ลู่หวายหนิงวางถุงหอมไว้ข้างหน้าเป่ยซิวเยี่ยนและกล่าวยกย่องเสิ่นหรูโจวด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า“ท่านอาจารย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้ว่าดอกไม้สามารถใช้เป็นยารักษาอาการเจ็บป่วยของคนได้ พี่คนสวยทั้งใจดีและมีน้ำใจจริง ๆ ท่านอาจารย์ลองแขวนไว้เวลาเข้านอนตอนกลางคืนแล้วมาดูผลกันดีหรือไม่ขอรับ”องครักษ์ฉินหมิงที่อยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วสงสัยก้อนสีเงินอันนั้น “นายน้อย สิ่งนี้ปลอดภัยหรือไม่ หรือเอาไปให้หมอหลวงดูก่อนดีไหมขอรับ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลู่หวายหนิงจ้องเขาด้วยความโกรธ "ข้าเห็นพี่คนสวยทำสิ่งนี้ด้วยตาของข้าเอง ข้าเก็บดอกไม้ด้วยตัวเอง มีอะไรให้กังวลอีก"ฉินหมิงปิดปากช้า ๆใบหน้าหล่อเหลาของเป่ยซิวเยี่ยนปกคลุมไปด้วยความเย็นชา เขาหยิบถุงหอมอันประณีตขึ้นมาบีบเบา ๆ แล้ววางมันไว้ใต้จมูก กลิ่นหอมสดชื่นลอยเข้ามา คิดไม่ถึงเลยว่าเขาสัมผัสได้ถึงความสบาย “เป็นอย่างไรบ้างขอรับอาจารย์ ได้ผลไหมหรือไม่” ลู่หวายหนิงถามพร้อมยิ้มให้ เขามั่นใจในฝืมือของพี่คนสวยมากท่านอาจารย์ต้องชอบแน่ ๆเป่ยซิวเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร แต่จ้องถุงหอมในมือ นัยน์ตาที่มืดมิดและลุ่มลึกมีความเยือกเย็นที่ซ่อนอยู่ข้างใน เขาโยนถุงหอมในมื
นางหยิบเข็มเงินออกมาแล้วฝังที่จุดหลิงซวี[footnoteRef:1] ของฉินอวี่และทำให้เขาสงบลงทันที [1: จุดหลิงซวี คือชื่อจุดฝังเข็มที่ภายในสัมพันธ์กับหัวใจ ภายนอกอยู่บนเนินกล้ามเนื้อ ที่รักษาโรคระบบหายใจ ระบบย่อยอาหารและอาการปวดหน้าอกเป็นต้น] หลังจากที่ฉินอวี่หลับไปแล้ว เสิ่นหรูโจวก็หยิบยาออกจากกล่องยา เมื่อต้มยาเสร็จนางก็ป้อนให้ฉินอวี่ดื่มนางเพิ่งเก็บของเสร็จ ฉินหมิงก็เข้ามาและทักทาย แต่กลับเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างยิ่ง “พระชายาขอรับ นายท่านของข้าต้องการพบท่านขอรับ”ดวงตาของเสิ่นหรูโจวเปล่งประกาย "ข้าทราบแล้ว"เพียงครู่เดียว ฉินหมิงก็พาเสิ่นหรูโจวมาถึงห้องหนังสือแล้วออกไปเสิ่นหรูโจวก้าวเข้ามาถึงห้องก็ได้กลิ่นหอมจาง ๆ ของพลัมทันที ดวงตาของนางสั่นไหวเล็กน้อยจากนั้นนางได้ยินความเคลื่อนไหวซึ่งดูเหมือนเป็นเสียงการพลิกหนังสือ นางจึงเดินตามเสียงนั้นไปถึงห้องทางทิศตะวันออกและยกมือขึ้นเปิดม่านลูกปัดช้า ๆ นางเห็นชายผู้ไม่เป็นสองรองใคร นั่งตัวตรงอยู่หน้าโต๊ะและกำลังพลิกหนังสือหน้าต่างที่อยู่ถัดจากโต๊ะเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องเข้ามาสะท้อนบนร่างกายของเขา ผมสีเงินสยายออกและพาดไว้
