มู่หว่านหรงก้าวไปข้างหน้า นางก้มศีรษะลงเล็กน้อยและแสดงท่าทางอ่อนน้อมเชื่อฟังไม่มีใครรู้เลยว่าดวงตาที่มองต่ำของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาและความชั่วร้ายเสิ่นหรูโจวพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว และความน่าสงสัยก็ตกมาอยู่ที่นางกับถงอวิ๋น ไม่ใช่นางก็เป็นถงอวิ๋น ตอนนั้นฉินอวี่กำลังจัดการกับมือสังหารและไม่รู้ว่าถงอวิ๋นอยู่ที่ไหน หากโยนความผิดนี้ให้กับถงอวิ๋น ปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนางก็จะได้รับการแก้ไขน่ะสิ!ทุกคนมองมู่หว่านหรงด้วยความสงสัย ถงอวิ๋นไม่เข้าใจว่ามู่หว่านหรงหมายถึงอะไร นางรู้สึกประหม่าและมองนางอย่างประหลาดเมื่อมู่หว่านหรงเงยหน้าขึ้น ขอบตาของนางก็แดงไปหมดและกล่าวเสียงสะอื้น“เมื่อความสงสัยตกอยู่ที่ข้าและสาวใช้ของข้า เช่นนั้นก็ถือว่าหว่านหรงทำแล้วกัน ขอเพียงบรรเทาความไม่พอใจของผู้สำเร็จราชการแทนได้หว่านหรงก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเจ้าค่ะ”ลู่หวายหนิงขมวดคิ้วและมองมู่หว่านหรงด้วยสายตารังเกียจอย่างเปิดเผย“ถือว่าเจ้าเป็นคนทำแล้วกันหมายความว่ายังไง เจ้าเป็นคนทำจริง ๆ หรือไม่”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นหรูโจวก็หรี่ตาลงอย่างเห็นได้ชัดมู่หว่านหรงมีความสามารถพิเศษสองอย่าง
“ข้าจำได้ว่าถงอวิ๋นซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ในเวลานั้น นางเดินเข้ามาหลังจากที่ฉินอวี่ล้มลงกับพื้น นางกลายเป็นคนผลักฉินอวี่ได้อย่างไร ในทางกลับกันคนที่ใกล้ชิดกับฉินอวี่มากที่สุดคือพระชายารองไม่ใช่รึ”ฉินอวี่กล่าวทันที: “ใช่ ข้าจำได้ว่าตอนนั้นพระชายารองหลบอยู่ข้างหลังข้าตลอดเวลา”มู่หว่านหรงเบิกตากว้างและกล่าวอย่างน้อยใจ: “พระชายาเอกจะบอกว่าหว่านหรงคือคนที่ผลักฉินอวี่หรือเจ้าคะ"เป่ยซิวเยี่ยนเฝ้าดูทุกสิ่งอย่างเงียบ ๆ นัยน์ตาราวกับมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองมู่หว่านหรง จากนั้นมองเสิ่นหรูโจวและไม่พูดอะไรเสิ่นหรูโจวกอดอกพร้อมแสงสีหน้าเย็นชา "มู่หว่านหรง ในสถานการณ์นั้น เจ้าคือคนเดียวที่มีเวลาและโอกาสผลักข้า/เขา"“เจ้าใส่ร้ายว่าข้าทำร้ายคนอื่นไม่สำเร็จ ตอนนี้เจ้าคิดจะปัดความรับผิดชอบให้กับสาวใช้ เจ้าไม่อายบ้างรึ! ข้าจะบอกให้นะการโกหกและทำร้ายผู้อื่นจะนำไปสู่การไม่มีลูกหลานไว้สืบทอด!”มู่หว่านหรงถูกเสิ่นหรูโจวดุด่า หมัดของนางก็กำแน่นทันที โหดเหี้ยมมากนังเสิ่นหรูโจวสาปแช่งนางไม่มีลูกหลานไว้สืบทอดในเวลานี้ ลู่หวายหนิงอดไม่ได้จึงกล่าวด้วยอีกคน: "ใช่ ฉินอวี่บอกว่าเจ้าอยู
