Home / เมือง / เกลียดที่สุด หยุดที่รัก / บทที่ 9 ความลับของรอยสัก

Share

บทที่ 9 ความลับของรอยสัก

last update Last Updated: 2024-12-25 15:02:17

หนุ่มผมสีเงินเป็นฝ่ายเดินนำสับขาตรงไปยังร้านอาหารจีนร้านโปรด ดารินธิราจึงเดินตามไกด์หนุ่มไป เพราะเวลานี้เธอก็หิวเช่นเดียวกับเขา รอยยิ้มสว่างสดใสฉีกกว้างจนเห็นฟันขาวที่ได้มาเดินเที่ยวตรอกไชน่าทาวน์แห่งนี้เป็นครั้งแรก ทั้งที่อยู่อเมริกามาตั้งแต่สิบขวบ การได้มาเห็นวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมจีนต่างๆ ทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจมากมายที่พลุ่งพล่านขึ้นภายในหัว

"กินนี่กันมั้ย" 

ชายหนุ่มบอกแล้วพุ่งตรงเข้าไปในร้านโดยที่ดารินธิรายังไม่ทันจะตอบตกลง ดารินธิราถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินตามเข้าไปในร้านที่เต็มด้วยลูกค้าชาวต่างชาติจำนวนมาก แม็กนัสใช้นิ้วชี้กระดกเรียกเธอให้มานั่งโต๊ะกลมที่ติดกับผนังวอลเปเปอร์เทพเจ้าจีน 

"สวัสดีครับคุณเย่ซีไม่เจอกันตั้งนานแหนะ สั่งอะไรดีครับวันนี้"

"ผมเอากะหล่ำปลีหมูสามชั้นหม้อไฟ เต้าหู้ผัดทรงเครื่อง เสี่ยวหลงเปา ถั่วแขกผัดกระเทียม ไก่ตุ๋นเกาลัดครับ"

"รอสักครู่นะครับ ว่าแต่นั่น...แฟนคุณเย่ซีหรือเปล่า ปกติผมไม่เคยเห็นคุณเย่ซีพาผู้หญิงที่ไหนมาทานอาหารที่นี่เลย วันนี้เป็นบุญตามากที่ได้เห็น สงสัยวันนี้ลูกค้าต้องจองคิวโต๊ะแน่นอีกเช่นเคยแน่"

พนักงานเสริฟ์อายุรุ่นราวคราวพ่อของเขาสนทนากับเขาเป็นภาษาจีน แล้วส่งยิ้มไปให้ดารินธิรา

"แล้วคุณเหล่ยคิดว่าเธอดูเป็นยังไง"

"หน้าตาน่ารัก ดูเหมาะกับคุณเย่ซีมากครับ เอาล่ะ ๆ ผมไม่รบกวนแล้ว" 

"ครับ"

เขาตอบพนักงานเสริฟ์แต่กระตุกยิ้มไปหาหญิงสาวที่นั่งทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกอยู่ ยิ่งไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่รู้ว่าเขาหลอกด่าอะไรเธออยู่หรือเปล่า

เพียงสามสิบกว่านาทีเท่านั้นอาหารทุกอย่างก็ถูกจัดวางบนโต๊ะกลมแบบจีน ชวนให้ท้องที่ร้องจนไส้กิ่วของดารินธิราถึงกับครวญคราญเสียงดังขึ้นมาจนชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับต้องรีบคีบเสี่ยวหลงเปามาเป่าให้หายร้อน พร้อมกับยื่นไปตรงหน้าคนที่ทำท่ากลืนน้ำลายเอื้อกๆ อยู่

"อ้าปาก"

"ฉันกินเองเป็นน่า"

"แต่ผมจะป้อนคุณ"

"เอ๊ะคุณนี่มันยังไง ก็บอกว่าจะกินเองไงเล่า" 

เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วย้ายมานั่งชิดติดกับเธอ เขม็งดวงตาเชิงดุให้เธอยอมกินเสี่ยวหลงเปาที่คอยตั้งใจคีบให้กิน

"ทำไมคุณชอบบังคับจิตใจคนอื่น"

"ผมเคยบอกแล้วไงว่าผมมีค่าลดความเกลียดชังของผมให้กับคุณ เสี่ยวหลงเปาคำนี้มีค่าเท่ากับ 100 คะแนนเชียวนะ" 

"คุณเห็นฉันเป็นตัวละครในเกมคุณหรือไง หรือคุณคิดว่ากำลังเล่นเกมจีบสาวอยู่เหรอ"

เพราะคำว่า ' จีบสาว' ที่เธอเผลอพูดออกมา ทำให้อาการร้อนวูบวาบแผ่ซ่านขึ้นมาฉาบใบหน้าของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนเกิดอาหารเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก และเป็นฝ่ายยอมแพ้คีบเสี่ยวหลงเปาวางไว้ที่จานเหมือนเดิม

ดารินธิราเห็นอากัปกิริยาเหมือนหมาหงอยของเขาก็ยอมคีบเสี่ยวหลงเปาชิ้นนั้นมาใส่ปากของตัวเองแทน แล้วคีบเสี่ยวหลงเปาอีกชิ้นส่งให้เขา เป่าลมคลายร้อนให้อย่างที่เขาทำ ก่อนจะยื่นส่งไปให้ผู้ชายหน้าคว่ำกินบ้าง

"กินสิคะ"

ชายหนุ่มมองตาขาว คิ้วขมวดเป็นโบว์ แต่ก็ยอมงับเสี่ยวหลงเปาชิ้นโตใส่ปากอย่างไม่ลังเล 

ดารินธิรานั่งรอชายหนุ่มคุยกับเถ้าแก่ร้านอาหารจีนอยู่ด้านหน้าของร้าน ขณะที่หวังเหล่ย พนักงานเสริฟ์ชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับส่งลูกอมรสบ๊วยให้เธอจำนวนหนึ่ง 

"ลูกอมล้างปากครับคุณผู้หญิง"

"อ่อ.....ขอบคุณมากนะคะ อาหารอร่อยมาก ๆ เลย" 

"งั้นเหรอครับ วันหลังให้คุณเย่ซีพามารับประทานอาหารที่นี่อีกนะครับ คุณ....?"

