หรงหรงรีบหยดเลือดพิสูจน์หาสาเหตุทันที เลือดสีแดงกายเป็นสีดำในชั่วพริบตาเดียว สตรีร่างบางยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ นางจึงหยิบเข็มเงิน เพื่อพิสูจน์หาพิษให้แน่ชัดอีกครั้ง ผลที่ได้...ปลายเข็มเงินกลายเป็นสีดำสนิทขึ้นมาทันที "ร่ายกายได้รับพิษ ท่านแม่....ท่านถูกพิษได้เช่นไรเจ้าคะ...? หรงหรงรีบหันไปถา
9.ลืม... ทางด้านฝั่งอี้ฟู........ อี้ฟูและลูกสมุนยังคงนอนติดเตียงไม่ได้สติ ทุกคนต่างมีบาดแผลฟกช้ำเต็มตัว คล้ายกับถูกรุมประชาทัณฑ์ด้วยคนจำนวนมาก เพราะสภาพร่างกายแต่ละคน กระดูกแขนขาล้วนแตกหัก เนื้อตัวสะบักสะบอมใบหน้าบูดเบี้ยว โดยเฉพาะอี้ฟู ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสรุนแรงกว่าทุกคน หลังจากหมดสติไป ชาวบ้
"เพลี้ยะ.!!!" ฝ่ามือหยาบกร้านฟาดไปที่ต้นแขนบุตรสาวไม่ยั้ง "โอ้ยยย...." "ท่านแม่ พอแล้ว ข้าสำนึกผิดไปแล้วจริงๆ" หรงหรงรีบหยิบฝ่ามือหญิงชราขึ้นมาเป่า เมื่อเริ่มเห็นรอยเป็นสีแดง หญิงชรารีบสะบัดมือออกไปในทันที สายตาเพชรฆาตมองไปที่บุตรสาวตัวดี ไม่รู้ว่าบุตรสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้พาบุรุษลึกลั
"ลูกรับปากอาเฉินเอาไว้แล้ว ยังไงลูกก็ต้องรักษาเขาให้หายขาด จะผิดสัจจะวาจามิได้เด็ดขาดเจ้าคะ..." "แต่เรือนเราหลังเล็กนิดเดียว จะอยู่กันยังไงตั้งสามคน แถมเขายังเป็นบุรุษ ระวังเอาไว้หน่อยก็ดี อย่าให้ชาวบ้านมาติฉินนินทาเราเอาได้....? นางเมิงกังวลใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะนางเป็นคนเคร่งครัดในขนบธรรมเ
นางเมิงมองดูบุรุษตรงหน้าอย่างไม่ลดสายตา นางมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่นาน แล้วจึงเอ่ยออกไป "เจ้าชื่อว่ากระไร......? "ข้าชื่อโม่เฉินขอรับ ท่านแม่..." "ใครเป็นแม่ของเจ้า...เรียกข้าว่าท่านน้าก็พอ.." "คิก...คิก" หรงหรงแอบหลุดหัวเราะออกมา เมื่อได้เห็นว่ามารดาตำหนิคำเรียกของโม่เฉิน "ได้ขอรับ ท
หรงหรงรีบพานางเมิงเดินออกมา ก่อนที่โม่เฉินจะโดนจับกินไปเสียก่อน นางรู้ว่ามารดาไม่ค่อยพอใจในตัวโม่เฉิน อีกทั้งโม่เฉินยังได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ถนัด ยิ่งทำให้มารดาไม่พอใจในข้อนี้เป็นอย่างมาก แต่ตรงกันข้าม นางเมิงกลัวว่าบุตรสาวจะเหนื่อยจนเกินไป แล้วยังต้องมาแบกรับภาระเพิ่ม
"พวกท่านพาคนบุกมายังเรือนของข้ามากมายเยี่ยงนี้ มาด้วยเหตุอันใดมิทราบ....? หรงหรงเอ่ยออกไป โดยไม่สนใจคำพูดของแม่เฒ่าอิ๋นเมื่อครู่ ทำกับว่าแม่เฒ่าอิ๋นเป็นเพียงอากาศธาตุสำหรับนาง "หรงเอ๋อร์....เจ้าจะพูดเช่นนี้ก็มิได้..." แม่เฒ่าอิ๋นรีบเอ่ยแทรกขึ้นมา "หุบปาก ข้ามิได้ถาม" หรงหรงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงท
ชาวบ้านหลายคนที่ได้ยิน พอได้ฟังคำพูดหรงหรงเข้า ต่างพากันล่าถอยหายแว้บไปในทันที่ เพราะเกรงว่าจะมีความผิดติดตัว ยามนี้ภายในเรือนเหลือไว้เพียงผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น.... "ที่นางหนูพูดมาก็มีเหตุผล พวกเจ้ามาสู่ขอนางกับมารดานางแล้วกระนั้นรึ...? ท่านผู้นำหมู่บ้านรีบหันไปกล่าวถามทางสองผัวเมียทันที นา
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