ใบหน้าที่เคลือบด้วยแป้งจนขาว ปากสีแดงมองแล้วขัดตา เทียบไม่ได้กับใบหน้าเนียนใสของแพรวาสักนิด ที่สวยใสแบบธรรมชาติ“ไปตามนางมาเดี๋ยวนี้”ตวาดเสี่ยวโอ“เออ ข้าพระองค์หานางจนทั่วแล้วแต่ไม่พบตัวเจี่ยเจีย.. เอ้ย... แม่นางเฟยลี่เลยกระหม่อม”ฮ่องเต้ ลุกขึ้นจากบัลลังค์ที่นั่งอยู่ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาใส่ เดินออกจากห้องไปสนมฮุ่ยเดินตามเกือบไม่ทันความมืดเข้าปกคลุม ลี่มี่กระตุกชายเสื้อแล้วหลายครั้งเพื่อเตือนสติแพรวา“อีกจอกน่าลี่มี่ข้ายังไม่เมา” แต่เสียงเปลี่ยนไป“แม่นางเฟยลี่ ดื่มสุราเก่งไม่แพ้บุรุษ สมกับที่เป็นหญิงงามอย่างนี้ถ้าใครได้เป็นคู่ครองต้องสำราญใจแน่เพราะไม่เพียงแต่ ร่วมชีวิต ร่วมทุกข์สุขได้ยังร่วมดื่มได้ ไม่มีเบื่อ"“5555เอิ้กกกกก ท่านโหวนี่ปากหมานชะมัด”“ปากหมานแปลว่าอะไรแม่นาง”“เปล่าๆ ๆ ๆ ข้าแค่หลงพูดภาษาต่างถิ่น”“ข้าประเมินแม่นางไว้ไม่ผิดแม่นางต้องคงท่องเที่ยวมานับไม่ถ้วนทั้งกิริยาและวาจาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง”“ข้า ไมค่อยได้ไปไหนอยู่แต่ที่บ้าน แต่บ้านของข้าต่างจากบ้านท่านเอิ้กกกก เรามีสิทธิเท่าเทียมกันดื่มได้เท่ากัน ทำได้เท่ากัน”“อย่างนั้นนับว่าแปลกข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีที่แบบนั้น
ด้วยความเคยตัวลุกขึ้นเดินหมายจะเข้าไปในห้องน้ำเดินโซซัดโซเซ จะล้มไม่ล้มแหล่ฮ่องเต้เข้าไปประคอง แต่ทนน้ำหนักตัวไม่ไหว แพรวาล้มโครมลงไปฮ่องเต้เสียหลักตาม ล้มทับลงไปบนตัวของแพรวา หน้าชนหน้าปากชนปาก กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งเต็มตัวให้ความรู้สึกประหลาดฮ่องเต้รู้สึกว่าสุดจะห้ามความรู้สึกตัวเอง เมื่อหน้าอกเบียดชิดหน้าอกนุ่มใกล้ชิดหญิงงามมาก็เยอะไม่เคยมีใครเหมือนเฟยลี่ แพรวาผลักร่างฮ่องเต้ออกอย่างแรง“อย่ามาทำรุ่มร่าม แถวนี้นะ ฉันรักนวลสงวนตัวนะ แกยัยพลอยแกนี่เมาแล้วเลอะเทอะนึกว่าฉันเป็นสามีแกหรืออย่างไรไอ้เพื่อนบ้า”เมาจนไม่รู้เรื่องขนาดนี้ฮ่องเต้คิดในใจ ยังบอกรักนวลสงวนตัวได้อีกหรือมีปัญญาอะไรปกป้องตัวเองกัน“เสี่ยวโอ เสี่ยวโอ”เงียบไม่มีเสียงตอบ หลังจากคิดว่าฮ่องเต้ต้องจัดหนักเจี่ยเจีย เสี่ยวโอเลยหลบไปนอน เดินออกมาเปิดประตูไม่พบใครมีเพียงทหารรักษาการณ์“เจ้าเสี่ยวโอตัวดี”ยกชามน้ำมาด้วยตัวเอง แพรวานอนแผ่หลาบนพื้นเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ท่อนล่างถูกเลิกขึ้นมาจนเห็นขาขาวเรียวสวย ไม่กล้าเช็ดประเด็นคือ กลัวห้ามใจตัวเองไม่ไหว จะเรียกใครมาเช็ดให้เล่านางอยู่ในห้องบรรทม เห็นแสร้งทำเป็นไม่เห็นเช็ดหน้าเช็ดตาไ