"เรียกเดมี่ก็ได้ค่ะ"

"ครับ ๆ คุณเดมี่ เอ้..เดมี่ ทีแปลว่าเล็กน้อย อะไรประมาณนั้น หรือเปล่าครับ"

"ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ"

"ก็รอยสักที่นิ้วชี้คุณเย่ซีน่ะสิ สักชื่อของคุณเอาไว้ด้วยนี่ ผมก็สงสัยมานานแล้วว่าเขาสักคำว่า 'เสี่ยว' ทำไม"

"เสี่ยว ในภาษาจีน ความหมายเดียวกับชื่อ เดมี่ ของฉันเหรอคะ"

"ถูกต้องเลยครับ แหมคุณเย่ซีเนี่ย แอบโรแมนติกเหมือนกันนะครับ ไงผมขอตัวก่อนล่ะกัน"

นี่เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม หรือว่ากินมากไปจนหูเพี้ยนแล้ว สิ่งที่พนักงานเสริฟ์คนนั้นบอกเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินกว่าที่เธอจะยอมรับว่ามันจริง แม็กนัส อาเวนชี่ เกลียดเธอปานนั้น ในอดีตยังทำเธอเจ็บแสบกระดองใจไว้สารพัด แล้วเขาจะมาสักชื่อเธอเพื่ออะไร 

ดารินธิราครุ่นคิดตลอดทางที่เขาขับรถพาเธอกลับมาที่สถาบัน BeTheLight ซึ่งตอนนี้ก็มืดสนิท ไร้ผู้คนเดินเพล่นพล่านให้รำคาญตา 

"คุณไม่กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนหรือไง"

"ฉันต้องทำงานให้เสร็จ เหลืออีกไม่กี่วัน ภาพพวกนี้ก็จะถูกไปจัดโชว์ที่งานิทรรศการมองสื่อผ่านศิลปะที่ฟอร์ทเมสันแล้ว ถ้าเกิดว่าเสร็จไม่ทัน สปอนเซอร์คงแห่ถอนตัวกันไปหมด"

"ใครจะถอนตัวก็ถอนไปสิ คุณจะเครียดอะไรมีผมอยู่ทั้งคน"

"พูดยังกะว่าจะมาเป็นสปอนเซอร์ซะแทน"

"แล้วคุณยอมไหมล่ะ" 

"ไม่ ฉันไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากคุณ ถ้าให้คุณช่วย ทุกคนคงมองว่าฉันเป็นแมงดาเพศเมียเกาะอภิมหาเศรษฐีอย่างคุณกินน่ะสิ"

ชายหนุ่มผมเงินคิดว่า ต่อให้เธอไม่อยากได้รับการช่วยเหลือใด ๆ จากเขาก็ตาม แต่ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรขึ้นมา เขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเธอเสมอ

"ได้ ผมก็ไม่อยากช่วยคนที่เกลียดผมอยู่แล้ว งั้นคุณก็ตวัดปลายพู่กันไปนะ ผมจะ...." พูดแล้วมองหามุมสบายที่จะใช้เอนหลัง "ผมจะไปนอนตรงนั้น" บอกแล้วรีบเดินไปล้มตัวนอนที่โซฟาสีขาวตัวยาว 

"คุณก็เกลียดฉันไม่ใช่หรือไง หลินเย่......" เถียงแล้วหันไปหาชายหนุ่มที่บัดนี้นอนกอดอกอยู่บนโซฟาของเธอเรียบร้อยเสมือนว่าเป็นสถานที่ส่วนตัวของเขาเอง ผู้ชายคนนี้ถ้าจะให้บอกตามตรง โคตรจะหน้าตายหน้าด้านหน้าทนชนิดที่ว่าผู้หญิงอย่างเธอยังต้องหลีกทาง

Related chapters

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 10 ผมกลัวคุณหลับใน

    มือที่จับปลายพู่กันเริ่มฉวัดเฉวียนวนไปเวียนมาอยู่กับที่ เพราะความเมื่อยล้าที่เข้ามาคลอบคลุมร่างกายไหนจะท้องที่ตึงจัดเพราะกินมากไม่ต่างกับหมูกินลำ นายหงอกหน้าตายต้องการให้เธออ้วนเป็นหมูหรืออย่างไง ถึงได้สั่งของมากินมากมายแถมสุดท้ายก็เห็นเขาเอาแต่นั่งมองเธอกินอยู่ฝ่ายเดียว แต่คนอย่างดารินธิราน่ะเหรอจะยอมรังเกียจมื้ออาหารเลิศรส เพียงเพราะอดีตที่เขาทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจ Impoosible! เป็นไปไม่ได้! กินก็ส่วนกิน เกลียดก็ส่วนเกลียด เขาจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ยางอายหรือพื้นผิวหน้าโบกด้วยหินแกรนิตก็เรื่องของเขา แต่เรื่องที่เธอหมกหมุ่นมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่อง 'ความลับของรอยสัก' นั่น ทันทีเมื่อเธอที่ได้รู้จากปากของชายชาวจีน ก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาบอกล้วนเหลือเชื่อ และไม่น่าเชื่อในเวลาเดียวกัน คงต้องรอว่าสักวันเขาจะเอ่ยปากพูดเรื่องรอยสักนั่นขึ้นมาเมื่อไหร่เอง น่าจะดีกว่าที่เธอจะออกปากถามเขาไปตรง ๆ เขาได้คิดว่าเธอหลงตัวเองและประสาทหลอนอยู่แหง ๆดารินธิราเอามือตบแก้มซ้ายขวาของตนเพื่อเรียกสติที่เริ่มสะลืมสะลือ ตอนนี้เธอง่วงมากถึงมากที่สุด ยิ่งก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเรืองแสงบอกเวลาตีสอง เป็นเวลา