“รักษาอาการป่วยให้ข้า!” เขาเยาะเย้ย “กล้าหาญไม่เบา เพียงแต่ว่า เจ้ามีคุณสมบัติอะไรในการเจรจากับข้ารึ”เขาแสดงสีหน้าเฉยเมยอย่างยิ่ง ในดวงตาของเขาก็เย็นชาและเย่อหยิ่งเสิ่นหรูโจวมองเขาด้วยสายตาไม่หยิ่งยโสและไม่ทำตนให้ต่ำต้อย“ผู้สำเร็จราชการแทนต้องการหมอที่สามารถรักษาโรคได้ และข้าก็รู้วิชาหมอ ทำไมไม่ให้ข้าลองดูล่ะ”ใบหน้าดุร้ายของเป่ยซิวเยี่ยนมีความเย็นเยือกอย่างที่เข้าถึงได้ยาก เขามองเสิ่นหรูโจวแล้วริมฝีปากก็โค้งมนอย่างนุ่มนวล “เจ้าทำทุกวิธีเพื่อตามมาแล้วยังทำถุงหอมเพื่อโยนหินถามทาง ใช้เหตุผลว่าจะรักษาอาการป่วยให้กับข้าเพียงเพื่อจะช่วยอ๋องอู่เฉิงผูกสัมพันธ์กับข้างั้นรึ!” เสิ่นหรูโจวตกตะลึงและอธิบายทันที "ท่านอุปราชเข้าใจผิดแล้ว ข้ามีจุดประสงค์จริงแต่ไม่ใช่สำหรับเซียวเฉินเหยี่ยน แต่เพราะข้าต้องการหย่าร้าง"ไม่ว่านางจะทำอะไร ทำไมทุกคนถึงคิดว่านางทำทุกอย่างเพื่อเซียวเฉินเหยี่ยน!ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ที่นางหลงเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างบ้าคลั่งนั้นหยั่งรากลึกอยู่ในใจของผู้คนแล้ว“หย่าร้าง?” เป่ยซิวเยี่ยนมองเสิ่นหรูโจวด้วยสายตาแหลมคมและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อรึ!"ต
น้ำเสียงของหมอประจำจวนแฝงการชื่นชมไว้ในคำพูด: "ท่านอุปราช พระชายาอ๋องอู่เฉิงมีความสามารถมากจริง ๆ ขอรับ ข้าทำการรักษามานานหลายสิบปี ไม่เคยเห็นใครใช้เข็มและยาเก่งเช่นนี้ วิธีการรักษาก็ฉลาดล้ำ"“อาการบาดเจ็บขององครักษ์ฉินอวี่นั้นสาหัสมาก พระชายาคงทำการปฐมพยาบาลได้ทันท่วงทีและหยุดเลือดไว้ทัน ไม่เช่นนั้นองครักษ์ฉินอวี่อาจไม่รอดมาถึงการรักษาในภายหลัง องครักษ์ฉินอวี่ได้รับการรักษาที่ล่าช้าเป็นเวลานานและอาการของเขาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น แต่พระชายากลับพลิกสถานการณ์ได้ถือว่ามีความสามารถอย่างแท้จริงขอรับ”ฉินหมิงกล่าวอย่างประหลาดใจ: "ถ้าเป็นดั่งที่กล่าวมา พระชายาอ๋องอู่เฉิงก็เป็นหมอมหัศจรรย์ที่พบได้ยากในรอบร้อยปีตามข่าวลือจริง ๆ รึ!"หมอประจำจวนยิ้มและกล่าว: "เกินจริงไปเล็กน้อยขอรับ อย่างไรก็ตาม พระชายาอ๋องอู่เฉิงอายุยังน้อยแต่มีทักษะวิชาหมออย่างล้ำลึกนับว่าเป็นคนมีความสามารถพิเศษที่หาได้ยากจริง ๆ ขอรับ"หมอประจำจวนอยู่ที่จวนมานานหลายปี สิ่งที่เขาพูดจึงไม่ใช่คำโกหก แม้ว่าฉินหมิงมีอคติต่อเสิ่นหรูโจวเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่สามารถตั้งคำถามได้อีกแล้วในตอนนี้“พระชายาอ๋องอู่เฉิงผู้นี้ ตั้งแต่ช่วยชีวิตฉินอว