ฮ่องเต้ขยับตัวตื่นลืมตาเมื่อแสงสว่างลอดเข้ามา แพรวาขยับตัวนอนท่าที่สบายที่สุด ชินอ๋องนั่นเล่าตกตะลึงอยู่ตรงนั้น“นางเป็นใครทำไมถึง ทำให้ท่านพี่ฮ่องเต้ลงมานอนข้างล่างได้”เสี่ยวโอคุกเข่าลงทันที“นาง คือเฟยลี่ข้าหลวงหญิงประจำกายฝ่าบาท”ชินอ๋องกระชากแขนแพรวาให้ลุกขึ้น ฮ่องเต้ลุกขึ้นมานั่งแบบงง แพรวาลืมตาตื่นงัวเงียมองคนนู้นที่คนนี้ที ยังไม่สร่างเมาอย่างที่ควรจะเป็นเพราะไม่ชินกับสุรา ไม่มียี่ห้อ“กรี๊ดดดด ใครทำอะไรฉัน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ฮ่องเต้ทำอะไรทำไมเสื้อผ้าฉันเป็นแบบนี้”ลี่มี่ถลาเข้ามาเอามือปิดปากไว้แน่นกระซิบข้างหู“นายหญิงยังไม่รู้จักชินอ๋องขาโหด เบาๆ หน่อยอันตราย”แพรวาตาโตเบิกตามองหน้าชินอ๋อง แววตาดุจริงๆ แต่ความหล่อเหลาอย่างนี้ตรงใจทีเดียวใบหน้าสะอาดสะอ้าน ไม่น่าเชื่อว่าคนสมัยโบราณของประเทศนี้จะหน้าตาดีทุกคนทีแรกก็ฮ่องเต้ที่คิดว่าจะแก่หง่ำเหงือกกับหล่อร้าย กับท่านโหวที่มองอย่างไรก็พระเอกหนังกำลังภายใน เฮ้อทำใจไม่ได้ อยากเก็บไว้สักหลายคน แต่เวลานี้มันใช่เวลา รำพันถึงหน้าตาคนหล่อไหม“ก็มันจริงนี่ ทำไมฉันมาอยู่ในห้องนี้สภาพนี้”ลี่มี่ส่ายหน้าไปมา“นี่เจ้ายังไม่ทราบความผิดของตัวเ
“ลูกสาวของท่านสนมจางฮุ่ย ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเราได้เลย”“คงจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว ข่าวลือเรื่องฮ่องเต้ ทรงมีข้าหลวงหญิงข้างพระวรกายเป็นที่โปรดปรานนั้น มีใครรู้ที่มาที่ไปของนางบ้าง”ที่เหลืออีกสามตระกูลส่ายหน้าไปมาแพรวานั่งแก่งขาไปมาครุ่นคิดเรื่องราวหลากหลาย“หายเมาหรือยัง”โหวหยางจื้อรุดมายังม้านั่ง ตัวเดิมที่แพรวานั่งเมื่อวันนั้นวันนี้ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนี้หน้าตาหม่นหมองอาจเป็นกำลังแฮงค์ อย่างนี้มันต้องถอนคิดถึงบ้านคิดถึงแม่และคิดถึงพี่กันต์คนรักป่านนี้ จะทำอะไรกันอยู่จะรู้ไหมว่าแพรวาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว สะดุ้งเมื่อคิดอะไรขึ้นได้ ลองออกไปข้างนอกดูดีกว่า อยู่แต่ข้างในนี้เหมือนกับถูกขังไม่แน่ข้างนอกอาจมีหนทางกลับบ้านได้ หันไปยิ้มหวานให้โหวหยางจื้อทันที“ท่านโหว ท่านช่วย เฟยลี่บางอย่างได้ไหม”“ถ้าเพียงแม่นางเอ่ยปาก สิ่งใดยากเย็นแค่ไหนโหวหยางจื้อยินดี และเต็มใจ”ดีดนิ้วเปาะ“อยากออกไปข้างนอก หมายถึงนอกวัง”“จะสร้างปัญหาอะไรให้ท่านพี่... ฮ่องเต้ อีกรึเจ้า”ชินอ๋องเดินเอามือไพล่หลังมาตั้งแต่เทื่อไหร่ แพรวาไม่ทันสังเกต โหวหยางจื้อก็หันหลังให้ บทสนทนาทั้งหมด ไม่แน่อาจไม่รอดพ้น หูของบุคคลที