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 11 ความลับของความเจ็บปวด

    ร่างกายเบาหวิวของเดมี่ถูกหย่อนลงบนเตียงนอนสีขาว กลิ่นในห้องก็หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นของลาเวนเดอร์ พอสูดดมเข้าลึก ๆ ก็ช่วยให้สมองที่อ่อนล้ามาทั้งวันผ่อนคลายลงทันที ขณะที่เจ้าของห้องเดินเข้ามาในห้องพร้อมถังน้ำแข็งและกล่องยา"ทำไมคุณไม่พาฉันกลับบ้าน" เอ่ยถามขึ้นขณะที่เอานิ้วมือจิ้มลงบนหน้าผากที่ปูดโปน"ผมคงเหงามั้ง" ตอบลอย ๆ พร้อมกับยื่นผ้าขนหนูที่ห่อน้ำแข็งไว้ด้านในประคบลงมาที่หน้าผากบวม"แล้วพ่อคุณล่ะคะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ" ฝ่ามือของเขาชะงักกลางอากาศ ทำไมเธอต้องถามถึงคนพรรค์นั้น พ่อที่เอาแต่ทำงานไม่สนใจครอบครัว ไปที่ไหนก็มีเมียที่นั่น หนึ่งในนั้นก็มีน้าสาวของดารินธิราอยู่ด้วย นั่นแหละที่ทำให้เขาหงุดหงิดใจที่สุด "อย่าพูดถึงพ่อผมอีก คนอย่างเขาเห็นแก่เงินงาน อำนาจและผู้หญิงเท่านั้น" "แต่เขาก็ให้กำเนิดคุณมานะแม็กนัส ต่อให้เขาร้ายกาจแค่ไหน พ่อก็คือพ่ออยู่ดี"และแล้วโทสะของเขาก็ปะทุออกมาจนได้ ฝ่ามือที่กำผ้าขนหนูประคบหน้าผากให้เธออยู่นั้นเขวี้ยงมันลงไปที่พื้นอย่างรุนแรงดวงตาของเขาแดงก่ำ กัดฟันกรามแน่นเพื่อข่มอารมณ์ความโกรธ "น้าคุณคือหนึ่งในสมาชิกฮาเร็มของพ่อผม คุณจำไม่ได้แล้วหรือไง ทำไมคุณ

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 12 หมาเลียปาก

    นิ้วเรียวของดารินธิราเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ชุ่มเลอะทั่วใบหน้าของตน วาดขายาวนั่งลงด้านข้างร่างสูงที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้ ฝ่ามือวางลงบนแผ่นหลังกว้าง ปลอบประโลมด้วยการตบเบา ๆ ใบหน้าขาวผงกขึ้นหันมอง เผยให้เห็นสภาพของอัจฉริยะหน้าตายที่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาของลูกผู้ชายปลายจมูกโด่งคมสันที่แดงอมชมพูนั่นดูไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อย ชวนให้มือของเธอรั้งตัวเขาเข้ามา ร่างของเขาเสียหลักลงในอ้อมกอดอุ่นของเธอช่วงเวลานี้เธอจะไม่ผลักไสเขา ขอให้เธอเป็นฝ่ายโอบกอดปลอบใจเขาสักครั้ง แม้ว่ามันอาจจะเป็นครั้งเดียวก็ตามดวงตาแดงของแม็กนัสเบิกกว้าง ยามที่กระพริบน้ำใสก็ไหลรินหยดลงอย่างไม่ขาดสาย เขาตอบรับโดยการโอบกอดแผ่นหลังเล็กแล้วกระชับกอดแน่น ดารินธิราลูบแผ่นหลังของเขาขึ้นลงไปมาดุจดั่งมารดาผู้ปลอบโยนบุตรชาย เพราะผู้ชายคนนี้ขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัว เขาจึงเป็นเช่นนี้ ปากร้ายใจดี แต่บางทีก็ตรงแรงแต่จริงใจ และบางครั้งก็เถรตรงจนคนฟังรับไม่ไหวคงมีแต่เธอเพียงเท่านั้นที่รับทุกการกระทำและคำพูดของเขาได้เสมอ ชายหนุ่มยอมผละออกจากอ้อมกอดของร่างบอบบาง จังหวะที่เขาเตรียมจะลุกขึ้นเธอก็รั้งข้อมือของเขาเข้ามา แล้ว

