“ไม่ว่าในกรณีใด องครักษ์ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บในลานของพระชายาเอกและจวนอ๋องอู่เฉิงไม่อาจเลี่ยงความผิดนี้ได้ หากต้องเกิดการรับผิดชอบ หว่านหรงเต็มใจที่จะแบกรับมันเอง เพียงขอให้องครักษ์ฉินอวี่ให้อภัยและอย่าให้กระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องกับผู้สำเร็จราชการแทน”คิ้วของฉินอวี่ขมวดแน่นยิ่งขึ้น ถงอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงที่ทนไม่ได้ทันที“พระชายาทำตนเองลำบากเช่นนี้ทำไมกันเจ้าคะ องครักษ์ฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บที่ลานของพระชายาเอก ต่อให้ต้องรับผิดชอบ ก็ควรเป็นพระชายาเอก ทำไมท่านต้องรับผิดแทนด้วยเจ้าคะ”ไม่ว่าพระชายารองต้องการเล่นอย่างไร นางเพียงพูดคล้อยตามก็พอ!บางทีอาจยังผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้!มู่หว่านหรงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาและมองถงอวิ๋นอย่างไม่พอใจและกล่าว: “ทำไมเจ้าถึงพูดมากเช่นนี้! พระชายาเอกมีสถานะสูงส่ง จะให้ท่านมารับผิดชอบได้อย่างไร"นางสะอื้นพร้อมก้มศีรษะและกล่าว: "ในฐานะคนของจวนอ๋อง ข้าย่อมไม่สามารถเพิกเฉยได้หากจวนอ๋องมีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นข้าเป็นเพียงภรรยารองต่ำต้อยไม่สำคัญอะไร แต่พระชายาเอกเป็นหน้าตาของจวนอ๋อง จะปล่อยให้พระชายาเอกรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้”นางเงยหน้าขึ้นมองฉินอวี่ เ
เสิ่นหรูโจวเข้ามาคนแรก ตามมาด้วยคนหนุ่มลู่หวายหนิงและข้างหลังเขาคือเป่ยซิวเยี่ยนที่สวมชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาช้า ๆหลังจากเสิ่นหรูโจวได้ข่าวนางก็รีบกลับไป ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับลู่หวายหนิงระหว่างทาง นางอธิบายสองสามคำจนล่าช้าไปพักหนึ่งแล้วเป่ยซิวเยี่ยนก็มาถึงพอดีทั้งสามคนเดินเข้ามาพร้อมกันดวงตาของเซียวเฉินเหยี่ยนตกอยู่ที่ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวก่อน ใบหน้าที่ละเมียดละไมสวยงามของนางทับซ้อนกับความฝันทันที เขาพลันรู้สึกหัวใจสั่นไหวและแววตาก็แสดงอาการเคลิบเคลิ้มนางสบายดี ทุกอย่างปกติ...เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนกับมู่หว่านหรงกอดกันดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเห็นฉินอวี่ตื่นแล้วลู่หวายหนิงดีใจมากจึงวิ่งเหยาะเข้าไปหา ฉินอวี่ยังไม่ทันกล่าวทักทายก็ถูกผลักกลับไปที่เตียง“นี่ ไม่จำเป็นต้องทำความเคารพกันหรอก ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง! บาดแผลยังเจ็บอยู่หรือไม่!”ลู่หวายหนิงนั่งอยู่ข้างเตียง แตะหน้าผากของเขาและมองดูใบหน้าของเขาอย่างละเอียด "ไม่มีไข้แล้ว"ฉินอวี่เห็นท่าทางเป็นห่วงของลู่หวายหนิงจึงยิ้มกล่าว: “นายน้อยไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นอะไรแล้วขอรับ"เสิ่นห