แพรวาคิดว่าเธอต้องไม่ลืมว่าตัวเองออกมาหาเบาะแสในการกลับบ้าน อย่างไม่ทันตั้งตัว ชายร่างผอมท่าทางโซเซ เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะคว้าป้ายหยกที่ฮ่องเต้หมอบให้ ที่แพรวาผูกไว้กับชายผ้ารัดเอวก่อนจะวิ่งหนีแต่ช้าไปเสียแล้ว บทบู๊ในหนังกำลังภายในก็ปรากฏตรงหน้าด้วยวิทยายุทธ์สูงส่งของ ทั้งท่านโหว และชินอ๋อง ประเคนฝ่ามือซัดเข้าไปจนชายร่างผอมกลิ้งไปมาหลายตลบ มือแข็งแรงคว้าที่คอหอยของชายผู้นั่น แพรวาเห็นท่าไม่ดี ตรงเข้ายึดมือของชินอ๋องไว้ด้วยความตกใจ ชินอ๋องมองมือของแพรวาแบบงงงงชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อสัมผัสตัวกัน ใจหนุ่มแตกกระเจิงไปไกล ไม่เคยเข้าใกล้หญิงใด และยิ่งไม่เคยมีหญิงใดกล้าเข้าใกล้เขาแบบนี้“ปล่อยเขาไปเถอะท่าน อย่าฆ่าเขาเลย “แววตาตื่นตกใจ“หากปล่อยไปคราวหลังมันก็จะ ยิ่งกล้าว่าไม่มีความผิดคราวหลังก็จะทำผิดอีก” แววตาดุดัน“ท่านจะ ฆ่าเขาจริงๆ เหรอ เขาแค่... คงไม่มีเงินท่านโหวช่วยกันห้ามหน่อยสิ”โหวหยางจื้อมองยิ้มๆ แสดงท่าทีไม่แยแสแพรวาเป็นกังวลอย่างมาก ภาพตรงหน้ากลับปรากฏร่างชายหนุ่มร่างผึ่งผายหากแต่สวมหมวกปิดบังใบหน้าเดินเข้ามา“นายท่านโปรดอภัย ข้าน้อยยินดีชดใช้ ค่าเสียหายแทนชายผู้นี้เอง”ริมฝีปากที
แพรวาเดินเอื่อยเฉื่อยไม่สนใจสภาพแวดล้อมข้างกาย ยกมือขึ้นปิดปากหาว ลี่มี่เดินตามอย่างสำรวมเอามือกุมอยู่ข้างหน้าแบบนางในทั่วไป“ดอกไม้ร่วงหล่น ลงพื้นคล้ายความรักหลุดปลิวหายไป”เสียงทุ้ม ดังอยู่ใต้ต้นเหมยที่ออกดอกสีชมพูพร่างพราว ใต้ต้นดอกเหมยร่วงหล่นเกลื่อนพื้น“หากเจ้ามิใช่ดอกเหมย ใย ไม่หวนคืน”แพรวายืนนิ่งฟังอยู่ตรงนั้น โอ้ล้ำลึก คนที่นี่ช่างเปรียบเปรยร่างสูงขายาว ยืนชมดอกไม้อยู่ตรงนี้ไม่ใช้ใครอื่นแต่เป็นฮ่องเต้ ที่แพรวาเมื่อรู้ว่าเป็นฮ่องเต้ทำให้เกิดอาการหมั่นไส้มาเพ้ออะไรอยู่ตรงนี้ แพรวายืนอยู่ในเงามืดไหนเลยลองฟังคารมของหนุ่มที่นี่ดู ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งที่แพรวามองพินิจอยู่ตั้งนานถึงรู้ว่าเป็นกุ้ยเหริน เดินออกมาจากระเบียงด้านหน้าตำหนัก“ความรู้สึกฝังลึก ยากขุดรากถอนโคน เหมือนรากของดอกเหมยที่หยั่งลึกยาก..ขุดถอน”แพรวาอดทึ่งกับ สำนวนของกุ้ยเหรินไม่ได้“เจ้าอย่าได้เสียเวลาเลยลู่เอิน ใจของข้ามีเพียงเหมยเจียงเจ้าก็รู้”กุ้ยเหรินทำหน้าเศร้า แพรวานึกสงสารจับใจ“กายอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือหากแต่ใจอยู่ไกลนับพันลี้”โอ้มายก๊อดสุดยอด แพรวาอยากมีปากกาหรือดินสอเอาไว้จดไม่ได้ไม่ได้ต้อง ให้ลี