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 13 การกอดช่วยให้หายป่วย

    ดารินธิราเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนของ Pier 39 ท่าเรือจำนวนมากที่จอดเทียบท่าส่องแสงสีส้มสว่างไสวยามค่ำคืนชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของความวินเทจเก่า ๆ ที่คละคลุ้งอยู่รอบท่าเรือคลาสสิคแห่งนี้ แต่การบันทึกภาพเพื่อเป็นไอเดียก็ต้องจบลง พลันใดเมื่อหยาดฝนเทกระหน่ำลงมา พร้อมกับลมกระโชกที่พัดโบกขึ้นมาจากอ่าวซานฟรานซิสโก ทำให้เรือลำใหญ่น้อยทั้งหลายโคลงเคลงตามคลื่นที่ยกตัวขึ้นมากระทบฝั่งเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาเทสาดบงพื้นทางเดินบดบังทัศนียภาพตรงหน้าให้พร่ามัว ผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เดินออกมาชมวิวทิวทัศน์แห่กันวิ่งหลบฝนจ้าละหวั่น รวมทั้งเธอด้วย ทันใดเสียงคำรามก็ดังกึกก้อง ไฟฟ้าบริเวณนี้ดับพรึ่บมืดสนิท จึงแทบมองอะไรไม่เห็นและเพราะความรีบร้อนของหญิงสาวทำให้โทรศัพท์ในมือกระเด็นหลุดจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ดารินธิราจึงก้มลงควานหาจนทั่วแต่พอหยิบขึ้นมา แขนเสื้อกลับคล้องเกี่ยวกับร่องไม้ทางเดิน ติดแน่นจนตึงแขนไปหมด พยายามดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออกตอนนี้เธอทั้งหนาวทั้งสั่น ปากและฟันกระทบกันเสียงดังจนแทบบรรเลงเป็นเพลง ดวงตาสลดหลี่มองหาความช่วยเหลือ และสะดุดเข้ากับแหวนที่ผู้ชายเย็นชาคนนั้นมอบให้ จึงลองกดแหวนหัวลูกปัดดู

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 14 ภรรยาแสนดื้อ

    ฮัลค์ บอดี้การ์ดอาสาให้เจ้านายทั่วราชอาณาจักรขับรถมาส่งเดมี่ที่โรงแรม หญิงสาวหอบหิ้วถุงเสื้อผ้ามากมายเข้ามาแล้วกองลงตรงหน้าของกุ๊กไก่อยู่ตรงหน้าของหญิงสาว เลขาสาวเหลือบตาดูสภาพของเดมี่ที่ดูอิดโรยอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำผู้ชายเพียงตัวเดียวเธอก็เผลอคิดจินตนาการไปไกลว่าบอสสาวกับแม็กนัสไปถึงแดนสวรรค์ชั้นเจ็ดเรียบร้อย"พี่กับคุณแม็ก คงไม่ได้แบบว่า" เธอพูดพลางบิดตัวไปมาแล้วทำท่านิ้วชี้ชนกันให้เจ้านายสาวดู "ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ คุณแม็กนัสของเธอแค่ผ่านไปเจอพี่ตอนกำลังพายุฝนเมื่อคืนก็เลยพากลับมาพักที่โรงแรม""งั้นเหรอคะ อ้อ...แล้วพี่จะไปร่วมพิธีเปิดงานนิทรรศการวันนี้มั้ยคะ ชุดสวย ๆ ของพี่ที่เตรียมไว้ฉันก็เอามาเผื่อด้วยค่ะ" "พี่ต้องไปสิ ถ้าพี่ไม่ไปก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะโดนฟีโอน่าเล่นงานอะไรอีก"งานเปิดตัวนิทรรศการมองสื่อผ่านศิลปะที่ฟอร์ท เมสัน เซ็นเตอร์เปิดตัวอย่างสวยงาม ภายในงานหนับหนาฝาคั่งไปด้วยแขกเหรื่อพันธมิตรและศิลปินที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงผลงานร่วมกันจำนวนมาก ดารินธิรายืนไหว้และส่งยิ้มให้กับช่างภาพและสื่อหลายสำนัก พร้อมกับโพสท่าถ่ายรูปร่วมกับเหล่าแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปินสาวคนนี้ขณะที

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 15 ปาตาโกไททัน มาโยรัม

    "คุณกำลังจะไปไหนหรือเปล่า" เดมี่ตัดสินใจถามออกไปตรง ๆ"เอ้า....ฉลาดขึ้นมาหน่อยแล้วนิคุณ""อย่ากวนบาทาได้มั้ยคะ ตอบมาเฉย ๆ ยากนักหรือไง""ตอบคำถามคุณเนี่ยยากที่สุดในโลกเลยล่ะ ความจริงก็ไม่ได้มีอะไร อีกสองวันผมแค่จะไปโจฮัสเนสเบิรก์" "แล้วไปนานแค่ไหนคะ ไอ้ที่ฉันถามก็เพราะ... เพราะว่าจะได้สบายใจ ยิ่งคุณไปนาน ๆได้ยิ่งดี""ผมยังไม่มีกำหนดกลับ ไงล่ะนานสมใจคุณดีมั้ย"หัวใจของดารินธิราเหมือนหล่นวูบหาย ราวกับว่าออกซิเจนบนโลกใบนี้ไม่มีเหลือให้เธอหายใจอีกเหตุผลสำคัญอะไรกันที่เขาต้องไปแบบไม่มีกำหนดเดินทางกลับ แล้วความรู้สึกที่เขายัดเยียดให้เธอล่ะ เขาไม่คิดจะรับผิดชอบบ้างเลยใช่มั้ยความจริงแล้วในใจของอัจฉริยะอย่างเขาที่เอาแต่คิดแต่นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อผดุงความยุติธรรมให้โลก มันมีความรู้สึก 'ผูกพัน' กับผู้หญิงธรรมดาอย่างเธออยู่บ้างไหม ชายหนุ่มผมสีเงินเห็นว่าเธอนิ่งเงียบไร้การถกเถียงต่อปากต่อคำกับเขาก็อดเป็นห่วงความรู้สึกของเธอไม่ได้ แต่เธอจะรู้สึกอะไรกับคนที่ทำเรื่องเลวร้ายกระทบกระเทือนจิตใจเธอสารพัดภายในใจของดารินธิราคงกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่เสียมากกว่าที่รู้ว่าผู้ชายน่ารำคาญอย่างเขากำลังจะจากไป

