น้ำเสียงของหมอประจำจวนแฝงการชื่นชมไว้ในคำพูด: "ท่านอุปราช พระชายาอ๋องอู่เฉิงมีความสามารถมากจริง ๆ ขอรับ ข้าทำการรักษามานานหลายสิบปี ไม่เคยเห็นใครใช้เข็มและยาเก่งเช่นนี้ วิธีการรักษาก็ฉลาดล้ำ"“อาการบาดเจ็บขององครักษ์ฉินอวี่นั้นสาหัสมาก พระชายาคงทำการปฐมพยาบาลได้ทันท่วงทีและหยุดเลือดไว้ทัน ไม่เช่นนั้นองครักษ์ฉินอวี่อาจไม่รอดมาถึงการรักษาในภายหลัง องครักษ์ฉินอวี่ได้รับการรักษาที่ล่าช้าเป็นเวลานานและอาการของเขาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น แต่พระชายากลับพลิกสถานการณ์ได้ถือว่ามีความสามารถอย่างแท้จริงขอรับ”ฉินหมิงกล่าวอย่างประหลาดใจ: "ถ้าเป็นดั่งที่กล่าวมา พระชายาอ๋องอู่เฉิงก็เป็นหมอมหัศจรรย์ที่พบได้ยากในรอบร้อยปีตามข่าวลือจริง ๆ รึ!"หมอประจำจวนยิ้มและกล่าว: "เกินจริงไปเล็กน้อยขอรับ อย่างไรก็ตาม พระชายาอ๋องอู่เฉิงอายุยังน้อยแต่มีทักษะวิชาหมออย่างล้ำลึกนับว่าเป็นคนมีความสามารถพิเศษที่หาได้ยากจริง ๆ ขอรับ"หมอประจำจวนอยู่ที่จวนมานานหลายปี สิ่งที่เขาพูดจึงไม่ใช่คำโกหก แม้ว่าฉินหมิงมีอคติต่อเสิ่นหรูโจวเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่สามารถตั้งคำถามได้อีกแล้วในตอนนี้“พระชายาอ๋องอู่เฉิงผู้นี้ ตั้งแต่ช่วยชีวิตฉินอว
ยิ่งกว่านั้น ฉากในความฝันตรงตามความเป็นจริงทั้งหมด มีเพียงเรื่องราวหลังจากที่เขาแต่งงานกับเสิ่นหรูโจวแล้วแตกต่างออกไปเล็กน้อยหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน เสิ่นหรูโจวในความฝันทำดีกับเขาเช่นเคย นางทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไว้ที่ตัวเขาและร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาเป็นเวลาหลายปีแต่ในความเป็นจริง เสิ่นหรูโจวฟ้องหย่าในวันที่สองของการแต่งงาน ต้องการแยกทางกับเขาและรำคาญเขา ถึงกระทั่ง……ค่อนข้างเกลียดเขาด้วยซ้ำในความฝันมีเหตุการณ์ลอบสังหารเหมือนกัน แต่ในความฝันเป็นมู่หว่านหรงที่ขวางมีดของเสิ่นหรูโจวจนได้รับบาดเจ็บ ภายใต้อารมณ์ที่เดือดดาล เขาทำการลงโทษเสิ่นหรูโจวด้วยการให้นางคุกเข่าทั้งทีมีอาการบาดเจ็บตลอดทั้งวัน สุดท้ายก็จบลงด้วยการที่นางล้มป่วยแต่ในความเป็นจริงเสิ่นหรูโจวทำความรู้จักกับลู่หวายหนิงและฉินอวี่คือคนที่บาดเจ็บแทนนาง เรื่องนี้ยังรบกวนไปถึงผู้สำเร็จราชการแทน สุดท้ายเสิ่นหรูโจวตามเป่ยซิวเยี่ยนจากไป……"เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้!"เซียวเฉินเหยี่ยนรู้สึกมึนงงคิดไม่ตก ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่นเหตุใดช่วงนี้ถึงมีภาพประหลาดปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ตอนนี้เขาฝันเป็นตุเป็นตะ จนถึงขนาดดูเกินจริง/ไม