ดูเหมือนว่าฉินอวี่ไม่รู้ว่าใครผลักเขา ดีมาก!ดวงตาลึกซึ้งยากหยั่งรู้ได้ของเซียวเฉินเหยี่ยนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยไม่ใช่เสิ่นหรูโจว?เขารู้สึกโล่งใจ โชคดีที่ไม่ใช่นาง ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าเขาเข้าใจนางผิด……เขามองเสิ่นหรูโจวโดยไม่พูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้างดงาม ลำคอที่ขาวดุจหิมะเอียงเล็กน้อย ชุดสีแดงที่สวมแล้วเน้นให้เห็นรูปร่างที่ผอมบาง ทั้งคนเปรียบเสมือนดอกไม้ที่มีเสน่ห์ งดงาม พร่างพราวเช่นเดียวกับในฝันใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นพิเศษของเป่ยซิวเยี่ยนก็ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ไม่มีใครหยั่งรู้อารมณ์ของเขาได้เมื่อลู่หวายหนิงได้ยินฉินอวี่พูดว่าไม่ใช่เสิ่นหรูโจวแน่นอน เขาก็กล่าวอย่างตื่นเต้น“ข้าบอกแล้วว่าไม่ใช่พี่คนสวย พี่คนสวยใจดีมีเมตตา นางไม่ทำสิ่งร้ายกาจและเลวร้ายเช่นนี้แน่!”ทันใดนั้นสีหน้าของเสิ่นหรูโจวก็เปลี่ยนไปและคิ้วที่สวยงามของนางก็ชนติดกัน“เจ้าเห็นไม่ชัดเจนว่าใครผลักเจ้าออกไปรึ ตอนนั้นมีคนอยู่ข้างหลังเจ้าไม่กี่คน เจ้าลองคิดดูให้ดีว่าใครมีโอกาสผลักเจ้าออกไป”นางคิดว่าฉินอวี่จะระบุตัวฆาตกรได้ทันทีหลังจากฟื้นขึ้นมา แต่นางไม่คิดเลยว่าเขามองเห็นไม่ชัดเจนเมื่อเป็นเช่นนี้ แม้ว่านา
มู่หว่านหรงก้าวไปข้างหน้า นางก้มศีรษะลงเล็กน้อยและแสดงท่าทางอ่อนน้อมเชื่อฟังไม่มีใครรู้เลยว่าดวงตาที่มองต่ำของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาและความชั่วร้ายเสิ่นหรูโจวพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว และความน่าสงสัยก็ตกมาอยู่ที่นางกับถงอวิ๋น ไม่ใช่นางก็เป็นถงอวิ๋น ตอนนั้นฉินอวี่กำลังจัดการกับมือสังหารและไม่รู้ว่าถงอวิ๋นอยู่ที่ไหน หากโยนความผิดนี้ให้กับถงอวิ๋น ปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนางก็จะได้รับการแก้ไขน่ะสิ!ทุกคนมองมู่หว่านหรงด้วยความสงสัย ถงอวิ๋นไม่เข้าใจว่ามู่หว่านหรงหมายถึงอะไร นางรู้สึกประหม่าและมองนางอย่างประหลาดเมื่อมู่หว่านหรงเงยหน้าขึ้น ขอบตาของนางก็แดงไปหมดและกล่าวเสียงสะอื้น“เมื่อความสงสัยตกอยู่ที่ข้าและสาวใช้ของข้า เช่นนั้นก็ถือว่าหว่านหรงทำแล้วกัน ขอเพียงบรรเทาความไม่พอใจของผู้สำเร็จราชการแทนได้หว่านหรงก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเจ้าค่ะ”ลู่หวายหนิงขมวดคิ้วและมองมู่หว่านหรงด้วยสายตารังเกียจอย่างเปิดเผย“ถือว่าเจ้าเป็นคนทำแล้วกันหมายความว่ายังไง เจ้าเป็นคนทำจริง ๆ หรือไม่”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นหรูโจวก็หรี่ตาลงอย่างเห็นได้ชัดมู่หว่านหรงมีความสามารถพิเศษสองอย่าง