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 16 คนที่รักเรามากที่สุด

    ดารินธิรานอนคว่ำเหยียดยาวอยู่บนเตียงนอนและอยู่ในชุดนอนเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ที่ยาวคลุมถึงเพียงแค่ช่วงสะโพกกลมกลึง ท่อนล่างใส่ซับในแบบกางเกงเพื่อปกปิดเรียวขาเปล่งปลั่งไม่ให้ดูน่าเกลียด หลังจากที่ชำระล้างร่างกายจนสดชื่นดีแล้ว เพียงแค่หยิบสมุดโน็ตในกระเป๋าออกมาเขียนจดไอเดียอยู่ไม่ถึงยี่สิบนาทีความง่วงก็เข้ามาทำหน้าที่สั่งการให้ร่างกายได้พักผ่อนเดี๋ยวนั้นขณะที่ปาตาโกไททัน มาโยรัม นอนหลับเงียบอยู่บนฟูกของมันโดยไม่รบกวนทาสสาวแต่อย่างใด ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูเรียกดังถึงสองครั้งแต่เจ้าของห้องนอนก็ยังคงหลับเงียบฝันลึกจนคนด้านนอกต้องเป็นฝ่ายเปิดประตูเข้ามาแทน และเห็นว่าหญิงสาวหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนด้วยสภาพใบหน้านอนทับอยู่กับสมุดโน๊ดมือข้างหนึ่งยังคงกำดินสอ ชายหนุ่มยกกระเป๋าเดินทางและสัมภาระที่เขาไปขนมาจากโรงแรมซึ่งทีมงานของดารินธิราพักระหว่างงานนิทรรศการที่ ฟอร์ทเมสัน เซ็นเตอร์ เขานึก ๆ แล้วก็รู้สึกตลกกับพฤติกรรมของตนเองอยู่เหมือนกัน เพราะเขาหอบหิ้วดารินธิราไป ๆ มา ๆ ทำให้เธอไม่ได้มีโอกาสนอนพักที่โรงแรมกับทีมงานของตัวเองเลยสักครั้ง ป่านนี้เธอคงคิดในใจอยู่ว่าเขาเป็นคนมักง่ายเห็นแก่ตัว

    Last Updated : 2024-12-25
  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 17 พี่ใหญ่

    ใบหน้าที่เลอะเทอะคราบน้ำตาสะอื้นเสียงดังแข่งกับเสียงฟ้าร้องคำรามด้านนอกตัวบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่กุ๊กไก่โทรเข้ามาหา เธอพยายามหยุดร้องไห้และกดรับโทรศัพท์ของเลขา"จ้ะ ว่าไงกุ๊กไก่""พี่คะ คุณแม็กโอเคไหมคะ""ทำไมคนพรรค์นั้นต้องไม่โอเคด้วยล่ะ""นี่คุณแม็กยังไม่ได้บอกพี่เหรอคะ เฮ้อ!...พ่อพระจริง ๆ ชอบปิดทองหลังพระตลอด""เธอพูดอะไรพี่ไม่เห็นเข้าใจ""ก็คุณแม็กกับมือขวาร่างยักษ์มาหาฉันที่โรงแรม บอกว่าจะมาเอาสัมภาระของพี่ แต่อยู่ดี ๆ ยัยปีศาจฟีโอน่า ก็โผล่พรวดมากับคุณเบลค อาเวนชี่เฉยเลย""เธอหมายถึงพ่อของเขาน่ะเหรอ""ใช่ค่ะ แถมคนของพ่อเขายังจับคุณแม็กลากไปแบบถูลู่ถูกัง พาเข้าไปห้อง ๆ หนึ่งในโรงแรม ฉันเห็นว่าเขาหายเงียบไป กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี ก็เลยโทรตามคุณฮัลค์ที่บอกว่าจะแวะไปซื้ออาหารแมว หลังจากที่คุณฮัลค์มาถึงก็รีบเข้าไปเจรจาพาตัวคุณแม็กออกมา แต่ฉันก็ยืนดูอยู่พักใหญ่กว่าพวกเขาจะกลับออกมา แถมสีหน้าคุณแม็กก็ดูไม่ค่อยดี" "ตกลงเธอรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น" "ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกค่ะ คุณแม็กไม่ยอมเล่า แต่มันคันปาก ตะกี้ก็เลยโทรหาคุณฮัลค์เพื่อถามตรง ๆ คุณฮัลค์บอกว่าก่อนวันที่คุณแม็กจะมาฟอร์ทเม

    Last Updated : 2024-12-25

Latest chapter

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 44 ป๋าไม่ใช่แฟน ป๋าเป็นสามี

    หลังจากที่เมื่อวานเขามาส่งเธอที่บ้าน และพูดกับเธอว่า "ดูแลตัวเองให้ดี เพราะอาทิตย์นี้เขาอาจจะไม่มีเวลามาหา" พอได้ยินแบบนั้นใจมันก็แป้วจนบอกไม่ถูก เหมือนมีลางว่าจะเกิดเรื่องโกลาหลอะไรขึ้นทั้งที่เกือบหนึ่่งเดือนมานี้ตอนที่อยู่แอฟริกาใต้เธอตัวติดกับเขาตลอดเวลา ถึงแม้จะมีเรื่องวุ่นวายทั้งหลายเข้ามาแทรกกลางบ้าง แต่เขาก็ตามไปช่วยเธอกลับมาได้ทุกครั้งทว่าเวลานี้.....เธอทำได้แค่ยืนมองดูเขา อยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกผ่านหน้าจอทีวีเท่านั้นน่ะเหรอ เธอไม่สามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้เลยพลันใดคำพูดของพี่โมนา ก็สะท้อนดังขึ้นมา ที่บอกว่า "การช่วยใครสักคนไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องจับปืนถือมีด แต่หมายถึงทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อเขา""หนูจะไปทำธุระสักหน่อย ฝากทางนี้ด้วยนะคะคุณเบ็ค"บอกกับพนักงานอาวุโสที่สุดของสถาบันและเดินตรงออกไปจากสถาบันทันที"ได้จ้ะ"รถมินิคูปเปอร์ของหญิงสาวแล่นฉิวออกจากลานจอดรถด้วยความร้อนใจไม่นานนักก็ถึงตึกรูปตัวเอ็มสูงใหญ่ที่มองเห็นไกล ๆ ว่ามีคนหัวดำหัวสีหลายคนยืนมุงอยู่หน้าบริษัทจนมองไม่เห็นชายหนุ่มที่เธอเป็นห่วงไมค์หลายตัวยื่นจ่อปาก บางตัวก็เกือบเขกโดนหัวของเจ้

