เสียงก้อนหินกระทบเข้าที่หลังของคนร่างอ้วนอย่างสุดแรง เป็นพละกำลังมหาศาล จนทำให้อี้ฟูถึงกับล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้นดินอย่างรวดเร็ว บรรยากาศตอนนี้เงียบสงบ บรรดาเสียงสัตว์ป่าน้อยใหญ่เริ่มกู่ร้องขึ้นมา ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว แสงอาทิตย์ยามอัสดงเริ่มค่อยๆคืบคลานล่วงลับไปอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้นเอง.... สตร
ตอนนี้หรงหรงรู้สึกปวดหัว ราวกับจะระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สตรีร่างบางยังคงนั่งประติดประต่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าของร่างเดิม ยิ่งความทรงจำเริ่มประทุมากขึ้นเท่าไหร่ หรงหรงก็ยิ่งสมเพชตนเองมากขึ้นเท่านั้น "เฮ้ออ...หรงหรงนะหรงหรง ทำไมชีวิตของเจ้าถึงได้อนาถใจถึงเพียงนี้ พ่อต้องมาตายตั้งแต่ตอนที่เ
"แขนขวากระดูกร้าว แขนซ้ายหัก ขาทั้งสองข้างหัก ด้านหลังมีรอยดาบลากยาวต้องรีบเย็บ อกขวาก็ต้องรีบเย็บเหมือนกัน มิเช่นนั้นเจ้าคงได้ตาย เพราะมีเลือดไหลออกหมดตัวเป็นแน่ เฮ้ออออ......ข้าอยากจะรู้เสียจริง เจ้าไปขวางทางผู้ใหญ่ที่ใดเข้า ถึงได้มีชะตากรรมเยี่ยงนี้ พวกเขาช่างโหดเหี้ยมอำมหิตเสียจริง ดูท่าเจ้าคงสู
หรงหรงเบิกตาโตอย่างตะลึง นางมองเห็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยปรากฎขึ้น มีทั้งยาชา ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และยาอีกหลายชนิดมากมายครบวงจร "อาเฉิน...ตอนนี้ท่านไม่ต้องทนเจ็บ และไม่ต้องกังวลว่าบาดแผลจะติดเชื้ออีกแล้ว....? หรงหรงสวมกอดโม่เฉินทันทีอย่างลืมตัว โม่เฉินยังคงมึนงงไม่เข้าใจในความหมายของนาง และไม
หรงหรงนั่งลงมืออย่างพิถีพิถัน นางตักน้ำรดโคนผมให้โม่เฉิน เพื่อล้างคราบเลือดออกไปก่อนสองถึงสามรอบ ก่อนจะเทน้ำมันระเหยที่ทำจากธรรมชาติ นวดให้ทั่วทั้งบริเวณศรีษะของเขา และขยี้เบาๆจนเกิดฟองอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวว่าหนังศรีษะเขา จะมีบาดแผลในส่วนที่นางมองไม่เห็นอีก โชคดีที่เจ้าของร่างเดิมทำน้ำมันระเหย
รุ่งเช้าที่อากาศแจ่มใส.... หรงหรงตื่นแต่เช้าตรู่ นางนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระ หรงหรงจึงลงมือเข้าครัวทำอาหารตั้งแต่รุ่งสาง หลังจากนั้นนางรีบออกไปหาบน้ำที่ท้สยหมู่บ้านมาใส่ไว้ในตุ่ม บ้านเรือนบางหลังก็เริ่มทยอยตื่นขึ้นมาบ้างแล้วประปราย "หรงเอ๋อร์...เจ้าช่างขยันจริงเชียว ตื่นมา
หรงหรงรีบหยดเลือดพิสูจน์หาสาเหตุทันที เลือดสีแดงกายเป็นสีดำในชั่วพริบตาเดียว สตรีร่างบางยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ นางจึงหยิบเข็มเงิน เพื่อพิสูจน์หาพิษให้แน่ชัดอีกครั้ง ผลที่ได้...ปลายเข็มเงินกลายเป็นสีดำสนิทขึ้นมาทันที "ร่ายกายได้รับพิษ ท่านแม่....ท่านถูกพิษได้เช่นไรเจ้าคะ...? หรงหรงรีบหันไปถา
"หรงเอ๋อร์!!! รีบตามแม่เข้ามาในห้องประเดี่ยวนี้ แม่ต้องการคำอธิบาย...? นางเมิงทำหน้าตาขึงขังไม่พอใจเป็นอย่างมาก แววตานางลุกโชนราวกับเปลวไฟที่กำลังร้อนระอุ พร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ หญิงชราผู้นี้อยากจะรู้จริงๆเชียว ว่าบุตรสาวตัวดีของนางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้พาบุรุษลึกลับไม่มีหัวนอนปลายเท้าที