“ข้าจำได้ว่าถงอวิ๋นซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ในเวลานั้น นางเดินเข้ามาหลังจากที่ฉินอวี่ล้มลงกับพื้น นางกลายเป็นคนผลักฉินอวี่ได้อย่างไร ในทางกลับกันคนที่ใกล้ชิดกับฉินอวี่มากที่สุดคือพระชายารองไม่ใช่รึ”ฉินอวี่กล่าวทันที: “ใช่ ข้าจำได้ว่าตอนนั้นพระชายารองหลบอยู่ข้างหลังข้าตลอดเวลา”มู่หว่านหรงเบิกตากว้างและกล่าวอย่างน้อยใจ: “พระชายาเอกจะบอกว่าหว่านหรงคือคนที่ผลักฉินอวี่หรือเจ้าคะ"เป่ยซิวเยี่ยนเฝ้าดูทุกสิ่งอย่างเงียบ ๆ นัยน์ตาราวกับมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองมู่หว่านหรง จากนั้นมองเสิ่นหรูโจวและไม่พูดอะไรเสิ่นหรูโจวกอดอกพร้อมแสงสีหน้าเย็นชา "มู่หว่านหรง ในสถานการณ์นั้น เจ้าคือคนเดียวที่มีเวลาและโอกาสผลักข้า/เขา"“เจ้าใส่ร้ายว่าข้าทำร้ายคนอื่นไม่สำเร็จ ตอนนี้เจ้าคิดจะปัดความรับผิดชอบให้กับสาวใช้ เจ้าไม่อายบ้างรึ! ข้าจะบอกให้นะการโกหกและทำร้ายผู้อื่นจะนำไปสู่การไม่มีลูกหลานไว้สืบทอด!”มู่หว่านหรงถูกเสิ่นหรูโจวดุด่า หมัดของนางก็กำแน่นทันที โหดเหี้ยมมากนังเสิ่นหรูโจวสาปแช่งนางไม่มีลูกหลานไว้สืบทอดในเวลานี้ ลู่หวายหนิงอดไม่ได้จึงกล่าวด้วยอีกคน: "ใช่ ฉินอวี่บอกว่าเจ้าอยู
“เจ้าพูดออกมาเถอะ” มู่หว่านหรงขัดจังหวะและมองนางหน้าเศร้า“บอกความจริงออกไป ทุกคนจะได้ไม่คิดว่าข้าจงใจทำร้ายเจ้า เจ้าสบายใจได้ เราเป็นนายและคนรับใช้มาหลายปี ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรข้าก็ไม่ตำหนิเจ้า”ถงอวิ๋นหยุดพูดทันที เมื่อเห็นการข่มขู่ที่โหดร้ายของมู่หว่านหรง ความรู้สึกน่าสยดสยองก็เกิดขึ้นในใจนางนางเป็นแค่สาวใช้ที่มีสถานะต่ำต้อย ชีวิตของพ่อกับแม่ก็อยู่ในมือของพี่สาวมู่หว่านหรง หากนางเปิดโปง พ่อกับแม่ของนางจะถูกฆ่าทันทีเมื่อเดินออกจากประตูนี้!นางได้แต่เกลียดตนเองที่อยู่กับนายผิดคน!เมื่อมาถึงจุดนี้ นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับเอง เพื่อแลกกับความเป็นอยู่ที่สงบสุขของพ่อแม่นางหลับตาแน่น “ข้ากลัวตายเจ้าค่ะ จึงผลักองครักษ์ฉินอวี่ไปรับดาบข้างหน้า!” “ข้ารู้สึกว่าช่วงนี้ท่านอ๋องสนใจพระชายาเอกมากขึ้น ข้ากังวลว่าพระชายาเอกได้รับความโปรดปรานจะส่งผลเสียต่อพระชายารอง องครักษ์ฉินอวี่บังเอิญมาเยี่ยมพระชายาเอกพอดี ข้าเลยอยากใช้โอกาสนี้ทำร้ายเขา หากองครักษ์ฉินอวี่เสียชีวิตในเรือนของพระชายาเอก พระชายาเอกก็จะถูกลงโทษแน่นอน!”มู่หว่านหรงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง: “เด็กคนนี้ ทำไมถึงโง่เขลาเช่นน