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 43 ออร่าของปาตาโก

    ไม่นานนักความกระจ่างก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ หน้าจอทีวีขนาด 24 นิ้วลิงค์เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตของเขาทันทีที่ปลายนิ้วสวยจิ้มตรงนั้นทีตรงนี้ที พลันนั้นสรีระโครงสร้างร่างกายของปาตาโกไททันมาโยรัมก็ปรากฏขึ้นในรูปแบบกราฟฟิก พร้อมกับตำแหน่งที่ขึ้นเป็นจุดสีแดง และเส้นกราฟแสดงผลบอกระดับของอารมณ์ ระดับพลังงานของร่างกาย ความเครียดและความผ่อนคลายแม้กระทั่งตำแหน่งแสดงภาพรวมว่าผลของร่างกายเป็นบวกหรือลบ สุดท้ายคือพีระมิดที่แสดงขึ้นด้านข้างเหมือนกับสีออร่า"คุณเขียนโปรแกรมนี้เองเหรอคะ ดูเทพทรูมากเลยอ่ะ"จ๊วบ!เรียวปากกระจับของเขาฝังลงบนแก้มนุ่มออกแรงบดด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเจ้าของพวงแก้มถึงกับจิกตาเขียวปัด"เอ๊ะคุณนี่! เสียงดังไปแล้วนะคะ""ในห้องมีแต่เรากับแมวหนึ่งตัวที่ป่วยอยู่ จะอายอะไร" "คุณไม่อายแต่ฉันอาย คุณดูหน้ามันสิ มันดูตะลึงมากเลย" หญิงสาวบอกแล้วชี้ไปที่หน้าของปาตาโกไททันที่นั่งจ้องเขม็งมาที่มนุษย์อย่างไม่สบอารมณ์นัก "แกป่วยก็นอนพักไปสิ มานั่งจ้องจับผิดอะไรอยู่ได้" เขาตวาดใส่มันแล้วก็กลับไปดูที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม"คุณยังจะไปดุมันอีก สรุปแล้วเจ้าเหมียวเป็นอะไรคะ" ดารินธิราสงสารเจ้าเหมียวท

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 42 จอมเหวี่ยงป่วย

    แม็กนัส ทำท่าทีเป็นรีบทำเป็นดำน้ำนอนอยู่ใต้อ่างจากุชชี่เพื่อแกล้งแหย่เดมี่หลังจากที่เธอบรรจงถอดเสื้อผ้าที่ทั้งเปียกทั้งหนักออกอย่างทุลักทุเล เหลือเพียงแต่ปราการสองชิ้นน้อย ๆ ที่ปกปิดเรือนร่างบางเย้ายวนเอาไว้หญิงสาวค่อย ๆ หันกลับมาเผชิญกับชายหนุ่มในอ่างเก้ ๆกัง ๆ ทว่าพ่อคนเมายากลับไม่ได้นั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นแต่เขากลับนอนอยู่ใต้ผิวน้ำใสของอ่างน้ำร้อนนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง "แกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหมคะ เชิญนอนใต้น้ำนั่นไปเลย ฉันไม่สนใจคุณหรอก" เธอยืนจ้องดูเขาเท้าสะเอวรอคอยว่าเขาจะหมดลมหายใจใต้น้ำเมื่อไหร่ แต่เวลาก็ผ่านไปพักใหญ่แล้วน่าจะเกือบสองนาทีทำไมเขายังไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก หรือว่าเขาจะเป็นลมใจใต้น้ำจริง ๆด้วยความตื่นตระหนกตกใจหญิงสาวจึงพุ่งพรวดลงไปในอ่าง งัดล่างของเขาขึ้นมา พอดึงร่างของเขาขึ้นมาพิงกับขอบอ่างได้ ฝ่ามือก็รีบตบ ๆ เรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้น "นี่คุณอย่ามาล้อเล่นนะ....เย่ซี! คุณตื่นสิ ไม่งั้นฉันจะโกรธคุณจริง ๆ แล้วนะคะ" ประชดประชันใส่และเตรียมลุกออกจากอ่างสวบ!ทันใดนั้นร่างบางถูกรวบเข้าไปกอดอย่างรวดเร็วทำให้เซถลาล้มลงบนหน้าขาแกร่ง"อย่าโกรธผมนะ....ขอร้อง"คนคนเจ้าเล่ห์พูด