ยิ่งกว่านั้น ฉากในความฝันตรงตามความเป็นจริงทั้งหมด มีเพียงเรื่องราวหลังจากที่เขาแต่งงานกับเสิ่นหรูโจวแล้วแตกต่างออกไปเล็กน้อยหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน เสิ่นหรูโจวในความฝันทำดีกับเขาเช่นเคย นางทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไว้ที่ตัวเขาและร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาเป็นเวลาหลายปีแต่ในความเป็นจริง เสิ่นหรูโจวฟ้องหย่าในวันที่สองของการแต่งงาน ต้องการแยกทางกับเขาและรำคาญเขา ถึงกระทั่ง……ค่อนข้างเกลียดเขาด้วยซ้ำในความฝันมีเหตุการณ์ลอบสังหารเหมือนกัน แต่ในความฝันเป็นมู่หว่านหรงที่ขวางมีดของเสิ่นหรูโจวจนได้รับบาดเจ็บ ภายใต้อารมณ์ที่เดือดดาล เขาทำการลงโทษเสิ่นหรูโจวด้วยการให้นางคุกเข่าทั้งทีมีอาการบาดเจ็บตลอดทั้งวัน สุดท้ายก็จบลงด้วยการที่นางล้มป่วยแต่ในความเป็นจริงเสิ่นหรูโจวทำความรู้จักกับลู่หวายหนิงและฉินอวี่คือคนที่บาดเจ็บแทนนาง เรื่องนี้ยังรบกวนไปถึงผู้สำเร็จราชการแทน สุดท้ายเสิ่นหรูโจวตามเป่ยซิวเยี่ยนจากไป……"เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้!"เซียวเฉินเหยี่ยนรู้สึกมึนงงคิดไม่ตก ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่นเหตุใดช่วงนี้ถึงมีภาพประหลาดปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ตอนนี้เขาฝันเป็นตุเป็นตะ จนถึงขนาดดูเกินจริง/ไม
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาอดไม่ได้ที่จะตีตัวออกห่างจากมู่หว่านหรงและไม่อยากเข้าใกล้นางมากเกินไปเมื่อวานเขาฝันเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพการอยู่ร่วมกันของเขากับเสิ่นหรูโจว มีภาพของมู่หว่านหรงปรากฏในบางครั้ง แต่เสิ่นหรูโจวมีผลกระทบต่อเขามากจนรู้สึกสับสนและไม่มีอารมณ์คุยกับมู่หว่านหรงที่อ่อนแอในเวลานี้มู่หว่านหรงสัมผัสถึงความเย็นชาของเขาและอดไม่ได้ที่จะกังวลนางกัดริมฝีปากและกล่าว "ถึงตอนนี้แล้วพระชายาเอกก็ยังไม่กลับมา หว่านหรงเป็นห่วงเหมือนกันเจ้าค่ะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ในฐานะคนของจวนอ๋องอู่เฉิงหว่านหรงจะไม่สนใจเรื่องนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ!"“ท่านอ๋องให้หว่านหรงไปกับท่านเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น หว่านหรงก็ยังช่วยคิดหาทางได้”จวินอู่จ้องนางอย่างเย็นชาและใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจมู่หว่านหรงจะคิดอะไรได้ พอเจอปัญหาเข้าก็มีแต่จะร้องไห้เท่านั้น!ในเรื่องนี้ เขาชอบเสิ่นหรูโจวมากกว่าจริง ๆ เสิ่นหรูโจวเพียงแค่หลงในตัวท่านอ๋อง แต่นางมีความสามารถอยู่บ้างถงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างช่วยมู่หว่านหรงพูด“ท่านอ๋อง เมื่อวานนี้พระชายารองโกรธมากจนหมดสติ พอตื่นข