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาอดไม่ได้ที่จะตีตัวออกห่างจากมู่หว่านหรงและไม่อยากเข้าใกล้นางมากเกินไปเมื่อวานเขาฝันเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพการอยู่ร่วมกันของเขากับเสิ่นหรูโจว มีภาพของมู่หว่านหรงปรากฏในบางครั้ง แต่เสิ่นหรูโจวมีผลกระทบต่อเขามากจนรู้สึกสับสนและไม่มีอารมณ์คุยกับมู่หว่านหรงที่อ่อนแอในเวลานี้มู่หว่านหรงสัมผัสถึงความเย็นชาของเขาและอดไม่ได้ที่จะกังวลนางกัดริมฝีปากและกล่าว "ถึงตอนนี้แล้วพระชายาเอกก็ยังไม่กลับมา หว่านหรงเป็นห่วงเหมือนกันเจ้าค่ะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ในฐานะคนของจวนอ๋องอู่เฉิงหว่านหรงจะไม่สนใจเรื่องนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ!"“ท่านอ๋องให้หว่านหรงไปกับท่านเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น หว่านหรงก็ยังช่วยคิดหาทางได้”จวินอู่จ้องนางอย่างเย็นชาและใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจมู่หว่านหรงจะคิดอะไรได้ พอเจอปัญหาเข้าก็มีแต่จะร้องไห้เท่านั้น!ในเรื่องนี้ เขาชอบเสิ่นหรูโจวมากกว่าจริง ๆ เสิ่นหรูโจวเพียงแค่หลงในตัวท่านอ๋อง แต่นางมีความสามารถอยู่บ้างถงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างช่วยมู่หว่านหรงพูด“ท่านอ๋อง เมื่อวานนี้พระชายารองโกรธมากจนหมดสติ พอตื่นข
อีกด้านหนึ่ง เซียวเฉินเหยี่ยนกับมู่หว่านหรงมาถึงห้องของฉินอวี่แล้วคนบนเตียงยังไม่ตื่น เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้ว ดวงตาของเขามืดมนราวกับว่ามีเมฆครึ้มม้วนตัวทำไมยังไม่ฟื้นอีก!เขามองไปรอบ ๆ โดยไม่เปิดเผยสีหน้าและไม่เห็นร่างของเสิ่นหรูโจว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความร้อนใจที่อธิบายไม่ได้เขาต้องการพบเสิ่นหรูโจวอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าต้องการยืนยันความปลอดภัยของนางหรือเพราะเขาสนใจนางในความฝันและอยากจะพบนางมู่หว่านหรงมองไปที่ฉินอวี่ ใบหน้าของนางสงบนิ่งแต่หัวใจนั้นยุ่งเหยิงหากว่าเขาไม่สามารถลืมตาและนำความลับนั้นเข้าไปในโลงศพด้วยก็คงดี! นางควรทำอย่างไรให้เขากลายเป็นคนตายที่ไม่สามารถพูดได้!ความคิดชั่วร้ายที่นับไม่ถ้วนพลุ่งพล่านอยู่ความคิดของนาง นางอยากจะฆ่าฉินอวี่ให้ได้โดยเร็ว กำลังหยิบน้ำพิษที่เตรียมไว้และป้อนให้เขาต่อหน้าต่อตาของเซียวเฉินเหยี่ยนแต่ทันใดนั้น ฉินอวี่ก็ลืมตาขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ“อ๊า……” มู่หวันหรงกรีดร้องด้วยความตกใจและถอยหลังไปสองก้าว ถงอวิ๋นรีบเข้าไปจับนางถงอวิ๋นพยุงมู่หว่านหรงไปอยู่ด้านข้างและใช้เวลาอยู่พักหนึ่งถึงหายตกใจนางไม่กล้ามองตรงไปที่ฉินอวี่ นาง