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 41 หลอนติดลบ

    ร่างกายของซุนย่าฉงที่กอดก่ายชายหนุ่มในสระว่ายน้ำอยู่นั้นพยายามจะยั่วยวนให้แม็กนัสตบะแตกสายลับแสนเจ้าเล่ห์จึงได้แต่เล่นไปตามบทบาทเพื่อรอจังหวะเหยื่อตายใจ"เวลาคุณเปียกแล้วเซ็กซี่น่าฟัดไปหมด คุณรู้ไหม..เย่ซี" นางนกต่อพร่ำบอกพลางยกฝ่ามือลูบไล้กล้ามหน้าท้องขาวจั๊วะมือหนาจึงรีบเอื้อมมือคว้าแก้วที่มียาหลอนติดลบ 18+ ยาสูตรพิเศษของสมาคมใช้เพื่อทำให้เหยื่อคิดว่าตนกำลังทำกิจกรรมบนเตียงกับคนที่ตนปรารถนา "ดื่มนี่ก่อนสิ"เขายื่นขอบแก้วแตะลงบนริมฝีปากสีเลือดนกของซุนย่าฉง หญิงสาวเหลือบมองอย่างลังเลแต่ก็ยอมรับแก้วดังกล่าวมาดื่มโดยไม่ปฏิเสธ"ก็ได้ค่ะ"ริมฝีปากบางจิบแต่พองาม พลางส่งกลับไปให้แม็กนัสดื่มสายลับหนุ่มจึงต้องจำใจดื่มพราะซุนย่าถิงกำลังคลางแคลงใจในพฤติกรรมของเขาอยู่เช่นเดียวกัน"ครับดื่มก็ได้ คุณว่าไงผมว่าตาม"เหล้าสีใสถูกกรอกผ่านลำคอลงไป ภายในเสี้ยววินาทีความหนาวสะท้านก็แผ่ซ่านเข้ามาปกคลุมผิวกายอย่างเฉียบพลันแม้ยานี้จะแตกต่างกับยาจำพวกเสียสาวตรงที่ให้ความรู้สึกหนาวสั่น แต่สองสามนาทีถัดมายาหลอนติดลบจะสำแดงฤทธิ์ให้เห็นภาพที่เปี่ยมด้วยกิเลสตัณหาภายในจิตใจและตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับเขาจนไม่อา

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 40 เป็นเอามาก

    รถติดฟิลม์อำพรางไม่ให้คนข้างนอกเห็นมาจอดยังชายหาดแซนดี้ใจกลางเมืองเคปทาวน์ตามนัดของซีอีโอผู้ก่อตั้งนิตยสารโมนาลิซ่าชายหาดแห่งนี้ห่างไกลผู้คนเต็มด้วยคลื่นสีครามน้ำใสอันสุขสงบ และโอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีเหมาะแก่การใช้เป็นสถานที่ถ่ายแบบมากที่สุด"สวัดสีค่ะพี่โมนา""มาแล้วเหรอจ๊ะ งั้นมาแต่งหน้าทำผมกันเลย เอ้....ปกติเราแต่งตัวแบบนี้เหรอมันดูจะสุภาพไปหน่อยนะพี่ว่า"เจ้าของนิตยสารสาวเอ่ยถามพลางดึงแขนของดารินธิราให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งตัว"คนโน้นค่ะที่อุตริจัดแจงเสื้อผ้าพวกนี้ให้หนูใส่"โมนาเอี้ยวตัวหันไปมองชายหนุ่มด้านหลังที่พกพาบอดี้การ์ดมาคุมกองถ่ายแบบจำนวนหนึ่งคล้ายกับกำลังคุมนักโทษ"โหว.....นี่เป็นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย""ค่ะ......เป็นเอามาก""โถ ๆ เดมี่ หนูอิศของพี่ก็พอกัน หมอนั่นนะถึงกับประสาทเสียเลยแหละ คิดแล้วก็ขำ เฮ้อ....แล้วถ้าพ่อแฟนอัจฉริยะของเราเห็นชุดถ่ายแบบแต่ละชุดแล้ว จะไม่องค์ลงแย่เลยเหรอ""ช่างเขาเถอะค่ะ จะได้รู้จักมีขันติซะบ้าง แบ่งแยกว่าอะไรคืองานอะไรคือเรื่องส่วนตัว"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดารินธิราก็ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวเคลื่อนที่ในชุดบีชแวร์สวยสง่าดั่งนางฟ้าที่เดินกรุยกรายอย

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 39 คนเพี้ยน

    ขายาวในเสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้วาดรูป หลังจากตื่นนอนภาพเมื่อคืนก็ผุดพรายขึ้นราวกับสตอรี่ที่แสนร้อนรุ่ม ทำให้ต้องควานหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อกลบภาพอันซาบซ่านดารินธิรารีบไปบอกฮัลค์ให้จัดหาอุปกรณ์วาดรูปให้เธอ ไม่น่าเชื่อว่าภายในกี่นาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับสิ่งที่เธอต้องการ ศิลปินสาวจดจ้องใบหน้าสว่างที่คว่ำแนบอยู่กับหมอนอิงใบใหญ่ "น่ารักน่าหยิกเหลือเกิน"กรอบหน้านวลสว่างงดงามกว่าผู้หญิงดึงดูดใจให้เธออยากตวัดปลายดินสอเพื่อสเก็ตรูปของเขายามหลับใหลอีกครั้งรูปเมื่อห้าปีก่อนของเธอถูกเขาทำลาย เป็นรูปที่เธอแอบวาดเขาตอนกำลังป่วยอยู่ในคฤหาสน์อาเวนชี่ จำได้ว่าตอนนั้นแม็กนัสมีไข้สูง หน้าขาว ๆ ของเขาก็กลายเป็นสีแดงจัด วันนั้นน้าสาวของเธอไปงานเลี้ยงกับพ่อของเขา ทำให้น้ากำชับว่าให้เธออยู่คฤหาสน์อาเวนชี่คอยช่วยแม่บ้านใหญ่คอยดูแลคุณหนูแถมคุณหนูที่ว่าก็คือเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่ป่วยนอนซมอยู่ ตอนนั้นเธอที่อายุ 21 ปีก็เป็นเหมือนพี่เลี้ยงเด็กไปอีกคนโดยปริยาย ช่วงนั้นเธอกำลังส่งรูปภาพเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลศิลปินแห่งซิลิคอนวัลเล่ย์ รวมทั้งต้องเฝ้าเด็กหนุ่มที่ย้อมผมสีเทาเงินประชดชีวิต

