมีเรื่องเกิดขึ้นกับเขาไม่ได้เด็ดขาดทหารยามหลายคนลงมือทันที จับเสิ่นหรูโจวไว้ นางถูกออกแรงดึงเข้าไปข้างในขณะที่หันกลับมาอย่างกังวลใจ “เซียวเฉินเหยี่ยน! ท่านฟังไม่เข้าใจภาษาคนหรือ? ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพวิกฤติ คนที่อยู่ที่นี่มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้!”นางเพิ่งถอนพิษให้ฉินอวี่ไป ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาปริมาณเลือดที่ออกมาได้ แต่ก็พ้นขีดอันตรายแล้วและที่น่ากลัวที่สุดคือ ตอนนี้นางกำลังถูกปรักปรำ มู่หว่านหรงกล่าวหาว่านางผลักฉินอวี่ไปรับดาบแทน แต่การโต้เถียงกลับไม่มีประโยชน์เลย ชื่อเสียงของนางแย่มาก ไม่มีใครเชื่อนางหรอกแต่นางก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ฉินอวี่น่าจะมีความสามารถป้องกันตัวเองได้ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ แล้วจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาได้อย่าง