แกล้งเขาได้ ขัดจังหวะเขาได้ อดจะยิ้มเยาะไม่ได้ แพรวาเผลอยิ้มออกมาทันที กุ้ยเหรินเดินออกมาอย่าง ช้าๆสายตาอาลัยอาวรณ์ประตูปิดลงเบาๆ ลี่มี่กับเสี่ยวโอยักคิ้วให้กันอย่างมีเลศนัย แพรวาปล่อยมือออกจากเอวของฮ่องเต้แต่กับโดนฉุดมือไว้แน่นแพรวารู้สึกไม่ปลอดภัยเสียแล้ว“ปล่อยข้าพระองค์ ฝ่าบาท”กลายเป็นฮ่องเต้ที่ใช้มือกอดรอบเอวบางไว้คางเกยอยู่ที่ไหล่บาง ลมหายใจอ่อนๆ ผสมกลิ่นสุรา“อ้าว ไม่สนิทกันเหมือนเมื่อครู่แล้วเหรอ”แพรวาดิ้นจะให้หลุดแต่ไม่เป็นผลแรงเยอะ เธอไม่น่ามายุ่งกับคนเมา“ก็ไหนบอกให้ มาคอยขัดขว้างเหล่าเมียๆ ให้ไม่ใช่เหรอ มันเป็นการแสดงฝ่าบาทก็ทรงทราบ”ฮ่องเต้ยิ้มหวานมีเลศนัย“เจ้า ไลกุ้ยเหรินไป กุ้ยเหรินกำลังจะปรนนิบัติ... ข้า.ข้าเลือกเจ้าเจ้าก็ต้องตอบแทนโดยการปรนนิบัติข้า.............”......................................................................ไทฮองไทเฮามองหยาดน้ำตาของกุ้ยเหริน ก่อนจะบรรจงเช็ดให้แผ่วเบา“ถ้าหากเจ้าใจกล้ากว่านี้มีหรือฝ่าบาทจะปฏิเสธเจ้าได้”แววตาที่ซ่อนแวว ดุดันไว้ ถูกเคลือบด้วยแววตาอ่อนโยน“ลู่เอิน เกรงฝ่าบาทจะ เข้าใจผิดว่าลู่เอินเป็นผู้หญิงมากรัก หากแต่นางกลั
ลี่มี่ เข้ามารายงาน แพรวาเป็นกังวลอย่างมาก เนื่องด้วยคราวนี้ไทฮองไทเฮาเรียกหาเธอเพียงลำพังไม่ได้มีฮ่องเต้ไปด้วยเหมือนครั้งก่อน“เจ้ารู้ไหมลี่มี่ ว่ามีเรื่องอะไรถึงเรียกหาข้า”ลี่มี่ส่ายหน้าไปมา“ข้าน้อยอยากให้นายหญิงระวังตัวให้ดี ไทฮองไทเฮาก็เหมือนลายปักบนผ้าที่ด้านหนึ่งสวยงามอีกด้านกับซ่อนเส้นด้ายและรอยต่อไว้มากมาย”โอ้โห้นี่ขนาดสาวใช้นะ คำคม ล้ำลึกแพรวาเดินตามทางเดินลาดยาวที่มีดอกเหมยริมทางทั้งสีแดงและสีชมพู ภาวนาอย่าให้ มีเรื่องร้ายๆเลยรู้ว่ามีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่จะช่วยเธอได้หากแต่ตอนนี้ฮ่องเต้ ออกว่าราชการในท้องพระโรงและไม่แน่ว่าเขาจะช่วยเธอเพราะเมื่อคืนเธอสร้างวีรกรรมไว้ ทหารองครักษ์ยืนอยู่ทางขึ้นไปบนตำหนัก มองเธอด้วยสายตาสงสาร แบบที่แพรวาคิดไปเองไทฮองไทเฮา นอนตะแคงใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางไว้ มีนางกำนัลบีบนวดเหมือนเดิมใบหน้าที่สวยไม่สร่างเมื่อครั้งยังสาวสะคราญคง สวยจับใจ มองเธอด้วยสายตามีอะไรแอบแฝง“ข้าน้อยข้าหลวงหญิงเฟยลี่ ถวายพระพรไทฮองไทเฮา”พยายามทำตัวเองให้เป็นคนมารยาทดีที่สุด ลี่มี่ย่อตัวตาม“ตังซิน (ระวังตัว) ”ลี่มี่กระซิบเสียงเบาที่สุด ไทฮองไทเฮา หลุบตามองมือตัวเองที่