“เจ้าพูดออกมาเถอะ” มู่หว่านหรงขัดจังหวะและมองนางหน้าเศร้า“บอกความจริงออกไป ทุกคนจะได้ไม่คิดว่าข้าจงใจทำร้ายเจ้า เจ้าสบายใจได้ เราเป็นนายและคนรับใช้มาหลายปี ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรข้าก็ไม่ตำหนิเจ้า”ถงอวิ๋นหยุดพูดทันที เมื่อเห็นการข่มขู่ที่โหดร้ายของมู่หว่านหรง ความรู้สึกน่าสยดสยองก็เกิดขึ้นในใจนางนางเป็นแค่สาวใช้ที่มีสถานะต่ำต้อย ชีวิตของพ่อกับแม่ก็อยู่ในมือของพี่สาวมู่หว่านหรง หากนางเปิดโปง พ่อกับแม่ของนางจะถูกฆ่าทันทีเมื่อเดินออกจากประตูนี้!นางได้แต่เกลียดตนเองที่อยู่กับนายผิดคน!เมื่อมาถึงจุดนี้ นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับเอง เพื่อแลกกับความเป็นอยู่ที่สงบสุขของพ่อแม่นางหลับตาแน่น “ข้ากลัวตายเจ้าค่ะ จึงผลักองครักษ์ฉินอวี่ไปรับดาบข้างหน้า!” “ข้ารู้สึกว่าช่วงนี้ท่านอ๋องสนใจพระชายาเอกมากขึ้น ข้ากังวลว่าพระชายาเอกได้รับความโปรดปรานจะส่งผลเสียต่อพระชายารอง องครักษ์ฉินอวี่บังเอิญมาเยี่ยมพระชายาเอกพอดี ข้าเลยอยากใช้โอกาสนี้ทำร้ายเขา หากองครักษ์ฉินอวี่เสียชีวิตในเรือนของพระชายาเอก พระชายาเอกก็จะถูกลงโทษแน่นอน!”มู่หว่านหรงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง: “เด็กคนนี้ ทำไมถึงโง่เขลาเช่นน
เสิ่นหรูโจวอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว มือที่ไขว้อยู่ข้างหลังยกนิ้วโป้งขึ้นให้กับเป่ยซิวเยี่ยนเกิดอะไรขึ้น แม้ว่านางกลัวเป่ยซิวเยี่ยนแต่นางชอบฝีปากนี้ของเขามาก!มู่หว่านหรงแสดงละครนั่นแหละ เลือดก็ไหลออกมาไม่กี่หยด มีเพียงเซียวเฉินเหยี่ยนเท่านั้นที่เชื่อทันใดนั้นใบหน้าของมู่หว่านหรงก็ซีดลง นางหลบอยู่ในอ้อมแขนของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่กล้าพูดอะไรและรอเซียวเฉินเหยี่ยนปกป้องนางเซียวเฉินเหยี่ยนหรี่ตาลงอย่างหนักและมองคนมีฐิฑิสูงอย่างเป่ยซิวเยี่ยนในความฝัน เขาพยายามที่จะดึงเป่ยซิวเยี่ยนมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่เป่ยซิวเยี่ยนไม่เคยยืนฝ่ายเดียวกับเขาเลย เขาหยิ่งผยองและไม่เคยเห็นตนอยู่ในสายตาตอนนี้ เขาปฏิบัติกับเป่ยซิวเยี่ยนเสมือนแขกพิเศษเพื่อดึงเป่ยซิวเยี่ยนมาอยู่เรือลำเดียวกัน ให้ความเคารพอยู่เสมอ แต่เป่ยซิวเยี่ยนมองเขาเหมือนอากาศ มีฐิฑิสูงและเวลาทำอะไรก็ไม่เคยไว้หน้าเขาสิ่งที่เขาพูดแทนมู่หว่านหรงก็เหมือนว่าไม่มีน้ำหนักเลยใบหน้าของเขาแข็งทื่อ เขาพยายามระงับความโกรธในใจและขอร้องอีกครั้ง: “ผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยกรุณาหน่อยได้หรือไม่”เป่ยซิวเยี่ยนมองเขาอย่างเฉยเมย ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นราวกับบึ