"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับไ
หรงหรงเริ่มจัดเเจงกับห่อยาสมุนไพร แยกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับได้ง่ายเวลาแจกจ่ายยา นี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง ตั้งแต่ได้ข้ามภพมา ลุงหมิ่งพึ่งจะกลับมาจากจ่ายตลาด เขาเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในเรือน เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงกำลังจัดเตรียมสิ่งของอยู่ เขาจึงรีบเอ่ยถามอย่างดีใจ
"เจ้าหนึ่ง...เจ้าน่าจะอายุมากสุด ต่อไปเรื่องการซื้อจ่ายอาหารการกิน รวมถึงสิ่งของทุกอย่างต้องผ่านมือเจ้าเป็นคนแรก และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในเรือน เจ้าต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด" หรงหรงเอ่ยออกไปเมื่อคิดขึ้นมาได้ "แต่....ข้า.....ไม่รู้หนังสือ..." เจ้าหนึ่งพูดจาตะกุกตะกักขึ้น "เรื่องนั่นมิใช่ป
แสงแดดเริ่มสาดส่องในยามสาย บรรยากาศยังคงเย็นอยู่ไม่จางหาย ไม่นานเกวียนรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองอีกครั้ง "นางหนู....ตื่นได้แล้ว พวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว" ลุงจางตะโกนปลุกหรงหรงทันที่เมื่อจอดเทียบเกวียน "หือ.....ฮ้าววว.....ถึงแล้วรึเจ้าค่ะท่านลุง...? หรงหรงตื่นขึ้นมานั่งก่อน นางหาวออกมาสองสาม
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสี่ยวเพ้ารีบเห่าขึ้นมา ท่าทีมันเหมือนกำลังตอบโต้กลับ ยิงทำให้หรงหรงรู้สึกขบขัน "พวกท่านทำราวกับเป็นคู่กัดกันมาแต่ชาติปางก่อน.." "เจ้าไม่เห็นมันทำท่าขู่ข้าหรอกหรือ ข้าก็เป็นเจ้านายมันครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่ดูมันทำกับข้าสิ ทำราวกับข้าเป็นโจรผู้ร้าย ที่กำลังจะมาลักพาตัวเจ้าไป..."
เมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยคำขอร้อง มารดาจึงยอมรับปากแต่โดยดี ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุตรสาวขึ้นต่อ "หรงเอ๋อร์....ลูกนำเอาบุรุษที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ในเรือนของเรา แม่ก็ว่าแย่แล้ว แต่นี้ยังจะเอาตัวอันตรายเข้ามาอยู่ในเรือนเพิ่ม เจ้าอยากจะเห็นแม่ตายก่อนวัยอันควรไปก่อนอย่างนั้นหรือ...
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม
นางเมิงตื่นนอนก่อนเป็นคนแรก นางลุกขึ้นนั่งชันเข่าเพื่อบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที ก่อนจะเตรียมตัวออกไปก่อไฟหุงข้าว สายตานางพลันเหลือบไปเห็นอะไรสีขาวๆดูเลือนลาง คล้ายกำลังนอนคดตัวอยู่ในอ้อมกอดของบุตรสาวอย่างไม่รู้สึกรู้สา "ว้ายยย!!!...."นางเมิงตกใจร้องเสียงหลงออกมาในทันที เมื่อเห็นตัวอันตรายตรงหน้าเข้า
"หรงเอ๋อร์!!!!!! ข้าพึ่งจะบอกไปอยู่หยกๆ ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าลูกคนนี้นี้จริงๆเลย..." โม่เฉินปล่อยให้สตรีตรงหน้ากระทำตามใจอย่างที่นางต้องการโดยมิได้ห้ามปราม เมื่อหรงหรงได้ยินเสียงนางเมิงตะคอกใส่ นางยังจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร นางรีบวิ่งหายออกไปทางประตูอย่างรวดเร็วทันที โม่เฉินที่กำลังน