มือใหญ่เชยคางมนให้สบตา ก้มลงจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เขาไม่อาจหักใจหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ริมฝีปากอ่อนหนุ่มกลิ่นกายหอม ผิวเนื้ออ่อนละมุน ซุกอยู่กับอกกว้างถอนริมฝีปากออก“เราเคยรักกันมาก่อนใช่ไหม ที่ไหน เมื่อไหร่ บอกข้ามาก่อนที่ข้าจะกลืนกินเจ้าไป”สายตาคาดคั้น“ฝ่าบาทเชื่อเรื่องการเดินทางผ่านกาลเวลาไหม”หยางหลงขมวดคิ้ว“เช่นไร”“ข้ากับท่านเราเคยพบกัน ก่อนที่ข้าจะหายไปจากฝ่าบาทและกลับมาอีกครั้ง”หยางหลงครุ่นคิดภาพที่เขาเห็นนั้นเล่าชัดเจนแจ่มชัดในความทรงจำ เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น“เจ้าใช้เวทมนตร์ใช่ไหม”“ไม่ใช่เวทมนตร์แต่มันคือเรื่องประหลาดที่ข้าไม่อาจอธิบายได้ และข้าเองมิได้กำหนดว่าจะมาจะไปตอนไหน สวรรค์เป็นผู้กำหนดเหมือนที่หมอหลวงบอกข้า ข้าเพียงแต่ไปมาตามแต่สวรรค์ต้องการ”“แล้วหมอหลวงทำไมถึงรู้ว่าเจ้าจะมา”“ท่านหมอบอกข้าว่าเขาเองไม่อาจเปิดเผยบัญชาสวรรค์ตัวเขาเองมีหน้าที่เพียง เป็นผู้แจ้งข่าว”ข้างนอกนั่น“ลี่มี่ เจ้าแน่ใจแล้วรึว่าฝ่าบาท ประทับอยู่ในห้องของแม่นางเฟยลี่”เหอหลงเอ่ยปากถาม“ ข้าเห็นมากับตา ฝ่าบาททรงหายเข้าไปในห้องของพี่สาวข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวกับท่าน”เหอหลงยิ้มมี
“หา”แพรวาเผลอยกมือขึ้นกระชับคอเสื้อที่หลุดหลุ่ยเผยให้เห็นผ้าคาดอกสีอ่อนเกือบจะเห็นเนินอกสวย“ข้าหมายถึง แก้ผ้าพันแผลของข้าออก”แพรวาย่นจมูก เอื้อมมือแกะผ้าพันแผลออกหยางหลงกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดแผลไม่ลึกนักทว่ารอยแผลยาวเหยียดแพรวาโรยยาจนทั่วแผลก่อนจะเป่าเบาๆที่แผลของหยางหลงอย่างอ่อนโยน“เพี้ยง หายไวไวนะ”หยางหลงมองแพรวาด้วยสายตาลึกซึ้งความอ่อนโยนที่แพรวามอบให้เขาไม่เคยได้รับจากผู้ใด แพรวาเงยหน้าขึ้นพบกับสายตานั้นความเขินอายกับเกิดขึ้นกับแพรวาอย่างช่วยไม่ได้ หยางหลงเองก็เผลออมยิ้มกับอาการเขินอายนั้น“ทหารจัดเวรยามให้มากกว่านี้ ถ้าหากยังไม่อยากหัวหลุดจากบ่า คืนนี้ข้าจะค้างที่นี่”เสียงตะโกนจากในห้องออกไปแพรวาขยับตัวลุกจากแท่นนอน หยางหลงฉุดมือด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บไว้แพรวาหันมามองประสานสายตาแววตาลึกซึ้งแววตาที่แพรวาเคยเห็นกลับมาแล้ว“ข้าพระองค์กำลังจัดที่บรรทมให้ฝ่าบาท คืนนี้อากาศหนาวนัก”“ไม่เป็นไร เพียงแค่...มีเจ้าร่วมหมอน”แพรวาอายม้วน เฮ้อไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของหยางหลงยังสามารถทำเอาแพรวาเขินอายได้“ฝ่าบาทนอนเสียเถิด”แพรวาเสมองไปที่ผ้าห่มที่เคยห่มคลุมกายของตัวเองบัดนี้กลับถูกห่มคล