เสิ่นหรูโจวอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว มือที่ไขว้อยู่ข้างหลังยกนิ้วโป้งขึ้นให้กับเป่ยซิวเยี่ยนเกิดอะไรขึ้น แม้ว่านางกลัวเป่ยซิวเยี่ยนแต่นางชอบฝีปากนี้ของเขามาก!มู่หว่านหรงแสดงละครนั่นแหละ เลือดก็ไหลออกมาไม่กี่หยด มีเพียงเซียวเฉินเหยี่ยนเท่านั้นที่เชื่อทันใดนั้นใบหน้าของมู่หว่านหรงก็ซีดลง นางหลบอยู่ในอ้อมแขนของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่กล้าพูดอะไรและรอเซียวเฉินเหยี่ยนปกป้องนางเซียวเฉินเหยี่ยนหรี่ตาลงอย่างหนักและมองคนมีฐิฑิสูงอย่างเป่ยซิวเยี่ยนในความฝัน เขาพยายามที่จะดึงเป่ยซิวเยี่ยนมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่เป่ยซิวเยี่ยนไม่เคยยืนฝ่ายเดียวกับเขาเลย เขาหยิ่งผยองและไม่เคยเห็นตนอยู่ในสายตาตอนนี้ เขาปฏิบัติกับเป่ยซิวเยี่ยนเสมือนแขกพิเศษเพื่อดึงเป่ยซิวเยี่ยนมาอยู่เรือลำเดียวกัน ให้ความเคารพอยู่เสมอ แต่เป่ยซิวเยี่ยนมองเขาเหมือนอากาศ มีฐิฑิสูงและเวลาทำอะไรก็ไม่เคยไว้หน้าเขาสิ่งที่เขาพูดแทนมู่หว่านหรงก็เหมือนว่าไม่มีน้ำหนักเลยใบหน้าของเขาแข็งทื่อ เขาพยายามระงับความโกรธในใจและขอร้องอีกครั้ง: “ผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยกรุณาหน่อยได้หรือไม่”เป่ยซิวเยี่ยนมองเขาอย่างเฉยเมย ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นราวกับบึ
วันเวลายังอีกยาวนาน ไม่ช้าก็เร็ว นางจะทำให้คนที่ทำร้ายนางชดใช้ทีละคน!ลู่หวายหนิงไม่อยากสนใจมู่หว่านหรงเหมือนกัน เขาเรียกคนเข้ามา เมื่อมู่หว่านหรงพูดเสร็จเขาจะลากถงอวิ๋นไปรับโทษสับเอวทันทีจากนั้น เขาเดินตามเสิ่นหรูโจวเข้าไปหาฉินอวี่เซียวเฉินเหยี่ยนกล่าว: “เจ้าเป็นคนมีเมตตา ไปเถอะ”มู่หว่านหรงกล่าวขอบคุณแล้วย่อตัวลงตรงหน้าถงอวิ๋นนางถอดกำไลหยกออกจากข้อมือแล้วยื่นให้ถงอวิ๋นด้วยเสียงเศร้า“เจ้ากับข้าเป็นนายกับสาวใช้กันครั้งหนึ่ง ข้าช่างเจ็บปวดยิ่งนักที่เห็นเจ้าตกอยู่ในสภาพนี้ ข้าไม่มีอะไรจะให้ ขอมอบกำไลนี้ไว้ให้เจ้าแล้วกันนะ”นางเข้าไปใกล้มากขึ้นและเอื้อมมือรวบผมของถงอวิ๋นไว้ด้านหลังหู ถงอวิ๋นตื่นตกใจอยากถอยไปข้างหลังเพราะหวาดกลัว แต่กลับถูกคว้าที่ท้ายทอยและขยับไม่ได้ จากนั้นเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นในหู“ถ้าเจ้าต้องการให้พ่อแม่เจ้ามีชีวิตรอด จงทำสิ่งสุดท้ายเพื่อข้า”“ก่อนที่เจ้าจะตาย เจ้าจงกระจายข่าวลือว่าเสิ่นหรูโจวกับฉินอวี่มีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ วันนั้นฉินอวี่มาที่จวนก็เพื่อพบกับ เสิ่นหรูโจวเป็นการส่วนตัว……”เสิ่นหรูโจวป่วย ฉินอวี่ก็รีบมาเยี่ยมทันที เมื่อคืนเสิ่นหรูก็ค้