วันเวลายังอีกยาวนาน ไม่ช้าก็เร็ว นางจะทำให้คนที่ทำร้ายนางชดใช้ทีละคน!ลู่หวายหนิงไม่อยากสนใจมู่หว่านหรงเหมือนกัน เขาเรียกคนเข้ามา เมื่อมู่หว่านหรงพูดเสร็จเขาจะลากถงอวิ๋นไปรับโทษสับเอวทันทีจากนั้น เขาเดินตามเสิ่นหรูโจวเข้าไปหาฉินอวี่เซียวเฉินเหยี่ยนกล่าว: “เจ้าเป็นคนมีเมตตา ไปเถอะ”มู่หว่านหรงกล่าวขอบคุณแล้วย่อตัวลงตรงหน้าถงอวิ๋นนางถอดกำไลหยกออกจากข้อมือแล้วยื่นให้ถงอวิ๋นด้วยเสียงเศร้า“เจ้ากับข้าเป็นนายกับสาวใช้กันครั้งหนึ่ง ข้าช่างเจ็บปวดยิ่งนักที่เห็นเจ้าตกอยู่ในสภาพนี้ ข้าไม่มีอะไรจะให้ ขอมอบกำไลนี้ไว้ให้เจ้าแล้วกันนะ”นางเข้าไปใกล้มากขึ้นและเอื้อมมือรวบผมของถงอวิ๋นไว้ด้านหลังหู ถงอวิ๋นตื่นตกใจอยากถอยไปข้างหลังเพราะหวาดกลัว แต่กลับถูกคว้าที่ท้ายทอยและขยับไม่ได้ จากนั้นเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นในหู“ถ้าเจ้าต้องการให้พ่อแม่เจ้ามีชีวิตรอด จงทำสิ่งสุดท้ายเพื่อข้า”“ก่อนที่เจ้าจะตาย เจ้าจงกระจายข่าวลือว่าเสิ่นหรูโจวกับฉินอวี่มีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ วันนั้นฉินอวี่มาที่จวนก็เพื่อพบกับ เสิ่นหรูโจวเป็นการส่วนตัว……”เสิ่นหรูโจวป่วย ฉินอวี่ก็รีบมาเยี่ยมทันที เมื่อคืนเสิ่นหรูก็ค้
ตอนนี้ทำตัวหยิ่งจองหอง ภายหลังเป่ยซิวเยี่ยนก็จะรู้ซึ้งถึงความลำบากเอง!จวินอู่ประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ท่านจะไม่ตีสนิทกับผู้สำเร็จราชการแทนแล้วหรือขอรับ หากเขาสนับสนุนท่านจะเป็นเหมือนเสือติดปีกนะขอรับ”ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเฉินเหยี่ยนแสดงความเย็นชา “เป่ยซิวเยี่ยนดูงดงามเพียงภายนอกเท่านั้น เสด็จพ่อที่ดูเหมือนให้ความเคารพและให้ความสำคัญกับเขา แท้จริงแล้วท่านไม่พอใจนานแล้วที่เป่ยซิวเยี่ยนกุมกำลังทหารและคุมทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว”“แม้ว่าเป่ยซิวเยี่ยนทำความดีความชอบนับไม่ถ้วน แต่ความสำเร็จใหญ่เกินจักรพรรดิ ไม่มีฮ่องเต้คนใดที่ไม่เกิดความระแวง ตอนนี้เขาอาศัยอำนาจในมือทำตัวจองหอง สักวันหนึ่งอำนาจเหล่าจะทำร้ายเขาเอง! ไม่มีเขา ข้าก็ยึดอำนาจนี้ได้เหมือนกัน!”ดวงตาของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความเยือกเย็น เขากล่าวเสียงต่ำ: “จากนี้ไป เจ้าก็อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก”จวินอู่ตื่นตกใจมาก เขาขมวดคิ้วและไม่พูดถึงมันอีก “ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว”หลังจากที่มู่หว่านหรงกับเซียวเฉินเหยี่ยนกลับไปแล้ว เสิ่นหรูโจวอธิบายบอกฉินอวี่อย่างละเอียดสองสามคำเสร็จก็เตรียมตัวกลับอีกคนอย่างไรก็ตาม นางยังเป็นพระชายาเอกของอ๋องอู่เฉิ