“ไม่ไม่ อย่าทำแบบนี้เลย แบบนี้เลย (เพลงพี่ป้างดังแทรกขึ้นมาในคลื่นสมองของแพรวา) ”เหอหลงยิ้มมีเลศนัย นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ“อ้า ถ้าอย่างนั้นท่านพอจะบอกข้าได้ไหมถึงแผนการที่ท่านวาดไว้”แพรวาอ้อนวอน“ข้าคิดว่าไม่บอกจะดีกว่าเพราะ...หลอกศัตรูต้องหลอกมิตรให้ตายใจ”"คือถ้าท่านบอกแผนการข้าก่อนอย่างน้อยข้าก็พอที่จะทำตามแผนรับมือสิ่งที่จะเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ”แพรวาพยายามยกแม่น้ำทั้งห้า“ข้าเห็นต้องไปเสียทีแล้ว รั้งอยู่ที่นี่เสียนานเดี๋ยวความแตก”เหอหลงไม่สนใจแพรวา ขยับตัวหลบยังมุมมืดจากไปทันที แพรวาหันไปทางเสี่ยวโอ“เจ้ารู้ใช่ไหม”เสียวโอหันหลังเดินหนีเช่นกัน ลี่มี่ยิ้มอย่างรู้ทัน“พี่สาวข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”ออกตัวไว้ก่อน“ข้ารู้แล้ว”“ดีแล้วค่ะพี่สาวแต่ว่าท่านรู้ว่าอย่างไรคะ”“ก็รู้ว่า ทุกคนปิดบังข้า”“พี่สาวเราทั้งหมดเพื่อบ้านเมืองแล้วเราพร้อมที่จะทำทุกอย่าง แต่สำหรับข้า ชินอ๋องและเสี่ยวโอ เพื่อฝ่าบาทและพี่สาวเรายอมทำทุกวิถีทางเพราะเราเชื่อว่าท่านหมอพูดไว้ไม่ผิดเรื่องพี่สาวอยากให้พี่สาวเชื่อใจเถิดว่าข้าเสี่ยวโอและชินอ๋องหวังดีต่อฝ่าบาทและพี่สาวด้วยความจริงใจ”แพรวาซาบซึ้งในน้ำใจของ ท
คำพูดที่ออกมาจากใจของแพรวาน้ำตาเอ่อล้นตา หยางหลงรู้สึกเศร้าใจตามไปด้วย“เจ้าจะไปที่แห่งใดใครอนุญาตให้เจ้าไป”เสียงทรงอำนาจเหมือนจะออกอาการหงุดหงิดกับการจะจากไปของแพรวาหยางหลงจ้องมองที่แพรวาเหมือนจะค้นหาคำตอบ“ไม่อยากอยู่แล้วท่านหมอ”แพรวายังคงหลบตา หยางหลงหันไปมองหมอหลวงสายตาดุดัน หมอหลวงประสานมือถอยห่างออกไป“ข้าพระองค์ขอตัว ข้าขอตัวแม่นางเฟยลี่ไว้เจ้าคิดให้ดีแล้วข้าจะให้คำตอบ”แพรวาหลับตาไล่หยาดน้ำตาที่หยดริน ฮ่องเต้หนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก หยาดน้ำตาของนางสร้างความปวดร้าวแก่เขาเหลือเกิน ใจคิดถึงคำพูดของสนมฮุ่ยนางพูดสิ่งใดก่อนที่จะผลักเฟยลี่ลงจากสะพาน ครั้นจะคาดคั้นสนมฮุ่ยก็ตั้งครรภ์ต้องได้รับการดูแลอย่างดี“ข้า...จะปกป้องเจ้าเอง หากมีเรื่องใดในวังหลวงแห่งนี้ทำให้เจ้าลำบากใจขอเพียงบอกข้า”แพรวาร้องไห้โฮอย่างสุดจะกลั้น“มิไยต้องลำบากฝ่าบาท หม่อมฉันโหวหยางจื้อยินดีปกป้องนางด้วยชีวิต”โหวหยางจื้อเข้ามา เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ หยางหลงมองโหวหยางจื้อด้วยความแปลกใจ“เจ้า... นะหรือโหวหยางจื้อ”น้ำเสียงเยาะหยัน แพรวาอดขำไม่ได้ทั้งๆที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนใบหน้าโหวหยางจื้อทำหน้าเหลอหลา