อีกด้านหนึ่ง เซียวเฉินเหยี่ยนกับมู่หว่านหรงมาถึงห้องของฉินอวี่แล้วคนบนเตียงยังไม่ตื่น เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้ว ดวงตาของเขามืดมนราวกับว่ามีเมฆครึ้มม้วนตัวทำไมยังไม่ฟื้นอีก!เขามองไปรอบ ๆ โดยไม่เปิดเผยสีหน้าและไม่เห็นร่างของเสิ่นหรูโจว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความร้อนใจที่อธิบายไม่ได้เขาต้องการพบเสิ่นหรูโจวอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าต้องการยืนยันความปลอดภัยของนางหรือเพราะเขาสนใจนางในความฝันและอยากจะพบนางมู่หว่านหรงมองไปที่ฉินอวี่ ใบหน้าของนางสงบนิ่งแต่หัวใจนั้นยุ่งเหยิงหากว่าเขาไม่สามารถลืมตาและนำความลับนั้นเข้าไปในโลงศพด้วยก็คงดี! นางควรทำอย่างไรให้เขากลายเป็นคนตายที่ไม่สามารถพูดได้!ความคิดชั่วร้ายที่นับไม่ถ้วนพลุ่งพล่านอยู่ความคิดของนาง นางอยากจะฆ่าฉินอวี่ให้ได้โดยเร็ว กำลังหยิบน้ำพิษที่เตรียมไว้และป้อนให้เขาต่อหน้าต่อตาของเซียวเฉินเหยี่ยนแต่ทันใดนั้น ฉินอวี่ก็ลืมตาขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ“อ๊า……” มู่หวันหรงกรีดร้องด้วยความตกใจและถอยหลังไปสองก้าว ถงอวิ๋นรีบเข้าไปจับนางถงอวิ๋นพยุงมู่หว่านหรงไปอยู่ด้านข้างและใช้เวลาอยู่พักหนึ่งถึงหายตกใจนางไม่กล้ามองตรงไปที่ฉินอวี่ นาง
“ไม่ว่าในกรณีใด องครักษ์ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บในลานของพระชายาเอกและจวนอ๋องอู่เฉิงไม่อาจเลี่ยงความผิดนี้ได้ หากต้องเกิดการรับผิดชอบ หว่านหรงเต็มใจที่จะแบกรับมันเอง เพียงขอให้องครักษ์ฉินอวี่ให้อภัยและอย่าให้กระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องกับผู้สำเร็จราชการแทน”คิ้วของฉินอวี่ขมวดแน่นยิ่งขึ้น ถงอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงที่ทนไม่ได้ทันที“พระชายาทำตนเองลำบากเช่นนี้ทำไมกันเจ้าคะ องครักษ์ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บที่ลานของพระชายาเอก ต่อให้ต้องรับผิดชอบ ก็ควรเป็นพระชายาเอก ทำไมท่านต้องรับผิดแทนด้วยเจ้าคะ”ไม่ว่าพระชายารองต้องการเล่นอย่างไร นางเพียงพูดคล้อยตามก็พอ!บางทีอาจยังผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้!มู่หว่านหรงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาและมองถงอวิ๋นอย่างไม่พอใจและกล่าว: “ทำไมเจ้าถึงพูดมากเช่นนี้! พระชายาเอกมีสถานะสูงส่ง จะให้ท่านมารับผิดชอบได้อย่างไร"นางสะอื้นพร้อมก้มศีรษะและกล่าว: "ในฐานะคนของจวนอ๋อง ข้าย่อมไม่สามารถเพิกเฉยได้หากจวนอ๋องมีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นข้าเป็นเพียงภรรยารองต่ำต้อยไม่สำคัญอะไร แต่พระชายาเอกเป็นหน้าตาของจวนอ๋อง จะปล่อยให้พระชายาเอกรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้”นางเงยหน้าขึ้นมองฉินอวี่ เ