“ไม่ว่าในกรณีใด องครักษ์ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บในลานของพระชายาเอกและจวนอ๋องอู่เฉิงไม่อาจเลี่ยงความผิดนี้ได้ หากต้องเกิดการรับผิดชอบ หว่านหรงเต็มใจที่จะแบกรับมันเอง เพียงขอให้องครักษ์ฉินอวี่ให้อภัยและอย่าให้กระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องกับผู้สำเร็จราชการแทน”คิ้วของฉินอวี่ขมวดแน่นยิ่งขึ้น ถงอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงที่ทนไม่ได้ทันที“พระชายาทำตนเองลำบากเช่นนี้ทำไมกันเจ้าคะ องครักษ์ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บที่ลานของพระชายาเอก ต่อให้ต้องรับผิดชอบ ก็ควรเป็นพระชายาเอก ทำไมท่านต้องรับผิดแทนด้วยเจ้าคะ”ไม่ว่าพระชายารองต้องการเล่นอย่างไร นางเพียงพูดคล้อยตามก็พอ!บางทีอาจยังผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้!มู่หว่านหรงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาและมองถงอวิ๋นอย่างไม่พอใจและกล่าว: “ทำไมเจ้าถึงพูดมากเช่นนี้! พระชายาเอกมีสถานะสูงส่ง จะให้ท่านมารับผิดชอบได้อย่างไร"นางสะอื้นพร้อมก้มศีรษะและกล่าว: "ในฐานะคนของจวนอ๋อง ข้าย่อมไม่สามารถเพิกเฉยได้หากจวนอ๋องมีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นข้าเป็นเพียงภรรยารองต่ำต้อยไม่สำคัญอะไร แต่พระชายาเอกเป็นหน้าตาของจวนอ๋อง จะปล่อยให้พระชายาเอกรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้”นางเงยหน้าขึ้นมองฉินอวี่ เ
เสิ่นหรูโจวเข้ามาคนแรก ตามมาด้วยคนหนุ่มลู่หวายหนิงและข้างหลังเขาคือเป่ยซิวเยี่ยนที่สวมชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาช้า ๆหลังจากเสิ่นหรูโจวได้ข่าวนางก็รีบกลับไป ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับลู่หวายหนิงระหว่างทาง นางอธิบายสองสามคำจนล่าช้าไปพักหนึ่งแล้วเป่ยซิวเยี่ยนก็มาถึงพอดีทั้งสามคนเดินเข้ามาพร้อมกันดวงตาของเซียวเฉินเหยี่ยนตกอยู่ที่ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวก่อน ใบหน้าที่ละเมียดละไมสวยงามของนางทับซ้อนกับความฝันทันที เขาพลันรู้สึกหัวใจสั่นไหวและแววตาก็แสดงอาการเคลิบเคลิ้มนางสบายดี ทุกอย่างปกติ...เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนกับมู่หว่านหรงกอดกันดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเห็นฉินอวี่ตื่นแล้วลู่หวายหนิงดีใจมากจึงวิ่งเหยาะเข้าไปหา ฉินอวี่ยังไม่ทันกล่าวทักทายก็ถูกผลักกลับไปที่เตียง“นี่ ไม่จำเป็นต้องทำความเคารพกันหรอก ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง! บาดแผลยังเจ็บอยู่หรือไม่!”ลู่หวายหนิงนั่งอยู่ข้างเตียง แตะหน้าผากของเขาและมองดูใบหน้าของเขาอย่างละเอียด "ไม่มีไข้แล้ว"ฉินอวี่เห็นท่าทางเป็นห่วงของลู่หวายหนิงจึงยิ้มกล่าว: “นายน้อยไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นอะไรแล้วขอรับ"เสิ่นห