แพรวาน้ำตารื้นขอบตา มาช่วยเธอทำไม เพียงครู่เดียวแพรวาก็สิ้นสติในอ้อมแขนของหยางหลง ร่างเปียกปอนกับชุดบางเบา สนมฮุ่ยยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น“ฝ่าบาท”เรียกหยางหลงเหมือนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปผิดมหันต์ แต่ไม่แน่ใจว่าหยางหลง มาทันตอนที่ผลักแพรวาลงไปหรือไม่หยางหลงเพียงแต่หันไปมองด้วยสายตาตำหนิ แต่ไม่ได้เอ่ยคำใดอุ้มแพรวาที่สิ้นสติกลับเข้าไปในตำหนักลี่มี่ถือถาดน้ำชาเดินมาเห็นเข้าพอดีรีบกุลีกุจอตามหยางหลงฮ่องเต้ไปทันที“ลี่มี่ลำบากเจ้าแล้วเปลี่ยนชุดให้นางด้วยน้ำค่อนข้างเย็น”หยางหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดใดหากแต่ในใจกลับรู้สึกสงสารแพรวาจับใจ ในวังหลวงหากใครเป็นที่โปรดปรานย่อมได้รับการเกลียดชังเขารู้นิสัยของสนมฮุ่ยดีว่าเป็นเช่นไร นางถูกเขาช่วยเข้ามาในตำหนักถึงสองครั้งสองคราแล้วไหนจะคำทำนายของหมอหลวงนั่นอีกไม่แน่นางจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการปองร้ายของสนมฮุ่ย ใครกันเล่าจะอาจหาญมาปกป้องนางจากสนมคนโปรดถ้าไม่ใช่เขาหยางหลงเลี่ยงออกมา เสี่ยวโอนำอาภรณ์ชุดใหม่มาเปลี่ยนให้ฮ่องเต้หนุ่ม“ส่งองครักษ์เฝ้าหน้าห้องเฟยลี่ไว้”เสี่ยวโอยิ้มออกคำสั่งทันทีเสียงดังลั่นเหมือนจงใจให้สนมฮุ่ยที่เด
ลี่มี่ยังคงทำหน้าสงสัยใคร่รู้ หากแต่รู้ว่าแพรวาต้องเสียใจอะไรบางอย่างควรปล่อยให้ได้ระบาย ลูบหลังลูบไหล่“ข้าเพียงแต่อยากกลับมา แต่เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วข้าควรจะกลับไป”“พี่สาวจะกลับไปได้อย่างไรเล่า”ลี่มี่เพียงแต่พูดปลอบใจ แต่แพรวากลับคิดได้จริงสิแพรวาน่าจะกลับได้ด้วยวิธีเดิม ...กระโดดน้ำ“พี่สาวอย่าคิดมากเลย ทุกอย่างมีทางแก้ไขตอนนี้ก็ค่ำมากแล้วพี่สาวพักผ่อนเสียเถอะ อ๋อจริงสิพี่สาวไม่ต้องไปคอยปรนนิบัติสนมฮุ่ยใกล้ชิดฝ่าบาทตามแผนหรืออย่างไร”พูดเสียแทงใจดำ“ไม่จำเป็นหรอกลี่มี่ตอนนี้สนมฮุ่ยมี หลายคนคอยรับใช้ฐานะนางต่างจากเดิมแล้ว”“พี่สาวหมายความว่านาง...”“ใช่นาง นำข้าไปอีกก้าวแล้วนางกำลังตั้งครรภ์”“พี่สาวข้าเหมือนเห็นแววตาเปี่ยมด้วยความรักในตัวฝ่าบาทของพี่สาว ข้าสงสารท่านด้วยความจริงใจ”แพรวายังคงสะอื้นไห้“ลี่มี่ข้าอยากได้สุราเลิศรสเจ้าพอจะนำมันมาให้ข้าได้ไหม”แพรวาถามหาเพื่อนที่ดีที่สุดยามนี้ ลี่มี่มองแพรวาด้วยความสงสารจับใจพยักหน้าช้าๆไหสุราถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะกลางห้องพร้อมถ้วยสุรา แพรวารินสุราจากไหใส่ถ้วยครั้งแล้วครั้งเล่าปล่อยมันให้หายวับไปในลำคอ ใบหน้าแดงระเรื่อกลิ่นสุรา