“ทำไมเจ้าถึงชอบใช้ประโยชน์จากทุกโอกาสมากขนาดนี้”“ก็พี่สาวสอนมาดี!” ลู่หวายหนิงไม่หลบหลีกแต่ยังทำท่าชอบใจ ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากภาพที่สวยงามนี้แสบตามากเมื่อตกไปอยู่ในสายตาที่มืดมนของเซียวเฉินเหยี่ยนเขายืนอยู่ไม่ไกลจากจวนและรอเสิ่นหรูโจวออกมา คิดไม่ถึงว่าจะเห็นนางพูดคุยและหัวเราะอยู่กับคนอื่นเขาไม่เห็นท่าทางอ่อนโยนของนางเป็นเวลานานมากแล้ว เขาเห็นนางได้ในความฝันเท่านั้น แต่ตอนนี้เสิ่นหรูโจวกลับยิ้มให้ผู้อื่นทันใดนั้นไฟแห่งความชั่วร้ายก็ลุกไหม้จากก้นบึ้งของหัวใจเอื่อยเฉื่อยเชื่องช้า เดินมาถึงประตูแล้วก็ไม่รีบเดินออกมาแต่ยังหนุงหนิงคุยเล่นกับคนอื่นอยู่ตรงนั้นใบหน้าหล่อเหลาปกคลุมไปด้วยความหมองหม่น ดวงตารูปหงส์ก็เต็มไปด้วยเมฆครึ้ม เขาไม่สามารถมองดูอีกต่อไป จึงตะโกนเสียงเย็นชาทุ้มต่ำ“เสิ่นหรูโจว ยังไม่รีบเดินมาอีก! เจ้าต้องการให้ข้ารอเจ้านานแค่ไหน”เสียงหัวเราะของทั้งสองหยุดกะทันหัน รอยยิ้มของลู่หวายหนิงก็ค้างบนใบหน้า เขามองเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างไม่พอใจและบ่นเสียงเบา: “เร่งเร้าอะไรกัน”เสิ่นหรูโจวเพิกเฉยต่อเซียวเฉินเหยี่ยนและกล่าวเสียงผ่อนคลาย: “ข้าจะไปแล้ว เจ้ารีบกลับไปเถอะ
นางกล่าวน้ำเสียงดูถูกอย่างไม่ปิดบังและใช้สายตาการมองคนบ้ามองเซียวเฉินเหยี่ยน “ในสายตาของท่าน ถ้าข้าพูดกับผู้ชายก็แสดงว่าข้ากับเขาคนนั้นเป็นชู้กัน?”เซียวเฉินเหยี่ยนตกใจมากที่นางพูดตรงเช่นนี้ จึงกล่าวด้วยสีหน้าขุ่นเคือง: “เจ้ามีความละอายใจบ้างหรือไม่”“ท่านมากกว่าที่ไม่มีความละอายใจ! ลู่หวายหนิงอายุเพียงสิบเอ็ดปีและเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ท่านก็คิดออกมาได้!” เสิ่นหรูโจวพูดไม่ออก “ใจของท่านมันสกปรก ทุกสิ่งที่ท่านมองก็สกปรก! ปิดปากเงียบไปเถอะ!”เมื่อพูดเสร็จ นางก็หลับตาและไม่คุยกับเซียวเฉินเหยี่ยนอีกเซียวเฉินเหยี่ยนไม่ได้ตำหนินาง แต่กลับถูกนางด่ากลับ เขาโกรธจนเจ็บหน้าอกแต่เมื่อเขามองใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเสิ่นหรูโจว เช่นเดียวกับในความฝันไม่มีผิด เขาแอบกำหมัดอีกครั้ง นางมีผลกระทบต่ออารมณ์ของเขาโดยสิ้นเชิงเขาคงป่วยจริง ๆ ทำไมเขาถึงสนใจเสิ่นหรูโจวเช่นนี้ ใส่ใจเมื่อนางใกล้ชิดกับผู้อื่นถึงกระทั่งใส่ใจกับการเล่นตลกของเด็กเหลือขอเมื่อก่อนเขาไม่สนใจเลยว่าเสิ่นหรูโจวจะอยู่ข้างกายเขาหรือไม่ นางออกไปได้ทุกเมื่อที่นางต้องการ เขาไม่สนใจ แต่ตอนนี้......เพราะความฝันอันนั้น เป็นความผิดของความ