ดูเหมือนว่าฉินอวี่ไม่รู้ว่าใครผลักเขา ดีมาก!ดวงตาลึกซึ้งยากหยั่งรู้ได้ของเซียวเฉินเหยี่ยนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยไม่ใช่เสิ่นหรูโจว?เขารู้สึกโล่งใจ โชคดีที่ไม่ใช่นาง ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าเขาเข้าใจนางผิด……เขามองเสิ่นหรูโจวโดยไม่พูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้างดงาม ลำคอที่ขาวดุจหิมะเอียงเล็กน้อย ชุดสีแดงที่สวมแล้วเน้นให้เห็นรูปร่างที่ผอมบาง ทั้งคนเปรียบเสมือนดอกไม้ที่มีเสน่ห์ งดงาม พร่างพราวเช่นเดียวกับในฝันใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นพิเศษของเป่ยซิวเยี่ยนก็ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ไม่มีใครหยั่งรู้อารมณ์ของเขาได้เมื่อลู่หวายหนิงได้ยินฉินอวี่พูดว่าไม่ใช่เสิ่นหรูโจวแน่นอน เขาก็กล่าวอย่างตื่นเต้น“ข้าบอกแล้วว่าไม่ใช่พี่คนสวย พี่คนสวยใจดีมีเมตตา นางไม่ทำสิ่งร้ายกาจและเลวร้ายเช่นนี้แน่!”ทันใดนั้นสีหน้าของเสิ่นหรูโจวก็เปลี่ยนไปและคิ้วที่สวยงามของนางก็ชนติดกัน“เจ้าเห็นไม่ชัดเจนว่าใครผลักเจ้าออกไปรึ ตอนนั้นมีคนอยู่ข้างหลังเจ้าไม่กี่คน เจ้าลองคิดดูให้ดีว่าใครมีโอกาสผลักเจ้าออกไป”นางคิดว่าฉินอวี่จะระบุตัวฆาตกรได้ทันทีหลังจากฟื้นขึ้นมา แต่นางไม่คิดเลยว่าเขามองเห็นไม่ชัดเจนเมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ว่านา
มู่หว่านหรงก้าวไปข้างหน้า นางก้มศีรษะลงเล็กน้อยและแสดงท่าทางอ่อนน้อมเชื่อฟังไม่มีใครรู้เลยว่าดวงตาที่มองต่ำของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาและความชั่วร้ายเสิ่นหรูโจวพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว และความน่าสงสัยก็ตกมาอยู่ที่นางกับถงอวิ๋น ไม่ใช่นางก็เป็นถงอวิ๋น ตอนนั้นฉินอวี่กำลังจัดการกับมือสังหารและไม่รู้ว่าถงอวิ๋นอยู่ที่ไหน หากโยนความผิดนี้ให้กับถงอวิ๋น ปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนางก็จะได้รับการแก้ไขน่ะสิ!ทุกคนมองมู่หว่านหรงด้วยความสงสัย ถงอวิ๋นไม่เข้าใจว่ามู่หว่านหรงหมายถึงอะไร นางรู้สึกประหม่าและมองนางอย่างประหลาดเมื่อมู่หว่านหรงเงยหน้าขึ้น ขอบตาของนางก็แดงไปหมดและกล่าวเสียงสะอื้น“เมื่อความสงสัยตกอยู่ที่ข้าและสาวใช้ของข้า เช่นนั้นก็ถือว่าหว่านหรงทำแล้วกัน ขอเพียงบรรเทาความไม่พอใจของผู้สำเร็จราชการแทนได้หว่านหรงก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเจ้าค่ะ”ลู่หวายหนิงขมวดคิ้วและมองมู่หว่านหรงด้วยสายตารังเกียจอย่างเปิดเผย“ถือว่าเจ้าเป็นคนทำแล้วกันหมายความว่ายังไง เจ้าเป็นคนทำจริง ๆ หรือไม่”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นหรูโจวก็หรี่ตาลงอย่างเห็นได้ชัดมู่หว่านหรงมีความสามารถพิเศษสองอย่าง