“อย่างนั้นข้าน้อยโหวหยางจื้อขอทูลลา ข้าไปก่อนแม่นางเฟยลี่ หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสชมดอกไม้กับแม่นางอีกในไม่ช้า”หยางหลงยืนนิ่ง แต่เมื่อโหวหยางจื้อเดินจากไป หยางหลงหันกลับมามองแพรวาเต็มตากวาดตามองแบบไม่สนใจว่าสายตาจะดุดันเช่นไร“ได้เวลาต้อง กลับไปกับข้าอีกแล้ว”แพรวายิ้ม เอาวะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขยับตัวไปยืนเคียงข้างสอดแขนเข้าไปในวงแขนแข็งแรงอย่างไม่เคอะเขินหยางหลงมองแขนของแพรวาที่เกี่ยวเกาะกับแขนของตัวเอง“ไปเพคะ ข้าพระองค์พร้อมแล้ว”“บังอาจ”“ไหนว่าข้าพระองค์เป็นสมบัติของฝ่าบาทอย่างไรเล่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะโมโหไปไย”ฮ่องเต้หนุ่มฮึดฮัดแต่แพรวาก็ไม่ยอมปล่อย จนต้องจำยอมในที่สุดปล่อยให้แพรวาคล้องแขนเดินอยู่อย่างนั้นสนมฮุ่ยในชุดฮั่นฝูสีฟ้าใสอ่อนหวานเยื้องย่างจากทางเดินทอดยาวจากตำหนักหนึ่งสู่อีกตำหนักหนึ่งผู้ติดตามเกือบสิบคน เดินตามคอยยกชายชุดฮั่นฝูที่ยาวรุมร่ามฉับพลันนั้นเองร่างระหงกับมีอาการเซถลาคล้ายทรงตัวไม่อยู่ หญิงรับใช้หลายคนถลาเข้าประคองอย่างรวดเร็ว แต่ร่างบางกลับหมดสติ อย่าง ไม่มีใครได้ทันคาดเดาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียงวี้ดว้ายดังระงม ทหารองครักษ์วิ่งวุ่นวายเหล่าขันทีที
เมื่อมาถึงตำหนักใหญ่ผลักร่างแพรวาเซถลาลงไปกองกับพื้น เสี่ยวโอคุกเข่าลงข้างๆ“ฝ่าบาท ถนอมพระวรกายด้วย อย่าทรงกริ้วนักเลย”ใบหน้าถมึงทึงหันไปมองเสี่ยวโอ“ธุระกงการอะไรของเจ้า ถอยไปแล้วปิดประตูคอยฟังคำสั่ง”เสี่ยวโอหดตัวถอยห่างออกมาปิดประตูเบามือ ส่งสายตาแสดงความเห็นใจมาให้แพรวาฮ่องเต้หนุ่มหันไปหาแพรวา“เจ้าช่าง ทำข้าขายหน้านัก”แพรวาทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจอะไรอีกทีนี้“เฟยลี่ไม่บังควร สุดแล้วแต่ฝ่าบาทจะกล่าวโทษ”“นี่เจ้าหาว่าข้ากล่าวโทษเจ้าลอยๆ รึ”แพรวาหันหน้าหนีส่ายหน้าช้าๆ ฮึอย่าให้แพรวาโมโหมาบ้างนะชักจะไม่มีเหตุผลไปกันใหญ่“ก็แล้วแต่ฝ่าบาทจะคิด ข้าพระองค์ไม่อาจโต้แย้งอย่างไรเสียข้าพระองค์ก็เป็นเพียงลูกแกะ ฝ่าบาทเป็นหมาป่าเจ้าอำนาจ”ไม่ทนแล้วยอมมาเยอะแล้วแม่จะแผลงฤทธิ์ให้ดูทีว่าใครจะแจ๋วกว่ากัน“เจ้านี่คงไม่พ้นจะโดนลงทัณฑ์จากข้า”“ใครกลัวเพคะ”ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์“ข้าคิดแล้วอย่างเจ้าไม่กลัวการลงทัณฑ์เป็นแน่ ถึงได้จงใจปลอมตัวเป็นฮุ่ยเหนียงทำข้าสับสนอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ทัน ไหนๆก็ปลอมตัวเป็นสนมของข้าแล้ว อย่างนั้นไม่สู้เจ้ามาแสดงให้มันจบไปเลยดีกว่า”เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แพรวาถอยจน
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