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 38 หยุดที่รัก

    ยามที่เรียวปากกระจับลากไล้ต่ำลงมายังชายโครง ระดมจูบที่กล้ามเนื้อแน่นตึงแข็งแรง และดูเร่าร้อนช่วงเวลาที่ใบหน้าอิ่มสุขร่ายมนต์อยู่บนเวทีที่ลินคอร์นเซ็นเตอร์เมื่อห้าปีก่อนก็ผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำของแม็กนัส"ผมเป็นสาเหตุทำให้คุณเลิกเต้นหรือเปล่า" คำถามถูกพ่นออกมารดลงมายังหน้าท้องแบนราบ ดวงตาเรียวคมเหลือบมองใบหน้าที่แหงนหงายมองเพดานห้อง นัยน์ตากลมโตหลุบมองสบตาพลางผลักตัวของชายหนุ่มออกเบา ๆ ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้น ประคองเต้าเปลือยเปล่าอย่างกระดากอาย เรียวขายาวพับเพียบเบียดเข้าหากันเพราะสายตาร้อนที่สำรวจมองอยู่นั้น มันชวนให้กระอักกระอ่วนและเย็นยะเยือก"ไม่ใช่เพราะคุณ แต่....เพราะฉันในเวลานั้นแค่ไม่อยากเป็นเงาของน้า และไม่อยากให้คุณรังเกียจกันไปมากกว่านี้" "โธ่!...เดมี่"ร่างบางสั่นเทาขณะบอกเล่าเรื่องราวเก็บกดมาทั้งชีวิตถูกรวบเข้าไปโอบกอด ฝ่ามือที่ประคองทรวงอกอยู่นั้นเคลื่อนขยับมาโอบกอดแผ่นหลังกว้างนั้นกลับ "คนที่ผมรังเกียจไม่ใช่คุณ แต่เป็นพ่อผมกับน้าของคุณ"พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดันตัวคนที่กำลังสั่นเทาออก ปลายจมูกโด่งฝังลงบนหัวไหล่มนสูดดมความหอมจากเรือนร่าง เคลื่อนมายังไหปลาร้าคู่สวยพ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 37 ผมมัดมือคุณคนเดียว

    ใบหน้าซีดนั่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถกลับมากับเขา ตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเพราะกลัวว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายในสายตาของเขากระทั่งเสื้อที่เขาถอดคลุมผิวกายที่สั่นระริกของเธอก็ยังไม่สมควรจะอยู่บนเรือนร่างนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขามาไม่ทัน หรือตัดใจทิ้งเธอไป วินาทีนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอีกต่อไปแล้ว "ทำไมคุณต้องนั่งห่างผมขนาดนั้นเดมี่""มี่รู้สึกตัวเอง.....สกปรก"ช่างเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังอย่างเขาหดหู่ใจขึ้นมา ทำไมเธอต้องพูดดูแคลนตัวเองขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอสกปรกเลยสักนิดหรือเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบจึงกลัวว่าตนจะไม่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแม็กนัสพาดารินธิรามาที่พักแห่งใหม่ซึ่งอยู่บนยอดเขาห่างไกลจากอันตราย ซึ่งบนนี้มีกำแพงเขื่อนสูงใหญ่และประตูเหล็กนิรภัยอีกสองชั้นสถานที่แห่งนี้จะใช้เป็นเซฟเฮาส์ทุกครั้งเมื่อมาปฏิบัติภารกิจที่แอฟริกาใต้แต่ด้วยสถานการณ์คับขัน เพราะผู้หญิงของเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกกลุ่มเฮริฟ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาจำเป็นต้องพาเธอมาซ่อนตัวสักพักร่างบางที่กอดก่ายเสื้อสูทตัวนอกที่เขาใช้คลุมปกปิดความล่อแหลมบนเรือนร่าง ค่อย ๆ ปลดอ

  • เกลียดที่สุด หยุดที่รัก    บทที่ 36 ทวงหัวใจคืนมา

    ปลายหมึกปากกาสีดำที่ลากเส้นบนพื้นผิวกระดาษอยู่นั้นผงะเล็กน้อย เมื่อมีบางอย่างถูกโยนลงมาบนโต๊ะที่เธอบรรจงวาดรูปอยู่ดารินธิรามองชุดตรงหน้าเอื้อมหยิบมากางดูอย่างข้องใจ "คุณลูคัสสั่งให้คุณใส่ชุดนี้แล้วลงไปร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมกับเขา" "แต่ชุดนี้มันค่อนข้างจะเซ็กซี่เกินไปหน่อยมั้ยคะ""คุณมีหน้าที่ใส่ก็ใส่ไป" ชายชุดดำกำชับแล้วเดินจากไป "เฮ้อ" ดารินธิราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่นึกถึงคำพูดที่เคยให้สัญญากับเขาไว้ว่าเธอจะใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ให้เขาดูแค่คนเดียวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเธอเกิดหยิ่งยโสอยู่ ไม่รู้ว่าจะโดนกระสุนปืนเจาะหัวเมื่อไรถ้าต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ก็คงต้องปล่อยไป เพราะเธอทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับชะตากรรมงานเลี้ยงหรูที่ทุกคนมาในธีม 'Midnight' แถมบางคนก็ใส่หน้ากากปิดซะเหลือแต่คอบางคนก็แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สรุปแล้วนี่มันงานอะไรกันแน่ดู ๆ ไปก็คล้ายกับงานรวมตัวของเหล่าวายร้ายยังไงยังงั้น"คุณสวยมาก" "ขอบคุณ" หญิงสาวตอบอย่างกล้ำกลืนทว่ายิ่งเธอทำจองหองใส่เขา มือใหญ่ก็รั้งเอวคอดเข้ามาแนบชิดใบหน้าจิ้มลิ้มจึงสะบัดมองมือที่ทาบกดอยู่บนเอวเปลือยเปล่าของเธออ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status